---
ตอนที่ 1 —
เช้าวันนี้…แสงแดดยามรุ่งสางยังไม่ทันลอดเข้ามาทางหน้าต่างบานสูง เสียงบางอย่างก็ดังขึ้นก่อนแล้ว
"เคลิธ!!! ชุดฉันหายไปไหน!"
เสียงแหลมสูงแฝงความหงุดหงิดของ เจ้าหญิงเซเรนยา อิกนิสเวล ก้องไปทั่วห้องโถงชั้นบนของพระราชวัง เหมือนกับว่ากำแพงหินอ่อนและเพดานแกะสลักทองคำนี้มีหน้าที่เพียงอย่างเดียว—สะท้อนเสียงเธอให้ดังก้องไปทั่ว
เสียงฝีเท้าหนักแน่นแต่เรียบนิ่งดังใกล้เข้ามา ก่อนที่ประตูไม้โอ๊กจะถูกเปิดออกอย่างสุภาพ และชายร่างสูงในชุดสูทดำก็ปรากฏตัว เขามีผมสีดำยาวเพียงแค่คลอไหล่ ถูกจัดทรงอย่างเรียบร้อยราวกับไม่เคยมีเส้นใดหลุดจากที่ของมัน ดวงตาสีเทาเย็นสงบตัดกับรอยยิ้มอ่อนโยนที่ประดับอยู่ตลอดเวลา
"อยู่ในตู้เสื้อผ้าชั้นสามด้านขวา ฝ่าบาทเพียงลืมว่าพระองค์สั่งให้ข้าย้ายมันไปเมื่อวาน"
น้ำเสียงของ เคลิธ มอร์เวน อ่อนนุ่มจนแทบจะกลืนไปกับอากาศ แต่ก็มีความหนักแน่นที่ทำให้ไม่มีใครคิดจะขัด
เซเรนยาหน้าตึงทันทีเมื่อจำได้ว่า ใช่…ฉันเป็นคนสั่งเองจริง ๆ แต่ด้วยศักดิ์ศรีของเจ้าหญิง เธอไม่มีทางยอมรับผิดง่าย ๆ
"ทำไมไม่เตือนล่ะ!" เธอกอดอก ทำคิ้วขมวดแบบคนกำลังพยายามหาเรื่องแทนที่จะยอมแพ้
"ขออภัย ฝ่าบาทเพิ่งบอกว่าข้าไม่ควรกวนพระองค์เรื่องเล็กน้อย"
คำตอบนั้นทำเอาเซเรนยาเงียบไปชั่ววินาที ก่อนจะพ่นลมหายใจแรง ๆ แล้วหมุนตัวไปทางตู้เสื้อผ้า ผมสีแดงเพลิงที่ไล่ลงเป็นสีทองสว่างสะบัดตามแรงหมุน เหมือนเปลวไฟที่พลิ้วตามลม
---
แม้จะเถียงกันเล็กน้อยทุกเช้า แต่มันก็เป็นภาพที่เกิดขึ้นเป็นประจำ…ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
เคลิธคือคนรับใช้ประจำองค์หญิงเซเรนยา แต่ "รับใช้" อาจไม่ใช่คำที่แม่นยำเสียทีเดียว เขาอยู่เคียงข้างราชวงศ์อิกนิสเวลมากว่า 295 ปี—อายุขนาดนี้ ถ้าเป็นมนุษย์คงเหลือแค่ตำนานเล่าขานไปแล้ว แต่สำหรับเคลิธที่มีหูยาวของเผ่าโบราณ เขากลับยังคงยืนตรงด้วยท่วงท่าสุภาพ ราวกับเวลาที่ผ่านไปเป็นเพียงลมพัด
และไม่ว่ากี่ปี…เขาก็ยิ้มเหมือนเดิมเสมอ
---
"วันนี้ฝ่าบาทมีกำหนดการฝึกดาบยามบ่าย" เคลิธเอ่ยขณะจัดผมที่ชี้ฟูของเจ้าหญิงให้เรียบขึ้น แม้เธอจะบ่นพึมพำว่าไม่ต้องยุ่ง แต่ก็ยืนนิ่งยอมให้เขาจัดการ
"ฉันไม่ไป!"
"เพราะ?"
"เพราะอากาศร้อน"
"ถ้าฝ่าบาทไม่ออกกำลัง พระองค์จะบ่นว่าข้าปล่อยให้พระองค์อ่อนแอ"
เซเรนยาหันมาจ้องเขา ดวงตาสีมิ้นหม่นกะพริบช้า ๆ คล้ายพิจารณาว่าจะหาเหตุผลมาสวนกลับยังไง แต่สุดท้ายก็เม้มปากแล้วเบือนหน้าไปทางอื่น
"ก็ได้…แต่ถ้าร้อนขึ้นอีกนิด ฉันจะกลับเข้าวัง"
"ข้าจะเตรียมน้ำเย็นไว้ให้"
---
บรรยากาศระหว่างทั้งคู่เป็นแบบนี้มานานแล้ว—เจ้าหญิงที่พร้อมจะวีนใส่ทุกคนในวัง และชายผู้เป็นราวกับ "เงา" ของเธอที่คอยรับฟังทุกคำอย่างไม่เคยโกรธ ไม่ว่าเธอจะเหวี่ยงใส่เพียงใด
ในสายตาของคนอื่น เคลิธอาจเป็นเพียงข้ารับใช้ที่ทำหน้าที่ได้ดีเกินคาด
แต่ในสายตาของเซเรนยา…เขาคือที่เดียวที่เธอสามารถปล่อยความรู้สึกออกมาได้โดยไม่ต้องกังวล
---
บ่ายวันนั้น ท้องฟ้าสีฟ้าอ่อนถูกปกคลุมด้วยหมู่เมฆสีเงิน พระลานฝึกกลางวังเปิดกว้าง เหล่าอัศวินยืนเรียงแถวรอรับคำสั่งฝึก เจ้าหญิงเซเรนยาในชุดฝึกสีขาวปักลายทอง เดินมาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์นัก ส่วนเคลิธเดินตามหลังอย่างเงียบงัน
"เจ้าหญิงจะให้ข้าเป็นคู่ฝึกหรือให้หัวหน้ากองอัศวินรับหน้าที่?"
"ถ้าเป็นเจ้า…ฉันคงไม่บาดเจ็บ"
"หรืออาจบาดเจ็บมากกว่า" เคลิธยิ้มอ่อน ก่อนจะหยิบดาบฝึกส่งให้เธอ
ดวงตาของเซเรนยาสว่างขึ้นนิดหนึ่ง เธอรู้ว่าเคลิธไม่เคยอ่อนข้อเวลาอยู่ในสนามฝึก แต่เขาก็ไม่เคยทำให้เธอเจ็บจริง—เหมือนคนที่รู้จังหวะจะหยุดเมื่อไหร่ และรู้ว่าต้องผลักให้เธอก้าวข้ามขีดจำกัดยังไง
---
หลังการฝึกอันยาวนาน เหงื่อหยดลงบนพื้นหินเย็น ๆ เซเรนยานั่งพักในร่ม มือถือแก้วน้ำเย็นที่เคลิธเตรียมไว้ให้ ดวงตาสีมิ้นหม่นเหลือบมองเขาที่กำลังยืนคุยกับหัวหน้ากองอัศวินอย่างสุภาพ
บางที…เขาอาจเป็นคนเดียวในโลกที่เธอไม่เคยตะโกนใส่จนสุดเสียงจริง ๆ
"เคลิธ"
"พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท?"
"อยู่กับข้ามานาน…ไม่เบื่อหรือไง?"
เขามองเธอด้วยสายตาที่เหมือนมีอะไรบางอย่างลึกซึ้งซ่อนอยู่—ความทรงจำหลายร้อยปีที่ไม่มีใครเข้าถึง และรอยยิ้มที่ไม่เคยเปลี่ยน
"ไม่เคยแม้สักวันเดียว"
คำตอบนั้นทำให้หัวใจของเจ้าหญิงเพลิงวีนเผลอเต้นแผ่วแรงไปหนึ่งจังหวะ—แม้เธอจะรีบเบือนหน้าและทำเป็นจิบ น้ำเย็นแก้วในมือราวกับไม่ได้รู้สึกอะไรเลยก็ตาม
...----------------...
...----------------...
ตอนที่ 2 —
พระอาทิตย์คล้อยต่ำ แสงทองส้มของยามเย็นสาดลงบนกำแพงหินสีงาช้างของพระราชวัง เสียงระฆังบอกเวลาค่ำดังขึ้นทั่วบริเวณ
หลังการฝึกดาบ เจ้าหญิงเซเรนยาเดินกลับมาพร้อมเคลิธ โดยมีเหล่าทหารยืนค้อมหัวต้อนรับตลอดเส้นทาง ความเหนื่อยล้าทำให้เธอเดินช้ากว่าปกติ แต่ก็ไม่ยอมให้ใครนอกจากเคลิธเข้ามาช่วย
"ไม่จำเป็นต้องจับแขนข้าก็ได้นะ" เธอเอ่ยเสียงเบา แต่ก็ไม่ได้ดึงมือเขาออก
"พระบาทจะล้มถ้าฝ่าบาทฝืน" เขาตอบเรียบ ๆ แต่จับแขนเธอแน่นขึ้นเล็กน้อย
---
เมื่อถึงห้องโถงใหญ่ กลิ่นหอมของอาหารค่ำลอยมาตามลม เสียงเครื่องดนตรีอ่อนหวานดังคลอ บนโต๊ะยาวประดับด้วยผ้ากำมะหยี่สีแดงเข้ม มีคบไฟส่องวับวาวกับภาชนะเงินเงาวับ
"เซเรนยา" เสียงเข้มแฝงอำนาจของ พระราชาอัลดริก อิกนิสเวล ดังขึ้นพร้อมรอยยิ้มเล็ก ๆ "ได้ข่าวว่าเจ้าฝึกดาบวันนี้"
"ค่ะ เสด็จพ่อ" เซเรนยานั่งลงอย่างสง่างาม แม้จะพยายามซ่อนความเหนื่อยไว้ แต่พระราชินี เอลินดรา เวโยรา ที่นั่งข้าง ๆ กลับเอื้อมมือมาสัมผมสีเพลิงของลูกสาวอย่างอ่อนโยน
"อย่าฝืนเกินไปนะลูก" น้ำเสียงนุ่มละมุนตัดกับความเย็นชาของบรรยากาศราชสำนัก
---
เคลิธยืนอยู่ด้านหลังเจ้าหญิงอย่างเงียบงัน สายตาเขากวาดมองทุกการเคลื่อนไหวรอบโต๊ะราวกับเฝ้าระวังภัย แต่ในจังหวะที่ไม่มีใครสังเกต เขาก็ขยับไปเทน้ำในแก้วของเซเรนยาอย่างเบามือ
"นี่ เจ้าเทน้ำให้เราตลอดเลยเหรอ" เธอกระซิบถามโดยไม่หันหน้า
"ใช่พ่ะย่ะค่ะ"
"ตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ตั้งแต่พระองค์ดื่มน้ำหกใส่ชุดตอนอายุสิบขวบ"
คำตอบทำให้มุมปากเธอขยับขึ้นเล็กน้อย แต่ก็รีบปรับสีหน้าให้กลับมานิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
---
หลังอาหารค่ำ เสด็จพ่อและเสด็จแม่แยกไปยังห้องทรงงาน ปล่อยให้เจ้าหญิงเดินกลับตำหนักพร้อมคนรับใช้คู่ใจ
ทางเดินในยามค่ำเงียบสงัด มีเพียงเสียงรองเท้าสองคู่ที่กระทบพื้นหินเย็น ๆ แสงจากโคมไฟผนังทอดเงายาวของทั้งคู่ลงบนพื้น—เงาหนึ่งเคลื่อนไหวรวดเร็วและแกว่งแขนเล็กน้อยอย่างหงุดหงิด อีกเงาหนึ่งเดินเรียบตรงและมั่นคง
"เจ้าไม่เหนื่อยบ้างหรือไง เดินตามข้าทั้งวัน"
"หน้าที่ของข้าคืออยู่เคียงข้างฝ่าบาท"
"ฟังดูเหมือนเป็นคำตอบที่ท่องมา"
"เพราะมันเป็นความจริง"
เซเรนยาชะลอฝีเท้า เงยหน้ามองเขาที่สูงกว่าพอสมควร ดวงตาสีเทาของเขาสะท้อนแสงไฟ ดูอบอุ่นจนเธอเผลอมองนานกว่าที่ควร
"แล้วถ้าวันหนึ่ง…ข้าไล่เจ้าออก?"
"ข้าก็จะหาที่อยู่ใกล้ ๆ พระองค์ให้ได้"
---
เมื่อถึงห้อง เจ้าหญิงถอดรองเท้าและนั่งลงบนเก้าอี้ทรงสูง เคลิธคุกเข่าลงข้างหน้า ค่อย ๆ ถอดถุงมือของตัวเอง แล้วจับข้อเท้าของเธออย่างระมัดระวัง
"เจ้า—ทำอะไร" เธอหน้าแดงเล็กน้อย
"ตรวจดูว่าพระบาทมีรอยช้ำจากการฝึกวันนี้หรือไม่"
สัมผัสมือเย็นแต่มั่นคงทำให้หัวใจเธอเต้นผิดจังหวะไปวูบหนึ่ง เธอเบือนหน้ามองไปทางหน้าต่างที่มีแสงจันทร์ส่องผ่าน เพื่อซ่อนสีหน้าที่เปลี่ยนไป
"ไม่มีรอยช้ำ" เขาเงยหน้าขึ้น พร้อมรอยยิ้มบาง ๆ
"ก็ดี" เธอพึมพำ แล้วลุกขึ้นเดินไปทางเตียง แต่ก่อนจะขึ้นไป เธอก็หันกลับมา
"เคลิธ…"
"พ่ะย่ะค่ะ?"
"ขอบใจนะ"
มันเป็นคำสั้น ๆ ที่เธอแทบไม่เคยพูดออกมา แต่ในค่ำคืนนั้น—เธอเห็นรอยยิ้มของเขานุ่มลึกกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
...----------------...
...----------------...
ตอนที่ 3 —
เช้าวันใหม่ในพระราชวังดูปกติ—แต่กลับมีบางสิ่งแฝงอยู่ใต้ความเงียบสงบ
เมื่อเซเรนยาก้าวออกจากห้อง เสียงกระซิบกระซาบของนางกำนัลสองสามคนก็แว่วมาเข้าหู
“เห็นหรือยัง…เมื่อคืนเจ้าหญิงอยู่กับคนรับใช้จนดึก”
“ใช่ ฉันเห็นเขาเข้าออกห้องของพระองค์…”
“ช่างไม่สมพระเกียรติเลย”
มือของเจ้าหญิงที่กำลังถือถุงมือฝึกดาบหยุดชะงัก ดวงตาสีมิ้นหม่นวาววับด้วยความไม่พอใจ ก่อนที่เคลิธ—ซึ่งเดินตามหลัง—จะเอ่ยเสียงเรียบ
“อย่าใส่ใจ พวกเขาไม่รู้ว่าพูดอะไร”
“ข้ารู้…แต่ข้าไม่ชอบ”
---
ตลอดเส้นทางไปสนามฝึก สายตาของคนในวังเริ่มไม่เหมือนเดิม บ้างมองด้วยความอยากรู้อยากเห็น บ้างมองอย่างตำหนิ และบ้าง—ก็มีรอยยิ้มเยาะ
เซเรนยาพยายามเดินเชิด แต่ข้างในกลับรู้สึกเหมือนมีคมหนามเล็ก ๆ จิ้มซ้ำ ๆ ในใจ
จนในที่สุด เธอก็หยุดเดินกลางลานหิน และหันไปมองคนข้างหลัง
“ถ้าข้าไล่เจ้าออกจริง ๆ ข่าวลือก็จะหายไป”
“และพระองค์จะอยู่โดยไม่มีใครฟังพระองค์ได้หรือ?”
คำถามของเขาเหมือนดึงลมหายใจออกจากอกเธอ เซเรนยาเม้มปากแน่น แล้วหันหลังเดินต่อโดยไม่พูดอะไร
---
บ่ายวันนั้น ขณะฝึกดาบกับหัวหน้ากองอัศวิน เสียงหัวเราะคิกคักจากกลุ่มทหารยศเล็ก ๆ ดังแทรกเข้ามา
“ระวังนะเจ้าหญิง เดี๋ยวคนรับใช้จะหวง”
“หรือบางที…เขาอาจเป็นคนคุมชีวิตพระองค์อยู่ก็ได้”
ดาบในมือเซเรนยาหยุดกลางอากาศ ดวงตาเธอหันขวับไปทางพวกนั้น
แต่ยังไม่ทันพูดอะไร เสียงทุ้มนุ่มของเคลิธก็ดังขึ้นจากด้านหลัง—นุ่ม…แต่เย็นเยียบพอจะทำให้ทั้งลานเงียบลง
“ระวังคำพูดของพวกเจ้า”
เพียงประโยคเดียว ความเงียบก็กลืนทุกเสียงหัวเราะ
---
หลังการฝึก เซเรนยากลับมาที่ห้องด้วยความอึดอัด
เคลิธวางเสื้อคลุมไว้บนเก้าอี้ ก่อนนั่งคุกเข่าลงเพื่อจัดสายรัดรองเท้าให้เธอเหมือนเคย
“ข้าสามารถจัดการพวกนั้นได้ด้วยตัวเอง” เธอเอ่ย
“ข้ารู้”
“งั้นเจ้าจะพูดแทนข้าทำไม”
“เพราะมันไม่ยุติธรรมที่พระองค์ต้องรับคำพูดแบบนั้น”
---
เธอเงียบไปพักหนึ่ง มองลงมาที่เส้นผมสีดำของเขาที่สะท้อนแสงตะเกียง
มือของเธอยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว—เกือบจะสัมผัสเรือนผมนั้น—แต่ก็หยุดกลางอากาศ
“เคลิธ…”
“พ่ะย่ะค่ะ?”
“ถ้าข้าเป็นเพียงคนธรรมดา เจ้าจะยังอยู่ข้างข้าหรือไม่”
เขาเงยหน้าขึ้น ดวงตาสีเทาสงบนิ่ง แต่มีบางสิ่งลึกซึ้งกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
“ข้าไม่ได้อยู่เพราะพระองค์เป็นเจ้าหญิง ข้าอยู่…เพราะเป็นท่าน”
หัวใจของเซเรนยาเต้นแรงในความเงียบ—และเธอรู้ว่าข่าวลือไม่อาจทำให้เงาคน ๆ นี้หายไปจากข้างเธอได้ง่าย ๆ
...----------------...
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!