เช้าวันจันทร์ สายลมต้นฤดูหนาวพัดเอื่อยผ่านสนามหญ้าในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง กลิ่นหญ้าเปียกชื้นผสมกับกลิ่นน้ำค้างยามเช้าทำให้บรรยากาศดูสงบและเย็นเยียบ วายุเดินเข้ามาในรั้วโรงเรียนอย่างเงียบงัน กระเป๋านักเรียนพาดบ่าข้างหนึ่ง เสื้อคลุมสีดำพลิ้วตามลม ใบหน้าเรียบเฉยของเขาดูจะไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
“วายุ! รอด้วยสิ” เสียงหวานใสดังจากข้างหลัง
ลิน เพื่อนสนิทของเขาตั้งแต่สมัยประถม วิ่งตามมาพร้อมรอยยิ้มสดใส ผมยาวปลิวตามแรงวิ่ง หอบเบา ๆ ก่อนจะมายืนข้างเขา
“นายไม่คิดจะหยุดรอฉันบ้างเลยเหรอ?” เธอบ่นปนหัวเราะ
วายุปรายตามองก่อนตอบสั้น ๆ “ก็เธอมาสายนี่”
ทั้งสองเดินเคียงกันผ่านสนามหน้าโรงเรียนเหมือนเช่นทุกวัน แต่ในความคุ้นเคยนั้น วันนี้กลับรู้สึกต่างออกไป
ทันใดนั้นเอง—เสียงหนึ่งแว่วมาเบา ๆ
> “วายุ…”
เด็กหนุ่มชะงัก หันมองรอบตัวทันที ไม่มีใครอยู่แถวนั้นนอกจากลิน
“เมื่อกี้เธอเรียกฉันเหรอ?” เขาหันไปถาม
“หืม? เปล่านี่” ลินขมวดคิ้ว “หรือว่านายหูฝาด?”
วายุไม่ตอบ เดินต่อไปโดยไม่พูดอะไร สายลมยังคงพัดมาเป็นระยะ ๆ เย็นเยียบกว่าปกติเล็กน้อย เขารู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมองมา แต่มองไปก็ไม่เห็นสิ่งใดนอกจากต้นไม้ที่ลู่ตามแรงลม
ในคาบเรียนแรก วายุนั่งติดหน้าต่าง เขาชอบที่ตรงนี้เพราะสามารถมองออกไปไกล ๆ ได้ บางครั้งเขาก็เหม่อจนน้ำเสียงครูกลายเป็นเสียงพื้นหลังไปเสียหมด
เขาเหลือบมองออกไปอีกครั้ง ท่ามกลางเงาไม้ที่ไหวตามลม เขากลับมองเห็นบางอย่าง
เป็นเงาคน… ยืนอยู่ใต้ต้นก้ามปูไกลออกไป
ไม่มีใบหน้า ไม่มีตัวตนชัดเจน—แค่เงาดำ
วายุกะพริบตา มองอีกครั้ง… มันว่างเปล่า
เขาสะบัดหัวเบา ๆ พยายามคิดว่าอาจเป็นภาพลวงตา หรือเขายังไม่ตื่นดี
“วายุ เป็นอะไรเหรอ?” ลินกระซิบถามข้างหู
“ไม่มีอะไร” เขาพึมพำ แล้วหันกลับไปยังสมุดจดอีกครั้ง
---
หลังเลิกเรียน ฟ้ายังไม่มืดแต่ลมก็พัดแรงกว่าทุกวัน เสียงใบไม้ไหวดังกราวตลอดทางกลับบ้านที่ทั้งสองเดินด้วยกัน
“วันนี้เงียบผิดปกตินะ” วายุพูดขึ้นเบา ๆ
ลินไม่ตอบในทันที เธอหยุดเดิน ก่อนจะพูดเสียงเบาแต่ชัด
“ถ้ามีอะไรบางอย่างกำลังเฝ้าดูเราอยู่… นายจะเชื่อมั้ย?”
วายุชะงัก เท้าหยุดลงทันที “อะไรนะ?”
ลินหันมายิ้มให้เขา ยิ้มแปลก ๆ ที่วายุไม่คุ้นเคยเลยแม้จะรู้จักเธอมาหลายปี
“ล้อเล่นน่า” เธอหัวเราะ แล้วเดินต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่ข้างในใจวายุ กลับรู้สึกหนาววาบอย่างไม่มีเหตุผล
เสียงสายลมพัดแทรกผ่านต้นไม้ แล้วก็…
> “วายุ…”
เสียงนั้นอีกแล้ว
เขาหันไปทางเสียงทันที แต่รอบตัวกลับว่างเปล่า
มีเพียงเงาของต้นไม้ที่ทอดลงบนพื้นซีเมนต์
และสายลมที่ไม่เคยหยุดพัด…
เสียงนาฬิกาปลุกจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้นเบา ๆ ท่ามกลางแสงแดดยามเช้าที่ลอดผ่านม่านหน้าต่าง ผสมกลิ่นหอมจางของใบไม้หลังฝนเมื่อคืน
รินตา ลืมตาขึ้นช้า ๆ รู้สึกถึงความสงบในเช้าวันใหม่ แต่ความสงบนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกบางอย่างในใจ... ความรู้สึกเหมือนเมื่อคืนเธอฝันอะไรบางอย่าง... แต่จำไม่ได้เลย
เธอนั่งนิ่งอยู่บนเตียง รวบผมขึ้นอย่างเคยชิน สายตาเผลอมองออกไปยังต้นก้ามปูที่ยืนตระหง่านอยู่ข้างโรงเรียน เสียงใบไม้เสียดสีกันเบา ๆ พร้อมกลิ่นสายลมที่ชวนให้หายใจลึก มันคือกลิ่นของความทรงจำ...
> “วันนี้เขาจะมาหรือเปล่านะ…”
รินตาพึมพำเบา ๆ อย่างไม่รู้ตัว ใจหนึ่งยังหวนคิดถึงเด็กชายคนนั้น คนที่เธอบังเอิญเจอที่ชั้นดาดฟ้าเมื่อวาน และอีกใจหนึ่งก็สงสัย… เขาเป็นใครกันแน่?
---
โรงเรียนมัธยมวารีวัฒนาในยามเช้าเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะของนักเรียน รินตาเดินเข้ามาในห้องเรียนอย่างเงียบ ๆ โดยมีเพื่อนสนิทอย่าง “เนย” โบกมือทักจากที่นั่งข้างหลัง
“ไงยะ นางฟ้าแห่งชั้นปี! ตื่นเช้ามาด้วยหน้าเหม่อลอยเชียวนะ เมื่อคืนฝันถึงผู้ชายหรือเปล่า~”
เนยแซวพลางหยิบขนมปังออกมาจากกล่องข้าวเช้า
รินตาหัวเราะเบา ๆ แต่ไม่ตอบอะไร เธอเพียงมองออกไปยังท้องฟ้าผ่านหน้าต่างด้านข้าง มันเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้
---
พักเที่ยง...
รินตาเดินเลี่ยงจากโรงอาหารไปยังตึกเก่า ตึกเรียนที่ปิดไม่ให้ใช้มาหลายปีแล้วเพราะโครงสร้างทรุดโทรม แต่ก็มีบางมุมที่ยังเงียบสงบและปลอดภัยพอให้เธอมาใช้เวลาคนเดียว
ขณะเดินผ่านสวนหลังตึก เธอก็ได้ยินเสียงบางอย่าง... เสียงดนตรี?
เสียงนั้นดังมาจากชั้นบนสุดของตึก มันแผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยอารมณ์เศร้าสร้อย รินตาเดินตามเสียงอย่างไม่รู้ตัว และเมื่อเธอเปิดประตูห้องดนตรีเก่า…
> เขาอยู่ที่นั่น — ยืนอยู่หน้าเปียโนเก่า ราวกับกำลังฝึกเล่นบทเพลงที่ไม่มีชื่อ
เด็กชายคนนั้น…
---
“เธอตามฉันมาเหรอ”
เขาพูดขึ้น โดยไม่หันกลับมามอง
“เปล่านะ… ฉันแค่เดินผ่านมา แล้วได้ยินเสียง…”
รินตาตอบเบา ๆ ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปในห้อง
“เพลงที่เธอเล่น… เหมือนฉันเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน…”
เธอพูดออกมาทั้งที่ไม่แน่ใจจริง ๆ ว่าเคยได้ยินมันที่ไหน
เด็กชายคนนั้นนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหยุดมือจากแป้นเปียโน
เขาหันกลับมามองเธอ สายตาของเขามีบางอย่างที่ลึกล้ำ ราวกับรู้จักเธอมานานแล้ว
“บางที… เธออาจเคยได้ยินมันจากในความฝัน”
เขาพูดเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงที่แทบเป็นกระซิบ
รินตาสะดุ้งเล็กน้อย
> ใช่… คำว่า “ความฝัน” นั่นเองที่จุดประกายบางอย่างในใจเธอ
---
เด็กชายคนนั้นชื่อ “คีตา”
เขาบอกว่าเขาเรียนอยู่ที่นี่ แต่ไม่เคยเข้าห้องเรียน เพราะเขาชอบอยู่ในเงาของสายลม… บนดาดฟ้า เงียบสงบ ไม่มีใครรบกวน
รินตาฟังเขาเล่าเรื่องอย่างตั้งใจ ทั้งที่บางประโยคฟังดูแปลก บางคำดูคลุมเครือ แต่เธอกลับรู้สึกอบอุ่น และสงบ เมื่ออยู่ใกล้เขา
> มีอะไรบางอย่างในตัวคีตา ที่ทำให้รินตาอยากรู้จักมากขึ้น
“เธอ… ไม่เคยรู้สึกไหมว่า บางครั้ง ลมก็พูดได้”
คีตาถามขึ้นขณะมองออกไปยังสวนด้านหลัง
“พูดอะไรเหรอ…” รินตาถามกลับอย่างไม่เข้าใจ
“ก็พูดในสิ่งที่เราไม่กล้าพูดออกไป… หรือบางครั้ง ก็เตือนเรา ถึงบางอย่างที่เราลืมไปแล้ว”
เขาหันมายิ้มบาง ๆ ให้เธอ ก่อนจะวางมือบนเปียโนอีกครั้ง
> ดนตรีดังขึ้นอีกครั้ง… คราวนี้ทำนองมันเศร้ายิ่งกว่าเดิม แต่กลับรู้สึกเหมือนกอดเธอไว้เบา ๆ
---
ก่อนรินตาจะกลับไปเรียน คีตายื่นสิ่งหนึ่งให้เธอ
มันคือกระดาษโน้ตแผ่นเล็ก ๆ ที่มีตัวโน้ตเพียงไม่กี่ตัว
“ลองเล่นมันดู… ถ้าเธอฟังดี ๆ อาจจะได้ยินเสียงของสายลมจริง ๆ ก็ได้”
เขาพูดพลางเดินจากไป ทิ้งรินตาไว้กับคำถามในหัวมากมาย
---
เย็นวันนั้น รินตากลับถึงบ้าน พร้อมความรู้สึกแปลกประหลาดในใจ เธอหยิบโน้ตดนตรีที่คีตาให้ขึ้นมา พยายามฮัมทำนองเบา ๆ ตามตัวโน้ต
ทันใดนั้นเอง — ลมก็พัดผ่านหน้าต่างเข้ามาอย่างแรง
กลิ่นหอมของกุหลาบแห้งจาง ๆ ลอยมากับสายลม
และในวินาทีนั้น เธอรู้สึกเหมือนเสียงของลมกำลังกระซิบบางอย่างข้างหูเธอ
เสียงนั้นไม่ใช่คำพูด แต่เป็นความรู้สึก…
> ความรู้สึกว่า...เธอกำลังจะได้ค้นพบความลับบางอย่าง ที่เกี่ยวข้องกับเขา กับโรงเรียนแห่งนี้ และกับตัวเธอเอง
---
เสียงระฆังเลิกเรียนดังขึ้นท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเย็นที่ทอดเงายาวไปตามระเบียงอาคารเรียน รินตาเก็บของลงกระเป๋าช้า ๆ ใจยังคงวนเวียนอยู่กับบทเพลงที่คีตาทิ้งไว้ให้เมื่อวาน และกลิ่นกุหลาบแห้งจาง ๆ ที่พัดมากับลมอย่างไม่มีที่มา
“วันนี้กลับยังไงอะ เดี๋ยวเราเดินไปส่งไหม?”
เนยถามพลางโบกพัดขนมรูปหัวใจในมือไปมา
“เรา…ขอเดินเล่นแป๊บนึงก่อนนะ อยากอยู่เงียบ ๆ”
รินตายิ้มบาง ๆ ขอโทษเพื่อน
เนยมองเธอด้วยสายตากังวลเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
---
หลังจากแยกกับเนย รินตาก็เดินกลับไปยังสวนหลังตึกเรียนเก่าอีกครั้ง ที่เดิม ที่เงียบสงบที่สุดในโรงเรียน
แสงสีส้มทองของยามเย็นตกกระทบใบไม้ ทำให้ทุกรายละเอียดดูนุ่มนวลและเงียบงัน
ขณะที่เดินผ่านต้นไม้ใหญ่ รินตาได้ยินเสียงบางอย่างดังแว่ว…
เสียง “กิ่งไม้กระทบกันเบา ๆ” ดังเป็นจังหวะคล้ายเสียงกระซิบ
เธอหยุดยืน ฟังนิ่ง ๆ และสัมผัสได้ว่าเสียงนั้นไม่ได้มาจากลมธรรมดา แต่มันราวกับ “กำลังพูดอะไรบางอย่าง”
> "จำได้ไหม… จำสิ… ก่อนที่ทุกอย่างจะหายไป"
เสียงนั้นดังในหัว รินตาขนลุกเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้รู้สึกกลัว
กลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด เหมือนเคยได้ยินประโยคนั้น… แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไร
---
รินตาเดินตามทางไปยังตึกดนตรีเก่า แต่วันนี้ห้องบนสุดกลับถูกล็อกด้วยโซ่เก่า ๆ
“ปิดปรับปรุง” เขียนไว้ด้วยลายมือจาง ๆ บนกระดาษเก่า
> “เมื่อวานยังเข้าได้อยู่เลย…”
เธอรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้ฝืนเปิด เธอเพียงแค่นั่งลงที่บันไดด้านหน้าห้อง
หยิบโน้ตดนตรีจากกระเป๋า แล้วค่อย ๆ ฮัมทำนองเบา ๆ ตามที่คีตาให้ไว้
เสียงฮัมนั้นค่อย ๆ ผสมเข้ากับเสียงลมที่พัดลอดหน้าต่าง
และในชั่วขณะหนึ่ง เธอได้ยินเสียงเปียโนแผ่วเบาดังมาจากข้างใน… ทั้งที่ห้องถูกล็อก
เธอสะดุ้ง รีบลุกขึ้น แล้วแนบหูไปที่ประตู
“...เป็นเธออีกแล้วเหรอ...”
เสียงของคีตาดังลอดออกมา — เบาและชัดเจน
แม้ประตูจะปิดสนิท แต่ราวกับเขายืนอยู่ตรงหน้า
> “คีตา… นายอยู่ข้างในเหรอ?”
เงียบ…
แล้วจู่ ๆ เสียงนั้นก็ตอบกลับ
“อย่าไว้ใจทุกเสียงที่เธอได้ยินนะ… เพราะไม่ใช่ทุกเสียงที่มาจากความจริง”
---
รินตาถอยออกมาอย่างงงงัน หัวใจเต้นแรง เธอรู้สึกสับสนระหว่างความจริงกับความฝัน
แต่ก่อนที่เธอจะทันพูดอะไรต่อ เสียงฝีเท้าก็แทรกเข้ามา
“เธอมาทำอะไรที่นี่”
เสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลัง
รินตาหันกลับไป พบกับหญิงสาวคนหนึ่งสวมชุดนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน แต่ผมยาวสีดำขลับ และท่าทางเย็นชา
“เอ่อ… ฉัน…มาหาเพื่อนน่ะ”
รินตาตอบลังเล ๆ
หญิงสาวคนนั้นมองเธออย่างพิจารณา ก่อนพูดขึ้น
“ถ้าเธอหมายถึง ‘คีตา’ ล่ะก็… เขาไม่ได้อยู่ที่นี่มานานแล้ว”
---
รินตาชะงัก
“หมายความว่ายังไง… เขาเล่นเปียโนที่นี่เมื่อวาน แล้วก็…”
หญิงสาวส่ายหน้า
“คีตาเคยอยู่ที่นี่… แต่เขาหายตัวไปเมื่อสองปีก่อน หลังจากเกิดเหตุการณ์บนดาดฟ้า”
“ไม่มีใครเจอเขาอีกเลย”
รินตาเบิกตากว้าง สมองหมุนเร็วแต่หัวใจกลับช้า
คีตา...หายตัวไป?
แต่เธอเพิ่งเจอเขาเมื่อวาน ได้ยินเสียงเขา ได้พูดคุย ได้รับโน้ตจากเขา
หญิงสาวคนนั้นพูดต่อ
“มีข่าวลือว่าเขายังวนเวียนอยู่ในโรงเรียน…เหมือนเงาที่มากับสายลม…”
“แต่ถ้าเธอยังอยากรู้จักเขา… ก็จงระวังใจตัวเองไว้ให้ดี”
---
วันต่อมา...
รินตาไม่ไปเรียน เธอขอหยุดหนึ่งวัน นั่งเงียบ ๆ ในห้อง พร้อมเปิดกล่องไม้เก่าที่อยู่บนโต๊ะมานาน
กล่องนั้นเธอจำได้ว่าเป็นของแม่ — ของที่ห้ามเปิดจนกว่าจะ “จำบางอย่างได้”
วันนี้เธอเปิดมันออก…
ข้างในมีแผ่นโน้ตเพลงเปล่า ๆ อยู่แผ่นหนึ่ง และรูปถ่ายเก่าของเด็กชายคนหนึ่งในชุดนักเรียนดนตรี
ใบหน้าคุ้นเคยเหลือเกิน… ราวกับเป็นคนเดียวกับที่เธอพบเมื่อวาน
ข้างหลังรูปมีลายมือเล็ก ๆ เขียนไว้ว่า
> “ถึงรินตา — หากวันหนึ่งเธอจำฉันไม่ได้ ก็ให้สายลมพาเรากลับมาพบกันอีกครั้ง”
— คีตา
---
รินตานิ่งงัน มือสั่น
ในที่สุด... ความจริงบางส่วนเริ่มปรากฏชัด
เธอกับเขาเคยรู้จักกันมาก่อน
บางทีอาจเคยเป็นเพื่อน หรือมากกว่านั้น — แต่เธอกลับลืมเขาไป
และเขาก็ยังรออยู่…
ในเงาของสายลม
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!