ท้องนภายามอรุณส่องประกายด้วยเก้าสุริยันที่แขวนเรียงรายอยู่เหนือสวรรค์ ทั้งเก้าดวงทอแสงทองสาดส่องไปทั่วแดนมนุษย์และแดนเทพ ราวกับจะหลอมรวมโลกทั้งปวงให้อาบไล้ด้วยความรุ่งโรจน์นิรันดร์
ทว่า…ไม่มีผู้ใดรู้เลยว่า แสงที่เจิดจ้านั้น กำลังแฝงเงามืดอันน่าสะพรึงอยู่ภายใน...
กลางหอสุริยันสูงเสียดเมฆ ร่างหนึ่งยืนอยู่บนระเบียงทองคำ นางงามสง่าในชุดแพรเปลวเพลิงอันพลิ้วไหวดุจเปลวสุริยัน รัศมีรอบกายสว่างไสวเหมือนดาวนับพันรวมตัวกัน
นางคือ หลินซีเยว่ เทพีแห่งแสงอรุณ
ธิดาสุริยันดวงที่เก้า ผู้ถูกกำหนดให้เป็น “เสาหลักแห่งสวรรค์”
ทุกการก้าวเดินของนาง ช่างสูงศักดิ์และงดงาม…แต่หัวใจกลับเต็มไปด้วยพันธนาการที่ไม่มีใครล่วงรู้
“เก้าสุริยัน…เริ่มไม่มั่นคงแล้ว”
เสียงของนางแผ่วเบา หากเต็มไปด้วยกังวล เมื่อเงามืดคืบคลานกลืนกินแสงของสุริยันดวงหนึ่งช้า ๆ ราวกับมีสิ่งลี้ลับกำลังพรากดวงตะวันไปจากฟากฟ้า
ทันใดนั้น ลมเย็นปริศนาก็พัดวูบ ราวกับความมืดแห่งจันทราซ่อนตัวอยู่ในอากาศ
เสียงหนึ่งแผ่วต่ำ แฝงความอบอุ่นที่นางคุ้นเคยดีดังขึ้น
> “เยว่เอ๋อร์…เจ้ายังคงเฝ้ามองสวรรค์เช่นเดิม”
ร่างสูงในชุดสีดำดุจราตรีปรากฏขึ้นจากเงามืด
นัยน์ตาลึกเร้นราวกับเก็บงำดวงจันทร์ทั้งสิบห้าไว้ภายใน
เขาคือ เยี่ยนหลัว องครักษ์เงาจันทรา ผู้ที่สวรรค์ตราหน้าว่าเป็นศัตรู…แต่กลับเป็นบุรุษผู้เดียวที่นางเคยโอบกอดไว้ด้วยหัวใจ
แสงทองกับเงามืดประสานกันกลางระเบียง ราวกับโลกทั้งปวงหยุดหายใจเพื่อรอคำตอบ
“เยี่ยนหลัว…เจ้าไม่ควรอยู่ที่นี่”
หลินซีเยว่เอ่ยด้วยนํ้าเสียงสั่น แต่ดวงตาไม่อาจละไปจากเขาได้
เขายิ้มเพียงเล็กน้อย ก่อนก้าวเข้าใกล้
“สวรรค์อาจห้ามข้า…แต่หัวใจของข้า ไม่เคยหยุดเรียกหาชื่อเจ้า”
เมื่อนั้นเอง เก้าสุริยันบนฟากฟ้าเหมือนสั่นสะเทือน เปลวเพลิงและเงามืดพันเกี่ยวกัน ราวกับโชคชะตาได้ผูกมัดทั้งสองเข้าด้วยกันอีกครั้ง—
และนี่…คือจุดเริ่มต้นของ ประกายรักเหนือเก้าสวรรค์
ความรักที่อาจกอบกู้สวรรค์ทั้งมวล หรือทำลายมันลงสู่ห้วงมืดชั่วกาลนาน…
เสียงสายลมเย็นพัดพริ้วคลอเคลียเปลวเพลิงที่ล้อมร่างหลินซีเยว่ไว้ ดั่งพยายามกลบแสงทองให้จางหาย ทว่าไม่ว่าจะอย่างไร รัศมีของนางก็ยังคงเจิดจ้า—เจิดจ้าจนแม้แต่เงามืดของจันทราก็สั่นไหว
เยี่ยนหลัวก้าวออกมาจากความมืดทีละก้าว สายตาคมคู่นั้นจับจ้องนางโดยไม่แม้แต่จะกะพริบ ดวงตาที่ควรจะเย็นชา กลับอ่อนโยนเมื่อได้สบตากับเทพีแห่งแสงอรุณ
“หลินซีเยว่…เจ้ารู้หรือไม่ ว่าสวรรค์กำลังจะล่มสลาย”
เสียงของเขาหนักแน่น หากแต่แฝงความห่วงใยอย่างที่นางจดจำได้ไม่เคยลืม
“ข้ารู้” นางตอบเบา ๆ “แต่ข้า…ไม่อาจเชื่อคำพูดของผู้ที่ถูกตราหน้าว่าเป็นศัตรูของสวรรค์”
คำพูดนั้นช่างโหดร้าย หากแต่ดวงตาของนางกลับสั่นคลอน นางกำมือแน่นเพื่อตรึงหัวใจที่กำลังเต้นแรงเพราะการได้พบเขาอีกครั้ง
เยี่ยนหลัวยิ้มบาง ๆ ก่อนเอ่ยต่อ
“ตราบใดที่ข้ายังหายใจอยู่…เจ้าก็ไม่มีวันเชื่อข้าเลยหรือ?"
หลินซีเยว่นิ่งไปครู่หนึ่ง…แววตานั้นราวกับย้อนนึกถึงกาลก่อนที่ทั้งสองเคยยืนเคียงข้างกัน—ก่อนที่สวรรค์จะพิพากษาให้เขากลายเป็น “เงาที่ต้องถูกลบ”
แต่ยังไม่ทันที่นางจะตอบ แผ่นฟ้าก็สั่นสะเทือน!
เสียงคำรามของสุริยันดวงที่ห้าดังขึ้น เปลวไฟอันร้อนแรงปะทุจากขอบฟ้า ก่อนที่แสงของมันจะถูกเงามืดมหาศาลกลืนกินไปทีละน้อย
หลินซีเยว่สะดุ้ง ใบหน้าซีดเผือด
“ไม่จริง…สุริยันกำลังดับอีกดวง!”
เงามืดนั้นแผ่ซ่านลงมาจนถึงวังสุริยัน เปลวเพลิงที่ควรส่องสว่างกลับกลายเป็นควันดำราวกับฝันร้าย
เยี่ยนหลัวเอื้อมมือคว้ามือของนางไว้ทันที
“เจ้าจะไม่มีวันหยุดหายนะนี้ได้ หากยังคงยึดมั่นในคำสั่งสวรรค์…จงมองให้ลึกเข้าไปเถิดเยว่เอ๋อร์ ที่แท้แล้ว ใครกันแน่ที่เป็นศัตรูตัวจริง!”
สัมผัสจากมือเขาร้อนผ่าวแต่กลับอบอุ่น นางสั่นสะท้าน ไม่รู้ว่าสิ่งที่น่ากลัวกว่าคือ ความมืดที่กลืนกินสุริยัน…หรือหัวใจของนางที่กำลังสั่นไหวไปกับเขาอีกครั้ง
“ ข้า...มิรู้..ท่านคือศัตรู!.. ข้าไม่มีทางเชื่อท่านแน่นอน..”
เปลวเพลิงสุริยันแผดเผาท้องฟ้าอย่างเกรี้ยวกราด เงามืดจากสุริยันดวงที่ห้ากำลังปกคลุมแผ่นดินราวกับมหาสมุทรแห่งความมืด หลินซีเยว่ก้าวออกไปด้านหน้า รัศมีทองรอบกายส่องแสงพลิ้วไหวเหมือนปีกหงส์ไฟ เธอยกมือขึ้นเรียกพลังสุริยันประทับลงบนฝ่ามือ—
“เพลิงสุริยัน จงขับไล่เงามืด!”
แสงสว่างพุ่งขึ้นกลางนภา ทว่ากลับถูกแรงเงามืดมหาศาลต้านไว้ เสียงคำรามกึกก้องสะท้อนทั่วสวรรค์
ในขณะที่เปลวไฟกับเงามืดกระแทกกันอย่างดุเดือด…สายตาของหลินซีเยว่ก็พลันพร่าลาย ภาพในใจย้อนกลับไปยังอดีต—
ริมทะเลสาบจันทราสีเงินในคืนสงบสุข
หญิงสาวในชุดทองคำกำลังนั่งอยู่ข้างบุรุษผู้หนึ่ง ร่างเขาสูงสง่า นัยน์ตาคล้ายราตรีลึก แต่เมื่อมองนางกลับเต็มไปด้วยแสงอ่อนโยน
“เยี่ยนหลัว…เพราะเหตุใดเจ้าถึงมักมองจันทร์ดวงนั้นเสมอ” หลินซีเยว่ถามพลางเอียงหน้า แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย
เขายิ้มเล็กน้อย ก่อนยกมือขึ้นโอบไหล่นาง
“เพราะเมื่อจันทร์ส่อง ข้าย่อมได้เห็นเงาของดวงอาทิตย์…ที่แท้จริงแล้ว เจ้าก็คือแสงเดียวที่ข้าอยากจะมอง”
หัวใจของหลินซีเยว่เต้นแรง นางพยายามห้ามใบหน้าที่เริ่มร้อนผ่าว แต่ก็หลบสายตาเขาไม่พ้น
“เจ้ารู้หรือไม่ หากสวรรค์รู้ว่าเราพบกัน…ข้าจะต้องถูกลงโทษ”
เยี่ยนหลัวหัวเราะเบา ๆ
“ถ้าอย่างนั้น ข้าจะเป็นเงามืดให้เจ้าเสมอ ต่อให้ทั้งสวรรค์ลบชื่อข้า…ตราบใดที่เจ้ายังหายใจอยู่ ข้าก็จะอยู่เคียงข้างเจ้า”
คืนนั้น ทั้งสองเคยสาบาน—
หนึ่งคือ แสงสว่างแห่งสุริยัน
อีกหนึ่งคือ เงามืดแห่งจันทรา
แม้จะเป็นฟ้าที่ไม่มีวันบรรจบ แต่หัวใจกลับเคยแนบชิดจนไม่อาจแยกจาก
“เยว่เอ๋อร์! ตั้งสมาธิ!”
เสียงเยี่ยนหลัวดังขึ้น เขาก้าวเข้ามาเคียงข้างนางในสนามรบ แม้จะถูกสวรรค์ตราหน้าว่าเป็นศัตรู แต่เขาก็ยังยกเงาจันทราของตนขึ้นมาปกป้องนาง
แสงเพลิงกับเงามืดประสานกันอย่างน่าอัศจรรย์ ราวกับฟากฟ้าได้รวมทั้งสองพลังเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว
ทว่า…ก่อนที่พลังนั้นจะคลี่คลายเงามืดได้ เสียงกึกก้องจากฟากฟ้าก็ดังขึ้น—
เสียงของเทพสวรรค์ผู้สูงส่งกำลังประกาศโทษ
> “หลินซีเยว่! เจ้ากล้าร่วมมือกับศัตรูสวรรค์หรือ!?”
เปลวเพลิงรอบกายหลินซีเยว่สั่นไหว หัวใจของนางถูกบีบรัดอีกครั้ง
ในระหว่าง หน้าที่ที่ต้องรักษา และ หัวใจที่ไม่อาจลบเลือน…นางจะเลือกสิ่งใด?
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!