NovelToon NovelToon

มั่วรักนักศึกษา

ตอนที่ 1 - ตอนที่3

ตอนที่ 1 :กลิ่นของวันแรก

อากาศเดือนมีนาคมในกรุงเทพฯ ไม่เคยใจดีกับใครเลยนับตั้งแต่ฉันจำความได้ มันร้อนอบอ้าวและเต็มไปด้วยละอองฝุ่นที่มองไม่เห็น แต่ปีนี้ความร้อนระอุนั้นกลับไม่ได้มาจากอุณหภูมิภายนอกเพียงอย่างเดียว มันมาจากในตัวฉันเองต่างหาก ความรู้สึกที่ร้อนผ่าวเหมือนมีเปลวไฟเล็กๆ กำลังลุกไหม้ในอก เหมือนน้ำเดือดที่พร้อมจะเอ่อล้นออกมาตลอดเวลา

ฉันนั่งอยู่บนระเบียงห้องพักรวมในหอพักเก่าๆ แสงแดดบ่ายคล้อยสาดส่องเข้ามาเป็นแนวทแยง เห็นฝุ่นละอองลอยฟุ้งเป็นประกายอยู่ในอากาศ เป็นภาพที่ดูสวยงามแต่กลับชวนให้รู้สึกอ้างว้างอย่างบอกไม่ถูก วันนี้คือวันแรกที่ฉันได้ใช้ชีวิตในหอพักนักศึกษา และมันก็รู้สึกเหมือนถูกโยนลงมากลางมหาสมุทรที่กว้างใหญ่เพียงลำพัง

เสียงเพลงจากลำโพงบลูทูธของ ‘นุ่น’ เพื่อนร่วมห้องคนใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาดังขึ้น คลอไปกับเสียงฝนพรำๆ ที่เริ่มเทลงมาเบาๆ นอกหน้าต่าง เพลงของวง Nirvana ทำให้ห้องที่เคยเงียบเหงาดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาเล็กน้อย นุ่นเป็นผู้หญิงผมสั้น ดัดผมหยิกๆ ตัวเล็กๆ แต่ดูมั่นใจเกินอายุ เธอแต่งตัวด้วยเสื้อยืดวงดนตรีเก่าๆ กับกางเกงยีนส์ขาดๆ เธอมีรอยสักรูปผีเสื้อเล็กๆ ที่ข้อเท้า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความอิสระที่ฉันไม่เคยกล้าจะมี

“เฮ้ยย แก!” นุ่นตะโกนมาจากเตียงของเธอ “ลงไปหาอะไรกินกันไหม? ฉันหิวจะแย่อยู่แล้ว”

ฉันพยักหน้าพลางยกมือขึ้นโบกบอกว่าโอเค ทั้งที่ในใจไม่ได้อยากไปไหนเลย อยากจะนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ปล่อยให้ความรู้สึกอันโหวงเหวงนี้กัดกินไปจนกว่าจะหลับไปเอง แต่นุ่นก็ไม่ปล่อยให้ฉันมีโอกาสได้คิดนาน เธอลุกขึ้นเดินมาเขย่าแขนฉันเบาๆ “อย่ามัวแต่นั่งซึมดิ! นี่มันวันแรกนะเว้ย! ต้องฉลอง!”

เราสองคนเดินลงไปที่โรงอาหารในมหา’ลัย ซึ่งคลาคล่ำไปด้วยนักศึกษาปีหนึ่งที่ดูตื่นเต้นกับชีวิตใหม่พอๆ กัน บางคนหัวเราะเสียงดัง บางคนเดินจับกลุ่มกันอย่างสนิทสนม มันเป็นภาพที่ทำให้ฉันรู้สึกแปลกแยกยิ่งกว่าเดิม ฉันไม่รู้จักใครเลยในที่นี่ นอกจากนุ่นที่เพิ่งเจอกันได้ไม่กี่ชั่วโมง

“โอ๊ย! ขอโทษครับ!”

ฉันชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ แก้วกาแฟในมือของเขาหกเลอะเสื้อของฉันจนเป็นด่างดวง ฉันเงยหน้าขึ้นมองเพื่อจะต่อว่า แต่คำพูดทั้งหมดกลับติดอยู่ที่ลำคอ ดวงตาคู่คมของเขาจ้องมองฉันด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เขาเป็นผู้ชายที่ดูเหมือนหลุดออกมาจากนิตยสารแฟชั่น ผมของเขายุ่งเหยิงเล็กน้อยเหมือนเพิ่งตื่นนอน และรอยยิ้มขอโทษบนใบหน้าทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงอย่างประหลาด

“โอ๊ย! เป็นอะไรไหมครับ ให้ผมรับผิดชอบนะ เดี๋ยวพาไปซื้อเสื้อใหม่” เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มน่าฟัง

“ไม่...ไม่เป็นไรค่ะ” ฉันตอบตะกุกตะกัก พยายามเสมองไปทางอื่นเพื่อซ่อนรอยแดงที่พุ่งขึ้นมาบนแก้มของตัวเอง

“ไม่เป็นไรได้ไง ดูสิเสื้อเลอะหมดแล้ว” เขาเอื้อมมือมาเช็ดรอยกาแฟบนเสื้อของฉันเบาๆ สัมผัสที่ปลายนิ้วของเขาทำให้ฉันรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อต ฉันรีบก้าวถอยหลังออกห่างอย่างรวดเร็ว

“ไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ” ฉันย้ำอีกครั้ง ก่อนจะรีบหันหลังเดินหนีไปหานุ่นที่กำลังยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ห่างๆ

“เฮ้ยยยแก! ใครวะ? หล่อลากไส้เลยอะ!” นุ่นถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“ไม่รู้สิ” ฉันตอบสั้นๆ “แค่ผู้ชายที่ทำกาแฟหกใส่ฉัน”

“ไม่ใช่แค่ผู้ชายที่ทำกาแฟหกใส่หรอกนะ” นุ่นพูดพลางหัวเราะ “ผู้ชายคนนั้นดูเหมือนกำลังอยากจะทำอะไรบางอย่างกับแกมากกว่า”

คำพูดของนุ่นทำให้ฉันหวนคิดถึงแววตาของเขาอีกครั้ง แววตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น แววตาที่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกค้นลึกลงไปในจิตใจโดยที่ไม่รู้ตัว และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ฉันได้รู้ว่านรกบนดินนั้น...บางทีก็เริ่มต้นจากความรู้สึกดีๆ ที่เราไม่รู้จักมาก่อนนี่แหละ

ตอนที่ 2: รอยสักของนักบิด

กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นยังคงติดจมูกฉันอยู่ตลอดทางเดินกลับหอพัก มันไม่ใช่กลิ่นกาแฟที่หกใส่เสื้อของฉัน แต่มันเป็นกลิ่นของเขา กลิ่นที่เจือด้วยความอบอุ่นและบางอย่างที่ฉันไม่สามารถระบุได้ และมันก็ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังติดอยู่ในภวังค์บางอย่างที่อันตราย

นุ่นเดินนำหน้าไปอย่างร่าเริง เธอยังคงพึมพำถึงความหล่อของผู้ชายคนนั้นไม่หยุดหย่อน ฉันทำได้เพียงแค่หัวเราะแห้งๆ และเดินตามไปอย่างเงียบๆ ในหัวของฉันมีแต่ภาพดวงตาคู่คมของเขาที่จ้องมองมา และสัมผัสจากปลายนิ้วที่แตะลงบนผิวของฉัน...

‘กริ๊งงงงงงงง’

เสียงข้อความจากโทรศัพท์มือถือทำให้ฉันสะดุ้งสุดตัว ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ชื่อของ ‘แม็ค’ ปรากฏอยู่บนหน้าจอ หัวใจฉันหล่นวูบลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม

‘กูมาถึงมหา’ลัยมึงแล้ว’ ข้อความสั้นๆ ที่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกบีบคั้น

แม็คเป็นแฟนเก่าของฉัน เราเลิกกันไปเมื่อสามเดือนก่อน แต่เขายังคงตามรังควานฉันอยู่เสมอ เขาเป็นคนขี้หึงและชอบควบคุม จนฉันรู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ การเลิกกันครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ฉันคิดว่ามันคือทางออกที่ดีที่สุดแล้ว

“ใครวะแก? หน้าเครียดเชียว” นุ่นหันมาถาม

“เปล่าหรอก... ไม่มีอะไร” ฉันตอบปัดๆ

ฉันเดินกลับมาที่ห้องอย่างรวดเร็วและทิ้งตัวลงบนเตียง ฉันรีบปิดโทรศัพท์และซ่อนมันไว้ใต้หมอนราวกับกลัวว่าแม็คจะโผล่มาตรงหน้าได้ทุกเมื่อ

“แกเป็นอะไรของแกเนี่ย?” นุ่นถามด้วยความแปลกใจ “ผีเข้าเหรอ?”

“เปล่าหรอก... แค่เหนื่อยๆ น่ะ” ฉันโกหก นุ่นพยักหน้าอย่างไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ ก่อนจะหันไปจัดการกับของของตัวเองต่อ ฉันนอนมองเพดานห้องที่เต็มไปด้วยคราบน้ำฝนที่เคยรั่วซึมอยู่เงียบๆ ในหัวมีแต่เรื่องของแม็ควนเวียนอยู่ไม่หยุดหย่อน

ความสัมพันธ์ของเราเริ่มต้นขึ้นในคืนหนึ่งที่บาร์ใกล้ๆ มหา’ลัย เราเจอกันในงานเลี้ยงต้อนรับน้องใหม่ของรุ่นพี่ที่เขาเรียนอยู่ เขาเข้ามาทักฉันด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร และบทสนทนาของเราก็ดำเนินต่อไปจนถึงเช้าวันรุ่งขึ้น

แม็คเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ เขารู้วิธีทำให้ผู้หญิงหลงใหลในตัวเขาได้อย่างง่ายดาย เขามีรอยสักรูปมังกรที่ต้นแขน และขี่มอเตอร์ไซค์คันใหญ่ๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ของความอันตรายและความอิสระที่ผู้หญิงหลายคนใฝ่ฝัน ฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น และก็หลงเข้าไปในกับดักที่เขาขุดเอาไว้อย่างเต็มตัว

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความสัมพันธ์ของเราก็เริ่มเปลี่ยนไป แม็คเริ่มขี้หึงมากขึ้น เขาจะคอยตรวจสอบโทรศัพท์ของฉัน และไม่พอใจเมื่อฉันคุยกับผู้ชายคนอื่น ถึงแม้จะเป็นเพื่อนก็ตาม เขาเริ่มก้าวร้าว และบางครั้งก็ลงมือลงไม้กับฉัน

ฉันไม่อยากเจอเขาแล้ว ฉันอยากจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่ ที่ที่ไม่มีแม็ค ที่ที่ฉันจะเป็นอิสระจากความอันตรายและความมืดหม่นที่เขานำมาให้ แต่ตอนนี้เขาก็ตามมาถึงที่นี่แล้ว...

เสียงมอเตอร์ไซค์ดังขึ้นมาจากหน้าหอพัก เสียงที่คุ้นเคยจนน่าขนลุก ฉันรีบวิ่งไปแอบดูที่หน้าต่าง และภาพที่เห็นก็ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนโลกกำลังจะพังทลายลงตรงหน้า

แม็คยืนอยู่หน้าหอพักจริงๆ เขาอยู่ในชุดเสื้อหนังสีดำ กางเกงยีนส์ขาดๆ และมีมอเตอร์ไซค์คันใหญ่จอดอยู่ข้างๆ เขายกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู ดวงตาคมกริบของเขากวาดสายตามองหาฉัน

ฉันรีบถอยกลับมาจากหน้าต่างราวกับถูกไฟลวก หัวใจเต้นรัวจนแทบจะทะลุออกมาจากอก ฉันไม่รู้จะทำยังไงดี จะหนีไปไหน? จะซ่อนตัวที่ไหน? ฉันรู้สึกเหมือนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่จนมุมอย่างถึงที่สุด

‘กูอยู่หน้าหอพักแล้ว ลงมา’ ข้อความจากแม็คดังขึ้นอีกครั้ง

ฉันกุมโทรศัพท์ในมือแน่นจนนิ้วซีดขาว ฉันรู้ดีว่าถ้าไม่ลงไปหาเขา เขาจะต้องขึ้นมาหาฉันแน่ๆ และฉันก็ไม่อยากให้เรื่องมันใหญ่โตไปมากกว่านี้

ฉันเดินไปหยิบกุญแจห้องและเปิดประตูออกไปอย่างช้าๆ แต่ก่อนที่ฉันจะก้าวขาออกไป นุ่นก็คว้าแขนฉันไว้ก่อน

“แกจะไปไหน?” เธอถามด้วยความสงสัย

ฉันเงยหน้าขึ้นมองหน้าเธอ นุ่นมองมาที่ฉันด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความกังวล

“ฉัน...ฉันต้องไปทำธุระหน่อย” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“ให้ฉันไปด้วยไหม?”

ฉันส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว “ไม่เป็นไร... เดี๋ยวฉันกลับมา”

ฉันเดินออกจากห้องและตรงไปยังลิฟต์ด้วยหัวใจที่เต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง ฉันไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่สิ่งเดียวที่ฉันรู้ก็คือ...ชีวิตที่วาดฝันไว้ในมหา’ลัยแห่งนี้...มันเพิ่งจะเริ่มต้น และก็กำลังจะจบลงแล้วหรือเปล่า?

ตอนที่ 3: บทสนทนาที่รอคอย

ฉันยืนอยู่หน้าลิฟต์ หัวใจเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง มือทั้งสองข้างที่กำกระเป๋าถือไว้แน่นจนสั่นไปหมด ฉันพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อระงับความกลัวที่กำลังกัดกินจิตใจ แต่กลิ่นอายของความอันตรายที่คุ้นเคยก็โชยขึ้นมาแตะจมูกอีกครั้ง

‘กริ๊ง!’ เสียงลิฟต์ดังขึ้นพร้อมกับประตูที่เปิดออก ฉันก้าวเข้าไปในนั้นอย่างเชื่องช้า ภาพของตัวเองในกระจกเงาที่ติดอยู่บนผนังสะท้อนกลับมา...ใบหน้าซีดเผือด ริมฝีปากที่สั่นเทา และดวงตาที่เต็มไปด้วยความกลัว มันไม่ใช่ตัวฉันเลย...ไม่ใช่คนที่กล้าหาญและพร้อมจะเผชิญหน้ากับอะไรก็ได้

“แกจะไปไหนวะ?”

เสียงของนุ่นดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้ฉันสะดุ้งสุดตัว เธอวิ่งตามมาทันก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดลง ใบหน้าของเธอดูเต็มไปด้วยความสงสัยและเป็นห่วง

“ฉัน…ฉันต้องไปข้างล่าง” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “มีคนรออยู่”

นุ่นมองฉันด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม เธอคงสังเกตเห็นแล้วว่าฉันไม่ปกติ แต่เธอก็ไม่ได้ซักถามอะไรต่อ เธอเพียงแค่พยักหน้าเบาๆ และยื่นมือมาบีบแขนฉันเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ

“โอเค...ถ้ามีอะไรให้ช่วย...โทรหาฉันได้เลยนะ” เธอพูดเบาๆ “ฉันจะรออยู่ที่ห้อง”

ฉันพยักหน้าขอบคุณและก้าวออกจากลิฟต์เมื่อมาถึงชั้นล่าง ขาของฉันรู้สึกหนักอึ้งราวกับกำลังเดินอยู่ในน้ำที่ข้นหนืดทุกย่างก้าวที่เดินออกจากลิฟต์ หัวใจของฉันก็ยิ่งเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ จนฉันรู้สึกว่ามันจะทะลุออกมาจากอกได้ในไม่ช้า และเมื่อฉันมองเห็นเงาร่างที่คุ้นตาของใครบางคนกำลังยืนพิงมอเตอร์ไซค์อยู่หน้าหอพักนั่นเอง ความกลัวทั้งหมดที่เคยพยายามซ่อนไว้ก็พุ่งเข้าโจมตีฉันอย่างจัง

เขาหันมามองฉัน ใบหน้าของเขาดูเย็นชาและไร้อารมณ์ ดวงตาที่เคยเต็มไปด้วยความรักในครั้งอดีตตอนนี้กลับมีเพียงความว่างเปล่าที่ฉันไม่อาจคาดเดาได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เขาคือ แม็ค อดีตแฟนของฉัน...คนที่เคยเป็นแสงสว่างในชีวิตของฉัน แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเงามืดที่ตามหลอกหลอนฉันไม่หยุด

“ทำไมถึงหนีไป?” เสียงของเขาดังขึ้นเมื่อฉันเดินเข้าไปใกล้ๆ น้ำเสียงของเขาเรียบเฉยแต่กลับทำให้ฉันรู้สึกหนาวสะท้านไปถึงกระดูก “ทำไมไม่บอกกูก่อนว่าจะย้ายมาเรียนที่นี่?”

ฉันไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่ก้มหน้าลงมองพื้นเพื่อหลีกเลี่ยงการสบตาของเขา ฉันกลัว...กลัวสายตาของเขา กลัวสิ่งที่เขาจะทำ และกลัวสิ่งที่เขาจะพูดออกมา

“มึงกลัวอะไร?” เขาเดินเข้ามาใกล้ฉันขึ้นอีกก้าว “กูไม่ได้จะทำร้ายมึง...กูแค่คิดถึงมึง...แล้วก็เป็นห่วง”

คำพูดของเขาฟังดูหวานหูเหมือนในวันแรกที่เราเจอกัน แต่น้ำเสียงที่เขาใช้มันกลับทำให้ฉันรู้สึกขนลุก เขาจะใช้คำพูดนี้เสมอเวลาที่เขาต้องการที่จะควบคุมฉัน

“ฉันไม่ได้กลัว” ฉันพยายามพูดให้น้ำเสียงของตัวเองฟังดูหนักแน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ “เราเลิกกันแล้ว...นายไม่จำเป็นต้องมายุ่งกับชีวิตฉันอีก”

“เลิก?” เขายิ้มเยาะ “ในความคิดของกู...เราไม่เคยเลิกกัน”

คำพูดของเขาทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกตอกย้ำถึงความพ่ายแพ้ ฉันรู้ดีว่าการจะหลุดพ้นจากเขาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ฉันอยากจะกรีดร้อง อยากจะวิ่งหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ร่างกายของฉันกลับแข็งทื่อราวกับถูกสาปให้ยืนอยู่ตรงนั้น...อย่างช่วยไม่ได้

และในตอนนั้นเอง...ก็มีเสียงอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นจากข้างหลังฉัน

“มีอะไรหรือเปล่าครับ?”

ฉันหันไปมอง และภาพที่เห็นก็ทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจอย่างที่สุด เขาคือ ผู้ชายในโรงอาหาร ที่ฉันเพิ่งเจอเมื่อวันก่อน เขาอยู่ในชุดนักศึกษาธรรมดาๆ กำลังยืนถือแก้วกาแฟร้อนๆ และมองมาที่ฉันกับแม็คด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย เขาดูเหมือนจะไม่รู้ว่าสถานการณ์ตรงหน้าคืออะไร

“ไม่มีอะไร” แม็คตอบด้วยน้ำเสียงห้วนๆ “เรื่องของผัวเมียเขาคุยกัน”

คำพูดของแม็คทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกน้ำร้อนสาดเข้าใส่หน้า แม้เราจะเคยคบกัน แต่ความสัมพันธ์ของเราไม่ได้ไปถึงขั้นนั้นเลย และฉันก็รู้สึกอับอายมากที่เขาพูดออกมาแบบนี้

“ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นใครนะครับ” ผู้ชายในโรงอาหารพูดขึ้นอีกครั้ง “แต่ถ้าเธอดูเหมือนไม่อยากคุยกับคุณ...คุณก็ควรจะให้พื้นที่เธอหน่อย”

คำพูดของเขาทำให้แม็คหันมามองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ เขาดูเหมือนจะพร้อมที่จะพุ่งเข้าไปชกหน้าผู้ชายในโรงอาหารได้ทุกเมื่อ แต่ก่อนที่เขาจะทำอะไร...ผู้ชายในโรงอาหารก็ก้าวเข้ามาใกล้ฉันอีกนิด และเอื้อมมือมาจับแขนฉันเบาๆ เพื่อบอกเป็นนัยว่าเขาจะอยู่ตรงนี้...เพื่อปกป้องฉัน

สัมผัสจากปลายนิ้วของเขาทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยอย่างประหลาด มันไม่ใช่สัมผัสที่เร่าร้อนหรือเต็มไปด้วยความปรารถนา แต่มันคือสัมผัสที่อบอุ่นและให้ความรู้สึกเหมือนกำลังได้รับการช่วยเหลือจากใครสักคนในวันที่ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะจมลงไปในความมืดมิด

แม็คเห็นท่าทีนั้นก็กำมือแน่นด้วยความโกรธ ฉันรู้ว่าเขากำลังหึงหวง และฉันก็รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!