---
...ตอนที่ 1: “เราไม่ได้เลิกกันเพราะไม่รัก”...
“ถ้าแม่ยังยืนยันให้ผมแต่งงานกับเขา...ผมจะทำตาม แต่ขออย่างเดียว แม่อย่าบอกนนท์นะครับ”
เสียงของภูแข็งแต่สั่น แววตาเต็มไปด้วยความฝืนใจ
เขายืนอยู่หน้าห้องรับแขกในบ้านใหญ่
ที่แสงไฟส่องมาทำให้เงาของเขาดูเหมือนคนที่พังไปแล้วทั้งใจ
แม่ของเขาเงียบ
พ่อทำเพียงกอดอกแล้วตอบสั้น ๆ
“ดี งั้นก็เลิกกับมันซะ ก่อนที่แม่แกจะหมดความอดทนมากกว่านี้”
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของจุดจบ...
“ภูบอกเลิกมึงจริงดิ?”
เสียงของบาสดังแทรกความเงียบในห้องนอนผม
ผมพยักหน้าเบา ๆ
ทั้งที่น้ำตาคลอ
ทั้งที่ยังไม่อยากเชื่อคำพูดของเขา
“เราคงไปกันไม่รอด…พอแค่นี้นะนนท์”
ประโยคที่เขาทิ้งไว้สั้น ๆ เมื่อวาน
มันยังวนในหัวเหมือนเข็มที่ทิ่มซ้ำจุดเดิม
“มันมีคนใหม่เหรอ?”
บาสถามต่อ
ผมส่ายหน้า เพราะเขาไม่ได้พูดถึงใครเลย
แต่หัวใจมันบอก…ว่ามีอะไรบางอย่างมากกว่านั้น
เพียงแค่ผมไม่รู้ว่าคืออะไร
อีกด้านหนึ่ง — บ้านของภู
“งานหมั้นจัดเดือนหน้า อย่าทำหน้าแบบนั้นอีก”
แม่พูดเสียงเรียบ
ภูยืนเงียบ
มือข้างหนึ่งกำโทรศัพท์แน่น
หน้าจอยังเปิดแชทของนนท์อยู่
แต่เขาไม่กล้าพิมพ์
เพราะคำขอโทษ มันไม่มีค่าพอ
“นนท์…กูยังรักมึงอยู่”
แต่เขาทำได้แค่คิด…ไม่กล้าส่งไป
หลังจากวันที่ภูบอกเลิก
นนท์นั่งอยู่ตรงมุมห้องนอน
มือยังคงจับโทรศัพท์ไว้แน่น
แต่ข้อความที่อยากส่ง กลับติดอยู่ในคอ
“ทำไม… ทำไมต้องเป็นแบบนี้?”
น้ำตาไหลรินออกมา
แต่ปากกลับไม่กล้าพูดความรู้สึกออกไป
เขารู้แค่ว่า หัวใจเหมือนถูกฉีกออกจากกัน
ในขณะที่ภู
ยืนอยู่หน้ากระจกห้องน้ำ
มองภาพสะท้อนที่ดูเหนื่อยล้า
“นี่เรากำลังทำอะไรอยู่กันแน่?”
คำถามนั้นวนเวียนในใจ
โทรศัพท์ในมือสั่นเบา ๆ
มีข้อความเข้า
“มึง…ได้โปรดบอกความจริงกับกูเถอะ”
ภูถอนหายใจลึก
แล้วกดปิดโทรศัพท์
รู้ว่าคำตอบที่เขาจะให้ จะทำร้ายใครอีกมากแค่ไหน
เสียงโทรศัพท์อีกสายดังขึ้น
เป็นสายจากแม่ของภู
“ภู…งานหมั้นใกล้เข้ามาแล้ว
อย่าทำให้ครอบครัวเสียหน้าอีก”
ภูตอบเสียงแผ่ว
“ผมจะทำตามที่แม่ต้องการ”
แต่ลึก ๆ เขาอยากจะร้องไห้และตะโกนว่า
“ผมอยากเลือกทางของตัวเอง”
...[จบตอนที่ 1]...
...ตอนที่ 2: “คำขอโทษที่ไม่มีใครได้ยิน”...
---
หลังจากวันที่ภูบอกเลิก
ห้องของนนท์เต็มไปด้วยความเงียบที่หนักอึ้ง
เขานั่งลงบนโซฟาตัวเก่าที่อยู่มานาน
มือยังคงกุมโทรศัพท์ไว้อย่างแน่นหนา
แต่กลับไม่กล้ากดเปิดหน้าจอส่งข้อความ
“กูยังรักมึงอยู่”
ประโยคสั้น ๆ ที่เขาอยากจะส่งออกไปเป็นพันครั้ง
แต่กลับถูกความกลัวและความเจ็บปวดขัดขวางไว้
นนท์ก้มหน้า น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
หัวใจเหมือนถูกมือใครบางคนจับบีบแน่นจนแทบขาด
เขาพยายามหาคำตอบในใจตัวเอง
ว่าทำไมภูถึงเลือกเลิกกับเขา ทั้งที่ไม่มีใครบอกเหตุผลจริง ๆ
“ภูหมดรักหรือเปล่า... หรือเพราะอะไร?”
คำถามนั้นก้องกังวานในความเงียบของห้อง
วันต่อมา
นนท์เดินผ่านถนนที่เคยเดินด้วยกันกับภูบ่อยครั้ง
แต่ตอนนี้ทุกอย่างดูเปลี่ยนไป
เหมือนไม่เหลือร่องรอยความทรงจำที่เคยมี
เขายังจำได้ว่าภูชอบร้านกาแฟมุมหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากบ้าน
ที่นั่น…เคยเป็นที่ที่พวกเขานั่งคุยกันถึงอนาคต
แต่วันนี้…นนท์นั่งอยู่คนเดียว
ก้มหน้ารอให้เวลาผ่านไปโดยไม่มีจุดหมาย
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
เป็นสายจากบาส เพื่อนสนิทที่มักคอยเป็นกำลังใจให้เสมอ
“นนท์…เป็นไงบ้าง? กูเห็นมึงเงียบไปเลย”
เสียงของบาสเต็มไปด้วยความเป็นห่วง
นนท์พยายามยิ้ม “ก็…ยังเหมือนเดิมแหละ”
แต่เสียงสั่นเครือไม่สามารถปิดบังความเจ็บปวดได้
บาสพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงใจ
“กูรู้มึงรักภูมาก แต่ถ้ามึงต้องเสียใจไปมากกว่านี้
กูว่า มึงควรให้เวลาตัวเองหน่อยนะ”
นนท์พยักหน้า แต่ในใจกลับรู้สึกเหมือนถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ
เขาอยากจะลืม อยากจะเดินหน้า แต่ใจมันยังติดอยู่กับอดีต
ในขณะที่นนท์ต่อสู้กับความเจ็บปวด
ภูกลับต้องเผชิญกับความคาดหวังของครอบครัวที่หนักหนาไม่แพ้กัน
ในบ้านหลังใหญ่
เสียงแม่ดังขึ้น
“งานหมั้นเดือนหน้า อย่าทำตัวไม่เหมาะสมอีกล่ะ”
ภูยืนเงียบ มือหนึ่งยังคงถือโทรศัพท์ที่เปิดแชทกับนนท์ไว้
แต่ไม่กล้าส่งข้อความกลับ
เพราะรู้ดีว่าคำพูดใด ๆ ก็อาจทำลายความสัมพันธ์ที่เหลืออยู่เพียงเล็กน้อย
ในใจเขาพลิกไปพลิกมา
“ถ้ากูเลือกได้... กูจะไม่เลิกกับมึง”
เสียงในใจนั้นดังก้อง แต่ถูกเสียงความจริงจากครอบครัวกลบไปหมด
วันที่ใกล้งานหมั้นมาเยือน
ภูรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนแปลกหน้าในชีวิตของตัวเอง
งานจัดเต็มตามคำสั่งของครอบครัว
ชุดแต่งงานแบบหรูหรา ผู้คนมากมายที่มาร่วมงาน
ช่วงหนึ่งระหว่างที่เขายืนอยู่ริมระเบียง
โทรศัพท์สั่นอีกครั้ง
เป็นข้อความจากเบอร์ที่ไม่รู้จัก
> “บางครั้ง... ความรักก็ต้องปล่อยให้เป็นอิสระ”
ภูมองข้อความนั้นนาน
แล้วค่อย ๆ ยิ้มออกมาอย่างเศร้า ๆ
เขาไม่รู้ว่าใครส่งข้อความนี้มา
แต่เหมือนมีใครที่เข้าใจหัวใจเขาอยู่บ้าง
นนท์เองก็เริ่มพยายามที่จะก้าวผ่านความเจ็บปวด
แม้ว่าจะไม่ง่ายเลย
วันหนึ่งในคาเฟ่เล็ก ๆ แห่งหนึ่ง
นนท์บังเอิญเจอใครบางคนที่เคยเห็นในงานเลี้ยงของภู
คนคนนั้นพูดกับเขาอย่างเป็นมิตร
“ผมชื่อกอล์ฟ
ผมรู้เรื่องของคุณกับภูเล็กน้อย...
และผมอยากช่วยคุณนะ”
นนท์นิ่งไป
ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
แต่ความหวังเล็ก ๆ ในใจเริ่มก่อตัวขึ้น
ช่วงเวลาผ่านไป
นนท์เริ่มใช้เวลาคิดทบทวนตัวเอง
และภูก็ต้องเผชิญหน้ากับคำถามที่ว่า
“ฉันต้องการอะไรกันแน่?”
สองคนที่เคยรักกันลึกซึ้ง
กลับต้องห่างกันด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครเลือกเอง
...| จบบทที่ 2 |...
...ตอนที่ 3: ระหว่างเรา...ยังไม่หายไปไหน...
เสียงฝนตกกระทบหน้าต่าง
เป็นเสียงเดียวที่อยู่เป็นเพื่อนนนท์ในคืนที่เขานอนไม่หลับอีกครั้ง
ตั้งแต่วันที่ภูหายไปจากชีวิต
เขาใช้ชีวิตอย่างคนไร้จุดหมาย
ตื่นขึ้นมาด้วยความว่างเปล่า
กินข้าวเพียงเพื่อลดเสียงท้องร้อง
และนอนเพียงเพื่อหลีกหนีจากความจริง
บางครั้งเขาก็ฝันถึงภู
ฝันถึงรอยยิ้มที่เคยทำให้หัวใจเต้นแรง
ฝันถึงตอนที่มือของเขาเคยถูกจับไว้แน่นในวันที่ลำบากที่สุด
แต่ทุกครั้งที่ตื่น
ความฝันนั้นกลับหล่นหายไปพร้อมกับความจริงที่เย็นเยียบ
> “กูยังรักมึงอยู่…แล้วทำไมถึงทิ้งกันไปแบบนั้นวะ”
ประโยคที่ไม่เคยได้เอ่ยออกจากปาก
แต่ดังก้องอยู่ในใจทุกคืน
นนท์เดินไปที่โต๊ะเล็ก ๆ ริมหน้าต่าง
หยิบไดอารี่เล่มเดิมที่เขียนอะไรลงไปไม่กี่หน้า
เปิดมันออกมาช้า ๆ
ก่อนจะเขียนข้อความสั้น ๆ
> “วันที่ไม่มีมึง… มันยังเจ็บเหมือนวันแรก”
ทางด้านภู
ชีวิตของเขาดูสมบูรณ์แบบในสายตาคนอื่น
บ้านหลังใหญ่
ครอบครัวมีหน้ามีตา
ว่าที่เจ้าสาวเป็นคนสวย เรียนเก่ง ลูกนักธุรกิจใหญ่
แต่ในใจของเขากลับไม่มีอะไรเลย
เหมือนบ้านที่ตกแต่งสวยหรูแต่ไม่มีคนอยู่
“พรุ่งนี้ไปลองชุดกับน้องไหมลูก?”
เสียงแม่ของเขาถามขึ้นอย่างอารมณ์ดี
“อีกไม่กี่อาทิตย์ก็หมั้นแล้วนะ แม่ตื่นเต้นแทนเลย”
ภูพยักหน้าอย่างฝืนใจ
เขาเคยเถียง เคยขัดขืน
แต่สุดท้ายก็แพ้…แพ้ต่อความคาดหวังของคนในครอบครัว
เขาเคยคิดจะหนี
เคยคิดจะกลับไปหา “คนคนนั้น”
แต่ภาพนนท์ตอนร้องไห้วันสุดท้าย
กลับตามหลอกหลอนเขาจนไม่กล้าทำอะไรอีก
ค่ำวันเดียวกันนั้น
ภูยืนอยู่ริมระเบียงห้อง
สายฝนโปรยลงมาเบา ๆ
อากาศเย็นกำลังดีแต่ใจของเขากลับอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
โทรศัพท์ในมือเปิดแชทเก่าของนนท์
ข้อความสุดท้ายยังคงอยู่ตรงนั้น
> “ขอแค่มึงบอกความจริงกับกู…ได้ไหม”
ภูมองมันอยู่นาน
ก่อนจะพิมพ์ข้อความลงไป
> “ขอโทษ”
แต่สุดท้าย…ก็ลบมันทิ้งอีกครั้ง
วันรุ่งขึ้น
นนท์เดินเข้าไปในร้านกาแฟใกล้ที่ทำงาน
โต๊ะมุมประจำยังว่างเหมือนเดิม
แต่เขาไม่ได้มานั่งที่นี่เพราะอยากดื่มกาแฟ
เขาแค่อยากอยู่ในที่ที่ “ภู” เคยอยู่
“รับอะไรดีครับ?”
เสียงบาริสต้าเรียกเรียกให้หลุดจากภวังค์
“ลาเต้...เย็นครับ”
เขาตอบกลับไป ทั้งที่ไม่ชอบลาเต้เลยสักนิด
แต่นั่นคือเมนูโปรดของภู
เวลาผ่านไป
นนท์เริ่มกลับไปใช้ชีวิตได้ทีละนิด
เขาเริ่มหัวเราะกับเพื่อนร่วมงาน
เริ่มกลับไปอ่านหนังสือที่เคยชอบ
เริ่มนั่งแต่งเพลงอีกครั้ง
แต่ทุกครั้งที่หยิบกีตาร์ขึ้นมา
ทำนองเพลงที่ออกมากลับเศร้ากว่าที่เขาคิดไว้เสมอ
> “เพราะเธอหายไป หัวใจก็เลยหลงทาง…”
เขาเขียนประโยคนั้นลงในสมุดจด
แล้วนั่งมองมันอยู่พักใหญ่
“เพลงรักของเรากลายเป็นเพลงอกหักไปแล้วสินะ”
นนท์พูดกับตัวเอง ก่อนจะหลับตาแน่นเพื่อไล่น้ำตา
หนึ่งสัปดาห์ก่อนงานหมั้นของภู
“น้องคนนั้น…เขาเป็นไงบ้างเหรอ”
เสียงของว่าที่เจ้าสาวถามขึ้นระหว่างลองชุด
ภูชะงัก
“ใครครับ?”
“ก็...คนที่คุณเคยรัก” เธอยิ้มบาง ๆ
“ฉันไม่โกรธนะ ถ้าคุณยังลืมเขาไม่ได้”
ภูไม่ตอบอะไร
เพียงแค่ก้มหน้าลง แล้วพยายามไม่ให้ใครเห็นแววตาที่สั่นไหว
“ขอบคุณนะครับ...ที่เข้าใจ”
หญิงสาวเพียงพยักหน้า
แม้ในใจเธอจะรู้ดีว่า คนที่ยืนอยู่ข้างเธอ…ไม่เคยมองเธอเลยสักครั้ง
คืนนั้น ภูตัดสินใจทำบางอย่างที่เขาไม่กล้าทำมาตลอดหลายเดือน
เขานั่งลงหน้าจอคอมพิวเตอร์
พิมพ์อีเมลถึงนนท์
แม้จะไม่แน่ใจว่านนท์จะอ่านหรือเปล่า
แต่เขารู้แค่ว่า เขาไม่อยากเก็บมันไว้คนเดียวอีกแล้ว
> ถึงนนท์...
> กูไม่รู้จะเริ่มยังไง
แต่กูอยากให้มึงรู้ว่ากูไม่ได้เลิกกับมึงเพราะหมดรัก
กูยังรักมึง…ทุกวัน
> กูเลือกมึงไม่ได้
เพราะครอบครัวกูไม่ยอมรับมึง
และกู...มันขี้ขลาด
กูขอโทษที่ปล่อยให้มึงเจ็บอยู่ฝ่ายเดียว
> ถ้ามีชาติหน้า…
กูขอแค่เกิดเป็นคนธรรมดา
แล้วขอแค่ได้รักมึงอีกครั้ง
แบบไม่ต้องขอโทษใครอีก
> – ภู
เขากดส่ง ก่อนจะปิดคอมพิวเตอร์
ถอนหายใจออกมาเบา ๆ
รู้ดีว่า...อย่างน้อยที่สุด ก็ได้พูดในสิ่งที่เก็บไว้มาตลอด
วันรุ่งขึ้น
นนท์เปิดอีเมลเหมือนทุกวัน
และเจอข้อความจากชื่อที่เขาไม่เคยลืม
เขาอ่านมันช้า ๆ
น้ำตาไหลออกมาเงียบ ๆ
แต่คราวนี้มันไม่ใช่เพราะความเสียใจ
...มันคือการยอมรับ
> “กูไม่โกรธ…แค่อาจจะยังให้อภัยไม่ได้ตอนนี้”
นนท์พิมพ์ตอบกลับสั้น ๆ
และส่งมันไป
ไม่ใช่เพื่อให้ภูรู้สึกผิด
แต่เพื่อบอกว่าเขายังมีตัวตนอยู่…แค่ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหมือนเดิม
แม้ความรักจะจบลง
แต่ความรู้สึกจริง ๆ ไม่เคยถูกลบหายไปจากใจใครเลย
และบางครั้ง…
“คำขอโทษ”
ก็ไม่ใช่จุดจบ
แต่มันอาจเป็น “จุดเริ่มต้นของการให้อภัย”
---
...จบตอนที่ 3...
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!