ตอนผมพบเจอกับประสบการณ์นี้ ผมอาศัยอยู่ที่หอพักย่านศาลายากับแฟนสาว
หอพักแห่งนี้เป็นหอพักที่ราคากลางๆ แหล่งรวมนักศึกษาหลายมหาวิทยาลัยมาอาศัยกัน
แต่แปลกหอพักแห่งนี้ไม่มีคนรู้จักหรือเพื่อนผมอยู่เลยสักคน
เราเข้าอาศัยวันแรกก็เริ่มทำความสะอาดจัดข้าวของต่างๆ พอเราทำไปสักพักก็ไปพบกับ
เหรียญสิบบาทที่วางอยู่เรียงรายใต้เตียง เรานำเหรียญเหล่านั้นออกมานับได้จำนวนทั้งสิ้น 180 บาท (ผมและแฟนนับถือศาสนาคริสต์โรมันคาทอลิค เลยไม่ได้เข้าใจถึงความเชื่อตรงนี้ )
ก็เลยนำเหรียญทั้งหมดไปหยอดตู้ซักผ้าไมได้คิดอะไร
เรื่องราวทั้งหมดดำเนินผ่านไปอย่างปกติ จนกระทั่งคืนหนึ่งผมฝันว่า ผมอยู่ในห้องที่ผมนอน
แต่ในห้องมีผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่รู้จักนั่งอยู่ตรงปลายเท้า เธอพยายามพูดแต่พูดไม่เป็นภาษา
เสียงที่เธอกล่าวออกมาเป็นประมาณนี้ “จาจาจาจ๊ะ จะ จ๊ะจา” วกวนไปมา ผมพยายามถาม
พยายามฟังแต่ก็ไม่เข้าใจว่าเธอจะสื่ออะไร เมื่อเธอพูดเสร็จ เธอลุกยืนและเดินพุ่งเข้ามา
ผ่านตัวผมไป ผมสะดุ้งตื่นผวากับสิ่งที่ฝัน จึงลืมตาขึ้นมาเพื่อปรับอารมณ์
ในตอนนั้นเวลาตีสองกว่า (ผมนอนตะแครงข้างหลังติดกำแพงห้องน้ำ หน้าหันไปทางแฟน
แฟนผมและผมหันหน้ามาชนกัน) แฟนผมนอนหันหลังให้กับตู้เสื้อผ้า ซึ่งด้านหน้าของตู้
เป็นกระจกบานใหญ่สะท้อนเงาได้ทั้งห้องรวมถึงห้องน้ำด้วย
ผมนอนปรับสายตาและมองกระจกอยู่สักพักจนเห็นเงาแปลกๆขยับอยู่ตรงห้องน้ำ
เพ่งสายตาปรับภาพอยู่เวลาหนึ่ง สิ่งที่ผมเห็นคือ มีมือมือหนึ่งจับขอบประตูห้องน้ำ
มือนั้นพยายามเหมือนออกแรงลากร่างตัวเองออกมา ผมไม่ทราบว่าเป็นหญิงหรือชาย
ในตอนนั้นตกใจมาก็เลยลุกขึ้นวิ่งไปเปิดไฟห้องน้ำแต่ก็ไม่พบเจออะไร
แฟนผมถามว่ามีอะไรหรือเปล่า? ผมพูดไม่ได้เลยครับเพราะตัวแฟนเองนั้นกลัวผีขั้นสุด
เลยบอกไปว่าปวดท้องหนัก แล้ววันนั้นก็ผ่านไป
และคืนหนึ่งผมก็สะดุ้งตื่นเพราะฝันเหมือนเดิม สิ่งที่ผมฝันก็เหมือนเดิม แล้วผมก็มองไปทางเดิม
ตู้เสื้อผ้า เวลาเดิมคือตีสองกว่า สิ่งที่กลัวที่สุดในตอนนั้นคือมันจะเหมือนเดิม เวลาผ่านไปสักพัก
ก็ยังไม่มีอะไรแปลก แต่ผ้าม่านที่เป็นริ้วๆ อยู่ตรงระเบียงนั้นขยับ พริ้วไปมาอย่างน่ากลัว
สิ่งที่ผมเห็นได้ชัดมากคือ มีหน้าคนหน้าหนึ่ง ซ้อนและดันผ้าม่านออกมาเป็นรูปใบหน้า
ผมอึ้งและมองตรงนั้นไปถึงเช้าโดยที่จำไม่ได้ว่าผมรู้สึกตัวได้อย่างไร ผมก็เลยนำเรื่องราวนี้
ไปเล่ากับเพื่อน เพื่อนจึงบอกว่างั้นเอาสิ่งที่นับถือไปวางไว้ที่เตียง ผมจึงนำไม้กางเขน
ไปวางไว้ที่หัวเตียง หลังจากนั้นก็ไม่พบเจออะไรอีก
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
จบแล้วครับ
ขอบคุณที่รับชม
มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับมหาลัยที่เราเรียนอยู่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราเจอเมื่อตอนอยู่ปี3
แต่ที่จริงเราเจอบ่อยนะเรื่องแบบนี้ แต่อันนี้เจอแบบจังๆเลย หอที่เราอยู่เป็นหอพักหญิงล้วน
และมีหอชายล้วนอย่างล่ะหนึ่ง หอที่เราพักอยู่มีทั้งหมด4ชั้น เราอยู่ชั้น3 ส่วนชั้น4
มีนักศึกษาอยู่แค่3ห้อง ห้องที่1 ห้องที่3และห้องสุดท้ายซึ่งเป็นที่นักศึกษาอยู่มากที่สุด
แต่ล่ะชั้นมีแค่6ห้อง ห้องล่ะ4 เราอยู่ห้องที่5 นับจากซ้ายมือ และห้องสุดท้ายไม่มีใครอยู่
เป็นห้องเปล่าๆ มีแค่เตียงนอน4เตียง แต่ล่ะห้องต้องอยู่กัน4คน แต่ก็ไม่ถึงหรอก
เราอยู่กะเพื่อนแค่2คน เพราะส่วนมากเด็กที่อยู่จะเป็นนักกีฬา
ที่จริงเราเจอเหตุแบบนี้บ่อยนะตั้งแต่อยู่ปี1 และตอนอยู่มัธยมทั้งต้นละปลายก็เจอบ่อยมากๆ
เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า คือนั้นเป็นคืนวันศุกร์สุดท้ายของเดือน นักศึกษาที่อยู่หอพัก
ส่วนใหญ่กลับย้านหมดเหลือไม่กี่คน รวมเรากับเพื่อนด้วย ส่วนบนชั้น4กลับบ้านกันหมด
คืนนั้นด้วยความเพลียจากซ้อมกีฬาหนักเราก็หลับตั้งแต่20:30 และมารู้สึกตัวตอนตี1 พอดีเป๊ะ
สาเหตุที่ตื่น เพราได้ยินเสียงคนเคาะอะไรก็ไม่รู้ดัง เป๊าะๆๆ ดังอยู่นั่นเป็นครึ่งชั่วโมงและเงียบไป
ที่จริงเสียงเคาะนี้เราได้ยินบ่อยๆ แต่คราวนี้มันดังมากจนตกใจตื่น เมื่อเสียงเงียบลงเราก็นอนต่อ
นอนได้ไม่ถึง15นาทีมันก็ดังอีกล่ะ คราวนี้ดังนานมาก จนเราต้องลุกขึ้นเปิดไฟลุก
ไปหาเพื่อนอีกฝั่งของห้อง ปลุกมันและถามว่าได้ยินเสียงอะไรมั้ย มันบอกได้ยินได้นานแล้ว
แต่ขี้เกียจลุกขึ้นมันบอก เชื่อไหมค่ะว่าขณะที่เราคุยกับเพื่อนเสียงเคาะยังดังและเริ่มเคาะรัวๆ
จนเราบอกว่าต้องขึ้นไปดูหน่อยว่าคัยเคาะอะไร เสีบงมันมาจากไหน และเรากับเพื่อน
ก็ขึ้นไปชั้น4กัน ไปยืนอยู่หน้าห้องที่ตรงกับห้องเราด้านล่าง ซึ่งห้องที่5ชั้น4นั้นไม่มีใครอยู่
ตอนที่เราขึ้นไปเสียงนั่นก็เงียบลงแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราจึงบอกให้เพื่อนลงไปที่ห้อง
และฟังเสียงว่าได้ยินอยู่มั้ย แต่ขณะเดียวกันเราก้มมองลอดไปทางหน้าต่างบานเกร็ด
ที่หลุดออกหนึ่งอัน อยากจะรู้ว่าข้างในมีอะไรอยู่และอยากมั่นใจว่าเสียงมาจากห้องนี้หรือเปล่า
และเพราะมีแสงสว่างจากดวงจันทร์ ทำให้เราเห็นผู้หญิงนั่งหันข้างหน้าตรงไปที่กำแพงห้อง
แต่ในมือถือสากและมืออีกข้างจับครกตำเอาไว้ แล้วค่อยๆหันหน้ามาทางเรา
เราเห็นอย่างนั้นถึงกับก้าวขาไม่ออกสั่นไปตั้งตัวทำอะไรไม่ถูก จนเพื่อนมาดึงให้ลงไปข้างล้าง
เราถึงมีสติกลับมา เพื่อนเลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น เราเริ่มเล่าสิ่งที่เราเห็นเพื่อนฟัง
พอเราเล่าเสร็จเพื่อนมันก็กลัว จนไม่กล้านอน เรานั่งคุยกันอย่างนั้นจนถึงเช้าของอีกวัน
และปรึกษาว่าจะเอาอย่างไร จะเล่าให้คนอื่นฟังดีมั้ย แต่ถ้าเล่าไป
เพื่อนคนอื่นจะกล้าอยู่นี้ต่อไปไหมก็เลยตัดใจไม่เล่ากลัวเพื่อนกลัว
เราจึงตัดสินใจย้ายออกไปอยู่หอนอกกัน เพราะไม่กล้าอยู่แบบยังหลอนไม่หาย
จบแล้วครับ
คือพึ่งย้ายห้องใหม่ เพราะอยู่ใกล้ที่ทำงาน ห้องอยู่ชั้น3 มีเราและพี่คนนึงอยู่ด้วยกัน
วันแรกที่ย้ายมาก็ไม่มีอะไร วันที่สองเราได้ยินเสียงคนเดินคนวิ่ง อยู่ชั้นบน
ตอนแรกเราก็ไม่คิดอะไรเพราะคิดว่ามีคนอยู่ชั้นบน เราเลิกงาน4ทุ่ม นอนตี1ตี2
ก็ยังได้ยินเสียง ได้ยินแบบนี้ทุกคืน เราสงสัยว่าคนอะไรวิ่งเดินทำไมเวลานี้
เราเลยขึ้นไปดูและเห็นว่ามีประตู2บาน บานนึงเป็นห้องอีกบานถ้าเปิดประตูก็เป็นดาดฟ้า
ถ้าเปิดไปดาดฟ้าก็จะมีห้องใต้หลังคา3ห้อง
เราก็คิดว่าคงไม่มีอะไร อย่างน้อยก็มีคนนอนชั้นบน นานๆเข้าได้ยินเสียงของตกบ้าง
เสียงเหมือนลูกแก้วกลิ้ง เสียงยกโต๊ะยกเก้าอี้ เราเลยไปบอกเจ้าของหอ
เพราะมันรบกวนคนอื่น เจ้าของหอบอกว่าไม่มีคนอยู่ชั้นบน ห้องนั้นเป็นแค่ห้องเก็บของ
เราจำได้วันนั้นวันอาทิตย์เป็นวันหยุด เราได้ยินเสียงเด็กหัวเราะ
แต่เด็กที่ไหนจะมาหัวเราะ เพราะชั้นบนไม่มีใคร
ชั้น3ที่เรานอนมีแค่ห้องเราและเจ้าของหอ2ห้องแค่นั้น เสียงเด็กหัวเราะชัดเจนมาก
ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะได้ยินเสียงเด็ก เราอยู่ห้องใหม่มาได้12วันแล้ว ได้ยินเสียงทุกคืน
กลัวก็กลัวโมโหก็โมโหจนเมื่อคืนค่ะ ตัดสินใจขึ้นไปดูตอนเที่ยงคืนว่าเสียงมาจากไหน
ไปกับพี่2คน แต่ก็ไม่มีอะไร เหมือนเมื่อคืนก่อนนอนเสียงวิ่งหนักกว่าเดิม ชัดกว่าเดิม
เสียงลูกแก้ว ยกโต๊ะเก้าอี้ ของตกก็ได้ยินเหมือนเดิม เราจะได้ยินชัดเจนกว่าพี่คนนั้น
เพราะเรานอนพื้น พี่เค้านอนบนเตียง พี่เค้าได้ยินแค่เสียงเดินวิ่งและกระทืบเท้า
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!