เสียงฝนโปรยปรายกระทบหลังคาสังกะสีของโกดังเก่า เสียงหยดน้ำดังก้องสะท้อนอยู่ในความเงียบงันของรัตติกาล แสงไฟจากหลอดนีออนเพียงดวงเดียวที่แขวนอยู่กลางห้องสาดส่องลงมาอย่างอ่อนแรง เผยให้เห็นใบหน้าของชายหนุ่มคนหนึ่งที่นั่งก้มหน้าอยู่บนเก้าอี้เหล็กสนิมเกาะ ใบหน้าคมเข้มสะท้อนความเคร่งเครียด ดวงตาสีดำขลับเต็มไปด้วยประกายมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว
“อัคคี...นี่ไม่ใช่ภารกิจธรรมดา”
เสียงผู้บังคับบัญชาก้องอยู่ในหัว ราวกับยังดังซ้ำในความทรงจำที่ไม่จางหาย
สองสัปดาห์ก่อน เขาได้รับการเรียกตัวเข้าพบหัวหน้าหน่วยสืบสวนพิเศษ ห้องประชุมปิดสนิทมีเพียงไม่กี่ชีวิตที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไป ด้านหน้าของห้องมีแฟ้มสีดำหนาปึกวางอยู่ ภายในเต็มไปด้วยเอกสาร ข้อมูล และภาพถ่ายจำนวนมาก ทุกภาพถ่ายมีเพียงชายคนเดียวที่เป็นศูนย์กลาง—โจนาธาน
“หัวหน้าแก๊งมาเฟียที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้” หัวหน้าหน่วยพูดขึ้น น้ำเสียงนิ่งขรึม “เราพยายามเล่นงานเขามาหลายปี แต่ไม่เคยมีหลักฐานแน่นหนาพอ ทุกคนที่กล้าเข้าใกล้ ล้วนหายไปอย่างไร้ร่องรอย”
อัคคีเลื่อนภาพถ่ายไปทีละใบ ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าของชายผู้หนึ่งในชุดสูทสีดำตัดเย็บอย่างดี รอยยิ้มบางบนใบหน้านั้นดูทั้งมีเสน่ห์และอันตรายในเวลาเดียวกัน โจนาธาน…ชื่อที่ทุกคนรู้จัก แต่ไม่มีใครกล้าเอ่ยต่อหน้า
“คุณต้องการให้ผมทำอะไร” อัคคีถามทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าคำตอบคืออะไร
“แฝงตัวเข้าไปในกลุ่มของเขา”
หัวใจอัคคีเต้นแรง ความเงียบแผ่ปกคลุมชั่วขณะ ก่อนที่หัวหน้าหน่วยจะเลื่อนแฟ้มอีกเล่มมาตรงหน้า
“คุณจะไม่ได้ใช้ชื่ออัคคีอีกต่อไป คุณคือ ‘เจย์’ อดีตนักเลงที่เพิ่งพ้นคุกออกมา คนแบบนั้นโจนาธานอาจสนใจรับเข้ากลุ่ม หากคุณทำให้เขาเชื่อว่าคุณคือคนของโลกมืดจริง ๆ”
อัคคีมองแฟ้มตรงหน้า ภารกิจนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เขารู้ดีว่าการเข้าไปในถ้ำเสือหมายถึงโอกาสรอดกลับออกมาอาจน้อยกว่าครึ่ง แต่เลือดนักสืบในกายกลับพุ่งพล่าน ความปรารถนาที่จะลากคนเลวออกมาเผชิญความยุติธรรมผลักดันให้เขาพยักหน้าอย่างไม่ลังเล
“ผมรับภารกิจ”
......................
คืนวันนั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเส้นทางที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง หลังจากนั้นหลายวัน อัคคีต้องเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนแปลงตัวตนอย่างสมบูรณ์ ทุกสิ่งที่เป็น “อัคคี” ต้องถูกลบหาย เหลือเพียง “เจย์” ชายผู้ถือกำเนิดใหม่จากเถ้าถ่านของอดีต
เขาตัดผมสั้น เปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวจากตำรวจหนุ่มผู้เรียบร้อยไปเป็นคนเถื่อนในชุดหนังสีเข้ม ร่างกายที่ผ่านการฝึกฝนมานานถูกเสริมด้วยรอยสักปลอมที่สื่อถึงประวัติอาชญากรรมเลื่อนลอย ข้อมูลการปลอมแปลงถูกจัดทำขึ้นอย่างแนบเนียน—บันทึกคดีเก่า ๆ ชื่อในเรือนจำ เพื่อนฝูงในวงการใต้ดิน ทุกอย่างถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ “เจย์” มีอยู่จริงในสายตาโลกมืด
คริส เพื่อนตำรวจที่สนิทที่สุดและเป็นเพียงไม่กี่คนที่รู้ความจริง มักคอยติดตามเขาอย่างใกล้ชิด
“แกแน่ใจนะว่าทำได้” คริสถามในคืนหนึ่งที่ทั้งคู่ยืนมองกระจกเงา ซึ่งสะท้อนภาพอัคคีในรูปลักษณ์ใหม่ที่แทบไม่เหลือเค้าเดิม
“ไม่มีใครแน่ใจได้หรอก” อัคคียกยิ้มมุมปาก สายตาแข็งกร้าว “แต่ถ้าไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้ ฉันก็จะทำ”
...****************...
ในที่สุด วันแรกของการเข้าสู่โลกของโจนาธานก็มาถึง อัคคีหรือเจย์เดินเข้าสู่บาร์ใต้ดินที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งรวมของแก๊งมาเฟีย เขาสวมเสื้อหนังสีดำ กางเกงยีนส์ขาด ๆ รองเท้าบู๊ตหนัก เส้นผมถูกรวบหลวม ๆ ดวงตาคมกริบจ้องไปข้างหน้าอย่างไม่หวั่นไหว
บาร์เต็มไปด้วยควันบุหรี่ เสียงเพลงจังหวะหนักและเสียงหัวเราะหยาบโลนของเหล่านักเลง เจย์ก้าวเข้าไปโดยไม่แสดงความประหม่าสักนิด ทุกสายตาหันมามองคนแปลกหน้า แต่เขาเดินตรงไปยังเคาน์เตอร์อย่างไม่หวั่นเกรง
“ฉันมาหาโจนาธาน” เสียงทุ้มเอ่ยกับบาร์เทนเดอร์
ชายคนนั้นชะงักเล็กน้อย ก่อนส่งสัญญาณให้ชายร่างใหญ่สองคนเข้ามาโอบล้อมเจย์ พวกเขาจับแขนทั้งสองข้างอย่างไม่อ่อนโยนและลากเข้าไปยังห้องด้านใน
ห้องนั้นกว้างใหญ่ เงียบสงัดกว่าโถงบาร์ ด้านในสุดมีโซฟาหนังสีดำตั้งอยู่ และเหนือโซฟานั้นคือบุคคลที่เจย์เฝ้ามองจากแฟ้มข้อมูลมานาน—โจนาธาน
ชายหนุ่มในชุดสูทสีเข้มยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ ดวงตาสีเทาคมปลาบจับจ้องมาที่เขา แค่เพียงแววตามองผ่านก็ทำให้บรรยากาศรอบตัวหนักอึ้ง
“ใครกัน” เสียงโจนาธานดังขึ้นเรียบเย็น
“เจย์” เขาตอบอย่างมั่นคง “ฉันเพิ่งออกจากคุก และได้ยินว่าที่นี่กำลังมองหาคนที่มีประโยชน์”
เสียงหัวเราะเย็นเยียบดังขึ้นจากลีอา มือขวาสาวที่ยืนอยู่ข้างโจนาธาน “ทุกคนพูดแบบนี้ทั้งนั้น นายคิดว่าตัวเองมีค่าพอให้หัวหน้าเราสนใจหรือไง”
เจย์สบตากับเธอโดยไม่หวั่นไหว “ฉันไม่ใช่ของราคาถูกที่จะมาอวดเก่ง แต่ถ้าอยากรู้ว่าฉันทำอะไรได้บ้าง...ลองทดสอบดูสิ”
คำตอบนั้นทำให้โจนาธานเลิกคิ้วเล็กน้อย มุมปากโค้งยิ้มจาง ๆ เขายกแก้วขึ้นอีกครั้งอย่างเชื่องช้า
“กล้าใช้ชีวิตตัวเองเดิมพันงั้นสิ” เขาพูดช้า ๆ น้ำเสียงทั้งน่าหวาดหวั่นและชวนหลงใหลในคราวเดียว “ฉันชอบคนที่ไม่กลัวตาย”
บรรยากาศในห้องหนักอึ้งขึ้นทุกวินาที แต่เจย์ยังคงยืนตรง ดวงตาคมไม่หลบเลี่ยง ราวกับเขาไม่ได้สวมหน้ากากอะไรเลย ทั้งที่แท้จริงแล้ว เขากำลังเล่นเกมที่เสี่ยงที่สุดในชีวิต
และนี่...คือจุดเริ่มต้นของการเดินเข้าสู่โลกที่ไม่มีทางหวนกลับ
...****************...
บรรยากาศในห้องยังคงเงียบงัน มีเพียงเสียงแก้วไวน์กระทบโต๊ะเบา ๆ ที่โจนาธันวางลง เขาเอนกายพิงโซฟา สายตาคมกริบไม่ละไปจากเจย์แม้แต่วินาทีเดียว
“นายบอกว่าพึ่งออกจากคุก…ทำอะไรถึงได้เข้าไปน่ะ” โจนาธานพูด
เจย์ยักไหล่ “ปล้นรถขนเงิน...แต่โชคไม่เข้าข้าง”
“ช่างกล้าพูดนะ ปล้นไม่สำเร็จแต่ยังอวดเก่ง”ลีอาหัวเราะ
เจย์หันขวับไปสบตา “ล้มเหลวครั้งหนึ่งไม่ได้แปลว่าฉันไร้ค่า”
โจนาธานเลิกคิ้ว ยกมือขึ้นห้ามไม่ให้ลีอาพูดต่อ
“ความมั่นใจแบบนี้น่าสนใจ...แต่คำพูดมันไม่พอหรอก”
“งั้นก็ทดสอบผมสิ”
โจนาธานยิ้มมุมปาก“ใจร้อนเหมือนกันนี่”
ลีอาก้าวออกไป แล้วกลับเข้ามาพร้อมชายร่างยักษ์สองคน ทั้งคู่ลากผู้ชายคนหนึ่งเข้ามา มัดมือไพล่หลัง เลือดเปรอะเต็มเสื้อ
โจนาธานพูดขึ้น“คนนี้เป็นหนูสกปรก...ขายข้อมูลให้ตำรวจ”
เจย์หรี่ตา มองชายที่ถูกมัด
โจนาธานพูดต่อ“ถ้าอยากเข้ากลุ่มฉัน...ก็จัดการเขาซะ”
ห้องเงียบสนิท ทุกสายตาจับจ้องที่เจย์ เขาขยับนิ้วมือตัวเองแน่น ความคิดในหัวแล่นวุ่นนี่คือบททดสอบจริงจัง ถ้าเขาลังเลแม้เสี้ยววินาที ทุกอย่างพังหมด
“มีอาวุธให้มั้ย”
ลีอายื่นปืนสั้นให้พร้อมกับยิ้มเยาะ“จะได้เห็นว่าปากเก่งจริงหรือเปล่า”
เจย์รับปืนมา มือไม่สั่นแม้แต่น้อย เขาก้าวเข้าไปใกล้ชายที่นั่งคุกเข่า ชายคนนั้นเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาเว้าวอน
“อย่า...อย่าฆ่าฉันเลย ฉันมีลูกเมีย—”ชายที่ถูกมัดร้อง
“หุบปาก”เจย์ตะโกนใส่ชายที่ถูกมัด
เขาหันไปสบตาโจนาธาน ร่างสูงใหญ่นั่งบนโซฟายังคงจิบไวน์ราวกับดูละครเรื่องหนึ่ง “ถ้าฉันทำ...ฉันก็เป็นของนาย”
“ใช่”โจนาธานยิ้ม
เสียง ปัง! ดังสนั่นกระสุนนัดเดียวพุ่งเฉียดข้างหัวของชายที่ถูกมัดไปเพียงไม่กี่เซนติเมตร ชายคนนั้นกรีดร้องลั่น ตัวสั่นเทิ้มเหมือนจะขาดใจ
เจย์ลดปืนลงหันกลับไปสบตาโจนาธานตรง ๆ
ก่อนจะพูด“ฉันไม่ใช่หมาล่าเนื้อที่ฆ่าคนตามคำสั่งใครง่าย ๆ แต่ถ้านายต้องการให้ฉันทำงาน...ฉันจะทำงานให้สะอาด ไม่มีร่องรอย ไม่มีพลาด”
ลีฮาชะงัก “แก...”
โจนาธานหัวเราะเบา ๆ “น่าสนใจ...กล้าขัดคำสั่งฉันต่อหน้าแบบนี้ไม่ค่อยมีหรอกนะ”
โจนาธานวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะ เสียงแก้วกระทบดังแผ่วแต่กดดันเหลือเกิน
“ดีล่ะ เจย์...ฉันจะให้โอกาสนายพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง”
“รออยู่แล้ว”เจย์ยิ้มมุมปาก
โจนาธานยกมือขึ้น คนของเขาลากชายที่ถูกมัดออกไป เสียงร้องยังคงดังสะท้อนในหัวเจย์ แต่ใบหน้าของเขายังคงเรียบนิ่ง
ในดวงตาของโจนาธานประกายบางอย่างแวบขึ้นมาที่เจย์จับได้ทันที ไม่ใช่เพียงความโหดเหี้ยม แต่เป็นความสนใจ...ที่อันตรายยิ่งกว่า
รถสปอร์ตสีดำเงาวับแล่นช้า ๆ ไปตามถนนกลางคืน แสงไฟนีออนลอดผ่านกระจก เผยให้เห็นใบหน้าคมเข้มของโจนาธานที่นั่งข้าง ๆ ร่างสูงสง่าของเขาเต็มไปด้วยอำนาจ แม้เพียงแค่ขยับตัวก็ทำให้คนรอบข้างเกรงกลัวได้ทันที
เจย์นั่งอยู่เบาะข้าง ๆ ดวงตาคมกริบมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่ในใจเขากำลังวิเคราะห์ทุกคำ ทุกการเคลื่อนไหวของชายข้างตัว
โจนาธานพูดขึ้น“นายไม่กลัวฉันเหรอ”
เจย์หันมาสบตา “ถ้ากลัว ฉันคงไม่ขึ้นรถมานั่งข้าง ๆ หรอก”
โจนาธานหัวเราะเบา “ปากเก่งดี…ฉันชอบ”
บรรยากาศในรถเงียบไปชั่วครู่ มีเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนไปตามทาง โจนาธานเอียงหน้ามามองเจย์ ดวงตาสีเทาเย็นเฉียบเหมือนจะเจาะทะลุทุกความลับ
“คืนนี้ฉันจะให้นายพิสูจน์ตัวเอง...ไปเก็บเงินจากพวกเจ้าหนี้”
“เก็บเงิน?”เจย์เอียงคอสงสัย
“ใช่…ง่าย ๆ แค่นั้น ถ้านายทำพลาด...ก็ไม่ต้องกลับมาให้ฉันเห็นหน้า”
เจย์ยกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้ารับโดยไม่ลังเล
“เข้าใจแล้ว”
โจนาธานยิ้มบาง“ฉันชักอยากเห็นว่านายจะทำยังไงแล้วสิ”
...****************...
เมื่อถึงเป้าหมาย ทั้งคู่ลงจากรถ อาคารเก่าทรุดโทรมตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า แสงไฟสลัว ๆ ทำให้บรรยากาศดูไม่น่าไว้ใจ เจย์ก้าวนำเข้าไปทันทีโดยไม่รอคำสั่ง โจนาธานยืนกอดอกพิงรถ คอยมองตามด้วยสายตาเรียบนิ่ง
ไม่นานนัก เสียงโวยวายก็ดังมาจากข้างใน ประตูถูกถีบเปิดออก เจย์ลากชายร่างอ้วนออกมา มืออีกข้างจับเงินปึกหนาโยนลงบนโต๊ะกระจกตรงหน้าโจนาธาน
“เรียบร้อย...ทั้งเงิน ทั้งดอก”เจย์เอ่ย
ชายอ้วนร้องลั่น“ผมไม่มีแล้ว! ผมจะหาเพิ่มให้ก็ได้ ขอเวลาอีกหน่อย—!”
เจย์กดหัวเขาลงพื้น“เวลาคือสิ่งที่นายไม่ควรขอจากเจ้านายฉัน”
โจนาธานมองภาพตรงหน้าด้วยรอยยิ้มมุมปาก เขาก้าวเข้ามาใกล้ ดวงตาสีเทาจ้องเจย์ไม่วางตา
“จัดการได้ไม่เลว...โหดกว่าที่คิดอีก”
เจย์เงยหน้ามอง “ถ้าอยากได้แค่นี้ ฉันทำได้ทุกวัน”
โจนาธานก้มลงกระซิบใกล้หูของเจย์ “ฉันอยากเห็นว่านายจะทำได้มากกว่านี้”
เสียงทุ้มต่ำนั้นใกล้เกินไปจนเจย์เผลอชะงัก เขาหันขวับไปสบตาอีกฝ่าย ระยะห่างแค่ไม่กี่เซนติเมตร กลิ่นไวน์เจือจางผสมกับกลิ่นน้ำหอมเฉพาะตัวของโจนาธานทำเอาหัวใจเต้นผิดจังหวะ แต่เจย์รีบเก็บอาการ
เจย์ยิ้มมุมปาก “อย่ามาทำให้ฉันเสียสมาธิ”
โจนาธานหัวเราะกับคำพูดของเจย์ “สมาธิหรอ...หรือว่าหัวใจนายสั่น”
เจย์ตอบทันควัน “หัวใจฉันไม่เคยสั่นเพราะใคร”
โจนาธานก้มลงสบตาใกล้กว่าเดิม “เดี๋ยวก็รู้...เจย์”
...****************...
คืนแรกที่เขาได้ทำงานสำเร็จ กลายเป็นมากกว่าการพิสูจน์ตัวเอง เพราะตั้งแต่วินาทีนั้น เจย์ก็รู้สึกแล้วว่า...โจนาธานไม่ได้มองเขาแค่ลูกน้องธรรมดา แต่เหมือนกำลัง “เล่นเกม” ที่เดิมพันสูงยิ่งกว่าเงินหรือชีวิต
และเกมนี้...หัวใจอาจเป็นสิ่งที่ถูกขีดฆ่าลงก่อนใคร
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!