ณ สถานีวิทยุ ชายคนนึงกำลังเก็บของ ปิดไฟแล้วปิดห้องเดินออกไป ในขณะนั้นจู่ๆเสียงวิทยุก็ดังขึ้น แต่เสียงนั้นติดๆดับๆ
"...เมเดย์...เมเดย์...รา....เราต้องการความช่วยเหลือด่วน รหัส19 ตอนนี้เราต้องการความช่วยเหลือด่วน...."
เมื่อเสียงนั้นจบก็มีเสียง งั่ม เหมือนถูกอะไรกัดอย่างรุนแรง เมื่อสิ้นเสียบจู่ๆก็มีเสียงคำรามดังไปทั่งสถานี ก่อนที่เสียงนั้นจะดับไป
4 วันต่อมา
...ณ โรงเรียนในชนบทแห่งนึง เป็นเวลาเลิกเรียนมีชาย7คนเดินเกาะกลุ่มคุยกันอย่างสนุกสนานชาย7คนประกอบด้วย อีธาน,เมสัน,ไรอัน,เอเดน,นาธาน,โยเซฟ และ คลิน
"พักร้อนนี้เราไปเที่ยวไหนกันดี"
อีธานถามเพื่อนๆของเขา
"ไปตั้งแคมป์ ปิ้งบาร์บีคิวกินชิวๆกัน"
เมสันตอบ
ในระหว่างที่พวกเขากำลังพูดคุยกันจู่ๆข่าวโทรทัศน์ก็ได้ประกาศ
"เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลได้ออกคำสั่งห้ามเรือทุกลำเข้าไกลเกาะเดลคาสท์ เกินระยะ5ไมล์ หากฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุก5ปี"
จู่ๆนาธานก็พูดขึ้นมาว่า
"งั้นเราไปปาร์ตี้บนเรือ ใกล้เกาะเดลคาสท์กัน"
เมื่อได้ยินอย่างนั้นเอเดนก็พูดขึ้นมาว่า
"เขาห้ามใกล้เกินระยะ5ไมล์นะ ถ้าโดนจับได้ติดคุกหัวโตเลยนะ ตั้ง5ปี"
นาธานเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็ตอบไปว่า
"เชื่อใจฉัน ฉันรู้จักคนๆนึงที่สามารถเอาเรือไปใกล้ระแวกนั้นได้ พรุ่งนี้เจอกันที่ท่าเรือเวลา12:00น."
เมื่อพูดจบทุกคนก็ได้แยกย้ายกลับบ้าน เวลา21:32น.อีธานก็ได้ใช้โน็ตบุ๊คในการสืบหาข้อมูลของเกาะเดลคาสท์ แต่ทว่าข้อมูลจากเว็บก็บอกว่าเป็นเกาะที่ใช้ทดลองอาวุธลับของรัฐบาล อีธานนั่งครุ่นคิดอย่างยิ่งว่าเกาะนั้น มีอะไร? ทำไมถึงห้ามใกล้เกินระยะ5ไมล์? คำถามพวกนี้ลอยอยู่ในหัวของซ้ำไปซ้ำมา แล้วเขาก็นอนหลับไป
วันต่อมาเวลา13:00
ทุกคนมาถึงพร้อมหน้าพร้อมตานาธานก็พูดขึ้นมาว่า
"พวกนายนี้นะ มาเลทกันจัง"
เอเดนก็ได้พูดถามขึ้นมาว่า
"นายจะทำยังไง เราเข้าใกล้เกาะนั้นไม่ได้นะ"
เมื่อพูดจบนาธานก็ยิ้มแล้วพาเพื่อนของเขามาแนะนำตัว
"นี้คือโลแกน นี้คือคนขับเรือที่มีเส้นสายในรัฐบาลและในสถานีวิทยุ ทำให้สามารถเข้าใกล้เกาะนั้นเกินระยะ5ไมล์ได้"
เมื่อพูดจบทุกคนก็ขึ้นเรือ แล้วเรือก็แล่นออกไปในระหว่างที่เรือแล่น อีธานก็ได้พูดคุยกับคนขับเรือว่า
"คุณขับเรือนี้มานานแค่ไหนแล้ว"
อีธานถาม
"10ปี ฉันเชี่ยวชาญทะเลนี้ และ ฉันมีเส้นสายในรัฐบาลและสถานีวิทยุ ทำให้เรดาร์ไม่ตรวจพบเรายังไงละ"
ขับไปสักพัก โลแกนคนขับเรือก็ได้พูดขึ้นมาว่า
"นู้น เกาะเดลคาสท์"
(ชี้ไปทางด้านหน้า)
ทุกคนหันไปมอง เกาะนั้นเป็นป่าที่มีต้นไม้หน้าทึบ ดมื้อเรือใกล้ในรัศมี3ไมลค์จู่ๆเสียงวิทยุก็ดังขึ้นแบบติดๆดับๆ
"...เมเดย์...เมเดย์...รา....เราต้องการความช่วยเหลือด่วน รหัส19 ตอนนี้เราต้องการความช่วยเหลือด่วน...."
แล้วสัญญายก็ได้หายไป นาธานก็ได้พูดขึ้นมาว่า
"สัญญานขอความช่วยเหลือนิ มาจากเกาะนั้นเราต้องไปช่วย"
เมื่อพูดจบเพื่อนๆเขาก็ได้แย้งขึ้นมา
"ไปไม่ได้นะ ถ้าไปแล้วโดนจับได้เราโดนติดคุก5ปีเลยนะ ฉันว่าเราส่งไปบอกที่สถานีจะดีกว่ามั้ย"
นาธานก็ได้ตอบว่า
"นี้สัญญานความช่วยเหลือ เราต้องเข้าไปช่วย"
เมื้อพูดจบก็ไดเหันไปบอกคนขับเรือให้ขับไปที่เกาะ ขณะนี้เวลา18:44น.ฟ้านั้นเริ่มมืด เรือก็ค่อยๆแล่นเข้าไป อีธานได้ลุกขึ้นมายืนที่ท้ายเรือจู่ๆ เรือก็ถูกอะไรบางอย่างชนอย่างรุนแรงทุกคนบนเรือล้มลงกับพื้น อีธานได้ลุกชึ้นยืนมองหา ก็เหลือยไปเห็นเงาของสิ่งมีชีวิตบางอย่างผ่านเรือไป เป็นเงาที่มีชนาดใหญ่ม่กกว่าสัตว์ทั่วไป ในวินาทีนั้นอีธานก็ได้หันไปบอกโลแกนว่า
"พาเราออกไปจากทีนี้"
เมื่อพูดจบโลแกนก็ได้เพิ่มความเร็วเรือเป็นความเร็วสูงสุด เอเดยได้หันมาถามนาธานว่าเกิดอะไรขึ้น อีธานนั้นหันไปมองที่ท้ายเรือก็พบว่าเงาใต้น้ำขนาดใหญ่พุ่งมาด้วยความเร็ว อีธานได้ตะโกนบอกทุกคนว่า
"ทุกคน หาที่เกาะให้แน่น เตรียมตัวรับแรงปะทะ"
เมื้อพูดจบเงาใต้น้ำก็ชนเข้ากับเรืออย่างจับทำให้เรือนั้นคว่ำ อีธานได้ว่ายขึ้นเหนือน้ำ เรียกหาทุกคน เมื้อทุกคนขึ้นมาเหนือน้ำจนครบ อีธานได้มองไปรอบๆ เมื่อหันไปเจอฝั่งก็ได้ตะโกนออกมาว่า
"ทุกคนรีบว่ายขึ้นฝั่งให้เร็วที่สุด"
ทุกคนก็ได้รีบว่ายน้ำขึ้นฝั่งอย่างตะเกียกตะกาย เมื่อถึงฝั่งอีธานได้หันไปมอง ก็พบว่าเงาใต้น้ำชนาดใหญ่ได้ว่ายกลับไป ในขณะที่ว่ายกลับมันก็ได้ร้องออกมา เสียงร้องนั้นเหมือนเสียงวาฬอย่างมาก แต่สิ่งที่ชนมันไม่ใช่วาฬ
"มันคืออะไร ถึงชนเรือคว่ำได้"
ไรอันถาม อีธานก็ส่ายหัวแล้วบอกว่า
"ฉันไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆสิ่งที่ชนมันเสียงคล้ายวาฬ"
คลินก็ถามว่า
"วาฬเหรอ ที่ชนกับเรือเรา"
อีธานเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็ว่ายหัวแล้วบอกว่า
"มันไม่ใช่วาฬ"
เมื่อพูดจบคลินก็ได้ตะโกนบอกทุกคนว่า
"เราเดินเข้าไปดูในเกาะกันเถอะ เผื่อมีหมู่บ้านหรือไม่ก็วิทยุที่สามารถพาเราออกไปจากทีนี้ได้"
ทุกคนก็เห็นผ้องต้องกันและพากันเดินเข้าไปในเกาะ เดินไปจนเวลา19:34น.ก็พบกับอาคารสีขาว นาธานเห็นอย่างนั้นก็ได้บอกให้ทุกคนเข้าไป เมื่อทุกคนเข้าไปก็พบว่าข้างในนั้นรกร้าง และ ปรักหักพังเป็นอย่างมาก คลินก็ได้ถามว่า
"ทีนี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมมันถึงมีซากปรักหักพัง"
เอเดนก็ได้พูดขึ้นมาว่า
"ลองไปดู ห้องควบคุมกันมั้ย เผื่อมีคลิปในกล้องวงจรปิด อาจจะทำให้เราได้คำตอบได้นะ"
เมื้อพูดจบทุกคนก็พากันตามหา เมื่อเจอห้องควบคุม ไรอันเปิดกระตูก็ได้ร้องออกมาด้วนความตกใจ ทุกคนได้ชะเง้อหน้าเข้าไป ก็พบกับศพอยู่บนเก้าอี้ เมื้อทุกคนเดิรเข้าไปเช็คสภาพศพก็พบกับรอยกัดขนาดใหญ่ที่หน้า และมีเหมือนบาดแผลรอยกรงเล็บทั้งตัว เอเดนและคลินก็ได้อาสาที่จะขึ้นไปดูบนดาดฟ้าของตึก อีธาน นาธาน โลแกน ไรอัน ก็ลองหาอะไรที่สามารถใช้งานได้ในห้องควบคุม
เมื้อเอเดนและคลินขึ้นไปบนดาดฟ้าของตึกก็พยายามมองหาทางรอด เช่น เฮลิคอปเตอร์ หมู่บ้าน หรือ เสาสัญญาน แต่ทว่าในระหว่างที่หา จู่ๆก็มีเายวคำรามของสัตว์ชนิดนึงดังกึกก้องไปทั่วป่า คลินและเอเดนนั้นสะพรึบกลัวเป็นอย่างยิ่ง
"นั้นมันเสียงตัวบ้าอะไรน่ะ"
เอเดนได้พูดขึ้น ในระหว่างนั้นก็มีเสียงกิ่งไม้หักและเสียงเหมือนอะไรผ่านต้นไม้เมื่อคลินและเอเดนหันหน้าไปก็เห็นเงาของสัตว์ขนาดใหญ่ มีเขาสองข้างตรงหัวกำลังเดินผ่านต้นไม้ไปในความมืด เมื่อเอเดนและคลินเห็นก็ได้ลงไปหาพวกเพื้อนๆด้วยท่าทีรเอนรน
เมื่อลงไปถึงอีธานก็ได้ถามว่า
"เกิดอะไรขึ้น"
เอเดนก็ตอบว่า
"มะ....เมื่อกี้ทีเสียงคำรามดัวไปทั่วป่า เสียงมันดังมาก"
อีธานก็ถามว่า
"เห็นตัวมันมั้ย"
คลินก็ตอบว่า
"ไม่เห็นตัวมัน เห็นเป็นแค่เงาสีดำขนาดใหญ่มีเขาสองข้างเล็กๆบนหัว ไม่รู้ว่ามันคืออะไร"
ในระหว่างที่พูดคุยกันจู่ๆก็มีเสียงนึงดังขึ้นมา
"มันไม่ใช่สัตว์ทั่วไป แต่มันคือความผิดพลาด"
เมื่อสิ้นเสียงทุกคนหันไปมองพร้อมกันก้พบกับชายคนนึงใส่ชุดสีขาว นาธานก็ได้ถามว่า
"นายเป็นใคร"
ชายคนนั้นก็ตอบว่า
"ฉันคือหนึ่งในนักวิจัยของเกาะนี้"
อีธานเมื้อได้ยินอย่างนั้นก็ถามว่า
"วิจัยอะไร?"
เมื้อพูดจบนักวิจันคนนั้นก็ได้เดืนแหวกทางเสียบแฟลชไดรฟ์ แล้วเปิดข้อมูลลับกล้องวงจรปิด ทุกคนนั้นตกตะลึง อีธานก็ได้พูดขึ้นมาว่า
"พวกแกทำอะไรลงไป ทีนี้ไม่ใช่เกาะธรรมดา มันคือศูนย์วิจัยลับ"
เมื่ออีธานพูดจบ ก็ได้หันไปจับที่คอเสื้อนักวิจัยอย่างรุนแรง ด้วยสายตาที่ดุเดือดแล้วพูดว่า
"พวกแกทำอะไรลงไป มันเกิดอะไรขึ้นทำไมมัรถึงหลุดออกมาได้"
เมื่อพูดจบนักวิจัยก็ได้เปิดอีกไฟล์ลับ เป็นคลิปกล้องวงจรปิด ในขณะที่เปิดคลิปก็ได้เล่าไปควบคู่กัน
"ศูนย์วิจัยนี้ เป็นศูนย์วิจัยที่บริษัทนึงให้ทุนสร้างมา บอกว่าจะฟื้นคืนชีพ ให้สัตว์พวกนี้กบับมามีชีวิตอีกครั้ง และเราก็ทำสำเร็จ เจ้าตัวนั้น เงาที่เจ้าเห็นบนดาดฟ้าตึก มันคือคาโนทอรัส(เมื่อพูดชื่อจบก็เอาเอกสารข้อมูลของสัตว์มาวางไว้บนโต๊ะ) เป็นสัตว์บกขนาดใหญ่ รองลงมาจากทีเร็กมีสองเขาเล็กๆ เมื่อเราสร้างมันสำเร็จก็ขังไว้ในกรงแบะจะเริ่มขั้นตอนการเก็บดีเอ็นเอ คนในหน่วยสองคนอาสาเข้าไปในกรงจะไปเก็บแต่ระบบไฟเกาะเกิดผิดพลาด ไฟฟ้าเกิดช็อตทำให้ระบบสายยาสลบนั้นหยุดทำงาน เมื้อเจ้าคาโนทอรัสตื่นมันก็ได้ออกมาไล่ล่าทุกคน ฉันพยายามจะปิดกรงแต่ระบบมันขึ้นเออเร่อ ฉันเลยเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว"
เมื่อพูดจบอีธานก็ได้ถามว่า
"สัตว์ที่พวกแกสร้างมันขึ้นมา มันมีกี่ตัว"
เมื่อพูดจบนักวิจัยก็ได้หยิบเอกสารอีกสองอันออกมาวางบนโต๊ะแล้วพูดว่า
"คาโนทอรัส นิสัยในการล่า ดักซุ่ม และมักจะเล่นกับเหยื่อก่อนจะกิน เป็นสัตว์หวงอาณาเขต
ตัวที่สอง เวโลซีเเรปเตอร์ นิสัยการล่า ล่าเป็นฝูง ดักซุ่ม มีกรงเล็บขนาดใหญ่ที่เท้า มันว่องไวคล้ายๆหมาป่า และมันอยู่ที่บังเกอร์วิจัยลับใต้ดิน
และตัวสุดท้าย สไปโนซอรัส เจ้าตัวนี้อยู่ได้ทั้งบนบกและในน้ำ นิสัยในการล่า ล่าแบบซุ่ม หบังจากที่มันหลุดออกจากกรง เราก็ไม่ทราบพิกัดว่ามันไปอยู่ตรงไหน "
เมื่อพูดจบเอเดนก็ถามว่า
"แล้วเราจะเอายังไง"
นักวิจัยคนนั้นก็บอกว่า
"ฉันมีโทรศัพน์ดาวเทียม ต้องไปที่โล่งถึงจะโทรได้ และถ้าโทรศัพน์ดาวเทียมใช้ไม่ได้ ก็มีเรืออยู่ที่ท้ายเกาะ"
เมื่อพูดจบทุกคนก็เริ่มวางแผนเพื่อที่จะเอาตัวรอด คลินเป็นคนถือแผนที่หลัก และอีธานกับนักวิจัยจะเป็นคนนำทาง เมื่อวางแผนกันเสร็จสิ้นก็เดืนทางออกจากห้องทดลอง
ในระหว่างที่เดินในป่าที่เงียบสงัด เสียงใบไม้พลิ้วไหวอยู่ตลอด ในระหว่างการเดินทางทุกคนมองไปรอบทิศทาง เพราะเราไม่รู้เลยว่าพวกมันจะโผล่มาทางไหนได้บ้าง เดินไปไม่นานทุกคนก็หยุดชะงัก เอเดนได้ถามว่า
"หยุดทำไมอ่ะ"
เมื้อพูดจบหันไปมอง ก็พบกับรอยเท้าของเจ้าคาโนทอรัสแบะซากศพชองเจ้าสเตโกซอรัสที่มีรอยกัดตรงกลางขนาดใหญ่ นักวิจัยก็พูดขึ้นมาว่า
"นั้นสเตโกซอรัส มันล่ากินแบบทิ้งๆขว้างๆรีบเดินกันต่อ ไม่รู้ว่ามันอยู่ไหนตอนนี้"
อีธานก็ได้เดินไปดูที่ซากสเตโกซอรัสแล้วพูดว่า
"รอยแบบนี้ มันไม่ได้ล่าเพื่อความอยู่รอด....แต่มันล่าเพื่อความสนุก"
เมื่อพูดจบ ท่ามกลางป่าที่เงียบสงัดนักวิจัยคนนั้นก็ได้หยิบโทรศัพน์ดาวเทียมขึ้นมา แล้วบอกว่า
"มีสัญญานแล้ว"
เมื่อพูดจบก็ได้กดเลขดัง
ติ๊ด.....ติ๊ด......ติ๊ด
เสียงดังไปทั่วป่า จู่ๆก็มีเสียงหายใจของสิ่งมีชีวิตชนิดนึงหายใจดังมาจากข้างหลังของนักวิจัย ทุกครหันไปทองก็พบกับคาโนรัส ที่ยืนนิ่ง จ้องมองพวกเขาในระยะที่หวังผล ยังไม่ทันได้พูดอะไร คาโนทอรัสก็กัดนักวิจันไปครึ่งตัว กัดชูขึ้นฟ้าแล้วกลืนลงไปทั้งตัว พร้อมโทรศัพน์ดาวเทียมในมือ อีธานก็ได้ตะโกนอย่างสุดเสียง
"วิ่ง!!!"
ทุกคนรีบวิ่งหนีเอาตัวรอด คาโนทอรัสวิ่งคำรามตามมาติดๆ ในขณะที่กำลังหนีเอเดนก็ได้มองไปข้าหน้าแล้วเห็นประตูบังเกอร์ใต้ดินเปิดอยู่แล้วพูดว่า
"ข้างหน้ามีประตู ทุกคนรีบวิ่งเร็ว"
เมื้อวิ่งไปถึงก็รีบลงไปทีละคน แบะเมื่อคบินลงไปคนสุดท้ายก็รีบปิดประตูบังเกอร์แล้วล็อกคาโนทอรัสก็ได้เอาหัวชน
ตึง....ตึง....ตึง
เมื่อชนเสร็จมันก็ได้คำรามแล้วค่อยๆเดินจากไป ทุกคนนั้นโล่งใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อค่อยๆลงไปทีละคนก็พบว่ามันคือทางเดินขนาดใหญ่ เป็นศูนย์วิจัยชั้นใต้ดิน ทุกคนค่อยๆเดินไปมองข้างล่างก็พบกับกระจกแก้วที่แตก แต่แล้วทุกคนก็ต้องหยุดชะงักเมื่อในตู้ทดลองนึง มีแรปเตอร์ถูกแช่อยู่ในระหว่างที่ทุกคนตกตะลึง คลินก็ได้ไปเปิดประตูห้องใกล้ๆแล้วพูดว่า
"ทุกคน ทางนี้"
เมื่อทุกคนเดินเข้าไปก็พบว่าห้องนั้น มีเอกสารเต็มไปหมด เอเดนก็ได้เดิรไปหนิบเอกสารนึงขึ้นมาอ่าน แล้วพูดว่า
"นี้มันเอกสารของรัฐบาลนิ ตราปั๊มก็ของรัฐบาล ทำไมมันมาอยู่นี้ได้"
เมื่อพูดจบโลแกนก็ได้หยิบไฟแช็กขึ้นมาจุด ยื่นมือเล็กน้อยแล้วพูดว่า
"ส่งมันมานี้ไอหนู"
เอเดนก็เงยหน้าแล้วก็ตกใจเล็กน้อย เพราะโบแกนนั้นจุดไฟแช็กอยู่ข้างนึงและเอเดรก็ได้พูดว่า
"จะทำอะไรน่ะ"
เมื่อเอเดนพูดจบทุกคนก็หันไปมองโลแกนอย่างพร้อมเพียง โลแกนก็พูดว่า
"ส่งมันมานี้(พูดด้วยน้ำเสียงดุ) ฉันจะเผามัน"
อีธานก็ได้ถามว่า
"จะเผาทำไม? นี้เอกสารสัญญาของรัฐบาลกับศูนย์วิจัยนี้ นี้คือข้อมูลลับ เราเอามันไปเปิดโปงรัฐบาลไม่ให้จับเราได้ คุณบอกจะเผามัน เผาหลักฐานงั้นเหรอ? คุณมีเหตุผลแฝงมาสินะ ถึงมาเป็นคนขับเรือให้เรา แถมมีสายในรัฐบาลและในสถานีวิทยุ ถ้าให้เดานะ คุณน่าจะเป็นสายให้รัฐบาล ถูกส่งมาให้ทำลายหลักฐานพวกนี้โดยแฝงเป็นคนขับเรือแทรกซึมกับพวกเราเพื้อที่จะได้เข้ามาที่นี้ได้"
เมื่อพูดจบโลแกนก็ได้ ยิ้มแล้วพูดว่า
"หึ ไอเด็กนี้ฉลาดหลักแหลมเสียจริงนะ ใช่ ฉันคือสายที่รัฐบาลส่งมา เพื่อให้มาทำลายหลักฐานพวกนี้(ในขณะที่พูดก็ชี้ไปทางเอกสาร)ไม่ให้โยงไปถึงรัฐบาลได้ ถ้ามันโยงไปถึงรัฐบาลได้คิดเอาสิ ว่าประเทศนี้จะเป็นยังไง"
อีธานก็ได้พูดสวนไปว่า
"แต่นี้มันผิดกฎหมาย รัฐบาลให้ทุนมาสร้างพวกสัตว์จากยุคดึกดำบรรค์ให้ลับมามีชีวิตอีกครั้ง องค์กรวิจัยนี้เป็นองค์กรลับ กลางทะเลเปลี่ยว ถ้าไม่ได้จะปกปิดอะไร ทำไมต้องมาวิจัยลับๆที่เกาะลับกลางทะเลล่ะ คุณมันเห็นแก่ตัวหน้าเงินไม่รู้อะไรถูกไม่ถูก"
เมื่ออีธานพูดจบโลแกนยังไม่ทันจะได้พูด จู่ๆแรปเตอร์ก็ได้กระโดดกินโลแกน เมื่อทุกคนเห็นอีธานก็ตะโกนบอกทุกคน
"วิ่ง!!!!"
ทุกคนรีบวิ่งอย่างสุดชีวิตไปตามทางเดิน เอเดนได้พูดว่า
"จะเอาไง จะหนีไปไหน"
อีธานก็ตอบว่า
"กลับขึ้นไปทางเดิม"
คลินก็ได้พูดแย้งไปว่า
"นี้นายบ้าไปแล้วเหรอ ข้างบนไปเจ้าตัวนั้นมันดักอยู่รึเปล่าก็ไม่รู้"
อีธานก็ได้ตอบกลับไปว่า
"ใต้ดินนี้เราไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่อีก แต่ถ้าขึ้นบนถ้าโชคดีไอเจ้านั้นอาจจะไม่ได้ดักอยู่ แล้วรู้อะไรมั้ย เรากำลังหนีเเรปเตอร์ ที่ล่าและวิ่งเร็วเหมือนหมาป่า จะเอายังไง"
ทุกคนที่วิ่งอยุ่ก็ครุ่นคิด นาธานก็บอกว่า
"เราไม่มีทางเลือก นั้น(ชี้ไปข้างหน้า)ประตูทางออก รีบขึ้นไป "
เมื่อวิ่งไปถึงทุกคนก็รีบขึ้นไปเมื่อถึงพื้นดินกันหมด อีธานได้บอกให้ทุกคนวิ่งแต่ทว่าจู่ๆเสียงโทรศัพน์ดาวเทียมก็ดังขึ้นท่ามกลางความมืด ทุกคนได้หยุดชะงัก
เพราะคาโนทอรัสนั้นยืนจ้องพวกเขาอยู่ตรงหน้าอย่างเงียบๆ ในขณะที่ทุกคนหยุดชะงัก เจ้าแรปเตอร์ที่วิ่งตามมาเมื่อมาถึงก็หยุดนิ้งและจ้องมองพวกเขา คาโนทอรัสก็ได้คำรามเสียงดัง เเรปเตอร์ก็คำรามสวนกลับ เอเดนได้ถามว่า
"อะไรของพวกมันกันละเนี่ย จะเอาไงกันต่อ"
อีธานก็ได้พูดว่า
"คาโนทอรัส เป็นสัตว์หวงอาณาเขตและแรปเตอร์ก็เจ้ามารุกล้ำเขตของมัน.....สมรภูมินี้เราไม่เกี่ยว"
เมื่อพูดจบทั้งสองตัวก็คำรามใส่กัน แรปเตอร์เปิดฉากกระโดดโจมตี คาโนทอรัสก็พยายามจะกัดแต่ไม่กัดโดน กลุ่มของอีธานได้วิ่งลอดขาออกมา แต่เอเดนนั้นเกิดอาการแพนิค เอเดนมีอาการตัวสั่น หายใจไม่เป็นจังหวะ เขาทำอะไรไม่ถูกได้ไปหลบอยู่ในขอนไม้ที่มีรูอยู่ตรงกลางคลินได้หันไปมองแล้วได้พูดว่า
"อีธาน เอเดนอาการเเพริคกำเริบ"
อีธานได้หันมามองแล้วพูดว่า
"เวรแล้ว"
เมื้อพูดจบอีธารก็มองไปข้างหน้า ก็เห็นแพ อีธานเห็นอย่างนั้นก็ได้บิกทุกคนว่า
"ข้างหน้ามีแพ ทุกคนรีบไปกันก่อนเดี๋ยสฉันจะเข้าไปช่วยเอเดน"
เมื่อพูดจบทุกคนก็ได้ไปที่แพและตะโกนให้เอเดนออกมา แต่ทว่าคาโนทอรัสที่กำลังต่อสู้กับแรปเตอร์ก็ได้ถอยหลังเหยียบขอนไม้ทีละนิด อีธานเห็นอย่างนั้นจึงรีบวิ่งเข้าไปดึงตัวเอเดนออกมา ในจังหวะที่ขาของเอเดนพ้นขอนไม้ คาโนทอรัสก็กัดที่คอแรปเตอร์แล้วเหวี่ยงใส่อีธานกับเอเดนจนกระเด็น คาโนทอรัสก็ค่อยๆเดินไปแล้วกัดแรปเตอร์ขึ้นมากิน ในศึกนี้คาโนทอรัสเป็นผู้ชนะ นาธานก็ใช้ไม้ค่อยๆดันแพออก อีธานค่อยๆลุกขี้นแล้วแบกเอเดนไปที่แพ
คาโนทอรัสหันมามันก็ได้คำรามแล้วเริ่มวิ่ง ทุกคนบนแพก็ได้ตะโกนอย่างสุดเสียง
"วิ่งเร็ว!!!"
เรือเริ่มห่างจากฝั่ง คาโนทอรัสตามมาติดๆ ในขณะนั้นอีธานวิ่งไปถึงก็ได้โยนเอเดนไปก่อน แต่ในตอนที่เขากระโดด คาโนทอรัสก็ได้อ้าปากเตรียมจะงับ แต่ทว่าเมื่องับก็ไม่โดนตัว อีธานถึงแพอย่างปลอดภัย อีธานและทุกคนได้หันไปมองมัน คาโนทอรัสได้จ้องมองพวกเขาด้วยสายตาที่อาฆาตตามธรรมชาติของสัตว์ มันก็ได้คำรามก่อนที่จะเดินหายไป เหมือนเป็นสัญญานบอกว่า
"มันยังไม่จบแค่นี้หรอก"
เมื่อคาโนทอรัสเดินหายไปในความมืด ทุกคนบนแพก็ถอนหายใจด้วยความโล่งใจ อีธานก็ได้เข้าไปลูบหลังเอเดนแล้วพูดว่า
"ใจเย็นๆ ค่อยๆหายใจ เดี๋ยวช็อค"
เมื่อพูดจบคลินก็มานั่งคุยกับเอเดน ส่วนอีธานก็ไปนั่งคุยกับนาธานที่ด้านหน้าแพ
"เมื่อกี้ นายกล้ามากฉันชื่นชมเลย"
นาธานพูดกับอีธาน
"ไม่หรอก ฉันก็แค่อยากให้พวกเรารอดออกไปจากเกาะบ้านี้"
เมื้ออีธานพูดจบนาธานได้ทำหน้าซึมๆพูดทั้งน้ำตาว่า
"มันเป็นความผิดฉัน ที่ทำให้พวกนายต้องมาเจออะไรแบบนี้ "
อีธานเมื่อเห็นอย่างนั้นก็พูดว่า
"นี้......นี้(เอามือลูบหลังนาธาน) มันไม่ใช่ความผิดนายเลย เรื่องนี้พวกเราก็แค่ซวย อย่าโทษตัวเองเลย"
"รู้อะไรมั้ย....ชีวิตนี้ให้คนอื่นด่าเราก็พอ ไม่ต้องไปช่วยคนอื่นด่าหรอก ไม่งั้นมันจะเป็นจริง"
เมื่อพูดจบอีธานประคองใบหน้าของนาธานมาแล้วหน้าผากของทั้งสองสัมผัสกันเบาๆ ด้วยความนุ่มนวล เป็นเหมือนการปลอบโดยที่ไม่มีคำพูดใด คล้ายราวจะบอกว่า
"นายไม่ผิดเลย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันจะพาพวกเรารอดไปทุกคนให้ได้"
เมื่อสัมผัสกันเสร็จ ทั้งนาธานก็ได้เช็ดน้ำตาแล้วพูดว่า
"ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับฉันในคืนนี้ ฉันอยากให้พวกนายไม่ต้องสนใจฉัน อยากให้พวกนายหนีไป"
อีธานเมื่อได้ยินอย่างนั้นก็พูดว่า
"นี้ นายจะไม่เป็นอะไร พวกเราจะรอดออกไปด้วยกัน"
เมื้อพูดจบนาธานก็ได้พูดว่า
"ปลอดภัยสักทีนะ หวังว่าเราจะไปถึงชายฝั่งอย่างปลอดภัย"
ทว่าความสุขอยู่ได้ไม่นาน จู่ๆก็ทีเสียง โครม!!! แพสั่นไหวเหมือนถูกอะไรชน ทุกคนล้มลงไปนอนกับพื้น อีธานเงยหน้ามองไปรอบๆทิศทางก็เจอกับกระโตงขนาดใหญ่ ขอบสีเทาบริเวณข้างในเป็นสีแดง ลอยอยู่ข้างเเพ ในระดับความน้ำที่ไหลเชี่ยว ทำให้เห็นบริเวณด้านบนของหน้ามัน หน้าของมันเหมือนจระเข้ที่ปากจะยาวและเรียวกว่า คลินก็ได้ถามว่า
"นั้นมันตัวอะไร"
อีธานก็บอกว่า
"นี้มันสไปโนซอรัส เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เห็นแล้วมั้ยละ ไอเกาะนรกนี้ จะไม่มีที่ไหนปลอดภัย"
เมื่อพูดจบมันก็ได้เอาหัวมันกระแทกกับแพ มันได้กระแทกมาเป็นช่วงๆและมันพยายามจังหวะในการกินพวกเขา แต่จังหวะมันไม่ได้ มันก็ได้ดำลงน้ำไป แพค่อยๆลอยไปตามกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ทุกคนมองไปทุกๆทาง เผื่อว่ามันจะโผล่มาสักทางใดไม่ก็ทางหนึ่ง
ไม่นานกระโตงหลังของมันได้โผล่ขึ้นอีกครั้ง แต่ว่าครั้งนี้นั้น กระโตงอยู่ที่ด้านหน้าของแพ ทุกคนมองไปที่กระโตงด้วยสายตาที่หวาดหวั่น มันว่ายไปดักข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ไม่ช้ากระโตงนั้นก็ค่อยๆสูงขึ้น รูปร่างของมันเริ่มให้เห็นชัดขึ้น เมื้อมันยืนขึ้นทุกคนก็มีสีหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง สไปโนซอรัสได้หันมาจ้องมองที่พวกเขาด้วยสายตาของสัญชาตญานสัตว์ป่า มันก็ได้เอาหางสะบัดจนแพนั้นล่ม ทุกคนที่อยู่ใต้แพที่ล่มก็พยายามตะเกียกตะกายว่ายขึ้นเหนือน้ำและรีบว่ายเข้าฝั่งแต่มันไม่ง่ายทุกคตที่กำลังตะเกียกตะกายว่ายขึ้นฝั่งสไปโนซอรัสก็ได้มองในน้ำแบ้วพยายามที่จะกินทีละคนแต่ด้วยความมืดทำให้มันกัดไม่โดน ทุกคนนั้นว่ายขึ้นฝั่งกันหมดแล้ว แต่เหลือเพียงเอเดนที่ยังอยู่ในน้ำ เขานั้นว่ายน้ำไม่เป็นสไปโนซอรัสค่อยๆเดินไปหาเอเดนทีละนิด คลินกำลังจะไปช่วยแต่อีธานเข้ามาดันตัวเขาแล้วพูดว่า
"ไม่คลิน เราช่วยไม่ทัน"
คลินก็ได้ตอบกลับไปว่ส
"ทันสิ เรายังช่วยเอเดนทัน แกน่ะหลบไป"
เมื่อพูดจบคลินก็ได้ผลักอีธานแล้วลงน้ำเตรียมจะไปช่วย แต่ทว่ายังไม่ทันได้เริ่มว่าย เจ้าสไปโนซอรัสก็ได้กัดเอเดนไปครึ่งตัวก่อนที่จะสะบัดขึ้นฟ้า แล้วกลืนลงไปภายในคำเดียว คลินสีหน้าถอดสี ช็อคกัลสิ่งที่เกิดขึ้น
.....แต่ว่า สไปโนซอรัสได้หันมาทางพวกเขา แล้วคำราม ทุกคนก็รีบวิ่งอย่างสุดชีวิต เสียงฝีเท้าอันใหญ่โตและเสียงคำรามที่ดังไปทั่วทั้งป่ากำลังตามมาติดๆ อีธานได้พูดขึ้นมาว่า
"นั้น ข้างหน้ามีร้านสะดวกซื้อร้าง"
เมื่อพูดจบทุกคนก็รีบวิ่งอย่างรักตัวกลัวตาย เมื่อทุกคนเข้าไปในร้านดวกซื้อร้าง สไปโนซอรัสได้หยุดอยู่กับที่แล้วคำรามเสียงดังไปทั่วป่า ก่อนที่มันจะจะหันหลังค่อยๆหานไปในความมืด เมื่อมันหายไปในความมืด คลินก็ได้พลักอีธานจนล้มแล้วพูดว่า
"แกทำอะไร เมื่อกี้เราช่วยเอเดนได้ แกมันไอคนเห็นแก่ตัว"
อีธานก็ได้ค่อยๆดันตัวเองลุกขึ้นจากพื้น มื่อลุกขึ้นได้ก็พูดว่า
"ใช่ ฉันมันเห็นแก่ตัว แต่ฉันก็หาวิธีให้พวกเรารอดกันทุกคน และอีกอย่างเมื่อกี้ต่อให้ฉันไม่ดันนาย ยังไงก็ช่วยเอเดนไม่ทัน ถ้านายเข้าไปช่วนก็เหมือนไปตายเปล่าๆ ฉันทำเพื้อช่วยเราทุกคนให้รอดออกไปจากไอเกาะบ้านี้(อีธานพูดอย่างสุดเสียงด้วยอารมณ์โมโหปนเศร้า)"
เมื่อพูดจบคลินและทุกคนก็ได้ทำหน้าเศร้าโศก เพราะพึ่งเสียเพื่อนในกลุ่มไปคนนึง ไรอันก็ได้พูดขึ้นมาท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงัด แต่ทว่าในความเงียบนั้นเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
"คลิน ถ้าเมื่อกี้นายเข้าไปช่วนเอเดน นายก็จะไม่รอดเหมือนกันและจะกลายเป็นการตายที่สูญเปล่า ที่ผ่านมาอีธานพยายามจะช่วยเรา เราทุกคนให้ออกไปจากไอเกาะนรกนี้"
เมื่อพูดจบนาธานก็ได้พูดต่อว่า
"เราก็ไม่ได้ต่างจากพวกไดโนเสาร์หรอก ผู้อ่อนแอมักถูกผู้ล่าที่แข็งเเกร่งกว่าเสมอ ความอ่อนแอจะตกเป็นเหยื่อในเกาะนี้"
เมื่อพูดจบ ในบรรยากาศของความเงียบที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ไรอันก็ได้เหลือบไปเห็นกระดาษที่มีสีเขียวๆ ไรอันเดินไปเปิดดูก็พบว่ามันคือแผนที่ของเกาะนี้ ไรอันได้เรียกทุกคนมาดู เมสันก็ได้พูดว่า
"นั้น ท่าเรือที่ชายฝั่ง(ชี้ไปที่ด้านล่างของแผนที่)"
โยเซฟพูดต่อจากเมสันว่า
"มีเส้นทางที่จะไปถึงชายฝั่งเร็วกว่าทางหลักที่เราเดินทางอยู่ด้วย"
เมื่อโยเซฟพูดจบนาธานพูดว่า
"จะไปยังไง เราไม่รู้ว่าไอตัวนั้นมันยังอยู่แถวนี้รึเปล่า"
เมื่อพูดจบทุกคนก็ครุ่นคิดกันอย่างหนัก แต่ทว่าในความมืดมิดของผืนป่า จู่ๆเสียงโทรศัพน์ดาวเทียมก็ดังขึ้น ทุกคนค่อยๆหันไป ก็พบว่าคาโนทอรัส มันยืนจ้องพวกเขาอยู่ในความมืด สายตาคู่นั้นจับจ้องพวกเขาโดยไม่ละสายตา ความกลัวในจิตใจเบื้องลึกของทุกคนเริ่มแสดงท่าทีของความหวาดกลัว อีธานก็ได้เดินไปหลังเคาร์เตอร์เผื่อจะเจออะไรที่สามารถใช้ได้ เมื่อเดินไปก็เห็นปืนพลุ กับ แท่งไฟ1อัน อีธานเห็นอย่างนั้นก็รีบเปิดกล่องเช็คก็พบว่ากระสุนปืนพลุมี2ลูก แท่งไฟมี1อัน อีธานก็ได้เสนอแผนในที่จะไปให้ถึงชายฝั่ง
"ตอนนี้ปืนพลุมีกระสุน3ลูก ต้องเก็บลูกนึงไว้ใช้ยิงส่งสัญญานขอความช่วยเหลือ ส่วนอีกอันฉันจะใช้ยิงล่อคาโนทอรัสไปที่อื่น ในจังหวะนั้นพวกนายต้องรีบวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าวิ่งอยู่นอกระยะการมองเห็นของมัน เราก็รอด"
ทุกคนก็ได้พยักหน้าแต่นาธานได้เสนอตัวขอไปด้วยคน อีธานก็พยักหน้าแล้ว ก็เริ่มแผนการ อีธานค่อยๆเปิดประตูกระจกออก ใส่ลูกกระสูนแล้วค่อยๆเดินออกไปในป่าที่มืดมิด อีธานกับนาธานค่อยๆเดินเลาะไป แต่ในจังหวะนั้นพื้นดินสั่นสะเทือน เสียงบางอย่างผ่านใบไม้ค่อยๆดังขึ้น อีธานกับนาธานได้แอบอยู่หลังพุ่มไม้ แล้วค่อยๆเงยหน้าออกมาดู คาโนทอรัสค่อยๆเดินมาข้างหน้าจุดที่เขาอยู่ ปากของมันคาบแรปเตอร์ที่ยังไม่ตายสนิทอยู่ มันคายแรปเตอร์ลงพื้น ค่อยๆดม แรปเตอร์ก็ฟื้นพยายามจะหนีแต่มันได้เอาเท้ากดทับไว้ มันได้ดมด้วยความกระหาย ไม่ช้ามันก็ได้กัดหัวของแรปเตอร์ขาดสะบั้น อีธานได้พูดกระซิบกับนาธานว่า
"การล่าของมัน มันไม่ได้ล่าเพื่อความอยู่รอด แต่มันล่าเพื่อความสนุก"
และนาธานก็กระซิบบอกว่า
"การล่าเหยื่อของมัน มีการเล่นกับเหยื่อก่อนค่อยกิน"
เมื่อพูดจบเสียงฝีเท้าค่อยๆดังขึ้น เสียงใบไม้ที่ถูกอะไรผ่านค่อนๆดังขึ้น คาโนทอรัสค่อยๆเงยหน้า อีธานมองไปอีกฝากที่มันมอง ก็เห็นสไปโนซอรัสคาอยๆออกมาจากความมืด เมื่อทั้งสองเจอกันก็ทำเสียงขู่ใส่กัน คาโนทอรัสได้คำรามใส่สไปโนซอรัส เสียงนั้นดังกังวาลไปทั่วป่าอีธานแบะนาธสนได้เอามือปิดหู เพราะเสียงมันดังเกินไป เมื่อมันคำรามเสร็จสไปโนซอรัสก็ได้เดินถอนหลังหายไปในความมืด อีธานได้หันไปกระซิบบอกนาธานว่า
"สัตว์ใหญ่ทั้งคู่ แต่เป็นสไปโนซอรัสที่ถอย"
นาธานก็กระซิบบอกว่า
"งั้นแสดงว่า มันคือจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร"
ไม่รอช้าอีธานได้หยิบปืนพลุแล้วยิงไปทางที่สไปโนซอรัสเดินมา แสงพลุสีแดงลอยขึ้นฟ้าค่อยๆตกลงพื้น
คาโนทอรัสเงยหน้า เมื่อมันเห็นแสงสีแดงจากพลุก็ค่อยๆเดินไป อีธานและนาธานได้ใช้จังหวะนั้นออกมาจากจุดนั้นแล้วรีบวิ่งไปยังเส้นทางลัดที่วางแผนกันไว้
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!