NovelToon NovelToon

รักที่ไม่ใสของผมกับผี

บทเริ่ม

เอิ่ม...

จะเริ่มเขียนยังไงก่อนดี...

เเนะนำตัวละครหลักในเรื่องก่อนก็แล้วกัน ผมชื่อนาย จิตกร เพิ่มสุข(ไม่ใช่ชื่อจริงของผมนะ) ชื่อเล่นชื่อต้น อยู่มหาวิทยาลัย...เอิ่ม ไม่ขอพูดดีกว่า(เพื่อมีคนมาหา)เอาเป็นว่าอยู่ประมาณทางภาคใต้ ผมเป็นคนจังหวัดศรีสะเกษ แต่ได้มาเรียนที่ภาคใต้...ช่างเข้ากันมากเลยเนอะ

คนที่2...จะเรียกว่าคนก็ไม่น่าจะใช่ เอาเป็นว่าเธอเป็นตัวละครที่2ก็แล้วกัน เธอชื่อนางสาวปรัตถมนคร จันวิเศษ ชื่อเล่นชื่อพี่แก้ว เธอมีดวงตาที่สวย ผมสีดำเข้ม ผิวสีขาว ภาพโดยรวมคือเธอเป็นผู้หญิงที่น่าจะถูกใจชายหลายคน(ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย) แต่...มีแค่เรื่องเดียวที่น่าเสียดาย เพราะเธอไม่ใช่คนนี้สิ ถ้าคุณอ่านเรื่องย่อที่ผมเขียนไว้ คุณก็น่าจะเดาออกนะ พี่แก้วอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ประมาณ เอิ่ม...เธอเคยบอกผมอยู่นะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ9ปีนี้ละ อยู่มาตั้ง9ปีแต่หน้าตาก็ยังสวยเหมือนเดิมนะ แล้วก็...

"เขียนอะไรอยู่นะ ต้น" เสียงผู้หญิงที่คุ้นเคย ดังขึ้นข้างหลังของต้น

ต้นหันไปดูว่านั้นเป็นเสียงของใคร"พี่แก้ว! มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ!?"

พี่แก้วหัวเราะเบาๆ"ก็พึ้งกลับมาจากไปเดินชมนกชมไม้แถวนี้ละ...ว่าแต่ต้นกำลังเขียนอะไรอยู่หรอ?"

"เอิ่ม จะพูดยังไงดีละ...เขาเรียกว่าเขียนนิยายมั้งครับ" ต้นตอบ

"อ๋อ...เขียนเรื่องพี่อยู่ละซิ"

ต้นหน้าแดงทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของแก้ว"..."

"เขียนต่อเถอะจ๊ะ พี่ไม่กวนแล้ว"

"ครับ" รู้สึกอายทุกครั้งเลย ตอนได้เห็นหน้าพี่แก้ว

ไม่ไหวไม่ไหว ตั้งสติก่อน เอาละต่อเลย

คนที่3 ชื่อนางสาว...งานเข้าแล้วไงผมไม่ได้ถาม ชื่อจริงเธอ ไม่เป็นไรเอาชื่อเล่นก็ได้ ชื่อเล่นชื่อหอม อยู่ชมรมเดียวกับผม เธอเป็นคนที่มีความกล้ามากกว่าผู้ชายทั่วไป ตัดสินใจเรื่องต่างๆอย่างรวดเร็ว...โดยที่ไม่น่าจะปรึกษาคนรอบข้างเลย แต่ลึกๆแล้วในใจเธอก็มีความเป็นผู้หญิงอยู่นะ ถึงแม้จะกล้าแค่ไหนก็ต้องการคนที่อยู่ข้างๆอยู่ดี เดี๋ยวคุณก็รู้ ผมดีใจแปลกๆที่วันนี้หอมติดงานที่ห้องสมุด ไม่งั้นห้องชมรมคงเสียงดังจนผมไม่มีสมาธิเขียนแน่

OK! มาถึงคนสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดแล้ว

คนที่4 พี่บ่าวหรือจะเรียกแกว่าบ่าวตูนก็ได้(ผมเรียกแกว่าพี่บ่าว)ผมนับถือชายคนนี้เลยว่าเป็น คนที่รู้เรื่องเกี่ยวกับไสยศาสตร์(สายขาว)มากที่สุด...ในชมรม เพราะ ถ้าผมไม่ได้เจอพี่บ่าวในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ผมคงได้ไปเฝ้ารากมะม่วงในหลายสถานการณ์ที่เจอมา และเขายังเป็นคนที่ให้กำลังใจผมไปสาระภาพรักกับพี่แก้วอีกด้วย เป็นคนที่ผมนับถือรองลงมาจากพ่อที่สุดในเรื่องนี้เลย อีกอย่างการพูดของพี่บ่าวจะเป็นสำเนียงอีสาน ฟังกันให้รู้เรื่องนะ

และคน...ตัวละครสุดท้าย เธอชื่อว่าพี่มะลิ ใช่แล้วครับพี่มะลิไม่ใช่คน เธอเป็นผีตานีที่เป็นแฟนของพี่บ่าว คุณอาจจะสงสัยว่าทำไมพี่บ่าวถึงมีแฟนเป็นผีใช่มั้ย เดียวคุณก็จะได้รู้ ขอบอกก่อนว่าบทของพี่มะลิมีน้อย

เอาละถึงเวลาที่ผมจะมาเขียนประสบการณ์ ที่เจอมาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ที่มีทั้งความดีใจ ความประทับใจและความเสียใจให้คุณได้อ่าน ถึงแม้บทพูดอาจจะเยอะกว่าเหตุการณ์ก็เถอะ เเต่ผมจะพยายามเขียนให้มันเข้าใจได้ง่ายๆก็แล้วกัน ผมหวังว่าสิ่งที่กำลังจะเขียนมันคงไม่ทำให้คุณรู้สึกเบื่อหรอกนะ...

OK! แนะนำตัวละครหลักในเรื่องพอแล้ว เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า

วิญญาณของหญิงสาว

ขอเริ่มตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่ผมได้ไปเจอพี่แก้วก่อนเลยก็แล้วกัน มหาลัยที่ผมศึกษาอยู่มีอาคารทั้งหมด13อาคาร อาคารเรียนมีอยู่9 โรงอาหาร1 หอประชุม2 โรงยิม1และอาคารเก่าที่ใช้เก็บของ1อาคาร ที่ผมมาศึกษาที่มหาลัยแห่งนี้ไม่ใช่เพราะความชอบหรือเป็นมหาลัยชื่อดัง แต่ผมหนีจากอะไรบางอย่างที่พวกคนธรรมดาเขามองไม่เห็นกัน คุณก็คงน่าจะเดาออก ตั้งแต่ที่ยังเป็นเด็กผมแถบจะแยกไม่ออกเลยระหว่างคนกับผีเพราะดูยังไง...มันก็ไม่ต่างกันมาก แค่ผีเขาจะสีตัวดำๆเทาๆเท่านั้นเอง(ไม่รู้นะว่าใครเห็นแบบผมหรือป่าว)ถ้าใครเป็นคนที่มีซิกเซ้นก็น่าจะรู้

แต่แปลกนะ ผมมีพี่สาวคนหนึ่งแต่แกไม่ยักกะเคยเจอผีเลยสักครั้งไม่เหมือนกับผมที่มักจะ...วันละหนึ่งท่าน ไม่รู้สิความสามารถนี้คงไม่ได้มาจากพันธุกรรมหรอกมั้ง ผมเคยได้ยินมาว่าที่มหาลัยแห่งนี้มันมีเรื่องเล่าหรือตำนานจากรุ่นพี่น้อย ก็เลยสนใจที่จะมาเรียน สิ่งที่ดีอีกอย่างก็คือพี่สาวผมก็จบจากมหาลัยนี้เช่นเดียวกัน...เอิ่มจะพูดว่ามันเป็นเรื่องดีได้มั้ยน่า เพราะแกก็มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้ผมได้มาเจอพี่แก้ว วันนั้นเป็นวันที่ไม่ร้อนมากผมกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ศาลาพักใจ มีคนโทรเข้ามาในมือถือและคนนั้นก็คือพี่สาวของผมใจความมีอยู่ว่า

"ฮะโลต้น เป็นไงบางชีวิตมหาลัยเจอเรื่องอะไรดีๆหรือยัง"

"นี้ผมพึ้งเรียนได้34วันเองนะ สำรวจอาคารยังไม่หมดเลย" ต้นตอบ

"ไม่นานเดียวก็ชินเอง...คือว่าพี่มีเรื่องอยากจะขอร้องต้นหน่อยได้มั้ย"

"ถ้าไม่ใช่เรื่องที่ให้ไปเจอผี" ต้นพูดด้วยน้ำเสียงหวาดละแวง "ก็ได้หมด"

"ตกลงแล้วนะ!" พี่สาวของต้นรีบพูดขึ้น"ตอนนี้ต้นยังไม่ได้เข้าชมรมสินะ" (พี่รู้ได้ยังไงว่าผมยังไม่ได้เข้าชมรมจริงๆ)

"จะให้ทำอะไรละ"

"พี่ได้ยินข่าวว่า ชมรมเรื่องเหนือธรรมชาติกำลังจะยกเลิกถ้าไม่มีใครเข้า เพราะฉนั้นก็เลยอยากให้ต้นเข้าชมรมนี้ ถือสะว่าเป็นรุ่นน้องของชมรมต่อจากพี่ก็แล้วกัน"

"พี่แน่ใจนะ ว่าไม่มีผี"

"100%เลยละจ๋ะ ไม่มีแน่นอน" พี่สาวต้นตอบด้วยความรวดเร็ว

"แล้วชมรมอยู่อาคารไหน?"

"ชมรมอยู่ทีอาคารเก่า กุญแจห้องอยู่ใต้กระถางต้นไม้ที่หน้าอาคาร ไปเอาสมัครแล้วกรอกข้อมูลลง ทำทั้งหมดนั้นก็ถือว่าเสร็จสิ้นแล้ว แค่นี้นะ พี่ต้องไปทำงานต่อแล้ว โชคดีละน้องชายสุดที่รัก..." สิ้นสุดสายลงเท่านี้

ก็นั้นละคือเหตุที่ผมต้องมาเข้าชมรมเรื่องเหนือธรรมชาติ เป็นชมรมที่ผมมักจะหลีกเลี่ยงอยู่ตลอด แต่พี่ผมบอกว่าไม่ผีก็รู้สึกอุ่นใจบางอยู่ไม่ใช่ว่าผมกลัวนะ แค่ตอนไหนที่ได้เจอ พวกเขามักจะมาขอส่วนบุญจากผมอยู่บ่อยๆถึงแม้ผมจะไม่รู้จักบทสวดมนต์อะไรมากมาย แต่บทสำคัญๆที่พ่อผมเคยสอนเอาไว้ไม่เคยลืมหายไปแน่นอน เอาเป็นว่าของตัดไปช่วงที่กรอกทุกอย่างเสร็จและไปยืนอยู่ที่หน้าอาคารเลยก็แล้วกัน

ผมเจอกุญแจที่พี่บอกไว้แล้ว แต่สิ่งที่พี่ไม่ได้บอกคือชมรมมันอยู่ห้องไหนห้อง

นี้ต้องไล่เปิดไปทีละห้องใช่มั้ยเนี้ย ต้นพูดในใจ เอาวะถ้าไม่ลองก็ไม่รู้

ผมเริ่มต้นเปิดจากชั้นสองห้องที่หนึ่ง ขอข้ามตอนนี้ไปเลยก็แล้วกันเพราะชั้นสองมีแต่ห้องที่เปิดไม่ได้ ผมเลยเดินลงมาอยู่ชั้นแรก ลืมบอกไปอาคารเก่ามีรูปร่างเป็นตัวทีใหญ่Tมีสองชั้น ข้างล่างตัวTจะเป็นทางเข้าส่วนข้างบนจะเป็นบันไดขึ้นไปยังชั้นสอง

เอาไงดีเนี้ย ใกล้จะได้เวลากลับแล้วละสิ ดวงอาทิตย์ก็เริ่มจะลับขอบฟ้าแล้ว ต้องรีบหาห้องให้เจอ ต้นพูดในใจ แกล๊กๆ(เสียงเปิดประตู)ไม่ใช่ ห้องต่อไป แกล๊กๆนี้ก็ไม่ใช่ ต้นเปิดประตูแล้วประตูเล้าก็ไม่มีห้องไหนเปิดได้ จนเหลืออยู่สามห้องสุดท้าย

"สามห้องสุดท้ายแล้วสินะ" ถอนหายใจเบาๆ "รู้งี้น่าจะเติมเงินโทรศัพท์มาด้วยนะเรา...ช่างมันเถอะ" ต้นหยิบกุญแจขึ้นมาไขประตูห้องที่สาม แกล๊กๆลูกบิดประตูทุกปลดล็อกออก "ไขได้แล้ว!!!" เขาเงยหน้าขึ้นไปมองว่าเป็นห้องที่เท่าไร "013" เลข0คือเลขอาคาร

เลข1คือเลขของชั้นในอาคาร ส่วนเลข3คือเลขของห้อง "โฮ๋...เลขห้องดีจริงๆ" ต้นค่อยๆเลื่อนประตูออก แล้วเดินเข้าไปข้างในห้อง "มีใครอยู่มั้ยครับ...จะมีได้ยังไง?" เขาเดินสำรวจของที่อยูข้างในห้อง ดูรวมๆแล้วคงจะผ่านมาหลายสิบปี ทั้งฝุ่นทั้งหยักใย่มีเติมทั่วห้องไปหมดคงจะต้องทำความสะอาดวันพรุ้งนี้แล้วละ ต้นสำรวจไปเลื่อยๆจนมาเจอกับกระจกบานหนึ่งที่สามารถส่องเห็นทั้งตัวเขา

"ว่าว...บานใหญ่ใช้ได้เลย" เขายืนมองตัวเองผ่านกระจก แต่ในระหว่างที่มองอยู่ ก็มีเงาสีดำรูปร่างเหมือนคนค่อยๆเดินเข้ามาหา ก่อนที่จะได้ยินเสียงพูดขึ้นว่า "สมาชิกใหม่หรอ?" ต้นหันหลังควับทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น สิ่งที่เห็นก็คือผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเอาหน้าเข้ามาใกล้ๆเขา

"เฮ้ย!!!!!!" ต้นตะโกนสุดเสียง ก่อนที่เขาจะล้มลงกับพื้น

"อุฟ นี้ฉันทำหน้าตาหน้ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ" ผู้หญิงคนนั้นถามต้น

"ปะ...ป่าวครับ ผมแค่ตกใจเฉยๆ" ต้นตอบ

ผู้หญิงคนนั้นหัวเหราะออกมาเบาๆ "ไม่มีคนเข้ามาที่นี้บ่อยนักหรอก" หญิงสาวยื่นมือมาหาต้นเพื่อที่จะให้เขาจับพยุงตัวขึ้น ต้นยื่นมือไปจับกับมือของเธอความรู้สึกแรกที่เข้ามาในหัวของต้นคือมือของหญิงสาวเย็นยเยือกมากไม่มีความอบอุ่นเลย "เธอคงเป็นเด็กใหม่สินะ?" หญิงสาวพูดขึ้น

"คะ...ครับ" ต้นพูดด้วยเสียงกล้าๆกลัวๆ เพราะถ้าคนไหนที่เขาสัมผัสตัวเย็นยเยือกก็มันใจได้เลยว่าเป็นผี

แต่อาจจะไม่ใช่ก็ได้(พี่บอกแล้วนิว่าไม่มี) เธอผิวขาว มีดวงตาราวกับกวาง ดูจากชุดที่ใส่แล้วน่าจะเป็นรุ่นพี่ด้วย ตัวก็ข้อนข้างสูง แต่ผมสูงกว่า ภาพรวมคือเป็นคนที่ผมถูกใจมาก

เสียงหัวเหราะเบาๆของพี่แก้วดังขึ้นข้างๆหูผม "ไม่รู้

เลย ตอนต้นเจอพี่ครั้งแรกจะคิดแบบนี้"

ต้นหันหลังไปหาพี่แก้วแล้วพูดขึ้น "ใครจะไปรู้ละ ว่ามีคนสวยขนาดนี้อยู่ในห้องคนเดียว"

พี่แก้วหัวเราะอีกครั้ง "ลามก!"

"โธ่ พูดแบบนี้ผนน้อยใจนะ"

"ขอโทษ เขียนต่อเถอะนะพี่รออ่านอยู่"

"ครับๆ" ต้นตอบ

เอ่อ ถึงไหนนะ...อ๋อ

หลังจากที่ผม ตอบคะ...ครับ ด้วยเสียงกล้าๆกลัวๆไป หญิงสาวคนนั้นก็พูดขึ้นต่อ "เธอจะมาเข้าชมรมเรื่องเหนือธรรมชาติใช่มั้ย?"

"เอิ่ม...รู้ได้ไงครับ ว่าผมจะเข้าชมรม"

เธอหัวเราะเบาๆ "ก็ ใบสมัครมันตกอยู่ข้างๆขาเธอไง"

ต้นหันไปดูทีขาตัวเอง ปรากฏว่าเจอกระดาษสมัครเข้าชมรมจริงๆ เขารีบก้มหยิบกระดาษขึ้มมา แล้วตอบกลับหญิงสาวไปว่า "ครับ ผมจะมาเข้าชมรมนี้"

"ฉันเป็นประธานของชมรมนี้ ถ้าไม่เป็นไร ฉันของรับใบสมัครของเธอเลยนะ" หญิงสาวยื่นมือมารับกระดาษ

"เอิ่ม..." เป็นไปได้ไง ไหนพี่บอกว่าไม่มีคนอยู่ในชมรมไง แล้วนี้มันหมายความว่าอะไร...คงไม่ใช่อย่างที่เราคิดนะ ต้นพูดในใจ ก่อนนี้จะค่อยๆยื่นกระดาษให้กับหญิงสาว

หญิงสาวรับกระดาษของต้น "ขอบใจจ๊ะ ไหนดูสิชื่อ... อายุ... ชื่อเล่นต้น...อืมข้อมูลครบถ้วน เยื่ยมมาก!"

"เอ่อ คือว่าผมยังไม่รู้ชื่อประทานเลย" ต้นถาม

"อ๋อ โทษทีโทษที ลืมแนะนำตัวไปเลย พี่ชื่อนางสาวปรัตถมนคร จันวิเศษ ชื่อเล่นชื่อแก้ว อายุ...เอิ่มจำไม่ได้แล้ว แต่ไม่เป็นไรยินดีที่ได้รู้จักนะต้น"

"คะ...ครับยินดีที่ได้รู้จัก" ต้นตอบ

"แล้วก็...ต้นรู้มั้ย ว่าที่นี้คนเขามักไม่เข้ามากันหรอกนะ"

"เอิ่ม ไม่รู้สิครับ"

"ยังงั้นหรอ ดีแล้วละที่ยังไม่เคยรู้"

ทำไมถึงรู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลกขึ้นทุกทีทุกทีละเนี้ย "คือว่า ทำไมพี่เเก้วถึงพูดว่าที่นี้มักไม่มีคนเข้ามา พูดยังกะพี่แก้วอยู่ที่นี้คนเดียวตลอดเลยละครับ"

"ก็อยู่นะสิ อยู่ตลอดเลย" พี่แก้วตอบ

"เอ๋ะ?"

"ก็ตัวพี่นะ เป็นวิญญาณของอาคารนี้ยังไงละ"

เอาจริงดิ วิญญาณหรอเนี้ย ต้นพูดในใจ

"พี่เป็นผีจ๋า"

ต้นยืนตาค้างทันทีที่ได้ยินคำพูดจากพี่แก้ว "พะ...พูดจริงใช่มั้ยเนี้ย?"

"ก็บอกแล้วไง ว่าพี่เป็นผีนะ"

"ยะ...อย่ามาล้อเล่นนะ!" ใช่แล้วเราสามารถจับตัวพี่เขาได้นี้น่า แสดงว่าเธอคงไม่ใช่ผี ถ้าลองจับอีกรอบละ ครั้งนี้ถ้าจับได้แสดงว่าไม่ใช่ผี ต้นพูดในใจ ก่อนที่จะรีบเดินเข้าไปหาพี่แก้ว แต่ด้วยความที่ว่าห้องนั้นมันมึดและยังมีของเกะกะเต็มไปหมด ทำให้ก่อนที่จะไปถึงตัวของพี่แก้ว ต้นกลับสะดุดของเหล่านั้นจนทำให้เขาล้มไปทับตัวของพี่แก้ว ตึ้ง!!!(เสียงล้ม)

โอ้ ล้มได้ไงเนี้ย? เอ๋ะ...ทำไมถึงรู้สึกนุ้มๆที่มือ ต้นคิดในใจ แล้วค่อยๆมองไปที่มือของตัวเอง ปรากฏว่ามือของเขากำลังกำหน้าอกของพี่แก้วอยู่(เติมมือเลย)

ต้นรีบดีดตัวลุกขึ้นทันที "ขะ...ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะทำแบบนั้นนะ ผมก็แค่อยากพิศุดว่าพี่เเก้วเป็นพีจริงหรือป่าว"

พี่แก้วค่อยพยุงตัวลุกขึ้น "ไม่เป็นไรหรอจจ๊ะ ก็ไม่ได้จับด้วยจิตอกุศลนิ อีกอย่างนะ เราไม่สามารถพิศุดว่าใครเป็นผีได้ โดยการจับตัว"

"นี้...พี่แก้วเป็นผีจริงๆหรอครับ?"

"จะให้พี่พิศุดด้วยการถอดชุดเลยมั้ยละ" พี่แก้วพูดขึ้น พร้อมกับจะทำถ้าถอดเสื้อ

"มะ...ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นไร ผมเชื่อแล้วก็ได้" ต้นรีบตอบกลับทันที

พี่แก้วหัวเราะเบาๆ "รู้สึกดีจัง พอเจอคนที่มองเห็นเราได้ ก็รู้สึกอยากจะคุยกับเขาคนนั้นไปนานๆ ทั้งๆที่ตัวเองก็อยู่มหาลัยทุกวันแท้ๆ แต่ทำไมถึงรู้สึกดีขนานนี้นะ" พี่แก้วพูดขึ้น แล้วเหมือนจะมีน้ำตาไหลออกมาเล็กน้อย ผมไม่รู้หรอกนะ ว่าตอนนั้นพี่แก้วมีความสุขจนร้องไห้เลยหรือป่าว แต่ทำไม ผมถึงรู้สึกดีใจไปกับเธอด้วย ตอนเด็กผมคงจะมีความรู้สึกเดียวกันกับพี่แก้วในตอนนี้ละมั้ง ในช่วงเวลานั้นผมไม่รู้จริงๆว่าจะต้องทำตัวยังไง แต่ก็นึกถึงคำของคุณพ่อออกแก่บอกผมว่า ใครก็ตามไม่ว่าจะเป็นผีหรือคนเมื่อใดที่เขาเหล่านั้นเสียใจ เราควรที่จะเข้าไปให้กำลังใจเข้าดีกว่าการซุบซิบนินทา ในตอนนั้นผมเดินเข้าไปหาพี่แก้ว แล้วค่อยๆยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมากอดเธอไว้ก่อนที่จะพูดเบาๆว่า "อย่างน้อยคนที่มองเห็นและพูดกับพี่ได้ก็ยังมีผมอยู่นะ" ตอนนั้นไม่รู้จริงๆว่าทำเกินตัวหรือป่าว แต่ผมรู้สึกว่า ความอบอุ่นจากตัวผมคงทำให้พี่แก้วรู้สึกดีขึ้นไม่มากก็น้อยละนะ

"ขอบคุณนะ...ที่ช่วยปลอบใจพี่" ต้นค่อยๆคลายกอดออกแล้วถอยหลังไปสองเก้า พี่แก้วยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตา ก่อนพูดขึ้น "เอาละ แล้ว...เรื่องชมรมต้นจะยังอยู่มั้ย"

"มีผู้หญิงที่สวยขนาดนี้อยู่ในชมรม ใครละจะไม่อยากเข้า (ก็รับปากพี่แล้วว่าจะเข้านิ)"

พี่แก้วยิ้มออกมาทันทีที่ได้ยินคำตอบ (มันเป็นรอยยิ้มที่ผมรู้สึกว่ามันมีความหมายกับผมมาก) "ถ้างั้น ขอต้อนรับเข้าชมรมและยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะต้น"

"เช่นกันครับ พี่แก้ว" ต้มตอบ พร้อมยิ้มให้เธอ

เอาละ ขอจบตอนแรก...ไม่สิ เอิ่มน่าจะตอนที่สองนะ ไว้ตรงนี้ก่อน บทต่อไปผมขอเกลินว่าจะมีตัวละครอีกหนึ่งคนออกมา หวังว่าคุณจะสนุกไปกับการอ่านนิยายเรื่องนี้นะ แต่ดูเหมือนพี่แก้วที่นั่งอยู่ข้างๆผม เธอจะถูกใจเป็นพิเศษนะ Ok จบแค่นี้ละกัน.

แน่ใจแค่ไหนว่าไม่มีผี

เฮ้ย~...

ok! ขอโทษด้วยที่ผมทิ้งตอนที่2...ไม่สินี้น่าจะตอนที่3 เอาไว้สะนานเลย พอดีว่าที่มหาวิทยาลัยมันมีงานเยอะ เลยไม่ว่างมาเขียน ขอโทษจริงๆนะครับ เอาละ...มาต่อจากตอนที่แล้วกันเลย

ห้องของผมวันนี้เขาเรียนถึง14.40น. เป็นคาบสุดท้ายที่เหลือก่อนกลับหอพัก(จะกลับหอพักเลยก็ได้) ให้ไปอ่านหนังสือ เล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมอะไรก็ได้ในชมรม

วันพุธ ที่21 ของเดือนสิงหาคม พ.ศ.2541 เป็นวันที่2 ที่ผมได้เจอหน้าพี่แก้วอีกครั้ง ในห้องชมรมที่เต็มไปด้วยหยักใย้และฝุ่น ทั้งของที่กระจัดกระจายไปทั่วห้อง ผมห้องไปที่หน้าพี่แก้วแล้วพูดขึ้นว่า

"พี่แก้วอยู่ที่นี้มาตลอด...เคยทำความสะอาดมั้ยครับ?"

"แต่ก่อนก็มีคนมาอยู่ในชมรมนี้อยู่นะ แต่คนพวกนั้นคงจะจบไปแล้วละ ก็เลยไม่มีคนมาทำความสะอาด หรือว่า...ต้นจะมาช่วยพี่ทำความสะอาดห้องนี้มั้ยละ ทำกันสองต่อสอง แล้วก็..."

"ครับ!ครับ!ครับ! เดี๋ยวผมทำความสะอาดช่วย" ต้นรีบพูดขึ้น

พี่แก้วหัวเราะเบาๆ "ต้นกำลังคิดอะไร ทะลึ้งๆอยู้หรือป่าว"

ต้นถอนหายใจ ก่อนที่จะตอบพี่แก้ว "ผมไปเอาถังน้ำกับไม้ทุพื้นก่อนนะครับ" เขาวางกระเป๋าไว้ตรงที่มันไม่มีฝุ่น แล้วเดินออกจากห้องชมรม

ตอนนั้นผมจำความรู้สึกของตัวเองได้อย่างชัดเจนเลยละ ไม่ใช่ว่าผมลำคายพี่แก้วนะ แต่พอตอนที่แกพูดหรือตอนที่แกมองมา ผมรู้สึกเขินอายทุกทีเลย ถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์แบบผม คุณจะรู้ว่ามันเป็นความรู้สึกยังไง

ผมเดินไปทางด้านข้างของอาคารเก่า เพราะผมจำได้ว่ามันจะมีถังเหล็กหนึ่งใบวางไว้อยู่ ซึ้งผมก็คิดถูกจริงๆ ส่วนไม้ทุพื้นมันวางพิงไว้ข้างหน้าอาคารเก่าอยู่แล้ว ผมเดินไปหยิบถังใบนั้นขึ้นมาเช็คว่ามีที่รั๊วหรือป่าว พอยกขึ้นมามองสายตาของผมมันก็ต้องมองขึ้นไปข้างบนชั้นสองด้วยใช่มั้ย ปรากฎว่าผมเห็นเงาสีดำคล้ายๆผู้หญิงยืนอยู่บนชั้นสอง แต่พอผมลดถังลงเพื่อดูว่ามันใช่หรือป่าวเงานั้นก็หายไปแล้ว ผมมันใจ100%เลย ว่าเงานั้นมันไม่ใช่พี่แก้วแน่นอน เพราะพี่แก้วจะไม่ตัวเตี้ยขนาดนั้น ผมรู้สึกว่ามันเริ่มชักจะไม่ใช่แล้ว จึงรีบไปจากจุดนั้นทันที ไปเปิดนำใส่ถังจนเต็มไม่มีจุดที่รั๊วออก ก็ยกมาไว้ที่หน้าห้องชมรมพร้อมกับไม้ถุพื้น แล้วเดินเข้าห้อง

โอ้!!แม่เจ้าโว้ย!! ผมไม่นึกเลยว่าพี่แก้วจะทำความสะอาดห้องได้เร็วขนาดนี้ หยักใย้และฝุ่นที่ถูกปัดกวาดออก ของที่กระจัดกระจายอยู่ถูกเก็บเป็นระเบียบจนหมดมีเหลือแต่พวกโต๊ะที่ยังไม่เข้าที่เข้าทาง ผมคงยืนอึ้งนานมากจนพี่แก้วถามผมว่า

"เป็นอะไรหรือป่าวต้น?"

ต้นส่ายหน้าไปมาแล้วตอบว่า "มะ...ไม่เป็นไรครับ...ผมไม่รู้เลยว่าพี่แก้วจะทำความสะอาดเร็วขนาดนี้"

พี่แก้วหัวเราะเบาๆ "ตอนว่างๆ ไม่มีอะไรทำพี่ก็ชอบทำความสะอาดห้องนี้ละ"

ว้าว! สวยไม่พอแถมยังเป็นแม่บ้านแม่เรือนได้อีกด้วย ต้นพูดในใจ "เอิ่ม...ถ้างั้นผมจะช่วยจัดเรียงหนังสือให้เป็นหมวดหมู่ก็แล้วกันนะครับ"

ต้นเดินไปหยิบหนังสือที่ว่างบนโต๊ะเป็นชั้นๆ เอาไปเก็บเรียงไว้ที่ช่องใส่หนังสือ ส่วนมากหนังสือที่อยู่ในห้องชมรมก็มีแต่หนังสือการ์ตูนและนิยายที่เกี่ยวกับเรื่องสยองขวัญ มีทั้งรูปอัลบั้มของรุ่นพี่ที่เคยอยู่ชมรม มีข้อความเขียนไว้ข้างล่างด้วยนะ ว่าถ่ายในสถานที่ผีดุ ผมไม่รู้หรอกว่าคนที่ถ่ายเขาเจอผีในรูปหรือป่าว เพราะผมเห็นเงาคนสีดำเต็มรูปเลย โอ๋ะ! ใช่มีพี่สาวผมในรูปนั้นด้วย แต่เสียดายที่ไม่มีพี่แก้วอยู่ ในรูปเลยสักใบ(เสียใจไม่ได้เห็นคนสวย) ผมจัดเรียงหนังสือไปเลื้อยๆบางเล่มก็เปิดอ่านบางเล่มก็ปัดฝุ่นออก จนมาถึงเล่มสุดท้าย มันเป็นหนังสือเล่มไม่ใหญ่มาก ดูเหมือนจะเป็นหนังสือที่ทำขึ้นเอง สิ่งที่มันทำให้ผมแปลกใจมากก็คือ ปกของหนังสือมันเขียนว่า รวมตำนานและเรื่องเล่าของมหาลัย... ผมรู้สึกเหนือนหนังสือเล่มนี้มันจะดึงดุดให้อ่านให้ได้ แต่โชคดีที่พี่แก้วกวาดห้องเส็รจแล้ว แกเรียกให้ผมไปทุห้องเเละจัดโต๊ะให้หน่อย เอาเถอะทำทุกอย่างให้มันเสร็จก่อนแล้วค่อยมานั่งอ่านก็แล้วกัน ต้นพูดในใจ เขาเดินไปหยิบไม้ทุพื้นขึ้นมาชุบน้ำในถัง หบิบให้พอดี แล้วค่อยทุพื้น ในระหว่างที่ผมทุพื้นไป พี่แก้วก็ยืนเช็ดหน้าต่างทีละบาน ทีละบาน...ผมนึกถึงเรื่องเงาสีดำที่อยู่บนชั้นสองขึ้นมาเฉยเลย ถ้าไม่ลองถามพี่แก้วก็คงไม่หายสงสัยแน่นอน เอาวะ! ถึงแม้มันอาจจะเสียมารยาท แต่เราก็อยากรู้จริงๆ "พี่แก้ว คือว่าตอน..." ต้นพูดยังไม่จบ "รู้มั้ยตอนที่ต้นไม่อยู่ มีเสียงคนเดินอยู่บนชั้นสองด้วยนะ" พี่แก้วก็พูดสวนขึ้นมา

"เอิ่ม...หรอครับ" ผมทำเป็นไม่เห็นก่อนดีกว่า เพื่อพี่แก้วจะรู้ว่านั้นเป็นผีหรือคน

"พี่ไม่รู้นะ ว่าสิ่งที่อยู่ข้างบนเป็นผีหรือคน...ต้นช่วยขึ้นไปดูให้หน่อยได้หรือป่าว"

"เอ่อ..." เอาจริงดิ พี่แก้ว! จะให้ผมขึ้นไปคนเดียวเนี้ยนะ ต้นพูดในใจ

เสียงหัวเราะเบาๆจากพี่แก้วดังขึ้น " ขอโทษนะ พี่ล้อเล่น ต้นคงไม่อยากไปในที่แบบนั้นคนเดียวใช่มั้ยละ"

"โธ่ อย่าล้อเล่นกันแบบนี้สิครับ" ผมยิ่งไม่ใช้คนที่กล้าอะไรขนาดนั้น ถึงแม้ตอนแรกที่ขึ้นไปจะไม่รู้สึกอะไรก็เถอะ แต่ถ้าจะให้ขึ้นไปคนเดียวตอนนี้คงไมาไหวจริงๆ ระหว่างที่ผมคุยกับพี่แก้วไปเลื้อยๆ มีเสียงวิ่ง(เหนือนจะเป็นของคนนะ) ผ่านหน้าห้องชมรมไป ต้นรีบวิ่งออกไปดูที่หน้าประตูว่านั้นเป็นใคร สิ่งที่ต้นเห็นคือ ผู้หญิงที่สวมเสื้อนักศึกษา ผมยาว ดูยังไงก็ไม่ใช่ผีแน่นอน "คงไม่ต้องขึ้นไปข้างบนแล้วละครับ" ต้นพูดขึ้น

"เป็นคนหรอ?" พี่แก้วถาม

"ครับ เห็นว่าเป็นผู้หญิง" ต้นตอบ

"ค่อยยังชั่ว นึกว่าแต่จะมีวิญญาณอีกหนึ่ง อยู่ที่นี้แล้วสะอีก" พี่แก้วพูดด้วยความโล่งใจ

ผมกับพี่แก้วทำความสะอาด จัดโต๊ะให้เข้าที่ เสร็จทั้งหมดก็ถึง 15.23น. ผมเดินไปหยิบหนังสือเล่มที่ตั้งใจว่าจะเปิดอ่าน แล้วมานั่งพักที่เก้า พี่แก้วเห็นผมหยิบหนังสือเล่มนั้นมา จึงถามด้วยความสงสัย

"อ่านอะไรอยู่หรอ?"

"หนังสือที่รุ่นพี่เขาเขียนไว้ก่อนจบจากมหาลัยนะครับ เกี่ยวกับเรื่องเล่าและตำนานของมหาลัยเรา" ต้นตอบ

"พี่เเก้ว เคยอ่านมั้ยครับ" พร้อมกับถาม

"เอิ่ม...พี่ก็ไม่รู้สิ ส่วนมากถ้าเป็นหนังสือในห้องพี่จะไม่ไปยุ้ง ก็เลยไม่น่าจะได้อ่านนะ" พี่แก้วตอบ แล้ว

เดินมานั่งข้างๆต้น

"ไม่เป็นไรครับ จะว่าไป..." ต้นเงียบไปสักพัก

"มีอะไรสงสัย กับพี่หรอ" พี่แก้วถาม พร้อมกับชะโงกหน้าเข้ามาหาต้น

"ถ้าผมถามไป มันอาจจะเสียมารยาท แต่ผมก็อยากรู้จริงๆ...คือว่าพี่แก้วจำได้มั้ยว่าตัวเองตายเพราะอะไรทำไมถึงมีห่วงกับห้องนี้"

"อ่อ! เรื่องนี้หรอ" พี่แก้วหัวเราะเบาๆ "อืม...พี่ก็จำไม่ได้ว่าตัวเองตายยังไง รู้สึกตัวอีกทีก็ได้มาเป็นวิญญาณที่ห้องนี้แล้ว"

"ถ้าเป็นแบบนี้มันไม่ดีนะครับ พี่แก้วไม่รู้ว่าห่วงที่ทำให้ตัวเองยังอยู่บนโลกใบนี้ มันคืออะไร พี่แก้วจะไม่สามารถไปเกิดใหม่ได้นะครับ" ต้นพูดด้วยความเป็นห่วง

พี่แก้วหัวเราะเบาๆก่อนที่จะเงียบไปสักพัก แล้วพูดขึ้น "ต้น คงไม่อยากจะคุยกับผีสินะ" พี่แก้วพูดด้วยเสียงเศร้าๆ

"เอ่ม คือว่า...ขอโทษครับ ผมแค่ไม่อยากให้พี่แก้วมีห่วง"

"ไม่เป็นไร แค่ต้นมาคุยกับพี่ พี่ก็รู้สึกดีใจแล้ว" พี่แก้วตอบ

ดูจากสีหน้าและการพูดแล้ว พี่แก้วคงไม่โกรธ เราจริงๆไม่น่าเปิดประเด่นเรื่องนี้เลย ต้นพูดในใจ

"ถ้าต้นไม่อยาก ให้พี่มีห่วงก็ลองอ่านเรื่องในหนังเล่มนั้นดู อาจจะมีเรื่องของพี่ก็ได้นะ" พี่แก้วยื่มมือของเธอมาลูบหัวต้น(แบบเบาๆ) ผมคงทำสีหน้ารู้สึกผิดมากจนทำให้พี่แก้วเห็นได้ชัดเจนเลย นี้ก็น่าจะเป็นการปลอบใจครั้งแรกที่ได้จากผีละนะ เอาเป็นว่าหลังจากที่พี่แก้วลูบหัวผม จนรู้สึกดีขึ้นหน่อย ผมก็เริ่มเปิดหนังสือเล่มนั้นอ่าน สมาชิกผู้บันทึกเรื่อง ว้าว! ไม่มีชื่อคนที่ผมกับพี่แก้วรู้จักเลยแม้แต่คนเดียว หนังสือเล่มนี้คงอยู่มานานจริงๆ

"เรื่องเล่าบทที่1 ตำนานป่าหลังมหา..." ตึ้ง!!!! ต้นพูดยังไม่ทันจบ ก็มีเสียงพลักประตูห้องเข้ามาอย่างแรง ทำให้ทั้งผมและพี่แก้วต้องหันไปดู ปรากฏว่าเป็นเพื่อนที่อยู่ห้องเดียวกับผม ที่ถีบประตูเข้ามา

"เฮ้ย!!! ไอ้เป้ง ถีบประตูเข้ามาทำไมวะ" ต้นพูดด้วยความอารมณ์เสีย

"โทษที เว้ยต้น กูได้ยินผู้หญิงคนหนึ่งบอกว่ามึง กำลังนั่งพูดคนเดียว ในอาคารเก่าก็เลยเป็นห่วง" เป้นตอบ "อีกอย่างนะ มึงจำไม่ได้หรือไงวันนี้เป็นที่รุ่นพี่นัด มารับน้องใหม่ตอน19.00น. ที่ป่าหลังมหาลัย"

"จำได้ๆ" ต้นตอบ

"เค แล้วไป" เป้งถอนหายใจ "กูคงโดนผู้หญิงลอก แล้วละว่ามึงคุยคนเดียว ที่แท้มึงก็อ่านหนังสืออยู่ ไปละ" พอพูดเสร็จเป้ง ก็ปิดประตู แล้วเดินออกจากห้องด้วยความรวดเร็ว

ต้นถอนหายใจเบาๆก่อนที่จะหันไปหาพี่แก้ว

"เพื่อนต้นหรอ?" พี่แก้วถาม

"ครับ...เป็นเพื่อนที่รู้จักกันได้เพราะมันทักชื่อผมผิด มันคงไม่ทำให้พี่แก้วรู้สึกไม่ดีใช่มั้ยครับ"

"ไม่หรอก...แต่ว่า ที่พี่ได้ยินเมื่อกี้คือต้นจะป่าหลังมหาลัยเพื่อรับห้องใช่มั้ย" พี่แก้วถามด้วยความอยากรู้

"ก็ ประมาณนั้นละครับ" ต้นตอบ

"ถ้างั้น พี่ขอไปด้วยได้มั้ย" พี่แก้วพูด พร้อมกับขยับตัวเข้ามาหาต้น แบบระยะประชิดตัว

"เอ่อ...เอิ่ม คือว่า..."

"ได้มั้ย?" เสียงออดอ้อน ของพี่แก้วมันทำให้ผมใจอ่อนจนได้ สดท้ายผมก็ตกลงให้พี่แก้วไปด้วย พอผมตอบตกลงไป ดูท่าทางพี่เเก้วจะดีใจมาก ตอนนี้ก็ใกล้เวลาแล้วสิ หอพักก็ไม่ได้อยู่ใกล้ๆสะด้วย งั้นเดินกลับหอพักตอนนี้เลย ก็แล้วกัน "พี่แก้วจะอยู่ที่นี้หรือจะไปหอพักกับผมมั้ย" ต้นพูดในใจ พร้อมกับถามพี่แก้ว

"ต้นคิดอะไร ถึงชวนพี่ไปหอพักกันสองต่อสองเนี้ย" พี่แก้วตอบ

"เอิ่ม...ถ้างั้นผมไปคนเดียวนะครับ"

พี่แก้วหัวเราะเบาๆ"ล้อเล่น งั้นพี่ไปกับต้นด้วยก็ได้"

"ถ้างั้นผมจะไปตอนนี้เลยนะครับ"

"นำเลยจ้า!"

ต้นถอนหายใจเบาๆ ไม่นึกเลย ว่าพี่แก้วจะเป็นคนร่าเริงมาก...ผมก็พูดไปงั้นละ ต่อจากนั้นผมก็เดินเอาหนังสือไปเก็บไว้ที่เดิม ไปหยับกระเป๋า ล็อกห้องชมรมไว้แล้วเดินไปหอพักกับพี่แก้วกันสองต่อสอง(โดยที่พี่แก้วควงแขนผมไปด้วย)

เอาละ ขอจบตอนนี้ไว้แค่นี้ก็แล้วกัน มันถึงเวลาที่ผมต้องไปรับพี่บ่าวไปกินชายสี่บะหมี่เกี๊ยวแล้ว ซื้อไปฝากหอมด้วยก็น่าจะดีนะ ส่วนเรื่องตัวละครใหม่ที่ออกมา มีไอ้เป้งเพื่อนผม กับหญิงปริศนาอีกคนที่น่าจะมองเห็นพี่แก้ว Ok! พูดแค่นี้พอไปละ!

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!