บ้านหลังเดี่ยวสองชั้นตั้งอยู่บนเนินเขาเด่นหราภายใต้รมเงาของต้นไม้ใหญ่หนึ่งต้น
ในบ้านหลังนี้มีผู้อาศัยเพียงผู้เดียวเท่านั้น
ไม่มีใครรู้ว่าเด็กหนุ่มคนนั้นโผล่มาจากไหนและโผล่มาได้ยังไงและไม่มีใครที่คิดจะสงสัยใคร่รู้แม้แต่น้อย
"นั่นคือมุมมองของคนภายนอกที่มีต่อข้าสินะ"เด็กหนุ่มนั่งลงที่ระเบียงหน้าบ้านของตนพลางพิงเสาไปพลางในขณะที่กำลังคุยกับหน้าต่างโปร่งแสงสีฟ้า
สิ่งที่หลายๆคนเรียกว่าระบบ
"ใช่นั่นคือมุมมองของคนภายนอก เจ้าควรไปสำรวจหมู่บ้านที่ข้างล่างเนินเขาตรงนั้นซะนะ"
"คำพูดโบราณคร่ำครึชะมัด"เด็กหนุ่มทำหน้าหน่ายก่อนจะลุกและพร้อมเดินไปที่หมู่บ้านตามที่ระบบแนะนำ
"ที่ชาวบ้านไม่สงสัยเจ้าต้องขอบคุณการมีอยู่ของระบบนี้ซะนะ อีกอย่างเจ้าเลิกใช้ภาษาของโลกที่แล้วด้วย เจ้าคือปรมาจารย์แห่งชาติเชียวนะ"
"ปรมาจารย์แห่งชาติกับผีน่ะสิ นอกจากทำงานบ้านก็ทำอย่างอื่นไม่เป็นสักอย่าง"
"ปรมาจารย์ด้านการทำความสะอาดไง เป็นพ่อบ้านดีๆนี่เอง สิ่งที่ขึ้นชื่อว่า 'สวะ' จะถูกเจ้ากำจัดได้อย่างง่ายดาย"
"เหอะ ก็แค่นั้น"เด็กหนุ่มพูดกับระบบจนถึงในตัวหมู่บ้าน
หมู่บ้านแห่งนี้คือหมู่บ้านฟิวส์ หมู่บ้านที่ชาวบ้านสามัคคีและปรองดองกันอย่างแน่นแฟ้น พวกเขามักจะร่วมกันเผชิญหน้าและแก้ปัญหาด้วยกัน หากมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งก็มักจะมีผู้ไกล่เกลี่ยช่วยหยุดฉนวนของความรุนแรงเอาไว้ได้
"พ่อหนุ่ม พึ่งย้ายมาใช่ไหม เอ้านี่ของฝาก คงเป็นคนที่มีฝีมือดีล่ะสิท่าถึงได้หอบบ้านมาทั้งหลังขนาดนั้น"
"ฮะๆ ก็ไม่ขนาดนั้นหรอขอรับ"เด็กหนุ่มหัวเราะแห้งพลางรับของจากผู้ใหญ่"คราหน้าข้าจักเตรียมผักเตรียมปลามาให้ท่านบ้างนะขอรับ"
"ได้สิจ้ะพ่อหนุ่ม ข้าต้องกลับแล้วขอตัวก่อน"
"ขอรับเดินกลับดีๆนะขอรับ"
"ว้าวเจ้าปรับตัวกับภาษาของที่นี่ไวมาก"
'ก็เพราะว่าข้าอ่านนิยายย้อนยุคมาเยอะน่ะสิ แล้วก็ชอบการสวมบทบาทด้วย'
เด็กหนุ่มพูดกับระบบด้วยการอ่านใจพลางมองบนใส่หน้าจอโปร่งแสงสีฟ้า
"ข้ากลับเรือนล่ะ"
"ห๊า!เดินสำรวจแค่นี้อ่ะนะ"
"ก็ใช่ไง มาแล้วกลับแค่นี้ก็จบ"
ในขณะที่กำลังพูดกับระบบเด็กหนุ่มก็รู้สึกถึงสายตาของใครบางคนจึงเหลียวกลับไปมองทันที
เด็ก?มาทำอะไรตรงนี้
พรึ่บ
!
"ข้าว...ขอข้าวหน่อยได้ไหม"เด็กชายตัวเล็กมอมแม่มอายุราวสี่ขวบวิ่งเข้ามากอดขาใต้ร่มผ้าของเด็กหนุ่มที่อายุมากกว่าตนเองกว่าสิบปีหวังใช้เป็นลูกอ้อนใส่คนอายุมากกว่า
"เห้อ...ก็ได้ แต่ข้ายังไม่มีเงินที่จะจ่ายตลาดได้หรอกนะ มีข้าวอยู่ที่บ้านข้าตามมา"ทันทีที่พูดจบเด็กหนุ่มก็สะบัดขาสะบัดผ้าคลุมเดินหันหลังให้กับเด็กน้อยตัวมอมแม่มทันที
แม้คำพูดจะดูเย็นชาแต่การกระทำหาใช่ไม่ เห็นดังนั้นเด็กชายตัวน้อยถึงยิ้มร่าออกมาก่อนจะวิ่งตามปรมาจารย์หนุ่มไปทันที
"อร่อย...ฝีมือของเจ้าไม่เลวเลยนะ!"เด็กน้อยพูดไปกินไปอย่างมูมมาม
"เลอะเทอะ"ได้รับคำชมด้วยแหละ เพราะไอ้สกิลพ่อบ้านนั่นแหละ
ที่นี่มีของให้กินด้วยก็เพราะสกิลนี่เช่นกัน ปลูกผักทำอาหาร หรือทำอะไรอย่างอื่นอีกมากมายที่เกี่ยวกับงานพ่อบ้าน แม้แต่ช่างไม้ช่างตีเหล็กก็ยังเป็นได้
'เด็กนี่พูดคล่องเกินไวนะเจ้าระบบ'
"คงจะเป็นเด็กชนชั้นสูงน่ะสิ ขั้นสูงอย่างเดียวไม่พออาจจะเป็นอัจฉริยะด้วยก็ได้ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าไม่มีใครอัจฉริยะเท่าเจ้าแล้วแหละ "
"ท่านปรมาจารย์ข้ามีนามว่า คูโรซ แล้วท่านล่ะนามว่าอะไรจ้าขอทราบได้หรือไม่"
"ซาดี"นี่คือชื่อที่ข้าได้รับหลังจากมาโลกนี้
"ช่างไพเราะยิ่งนัก...หากไม่เป็นการรบกวนข้าขออยู่ที่นี่ไหมท่าน"
เด็กนี่ตรงไปตรงมาดี
"ข้าจะได้ผลประโยชน์อย่างไร"
"แน่นอนว่าข้าสามารถทำงานหาเงินให้ท่านได้ หรือจะทำงานบ้านงานเรือนให้ท่านก็ได้เช่นกัน"คูโรซกล่าวด้วยแววตามุ่งมั่น
ข้าก็ไม่อยากจะทำลายความมุ่งมั่นหรอกนะแต่ว่า ข้าไม่รู้ว่าข้าจะเลี้ยงเด็กได้ดีหรือไม่ ข้าอบรมสั่งสอนไม่เก่งเท่าไหร่นัก
"เจ้าเห็นสภาพบ้านของข้าหรือไม่ มันมีส่วนไหนให้เก็บบ้าง"ก็ข้าเก็บไปหมดแล้วยังไงล่ะ...จิตวิญญาณพ่อบ้าน
"...ว่าแล้วสินะ คงไม่ได้จริงๆ"หลังจากมองสำรวจรอบๆเด็กชายก็ทำหน้าผิดหวังพลางพูดเสียงแผ่ว
"..."อย่าทำหน้าแบบนั้นสิฟะ ก็ไม่อยากรู้หรอกว่าเจอเหตุการณ์แบบไหนมา แต่จะยอมให้เด็กนี่อาศัยไปก่อนก็ได้
"ก็ได้ข้าจะให้เจ้าอาศัยอยู่ที่นี่ หากแต่ข้าไม่สามารถเลี้ยงเจ้าได้ดีพอเจ้าก็อย่ามาโทษข้าแล้วกัน และอีกอย่างหากเจ้าโตพอที่จะใช้ชีวิต เจ้าต้องออกไปเดินด้วยลำแข้งของตัวเอง"
"เรื่องนั้นแน่นอนอยู่แล้วครับ!ข้าจะทำให้ดีที่สุดนะครับท่านปรมจารย์!"
"เรียกข้าซาดีก็พอ"
"ท่านพี่ซาดี!"
แล้วไหงถึงมีคำว่าพี่มาด้วยล่ะเนี้ย เห้อ
.
.
.
หลังจากนั้นก็ผ่านมาแล้วสองเดือนได้ คูโรซปรับตัวให้เข้ากับตารางชีวิตของข้าได้เป็นอย่างดี เขามักจะคอยช่วยงานเล็กๆน้อยๆเท่าที่ตนเองทำได้อย่างการรดน้ำผักที่ปลูกไว้กิน และทำความสะอาดเล็กๆน้อยๆ
เขาเป็นเด็กเรียนรู้ไว พอเวลาผ่านไปซาดีก็เริ่มเปิดใจมากขึ้น เขาซื้อของขวัญให้คูโรซอย่างแรกคืือสมุดหนึ่งเล่มกับปากกาหมึกอีกหนึ่งแท่ง
คูโรซใช้ตัวอักษรได้เป็นอย่างดี นอกจาหนี้เขายังคำนวณเลขเป็นด้วย สมกับเป็นชนชั้นสูง
"ท่านพี่ซาดี ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าท่านมาจากที่ใด"ทันทีที่จบประโยคใบหน้าของเด็กหนุ่มก็แปรเปลี่ยนเป็นอึกครึมทันที
ข้าก็อยากบอกอยู่หรอกเพราะไม่อยากเก็บไว้คนเดียว แต่มันจะวุ่นวายซะเปล่าอีกอย่างข้ามีระบบอยู่ด้วยคงไม่จำเป็นต้องตอบคำถาม
"ไม่จำเป็นต้องตอบก็ได้ขอรับ...ข้าผิดเองที่ถาม อ๊ะจริงด้วย วันนี้...ข้าขอนอนกับท่านได้หรือไม่"เด็กชายมองหน้าทำตาปริบๆเหมือนกับลูกสุนัขเวลาขออาหาร
"เพราะเหตุใด"
"มะ...ไม่มีเหตุใดขอรับ ข้าแค่...."
"เจ้าก็ให้เจ้าเด็กนี่นอนๆไปเถอะซาดี เจ้าเด็กนี่ถึงจะเป็นอัจฉริยะแต่ก็ยังเป็นเด็ก เขายังโหยหาความรัก"
ระบบได้ให้คำตอบทีสมเหตุสมผลให้กับซาดี เห็นดังนั้นจึงพยักหน้าเบาๆเป็นการตอบรับคำขอของเด็กน้อย
นั่นทำให้เด็กน้อยยิ้มร่าก่อนจะเก็บจานข้าวที่ทานหมดแล้วไปล้างและเตรียมตัวอาบน้ำเข้านอน
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยเด็กชายก็ค่อยๆเปิดประตูห้องนอนของซาดีและลังเลที่จะเดินเข้าไป
"เจ้าจะนอนหรือไม่"
"นะ...นอนขอรับ!"
"งั้นก็รีบเข้ามา พระจันทร์ขึ้นจะค่อนคืนแล้วมัวชักช้า"
"..."
อะไรน่ะ ทำไมถึงเงียบ
ความเงียบเข้าครอบงำทั้งห้อง เหลือเพียงเสียงหายใจเบาๆและเสียงไม้ลั่นตามจังหวะการเดิน
"เตือน พบปีศาจไม่ทราบสายพันธุ์อยู่ภายในเรือน ระบบทำำการผิดพลาด ไม่สามารถคำนวณเจตนาที่แท้จริงของอีกฝ่ายได้ ระบบการป้องกันตัวไม่สามารถทำงาน"
ห๊า ปีศาจ อย่าบอกนะ เจ้าหนูเกิดอะไรขึ้น! แล้วไหนจะไม่มีการป้องกันตัวอีก ไอ้ปีศาจนั่นไม่อันตรายงั้นหรอ ระบบไม่เคยเตือนแบบนี้มาก่อนเลย
ซาดีลุกพรวดขึ้นจากเตียงและหันไปมองทางประตูที่เด็กชายก้าวเข้ามาทันที แต่กลับไม่พบสิ่งใด
"คูโรซ!"
พรึ่บ
"อึก!"ไม่ทันได้หันกลับร่างของซาดีก็ถูกดึงกลับไปนอนราบกับฟูกหนานุ่มตามเดิมโดยมีร่างของชายแปลกหน้าคร่อมตัวของเขาอยู่
"เจอแล้ว...ยอดรักของข้า"
"เจ้า...เป็นใคร!ข้าพึ่งมาที่นี่ข้าจักไปเป็นยอดรักของเจ้าได้อย่างไร!!"ซาดีพยายามตะเกียกตะกายออกจากอ้อมกอดของคนแปลกหน้าทว่า ระบบปรมาจารย์กลับไม่ทำงานทำให้ไม่มีแรงแม้แต่จะสู้กลับ
"ทำไมต้องมาผิดพลาดตอนนี้ด้วยฟะเพราะแกใช่ไ-อุ๊บ..อื้อ!"
...----------------...
...❤️ขอบคุณที่อ่านจนจบ❤️...
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
"อุ๊บ...อื้ออ!"ซาดีใช้แรงทั้งหมดในการผลักคนแปลกหน้าออกจากตัวของตนเอง
อาจเป็นเพราะคนตรงหน้านั้นไม่ใช่มนุษย์
คูโรซหายไปและปีศาจนี่ก็ปรากฏตัวขึ้นพอดิบพอดี หรือว่าเจ้าปีศาจนี่จะเป็นคูโรซ แต่...มันอะไรกัน
ในขณะที่ใช้ความคิดคนที่กำลังคร่อมร่างของซาดีอยู่ก็ใช้ใบหน้าของตนเองคลอเคลียไปตามใบหน้า ริมฝีปากและสูดดมกลิ่นของคนใต้ร่างไม่หยุดราวกับโหยหามานาน
"แกกำลังทำอะไร!ออกไปนะไอ้บ้าเอ๊ย!"ซาดีกัดฟันกรอดพร้อมกับหายใจเข้าลึกๆและพูดออกมาด้วยเสียงสั่น
อีกฝ่ายไม่คิดที่จะสนใจกับคำถามของอีกฝ่ายและยังคงถูไถไปกับซอกคอหอมของคนใต้ร่างก่อนจะเริ่มเผยเขี้ยวและงับที่ซอกคอจนเกิดเป็นรอยฟัน
"อ๊ะ...เฮ้ยหยุดนะ"สองขาของซาดีถูกตัวของอีกฝ่่ายทับไว้จนดิ้นไม่ได้รวมถึงสองมือที่ถูกกดรวบไว้เหนือศรีษะ
'ระบบช่วยข้าด้วยอ๊ากกก ข้าจะโดนกินแล้วว!'
"ระบบทำงานผิดพลาด ไม่สามรถแก้ไขได้"
โว้ย!
ฟุ่บ
?
ร่างของคนที่คร่อมอยู่ข้างบนที่กดเอาไว้ตอนแรกตอนนี้กลับไร้เรี่ยวแรงและนอนทับคนที่อยู่ใต้ร่างเต็มแรง
"อึก..."
ควันสีขาวค่อยๆลอยออกตามร่างกายของปีศาจที่ว่าและกลับกลายเป็นเด็กตามเดิม
"คูโรซ...นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย"ซาดีพลิกตัวของเด็กชายที่นอนอยู่บนร่างของตนไว้ข้างกายก่อนจะห่มผ้าให้อย่างนุ่มนวล
"ข้าขอโทษที่ช่วยเจ้าไม่ได้ ไม่เคยมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นทำให้ระบบทำงานผิดพลาด...หรืออาจจะเป็นเพราะอีกฝ่ายไม่มีเจตนาจะทำร้ายเจ้ามันจึงทำให้ระบบไม่ทำงาน"
'ไม่มีเจตนาทำร้านงั้นหรอแล้วรอยเขี้ยวที่ถูกฝังไว้นี่มันคืออะไรกัน'
"..."
"เห้อ...ช่างมันเถอะ"ซาดีเหลือบมองร่างของเด็กน้อยที่กำลังหลับไหลราวกับเรื่องเมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้น แม้จะเจ็บจี้ดที่โดนกัดแต่ก็ไม่มีความคิดที่จะโกรธเลยแม้แต่น้อย
แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมตนเองกลัวถึงขนาดนั้นแต่กลับไม่รู้สึกรังเกียจหรือต่อต้านเลยสักนิด ที่พูดออกไปมันเป็นการป้องกันตัวแบบหนึ่งเท่านั้น เพราะอีกฝ่ายเป็นคนแปลกหน้า
ข้านี่มัน...บ้าชะมัด
"เอาเถอะ ข้าจะปล่อยไปก่อนก็แล้วกัน"พูดจบก็ล้มตัวลงน้อยข้างกายของเด็กน้อย
แสงแดดส่องผ่านหน้าต่างกับเสียงนกที่ร้องปลุกในตอนเช้ากับกลิ่นของอาหารหอมกรุ่นลอยมากจากนอกประตูห้องนอน
เด็กชายลุกขึ้นมาเก็บที่นอนในขณะที่หัวยุ่งเยิงจากการตื่นนอน หลังเก็บที่นอนเสร็จก็ตรงดิ่งไปยังต้นตอของกลิ่นหอมทันที
"ตื่นแล้วก็ไปล้างหน้าแล้วก็ดื่มน้ำแล้วมากินข้าวซะ"ที่โต๊ะอาหารมีซาดีนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
เด็กชายพยักหน้ารับคำเรียบร้อยและกลับมาอีกทีพร้อมใบหน้าสดใส
เด็กชายเริ่มจับช้อนเข้าปากหลังจากที่ซาดีกินก่อนคำแรก
ซาดีจับต้องทุกการกระทำของเด็กน้อย แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ไม่ได้ชอบเด็กแต่ก็ไม่ได้เกลียดถึงขั้นดูและไม่ได้ แต่ถ้ากับเด็กว่าง่ายแบบนี้จะยอมเลี้ยงก็ได้
แต่ปัญหาคือเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้น
"สรุปข้าถามเหตุผลที่เจ้ามานอนกับข้าได้หรือไม่"หลังข้าวในจานหมดซาดีก็เอ่ยปากหลังจากเงียบมานาน
"คะ...คือว่าเมื่อวานข้ารู้สึกโหยหาท่านเป็นพิเศษน่ะขอรับ และมันก็เป็นวันที่พระจันทร์อยู่ใกล้พื้นดินมากที่สุดด้วย"
"แล้วมันทำไม"
"แม่ของข้าบอกข้าว่าวันที่พระจันทร์อยู่ใกล้พื้นดินของทุกปีข้าจะร้องไห้หนักเป็นพิเศษ...ราวกลับกำลังโหยหาอะไรบางอย่างพอตื่นขึ้นร่างกายของข้าก็จะหนักอึ้งขอรับ
แต่พอมาปีนี้ข้ากลับไม่ได้รู้สึกโหยหามากมายขนาดนั้น และข้ายังรู้สึกว่าร่าวกายข้าสดชื่นกว่าปกติด้วยขอรับ ท่านพอรู้หรือไม่ขอรับว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง"
"ข้ารู้"ไม่จำเป็นต้องปกปิด ข้าควรบอกสิ่งที่ข้ารู้ให้กับเจ้าของร่าง
"เจ้ามีปีศาจสิงอยู่ในร่าง เพียงแต่มันไม่ได้มีเจตนาร้าย มันคงจะโหยหาบางสิ่ง...และข้าไม่ได้อยากจะคิดไปเอง สิ่งที่มันโหยหาคงจะเป็นข้า
หลังจากมันปรากฏตัวขึ้นมามันก็เรียกเขาว่า ในที่สุดก็หายอดรักของข้าพร้อมกับฝากฝังคมเขี้ยวไว้ที่คอของข้า หลังจากนั้นปีศาจนั่นก็กลับร่างกลายเป็นเจ้า"
"ข้า...มีปีศาจอยู่ในร่างหรือ แล้วเมื่อคืนข้าก็กัดคอท่านพี่อย่างนั้นหรือ..."เด็กชายหน้าถอดสีมองซาดีด้วยความตื่นตระหนก
"ใช่ ข้าไม่ถือสาหรอกเพราะคนทำไม่ใช่เจ้าแต่เป็นปีศาจที่อยู่ในร่าง"
"ข้า...ขอดูรอยนั่นได้หรือไม่"เด็กชายทำตาอ้อนวอน ซาดีมองก็ต้องใจอ่อนยอมปลดเสื้อที่ปกปิดรอยกัดที่คอขาวให้เด็กชายมอง
"ข้าขอโทษนะขอรับ...หากข้าไม่มาที่นี่ก็คง"
"ข้าก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่ความผิดของเจ้า หากเจ้ายังโทษตัวเองอยู่ข้าจะจับเจ้าลงหม้อเสียตอนนี้"ซาดีทำเสียงขึงขังขึ้นเล็กน้อย
"เข้าใจแล้วขอรับ ขอบคุณนะขอรับ"หลังได้ยินคำดังกล่าวคูโรซก็ยิ้มร่าพลางใช้ความไร้เดียงสาของตนวิ่งเข้าไปกอดซาดีแน่น
"เข้าใจแล้วก็ห้ามโทษตัวเองอีกเด็ดขาด...ข้าว่าจะสอนการป้องกันตัวให้เจ้า"เป็นการทดลองกับระบบล่ะนะว่าข้าสามารถถ่ายทอดทักษะของระบบได้หรือไม่
"ข้าว่าข้าสามารถถ่ายทอดได้ เพียงแต่เรื่องนี้อาจะทำไม่ได้ทันทีแต่ต้องใช้เวลาในการฝึก"
"เข้าใจล่ะ ข้าจะฝึกกับเจ้าด้วย ถือเป็นการขัดเกลาฝีมือ"ข้ามาที่นี่ข้าไม่มีโอกาสได้ฝึกร่างกายตัวเองเลยนอกจากทำงานบ้านงานเรือน
ระบบบอกว่าสามารถถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับทักษะการต่อสู้และป้องกันตัวได้ดังนั้นข้าควรเรียนรู้ไปด้วยเช่นกัน
"ไอ้ระบบ...บ้า แกมันชั่วจริงๆ"
ตุบ
"ทะ...ท่านพี่ไหวหรือไม่!"เด็กน้อยหลังเห็นซาดีล้มลงก็รีบวิ่งเข้ามาหา
"ฮะๆ...ปกติข้าทำแต่งานบ้านงานเรือน พอออกกำลังกายนิดๆหน่อยก็เหนื่อยซะแล้ว"เล่นให้ออกกำลังกายเป็นเซต เซตละหลายๆรอบ
"ไม่นิดนะขอรับ!ท่านทำมากกว่าข้าตั้งสองเท่า เดิมทีร่างกายของท่านพี่แข็งแรงอยู่แล้วเพียงแต่ท่านหักโหมเกินไปเท่านั้นเอง!"
"ฮะๆ...นั่นสินะ"ซาดีพลิกตัวขึ้นนอนหงายมองท้องฟ้าก่อนจะหลับตาลงฟังเสียงหัวใจที่เต้นเร็วเนื่องจากผ่านการออกกำลังกายมา
"ท่านพี่ข้านอนกับท่านได้หรือไม่"
"อืม...เอาสิ"การฝึกนี้ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ เพราะไม่ได้จะเอาไปทำสงครามหรือต่อสู้กับผู้ใด เรื่องแบบนี้จำเป็นต้องค่อยเป็นค่อยไปให้ร่างกายและสมองได้ผ่อนคลายบ้าง
หรือบางที...เราไปฝึกที่ใต้น้ำตกดีไหมนะ ที่นั่นคงจะเย็นสบายน่าดู ไม่สิวันนี้คงไม่ได้คงต้องพักร่างกายก่อน
"วันนี้เจ้าทำได้ดีมากคูโรซ"
"แค่คำชมมันเสียเปล่า เจ้าต้องให้รางวัลด้วยสิ"
"รางวัล?"หลังจากได้ยินพึมพำแผ่วเบาของซาดี คูโรซก็เด้งตัวขึ้นมาทันที
"ระ...รางวัลหรือขอรับ"
"อ่า...เจ้าอยากได้อะไรล่ะ"เจ้านี่หูไวชะมัด
"คะ...คือว่าหากเป็นเมื่อก่อนเวลาข้าทำได้ดีท่านแม่มักจะจุมพิตที่แก้มของข้า"
"เจ้าอยากให้ข้าหอมแก้มของเจ้ารึ"
"อ๊ะๆ...ถ้าท่านไม่ว่า"เด็กน้อยเริ่มมีท่าทีเลิ่กลั่กหลังจากซาดีตั้งคำถาม
"หึ...ข้าไม่ได้จะว่าอะไรเจ้าเสียหน่อย"ซาดีลุกขึ้นนั่งก่อนจะใช้ฝ่ามือของตนจับที่หน้าผากของเด็กน้อยและเสยผมขึ้นเบาๆ
"งั้นข้าจะไม่ทำซ้ำที่กับแม่ของเจ้าแล้วกัน"พูดจบก็แตะริมฝีปากเข้าที่หน้าผากของเด็กชายแผ่วเบา
หน้าของเด็กชายขึ้นสีเล็กน้อยจากสัมผัสของซาดี ยังไม่ทันจะผละออกดีซาดีก็ลุกขึ้นและจับใบหน้าด้วยมือเล็กสองข้างพร้อมกับจุ๊บที่หน้าผากของซาดีบ้าง
"เจ้า..."ซาดีเยิกตากว้างถอยห่างจากเด็กน้อยพร้อมกับใบหน้าแดงก่ำ
ทั้งชีวิตของข้ายังไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับข้าเลยนะ แล้วเด็กนี่
"แฮะๆ...ท่านแม่กับข้ามักจะทำแบบนี้กันทุกครั้งขอรับ เป็นการให้กำลังใจกันขอรับ!"ซาดีที่เห็นเด็กน้อยฉีกยิ้มกว้างก็ใจอ่อน
จะปล่อยไปก่อนก็แล้วกัน...
...----------------...
...❤️ขอบคุณที่อ่านจนจบ❤️...
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
วันนี้ก็ยังเป็นวันเดิมๆ แต่ที่ต่างจากเดิมคือวันนี้ข้าเอาผักที่ข้าปลูกมาขายในตลาดที่หมู่บ้านฟิวส์ ซึ่งคนที่เสนอให้ข้าทำก็ไม่พ้นเจ้าเด็กอัจฉริยะตัวน้อยที่กำลังพูดคุยกับลูกค้าอย่างสนุกสนาน
ไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่กำลังขายของอยู่ข้างหน้าข้าคือเด็กสี่ขวบ
"ว่าแต่พวกเจ้าสองคนย้ายมาอยู่ที่นี่สองเดือนครึ่งแล้ว ข้าขอทราบชื่อได้หรือไม่ จริงสิข้าต้องแนะนำตัวเองก่อน ข้าชื่อคามราน[1]เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านขอรับ"
"ข้าชื่อคูโรซขอรับ ส่วนปรมจารย์ด้านหลังของข้าชื่อซาดีขอรับ"
"ข้ามิใช่ปรมาจารย์หรอก อย่าเรียกแบบนั้นเลย"มีคนเรียกข้าแบบนั้นหลายรอบแล้วข้าต้องแก้ต่าง ข้าไม่ได้แข็งแกร่งเลยแม้แต่น้อย ข้าทำเป็นแค่งานบ้านงานเรือนเท่านั้น
"ฮ่าๆๆคนถ่อมตัวก็มักจะชอบพูดแบบนี้กันทั้งนั้นนั่นแหละ จะว่าไปเจ้านี่หน้าตาดีจังเลยนะ สนใจน้องสาวของข้าหรือไม่ข้าจักนัดดูตัวให้"
"ไม่เป็นไรขอรับ ข้าไม่สนใจเรื่องรักใคร่"
"...งั้นสินะอภัยให้ข้าด้วย"
"ท่านคามรานจะซื้อหรือไม่ขอรับ มีคนรอต่อแถวมากกว่าที่คิดนะขอรับ"คูโรซเป็นคนทำลายบรรยากาศตึงเครียดด้วยการเปลี่ยนเรื่อง
"อ๊ะ...จริงด้วย ข้าคงมาขวางการค้าของพวกเจ้าสินะ ข้าขอตัวก่อน จากนี้ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็มาหาข้าได้นะขอรับ"
"หึ..ไม่จำเป-"
"ขอบคุณมากขอรับ ถ้ามีเรื่องอะไรข้าจะไปหาท่านแน่นอน!"คูโรซยิ้มร่าก่อนจะเริ่มขายผักผลไม้ต่อไป
"แจ้งเตือนมีผู้คิดร้ายกำลังจ้องมองคูโรซ"
'หา...ไอ้คามรานนั่นใช่ไหม จะจับไปเป็นทาสรึไง โลกนี้น่าจะมีระบบแบบนั้นอยู่ล่ะนะ แต่ข้าไม่มีทางให้ใครมาแตะต้องเจ้าหนูนี่แน่นอน'
.
.
.
"ท่านพี่ดูสิขอรับ ได้เงินมาเยอะเลยนะขอรับ เป็นเพราะผักผลไม้ของท่านพี่สดมากแน่ๆเลยขอรับ!"คูโรซพูดพลางยื่นถุงเงินไปให้ว่าดีแต่ซาดีทำเพียงแค่ปรายตามองและเดินเข้าห้องไปเท่านั้น
"ทะ...ท่านพี่"
"เจ้าเก็บไปเถอะ คนที่ขายผักพวกนั้นคือเจ้าไม่ใช่ข้า และข้าก็มิได้อดอยากด้วย"หลังซาดีพูดจบก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำทันที
"ขอบคุณนะขอรับ!"คูโรซมองถุงเงินในมือก่อนจะอมยิ้มและพูดว่า"ข้าเอาไปซื้อของขวัญให้เหมือนที่ท่านพี่ให้ข้าวันพรุ้งนี้ก็แล้วกันนะ...ข้าอยากเห็นท่านพี่ดีใจจัง"
.
.
.
ฉ่าา
เสียงของเนื้อชั้นดีที่ระบบให้มาจากการทำงานบ้านส่งกลิ่นคลุ้งทั่วห้องครัวชวนให้น้ำลายสอ เนื้อสีแดงสดเริ่มแปลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลหน้ากิน
หลังเอาเนื้อขึ้นจากกระทะและจัดเข้าจานเรียบร้อยซาดีก็เอาไปวางไว้ที่เดิมพร้อมกับนั่งรอคนร่วมโต๊ะที่อาศัยอยู่ในบ้านอีกคน
แต่เวลาล่วงเลยผ่านไปครึ่งชั่วโมงกลับยังไม่พบเจอวี่แววของเด็กน้อยเพียงหนึ่งเดียวในบ้านทำให้ซาดีลุกไปเปิดประตูห้องนอนของคูโรซทันที
"ไม่อยู่..."ความเงียบครอบคลุมไปทั่วตัวบ้าน บรรยากาศรอบตัวช่างหน้าอึดอัดและได้ยินเพียงเสียงหัวใจของตัวเองเต้น
ซาดีเดินสำรวจรอบตัวบ้านในขณะที่กำมือแน่นจนเส้นเลือดนูนขึ้นมาให้เห็น
"ไปอยู่ที่ไหนกันคูโรซ"เสียงพึมพำนั้นเบาหวิว เต็มไปด้วยอารมณ์ที่กัดกินหัวใจ เขาไม่คิดเลยว่าการหายตัวไปของใครคนหนึ่งจะทำให้ตัวเองรู้สึกได้ขนาดนี้
"ระบบ"
"เจ้าต้องออกไปดูที่หมู่บ้าน ข้าขออภัยด้วยที่ข้าช่วยอะไรไม่ได้เพราะข้าไม่สามารถละสายตาจากเจ้าไปมองอย่างอื่นได้ เพราะมันคือกฎ"
ซาดีเงียบไปชั่วอึดใจดวงตาจ้องมองแสงตะวันที่พาดผ่านเจ้ามาทางหน้าต่างอย่างไร้จุดหมาย
"กฎพวกนั้นแค่อยู่ในบ้านเจ้ายังไม่สามารถตรวจตราให้ข้าได้...ไม่สิข้าควรรีบตามหาเจ้าเด็กนั่นดีกว่ามาโทษเจ้า"ซาดีพูดเสียงแผ่วก่อนจะก้าวเท้าไปที่ประตู"เจ้าเด็กนั่นไม่ได้หายไปตลอดกาลเสียหน่อย ข้ากำลังกลัวอะไรอยู่กัน"
ในที่สุดซาดีก็พุ่งทะยานด้วยความเร็วเท่าที่ร่างกายจะรับไหว
หมู่บ้านฟิวส์อยู่แค่เนินเขาข้างล่างนี้เท่านั้น ทำไมถึงรู้สึกว่ามันไกลขนาดนี้กันแต่ในไม่ช้าก็ถึงจุดหมายปลายทาง
สิ่งที่ทำอย่างแรกคือการเดินวนรอบตัวหมู่บ้าน ขอแค่ได้ยินเสียงหรือเห็นเพียงเงาข้าจะต้องพบเจ้าแน่ เจ้าไปอยู่ที่ใดกัน
"คูโรซ..."
หาอยู่นานสองนานซาดีก็ได้ยินเสียงของใครบางคนตะโกนมาด้วยความเสียงตื่นตระหนกและหอบเหนื่อยจากการวิ่ง
"ท่าน...ซาดีขอรับ ข้าเห็นท่านคูโรซถูกหัวหน้าหมู่บ้านเอาตัวไปแล้วขอรับ!"
ซาดีหันขวับกลับไปทันที ดวงตาเบิกกว้าง แววตาที่เคยแข็งกร้าวสั่นไหวในพริบตา
“ว่าอย่างไรนะ...” ซาดีพุ่งพรวดเข้าไปคว้าบ่าของอีกฝ่ายแน่นราวกับกลัวว่าอีกคนจะหายไปพร้อมคำตอบ
คามรานสะดุ้งเล็กน้อยก่อนรีบตอบ
“ขะ...ข้าเห็นพวกเขาอยู่ทางตะวันตกของหมู่บ้าน ตรงลานเก็บไม้! พวกเขารีบมาก เหมือนกำลังจะพาเจ้าหนูคูโรซออกไปนอกเขตหมู่บ้าน!”
“เจ้าจำไม่ได้จำผิดแน่นะ?”เสียงของซาดีต่ำลง ไม่ใช่เพราะสงสัยแต่เป็นเพราะกลั้นความโกรธเอาไว้
คามรานพยักหน้าแรงๆ “ข้าแน่ใจขอรับ! เสื้อของท่านคูโรซเป็นสีฟ้าอมเทา ข้าไม่มีทางจำผิด!”
ซาดีเงียบไปเพียงชั่วอึดใจแต่แค่นั้นก็เพียงพอให้จิตใจตัดสิน
เขาปล่อยบ่าของคามรานก่อนจะหันตัวไปอีกทิศ
“เข้าใจแล้ว…ที่ล่าสุดที่เจ้าเจอคือที่ไหน คามราน”
“ตรงหลังโรงเลื่อยขอรับ!”
ยังไม่ทันให้คำตอบจบ ซาดีก็พุ่งตัวออกไปทันที ราวกับสายฟ้าก็มิปราน
เสียงฝีเท้ากระแทกพื้นดินดังก้อง ความโกรธ ความกังวล และคำถามนับร้อยหลั่งไหลท่วมใจ
“มัน…กล้าดียังไง”
ซาดีทะยานฝ่าทางแคบด้วยฝีเท้าหนักแน่นจนผ้าคลุมสีกรมท่าพลิ้วไสวตามแรงลม
"รอข้าก่อนนะคูโรซ"
.
.
.
เงียบเหลือเกิน...
เสียงของเกวียนกระแทกกับพื้นดินดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
ทุกครั้งที่ล้อกระทบหินหรือร่องดิน เสียงนั้นก็สะท้อนชัดเจนในหัวเขา
ไม่มีเสียงพูด ไม่มีคำขู่ ไม่มีคำอธิบายใดจากคนที่พาเขามา
นอกจากเสียงฝีเท้าของม้า และแรงเหวี่ยงที่พาให้ร่างของเขาโยกไปตามแรงกระแทก
คูโรซนั่งนิ่ง แผ่นหลังพิงขอบเกวียน
มือทั้งสองถูกมัดด้วยเชือกเปื้อนฝุ่น ร่องรอยบนข้อมือยังแดงจากการดิ้นรน
แต่ตอนนี้...เขานิ่งแล้ว
แววตาคูโรซทอดมองออกไปยังผืนป่าเบื้องข้าง ๆราวกับหาอะไรบางอย่าง
"ท่านซาดี...ข้ารู้ว่าเจ้าต้องรู้แล้วแน่ๆใช่ไหม" เขาเพียงกระซิบเบา
รอยยิ้มประหลาดผุดขึ้นที่มุมปาก
ไม่ใช่รอยยิ้มเย้ยหยัน แต่เป็นรอยยิ้มของคนที่ยังเชื่อมั่น...ทั้งที่ไม่มีอะไรรับประกันเลย
เสียงกับเท้าของม้าชะงักกึกร้องเสียงเสียงดังพร้อมกับยกสองขาหน้าขึ้นเล็กน้อยด้วยความตก
เกวียนสั่นสะเทือนจากแรงดึงรั้งกระทันหันทำให้คูโรซเงยหน้าขึ้นอย่างมีความหวัง
ใครบางคนกำลังยืนขวางหน้าเกวียนเอาไว้
"ซาดีผุดตัวขึ้นเล็กน้อยดวงตาวาววับทันทีที่เห็นร่างคุ้นเคย
มุมปากคลี่ยิ้มทันทีแม้มือจะยังถูกเชือกมัดไว้
"ทะ...ท่านพี่!"
"จะ...เจ้าคือพี่ของเด็กนี่งั้นหรอ!"ผู้ใหญ่บ้านพูดเสียงสั่น สายตาจับจ้องกับสิ่งที่อยู่ในมือของซาดีอย่างหงาดผวา
ซาดีจ้องอีกฝ่ายด้วยแววตานิ่ง สีหน้าไร้อารมณ์ทำให้บรรยากาศรอบตัวดูเย็นลงฉับพลัน
ผู้ใหญ่บ้านรีบจับอาวุธและดึงตัวของคูโรซเข้ามากะใช้เป็นตัวประกัน แต่นั่นไม่ได้ทำให้ซาดีสั่นคลอนแม้แต่น้อย เขาค่อยๆก้าวขึ้นมาบนเกวียนช้าๆไม่เร่งรีบ
เสียงฝีเท้าของซาดีดังก้องในความเงียบยิ่งกว่าฟ้าร้อง
"ถ้าเจ้าจะสั่นขนาดนี้ก็ไม่ควรแสดงอำนาจออกมาตั้งแต่แรก...ขี้ขลาดเอาตัวเด็กเป็นประกันไม่คู่ควรทึ่จะให้ข้าได้มองเสียด้วยซ้ำ"ไม่ทันให้อีกฝ่ายได้ตอบกลับอะไรคมดาบก็สะบั้นศรีษะของผู้ใหญ่บ้านจนขาดวิ่นและหล่นลงพื้นไป
"สิ่งที่ข้าถนัดที่สุดคือการกำจัดเศษสวะอย่างพวกเจ้า"เสียงเย็นเยือกออกมาจากปากของคนที่พึ่งสังหารคนผู้หนึ่งกบายเป็ยภาพตราตรึงใจของเด็กอายุสี่ขวบและก็เป็นภาพที่น่าสยดสยองเช่นกัน
"เจ้า....กลับกันเถอะคูโรซ"
...❤️ขอบคุณที่อ่านจนจบ❤️...
...โปรดติดตามตอนต่อไป...
...----------------...
[1]Kamran คามราน มาจากภาษาเปอร์เซีย แปลว่า ผู้ประสบความสำเร็จ(มั่นคงในชีวิตและโชคดี)..
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!