NovelToon NovelToon

เมื่อหัวใจเรียกหาเธอ

1

เสียงเข็มนาฬิกาดัง “ติ๊ก… ต๊อก” ในร้านซ่อมนาฬิกาเล็ก ๆ ริมถนนสายหนึ่ง

มันเป็นร้านเล็กที่ผู้คนแทบไม่สังเกตเห็นหากไม่ได้ตั้งใจ

มีเพียงกระจกใสหน้าร้านที่สะท้อนแสงแดดอ่อน ๆ ของเช้าวันจันทร์

และชายหนุ่มคนหนึ่ง…ที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานไม้เก่า

เขาชื่อ พัท

ชายหนุ่มวัยสามสิบที่ไม่ค่อยพูด เขาเป็นช่างซ่อมนาฬิกา

และเจ้าของร้าน “เวลาเดิม”

ร้านที่ดูเก่าแต่เต็มไปด้วยความรู้สึกของเวลาและเรื่องราว

พัทใช้ชีวิตเรียบง่าย

ทุกเช้าเขาจะเปิดร้านเวลา 7 โมงครึ่ง

เช็ดกระจกหน้าร้าน จัดเรียงนาฬิกาที่รอการซ่อม แล้วนั่งดื่มกาแฟดำที่ไม่มีน้ำตาล

นิ่ง เงียบ และไม่ค่อยมีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

แต่สิ่งหนึ่งที่เขารู้แน่…

คือ เธอ คนที่เดินผ่านหน้าร้านในเวลาเดิมทุกวัน

ผู้หญิงคนนั้นใส่เสื้อเชิ้ตทำงานสีอ่อน ๆ ผูกผมหางม้าหลวม ๆ

บางวันมีร่มในมือ บางวันถือแก้วกาแฟ

แต่ทุกวัน เธอจะหยุดเดินหน้าร้านเล็กน้อย

มองนาฬิกาที่โชว์อยู่หน้าร้าน แล้วก็ยิ้มให้ ก่อนจะเดินต่อไป

พัทไม่เคยรู้ชื่อเธอ ไม่เคยทัก ไม่เคยเปิดประตูออกไปเรียก

เขาเพียงแต่นั่งอยู่หลังโต๊ะไม้ ยกแก้วกาแฟจิบช้า ๆ

และแอบยิ้มเงียบ ๆ กับตัวเอง เมื่อเธอปรากฏตัว

“วันนี้เธอมาสายนิดหน่อย…”

เขาพึมพำในใจ ขณะเข็มวินาทีกำลังเดินต่อไปไม่หยุด

ชื่อของเธอคือ มีนา

พนักงานออฟฟิศในบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่งที่อยู่ถัดไปอีกสองซอย

เธอชอบร้านนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ย้ายมาทำงานแถวนี้

ไม่รู้ว่าทำไม มันดูสงบ อบอุ่น และมีอะไรบางอย่างที่ดึงดูดใจ

เธอไม่เคยเข้าร้าน

แต่ก็ไม่เคยพลาดที่จะหยุดมอง

โดยเฉพาะชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านใน

เขาไม่เคยหายไปจากที่เดิมเลยสักวัน

เช้าวันนี้มีนาเดินมาพร้อมกาแฟเย็นแก้วโปรด

เธอหยุดที่หน้าร้านตามปกติ แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือ…

เขามองมาทางเธอแล้ว พยักหน้าเบา ๆ

หัวใจของมีนาเต้นแรงขึ้น

เล็กน้อย… แต่ชัดเจน

“เขายิ้มให้ฉัน…รึเปล่านะ?”

เธอถามตัวเองเบา ๆ ก่อนจะยิ้มตอบกลับไปเล็กน้อย และเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

หลังประตูไม้บานเก่าปิดสนิท พัทยังคงนั่งเงียบ แต่ภายในใจกลับคึกคักกว่าทุกเช้า

กาแฟดำที่ขม กลับรู้สึกอุ่นขึ้นแปลก ๆ

เขาเหลือบมองนาฬิกาพกเรือนหนึ่งที่ตั้งอยู่ตรงหน้า

มันหยุดเดินไปเมื่อสามวันก่อน

พัทเพิ่งซ่อมมันเสร็จเมื่อเช้านี้พอดี

เขาหยิบมันขึ้นมา ค่อย ๆ เปิดฝา

เสียงติ๊กต๊อกดังเบา ๆ… มันเดินได้อีกครั้งแล้ว

ไม่รู้ว่าเพราะอะไร

แต่ในใจเขาคิดแวบขึ้นมา…

“ถ้าเธอเป็นเจ้าของนาฬิกาเรือนนี้ก็คงดี…”

วันต่อมา

มีนาเดินมาพร้อมรอยยิ้มและหัวใจที่อยากรู้อะไรบางอย่าง

วันนี้เธอกล้าหยุดนานกว่าเดิม… นิดหนึ่ง

และในวินาทีนั้นเอง ประตูร้านที่ไม่เคยเปิด ก็ถูกเปิดออก

เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังกรุ๊งกริ๊ง

และเธอเห็นเขา… เดินออกมายืนตรงหน้า

“เอ่อ… นาฬิกาพกเรือนนี้ เดินได้แล้วนะครับ”

เสียงเขาเรียบนิ่ง แต่มีแววเขินที่หูแดงนิด ๆ

มือของเขายื่นนาฬิกาพกเรือนหนึ่งให้เธอ

มีนาเบิกตากว้าง “เอ่อ… ฉันไม่ใช่เจ้าของนะคะ”

เธอยิ้มเจื่อน ๆ แต่ในใจกลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างประหลาด

“ผมรู้ครับ” เขาตอบ พร้อมยิ้มมุมปากเล็กน้อย

“แต่ถ้าคุณชอบ ผมจะให้ก็ได้นะ…”

วินาทีนั้น ไม่มีเสียงนาฬิกา ไม่มีเสียงรถบนถนน

มีเพียงดวงตาสองคู่ ที่มองกันอย่างประหลาดใจ

และหัวใจสองดวงที่เพิ่งเริ่มเดิน…เหมือนนาฬิกาเรือนนั้น

2

เสียงฝนตกในช่วงสายของวันอังคาร กลายเป็นเพลงประกอบฉากที่เหมาะเจาะเกินไปสำหรับร้านเล็ก ๆ อย่าง “เวลาเดิม”

ร้านซ่อมนาฬิกายังคงตั้งอยู่เงียบ ๆ เหมือนทุกวัน

กลิ่นอายของไม้เก่า หนังสือมือสอง และกลไกนาฬิกา…

มันช่างเข้ากับเสียงฝนที่ซัดกระจกเบา ๆ อย่างพอดิบพอดี

พัทนั่งอยู่หลังโต๊ะไม้ตามปกติ แต่ในใจของเขาไม่ปกติเหมือนวันอื่นอีกต่อไป

นับจากวันที่เขายื่นนาฬิกาพกให้หญิงสาวคนนั้น เขารู้สึกว่าอะไรบางอย่างเปลี่ยนไป

ไม่ใช่ที่ร้าน ไม่ใช่ที่ฝนตก… แต่เป็นในใจของเขาเอง

เขาจำได้ดีถึงเสียงหัวเราะเบา ๆ ของเธอ

และประโยคที่ว่า “ฉันไม่ใช่เจ้าของนะคะ”

เสียงที่ฟังดูเป็นกันเองแบบไม่ต้องพยายาม

แม้เธอจะรับนาฬิกาไว้ แต่ไม่ได้สัญญาว่าจะกลับมาอีก

“จะมาวันนี้ไหมนะ…”

เขาพึมพำกับตัวเองเบา ๆ ขณะจิบกาแฟดำแก้วเดิม

สายตาเหลือบมองหน้าร้านอยู่เป็นพัก ๆ แม้จะมีฝนพรำต่อเนื่อง

มีนาเองก็ไม่ได้คาดคิดว่าตัวเองจะรู้สึกกระวนกระวายขนาดนี้

เธอนั่งทำงานตรงโต๊ะหน้าต่างมุมเดิมของบริษัทที่อยู่ห่างจากร้านเพียงไม่กี่ร้อยเมตร

แต่วันนี้…กลับรู้สึกไกลเหลือเกิน

ใจของเธอเผลอคิดถึงผู้ชายเงียบ ๆ คนนั้นอยู่หลายครั้ง

แม้จะไม่รู้จักชื่อเขาด้วยซ้ำ

“หรือเราควรไปขอบคุณเขาให้ชัด ๆ ดีไหมนะ?”

เธอคิดในใจ แล้วก็เงยหน้ามองฟ้าเทา ๆ

แม้ฝนจะยังตกไม่หยุด แต่เธอก็ตัดสินใจลุกขึ้น คว้าร่มและนาฬิกาพกในกระเป๋าก่อนจะเดินออกจากบริษัท

เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นอีกครั้งในรอบหลายวัน

พัทเงยหน้าขึ้นและเห็นเธอ…

เธอยืนอยู่ตรงประตูในชุดทำงานที่มีหยดฝนเกาะพราว

“สวัสดีค่ะ” เธอยิ้ม “ฉัน…เอ่อ ฉันแค่แวะมา ขอบคุณเรื่องนาฬิกาวันก่อนค่ะ”

“ครับ” พัทยิ้มบาง ๆ แต่ในใจกลับอุ่นกว่าผ้าห่มในวันที่ฝนตก

เธอหยิบกล่องเล็ก ๆ ออกมาวางบนโต๊ะ

“ฉันลองเปิดดูที่บ้าน มันสวยมากเลยนะคะ… แถมยังเดินได้จริง ๆ ด้วย”

“มันเก่า แต่ยังเดินได้เสมอ ถ้าดูแลมันดี ๆ”

เขาพูดเรียบ ๆ แล้วเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะถาม

“ขอโทษนะครับ… แต่ผมยังไม่รู้ชื่อคุณเลย”

มีนาชะงักไปนิด ก่อนจะยิ้มกว้างขึ้น

“ฉันชื่อ ‘มีนา’ ค่ะ แล้วคุณล่ะ?”

พัทเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบ

“พัท”

เสียงชื่อของทั้งสองคนเหมือนจะลอยค้างอยู่ในอากาศชั่วครู่

ก่อนจะถูกกลบด้วยเสียงฝนที่ซัดแรงขึ้นบนหลังคาร้าน

“คุณเป็นช่างซ่อมนาฬิกาเหรอคะ?”

มีนาถามพลางเดินดูรอบ ๆ ร้านอย่างอยากรู้อยากเห็น

มือของเธอลูบผ่านกรอบรูปนาฬิกาโบราณ และสมุดโน้ตเล่มเก่า ๆ ที่วางเรียงกันเป็นชั้น

“ใช่ครับ ซ่อมทุกอย่างที่เดินตามเวลาได้”

พัทตอบ พลางมองเธอด้วยสายตานุ่มนวล

“แล้วคุณ…เดินตามเวลาของใครเหรอคะ?”

คำถามนั้นไม่ได้ตั้งใจให้ลึก

แต่กลับทำให้บรรยากาศในร้านเงียบลงชั่วขณะ

พัทสบตาเธอ ก่อนจะพูดช้า ๆ

“บางทีก็เดินตามคนบางคน…ที่หยุดอยู่หน้าร้านผมทุกวัน เวลาเดิม”

วินาทีนั้น มีนารู้สึกเหมือนลมหายใจสะดุด

เธอหลบตาเล็กน้อย แต่ยิ้มไม่หาย

“งั้นฉันจะพยายามเดินผ่านให้ตรงเวลานะคะ”

เธอพูดเบา ๆ แล้วค่อย ๆ เปิดประตูออกจากร้าน

เสียงกระดิ่งดังอีกครั้ง

แต่คราวนี้…มันไม่ได้แค่บอกว่าเธอมา

แต่มันเหมือนบอกว่า “หัวใจของเขาเพิ่งเริ่มเดินตามเธอ”

3

หลังจากวันฝนพรำในวันนั้น

มีนาก็เริ่มเปลี่ยนเส้นทางเดินของเธอเล็กน้อยในทุกเช้าและเย็น

แทนที่จะตรงไปยังบริษัทเหมือนทุกวัน เธอเลือกเดินผ่านร้าน “เวลาเดิม”

และบางครั้ง…ก็หยุดพูดคุยกับชายหนุ่มเจ้าของร้านนาฬิกาที่เธอเพิ่งรู้จักชื่อ

“พัท”

ชื่อของเขาอาจจะธรรมดา

แต่ความเงียบของเขา กลับมีเสน่ห์อย่างประหลาด

มันไม่ใช่ความเงียบที่ทำให้รู้สึกอึดอัด

แต่มันเป็นความเงียบที่ทำให้มีนารู้สึกปลอดภัย เหมือนได้พักจากโลกที่วุ่นวาย

เช้านี้ ท้องฟ้าแจ่มใสจนดูเหมือนเมื่อคืนฝนไม่เคยตก

มีนาเดินมาหยุดหน้าร้าน พร้อมรอยยิ้มเล็ก ๆ บนริมฝีปาก

วันนี้เธอมีแผน

ไม่ใช่แผนใหญ่โตอะไรหรอก แค่…จะพกขนมปังชิ้นหนึ่งมาให้เขา

เธอเปิดประตูร้าน เสียงกระดิ่งดังกรุ๊งกริ๊งเบา ๆ เหมือนเคย

พัทเงยหน้าจากโต๊ะทำงาน และพยักหน้าเบา ๆ

“สวัสดีค่ะคุณพัท”

“สวัสดีครับคุณมีนา”

เสียงทักทายธรรมดา…แต่ทำไมมันอบอุ่นกว่าคำหวาน ๆ จากใครหลายคนที่เธอเคยรู้จัก

มีนาวางขนมปังไว้บนโต๊ะ

“ฉันซื้อมาฝากค่ะ ขนมปังครัวซองต์อัลมอนด์เจ้านี้อร่อยมากเลยนะ ลองดูค่ะ”

พัทมองกล่องกระดาษเล็ก ๆ แล้วพยักหน้าอีกครั้ง

ไม่พูดอะไรเพิ่มเติม เขาแค่ยิ้มบาง ๆ

ก่อนจะหยิบมันขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ราวกับมันเป็นของมีค่ามากกว่าขนมธรรมดา

“คุณชอบเพลงมั้ยคะ?”

มีนาถาม ขณะสายตากวาดมองรอบร้าน

“ชอบครับ” พัทตอบเรียบ ๆ

“แล้ว…ฟังแนวไหนเหรอคะ?”

เขาเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะเอื้อมไปเปิดวิทยุเครื่องเล็ก ๆ ข้างโต๊ะทำงาน

เสียงเพลงเก่าค่อย ๆ ลอยมาในอากาศ — เป็นเสียงเปียโนช้า ๆ กับเสียงนักร้องหญิงนุ่ม ๆ ราวกับลูบหัวใจ

“เพลงนี้ฉันก็ชอบค่ะ…”

มีนายิ้มบาง ๆ แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามเขา

เป็นครั้งแรกที่เธอได้นั่งในร้านนี้ ไม่ใช่แค่ยืนคุยผ่านกระจกหรือประตู

พัทวางขนมลง ขยับนาฬิกาข้อมือเก่า ๆ ที่เขากำลังซ่อมอยู่ออกไป

ก่อนจะพูดเบา ๆ ว่า

“ผมไม่ค่อยพูดเก่งหรอกครับ… เพลงเลยเป็นเหมือนเพื่อน”

ประโยคนั้นทำให้หัวใจของมีนาสะดุดเล็กน้อย

ชายคนนี้…เขาไม่ได้เงียบเพราะไม่สนใจ

แต่เพราะเขาเลือกจะเงียบ เพื่อฟัง…และเข้าใจ

เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงโดยที่ไม่มีใครรู้ตัว

เสียงเพลงลอยไปเรื่อย ๆ สลับกับเสียงกลไกนาฬิกาและเสียงฝีเท้าของลูกค้าบางคนที่แวะเข้ามา

มีนารู้ตัวอีกทีตอนที่นาฬิกาแขวนในร้านบอกว่าเกือบจะเก้าโมงแล้ว

เธอสะดุ้งเบา ๆ ลุกขึ้นรวบกระเป๋า

“ฉันต้องไปแล้วค่ะ เดี๋ยวเข้าออฟฟิศสาย”

“ครับ” พัทตอบ “ขอบคุณสำหรับขนม… แล้วก็ เพลง”

มีนาหันมายิ้มกว้าง

“แล้วเจอกันนะคะคุณพัท”

เธอพูดก่อนจะเปิดประตูออกไป เสียงกระดิ่งยังคงดังเช่นเคย

พัทมองตามหลังเธอเงียบ ๆ

มือขวาค่อย ๆ เปิดลิ้นชักโต๊ะ หยิบสมุดเล่มเล็กที่เขาจดทุกอย่างไว้

เขาเขียนบรรทัดใหม่อย่างเงียบงัน

“อังคารที่แดดดี – เธอชอบเพลงเดียวกับฉัน”

“ชื่อของเธออยู่ในเพลงรักมากกว่าที่เธอคิด…”

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!