ยูโน่เเละแอสต้าคือสองอัศวินเวทมนตร์ที่มีความพยายามอย่างมากในการปกป้องอาณาจักรclover

.........

พวกเขามีความฝันที่อยากจะเป็นหัวหน้าหน่วยอัศวินเวทมนตร์ให้ได้

(ต้องดูให้จบ)

มนุษย์เกือบถึงคราวต้องล่มสลายเพราะการปรากฏตัวของเทพอสูร ยังมีจักรพรรดิเวทย์มนต์ที่สามารถปราบเทพอสูรได้ทำให้มนุษย์รอดพ้นไปได้ asta และ yuno พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกันเมื่อตอนนั้นเขาอายุเพียงแค่ 8 ปี พวกเขาก็มีความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นจักรพรรดิเวทมนตร์หรือหัวหน้าหน่วยใดก็ได้ขอเพียงแค่ได้ไปอยู่ในวังหลวงของอาณาจักร Clover พวกเขาเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกส่งมาหน้าโบสถ์พวกเขาแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครคือพ่อแม่ของพวกเขาเขารู้แค่ว่าพวกเขาเป็นเพื่อนกัน สิบปีต่อมาทั้งคู่ฝึกฝนอย่างหนักเพื่อให้ได้หนังสือที่จะสอนเวทย์มนต์แก่พวกเขา ตอนนั้นพวกเขาอายุได้แค่ 14 ปี แอสต้า และ ยูโน่ เป็นเพื่อนสนิทกัน มาตั้งแต่อายุ 2-3 ปี พวกเขาถูกเลี้ยงดูโดยหลวงพ่อ ซึ่งเป็นคนดีมากๆ ต่อมาพวกเขาฝึกฝนอย่างหนักเพื่อให้ได้เป็นจักรพรรดิเวทมนตร์ เขาทั้งสองสอบเข้าอาณาจักร Clover ยูโน่ซึ่งมีพลังมากกว่าแอสต้า เขาได้อยู่หน่วย ใกล้จักรพรรดิเวทมนต์มากที่สุด แต่ เเอสต้าได้อยู่หน่วยจักรพรรดิเวทมนตร์ชั้นต่ำ แอสต้าไม่มีพลังเวทย์มาตั้งแต่เกิดเขาจึงได้อยู่หน่วยชั้นต่ำที่สุด เขามักจะพูดว่า ความไม่มีพลังเวทย์นี่แหละคือเวทย์มนต์ของฉัน ซึ่งเขาเป็นคนที่มีความพยายามมากที่จะเป็นจักรพรรดิเวทมนตร์ ต่อมาเขาได้หนังสือที่เป็นหนังสือมีรูปดอกไม้ 5 แฉก ซึ่งตามตำนานกล่าวว่าเป็นหนังสือของเทพอสูร แต่ไม่รู้ว่ามันใช้ได้จริงหรือไม่ เขารู้เพียงแค่ว่ามันสามารถใช้ทำอะไรก็ได้มันมีดาบเล่มหนึ่งอยู่ในนั้น เขาสามารถถือได้สบายๆเพราะมันไม่มี อะไรหนัก ดาบเล่มนี้คนที่มีเวทย์มนต์จะไม่สามารถถือได้มันจะรู้สึกหนักแต่สำหรับแอสต้าเขาถือได้ อย่างง่ายดาย เขาคิดว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ยากสำหรับเขา แอสต้า มักทำอะไรเกินตัวเสมอจนกว่าจะถึงจุดที่เขาไม่สามารถทำได้อีกแล้วเมื่อเวลาไปต่อสู้เขาจึงมักจะบาดเจ็บสาหัสเสมอ

ถ้าใครสนใจการ์ตูนเรื่องนี้โปรดติดตามตอนต่อไป

หลังจากที่แอสต้าและยูโน ได้รับการคัดเลือกผ่านเข้าหน่วยอัศวินเวทมนตร์มาได้ แอสต้าได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากหัวหน้าหน่วยที่ชื่อยามิ ยูโน่ได้รับการต้อนรับที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะเขาเป็นสามัญชน ส่วนคนในหน่วยของเขามีแต่เชื้อพระวงศ์จึงไม่มีใครยอมรับเขา ในแต่ละหน่วยพวกเขาจะต้องผ่านการทดสอบของหัวหน้าหน่วย หัวหน้ายามิบอกแอสต้าว่าที่อยู่ของพวกเขาจะเปลี่ยนรูปร่างตลอดเพราะว่ามันมีชีวิต ที่สามารถทำเองได้ พอมาอยู่ได้แค่ครึ่งวันเขียนจดหมายถึงหลวงพ่อว่าเขาได้ผ่านการทดสอบจากหัวหน้าหน่วยจักรพรรดิเวทมนตร์และจักรพรรดิเวทมนตร์ ได้บอกว่าเขามีพลังเวทย์หรือไม่ซึ่งเขาได้ตอบไปว่าไม่มี แอสต้าผ่านการทดสอบจากจักรพรรดิเวทย์มนต์มาได้ก็เพราะเขามีดาบเล่มหนึ่งที่ได้จากหนังสือ เขามีพลังเวทย์ป้องกันจากดาบเล่มนั้น ซึ่งทำให้จักรพรรดิเวทมนต์ภูมิใจในตัวเขาเขาจึงได้เลื่อนขั้นเป็นจักรพรรดิเวทมนตร์ ชั้นล่างสุดชั้นล่างสุดที่ว่านี่คือหน่วยอัศวินเวทมนตร์ชั้นต่ำขั้น 3 อาจจะฟังดูแปลกๆแต่นี่คือเรื่องจริง แอสต้าเขียนจดหมายถึงหลวงพ่อและ เขายังเขียนต่ออีกด้วยว่าหากหลวงพ่อเห็นจดหมายนี้แล้วไม่ต้องทำอาหารรอเขาก็ได้ และแอสต้าก็กลับไปที่ห้องเพื่อนอนพักผ่อนจากที่ได้เหนื่อยมาทั้งวัน พอถึงรุ่งเช้า asta ลุกขึ้นมา และเปิดประตูพรวดออกไป วิ่งไปอย่างรวดเร็วเลยไม่ทันได้สังเกตว่าด้านหน้าของเขามีเสาต้นหนึ่งรออยู่เขาชนเสาอย่างแรง ดังก้อง เขาล้มลง แล้วพูดว่า โอ๊ยเจ็บเจ็บเจ็บเจ็บเจ็บๆ หัวหน้ายามิเดินมาเจอพอดีจึงพูดว่า บอกแล้วไงมันจะเปลี่ยนตลอด แกไม่ฟังเองนี่ไอ้เปี๊ยก แอสต้าจึงพูดออกไปว่า ขอโทษครับ หัวหน้ายามิจึงบอกให้เขาไปอาบน้ำเดินตามยาวไปจนถึงห้องน้ำ พอเดินไปถึงห้องน้ำเขาก็ได้พบกับรุ่นพี่ชื่อชามี เขาหยุดทักทายรุ่นพี่ ชามี่ชอบอาหารมากจึงไม่แบ่งให้แอสต้า หัวหน้ายามิจึงบอกให้แอสต้ารีบไปอาบน้ำแล้วจะพามาพิธีรับน้อง

โปรดติดตามตอนต่อไป