แสงแดดยามสายส่องผ่านผ้าม่านเก่าๆ ของห้องพักเบอร์ 306 บนชั้นสามของ “หอพักสุธาวดี” ย่านลาดปลาดุก วาโยธารา “ธามไท” เด็กหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ เพิ่งเก็บของเข้าห้องใหม่เสร็จหลังย้ายออกจากบ้านแม่มาอยู่คนเดียวครั้งแรก
“ในที่สุดก็ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่สักที...” เขาพึมพำขณะทิ้งตัวลงบนเตียง
มือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านข้อความจาก “ป้าธารา” เพื่อนแม่ที่แนะนำหอพักแห่งนี้ให้
“หอพักสุธาวดีนะลูก มีเด็กฝึกงานอยู่เยอะ คนดูแลก็เป็นกันเอง ลองไปอยู่ดู”
“ชื่อแปลกดีแฮะ...แต่ถ้ามีสาวๆ อยู่เยอะก็คุ้มล่ะวะ” ธามไทหัวเราะเบาๆ
เมื่อจัดของเรียบร้อย เขาก็เดินลงไปสำรวจห้องใต้ถุนหอ เห็นป้ายไม้เล็กๆ เขียนว่า “โซนพักผ่อน – ห้องเกม & ร้านน้ำ”
บรรยากาศชวนให้คิดถึงร้านเกมยุค 2000 มีตู้เกมเรียงราย มีเด็กวัยรุ่นนั่งกดบังคับกันอย่างเมามัน
เสียงตู้เกม “สปีดเรซซิ่ง 5D” ดังขึ้นจากมุมหนึ่ง พร้อมเสียงตะโกนของหญิงสาว
“อีกนิดเดียว...อีกนิดเดียว!!”
ธามไทเดินไปมองอย่างสนใจ เห็นสาวคนหนึ่งนั่งหลังขดหลังแข็ง ตาแทบไม่กะพริบ
เธอใส่เสื้อโปโลสีชมพูอ่อนติดชื่อ “วาริณ” ห้อยป้าย “ผู้ช่วยดูแลหอ” รูปร่างสมส่วน ผิวสีน้ำผึ้ง ผมยาวมัดหางม้า ดูทะมัดทะแมงแบบมีเสน่ห์
“ให้ตายสิ เกมบ้าอะไรยากชะมัด!” เธอบ่นแล้วล้วงกระเป๋าหยิบโทเคนขึ้นมา
ขณะที่เธอกำลังหยอดเหรียญเข้าเครื่อง ธามไทก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างวาววับอยู่ใต้ตู้เกม
“อันนั้นมัน...อะไรเนี่ย”
เขาก้มลงเก็บคริสตัลสีฟ้าใสขึ้นมา ก่อนจะรู้สึกมึนงงทันที
“อื้อ...ทำไมรู้สึกมึนหัวแบบนี้”
“เฮ้ย!! อย่าไปจับมัน!!” เสียงวาริณดังขึ้นอย่างตกใจ
“เอ่อ...ผมแค่เก็บขึ้นมา มันตกอยู่ตรงนี้น่ะครับ”
เธอรีบวิ่งเข้ามาคว้าไปจากมือเขา สีหน้าดูซีเรียสกว่าตอนเล่นเกมเยอะ
“เวรแล้ว...ฉันทำหล่นตอนเข้าห้องน้ำแน่เลย” เธอมองไปรอบๆ
“ไม่มีใครเห็นใช่มั้ยเนี้ย”
“ไม่น่ามีครับ มันกลิ้งเข้าไปลึกอยู่”
“ดี...งั้นตามฉันมาเดี๋ยวนี้”
ธามไทยังไม่ทันได้พูดอะไร วาริณก็ลากเขาไปยังห้องพักพนักงานด้านใน ล็อกประตูฉับ
“เดี๋ยวสิครับ! อะไรของคุณเนี่ย!”
จู่ๆ เธอก็พุ่งเข้ามากดเขาลงกับโซฟา มือเร็วราวกับนักยูโด
“ขอโทษนะ แต่นายแตะต้องของต้องห้ามเข้าไปแล้ว”
เธอหยิบเชือกจากใต้โต๊ะมัดมือและข้อเท้าเขาไว้อย่างแน่นหนา
ธามไทดิ้นไปมาอย่างงุนงง
“อะไรของคุณเนี่ย! ตำรวจก็ไม่ใช่!”
วาริณนั่งลงถอนหายใจ
“นายโชคร้าย...แล้วก็โชคดีในเวลาเดียวกัน”
“คริสตัลนั่นมันคืออะไรกันแน่”
“มันคือ ‘อัญมณีจิต’ ของฉัน เก็บพลังเวทไว้ คนธรรมดาแตะต้องจะรู้สึกคลื่นพลังบางอย่างทันที”
“อ้อ...แบบนี้นี่เอง”
“เข้าใจง่ายจังนะ! นายไม่กลัวหรือแปลกใจเลยหรือไง”
“จะให้บอกมั้ย...ว่าผมก็ไม่ใช่คนธรรมดา”
“อย่าบอกนะว่านาย...ก็”
“ใช่ครับ ผมเป็นลูกครึ่ง...พรายน้ำ”
เธอนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง
“โม้รึเปล่า ผู้ชายที่เป็นพรายน้ำน่ะหายากจะตาย”
“ผมพูดความจริง ถึงจะยังใช้พลังไม่ค่อยได้ แต่ผมรู้สึกได้ว่าร่างกายผมไม่เหมือนคนทั่วไป”
“พิสูจน์สิ ใช้พลังให้ดูหน่อย”
“ตอนนี้ยังใช้ไม่ได้...ยังควบคุมมันไม่ดีพอ”
วาริณถอนหายใจ ก่อนจะยื่นแก้วน้ำมาให้
“เอ้านี่...น้ำส้มสูตรเฉพาะของฉัน ดื่มแล้วจะรู้สึกดีขึ้น”
“แน่ใจนะว่าไม่ได้แอบใส่อะไรลงไปอ่ะ”
“ไม่หรอกน่า” วาริณอมยิ้ม
หลังจากดื่มเข้าไป ธามไทเริ่มรู้สึกดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
วาริณหยิบผ้าเย็นมาโปะหน้าผากเขา
“ขอโทษที่มัดนายแบบนั้น ฉันแค่ตกใจน่ะ”
“ไม่เป็นไร ผมเข้าใจดี ถ้าเป็นผม ก็คงทำไม่ต่างจากคุณหรอก”
“ฉันชื่อวาริณ ทำงานอยู่ที่นี่บ่ายถึงค่ำทุกวัน”
“ผมชื่อธามไท...ยินดีที่ได้รู้จัก”
เขาทอดสายตามองหญิงสาวตรงหน้า
“คุณเป็น...อะไรนะ! อควาเรียส ไฮเชด ใช่มะ”
“ใช่...อควาเรียส ไฮเชด พวกเราเป็นพรายน้ำขั้นสูง”
“ไฮเชดนี่คือระดับที่เหนือกว่าใช่มั้ย”
“ถูกต้อง ไฮเชดเป็นพรายน้ำที่วิวัฒน์แล้ว มีพลังเวทที่ควบคุมยาก ถ้าใช้ไม่เป็นจะเกิดความเสียหายร้ายแรง”
“เอ๋...งั้นคริสตัลนั่นเอาไว้เก็บพลังงั้นเหรอ”
“ใช่ เราเก็บพลังบางส่วนไว้ในอัญมณี เพื่อไม่ให้พลังเวทกลืนกินร่างกายของเราเอง”
ธามไทพยักหน้าเข้าใจ
“โลกนี้มีอะไรอีกเยอะจริงๆ”
วาริณยิ้มกว้างขึ้น
“ถ้านายอยากรู้ ฉันยินดีจะสอนให้นะ...ถือว่าเป็นการไถ่โทษ”
“โอเค! ครูฝึกวาริณ...ผมพร้อมที่จะเรียนรู้แล้วครับ!”
...(โปรดติดตามตอนต่อไป...)...
เช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นพร้อมแสงแดดอ่อนๆ ที่ลอดผ่านผ้าม่านเก่าในห้องพักเบอร์ 306 ธามไทพลิกตัวตื่นขึ้นอย่างเชื่องช้า รู้สึกได้ถึงอาการมึนศีรษะเล็กน้อยจากเหตุการณ์เมื่อวาน พลังเวทที่ซ่อนอยู่ในตัวเขาถูกปลุกขึ้นโดยไม่ตั้งใจ และแม้จะนอนไปทั้งคืน เขาก็ยังรู้สึกว่ามีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไปในร่างกาย
เสียงเคาะประตูดังขึ้นทันที ตามด้วยเสียงคุ้นเคยของหญิงสาวที่ตอนนี้ดูจะมีบทบาทมากกว่าผู้ช่วยหอพักธรรมดาๆ
"ตื่นรึยังธามไท! ลงมาเดี๋ยวนี้!"
“ครับๆ กำลังไปแล้วครับ!” เขาตอบกลับอย่างงัวเงีย คว้าเสื้อยืดมาสวมแล้วเดินไปเปิดประตู
วาริณยืนเท้าเอวอยู่หน้าห้อง สายตาของเธอจ้องมองเขาอย่างพิจารณาเหมือนกำลังชั่งน้ำหนักอะไรบางอย่าง
“เมื่อคืนหลับสนิทมั้ยล่ะ” เธอถามเสียงเรียบ
“ก็...ครับ แค่ฝันแปลกๆ เหมือนเห็นคลื่นแสงสีฟ้าท่วมตัวเอง”
วาริณพยักหน้าอย่างเข้าใจ “นั่นแหละคือสัญญาณ ร่างกายนายเริ่มตอบสนองต่อพลังเวทของพรายน้ำแล้ว”
“แล้วมันเป็นเรื่องดีหรือเปล่าครับ”
“ขึ้นอยู่กับว่านายจะควบคุมมันได้แค่ไหน” เธอเว้นจังหวะเล็กน้อย “ถ้านายพร้อม ฉันจะพาไปที่ ‘ห้องฝึกพลัง’ ใต้หอพัก”
“ใต้หอมีห้องฝึกด้วยเหรอ” ธามไทเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ
“แน่นอน นายคิดว่าเราจะซ่อนอัญมณีเวทไว้ตรงล็อกเกอร์หน้าห้องหรือไงกัน” เธอหัวเราะเบาๆ แล้วหมุนตัวเดินนำหน้าไปยังห้องเก็บของหลังบันได
เธอกดแผงรหัสไม้เก่าๆ ตรงผนัง เสียงกลไกภายในดังขึ้น ก่อนผนังด้านหนึ่งจะเลื่อนเปิด เผยให้เห็นบันไดวนหินที่ทอดลึกลงสู่ความมืด
“ลงมาสิ ระวังเท้าด้วย อย่าเดินไปมั่วล่ะ”
ธามไทกลืนน้ำลาย ก่อนจะก้าวตามลงไปอย่างลังเล
ภายในห้องใต้หอนั้น เย็นชื้นราวกับถ้ำโบราณ พื้นปูด้วยหินเรียบเรียงอย่างประณีต ใจกลางห้องมีวงเวทสีฟ้าเรืองแสงสว่างอยู่ คบไฟรอบห้องลุกโชนด้วยเปลวไฟเวทที่ไร้ควัน แต่เต็มไปด้วยพลัง
“นี่คือวงเวทตรวจสอบธาตุเวทเบื้องต้น” วาริณกล่าวขณะเดินเข้าไปยืนข้างเขา “เข้าไปยืนตรงกลาง แล้วทำใจให้สงบ ปล่อยจิตให้ว่างที่สุด”
ธามไทพยักหน้า สูดลมหายใจเข้าลึก เขาก้าวเข้าไปยืนตรงกลางวงเวท หลับตาลงและพยายามปล่อยทุกอย่างให้ว่างเปล่า
ทันใดนั้น วงเวทก็เปล่งแสงสว่างขึ้นรุนแรง แสงสีฟ้าระยิบระยับฉายไปทั่วห้องจนผนังหินแทบสะท้อนแสงกลับมา
วาริณตาโตด้วยความตกใจ “ระดับพลังแบบนี้...ไม่ใช่พรายธรรมดาแน่นอน นายมีสายเลือด ‘อควาเรียสบริสุทธิ์’!”
ธามไทลืมตาขึ้นอย่างงุนงง “มันหมายความว่าไงครับ”
“แปลว่านายไม่ใช่แค่ลูกครึ่งธรรมดา นายมีสายเลือดตรงจากต้นตระกูลอควาเรียส ไฮเชด สายพันธุ์ที่ถูกกล่าวถึงในตำนาน พลังของนาย...มันเกินกว่าที่ใครจะคาดคิดไว้”
ชายหนุ่มถึงกับอ้าปากค้าง เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดเบาๆ
“ผมว่า...ผมต้องการกาแฟก่อนครับ”
วาริณหลุดหัวเราะ “เชื่อเถอะว่านายจะได้มากกว่ากาแฟ วันนี้ฉันจะพานายไปพบกับผู้อาวุโสของหอพัก”
“ใครอีกล่ะครับเนี่ย”
“เจ้าของหอพักตัวจริง เธอคือราชินีแห่งสายน้ำ...และเธอรอจะพบตัวนายมานานมากแล้ว”
...(โปรดติดตามตอนต่อไป...)...
หลังจากพลังในร่างธามไทถูกรู้ตัวอย่างชัดเจน วาริณก็ไม่รอช้า รีบพาเขากลับขึ้นมาจากห้องลับใต้หอพักทันที เธอไม่พูดอะไรตลอดทาง เพียงแต่สีหน้าเต็มไปด้วยความตึงเครียดและคาดหวัง
“เธอรอพบตัวนายมานานแล้ว” เธอพูดเบาๆ เมื่อทั้งคู่เดินมายังโถงกลางของหอพัก ก่อนจะพาธามไทขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบนสุด ซึ่งไม่มีป้ายชั้น ไม่มีเบอร์ห้อง ไม่มีใครพูดถึง
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก กลิ่นหอมอ่อนของเกลือทะเลและกลิ่นดอกบัวก็ลอยเข้ามาทันที ห้องโถงตรงหน้ากว้างใหญ่และงดงามเกินกว่าจะเป็นหอพักธรรมดา ผนังประดับด้วยม่านน้ำใสรินแบบช้าๆ พื้นหินแกรนิตสะท้อนแสงสีน้ำเงินจากแหล่งกำเนิดที่มองไม่เห็น
ตรงกลางห้องมีบัลลังก์แกะสลักจากคริสตัลน้ำแข็ง สตรีนางหนึ่งนั่งอย่างสงบนิ่ง เธอสวมชุดคลุมสีเงินอมฟ้า ผมยาวปลิวสยายแม้ไร้ลม ใบหน้าสวยสง่าราวภาพวาด สายตาแน่วแน่แต่สงบ ราวกับแม่น้ำในคืนเงียบงัน
“เจ้าคือ...ธามไทใช่ไหม” เสียงเธอนุ่มนวลแต่ทรงพลังจนธามไทเผลอก้าวถอย
“ข-ครับ” เขากล่าว พลางรู้สึกว่าแม้ตัวเองจะไม่ค่อยเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่บางอย่างในตัวกลับรับรู้ถึงแรงดึงดูดบางอย่างจากหญิงตรงหน้า
ราชินีแห่งสายน้ำลุกขึ้นยืนอย่างอ่อนช้อย แม้ไม่ได้แสดงอำนาจแบบข่มขู่ แต่รัศมีที่แผ่ออกมากลับทำให้รอบข้างเงียบสนิททันที
“พลังของทายาทสายเลือดพรายน้ำบริสุทธิ์แท้ได้ตื่นขึ้นอีกครั้ง หลังจากหลับใหลมานานนับร้อยปี” เธอกล่าว ดวงตาสีฟ้าเข้มจ้องลึกเข้าไปในใจของธามไท “และโลกใบนี้...ก็กำลังจะเปลี่ยนไป”
วาริณยืนสงบอยู่ด้านข้างไม่พูดแทรกแม้แต่น้อย
“คำทำนายโบราณได้กล่าวไว้ว่า ‘เมื่อสายเลือดแห่งพรายน้ำบริสุทธิ์คืนชีพ โลกทั้งสองจะผสานกันหรือแตกสลายไป’...” ราชินีพูดพลางยื่นมือออกไปด้านข้าง น้ำจากม่านรอบห้องรวมตัวกันกลายเป็นลูกกลมใสๆลอยอยู่กลางอากาศ
“ธามไท เจ้าพร้อมหรือยัง ที่จะเรียนรู้...และเลือกว่าโลกควรจะเป็นเช่นไร”
ชายหนุ่มกลืนน้ำลาย สายตาเขาแม้ยังสับสน แต่ลึกในใจกลับมีความกล้าบางอย่างที่ก่อตัว
“ถ้ามันเป็นสิ่งที่ผมถูกเลือกให้ทำ...ผมจะเรียนรู้ครับ”
ราชินีแห่งสายน้ำพยักหน้าช้าๆ แล้วส่งยิ้มบางๆที่แฝงไว้ด้วยความหวังและเศร้าในคราวเดียวกัน
“งั้นการฝึกของเจ้าจะเริ่มในคืนเดือนเพ็ญ...เมื่อม่านระหว่างเส้นขอบโลกบางที่สุด”
วาริณหันมามองเขา พลางกระซิบเบาๆ
“ขอให้นายเตรียมใจไว้ดีๆล่ะ เพราะนี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น”
...(โปรดติดตามตอนต่อไป...)...
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!