สายลมยามเช้าพัดเอื่อยผ่านรั้วเหล็กสูงของโรงเรียนมัธยมชื่อดัง เสียงนกที่เกาะอยู่บนสายไฟขับกล่อมไปกับเสียงพูดคุยของนักเรียนที่ทยอยเดินเข้าไปในอาคารเรียน บรรยากาศเหมือนเดิมทุกอย่าง ยกเว้นคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงประตูรั้วอย่างเงียบงัน
นที สะพายกระเป๋าเก่าใบเดิมที่เคยใช้เมื่อปีก่อน เขาเงยหน้ามองป้ายชื่อโรงเรียน พลางรู้สึกถึงแรงบีบในหัวใจ ความทรงจำทั้งหมดถาโถมกลับมาเหมือนคลื่นซัดฝั่ง—เสียงหัวเราะ เสียงร้องไห้ และเสียงตะโกนของใครบางคนที่เขาไม่มีวันลืม
> “คิน... ฉันกลับมาแล้ว”
ริมฝีปากของเขาพึมพำชื่อเพื่อนสนิทที่ไม่มีวันกลับมา ก่อนก้าวเท้าเข้าไปอย่างหนักแน่น ความรู้สึกเย็นยะเยือกวิ่งผ่านสันหลังในทันทีที่มองเห็นสนามกว้างที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ที่พวกเขานั่งกินข้าวเที่ยงด้วยกัน
ในห้องเรียน เสียงพูดคุยหยุดลงชั่วครู่เมื่อบานประตูเลื่อนเปิดออก ทุกสายตาหันมามองเด็กหนุ่มที่หายไปหนึ่งปีเต็ม บางคนอ้าปากค้าง บางคนกระซิบกระซาบ เสียงซุบซิบดังแทรกทั่วห้อง
“นั่น... นทีใช่ปะ?”
“เขากลับมาจริงๆ เหรอ...?”
นทีไม่สนใจสายตาเหล่านั้น เขาเดินตรงไปยังโต๊ะว่างด้านหลังสุด ทิ้งกระเป๋าลงอย่างเงียบๆ ก่อนจะนั่งลง เสี้ยววินาทีนั้น เขารู้สึกได้ถึงสายตาคมกริบที่จ้องมา เขาเหลือบไปเห็นชายร่างสูงในมุมห้อง—กรณ์ หัวโจกนักเรียนที่มีฐานะที่นทีไม่มีวันลืม
รอยยิ้มมุมปากของกรณ์ยังเหมือนเดิม... ยิ้มที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งและความทรงจำเลวร้าย
> “มึงจำฉันได้ใช่ไหม กรณ์...” นทีคิดในใจ กำมือแน่นจนเล็บจิกลงไปในฝ่ามือ
ขณะเดียวกัน มินตรา เด็กสาวร่างบอบบางที่นั่งแถวกลาง หันมามองเขาด้วยแววตาที่แตกต่างออกไป—ไม่ใช่ความสงสัยหรือรังเกียจ แต่เป็นความห่วงใยบางอย่างที่นทีอ่านไม่ออก เธอส่งยิ้มบางๆ มาให้เหมือนจะบอกว่า “ยินดีต้อนรับกลับ”
นทีหลบสายตานั้น พลางรู้สึกถึงแรงกดดันที่ถาโถมจากทุกทิศ ทุกคนในห้องนี้คือผู้ต้องสงสัยในสายตาเขา ทุกคนอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ ภาคิน
เสียงออดดังขึ้น ครูประจำวิชาเดินเข้ามา แต่เสียงเหล่านั้นเป็นเพียงเสียงพื้นหลังในหูของนที ความคิดเขาตอนนี้มีเพียงคำสัญญาที่ให้ไว้ต่อหน้าหลุมศพของเพื่อนเพียงคนเดียวในโลก
> “ฉันจะทำให้พวกมันเจ็บปวด... เจ็บยิ่งกว่าที่แกเคยเจอ”
และนี่... คือจุดเริ่มต้นของเกมล้างแค้นในรั้วโรงเรียน ที่ไม่มีใครรู้ว่าจะจบลงด้วยเลือด น้ำตา และความว่างเปล่า
---
เสียงออดพักเที่ยงดังขึ้นทันทีที่ครูประจำวิชาก้าวออกจากห้อง เสียงเก้าอี้ขูดพื้นดังระงม นักเรียนหลายคนรีบลุกออกไปที่โรงอาหาร แต่มีสายตาหลายคู่ยังจับจ้องไปที่มุมห้อง... ตรงที่นทีนั่งเงียบอยู่คนเดียว
เขายกกล่องข้าวขึ้นวางบนโต๊ะ ช้อนส้อมที่แม่เตรียมไว้สั่นเล็กน้อยในมือ ความทรงจำบางอย่างย้อนกลับมาโดยไม่ทันตั้งตัว ภาพของโต๊ะกลุ่มเล็กที่เขาเคยนั่งกินข้าวกับใครบางคน—เสียงหัวเราะของภาคินดังขึ้นในหัวอย่างชัดเจน
> “นที มึงต้องลองนี่ อร่อยชิบหายเลย”
เสียงนั้นเหมือนจริงเสียจนหัวใจบีบรัด นทีเผลอก้มหน้าลงแน่นจนเงาผมปิดดวงตา เขากำหมัดแน่นเพื่อหยุดความรู้สึกปวดร้าว แต่กลับยิ่งชัดเจนขึ้น... ภาพของภาคินวันสุดท้ายที่ยืนอยู่หลังโรงยิม เลือดซึมออกมาจากมุมปาก น้ำตาไหลอาบแก้ม และเสียงขอความช่วยเหลือที่เขามาช้าเกินไป
> “ทำไม... ทำไมต้องเป็นแก...”
เสียงพูดขาดห้วงดังขึ้นเบาๆ ในลำคอ ก่อนที่นทีจะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงหนึ่งข้างกาย
“นาย... ใช่นทีใช่ไหม?”
นทีเงยหน้าขึ้นพบกับรอยยิ้มอ่อนโยนของ มินตรา เธอถือกล่องนมกับข้าวกล่องในมือ มองเขาด้วยสายตาที่อบอุ่นจนนทีรู้สึกแปลกใจ
“อืม...” เขาตอบสั้นๆ พร้อมลดสายตาลง มินตราไม่ยอมถอย เธอวางข้าวลงที่โต๊ะข้างๆ แล้วนั่งลงอย่างไม่ลังเล
“ฉันมินตรา เราเคยอยู่ห้องเดียวกันตอน ม.4 นายคงจำไม่ได้หรอก” เธอพูดพร้อมหัวเราะเบาๆ แต่แววตานั้นเหมือนมีอะไรซ่อนอยู่ลึกๆ “ฉัน... ดีใจที่นายกลับมานะ”
นทีขมวดคิ้วเล็กน้อย ดีใจที่กลับมา? ทำไมต้องพูดแบบนั้น เหมือนรู้เรื่องอะไรบางอย่าง... เขาไม่ได้ถาม แค่พยักหน้าแล้วหันมองออกไปนอกหน้าต่าง ที่ลานกว้าง เขาเห็นกลุ่มของ กรณ์ กำลังยืนรวมตัวอยู่ เสียงหัวเราะและท่าทางเหมือนเมื่อก่อน—ไม่มีอะไรเปลี่ยน
หัวใจของนทีเต้นแรงขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ ภาพเหตุการณ์เก่าๆ แทรกเข้ามาในหัว—ภาพภาคินถูกจับเหยียดแขนไว้กับกำแพงหลังโรงยิม เสียงหัวเราะเยาะที่ก้องกังวาน และเสียงกรีดร้องที่ไม่มีใครยื่นมือช่วย
มือของนทีสั่นจนต้องกำแน่น เขาสาบานกับตัวเองอีกครั้ง
> “กรณ์... มึงจะไม่รอดแน่”
มินตราหันมามองเขาอย่างสงสัย แต่ยังไม่ได้ถามอะไร เพราะในจังหวะนั้นเอง เสียงฝีเท้าหนักๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง ใครบางคนวางมือบนไหล่ของนทีพร้อมเสียงทุ้มที่เขาจำได้แม่นยำ
“ไง... ไม่เจอกันนานเลยนะ เพื่อนเก่า”
นทีหันไปช้าๆ และเห็นรอยยิ้มเย้ยหยันของ กรณ์ ในระยะประชิด—รอยยิ้มที่เหมือนฝันร้ายหวนคืน
> “มึง... กลับมาทำไม?”
_____
ไหล่ของนทีถูกบีบแน่นด้วยแรงที่มากเกินความจำเป็น เขาหันกลับไปจ้องหน้ากรณ์อย่างนิ่งเฉย แม้ภายในใจจะเดือดพล่านเหมือนภูเขาไฟที่พร้อมปะทุทุกเมื่อ
“ก็...กลับมาเรียนให้จบไง” นทีตอบสั้นๆ น้ำเสียงเรียบจนแทบไร้อารมณ์ แต่ในแววตาแฝงไปด้วยความแข็งกร้าว
กรณ์หัวเราะหยัน “หึ เรียนให้จบเหรอ? หรือมึงกลับมาเพราะเรื่อง เพื่อนรักของมึง กันแน่?”
คำพูดนั้นเหมือนคมมีดกรีดลึกลงไปในหัวใจ นทีเผลอกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้นที่หลังมือ แต่เขาพยายามกลั้นไว้ ไม่ใช่เวลาที่จะระเบิดอารมณ์ตอนนี้
ก่อนที่สถานการณ์จะตึงเครียดไปมากกว่านี้ เสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมา “กรณ์ พอเถอะ อย่าเพิ่ง”
พีท เพื่อนสนิทของกรณ์เดินเข้ามาหยุดข้างๆ สีหน้าดูเกร็งเล็กน้อย เขาจับแขนกรณ์เหมือนจะห้าม “เรามีเรียนต่อ นายอย่ามีเรื่องตอนนี้เลย”
กรณ์มองนทีด้วยแววตาเย้ยหยัน ก่อนปล่อยมือออกช้าๆ แต่ไม่วายโน้มตัวมากระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงต่ำที่ทำให้นทีขนลุก
“ถ้ามึงคิดจะทำอะไร พวกกูก็รออยู่เหมือนกัน...”
จากนั้นเขากับพีทก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งความอึดอัดหนักอึ้งไว้เบื้องหลัง มินตราที่นั่งเงียบมาตลอดขมวดคิ้วมองนทีด้วยความกังวล
“นาย...รู้จักเขาดีใช่ไหม?” เธอถามเสียงเบา
นทีเหลือบมองเธอเพียงเสี้ยววินาทีแล้วตอบสั้นๆ “มากกว่าที่เธอคิด”
เสียงออดคาบต่อไปดังขึ้น แต่นทีแทบไม่ได้ยิน เขานั่งนิ่ง มือสั่นเล็กน้อยขณะความทรงจำเก่าๆ ผุดขึ้นในหัว—ภาพภาคินถูกล้อมหลังโรงยิม กรณ์คือคนที่ยืนหัวเราะดังที่สุด ขณะที่พีทกับคนอื่นๆ เพียงยืนดูโดยไม่ยื่นมือช่วย
หลังเลิกเรียน นทีเดินออกมาจากอาคารด้วยก้าวที่หนักแน่น เขาตั้งใจจะกลับบ้าน แต่แล้วเสียงหัวเราะดังแว่วจากทางด้านหลังโรงยิมก็ดึงดูดความสนใจ เขารู้สึกได้ทันทีว่าเสียงนั้นคือของใคร
กลุ่มของกรณ์...
นทีชะงัก เขามองไปรอบๆ ก่อนจะเดินตามเสียงนั้นไปอย่างเงียบเชียบ เสียงหัวเราะและเสียงสนทนาของกลุ่มนักเรียนดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเขาเข้าใกล้
หลังโรงยิมเหมือนเดิมทุกอย่าง—กำแพงสีซีด ลานปูนที่มีคราบสนิมจากโครงเหล็ก และกองเศษไม้ที่ถูกทิ้งไว้โดยไม่สนใจ... ที่นี่แหละ สถานที่เกิดเรื่องในวันนั้น
นทีหลบหลังมุมกำแพง เห็น กรณ์ พีท และอีกสองคน ยืนคุยกันอย่างออกรส กลิ่นบุหรี่จางๆ ลอยมาตามลม
“มึงเห็นหน้ามันตอนเช้าไหม สภาพแม่งอย่างกับผี” เสียงเพื่อนในกลุ่มพูดพลางหัวเราะ
“กูว่ามันไม่กล้าหรอก มันเด็กเนิร์ดจะตาย” อีกคนเสริม
“หึ... เดี๋ยวก็รู้ ว่ามันกล้าจริงหรือเปล่า” กรณ์ตอบพร้อมยิ้มเย้ย
นทีหลับตาลงชั่วครู่ ความโกรธพุ่งขึ้นจนแทบระเบิดออกมา แต่เขากัดฟันแน่นแล้วบอกตัวเอง ยังไม่ใช่เวลา... ต้องรอจังหวะที่มันเจ็บที่สุด
เขากำลังจะถอยกลับ ทว่าเสียงบางอย่างทำให้เขาชะงัก—เสียง ชื่อของภาคิน ที่หลุดออกมาจากปากของกรณ์...
“ถ้าไอ้ภาคินมันไม่ดันทำตัวน่าสมเพช ก็คงไม่ตายหรอกจริงไหม ฮ่าๆๆ”
เสียงหัวเราะระเบิดออกมาพร้อมกัน
โลกของนทีพลันกลายเป็นสีเลือด ภาพเบื้องหน้าพร่าเลือนด้วยโทสะที่เอ่อล้นในอก มือของเขาสั่นจนแทบควบคุมไม่ได้
> “กรณ์... มึงต้องชดใช้ ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม”
--- จบ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!