ไหนว่าแค่...FWB?
ตอนที่ 1 : แดดร้อนแรงกับเพื่อน(รัก)ร้อนใจ
อ่า…ใช่..วันนี้เป็นวันดีๆท้องฟ้าสดใส ถ้าไม่ติดว่าเขาจะต้องมานั่งตากแดดร้อนๆอยู่หน้าคอนโดอยู่นี่!
ปิ่นรัก (นอ.)
“ร้อนชิบหายเมื่อไหร่ไอ้เหี้ยนั่นจะมาวะ”
“ปิ่นรัก” นั่งเหงื่อชุ่มอยู่บนกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หน้าคอนโดสูงลิ่วที่มีชื่อหรูหราติดตัวตึกว่า Alto Vida Residence
เขาไม่รู้ว่าตอนที่ตกลงกับ "มือหนึ่ง" ว่าจะย้ายมาอยู่ด้วยนั้น มันเป็นความคิดที่ฉลาดหรือโง่กันแน่
ปิ่นรัก (นอ.)
"แดดเมืองไทยมันไม่ได้รักใครเลยจริง ๆ... แล้วมึงอะ มือหนึ่ง นี่มันจะสิบโมงแล้วนะเพื่อน มึงจะให้กูนั่งสุกตรงนี้กลายเป็นข้าวเหนียวปิ้งหรือไงวะ”
ริมฝีปากแห้ง ๆ บ่นพึมพำ มือก็ปาดเหงื่อจากซอกคอ เหงื่อที่ไหลลงมาตามแนวคาง
เสียงไลน์ไม่ดัง เสียงโทรศัพท์เงียบเป็นป่าช้า ปิ่นรักถอนใจหนัก ๆ แล้วเปิดกระเป๋าเป้ หยิบพัดลมมือถือมาจ่อหน้า
ปิ่นรัก (นอ.)
“โอ๊ย...ถ้ากูตายเพราะแดดนะกูจะมาเข้าฝันมึง”
แล้วในที่สุด ประตูลิฟต์ก็เลื่อนเปิดออก
มือหนึ่ง (พอ.)
"โทษที กูงีบหลับไปนิด... ตื่นมาอีกทีแม่งก็–”
ปิ่นรัก (นอ.)
"เกือบได้เผาศพเพื่อนกลางลานคอนโดอะดิ!" //ปิ่นรักสวนกลับทันควัน พร้อมเด้งตัวลุกขึ้นยืน
มือหนึ่งหัวเราะในลำคอ ยักคิ้วอย่างไม่รู้สึกรู้สา เหลือบตามองกระเป๋าหนักอึ้งแล้วขยับเข้าไปใกล้
มือหนึ่ง (พอ.)
“มึงแบกอะไรมาเยอะแยะวะ จะย้ายมาอยู่ด้วยหรือจะเปิดร้านซักรีด”
ปิ่นรัก (นอ.)
“อ่าว เสือก”
มือหนึ่งหัวเราะพรืดออกมา ไม่สะทกสะท้านกับคำด่าของเพื่อนแต่อย่างใด เขาถือกระเป๋าของปิ่นรักเดินนำขึ้นคอนโดไป ปิ่นรักเดินตามหลัง
มือหนึ่ง (พอ.)
“กูจัดห้องไว้รอมึงละ” //มือหนึ่งเอ่ยลอย ๆ ขณะยื่นบัตรแตะลิฟต์อย่างเคยชิน
ปิ่นรัก (นอ.)
“เออๆ ขอบใจ”
ปิ่นรัก (นอ.)
“ชั้นอะไรนะ?”
มือหนึ่ง (พอ.)
“ยี่สิบห้า”
มือหนึ่ง (พอ.)
“ห้องที่เตรียมไว้อยู่ถัดจากห้องกู มีห้องน้ำในตัว ของกินในตู้เย็นยังไม่หมด แต่ถ้าหมดมึงต้องไปซื้อเองนะ กูไม่ใช่เมด”
ปิ่นรัก (นอ.)
“ไม่เอาอะ กูจะให้หมอส่วนตัวเป็นคนคอยป้อนข้าว”
มือหนึ่ง (พอ.)
“งั้นเดี๋ยวจะได้ป้อนน้ำเกลือแทน”
เสียงลิฟต์ดังขึ้นก่อนประตูจะเลื่อนเปิดเผยให้เห็นโถงทางเดินสะอาดเอี่ยมและเงียบสงบ มือหนึ่งเดินนำไปทางขวาอย่างคุ้นเคย ก่อนจะหยุดที่ประตูห้องสีเทาเข้ม
เขาแตะบัตร เปิดประตู และเอี้ยวตัวมาทางปิ่นรักที่ยืนหอบแบบคนเพิ่งตายจากแดดมา
มือหนึ่ง (พอ.)
“ยินดีต้อนรับสู่คอนโดกู — ที่มึงก็อยู่ด้วยแล้วตอนนี้”
ปิ่นรัก (นอ.)
"ครับๆ คุณหมอมือหนึ่ง"
ปิ่นรักรีบแทรกตัวเข้าไปในห้องก่อนจะนั่งแหมะกับโซฟา มือหนึ่งก็ไม่ได้ว่าอะไรก่อนจะยกกระเป๋าของเพื่อนไปเก็บที่ห้องให้
ปิ่นรัก (นอ.)
“โอ๊ย สวรรค์แม่งมีอยู่จริง…” //ปิ่นรักครางพึมกับตัวเอง เอนตัวพิงพนักโซฟาอย่างหมดแรง
เขามองสำรวจไปรอบๆห้อง ที่นี่ไม่ต่างกับครั้งล่าสุดที่ปิ่นรักมาสักเท่าไหร่ เพียงแต่ตอนนี้เหมือนจะมีหนังสือเล่มหนาๆเยอะขึ้น
ก็นะ คุณหมอมือหนึ่งของเขาเป็นแพทย์อินเทิร์นปี 4 แล้วนี่เนอะ
ไม่เหมือนเขาที่วันๆเอาแต่ทำตัวไร้ประโยชน์
มือหนึ่ง (พอ.)
“ว่าแต่ทำไมจู่ๆมึงย้ายมาทำงานแถวนี้วะ”
ปิ่นรัก (นอ.)
“ก็เฮียอ่ะดิฝากกุเข้าทำงานในบริษัท”
ปิ่นรัก (นอ.)
“ให้มาเป็นผู้จัดการดาราเนี่ย”
มือหนึ่ง (พอ.)
“ผู้จัดการดารา? มึงเนี่ยนะ?”
ปิ่นรัก (นอ.)
“เออ กูเอง ไม่ใช่ผี” //ปิ่นรักกลอกตา
ปิ่นรัก (นอ.)
“ตกงานมาเกือบปี เฮียเห็นท่าไม่ดีเลยเลยฝากกุเข้าทำงานที่บริษัท”
มือหนึ่ง (พอ.)
“เออ ก็ดีกว่าอยู่ว่างงานไปวันๆ”
มือหนึ่ง (พอ.)
“มึงลุกได้ปิ่นรัก ไปจัดข้าวจัดของ”
ปิ่นรัก (นอ.)
“กูขี้เกียจอ่ะ”
ปิ่นรักเดินลากขาเข้าห้อง เขาเปิดกระเป๋าแล้วเริ่มลำเลียงเสื้อผ้าออกมาทีละกองอย่างขี้เกียจ
ปิ่นรัก (นอ.)
“เชี่ย… กูเอามาเยอะจริงด้วยแฮะ” //เขาพึมพำ ขณะมองกองเสื้อผ้าที่กองสุมเหมือนจะเปิดร้านขายมือสอง
มือหนึ่ง (พอ.)
“มึงนี่ก็เตรียมตัวเหมือนจะย้ายมาอยู่ตลอดชีวิต”
มือหนึ่ง (พอ.)
“แล้วนี่...งานใหม่เริ่มเมื่อไหร่?”
ปิ่นรัก (นอ.)
“งั้นวันนี้ไปเที่ยวเล่นให้หนำใจกันดีกว่า”
ตอนที่ 2 : แดกเหล้าไม่ว่า หวงเพื่อนไม่ไหว
ผับใจกลางกรุงชื่อ “LUXE” สว่างวาบด้วยไฟนีออนสีน้ำเงินและม่วง เสียงเบสแน่นๆ ดังทะลุกระจกหน้าร้านออกมาเหมือนกำลังเชื้อเชิญให้ผู้คนเข้าไปละลายตัวตนในค่ำคืนแสนวุ่นวาย
“พวกกูมารอนานแล้วเนี่ย รีบมา!” //📱
เสียง “สายธาร” เพื่อนสนิทอีกคนของมือหนึ่งดังมาจากโทรศัพท์ พร้อมกับเสียงเพลงคลอเบาๆด้านหลัง
มือหนึ่ง (พอ.)
“มันรออยู่แล้ว รีบเดินสิคุณผู้จัดการดารา”
มือหนึ่งเอ่ยอย่างติดจะหมั่นไส้ พลางขยับแขนโอบไหล่เพื่อนสนิทที่แต่งตัวจนแทบไม่เหลือเค้าของปิ่นรักคนเดิม
เสื้อเชิ้ตแขนสั้นปลดกระดุมสองเม็ดบน กางเกงผ้าทรงลำลอง รองเท้าหนังเรียบๆ กลิ่นน้ำหอมบางๆแบบ unisex ปนกับกลิ่นบุหรี่อ่อนๆที่ติดมากับบรรยากาศของเมืองในยามค่ำคืน
ปิ่นรัก (นอ.)
“ก็คนมันหน้าตาดี ต้องแต่งให้สมฐานะสิวะ”
ปิ่นรักเชิดหน้า พูดเหมือนจะอวด แต่หน้าเริ่มแดงนิดๆ เพราะแอลกอฮอล์จากแก้วที่แอบซัดมาก่อนเข้า
พอเดินเข้าไปในร้าน บรรยากาศก็เปลี่ยนจากเสียงจอแจของถนนเป็นโลกอีกใบที่ทุกจังหวะหัวใจสั่นตามจังหวะเพลง
กลุ่มเพื่อนของมือหนึ่งโบกมือเรียกทันทีที่เห็นพวกเขาเดินเข้ามา โต๊ะมุมดีติดกระจก มีขวดเหล้าตั้งอยู่หนึ่งขวดและแก้วกระจายกันไปคนละใบ
ต้องรัก (น้องนอ.)
“มาช้าชิบหาย”
ปิ่นรัก (นอ.)
“บ่นมากครับไอ้น้องเวร”
สายธาร (เพื่อน)
“เอ้าๆ ทะเลาะกันอีกและไอ้พี่น้องคู่นี้”
ปิ่นรักถูกลากไปนั่งกลางวงโดยอัตโนมัติ เมืองน่านทิ้งตัวนั่งข้างกัน ดึงแก้วเปล่ามาเทเหล้าให้เพื่อนอย่างรู้งาน
เมืองน่าน (เพื่อน)
“แดกซะนะ”
ปิ่นรัก (นอ.)
“มึงจะฆ่ากูเลยปะวะเพื่อน”
ปิ่นรักรับแก้วมาอย่างจำยอม ขณะที่เมืองนานยักไหล่เบาๆ
ต้นข้าว (เพื่อน)
“ช่วงนี้มึงเป็นไงบ้างวะ”
ต้นข้าวถามพร้อมกับเอาคางเกยไหล่ของปิ่นรัก
ปิ่นรัก (นอ.)
“ก็งั้นๆ กูย้ายไปอยู่กับมือหนึ่ง”
ต้นข้าว (เพื่อน)
“ถามจริง?”
มือหนึ่ง (พอ.)
“จริงๆ แล้วมึงจะทำไม?”
มือหนึ่งเอามือยันหัวของต้นข้าวให้ออกไปจากไหล่ของปิ่นรัก ก่อนจะเอามือโอบไหล่เพื่อนเอาไว้
ปิ่นรักหัวเราะในลำคอเบาๆ เหมือนจะชอบใจที่เห็นมือหนึ่งออกอาการหวงเพื่อนแบบไม่ปิดบังนัก
ต้นข้าว (เพื่อน)
“อ๋อเหรอวะ”
ต้นข้าว (เพื่อน)
“อยู่ด้วยกันแล้วมีไรเด็ดๆ ป่ะล่ะ”
มือหนึ่ง (พอ.)
“มึงจะถามเพื่อ?”
ต้นข้าว (เพื่อน)
“ก็แค่ถามไง๊”
ต้นข้าวเลิกคิ้ว ทำหน้ายียวน
ปิ่นรัก (นอ.)
“ไม่มีอะไรทั้งนั้น มันแค่...สะดวกดี อยู่ใกล้กัน ทำงานด้วยกัน ไอ้มือหนึ่งมันก็ขี้เกียจขับรถมารับกูทุกเช้า”
เมืองน่าน (เพื่อน)
“โห คำตอบโคตรธุรกิจเลยว่ะ” //เมืองน่านว่าพลางรินเหล้าให้ตัวเอง
ปิ่นรัก (นอ.)
“ก็จริงปะล่ะ”
ต้องรัก (น้องนอ.)
“แต่แม่งดูคล้ายแฟนกันชิบหาย” //ต้องรักเบะปากคล้ายรำคาญใจ
มือหนึ่ง (พอ.)
“ทีมึงจีบเมืองน่านทุกวันกุยังไม่พูดเลย”
ต้องรัก (น้องนอ.)
“ตอนไหนมิทราบ?” //ต้องรักทำหน้าหยะแหยง
เมืองน่าน (เพื่อน)
“ต้องรักมันก็ทำตัวเจ้าชู้กับทุกคนอยู่แล้ว”
พวกเขาคุยสัพเพเหระเวลาในผับเหมือนเดินเร็วขึ้นกว่าปกติ ไม่นานแก้วก็เวียนจนแทบนับไม่ไหว บทสนทนาผสมหัวเราะ ผสมความเมาจนลืมโลกจริงไปชั่วขณะ
ใครบางคนจากอีกโต๊ะเดินเข้ามาทักมือหนึ่ง สะดุดตาปิ่นรักจนต้องเงยหน้ามอง ผู้ชายในเสื้อเชิ้ตสีดำเรียบ กับต่างหูเงินที่สะท้อนแสงไฟในผับอย่างจงใจ
ปิ่นรัก (นอ.)
“มึงรู้จัก?”
มือหนึ่ง (พอ.)
“อ๋อ รุ่นพี่หมอ เพิ่งกลับมาจากเรียนต่อฝรั่งเศส ชื่อภาม” //มือหนึ่งตอบสั้นๆ ก่อนจะหันไปคุยกับอีกฝ่าย
ปิ่นรักพยายามจะไม่สนใจ แต่สายตาของภามที่แลมาแวบหนึ่งเหมือนจะอ่านเขาทะลุจนรู้สึกไม่สบายใจ
ภาม (รุ่นพี่)
“ไอ้นี่ใครน่ะ?” //ภามถามแบบไม่เกรงใจนัก
มือหนึ่ง (พอ.)
“เพื่อนปม ปิ่นรัก ย้ายมาอยู่ด้วยกันช่วงนี้” //มือหนึ่งตอบเสียงเรียบ
ภาม (รุ่นพี่)
“หรอ งั้นฉันไปก่อนนะ”
เวลาตีหนึ่ง ทุกอย่างเริ่มช้าลง เพลงกลายเป็นเสียงพื้นหลัง มือหนึ่งยังคุยกับคนอื่น ส่วนปิ่นรักเดินออกมานั่งตรงระเบียงด้านนอก สูดอากาศที่ไม่ปะปนกับกลิ่นแอลกอฮอล์
ใครบางคนเดินตามออกมานั่งข้างกัน
ภาม (รุ่นพี่)
“หนีมาทำไม ไม่สนุกเหรอ?”
ปิ่นรัก (นอ.)
“ก็...คนเยอะไปหน่อยครับ”
ภาม (รุ่นพี่)
“ไม่ชอบคนเยอะ แล้วจะอยู่กับหมอมือหนึ่งไหวเหรอ?”
ปิ่นรัก (นอ.)
ปิ่นรักนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้ม// “ก็เขาเป็นหมอ ไม่ใช่คนเยอะ”
ภาม (รุ่นพี่)
“ปากดีเหมือนกันนะ”
ปิ่นรัก (นอ.)
“ปากแค่พอดีครับ ยังไม่ได้ดีขนาดนั้น”
ภามหันมามองอีกฝ่ายตรงๆ เสี้ยวหน้าของปิ่นรักที่สะท้อนแสงไฟข้างผับทำให้เขาเผลอยิ้มออกมาอย่างนึกขำ
ภาม (รุ่นพี่)
“ไว้เจอกันอีกนะ ปิ่นรัก”
ตอนที่ 3 : ดื่มไปเต้นไป จูบไป งงไป
ปิ่นรักกลับเข้ามาในร้านหลังจากที่ภามเดินจากไป ปลายนิ้วยังรู้สึกอุ่นจากสัมผัสสายตาของคนแปลกหน้าเมื่อครู่ แต่เขาไม่อยากคิดมาก เลยทำเพียงแค่ก้าวกลับเข้าไปในฝูงชนอย่างตั้งใจจะหลอมตัวให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของมันอีกครั้ง
เสียงบีตกระแทกแรงแบบ EDM ผสม house ทำให้ร่างกายเริ่มเคลื่อนไหวตามอัตโนมัติ เขาเต้นอยู่ในมุมหนึ่งของฟลอร์ ไม่ไกลจากโต๊ะกลุ่มเพื่อนเท่าไหร่นัก นิ้วเรียวยกแก้วขึ้นจิบอีกครั้ง แอลกอฮอล์เริ่มทำหน้าที่ของมันอย่างซื่อตรง
มือหนึ่ง (พอ.)
“มึงหายไปไหนมา” //มือหนึ่งเดินเข้ามาใกล้
ปิ่นรัก (นอ.)
“ออกไปสูดอากาศ”
ปิ่นรัก (นอ.)
"มีคนตามไปด้วยแหละ"
คำตอบนั้นทำเอาคิ้วของมือหนึ่งกระตุกเบาๆ ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาเหมือนไม่คิดจะพูดอะไรต่อ
ปิ่นรัก (นอ.)
“เต้นกับกูดิ” //ปิ่นรักว่าพลางคว้ามือเพื่อนลากเข้าฟลอร์
มือหนึ่งทำหน้าเหมือนไม่อยาก แต่ก็ไม่ได้ขัดขืน เขาปล่อยให้เพื่อนสนิทลากตัวเขาเข้าไปอยู่ท่ามกลางแสงไฟกับกลุ่มคนที่ปล่อยตัวให้จังหวะพาไป
จังหวะเพลงดึงทั้งสองคนให้ขยับเข้าหากันโดยอัตโนมัติ แขนของปิ่นรักพาดลงบนไหล่ของมือหนึ่ง ขณะที่มือหนึ่งวางมือไว้ที่สะโพกเพื่อน ราวกับพวกเขาทำแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วน
มือหนึ่ง (พอ.)
“กูว่ามึงเริ่มเมา”
ปิ่นรัก (นอ.)
“กูว่ากูเมาไม่พอ”
พวกเขาเต้นต่อกันอีกสองเพลง จนเหงื่อเริ่มเกาะตามไรผม ปิ่นรักหยุดก่อน เอื้อมไปคว้าแก้วจากโต๊ะมาดื่มอีกคำแล้วทิ้งตัวนั่งลง มือหนึ่งตามมานั่งข้างกัน เหลือบมองแก้วในมือของเพื่อน
มือหนึ่ง (พอ.)
“มึงดื่มเยอะไปละนะ”
ปิ่นรัก (นอ.)
“ถ้ากูเมา มึงจะดูแลกูปะล่ะ?”
ปิ่นรักดื่มต่อทันทีขยับเข้าหามือหนึ่งเล็กน้อย และคุณหมอก็ตอบรับด้วยการโอบปิ่นรักเอาไว้
ขณะที่ต้องรักที่ควงสาวอยู่กลางฟลอร์ เมืองน่านมองใครบางคนมาสักพักใหญ่ ต้นข้าวโดนรุมจีบ และสายธารที่ท่าทางสนุกไม่แพ้กัน
มือหนึ่ง (พอ.)
“มึงรู้ไหม ว่ามึงโคตรน่ารำคาญเวลาเมา” //มือหนึ่งพูด พลางใช้หลังมือปัดเส้นผมที่เปียกเหงื่อออกจากหน้าผากของปิ่นรัก
ก่อนที่บทสนทนาจะไปไกลกว่านี้ เสียงโห่ร้องบางอย่างจากฟลอร์ดึงความสนใจของพวกเขาทั้งคู่
สายธาร (เพื่อน)
“ไอ้ปิ่นรัก! ดูน้องมึงดิ!” //เสียงสายธารตะโกนพร้อมชี้ไปที่กลางฟลอร์
ต้องรักยืนอยู่ตรงนั้น กับสาวคนหนึ่งที่ดูเหมือนกำลังจะ...จูบเขา
ปิ่นรัก (นอ.)
“หาสาวได้แล้ว? ไวใช้ได้”
มือหนึ่ง (พอ.)
“มันเมาหนักกว่ามึงอีก”
ปิ่นรัก (นอ.)
“มึงก็เมาด้วยดิ” //ปิ่นรักเอาแก้วเหล้าต่อปากมือหนึ่ง
มือหนึ่ง (พอ.)
“กูต้องขับรถพามึงกลับ”
มือหนึ่งถอนหายใจยาวแล้วกระดกแก้วจากมือเพื่อนเข้าไปครึ่งหนึ่ง ก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะอย่างระวัง มืออีกข้างยังโอบปิ่นรักไว้เหมือนเดิม แรงกอดนั้นแน่นขึ้นนิดหนึ่ง เมื่อปิ่นรักเอนศีรษะพิงลงบนไหล่เขาอย่างวางใจ
มือหนึ่งพยักหน้า ก่อนจะประคองปิ่นรักลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างเบามือ แล้วพากันเดินฝ่าฝูงชนไปที่ประตูทางออก เสียงฝีเท้าผสมกับเสียงหัวเราะ เสียงพูดคุย ที่กระจายไปทั่วบริเวณ แต่สำหรับปิ่นรัก สิ่งเหล่านั้นเหมือนเป็นเพียงเสียงพื้นหลัง
เขาวางปิ่นรักบนเบาะรถก่อนจะคาดเข็มขัดให้ แล้วเดินไปนั่งฝั่งคนขับ
แสงไฟนีออนของถนนนอกหน้าต่างพร่าเลือนเป็นริ้วสีต่างๆ ขณะที่เครื่องเสียงในรถเปิดเพลงช้าๆ คลอเบาๆ ขณะที่รถเคลื่อนตัว
มือหนึ่ง (พอ.)
“นั่งดีๆปิ่นรัก”
มือหนึ่งค่อยๆ ยกมือขึ้นลูบหลังมือของปิ่นรักอย่างช้าๆ
ปิ่นรักเบลอ ๆ เหมือนคนเมาหนัก มือหนึ่งที่ยังลูบหลังมือเขาอย่างช้า ๆ ทำให้รู้สึกอุ่นใจ
เขายิ้มหวาน ๆ อมฝืนตาปรือ ๆ เอียงหน้ามาใกล้ มือหนึ่งยังไม่ทันตั้งตัว ปิ่นรักก็เอนตัวถลาเข้าหา
ริมฝีปากนุ่มลูบไล้เบา ๆ ที่ริมฝีปากของเพื่อนก่อนจะจูบอย่างอ้อยอิ่ง
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!