พันธะโลหิต
บทนำ
อันเปรียบเสมือนสรวงสวรรค์บนพิภพ คืนที่ดอกเหมยบานทั่วทั้งวังหลวงท้องฟ้าแปรเปลี่ยนเป็นสีเเดงเรืองรอง
พระธิดาพระองค์แรก แห่งจักรวรรดิหลิงหลงได้ถือกำเนิดขึ้นในแสงแห่งดวงจันทร์ นางมีนามว่า ซูอวี้เซียน
ในยามที่นางได้ถือกำเนิดขึ้น มีสิ่งมหัศจรรย์ทั้งสามปรากฏขึ้นพร้อมกันดั่งฟ้ากำหนด
ในค่ำคืนนั้น ดวงจันทร์ซึ่งควรทอแสงนวลกลับแปรเปลี่ยนเป็น “จันทราสีโลหิตแห่งสวรรค์” เปล่งประกายสีแดงสดราวโลหิตบริสุทธิ์ ลอยเด่นเหนือวังหลวง ร่องรอยนั้นไม่อาจเลือนหายไปแม้เพียงครู่ ผู้คนหมื่นพันต่างพากันออกมาชมด้วยสายตาตื่นตะลึง ก่อนจะพร้อมใจกันคุกเข่ากราบไหว้ ด้วยเชื่อว่านั่นคือ นิมิตแห่งสวรรค์ เสียงเพรียกของนักพรตหลวงดังกังวานในยามค่ำ ดวงตาของเขาทอดมองฟากฟ้าพร้อมคำพยากรณ์ที่สั่นคลอนดวงจิต “ผู้ถือกำเนิดในคืนจันทราสีโลหิต" จักเป็นผู้เชื่อมฟ้าดินด้วยพันธะแม้สวรรค์ยังไม่อาจตัดขาด
ขณะเดียวกัน กลางฤดูหนาวอันเหน็บหนาวทั่วทั้งแคว้นหลิงหลง ดอกเหมยสีชมพูอมเลือดกลับผลิบานพร้อมกันอย่างน่าอัศจรรย์ แม้กระทั่งต้นไม้ที่แห้งตายมานานหลายปีก็ยังแย้มดอกเพียงหนึ่งกลีบ ราวกับโลกทั้งใบกำลังหายใจพร้อมกัน ในห้วงเวลาหนึ่งเหล่าขุนนางพากันตีความว่านี่คือ สัญญาณแห่งความอุดมสมบูรณ์ และการเริ่มต้นใหม่ แต่สำหรับฮ่องเต้ผู้ทอดพระเนตรจากเบื้องสูง พระองค์กลับตรัสว่า “ของขวัญจากฟ้าฟื้น ประกาศการเสด็จมาของพระธิดาแห่งแสงสุริยัน”
และเมื่อเสียงแรกของทารกดังก้องขึ้น ม่านฟ้ากลางเวหาได้แหวกออกอย่างน่าอัศจรรย์ เผยให้เห็นร่างของ มังกรทองสามเศียร ที่แหวกว่ายเหนือวังหลวง กายของมันทอแสงเจิดจ้า สะเก็ดเกล็ดของมันโปรยละอองสีแดงจาง ๆ ทั่วทั้งอาณาเขต ราวกับพรจากสวรรค์ที่ไม่อาจต้าน “ผู้ถือกำเนิดใต้แสงนั้น จะเป็นดวงใจของแผ่นดิน และบัลลังก์จะเปลี่ยนแปลงด้วยโชคชะตาของนาง” ทั้งสามนิมิต ต่างมิใช่เพียงเรื่องบังเอิญแต่เป็นสาส์นจากฟากฟ้าว่าการถือกำเนิดของ “นาง” หาใช่เพียงหนึ่งชีวิต แต่คือจุดเริ่มต้นของตำนาน ที่จะสั่นสะเทือนทั้งแผ่นดิน
ผู้คนต่างกล่าวกันว่า นางมิได้เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาแต่คือ "โลหิตแห่งสวรรค์" ที่จุติเพื่อรักษาสมดุลของโลก
ตอนที่2
หรือก็คือปราการหยกสีชาดแห่งสวรรค์ ตำหนักส่วนพระองค์ที่ฮ่องเต้สร้างขึ้นบนหน้าผาหยกขาวเหนือเมฆาทิศตะวันออก
ภายนอกงดงามดั่งแดนเทพหยกแดงผสานคริสตัลวิญญาณเรืองแสงยามค่ำคืน หลังคากระเบื้องมังกรทองขับเสียงทิพย์เมื่อสายลมพัดผ่าน สะพานหยกหิมะทอดยาวข้าม“กระจกสวรรค์” ที่สะท้อนเพียงจิตบริสุทธิ์
ภายในลึกล้ำและบริสุทธิ์ ห้องบรรทมหอมกรุ่นด้วยไม้หอมหมื่นปี“สวนวิญญาณจันทรา” ดอกไม้เรืองแสงที่เติบโตจากหยาดโลหิตแรกของนางและ “ห้องวิชาสิบศาสตร์” ใต้ต้นหลิวพันปี ที่รวมปรมาจารย์จากทุกแคว้น มาสอนนางด้วยความเคารพบูชา ตำหนักนี้คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในใต้หล้า
อิงเจา
องค์หญิงทรงงดงามเป็นอย่างยิ่งเพคะ/หวีผมให้
ซูเป่ยเหยา
อืม/มองตัวเองในกระจก
อิงเถา
อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเฉลิมพระชนมพรรษาขององค์หญิงแล้วหม่อมฉันปลื้มใจเป็นอย่างยิ่งเลยเพคะ/จัดชายกระโปรง
ซูเป่ยเหยา
/มองออกไปนอกหน้าต่าง
ซูเป่ยเหยา
//ทำไมกัน ทั้งที่ควรจะยินดีเเต่ใจข้ากลับวูบโหว่งถึงเพียงนี้ เหมือนกับขาดอะไรสักอย่าง ข้าไม่เข้าใจความรู้สึกนี้เลย
ซูเป่ยเหยา
/ยื่นมือไปลองหิมะที่กำลังโปรยปรายลงมา
เปลวไฟจากค่ายทหารยังลุกโชติ ช่วงกลิ่นคาวเลือดโชยฟุ้งทั่วสนามรบ ซากศพมากมายวางเรียงดั่งพรมแดงบนผืนแผ่นดินฉิน
ท่ามกลางความเงียบงันแห่งความตาย บุรุษผู้หนึ่งยืนเด่นอยู่เพียงลำพังร่างสูงในชุดศึกดำสนิท คาดเกราะเงินเปื้อนเลือด ดวงตาเรียบนิ่งคล้ายไร้ชีวิตหากแต่แฝงไว้ด้วยความร้อนแรงที่พร้อมเผาทุกสิ่งให้มอดไหม้
หลงอวี้เฉิน
แม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นฉิน บุรุษที่ผู้คนทั้งแผ่นดินหวาดกลัวและขนานนามว่า
"อสุรานรก"
หลงอวี้เฉิน(เเม่ทัพปีศาจ)
นับจากวันนี้ แคว้นเว่ยจะไม่มีชื่อบนแผนที่อีกต่อไป/เขาเอ่ยเสียงเบา ท่ามกลางกลิ่นคาวเลือดอันคละคลุ้ง
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!