เสียงเครื่องยนต์คำรามอย่างดุดัน ดอกยางบดถนนคอนกรีตในสนามแข่งรถที่อยู่ใจกลางเมืองหลวง ท่ามกลางสายตาผู้ชมที่ล้นหลาม จีฮุนกระชับมือบนพวงมาลัยรถแข่งสีแดงสด แสงแดดสะท้อนบนหมวกกันน็อกที่ปิดบังใบหน้าจริงจังของเขา เหงื่อเม็ดเล็กๆ ไหลหยดลงมาแต่เขาไม่สนใจ เขารู้ดีว่านี่ไม่ใช่แค่การแข่งขันธรรมดา แต่คือเงินก้อนที่จะส่งกลับไปช่วยแม่ที่บ้าน...
จีฮุนเป็นนักแข่งรถที่มีชื่อเสียงในวงการดาวรุ่ง ด้วยความเร็วและความอดทนที่ไม่ธรรมดา แต่เบื้องหลังความสำเร็จนั้น มีเรื่องราวที่แทบไม่มีใครรู้ แม่ของเขากำลังป่วยหนัก และค่าใช้จ่ายในการรักษาก็สูงลิบลิ่ว ทุกบาททุกสตางค์ที่ได้จากการแข่งขันนี้ล้วนมีค่ามากกว่าที่เห็นในสายตาของใครหลายคน
“จงตั้งใจเข้าไว้!” โค้ชที่อยู่ข้างสนามตะโกนส่งเสียงกระตุ้น “นี่ไม่ใช่แค่การแข่งขัน แต่คือชีวิต!”
จีฮุนรู้สึกถึงแรงกดดันที่ถาโถม เขารู้ดีว่าถ้าพลาดครั้งนี้ แม่ของเขาอาจจะไม่ได้รับการรักษาที่จำเป็น
รถแข่งคันอื่นเริ่มไล่ตามมาอย่างรวดเร็ว จีฮุนเพิ่มความเร็วให้สูงขึ้น ดวงตาโฟกัสไปที่เส้นชัยข้างหน้า ทุกจังหวะหมุนของล้อคือโอกาสของชีวิต
ในขณะเดียวกัน มินซอกยืนอยู่ริมรั้วสนามแข่ง เห็นภาพนักแข่งรถหนุ่มที่เขาแทบไม่รู้จักแต่กลับทำให้ใจเขาสั่นคลอน ความแตกต่างระหว่างเขากับจีฮุนชัดเจนเกินกว่าที่จะมองข้ามไป
มินซอกเติบโตมาในครอบครัวที่มั่นคง ฐานะการเงินที่ดีทำให้เขาไม่เคยต้องลำบากอะไรเลย ความรู้สึกที่เห็นจีฮุนต่อสู้กับชีวิตอย่างหนักหน่วง ทำให้เขาเริ่มตั้งคำถามกับโลกที่เขาอยู่ว่า “ชีวิตจริงๆ คืออะไร?”
“นี่แหละ… โลกที่ต่างกันสุดขั้ว” เขากระซิบในใจ พลางจับโทรศัพท์ขึ้นมาและส่งข้อความหาเพื่อนที่รู้จักกับจีฮุน
หลังจบการแข่งขัน จีฮุนเดินออกมาด้วยท่าทางเหนื่อยล้าแต่แฝงไปด้วยความภาคภูมิใจในความสำเร็จ มินซอกเดินเข้าไปหาเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว
“เฮ้! คุณคือจีฮุนใช่ไหม? ผมมินซอก เพื่อนของซองแจ” มินซอกทักทายด้วยรอยยิ้ม
จีฮุนเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย “ใช่… คุณเป็นใคร?”
“ผมรู้จักซองแจ เขาบอกผมว่าอยากให้เรารู้จักกัน” มินซอกตอบอย่างจริงใจ
จีฮุนลังเลก่อนจะยิ้มบางๆ “ยินดีที่ได้รู้จัก”
นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่ไม่มีใครคาดคิด เส้นทางของคนสองคนที่ต่างกันสุดขั้ว แต่กลับต้องเดินทางร่วมกันในโลกที่เต็มไปด้วยความหวังและความเจ็บปวด...
เสียงเชียร์ในสนามแข่งยังดังก้องอยู่ในหัว จีฮุนเดินผ่านกลุ่มผู้ชมโดยไม่แม้แต่จะมองหน้าใคร เขาไม่ชอบความวุ่นวายแบบนี้นัก เพราะมันทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกมองเป็นเครื่องจักรที่มีไว้แค่ “เร็ว” และ “ชนะ”
เมื่อเดินไปถึงเบื้องหลังอัฒจันทร์ เขาถอดหมวกกันน็อกออก เผยให้เห็นใบหน้าคมเข้มที่เปื้อนเหงื่อและความอ่อนล้า ไม่ใช่เพราะแข่งหนักเกินไป แต่เพราะแบกน้ำหนักชีวิตไว้มากเกินไปต่างหาก
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
จีฮุนหยิบขึ้นมาดู – เป็นข้อความจากโรงพยาบาล
"คุณแม่มีอาการแทรกซ้อน ต้องตรวจเพิ่มภายในสัปดาห์นี้"
เขากัดฟันแน่น สะกดอารมณ์ไม่ให้โวยวาย โอกาสครั้งนี้ที่เพิ่งชนะมา ยังไม่ทันได้ถอนหายใจ ก็มีเรื่องใหม่ไล่ตามทันอีกแล้ว
อีกฟากหนึ่ง มินซอกยังคงอยู่ที่สนาม
เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อดูการแข่งขันหรอก — เขาแค่อยากรู้ว่า “คนที่ซองแจพูดถึง” เป็นยังไงกันแน่
แต่สิ่งที่เขาเห็นคือผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่เหมือนใครในโลกที่เขาเติบโตมา
‘จีฮุนเหมือนวิ่งอยู่บนสนามชีวิต ที่ไม่มีใครคอยเชียร์’
“มึงไปคุยกับเขาหรือยัง?” ซองแจโทรมา
“ยัง… เขาดูไม่อยากให้ใครเข้าใกล้เลย” มินซอกพูดเสียงเบา พลางนึกถึงตอนที่จีฮุนตอบรับคำทักทายของเขาอย่างห่างเหิน
เย็นวันนั้น
จีฮุนกลับถึงบ้าน — บ้านไม้หลังเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยเงียบสงบ
ภายในบ้านเต็มไปด้วยกลิ่นยาและความเงียบ แม่ของเขานอนอยู่บนเตียงอย่างอ่อนแรง จีฮุนนั่งลงข้างเตียง จับมือนิ่ม ๆ ของแม่ไว้แน่น
“วันนี้แข่งเป็นไงลูก…” เสียงแม่เบาเหมือนจะหลุดลอย
“ชนะครับ… ได้เงินมาอีกก้อน”
เขายิ้มให้แม่ ทั้งที่ในใจไม่มีความสุขเลยสักนิด
“อย่าหักโหมเกินไปนะ แม่…ไม่อยากเห็นลูกเจ็บตัวเพื่อแม่แบบนี้”
“ผมไม่เป็นไรครับแม่ ผมอยากให้แม่หายดี”
จีฮุนจับมือแม่แน่นขึ้นกว่าเดิม—คำสัญญาของลูกชายคนเดียวที่มีอยู่ทุกอย่างในตัวเอง
สามวันถัดมา มินซอกบังเอิญเจอจีฮุนที่อู่ซ่อมรถหลังสนามแข่ง
เขากำลังซ่อมรถแข่งคันเก่าด้วยน้ำมันเครื่องที่เปื้อนเต็มแขน
“ไม่คิดว่าคุณจะซ่อมรถเองด้วย” มินซอกยิ้มบาง ๆ เดินเข้าไปใกล้
จีฮุนหันมามอง เขาจำได้ว่าอีกฝ่ายคือใคร
“มีอะไร?” น้ำเสียงยังเย็นชาเหมือนเดิม
“ผม… แค่อยากคุยเฉย ๆ ซองแจบอกว่าคุณไม่ค่อยมีเพื่อน ผมเลยคิดว่าอาจจะ…”
“ไม่ต้องสงสารฉัน” จีฮุนพูดตัดทันที
“ฉันไม่ได้ต้องการเพื่อนที่เห็นใจฉันเพราะฉันจน”
มินซอกชะงัก “…ไม่ใช่แบบนั้นนะ ผมไม่ได้สงสาร ผมแค่…”
จีฮุนหันกลับไปซ่อมรถต่อ ไม่พูดอะไรอีก
คืนนั้น มินซอกกลับไปนั่งคิดเงียบ ๆ ในห้องของเขา
แม้จะมีเตียงนุ่ม เครื่องปรับอากาศ และชีวิตที่ไร้ปัญหา แต่ความรู้สึกบางอย่างกลับกระวนกระวาย
“ทำไมเขาถึงฝังตัวเองไว้กับความโดดเดี่ยวแบบนั้น…”
เขาไม่เข้าใจเลย ว่าทำไมแค่จะยื่นมือเข้าไป ก็ถูกผลักกลับมาอย่างรุนแรง
แต่เขารู้ดี…ว่าตัวเองไม่อยากหยุดเพียงแค่นี้
สองวันต่อมา
ฝนตกหนัก…จีฮุนกำลังเดินกลับบ้านหลังจากรับของจากร้านขายยา
ระหว่างทาง รถของเขาดันสตาร์ทไม่ติด เสียงฟ้าร้องดังสนั่น
เขากำลังลังเลว่าจะเข็นหรือโทรหาโค้ชดี จู่ ๆ ก็มีรถยนต์สีดำจอดเทียบข้าง
กระจกเลื่อนลง — มินซอกนั่นเอง
“ขึ้นรถไหม? เดี๋ยวไปส่ง”
เขาพูดอย่างไม่คิดอะไรมากนัก แต่ในใจเต้นแรง
จีฮุนมองเขานิ่ง ๆ ก่อนจะเปิดประตูขึ้นรถ
“ฉันไม่ได้ยอมขึ้นรถเพราะไว้ใจนาย”
“ฉันแค่ไม่อยากให้ยากินหมดอากาศฝนแล้วแม่ไม่ได้กิน”
มินซอกยิ้ม
“งั้นก็ดีแล้ว อย่างน้อยคุณก็ยอมขึ้นรถคนรวยสักที”
จีฮุนหันมามองอย่างไม่สบอารมณ์ แต่มินซอกแค่หัวเราะเบา ๆ แล้วขับต่อ
และนั่น…คือครั้งแรกที่พวกเขาได้อยู่ด้วยกันจริง ๆ
ในรถที่เงียบเกินไป คำถามในใจของมินซอกเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ
หลังจากวันที่จีฮุนยอมขึ้นรถของมินซอก วันถัดมาอากาศกลับมาร้อนอบอ้าวอีกครั้ง แต่ในใจเขายังหนาวเย็นเหมือนเดิม แม้แค่ได้นั่งรถแอร์เย็น ๆ กับคนแปลกหน้า มันควรเป็นเรื่องดี…แต่จีฮุนไม่เคยไว้ใจอะไรที่มาง่ายเกินไป
“คนรวยเขามักมีเหตุผลซ่อนอยู่หลังความหวังดี” — เขาบอกตัวเองแบบนั้นตลอด
วันหนึ่ง มินซอกเอาเครื่องดื่มเกลือแร่กับขนมไปให้ที่อู่ซ่อมรถ
“อากาศร้อนมากเลย ซื้อมาเผื่อคุณจะเหนื่อย”
เขายิ้ม ยื่นของให้อย่างเป็นธรรมชาติ
จีฮุนหันไปมอง หยิบเครื่องดื่มมาเปิดทันทีแต่ไม่พูดขอบคุณ
“ยังคิดว่าฉันน่าสงสารอยู่ไหม?” เขาถามขณะดื่ม
มินซอกถอนหายใจ “เปล่าเลย ฉันแค่อยากอยู่ข้าง ๆ”
จีฮุนชะงักไปเล็กน้อย แต่แค่ไม่กี่วินาทีก็เบือนหน้าหนี
“อยู่ข้าง ๆ งั้นเหรอ… คนแบบฉัน มันไม่ใช่คนที่ใครควรอยู่ข้าง ๆ หรอก”
“แล้วใครบอกว่านายไม่มีสิทธิ์ถูกดูแล?” มินซอกสวนกลับทันที
บรรยากาศเงียบลงทันที สายตาของทั้งสองประสานกันเหมือนจะพูดอะไรได้มากกว่าคำพูด
แต่ไม่มีใครกล้าพูด
วันต่อมา ขณะที่จีฮุนกลับถึงบ้าน พบแม่มีอาการไอหนักขึ้นจนต้องพาไปโรงพยาบาลด่วน
เขาวิ่งออกมาเรียกแท็กซี่แต่ไม่มีคันไหนจอดเลย
มินซอกที่เพิ่งเลิกเรียนผ่านมาพอดี รีบวิ่งเข้าไป
“ขึ้นรถฉันเลย!”
จีฮุนลังเลไม่ถึงวินาที “พาไปโรงพยาบาล X ด่วน แม่ฉันหายใจไม่ออก!”
ตลอดทาง มินซอกขับด้วยความเร็วเท่าที่จะกล้า พวงมาลัยในมือสั่นเล็กน้อยแต่จิตใจมั่นคง
ในกระจกมองหลัง เขาเห็นจีฮุนกุมมือแม่ไว้แน่น ทั้งหมดนั้น…คือแผลที่มองไม่เห็นในหัวใจของคนเข้มแข็ง
หลังจากผ่านไปชั่วโมงหนึ่ง แม่จีฮุนอาการทรงตัว แพทย์บอกว่าโชคดีที่พามาทันเวลา
มินซอกนั่งอยู่ข้างจีฮุนบนเก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉิน
“ขอบใจ” จีฮุนพูดเบา ๆ …เสียงจริงจังกว่าครั้งไหน ๆ
มินซอกไม่ตอบอะไร แค่พยักหน้าเบา ๆ
จีฮุนรู้แล้ว…ว่าคนคนนี้ ไม่ได้หวังอะไร
หลังจากเงียบกันไปครู่หนึ่ง เสียงเครื่องปรับอากาศในโรงพยาบาลทำให้บรรยากาศเย็นยะเยือก แต่มินซอกกลับรู้สึกว่าข้าง ๆ ตัวเองอบอุ่นอย่างประหลาด
จีฮุนนั่งก้มหน้า มือที่วางบนตักกำแน่น
“ฉันไม่ชิน…เวลามีใครทำอะไรให้โดยไม่หวังผล” เขาพูดเสียงเบา เหมือนคำสารภาพของนักโทษคนหนึ่ง
“งั้น…ก็เริ่มชินได้แล้ว” มินซอกหันมามอง
จีฮุนเงยหน้าขึ้น สบตาเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะเบือนหน้าไปทางอื่น
“ถ้าเป็นนายล่ะก็…บางทีฉันอาจลองดูสักครั้ง”
มินซอกหัวเราะเบา ๆ
ไม่ใช่เพราะคำพูดนั้นดูตลก
แต่เพราะมันเป็นครั้งแรกที่จีฮุน “ยอมเปิดประตูบานเล็กในหัวใจ” ให้เขาเข้าไปได้แม้เพียงนิดเดียว
“นายรู้ไหม ฉันไม่ได้สนใจว่านายเป็นใคร หรือมาจากไหน…”
เขาพูดอย่างจริงจัง
“แต่ฉันสนใจว่านาย…กำลังรู้สึกอะไรอยู่มากกว่า”
จีฮุนมองเขาอีกครั้ง แววตานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า...
“แล้วถ้าฉันบอกว่านายกำลังเดินเข้ามาในเขตอันตรายล่ะ?”
มินซอกยิ้มมุมปาก ไม่กลัวเลยสักนิด
“งั้นก็ถือว่าฉันสมัครใจ…จะบาดเจ็บบ้างก็ยอม”
ในคืนนั้น หลังแม่ของจีฮุนถูกส่งเข้าห้องพักผู้ป่วยแล้ว
จีฮุนยืนอยู่ริมระเบียงชั้นสองของโรงพยาบาล มองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงจันทร์
เขาไม่ได้พูดอะไร
แต่มินซอกมายืนข้าง ๆ และวางมือลงบนราวเหล็กข้างกันโดยไม่พูดเช่นกัน
ในความเงียบนี้ ไม่มีคำพูด
แต่ก็ไม่มีใครถอยออกไป
เหมือนทั้งสอง…ต่าง “เข้าใจกัน” มากพอ โดยไม่ต้องอธิบายอะไร
หรือถ้าหวัง…อาจหวังให้เขารอดจากโลกที่โหดร้ายใบนี้สักครั้ง
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!