"เท็น!"
. ชายหนุ่มเสียงกังวานตวาดผู้เป็นเจ้าของชื่อดังลั่น โทสะทั้งหมดบันดาลลงใส่อย่างไม่ยั้ง ฝ่ามือร้ายจับข้อมือที่เล็กกว่า เขาจับบีบแน่น ทว่ากลับไม่มีเสียงร้องขอความเห็นใจหรือโอดครวญ สายตาเย้ยหยันแข็งกร้าวจ้องมองกลับอย่างไม่ยอมแพ้ผู้เป็นเจ้าของชื่อ ท้าทายอำนาจมืดทั้งที่ภายในใจกวาดหวั่น
. เขารู้ว่าคนตรงหน้าโหดร้ายเพียงใด ถ้ายิ่งอ่อนข้อก็ยิ่งได้ใจ ถ้ายิ่งยอมแพ้ก็จะกลายเป็นแค่ของเล่นที่นึกสนุก "ครับ" ริมฝีปากเล็กกระตุกยิ้ม....เขาไม่ใช่เด็กที่ทำอะไรไม่เป็นเหมือนสามปีก่อน และเขาก็ไม่ใช่เด็กอายุสิบหกที่ต้องเอาแต่พึ่งพาคนอื่น
. สามปี.....สามปีที่เขาแปรเปลี่ยนเป็นคนใหม่ เขาสูญเสียทุกอย่างในชีวิตกลายเป็นที่ติฉินนินทา และกลายเป็น 'พ่อ' ในวัยที่ไม่ควร 'เหนือ' ละมือออกจากอีกฝ่าย
. ท่าที่ขึงขังแปรเปลี่ยน เขายกมือขึ้นอย่างยอมแพ้ ก่อนที่จะเข้าไปนั่งบนโซฟาตัวเก่าสีน้ำตาล ไม่จำเป็นที่จะต้องรีบร้อน ไม่ว่าเท็นต้องการแบบไหนก็ไม่อาจมีทางเลือกไปมากกว่าหนึ่งได้ ทางเลือกมีแค่เพียงอย่างเดียว.....คือต้องไปอยู่ในฐานะผู้ให้กำเนิดลูก
. เอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาเดินเข้ามาเป็นอาคันตุกะที่ไม่ได้รับเชิญถูกโยนไปให้อีกฝั่ง มันอยู่ในสายตาที่เท็นจะมองเห็นได้
. "บอกฉันสิ ว่านายจะโกหกยังไง"
. เอกสารที่บ่งบอกถึงสถานะ....เท็นไม่ใช่ พ่อ แต่เป็น แม่
. "มันเป็นเรื่องของคุณ คุณอยากจะคิดยังไงมันก็เรื่องของคุณ ออกไปจากห้องผมได้แล้ว"
. เท็นเบนสายตามองครู่หนึ่งก่อนหันกลับไปสบตามองปกติ ทำเหมือนไม่ได้เห็นสิ่งที่ผู้ชายคนนี้ยื่นมาให้ เขาไม่สนใจ ไม่ได้ติดใจอะไร ถึงจะไม่เคยอยู่ร่วมบ้าน หรือใช้ชีวิตร่วมกันก็พอที่จะรู้อยู่แล้วเขามีอำนาจ มีเงิน สามารถทำทุกอย่างได้ตามใจปรารถนา มันไม่ได้ยากถ้าจะสืบเรื่องของคนคนหนึ่ง
. "ฉันจะออกไป ก็ต่อเมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการ ทั้งนาย...."
. เหนือลุกยืนเต็มความสูง สองมือยกขึ้นกอดอกตัวเอง
. "และลูก"
. แน่นอนว่าเท็นไม่สามารถปฏิเสธได้ ในเมื่อเขาต้องการ อีกฝ่ายก็ต้องยอม
. "ผมไม่ให้! ออกไปซะ!"
. เท็นหมดความอดทนกับความหน้าด้าน ที่ไม่ว่าไล่ยังไงก็ไม่ไป นึกอยากลากผู้ชายตรงหน้าโยนออกไปนอกห้อง แต่ด้วยแรงที่แตกต่าง สภานะที่ไม่อาจสู้ได้ เขาจำต้องเก็บความโกรธเคืองไว้ในอก
. คนโง่คือคนบ้า เท็นไม่อยากเป็นคนโง่ที่เอาไม้จิ้มฟันไปงัดท่อนซุงใหญ่ถ้ายิ่งเผชิญหน้าก็คงมีแต่เสียกับเสีย ในเมื่อไม่อาจหนีพ้นก็จำต้องเผชิญหน้ากับมัน ช่วงสามปี ที่เท็นยอมเข้มแข็งขึ้น เขาไม่มีทางยอมให้เหนือชุบมือเปิดคิดแย่งลูกไปจากเขาได้!
. . .
. ในรั้วโรงเรียนอนุบาล
. โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนที่สอนเฉพาะเด็กเล็กก่อนที่จะเริ่มต้นเข้าชั้นอนุบาล ตั้งแต่หนึ่งขวบถึงสามขวบ แบ่งเป็นสามชั้นปี ปีละสามห้อง แต่ละห้องก็มีชื่อเรียกต่างๆกันไป สิ่งที่เหมือนกันคือชื่อห้องจะเป็นดอกไม้
. ในชั้นเลี้ยงเด็กเล็กปีที่สาม ห้องทานตะวัน...เสียงเด็กเจื้อยแจ้วเล่นกันสนุกสนานตามประสาเด็กที่กำลังเจริญเติบโต โดยมีครูพี่เลี้ยงคอยดูแล บนโต๊ะขนาดเล็กมีสมุดภาพวาดตัวการ์ตูนรูปสัตว์ เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีจินตนาการ ข้างหนังสือก็เป็นดินสอสีหลากหลาย ฝ่ามือเด็กน้อยในวัยซุกซนต่างถูกแต่งแต้มไปด้วยสีเหล่านั้น ความเป็นเด็กที่ไม่รู้จักระวังทำให้ไปโดนเสื้อผ้า
. จนกระทั่งถึงเวลาเลิกเรียน เด็กๆ ทุกคนจะต้องรออยู่ในห้อง เพื่อรอให้ผู้ปกครองมารับ โดยครูพี่เลี้ยงจะอยู่รอจนกว่าจะได้กลับกันหมดด้วยเช่นกัน
. เวลาล่วงเลยไปจนเกือบสี่โมงครึ่ง เด็กที่อยู่ในห้องต่างทยอยกลับกันหมดแล้ว ก็เหลือเพียงเด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งที่ยังคงสพายกระเป๋านั่งรอผู้ปกครองมารับ
. " น้องพบ^^"ครูพี่เลี้ยงเอ่ยเรียกขานชื่อ คนถูกเรียกหันมามองตาแป๋ว
พบพาน คือชื่อของเขา เป็นแค่ชื่อเล่นที่เอาไว้เรียก...ดวงตากลมโต ดำ ขลับ แลดูน่ารัก ริมฝีปากกระจับสีชมพูอ่อน ผิวพรรณที่ขาวเหมือนนม ใบหน้าดูราวกับเด็กผู้หญิงมากกว่าเด็กผู้ชาย
. "ระหว่างรอคุณพ่อ น้องพบอยากให้ครูอ่านนิทานให้ฟังไหมจ๊ะ^^"
. ครูพี่เลี้ยงเสนอขึ้น เพราะผู้ปกครองของเด็กตรงหน้ามักมาช้ากว่าผู้ปกครองคนอื่นอยู่เสมอ ด้วยหน้าที่การงานที่ค่อนข้างยุ่งพอสมควร กว่าจะมารับตัวก็ตกเย็นแล้ว ช่วงระหว่างนี้เธอไม่อยากให้เด็กน้อยต้องรู้สึกเหงา หาอะไรฆ่าเวลาพลางเผื่อว่าเด็กน้อยจะหลงลืมเวลาที่ต้องรอคอยไปบ้าง
. "ฮับ~"
. 'วรุณ'ฉีกยิ้มกว้าง เขาลุกไปหยิบนิทานเรื่องหนึ่งที่อยู่ตรงชั้นด้านหลัง เลือกเรื่องที่ดูน่าสนใจที่สุดก่อนจะวิ่งไปหาครูพี่เลี้ยง
. การเอานิทานมาล่อเด็กมันได้ผลดีเลยทีเดียว ผ่านไปไม่เท่าไหร่กว่านิทานจะจบเล่มก็ปาไปถึงห้าโมงครึ่งแล้ว วรุณหาวหวอดเมื่อหนังสือเปิดมาถึงหน้าสุดท้ายเขารู้สึกง่วงจนต้องขยี้ตา ดวงตาที่เคยสดใสเริ่มปิดลงอย่างช้าๆและคงเพราะอยู่ในท่านอนคว่ำเลยยิ่งทำให้ความง่วงยิ่งถาโถมเข้ามามากกว่าปกติ ท้ายที่สุดแล้ววรุณก็ไม่อาจฝืนความง่วงได้ไหว เด็กน้อยจึงได้เผลอหลับไปอีกรอบหนึ่ง
. . .
. ตุบ! ตุบ! ตุบ!
. เสียงฝีเท้าคู่หนึ่งดังขึ้นตามทางเดินกระเบื้อง ผู้วิ่งมีใบหน้าเหนื่อยหอบอย่างเห็นได้ชัด เขามองนาฬิกาที่ตอนนี้ล่วงเลยเวลามามาก ด้วยงานที่ยืดเยื้อทำให้เขาไม่สามารถละตัวออกมาได้ กว่าจะเดินทางมาถึงที่โรงเรียนก็ทำเอาเสียเวลาไปมาก
. พอวิ่งมาถึงห้องทานตะวัน....
. เขายืนหอบนิดหน่อยพลางมองลูกน้อยที่ตอนนี้กำลังนอนหลับสบายอารมณ์
. "อ้าว มาแล้วหรอคะคุณเท็น^^"ครูพี่เลี้ยงเอ่ยทัก เธอยิ้มให้กับผู้ปกครองตรงหน้าที่ยังคงดูหนุ่มแน่น
. เท็นพยักหน้ารับ เขากลืนน้ำลายลงคอก่อนจะถอดรองเท้าเพื่อเข้าไปดูลูกชายที่อยู่ด้านใน
. "ขอบคุณครับครูที่ดูแล"
. "ไม่เป็นไรจ่ะ"
. เธอยิ้มอย่างเป็นมิตร เธอเข้าใจดีว่าเท็นต้องลำบากขนาดไหนที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว นับว่าเป็นพ่อคนที่มีความรับผิดชอบ เท่าที่เธอรู้เท็นมีลูกตั้งแต่อยู่ชั้นมัธยมปลาย ทั้งที่ยังเป็นเพียงแค่เด็กอายุไม่ถึงยี่สิบแต่กลับมีภาระมากกว่าคนอื่น เธอนึกชื่นชมที่อย่างน้อยเท็นก็ไม่ทำเรื่องโง่ๆ
. "พบ"เท็นเขย่าเรียกชื่อคนหลับใหลสองสามครั้งจนคนที่ถูกปลุกลุกขึ้นนั่งงัวเงีย
. "ป๊ะป๋า"
. พอเห็นว่าเป็นใครมาปลุก วรุณถึงกับโผเข้ากอด
. "ป๊ะป๋าขอโทษนะครับที่ป๊ะป๋ามาช้า"คนทำผิดเอ่ยขอโทษ เขาหอมแก้มนิ่มของเด็กน้อย จนวรุณหัวเราะคิกคักตามประสาเด็ก วรุณไม่ได้คิดมากเรื่องที่เท็นมาช้า เขายังเป็นแค่เด็กน้อยจึงไม่เข้าใจโลกของผู้ใหญ่ วรุณแค่อยากเจอหน้าเท็นจึงได้อดทนรอก็เท่านั้น
. "กลับบ้านกันเถอะ"
. "ฮับ"เด็กชายขานรับแล้วลุกขึ้นหยิบกระเป๋าเป้สะพายหลังที่ถูกวางไว้ข้างตัว
. เท็นไปลาครูพี่เลี้ยง เขาจูงมือวรุณออกจากห้อง ด้วยฐานะที่ไม่สู้ดีนัก ต้องหาเช้ากินค่ำ ทำให้เท็นมีแค่รถจักรยานยนต์ฟีโน่คันสีฟ้าเป็นเพื่อนคู่ใจไปไหนมาไหน
. โชคดีที่บ้านอยู่ไม่ไกลกับโรงเรียนอนุบาลมากนัก ผ่านไปไม่ถึงสิบห้านาที เท็นก็พาคนขี้เซามาถึงบ้าน เด็กชายยังคงง่วงไม่หาย ตลอดระยะทางเขาหาวหวอดๆ เอามือขยี้ตาจนแดง หน้าแดง แก้มแดงไปหมด
. ทันทีที่มาถึงบ้านเขาจัดแจงให้วรุณอาบน้ำอาบท่าเพื่อเตรียมตัวทานอาหารเย็นง่ายๆ ที่เขาต้องเป็นคนทำ เดิมทีแล้วเท็นไม่ค่อยถนัดเรื่องการทำอาหารสักเท่าไหร่ แต่ตลอดระยะเวลาสามปีที่เขาเลี้ยงดูลูกก็กลายเป็นเรื่องที่ต้องทำอย่างช่วยไม่ได้
. จากที่ไม่ชอบก็ต้องชอบ จากที่ไม่เคยก็ต้องหัด
. "วันนี้ป๊ะป๋าทำไข่ตุ๋นให้น้องพบนะครับ"
. ไข่ตุ๋นง่ายๆ ถูกวางลงตรงหน้า วรุณน้ำลายสอมองอาหารที่อยู่ในชามเขารอจนเท็นตักข้าวเสร็จถึงได้ลงมือทานบ้าง
. นอกจากไข่ตุ๋นที่ผู้เป็นพ่อทำให้ลูกชายแล้ว เท็นก็ยังทำอาหารอีกหนึ่งอย่างเป็นผัดพริกแกงเพื่อเป็นของตัวเอง เพราะอยู่กันแค่สองคน ดังนั้นเขาจึงไม่คิดที่จะทำอะไรมาก เอาแค่พอทานอิ่มเท่านั้นจะได้ไม่เหลือเสียดายของ
. "ป๊ะป๋า พบป้อน"วรุณเอื้อมมือยื่นเข้าหาคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ในช้อนของเด็กมีข้าวกับไข่ตุ๋นร้อนๆ อยู่"ป๊ะป๋ากินเยอะๆ จะได้โตเร็วๆ"
. วรุณพูดด้วยสีหน้าที่ไร้เดียงสาจนเท็นอดหัวเราะออกมาไม่ได้ ลูกชายของเขาช่างน่ารักจริงๆ
. "ป๊ะป๋าโตแล้วนะครับ"
. ถึงตะพูดอย่างนั้นแต่เขาก็ยอมทานอาหารที่ลูกชายตักให้อยู่ดี
. "ป๊ะป๋าไม่โตสักหน่อย ป๊ะปึตัวเล็กนิดเดียวเอง"วรุณพูดไม่คิด เขาเคยเห็นผู้ปกครองคนอื่นของบรรดาเพื่อนๆ คนพวกนั้นตัวใหญ่กว่าพ่อของเขาเสียอีก
. "ครับๆ ป๊ะป๋าจะกินเยอะไป ตามที่น้องพบต้องการ ดีมั้ย?"เท็นไม่พูดเปล่า เขาเอื้อมมือไปเช็ดคราบอาหารที่เลอะตรงขอบปากสีอ่อน เขามองใบหน้าเล็กนั่นแล้วก็พาลทำเอาความเหนื่อยยากจากการทำงานหายเป็นปลิดทิ้ง
วรุณคือทุกอย่างของเขา
. . .
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!