NovelToon NovelToon

นางร้ายผู้นี้ไม่ต้องการท่าน

บทที่1 แสนตำลึง!!

เฮ้อ

หมิงเยว่ถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า

สวรรค์คงต้องการกลั่นแกล้งนางแน่ ชาติที่แล้วเป็นแพทย์ยุคปัจจุบันทุ่มเททำงานจนเหนื่อยตาย ชาตินี้ควรจะสบายไม่ใช่เหรอ!

นี่อะไรก๊านน! ชาตินี้...มาอยู่ในร่างนางร้ายที่เอาแต่ตามผู้ชายสุดท้ายต้องถูกพิษจนตาย

เสียงฝีเท้าดังมา

"คุณห..ฮูหยิน นี่ก็วันที่สามหลังพิธีสมรสแล้วนะเจ้าคะ ท่านลุกบ้างเถอะนะเจ้าคะ"

สาวใช้ตัวน้อยใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง

"นายท่านนี่ก็จริงๆฮูหยินรักนายท่านมาตลอดแท้ๆถึงวันเข้าห้องหอก็ไปนอนที่ห้องหนังสือ ฮูหยินเจ้าคะ บ่าวได้ยินมาว่าคุณหนูรองหลี่รีบมาหานายท่านถึงที่ตั้งแต่เช้า อ้างว่าอดีตราชครูนำของมาฝาก ฮึ!ดูก็รู้ว่ามาเพราะเหตุใด!"

เสียงโมโหระคนเจ็บใจทำให้หมิงเยว่หลุดออกจากความคิดทันที

"ช่างเค้าเถอะ" หมิวเยว่เอ่ยพร้อมกับถอนหายใจ

นางไม่ใช่เจ้าของร่างเดิมจึงไม่รู้สึกอะไรกับสามีที่ว่า

"โถ่! คุณหนูท่านพยายามอย่างมากกว่าจะได้ตัวคุณชายนะเจ้าคะ จะยอมเสียไปง่ายๆอย่างนี้หรือ เมื่อก่อนท่านทั้งไล่ตาม ทั้งแอบดูคุณชาย ทั้งคอยเอาใจตลอด ท่านรักมากแค่ไหน ทุ่มเทแค่ไหน ช่างไม่ยุติธรรมกับท่านเลย "

สาวใช้ตัวน้อยตรงหน้าเริ่มร้อนใจจริงๆแล้ว กลัวว่าเจ้านายจะเสียเปรียบหลังแต่งเข้าได้เพียงสามวันเท่านั้น

'ไล่ตามผู้ชายแอบดูด้วย! เอ่อไม่ได้ด่าใช่มั้ย' นางคิดในใจ

"คุณหนู!!! ท่านเหม่ออีกแล้วนะเจ้าคะ" สาวใช้ตัวน้อยกระทืบเท้าเบาๆพร้อมกับตะโกนเรียกนายสาว

"แค่กๆ เอาล่ะเข้าใจแล้ว"

"ฉัน..ข้าอยากไปเดินเล่นสักสักหน่อย"พูดพลางลุกขึ้นมา

"เจ้าค่ะ ฮูหยินวันนี้สวมอาภรณ์เหมือนทุกทีดีหรือไม่เจ้าคะ" สาวใช้ตัวน้อยหยิบอาภรณ์สีแดงดอกเหมยขึ้นมา

หมิงเยว่ทีแรกไม่สนใจว่าจะใส่อะไร ชาติก่อนนางทำแต่งานถึงจะรักสวยรักงาม แต่ก็ไม่มีเวลามานั่งแต่งตัว ในตู้จึงมีแต่ขาวกับดำ

พอเห็นสีของอาภรณ์ตัวนั้นนางเริ่มนึกสงสัยแล้วว่า นางร้ายต้องใส่แต่สีแดงรึไงกัน แหมสีแดงแสบตาเชียวนะ

'เอาเถอะชีวิตชาตินี้นี่ล่ะ ฉันจะใช้ให้มีสีสันกว่าชาติก่อนแน่ฮ่าๆๆ'

"ใช่ ไหนขอลองดูหน่อย"

เป็นอาภรณ์ผ้าแพรที่นุ่มมากมีสีแดงชาดลายดอกเหมยปักอยู่ตรงกลางอกงามเลยทีเดียวถ้าไม่ติดว่าเครื่องประดับเยอะเกินไปละนะ

"ช่วยนำเครื่องประดับที่มีมาหน่อยสิ"นางจะเลือกเองน่าสนุกจริงๆยุคโบราณเนี่ย

สาวใช้ตัวน้อยขานรับพลางหยิบกล่องเครื่องประดับในหีบ"คุณห..ฮูหยินนี่เจ้าค่ะ เอ๊ะ ต่างหูไข่มุกชาดบุปผาหายไปไหนกันนะ"

สาวใช้ตัวน้อยหาอย่างไรก็หาไม่เจอ

"หรือว่า แย่แล้ว!คุณหนูมีคนขโมยต่างหูไข่มุกชาดบุปผาไปแล้ว" สาวใช้ตัวน้อยตกใจใหญ่ร้องไห้ฟูมฟาย เพราะนึกขึ้นได้ว่าเหมือนจะมีเงาคนอยู่ห้องช่วงกลางวันแต่นางคิดว่าคงไม่มีอะไรเพราะ คุณหนูก็นอนอยู่ข้างใน ลองนึกดูดีๆร่างนั้นดูอวบเกินคุณหนูของตนอยู่บ้างจริงๆทั้งคล้ายว่าจะสวมชุดคล้ายบ่าวรับใช้

"เอาล่ะๆ ไม่ต้องร้องแล้วช่างมันเถอะแค่ต่างหูคู่เดียว" นางไม่คิดมากอยู่แล้วต่างหูคู่นึงจะสักเท่าไรกันเชียว

"คุณหนู แต่ว่านั่นน่ะเป็นของที่นายท่านใหญ่ท่านปู่ของคุณหนูให้เป็นของขวัญวันครบรอบวันเกิดสิปแปดของคุณหนู ได้ประมูลไข่มุกสีชาดมาหนึ่งแสนตำลึง ท่านยังนำไปให้ปรมจารย์ชื่อดังช่วยทำเครื่องประดับที่มีชิ้นเดียวในโลก นามว่า ไข่มุกชาดบุปผา ซึ่งมีอัญมณีลายบุปผาหายากอยู่ด้วย ท่านตั้งใจให้หลานสาวคนเดียวนั่นก็คือคุณหนูพร้อมกับกำชับว่าอย่าทำหายให้รักษาดีๆนะเจ้าคะ"

"เป็นเพราะบ่าวไม่ดีเอง ฮืออ"

"ว่าไงนะ!!!" หมิงเยว่ลืมตาตื่นขึ้นมาทันทีแสนตำลึงเท่าไรนั่นต้องมากแหงๆ ว่าแต่อะไรบุปผาๆนะ

"คุณ..ฮูหยินก็ตกใจใช่มั้ยเจ้าคะ ไม่ต้องเศร้าไปนะเจ้าคะ ต่อให้ตายบ่าวก็จะหามาคืนฮูหยินให้ได้ เพราะนั่นน่ะนายท่านใหญ่ตั้งใจซื้อให้ฮูหยินเป็นของขวัญวันเกิดครบรอบสิปแปดปี"

"ใช่ ต่อให้ต้องตายข้าจะเอาคืนมาให้ได้"หมิงกำหมัด ตาลุกเป็นไฟ

'เงินตั้งแสนตำลึงเชียวนะ ต่อให้ตายก็ต้องเอาคืนมาให้ได้'

"ก่อนอื่นนะ คือว่า อ้อใช่ ความจำเสื่อมน่ะ ข้าความจำเสื่อมเจ้าชื่ออะไรนะ"

"ลี่จูเจ้าค่ะ"

ลี่จูพึ่งตระหนักได้"...อ๊าา!!"

"ว่ายังไงนะเจ้าคะ!! เดี๋ยวนะคุณหนูเอ้ยฮูหยินความจำเสื่อมเอ๊ะแต่ฮูหยินก็ดูพูดแปลกๆตั้งแต่ฟื้นมาแล้วนี่นา!" ลี่จูสับสนพลางพึมพำ

'เอ่อ ความรู้สึกช้าเกินไปแล้ว - -' หมิงเยว่บ่นในใจ

หมิวเยว่ทำเสียงเศร้าสร้อยพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำตาที่ไม่มีอยู่จริง พลางชูมือเหม่อมองออกไปไกลแสนไกล

"ใช่แล้วล่ะ สิ่งนั้นไงล่ะที่เค้าเรียกว่า ไข้ใจ เพราะรักที่ไม่อาจสมหวัง ข้ารักท่าน แต่ท่านกลับหมางเมินข้า~ ข้าจึงทุกข์ตรอมตรม~ "

"แค่กๆ..เพราะแบบนี้ข้าจึงความจำเสื่อมน่ะ"

ลี่จูพยักหน้าเข้าใจในทันทีใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาไหลพรากอีกครั้ง"เป็นเช่นนี้ท่านจึงความจำเสื่อมหรือเจ้าคะ ฮือออคุณหนูของบ่าวช่างอาภัพ"

'เชื่อด้วยเหรอ!' หมิงเยว่สีหน้าตกใจ สาวใช้ตัวน้อยที่เพิ่งพบกันหลอกง่ายจริงๆ

'เอาเถอะแบบนี้ก็ง่ายหน่อยเพื่อเงินเอ๊ยเพื่อต่างหูสำคัญของคุณปู่ร่างนี้มอบให้ที่หายไป'

ในฤดูเหมันต์แม้อากาศจะหนาวเย็น แต่เพราะดวงอาทิตย์ทำให้ผู้คนรู้สึกอบอุ่นและมีความหวัง

ในเรือนชั้นในนั้น..

"นี่ลี่จูเก็บของเสร็จแล้วหรือยัง เร็วเข้า" หมิงเยว่วุ่นกับการเก็บลงหีบน้อยใหญ่ที่เรียงราย ข้างๆนั้นวางกระเป๋าผ้าที่เพิ่งเย็บเสร็จอย่างดี

ลี่จูเหนื่อยจนปาดเหงื่อพร้อมกับเก็บของไปด้วยพลางถามว่า"คุณหนูจะเก็บของทำไมหรือเจ้าคะไหนจะของตั้งมากมานขนาดนี้ ทั้งอาภรณ์สามสี่ผืนพวกนั้นอีกที่ใส่ในห่อผ้า ฮูหยินตั้งใจจะทำอะไรหรือเจ้าคะ"

หมิงเยว่ตอบ"จะออกไปท่องยุทธภพน่ะสิ อ้อ แล้วก็ไม่ต้องเรียกฮูหยินละนะเรียกว่าหมิงเยว่ก็พอ"

ลี่จูส่ายหัวอย่างแรง"ไม่ได้ๆนะเจ้าคะบ่าวไม่ควรทำตัวเสมอนาย"

หมิงเยว่เก็บของพร้อมกล่าว"งั้นแค่คุณหนูก็พอฮูหยินไรเนี่ยเรียกแค่คนนอกนั่นพอเดี๋ยวออกไปท่องยุทธภพแล้วก็ไม่ต้องเรียกฮูหยินแล้ว"

ลี่จูพยักหน้าเข้าใจ"บ่าวเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ"

"ปะออกไปเดินเล่นกัน ก่อนอื่นต้องไปดูก่อนว่าจะออกไปยังไง "

'แล้วก็..อืมสามีในนามของร่างนี้สินะ'

โปรดติดตามตอนต่อไป

บทที่2 ตบมือให้การแสดงนี้เลย

นอกเมืองฟูหลิง แคว้นต้าเหอ

-ฟุบ!-

ร่างร่างหนึ่ง หายไปท่ามกลางความมืดในดินแดนทะเลทราย

ฟู่...

เสียงลมแห้งผากพัดผ่านผืนทราย แผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบจากอดีตกาล เสียงลมพัดครืนครั่น กลืนกลบทุกเสียงชีวิตรอบกาย เหลือเพียงความเวิ้งว้างที่หูสัมผัส กลับมีเงาสองคน กับศพไร้ซึ่งลมหายใจ จู่ๆศพนั้นก็สลายไปด้วยพลังของชายชุดดำคล้ายกับว่าลมทะเลทรายพัดให้ร่างนั้นกลายเป็นทุลีไปกับผืนทรายอย่างไรอย่างนั้น

"นายท่านนี่เป็นนับครั้งที่แปดแล้วที่เจ้าพวกนั้นส่งมา" เสียงลึกลับของชายผู้หนึ่งดังขึ้น

"...อืม"

"นายท่านขอรับหรือเจ้าพวกนั้นจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของท่านเข้าแล้ว"

"ไม่มีทาง ข้าไม่เคยให้เจ้าพวกนั้นได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงมาก่อน พวกที่ตามล่าข้าตอนนี้คงต้องการของชนิดเดียวกับที่เราตามหามานาน " เสียงนี้มาจากชายชุดดำที่ทั่วร่างแผ่กลิ่นอายเย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็งรัตติกาล อายความมืดสีดำปกคลุมล้อมรอบน่ากลัวยิ่งกว่าธาตุหยินในหลุมศพเสียอีก

"กลับ"

"ขอรับ"

ณ เรือนรับรองจิ่งเฟิ่ง จวนราชครู

ร่างงามร่างหนึ่งของหญิงสาวนั่งอยู่ใต้ชายคาเรือนรับรอง เธอสวมอาภรณ์สีขาวบางเบา ละม้ายคล้ายดอกบัวขาวกลางสระน้ำยามสายลมพัดแผ่ว ใบหน้าเรียบนิ่ง ทว่าดวงตาคู่นั้นกลับซ่อนแววรอคอยอันแน่วแน่

นิ้วเรียวยาวขาวผ่องปลายเล็บมันวาวสีอมชมพูระเรื่อยกถ้วยชาขึ้นแนบริมฝีปากที่เล็กเป็นกระจับอย่างแผ่วเบา ไอชาร้อนลอยขึ้นพลางแทรกกลิ่นดอกไม้จางๆ กลิ่มหอมระคนกับกลิ่นเย็นของยามเช้า ช่วยขับราวกับว่าเธอไม่ใช่หญิงสาวธรรมดา

"ท่านพี่เฉินยังไม่มาอีกหรือ?" นางช้อนสายตาขึ้นเล็กน้อย มองไปยังบ่าวรับใช้ผู้เงียบขรึมที่ยืนนิ่งอยู่ตรงมุมเรือนรับรอง ดวงตาเปล่งประกายแห่งความรอคอย

"ยัง..." เสียงนั้นแผ่วเบา แต่หนักแน่นดั่งลมหนาวพัดผ่าน

นางซ่อนความไม่พอใจลึก ๆ ไว้ในดวงตา ทว่ากลับต้องกลั้นไว้ ไม่ให้เผยออกมาให้ใครเห็น ถึงจะถูกบ่าวรับใช้ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาราวกับหมางเมิน นางก็ยังคงรักษาท่าทีเรียบร้อยอย่างประณีต ระหว่างที่คิดจะจัดการกับบ่าวรับใช้ที่หมางเมินเมื่อท่านพี่เฉินกลับมาอย่างไรดีนั้น...

"ว้าวว..โบราณน่าดูเลยนะเนี่ย!" เสียงหญิงสาวที่สดใสร่าเริงดังแว่วเข้ามาในโสตประสาท ราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิ แทรกผ่านม่านความเงียบของเรือนรับรองที่สงบนิ่ง ดึงสติของนางให้หลุดออกจากห้วงความคิดในบัดดล

นางกระพริบตาช้าๆ หันไปมองทางต้นเสียง ดวงหน้าเรียบนิ่งไม่แปรเปลี่ยน ทว่าความสงสัยกลับพลันแล่นวูบผ่านดวงตา

เสียงสดใสดังแว่วมาไม่ทันจางหาย หญิงสาวผู้หนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นตรงทางเดินด้านข้าง

อาภรณ์สีแดงฉานพริ้วไหวในยามที่นางก้าวเดิน ขับให้ดวงหน้างามให้ดูงามขึ้นไปอีก ริมฝีปากประดับรอยยิ้มดุจมิเคยรู้จักคำว่าเศร้า

เมื่อได้เห็นชัดเต็มตา..นางจึงรู้ทันทีว่าเป็นใคร

สตรีผู้นั้น คือคนที่แต่งกับชายในดวงใจของนาง

หัวใจในอกคล้ายสะดุดเพียงครู่เดียว แต่ใบหน้ายังเรียบนิ่ง ไร้คลื่นอารมณ์

แม้จะเก็บงำไว้ได้แนบเนียน แต่ในดวงตาที่ฉายแววอ่อนโยน ก็ซ่อนเงาเย็นเยียบเอาไว้จางๆ

เพียงแค่เห็นอีกฝ่ายสวมอาภรณ์แดงฉาน ดั่งเจ้าสาวในวันมงคล นางก็ไม่อาจห้ามใจไม่ให้หวนคิดถึงบางสิ่ง

"ฮูหยินรอบ่าวด้วยเจ้าค่ะ" เสียงบ่าวรับใช้ดังแว่วตามมา

"นี่..พวกเจ้าน่ะเห็นหานอี้เฉินบ้างหรือเปล่า?" หมิงเยว่เอ่ยถามบ่าวรับใช้ที่ก้มหน้าก้มตาเช็ดถูอยู่แถบเรือนรับรอง น้ำเสียงฟังดูเป็นกันเอง

"บ่าวไม่ทราบเจ้าค่ะ คิดว่าใกล้จะมาถึงแล้ว คุณหนูหลี่รออยู่ก่อนหน้านี้พักหนึ่งแล้วเจ้าค่ะ"

"คุณหนูหลี่ๆ.." หมิงเยว่เอ่ยทบทวนซ้ำๆ

'เอ..ชื่อนี้มันคุ้นๆนา เหมือนเคยได้ยินที่ไหนหว่า...'

ลี่จูเขยิบเข้าไปใกล้ข้างหูหมิงเยว่กล่าวว่า"คุณหนูเจ้าคะเรื่องก็ลืมหรือเจ้าคะ คุณหนูหลี่จวนราชครูเก่าไงเจ้าคะ"

"จวนราชครูเก่า.." จวนใครล่ะนั่น

"คุณหนูที่เคยชอบนายท่าน... เอ่อท่านหานอี้เฉินเหมือนกันยังไงเล่าเจ้าคะ... หรือคุณหนูก็ลืมเรื่องนี้ไปเสียแล้ว?"

เงาร่างหญิงสาวในอาภรณ์ขาว พริ้วไหวยามก้าว ราวกับดอกบัวขาวที่ผลิบานกลางสายลม อ่อนโยน สง่างาม ดูเปราะบางดั่งแตะต้องเพียงเล็กน้อยก็จะสลายไปอย่างไรอย่างนั้น นางสาวเท้าเข้ามาหาหมิงเยว่อย่างแผ่วเบา

"คุณหนูหลิวหมิงเยว่ ขออภัยตอนนี้ต้องเรียกฮูหยินหลิวสินะเจ้าคะ ขออภัยด้วยเป็นข้าเองที่ยังไม่ชิน"

"ในวันมงคลของท่านพี่เฉิน ข้าล้มป่วยลงพอดีจึงไม่มีโอกาสแสดงความยินดี... ถือโอกาสนี้ให้ข้าได้ยกชาถ้วยนี้ แทนคำไถ่โทษ หากท่านไม่รังเกียจ โปรดรับคำขอโทษจากข้าด้วยเถิด"

ว่าพลางนางสาวเท้าเข้าไปใกล้ ยื่นถ้วยชาให้อย่างงดงาม

ทุกท่วงท่าถูกจัดให้สง่างาม ราวกับภาพวาด... หากแต่ในแววตาแฝงความคิดบางอย่างเอาไว้ลึกๆ

หมิงเยว่มองถ้วยชาแวบหนึ่ง ก่อนจะยกมือขึ้นรับ

แต่ยังไม่ทันได้แตะ...

"อ๊ะ!"

เสียงเบาๆดังขึ้น

คุณหนูหลี่เบี่ยงข้อมือเบาๆให้ดูเหมือนหมิงเยว่ชนถ้วยชา

ซ่า--!

ชาร้อนสาดลงบนข้อมือของนางเอง ก่อนถ้วยจะตกลงพื้น

เพล้ง! เสียงถ้วยแตกกระทบกับพื้น

"อ๊ะ..เจ็บจังเลย"

นางเงยหน้าขึ้นช้าๆ

ดวงตาแดงระเรื่อ น้ำตาคลอเต็มขอบตา ใกล้จะหลั่งรินได้ทุกเมื่อ

"ฮูหยินหลิว... ข้ารู้ว่าท่านไม่ชอบข้า..."

"แต่...แต่ถึงอย่างไร ท่านก็ไม่จำเป็นต้องทำถึงเพียงนี้"

"คุณหนู!!!" เสียงแสบแก้วหูดังแว่วมาแต่ไกล ก่อนจะตามมาด้วยฝีเท้าวิ่งหืดกระหอบ

บ่าวรับใช้หญิงในชุดสีเข้มวิ่งพรวดเข้ามาอย่างไม่รู้มาจากทิศใด หากแต่ดูจากสีหน้าท่าทางแล้ว คงต้องเป็นคนของคุณหนูหลี่แน่นอน

นางกวาดตามองสภาพตรงหน้า แล้วตะโกนดังลั่นอย่างกะกลัวว่าใครจะไม่ได้ยินอย่างนั้น

"บ่าวเพียงไปทำธุระเพียงครู่เดียวเท่านั้น...แล้ว...แล้วเกิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างกัน" บ่าวหญิงชายตามองมาที่หมิงเยว่

"ฮูหยินหลิว!! ท่าน!!ต่อให้ท่านจะเกลียดคุณหนูของบ่าวเพียงใด ก็ไม่ควรทำร้ายกันกันถึงเพียงนี้นะเจ้าคะ!"

"หาาา!!!"หมิงเยว่ตกใจ เบิกตากว้างเล็กน้อย

'หาา!!!ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะเห้ย สาวน้อยหน้ามนนี่ปล่อยมือเองต่างหาก จิ๊ '

"ข้าไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ยังไม่ทันแตะถ้วยชาคุณหนูหลี่ก็ปล่อยมือเสียก่อนแล้ว" หมิงเยว่เอ่ยเสียงนิ่ง พยายามอธิบาย ทว่าก็อดขมวดคิ้วน้อยๆไม่ได้

สายตาทุกคู่ในเรือนรับรองจับจ้องมาที่นาง -- มีทั้งความสงสัย ความไม่แน่ใจ

'เอ...ไอ่ฉากเมื่อกี้มันทะแม่งๆ แหะสาวน้อยหน้ามนนี่ยังไง '

นางเหลือบตามองคุณหนูที่ตอนนี้ยังคงก้มหน้า กุมข้อ น้ำตาปริ่มขอบตา แววตาเจ็บปวดปนตัดพ้อราวกับเหยื่อผู้ถูกกระทำ

'อืมม..พอลองทบทวนฉากเมื่อกี้อีกที..'

หมิงเยว่ถอนหายใจในใจ

'ฉันยอมแพ้เลย การแสดงระดับตุ๊กตาทองแบบนี้น่าเสียความสามารถจริงๆที่ไม่ได้เป็นนักแสดง แต่ลงทุนไปป๊าวอ่า หูยร้อนน่าดู'

"เกิดอะไรขึ้น" เสียงทุ้มลึกแผ่วเบา  อบอุ่นดั่งสายลมยามเช้า แต่แฝงกลิ่นอายเยือกเย็นบางเบาไว้ในที

โปรดติดตามตอนต่อไป

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!