เสียงลมบ่ายพัดผ่านถนนสายเล็ก เงาแดดลอดผ่านใบไม้ที่พลิ้วไหวลงมากระทบหน้าต่างกระจกใสของร้าน “ดอกไม้ของมีน” ร้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมเงียบสงบของเมืองใหญ่ แม้จะไม่ได้โดดเด่นหรูหรา แต่กลับมีเสน่ห์อบอุ่นที่ทำให้ใครก็ตามที่แวะเข้ามาต่างรู้สึกสบายใจ
ภายในร้านเต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้ที่จัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ ทั้งกุหลาบ ลิลลี่ ทิวลิป และดอกไม้ตามฤดูกาลที่ผลัดเปลี่ยนเข้ามาในแต่ละช่วงเวลา มีกลิ่นหอมละมุนคลุ้งไปทั่ว ราวกับเป็นโลกอีกใบที่แยกออกจากความวุ่นวายของมหานครด้านนอก
มีน เจ้าของร้านหนุ่มวัยยี่สิบกลาง ๆ กำลังนั่งจัดช่อดอกไม้อย่างตั้งใจ นิ้วเรียวเล็กจับกรรไกรตัดก้านกุหลาบด้วยความเคยชิน ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มบาง ๆ แม้จะเป็นเพียงรอยยิ้มธรรมดา แต่กลับมีเสน่ห์อ่อนโยนที่ใครต่อใครต่างบอกว่าเป็นเอกลักษณ์ของเขา
เสียงกระดิ่งเหนือประตูไม้ดังขึ้นเบา ๆ กริ๊ง…
มีนเงยหน้าขึ้นตามสัญชาตญาณ สายตาสบเข้ากับร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีดำสนิทที่ก้าวเข้ามาในร้าน ทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยความมั่นคงและหนักแน่น จนบรรยากาศภายในร้านพลันเปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว
ชายแปลกหน้าไม่พูดอะไรในทันที เพียงกวาดตามองรอบร้านด้วยดวงตาคมกริบ สีดำลึกเย็นชาจนราวกับสามารถมองทะลุเข้าไปถึงก้นบึ้งของจิตใจคนได้
มีนรีบวางช่อกุหลาบที่กำลังจัดลง แล้วยกยิ้มตามมารยาท “สวัสดีครับ ยินดีต้อนรับครับ จะรับดอกอะไรดีครับ?”
ชายคนนั้นยังคงเงียบอยู่ชั่วขณะ ก่อนสายตาคมจะหยุดที่กุหลาบแดงที่จัดวางอยู่มุมหนึ่งของร้าน ริมฝีปากขยับเพียงเล็กน้อย เสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกมาสั้น ๆ
“กุหลาบ… ช่อหนึ่ง”
คำพูดสั้น ๆ แต่กลับแฝงด้วยแรงกดดันประหลาด จนมีนอดจะรู้สึกประหม่าขึ้นมาไม่ได้ ทว่าเขาก็พยายามรักษารอยยิ้มเอาไว้
“ถ้าอย่างนั้น ผมจัดช่อกุหลาบแดงให้นะครับ ความหมายของมันคือ ‘รักที่มั่นคง’ …” มีนพูดพลางหยิบกุหลาบแดงขึ้นมาจัดอย่างบรรจง
เขาตัดก้านอย่างชำนาญ จัดใบประดับทีละน้อย เสียงกรรไกรตัดก้านดัง กรึบ ๆ เบา ๆ สลับกับกลิ่นหอมหวานของดอกไม้ที่ฟุ้งกระจายไปทั่วบรรยากาศ ชายแปลกหน้ายืนมองทุกการเคลื่อนไหวเงียบ ๆ ดวงตาคมไม่ละไปจากใบหน้าและมือที่ขยับไปมาอย่างคล่องแคล่ว
มีนไม่ทันสังเกตว่าอีกฝ่ายจับจ้องมานานเพียงใด เขาเพียงคิดว่าเป็นลูกค้าทั่วไป จึงยื่นช่อกุหลาบให้พร้อมรอยยิ้ม “เสร็จแล้วครับ นี่กุหลาบแดงของคุณ”
ชายร่างสูงเอื้อมมือมารับช่อดอกไม้อย่างช้า ๆ นิ้วเรียวยาวสัมผัสก้านดอกไม้ก่อนจะก้มลงมองชั่วครู่ แววตาลึกล้ำแต่ยากจะอ่านออก จากนั้นเขาหยิบธนบัตรจำนวนหนึ่งออกมาวางบนเคาน์เตอร์
มีนชะงักไปทันทีเมื่อเห็นว่ามันมากกว่าราคาหลายเท่า “เอ่อ… คุณให้เกินครับ ผมทอนให้นะครับ”
ชายหนุ่มเพียงส่ายหน้าช้า ๆ เสียงทุ้มเรียบเอ่ยเพียงสั้น ๆ “ไม่ต้อง”
ก่อนที่มีนจะทันได้พูดอะไร ชายร่างสูงก็หมุนตัวก้าวออกไปจากร้านอย่างเงียบงัน ประตูไม้ปิดลงพร้อมเสียงกระดิ่งเบา ๆ ทิ้งไว้เพียงความเงียบและความสงสัยในใจของเจ้าของร้านหนุ่ม
มีนยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มลงหยิบธนบัตรที่เหลืออยู่บนเคาน์เตอร์ขึ้นมา พลางถอนหายใจเบา ๆ “อะไรกัน… ให้เยอะขนาดนี้ ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร”
แต่ในความเงียบสงบ หัวใจของเขากลับเต้นแรงแปลก ๆ ราวกับภาพร่างสูงในชุดสูทดำเมื่อครู่ยังติดอยู่ในสายตา
ที่อีกฟากหนึ่งของถนน รถหรูสีดำจอดรออยู่ ลูคัส มือขวาผู้ภักดีของคิรัน เปิดประตูให้เจ้านายที่เพิ่งออกมาจากร้าน เขาเหลือบมองช่อกุหลาบแดงในมือคิรันอย่างสงสัย
“บอส… คุณเริ่มสนใจเรื่องดอกไม้ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” ลูคัสเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มบาง ๆ
คิรันไม่ตอบในทันที เขาเพียงจ้องมองช่อกุหลาบเงียบ ๆ สายตาคมลึกจนยากจะอ่าน ก่อนเอ่ยสั้น ๆ “ไม่ใช่ดอกไม้”
ลูคัสหันมองหน้าคิรันครู่หนึ่ง แต่เมื่อเห็นแววตานั้น เขาก็เลือกที่จะไม่ถามต่อ รถหรูแล่นออกไปท่ามกลางถนนที่เต็มไปด้วยแสงไฟยามเย็น ทิ้งไว้เพียงร้านดอกไม้เล็ก ๆ ที่ยังคงอบอวลด้วยกลิ่นหอมของกุหลาบ
ในขณะเดียวกัน มีนยังคงยืนคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ เขาสะบัดหัวเล็กน้อยราวกับพยายามไล่ความรู้สึกประหลาดออกไป ก่อนจะหันกลับไปจัดดอกไม้ต่อ
แต่ไม่ว่าจะพยายามเพียงใด ภาพชายในชุดสูทดำกับดวงตาคมลึกคู่นั้นก็ยังคงวนเวียนอยู่ในความทรงจำอย่างไม่ยอมเลือนหาย
และเขาไม่รู้เลยว่า… การพบกันเพียงครั้งแรกนี้ กำลังจะเปลี่ยนชะตาชีวิตของเขาไปตลอดกาล
เสียงกระดิ่งที่ประตูดังขึ้นอีกครั้งในเช้าวันอากาศครึ้ม มีนกำลังจัดดอกไม้ในแจกันประจำหน้าร้าน เขาหันไปตามเสียงและพบว่า ชายในชุดสูทดำคนเดิม ก้าวเข้ามาเงียบ ๆ ดั่งเงาไร้เสียง
หัวใจของมีนเต้นแรงขึ้นอย่างไม่เข้าใจ ทั้งที่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วที่อีกฝ่ายมา แต่ความรู้สึกเหมือนสายตาคมกริบคู่นั้นสามารถเจาะลึกเข้าไปในใจเขาได้ทุกครั้ง
“เอ่อ… สวัสดีครับ วันนี้จะรับดอกอะไรดีครับ?” มีนทักด้วยน้ำเสียงสุภาพเหมือนเดิม ถึงแม้ในใจจะมีคำถามมากมาย
ชายหนุ่มหยุดยืนเพียงไม่กี่ก้าวจากเคาน์เตอร์ เขาเงียบไปครู่หนึ่งราวกับกำลังเลือกคำ ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบต่ำชัดถ้อยชัดคำ
“กุหลาบแดง… ช่อหนึ่ง”
มีนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย นั่นคือคำสั่งเดิมกับวันก่อน “คุณชอบกุหลาบแดงเหรอครับ?”
ชายหนุ่มไม่ตอบทันที เขาเพียงปรายตามองแจกันดอกไม้ที่เรียงราย ก่อนขยับริมฝีปากตอบสั้น ๆ “อืม”
มีนไม่ได้ถามอะไรต่อ เขาก้มหน้าลงหยิบกุหลาบแดงสดจากตู้แช่ดอกไม้ ดอกที่กำลังเบ่งบานงดงามที่สุด มือนั้นขยับเรียงกลีบอย่างประณีต เสียงกรรไกรเล็มก้านดัง กรึบ…กรึบ คล้ายท่วงทำนองเบา ๆ ที่คลอเคลียไปกับเสียงฝนด้านนอก
คิรัน—ชื่อจริงของชายคนนั้น—ยืนมองเงียบ ๆ ทุกการเคลื่อนไหว ดวงตาคมวาวสะท้อนความสนใจบางอย่างที่เขาเองก็อธิบายไม่ได้ ชายหนุ่มผู้คร่ำหวอดอยู่กับโลกมืด กลับหยุดสายตาอยู่ที่มือเรียวคู่นั้นที่จับดอกไม้อย่างอ่อนโยน
เมื่อจัดเสร็จ มีนยกช่อกุหลาบแดงขึ้นส่งให้ รอยยิ้มบางจุดบนใบหน้าของเขาเป็นเหมือนแสงแดดในวันฟ้าหม่น
“เสร็จแล้วครับ กุหลาบแดง… ความหมายคือรักที่มั่นคง ความปรารถนาแรงกล้า”
คิรันรับช่อกุหลาบมาเงียบ ๆ แต่ดวงตากลับมองชัดราวกับกำลังฟังคำพูดนั้นมากกว่าที่มีนตั้งใจ เขาหยิบเงินจากกระเป๋าสตางค์ใบหรูวางลงบนเคาน์เตอร์ —เป็นแบงก์ที่มีมูลค่าเกินราคาช่อดอกไม้ไปเกือบสิบเท่า
“เดี๋ยวครับ!” มีนรีบเรียกออกมา “มันเกินไปเยอะเลย ผมทอนให้นะครับ”
คิรันยกมือขึ้นเล็กน้อยเป็นสัญญาณห้าม เสียงทุ้มเอ่ยสั้น ๆ “ไม่ต้อง”
แล้วเขาก็หันหลังเดินออกจากร้าน ทิ้งเพียงกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ปนควันบุหรี่ที่ติดปลายเสื้อสูท กับความสับสนเต็มหัวใจของเด็กหนุ่มเจ้าของร้าน
---
หลังจากเขาไป มีนนั่งลงที่เก้าอี้ไม้หลังเคาน์เตอร์ มองช่อดอกไม้ในร้านรอบ ๆ แล้วถอนหายใจเบา ๆ “คนคนนั้น… แปลกจริง ๆ ทำไมต้องมาซื้อกุหลาบแดงทุกครั้ง ทั้งที่ไม่เคยยิ้มเลยสักนิด”
เขายกมือแตะที่แก้มตัวเอง ความรู้สึกแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่สบตา ทำให้หัวใจเต้นแรงกว่าปกติ ทั้งที่แทบไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ
---
อีกด้านหนึ่ง…
ที่รถสีดำคันหรูซึ่งจอดอยู่ไม่ไกล ลูคัส มือขวาคู่ใจของคิรันยืนรออยู่ เขามองเจ้านายที่เดินออกมาพร้อมช่อดอกไม้ด้วยสายตาขำปนกังวล
“บอสครับ… คุณตั้งใจจะซื้อกุหลาบแดงทุกวันจริง ๆ หรือ?” เขาเอ่ยขึ้นเบา ๆ
คิรันก้าวขึ้นรถโดยไม่หันมอง ตอบเพียงคำสั้น ๆ “อืม”
“ผมไม่เข้าใจเลย คุณเป็นบอสที่โหดที่สุดในวงการ ใคร ๆ ก็หวาดกลัว แต่กลับมานั่งในร้านดอกไม้เล็ก ๆ แบบนั้นทุกวัน… มันอันตรายจะตาย”
คิรันนิ่งเงียบ สายตายังจ้องมองกุหลาบแดงในมือราวกับกำลังครุ่นคิด ลูคัสถอนหายใจ ไม่กล้าถามต่อ เขารู้ดีว่าเจ้านายของตนไม่ใช่คนที่จะอธิบายความคิดให้ใครฟังง่าย ๆ
---
หลายวันต่อมา เหตุการณ์ซ้ำเดิมยังเกิดขึ้น —ชายในชุดดำก้าวเข้ามา สั่งกุหลาบแดง จ่ายเงินเกินราคา แล้วก็จากไป มีนเริ่มชินกับการมาของเขา แต่หัวใจกลับยิ่งสับสน
จนกระทั่งวันหนึ่ง มีนตัดสินใจถามออกไป
“คุณ… ซื้อกุหลาบแดงไปทุกวัน เอาไปให้ใครเหรอครับ?”
คิรันเงยหน้าขึ้นสบตาเขา ดวงตาคมเข้มวาววับในเงามืด เสียงต่ำตอบสั้น ๆ “ซื้อไว้เอง”
คำตอบนั้นทำให้มีนชะงัก เขาไม่คิดว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้ ชายหนุ่มคนตรงหน้าที่ดูแข็งกร้าวและน่ากลัว กลับซื้อดอกไม้ไว้กับตัวเอง?
“งั้นเหรอครับ…” มีนยิ้มบาง ๆ แม้ในใจยังคงสงสัย แต่เขาเลือกที่จะไม่ถามต่อ
---
บ่ายวันนั้นหลังจากปิดร้าน มีนเล่าเรื่องนี้ให้ เซน เพื่อนสนิทฟัง ระหว่างช่วยกันจัดของในห้องเก็บดอกไม้ด้านหลัง
“เขามาทุกวันเลยจริง ๆ เหรอวะ” เซนเลิกคิ้ว “แถมจ่ายเงินเกินราคาตลอดอีก แบบนี้มันแปลกเกินไปแล้วนะมีน”
“ฉันก็ว่างั้นแหละ แต่เขาไม่ทำอะไรเสียหายนี่นา แค่เงียบ ๆ มาซื้อดอกไม้ แล้วก็กลับไป”
เซนถอนหายใจ “ฉันไม่ไว้ใจว่ะ คนแบบนั้นไม่ธรรมดาหรอก”
มีนยิ้มบาง ๆ “บางทีเขาอาจจะแค่ชอบดอกไม้จริง ๆ ก็ได้นะ”
แต่เซนรู้ดีจากสายตาของเพื่อนว่า มีนเองก็แอบสนใจคนคนนั้นมากกว่าที่จะยอมรับออกมาตรง ๆ
---
ค่ำวันเดียวกัน ที่คฤหาสน์หลังใหญ่…
คิรันยืนอยู่ในห้องทำงานหรูหรา เงามืดของโคมไฟส่องให้เห็นภาพเขากำลังจัดช่อกุหลาบด้วยมือของตัวเอง เขาไม่เคยทำเรื่องแบบนี้มาก่อน แต่ภาพเด็กหนุ่มในร้านกลับวนเวียนไม่หาย
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ลูคัสรายงานงานจากแก๊งมาเฟียคู่แข่ง “บอสครับ ได้ข่าวว่า เรย์ เริ่มขยับตัว เขาสนใจเรื่องที่คุณไปที่ร้านดอกไม้เล็ก ๆ บ่อยผิดปกติ”
คิรันหยุดมือชั่วครู่ ดวงตาคมกริบหรี่ลง เขารู้ดีว่าศัตรูจะไม่มีวันปล่อยให้สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ หลุดรอดไปได้
“ให้คนคุมร้านนั้นไว้เงียบ ๆ” เขาสั่งเสียงเย็น “อย่าให้ใครแตะต้องที่นั่น”
“รับทราบครับบอส”
เมื่อวางสาย คิรันมองช่อกุหลาบในมือ ความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นในหัวใจนักฆ่าเช่นเขาเริ่มก่อตัวขึ้นช้า ๆ และเขารู้ตัวดีว่ามันอันตรายเกินกว่าจะปล่อยให้ใครล่วงรู้
---
บ่ายวันหนึ่ง ฟ้าครึ้มเหมือนจะร้องไห้ มีนกำลังจัดช่อดอกไม้ที่ลูกค้าสั่งไว้ เสียงเพลงเบา ๆ จากวิทยุเก่าในร้านคลออยู่ แต่ทันใดนั้นฝนก็เริ่มโปรยปรายก่อนจะกลายเป็นสายหนัก
เม็ดฝนกระทบกระจกหน้าร้านดัง ติ๋ง ติ๋ง ไม่หยุด ร้านทั้งร้านเหมือนถูกห่อหุ้มด้วยม่านสีเทา มีนรีบเดินไปดึงผ้าม่านหน้าร้านลงครึ่งหนึ่ง ป้องกันละอองฝนที่สาดเข้ามา
ขณะที่เขากำลังยกกระถางต้นไม้ใหญ่ใกล้ประตู เสียงกระดิ่งก็ดังขึ้น กริ๊ง…
มีนหันขวับไป พลันเห็นร่างสูงในชุดสูทดำเปียกฝนก้าวเข้ามา ผมสีดำสนิทของเขามีหยดน้ำเกาะพราว สายตาคมนั้นยังคงนิ่งเหมือนทุกครั้ง
“คุณ! เปียกหมดแล้ว” มีนตกใจ รีบวางกระถางแล้วคว้าผ้าขนหนูผืนเล็กจากหลังเคาน์เตอร์ “เข้ามาข้างในเร็ว เดี๋ยวไม่สบาย”
คิรันไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงก้าวเข้ามาอย่างสงบ ยื่นมือมาช่วยประคองกระถางที่มีนกำลังยกอยู่ก่อนหน้านี้
“ระวังลื่น” เสียงทุ้มต่ำกล่าวสั้น ๆ แต่ใกล้จนมีนได้ยินชัด
มีนชะงักเล็กน้อย ใจเต้นแรงโดยไม่เข้าใจ เขายอมปล่อยให้คนตรงหน้าช่วยวางกระถางไว้ที่มุมร้าน ก่อนจะยื่นผ้าขนหนูให้ “นี่ครับ เช็ดหน่อยเถอะ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”
คิรันรับผ้ามาอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ราวกับไม่คุ้นเคยกับการได้รับความใส่ใจแบบนี้ เขาซับหยดน้ำออกจากผมอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่มีนรีบไปชงโกโก้ร้อนมาให้
“นั่งรอก่อนนะครับ ฝนคงกว่าจะหยุด”
คิรันมองถ้วยโกโก้ร้อนที่ถูกวางตรงหน้า ไอน้ำลอยขึ้นคลอเคลียแก้วใส เขานิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือหยิบขึ้นจิบเบา ๆ
รสหวานละมุนผสมขมอ่อน ๆ แทรกซึมลงคอ ราวกับความอบอุ่นที่เขาไม่เคยลิ้มลองมานาน… จนเกือบลืมไปว่าตัวเองยังมีหัวใจ
“อร่อยไหมครับ?” เสียงใสถามขึ้นด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
คิรันเงยหน้าขึ้นสบตา ดวงตาคมแฝงประกายบางอย่าง ก่อนพยักหน้าเบา ๆ “อืม”
เพียงคำนั้น แต่กลับทำให้มีนยิ้มกว้างขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
---
เสียงฝนยังคงเทกระหน่ำข้างนอก สองคนในร้านเล็กนั่งเงียบอยู่ด้วยกัน บรรยากาศไม่ได้อึดอัด แต่กลับเต็มไปด้วยความสงบแปลกประหลาด
มีนพยายามชวนคุย “คุณมาซื้อกุหลาบแดงทุกครั้งเลยนะครับ ไม่เบื่อเหรอ?”
คิรันวางถ้วยลงเบา ๆ ตอบเรียบ ๆ “ไม่”
“ผมสงสัยจัง… ปกติผู้ชายไม่ค่อยซื้อดอกไม้เองบ่อย ๆ นะครับ”
คิรันหันมองกุหลาบแดงที่ประดับในแจกัน มองนิ่งราวกับกำลังพูดกับมันมากกว่ามนุษย์ ก่อนเอ่ยเบา ๆ “กุหลาบ… แข็งแรงกว่าที่คิด”
มีนกระพริบตา ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำพูดเช่นนั้น เขาหัวเราะเบา ๆ “คุณก็มีมุมแบบนี้ด้วยสินะ”
คิรันหันกลับมามอง แต่ไม่ได้ตอบอะไร เพียงจิบโกโก้ต่ออย่างเงียบ ๆ
---
ในขณะเดียวกัน ภายนอกฝนมีเงาบุคคลยืนมองเข้ามาจากอีกฟากถนน รถคันหรูสีดำค่อย ๆ เคลื่อนออกไปช้า ๆ คนขับคือ ลูกน้องของเรย์ มาเฟียคู่แข่ง เขายกโทรศัพท์ขึ้นรายงานเสียงต่ำ
“บอสครับ ผมเห็นคิรันเข้าไปในร้านดอกไม้อีกแล้ว คราวนี้ยังนั่งอยู่เป็นชั่วโมง”
ปลายสายหัวเราะเย็น “ดอกไม้… หรือคนขายดอกไม้กันแน่ที่เขาสนใจ หึ น่าสนุกดี”
---
หลังฝนซา บรรยากาศสดชื่นกว่าก่อนหน้า คิรันลุกขึ้นยืน ช่อกุหลาบแดงถูกจัดอย่างประณีตวางรอไว้แล้ว มีนส่งให้ด้วยรอยยิ้ม “วันนี้แถมให้ดอกหนึ่งนะครับ เป็นกุหลาบขาว… หมายถึงความบริสุทธิ์ใจ”
คิรันนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนรับมา เขามองดอกกุหลาบขาวที่ถูกสอดไว้ในช่อสีแดงร้อนแรง ดวงตาคมสะท้อนแววอ่อนโยนเพียงชั่วขณะ
“ขอบคุณ” เขาเอ่ยออกมาเป็นครั้งแรกอย่างเต็มเสียง
เพียงสองคำ แต่ทำให้มีนยิ้มกว้าง ดวงตาเปล่งประกายอย่างที่คิรันไม่เคยเห็นจากใครมาก่อน
เมื่อชายในสูทดำก้าวออกจากร้านไป มีนยืนมองตามหลังเงาร่างนั้นจนลับสายตา เขายกมือแตะอกตัวเอง หัวใจยังเต้นแรงอย่างไม่อาจห้าม
“ทำไมคนคนนี้… ถึงทำให้ฉันรู้สึกแบบนี้นะ”
---
คืนนั้น ที่คฤหาสน์คิรัน
ลูคัสเห็นเจ้านายวางช่อกุหลาบแดงพร้อมดอกขาวเพียงดอกเดียวไว้บนโต๊ะ เขาเหลือบตามองอย่างอยากรู้อยากเห็น แต่ไม่กล้าถามมากไปกว่านี้
คิรันยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ แต่สายตายังคงหยุดที่ดอกกุหลาบขาวนั้นราวกับมันเป็นสิ่งเดียวที่มีค่ามากกว่าทุกอย่างที่เขามี
---
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!