วันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 — คฤหาสน์เดลครอสส์, แคว้นไฮเดลแบร์ก
ฝนกระหน่ำลงมาราวกับท้องฟ้ากำลังจะฉีกขาด สายฟ้าแลบวาบส่องให้เห็นเงาสูงใหญ่ของคฤหาสน์เดลครอสส์ที่ตั้งตระหง่านเหนือหมู่บ้านเล็ก ๆ เสียงฟ้าผ่าดังก้องสะท้อนผนังกำแพงหินหนาเหมือนคำรามของปีศาจ
ภายในคฤหาสน์ กลิ่นควันไฟเริ่มลอยมาแตะจมูก เสียงกรีดร้องดังระงมจากอีกฝั่งของตึก ผู้คนวิ่งหนีไฟปะปนกับเสียงปืนที่ดังขึ้นสามนัด—สั้น กระชับ และแม่นยำ
ในห้องนอนชั้นบน หญิงสาวผมสีเงินในชุดคลุมเปื้อนเลือดนั่งพิงผนัง มือหนึ่งกุมท้องที่กำลังเจ็บเกร็งรุนแรง “อีกไม่นาน…อีกไม่นาน…” เธอพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะมองประตูที่ถูกปิดด้วยตู้ไม้หนักเพื่อต้านคนจากข้างนอก
เสียงทุบประตูดังโครม!
ชายเสียงเข้ม: “เลดี้เอลิซา อย่าให้ข้าเข้ามาบังคับ!”
เลดี้เอลิซา: (เสียงแผ่ว) “ถ้าเจ้าก้าวเข้ามา…เจ้าจะไม่มีวันล้างบาปนี้ได้”
เธอกัดฟัน เมื่อความเจ็บบีบรัดร่างกายและน้ำคร่ำไหลลงพื้นเย็นเฉียบ เสียงกรีดร้องของเธอกลืนหายไปกับเสียงฟ้าคำราม
ทันใดนั้น หน้าต่างกระจกแตก เงาดำปีนเข้ามา—ชายหนุ่มในเสื้อคลุมยาวสีดำ ดวงตาเย็นเยียบ เขาไม่ได้มองใบหน้าของเลดี้เอลิซา แต่จ้องไปที่ทารกที่กำลังจะถือกำเนิด
ชายชุดดำ: “คืนนี้…บาปจะเกิดขึ้นอีกครั้ง”
เมื่อเสียงเด็กร้องดังขึ้นเป็นครั้งแรก ไฟจากอีกปีกของคฤหาสน์ก็ลุกโชนขึ้นพร้อมกัน ราวกับทั้งบ้านกำลังสรรเสริญการถือกำเนิดนี้
เลดี้เอลิซาอุ้มทารกแนบอก เสียงหัวเราะปนสะอื้นเล็ดลอดจากริมฝีปาก
“ไม่ว่าจะเกิดอะไร…เจ้าคือเลือดเนื้อของข้า อิลลาเรีย…”
เลือดจากร่างแม่หยดลงบนหน้าผากทารก—เป็นหยดเลือดแรกที่กลายเป็น ตราประทับแห่งบาป ที่ไม่มีวันลบเลือน
ภาพสุดท้ายก่อนที่เลดี้เอลิซาจะหมดแรงคือประตูไม้ถูกพังเข้ามา พร้อมแสงไฟและเสียงตะโกนโกลาหลจากคนในตระกูลที่เรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธเกลียด
ในคืนนั้น คฤหาสน์เดลครอสส์ครึ่งหนึ่งถูกเผา ทายาทคนโตของตระกูลถูกพบเป็นศพ และหญิงสาวหนึ่งคนหายสาบสูญอย่างไร้ร่องรอย…
ทิ้งไว้เพียง ทารกที่ถูกเรียกว่า "กำเนิดแห่งบาป"
สิบสองปีต่อมา — คฤหาสน์เดลครอสส์, แคว้นไฮเดลแบร์ก
เสียงกระดิ่งบอกเวลายามเช้าดังขึ้นทั่วคฤหาสน์ แต่ไม่มีใครมาที่ห้องเล็กสุดของปีกตะวันตก—ห้องที่ประตูถูกตอกตรึงด้วยสัญลักษณ์ไม้กางเขนสีดำ
ภายในห้อง อิลลาเรีย เวเรนตินา ฟอน เดลครอสส์ วัยสิบสองปี กำลังล้างชามไม้ในอ่างน้ำเย็น เธอสวมชุดกระโปรงสีซีดเก่าเกินกว่าจะบอกได้ว่ามีสีเดิมเป็นอะไร ผมยาวสีเงินหม่นถูกรวบลวก ๆ ด้วยเชือกผุ ๆ
เสียงกระซิบจากนอกหน้าต่างดังขึ้น
สาวใช้ A: “นั่นแหละ เด็กต้องคำสาป…เกิดคืนที่ไฟไหม้”
สาวใช้ B: “ฉันได้ยินว่าตอนเกิดมีเลือดคนตายเปื้อนหน้ามัน”
สาวใช้ A: “และว่ากันว่ามันเอาโชคร้ายมาให้ทุกคนที่เข้าใกล้…”
อิลลาเรียหยุดมือ แต่ไม่ได้หันไปมอง เธอคุ้นชินกับคำพูดเหล่านี้จนไม่รู้สึกอะไร—หรืออย่างน้อยก็แสร้งทำเป็นไม่รู้สึก
เช้านั้น เธอถูกเรียกไปที่ห้องโถงใหญ่ของตระกูล เพื่อเสิร์ฟน้ำชาให้หัวหน้าตระกูล ลอร์ดคาร์สตัน ฟอน เดลครอสส์ และบรรดาญาติพี่น้อง
ลอร์ดคาร์สตัน: “เจ้ามีชีวิตเพราะตระกูลนี้เมตตา อย่าคิดว่าเจ้าเป็นหนึ่งในเรา”
อิลลาเรีย: (เสียงเรียบ) “เจ้าค่ะ”
น้ำเสียงของเธอไม่แสดงความโกรธหรือหวาดกลัว แต่ดวงตาสีเทานั้นจับจ้องไปยังทุกคนราวกับจดจำทุกใบหน้า ทุกถ้อยคำ
หลังมื้อเช้า อิลลาเรียเดินผ่านระเบียงไปยังสวนด้านหลัง เธอหยุดที่รูปปั้นหินครึ่งหนึ่งถูกไฟเผาและแตกหัก—รูปปั้นของหญิงสาวที่มีใบหน้าคล้ายเธออย่างประหลาด
เสียงแผ่วราวกระซิบลอยมาตามลม
เสียงปริศนา: “เลือดในตัวเจ้าคือบาป…แต่บาปนั้นจะเป็นอำนาจของเจ้า”
เธอหันขวับไป ไม่มีใครอยู่ แต่กลับเห็นสมุดบันทึกเก่าที่ซ่อนอยู่ใต้เศษหินปูน เธอเปิดอ่าน พบเพียงประโยคเดียวที่เขียนด้วยลายมือรีบเร่ง
“ถ้าเจ้าพบสมุดเล่มนี้ แสดงว่าเจ้าเริ่มต้นแล้ว”
ในดวงตาเด็กสาวคนนั้น แววสับสนเริ่มเปลี่ยนเป็นประกายคม—เป็นครั้งแรกที่เธอรู้ว่า บาป อาจเป็นของขวัญ
ตัวอย่างตอนต่อไป
ค่ำวันเดียวกัน — สวนด้านหลังคฤหาสน์
อิลลาเรียกลับมาที่สวนหลังคฤหาสน์อีกครั้งเมื่อทุกคนหลับ สมุดบันทึกเก่ายังคงอยู่ในมือ แต่คราวนี้เธอถือโคมไฟน้ำมันไปด้วย
กลิ่นเถ้าถ่านและควันจาง ๆ ยังติดอยู่ในอากาศ แม้เหตุการณ์ไฟไหม้จะผ่านมาแล้วสิบสองปี แต่บริเวณนี้ก็ยังไม่มีใครกล้าเข้าใกล้
เธอค่อย ๆ เปิดสมุดบันทึกต่อจากหน้าที่เคยเห็นก่อนหน้านี้—หน้ากระดาษหลายหน้าถูกฉีกทิ้ง เหลือเพียงรอยหมึกซีดกับคราบน้ำตาแห้ง
ข้อความบนหน้ากระดาษ:
“คืนที่เงามืดกำเนิด…ผู้สืบสายเลือดเดลครอสส์จะล้มลงโดยฝีมือของคนในตระกูลเอง”
อิลลาเรียขมวดคิ้ว เธอจำได้ว่าในคืนนั้นที่ผู้คนเล่าขาน ทายาทคนโตถูกฆ่า แต่ทุกคนโทษว่าเป็นเพราะ “โชคร้ายจากเด็กที่เพิ่งเกิด”
ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าแผ่วดังมาจากด้านหลัง เธอหันขวับ เห็นชายร่างสูงในชุดสูทดำยืนอยู่ใต้เงาไม้ ใบหน้าเขาถูกบดบังด้วยหมวกปีกกว้าง
ชายปริศนา: “เจ้ามีสิทธิ์รู้ความจริง…แต่ความจริงจะเผาเจ้าให้เหลือเพียงเถ้าถ่าน”
อิลลาเรีย: “ข้าไม่กลัวไฟ…ข้ากลัวเพียงความมืดที่ไม่รู้ว่าเผาเพราะอะไร”
เขาเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะโยนกุญแจเก่าแก่ลงบนพื้นหญ้า
ชายปริศนา: “ไปที่ห้องใต้ดินเก่า…แล้วเจ้าจะรู้ว่า ‘เถ้าถ่านแห่งเดลครอสส์’ คืออะไร”
เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ชายคนนั้นก็หายไปแล้ว เหลือเพียงเสียงลมพัดและเงาของคฤหาสน์ที่ดูราวกับกำลังจ้องมองเธอ
อิลลาเรียกำกุญแจแน่น—เธอรู้ว่าคืนนี้เธอจะไม่หลับ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!