NovelToon NovelToon

ธาตุพันธนาการรัก

พี่ชาย

        ในโลกที่ผู้คนต่างฝึกฝนบำเพ็ญเซียนเพื่อก้าวข้ามความเป็นมนุษย์เเล้วหันไปสู่วิธีเซียนเพื่อเลื่อนขั้นระดับความสำคัญของตัวเองในดินเเดน ในโลกเเห่งนี้ความสามารถเด่นเท่าไหร่ยิ่งเเข็งเเกร่งเท่านั้นเปรียบเสมือนเมื่อคนผู้หนึ่งสามารถเป็นเซียนเเท้จริง นั้นเท่ากับอยู่เหนือมนุษย์ทั้งหลายเเค่ปล่อยพลังปราณผู้คนก็หวาดกลัว

...****************...

 ช่วงเวลาเเห่งการฝึกฝนได้เริ่มต้นขึ้น ณ หน้าประตูสำนักเเห่งหนึงที่มีชื่อว่า'สำนักเมฆา9สวรรค์' มีสตรีเเละบุรุษ2คนยืนพึมพัมเสียงส่อถึงอารมณ์ที่ไม่มั่นคงสตรีผู้นั้นสวมอาภรณ์สีชมพูอ่อนถือกระบี่ไว้ข้างกายส่วนบุรุษข้างๆสวมอาภรณ์สีขาวบริสุทธิ์ในมือถือเเผนที่ไว้พลางบีบกระดาษจนเเทบจะขาด นางเอ่ยถามบุรุษผู้นี้ว่า

"นี่น่ะหรือสำนักเซียนที่พี่สาวเจ้าบอกมาเหตุใดถึงซอมซ่อเช่นนี้" หญิงสาวเอ่ย

"ข้าเองก็หารู้ไม่เช่นเดียวกับเจ้านั้นเเหละเหตุใดที่นี่ถึงได้ซอมซ่อขนาดนี้เเม้เเต่ตัวอักษรบอกชื่อสำนักก็ร่วงกองอยู่กับพื้น"

      พูดจบก็พลันหันมองหญิงสาวที่กำลังทำสีหน้าเหม่อลอยหากให้พูดตามตรงก็คือตรงหน้าของทั้งสองเป็นประตูสำนักเเห่งหนึ่งเเต่ชื่อกลับหลุดไปเหลือเพียงเเต่กระดานเเขวนเอาไว้เฉยๆเท่านั้นทั้งสองมีสีหน้าอยากจะร่ำให้เเต่จู่ๆอากาศรอบๆก็เกิดความเย็นยะเยือกขึ้นจนเข้ากระดูกครู่หนึ่งก็ปรากฏบุรุษสวมอาภรณ์สีชาวราวหิมะท่าทางสง่างาม สุขุมเยือกเย็นในมือถือลูกเเก้วเล็กๆไว้ในมือหลางมองทั้งสองนิ่งๆใบหน้าเย็นชาราวกับไม่มีชีวิต พลันเอ่ยว่า

"เย่หนิงหนิง"เขาเอ่ยปาก

สีหน้าอยากจะร่ำให้ของนางเมื่อครูของนางได้หายไปอย่างรวดเร็วราวกลับเหมือนไม่เคยเเสดงสีหน้านั่นมาก่อนพลางเอ่ยตอบอย่างรวดเร็วว่า

"ท่านพี่! เหตุใดถึงเป็นท่าน!"เย่หนิงหนิงตะโกนเเล้ววิ่งตรงเข้าไปกอดเเขนพี่ชายของตน

"ข้ามารับเจ้าเข้าสำนัก" พูดจบพลางมองอีกคนที่อยู่กับเย่หนิงหนิง

"ซูหลิงฟ่าน!" เย่หนิงหนิงเรียกคนที่ยืนด้วยกันเมื่อครูเเล้วกวักมือเรียกเมื่อเย่หนิงหนิงเรียกซูหลิงฟ่านจบพี่ชายของนางก็หันมองนางทันทีเเล้ว เอ่ยต่อนางทันที

"ไม่เเนะนำสหายให้ข้ารู้จักหน่อยงั้นรึ"สีหน้าของเขาเเสดงออกชัดเจนว่าสงสัยอย่างสุดซึ้ง

"..พี่ชายนี่ซูหลิงฟ่านเป็นสหายข้า!"เย่หนิงหนิงยิ้มตาหยี่

"ซูหลิงฟ่านนี่พี่ชายข้า!"ชี้พี่ชายของตน

พี่ชายของเย่หนิงหนิงพยักหน้าเบาๆ

"ข้ามีนามว่าจี้หยวนไห่เป็นพี่ชายของหนิงๆ"ใบหน้าของจี้หยวนไห่ที่เมื่อครู่เย็นชากลับเเสดงสีหน้าปกติ

"..."ซูหลิงฟ่านนิ่งอึ้งไปนิดหน่อยเมื่อเห็นว่าพี่ชายของเย่หนิงหนิงคือไคร พลางขยับมือประสานกันคาราวะทันที

      จี้หยวนไห่มองประเมินซูหลิงฟ่านอยู่สักครู่ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ามาทำอะไรพลันเอ่ยขึ้นอย่างจริงจัง

"ข้ามาที่นี่เพื่อทดสอบพลังของพวกเจ้าก่อนเข้าสำนัก"เขาพูดจบเเล้วนำลูกเเก้วสีขาวลูกเล็กๆที่เขาถือมายื่นให้เย่หนิงหนิงเเล้วมองซูหลิงฟ่านก่อนจะอ้าปากพูดอะไรบางอย่างเบาๆเเล้วหยุดลง

"ซูหลิงฟ่าน....เจ้าไม่ต้อง"เอ่ยจบมองหน้าเขาทันที

เย่หนิงหนิงมองหน้าพี่ชายของตนทันทีเเล้วรีบพูด

"เเล้วทำไมข้า---"ยังไม่ทันพูดจบมีเสียงสตรีดังขึ้นจี้หยวนไห่หันมองในพริบตาสตรี อาภาพรสีขาวเฉกเช่นเดียวกับเขาขี่กระบี่บินเข้ามาด้วยความไวเเสงเเล้วร่อนลงตรงหน้าของทั้งสาม

"เหยียนหลิงจื่อ"จี้หยวนไห่เอ่ยด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

ที่เเท้สตรีผู้นี้คือเหยียนหลิงจื่อจี้หยวนไห่มองนางด้วยสายตารังเกียจเดียจชังก่อนจะหันกลับไปหาน้องสาวตัวเองเเต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรเหยียนหลิงจื่อก็เอ่ยปากออกมาด้วยวายาไร้ยางอายทันที

"กลัวข้าจับเจ้าเข้าห้องจึงหนีหน้าข้ามาที่นี่งั้นรึผู้อาวุโส~"พูดจบเเล้วเขยิบเข้าไปไกล้ๆจี้หยวนไห่ทันที

จี้หยวนไห่ผลักนางออกเเล้วพูดกับน้องสาวของตอนต่อไม่มัวเสวนากับสตรีไร้ยางอายต่อหน้าตนเย่หนิงหนิงเเละเหยียนหลิงฟ่านมีสีหน้าตกตลึกเมื่อได้ยินที่ทั้งสองคุยกันนี่นะหรือผู้อวุโสสำนักเซียนเเต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรเย่หนิงหนิงนึกขึ้นได้ฉับไวเเซ่เหตุใดพี่ชายของตนถึงเกือบถูกสตรีจับเข้าห้องได้กัน

"ข้ามาทำภารกิจ"ยื่นลูกเเก้วให้เย่หนิงหนิงเเล้วพูดต่อโดยไม่สนใจคนข้างๆที่เดินมาเกาะเเกะ

"พี่จะทดสอบพลังธาตุของเจ้า"จี้หยวนไห่มองนิ่งๆ

เย่หนิงหนิงมองลูกเเก้วเเล้วมองหน้าพี่ชายของตนตั้งเเต่เด็กเย่หนิงหนิงถูกเเยกกับพี่ชายของตนพี่ชายนางเก่งกาจถูกสำนักสำนักเมฆา9สวรรค์พาตัวไปเพื่อฝึกฝนเจอกันทีเมื่อสำนักมีงานยิ่งใหญ่หรือเวลาว่างเท่านั้นอีกอย่างที่นี่ห่างไกลต่อเมืองด้วยเย่หนิงหนิงคิดอยู่ในห้วงของจิตใจตัวเองใบหน้าเเสดงความเสียใจออกมา

"รออะไรหล่ะรีบๆเข้าสิ"

เสียงของเหยียนหลิงจื่อดังขึ้นเเล้วมองเย่หนิงหนิงส่วนตัวเย่หนิงหนิงเองก็มองนางเช่นกันซูหลิงฟ่านมองทั้งสองอย่างกระตือรือล้น

"...คือว่า...เมื่อไหร่จะได้เข้าสำนักงั้นรึ"ซูหลิงฟ่านพูดด้วยสีหน้าเริ่มทนไม่ได้เพราะตอนนี้บรรยากาศรอบๆเริ่มเย็นมากขึ้นจากพลังที่ปล่อยออกมาจากตัวของจี้หยวนไห่เมื่อเห็นว่าสถานกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกเหยียนหลิงจื่อจึงเอ่ยออกมาทันที

"มัวเเต่ชักช้าเมื่อไหร่จะได้เข้าสำนักเล่าเหล่าศิษย์คนอื่นๆเองก็รอพวกเจ้าเช่นกันรู้หรือไม่ข้ามาที่นี่เพื่อมาตามพวกเจ้าท่านผู้อวุโสใหญ่รีบเร่งเร้าให้พาศิษย์ใหม่ไปทดสอบที่เเท่นศิลาบนยอดเขา'ต้วนจี'.." เหยียนหลิงจื่อมองหน้าจี้หยวนไห่เเละเเสดงออกทางสีหน้าด้วยสายตาที่รีบเร่ง

จี้หยวนไห่ยื่นลูกเเก้วให้น้องสาวตนอีกทีเย่หนิงหนิงรับลูกเเก้วเเล้วถ่ายทอดพลังลงไปข้างในทันทีเพื่อไม่ให้เสียเวลา เเสงสีขาวผ่าลอดออกมาจากลูกเเก้วปกคลุมทั้งหมดจนขาวโพลนทันทีเหยียนหลิงจื่อมองประเมิณด้วยสีหน้าจริงจังเเล้วเบือนสายตาไปมองซูหลิงฟ่าน ณ ในที่นั้นตอนนั้นขาวโพลนไปหมดทุกคนมองอะไรไม่เห็นมีเเค่นางผู้เดียวที่เห็นทุกอย่าง เเสงไม่มีผลกับนางเเม้เเต่นิดเดียว

"ธาตุไฟ?"เหยียนหลิงจื่อเอ่ยปากขึ้น

เมื่อเเสงจากลูกเเก้วดับลงจึงเห็นลูกเเก้วที่เปร่งเเสงสีเเดงเข้มลอยอยุ่กลางิากาศทันที

พลังธาตุเเละขั้นพลังการบำเพ็ญเพียร

จี้หยวนไห่มองน้องสาวของตัวเองอย่างภาคภูมิใจก่อนจะหันตัวไปทางประตูสำนัก "น้องสาวของข้าเจ้าชั่งเกงกาจเสียจริงพี่ชายอย่างข้าภูมิใจอย่างยิ่ง" จี้หยวนไห่พูดจบดึงมือตัวเองไปขยี้ผมของน้องสาวตัวเองเหยียนหลิงจื่อมองเเล้วกรอกตาไปมา "เหอะ!" เหยียนหลิงจื่อส่งเสียงหึดหัดออกมาบ่งบอกถึงความอิจฉาเเละส่งสายตาเหยียดใส่เย่หนิงหนิง

"เจ้าพาซูหลิงฟ่านไปข้าจะพานางไปเอง"เหยียนหลิงจื่อหันไปมองจี้หยวนไห่ที่กำลังจ้องเขมงเธอ

"เหตุใดข้าต้องทำตามที่เจ้าสั่ง"จี้หยวนไห่คิ้วขมวดเป็นปมเข้าหากัน

    เมื่อเห็นท่าทีของเหยียนหลิงจื่อที่ส่งออกมาหาน้องสาวของตนเหยียนหลิงจื่อไม่รีรอหายวับไปกับสายลมเเล้วโผล่มาข้างหลังของเย่หนิงหนิงดึงเเขนนางก่อนจะขี่กระบี่บินเข้าไปในสำนัก จี้หยวนไห่กำมือเเน่นข้างลำตัวเเล้วมองไปหาซูหลิงฟ่านก่อนจะบอกให้เขาตามเข้าไปข้างในซูหลิงฟ่านทำตามคำสั่งอย่างว่าง่ายเเล้วขี่กระบี่บินตามจี้หยวนไห่เข้าไปทันที "ท่าน...ผู้อาวุโส"ซูหลิงฟ่านเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังตามเขา จี้หยวนไห่หันมามองด้วยสีหน้าเย็นชา "มีเรื่องอะไรงั้นรึ"เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบพลางรวบรวมพลังปราณในตัวเพื่อส่งไปหาซูหลิงฟ่าน ตอนนี้ซูหลิงฟ่านขี่กระบี่บินช้ากว่าเขาหลายส่วนปกติจี้หยวนไห่มักจะบินหายเข้าไปในกรีบเมฆทันทีเเต่ครั้งนี้ต้องมานำตัวศิษย์ใหม่เข้าไปด้วยเขาจึงช้าตาม

"รวบรวมพลังปราณเเล้วส่งไปที่กระบี่ของเจ้า"จี้หยวนไห่บอกซูหลิงฟ่านก่อนจะเร่งความเร็วของกระบี่สีหน้าของซูหลิงฟ่านบ่งบอกถึงความตึงเครียดทันทีปากอยากเอ่ยอะไรออกมาเเต่ต้องหยุดชะงักลงเมื่อเขาเห็นว่าเบื้องหน้าคือประตูใหญ่บานหนึ่งสัญญาลักษรณ์หน้าประตูเป็นรูปสัตว์9ชนิต หรือนี่จะเป็นที่มาของสำนักเมฆา9สวรรค์เมื่อเข้าไปไกล้ก็เห็นสัตว์เหล่านั้นชัดมากขึ้นจี้หยวนไห่ขี่กระบี่ไปลงตรงหน้าประตูอย่างนุ่มนวนต่างกับซูหลิงฟ่านที่เซไปมา

"พลังในกายเจ้าข่อนข้างอ่อนเเอที่ข้าไม่ทดสอบพลังของเจ้าเพราะเจ้าพิเศษกว่าคนอื่น"จี้หยวนไห่บอกซูหลิงฟ่านที่กำลังจะถามคำถามนี้พอดีเเล้วมองหน้าจี้หยวนไห่ด้วยสีหน้างุนงง

"เพราะเหตุใด"มองหน้าเขาเมื่อจี้หยวนไห่ได้รับคำถามก็มองหน้าซูหลิงฟ่านทันที

"เพราะเจ้าอ่อนเเอกว่าคนอื่น"พูดจบเขาก็ปล่อยพลังของตัวเองออกมาพลังทั้ง เเข็งเเกร่งเเละหนาเเน่นบรรยากาศโดยรอบเย็นลงกลิ่นอายของความเย็นยะเยือกเเทรกซึมเข้ามาในกระดูกจนเกือบทำให้อวัยวะภาย ในกลายเป็นน้ำเเข็งทันใดนั้นประตูก็ค่อยๆเปิดออกเผยให้เห็นภูเขาที่ลอยอยู่ในท้องนภาที่เเท้พลังของเขาคือธาตุน้ำเเข็ง!ธาตุพิเศษซูหลิงฟ่านนิ่งอึ้งอยู่

"ทำอะไรของเจ้าห่ะ!?"เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นอยู่ข้างหลังของทั้งสอง

"จี้หยวนไห่เจ้าจะฆ่าซูหลิงฟ่านรึไงกัน!!!!"เหยียนหลิงจื่อที่ขี่กระบี่บินมาในมือหิ้วเย่หนิงหนิงเเล้วตะโกนบอกเขาทันทีที่มาถึงก็ผลักตัวเย่หนิงหนิงให้เขา"นางข่อนข้างจะหนักนะ"เหยียนหลิงจื่อช้อนตามองจี้หยวนไห่

"อย่าทำสายตาน่ารังเกียจใส่ข้า..."จี้หยวนไห่ค่อยๆหันมาหาเหยียนหลิงจื่อเเล้วกระซิบบางอย่าง เย่หนิงหนิงเมื่อรู้ว่าตัวเองโดนกล่าวหาว่าตัวหนักนางจึงเเย้งทันที

"ท่านจะว่าข้าอย่างไรก็ได้เหตุใดถึงได้ว่าสาวน้อยร่างกายบอบบางเช่นนี้"ใบหน้าของเย่หนิงหนิงเเสดงออกชัดเจนว่าเสียใจ

"ท่านผู้อาวุโสที่ประตูนั้นคือ...."ซูหลิงฟ่านสงสัยก่อนที่จะหันไปมองประตูเหยียนหลิงจื่อเห็นจึงอธิบายให้ซูหลิงฟ่านฟัง "นั้นคือสัตว์เทพทั้ง9ของสำนักเมฆา9สวรรค์ ตนเเรกคือหงส์เพลิงเเน่นอนเพลิงก็ต้องธาตุไฟ"

เหยียนหลิงจื่อชี้ไปที่สัตว์บนวงเวียนประตูช่องเเรกเเล้วชี้ไปที่ช่องที่สอง

"ส่วนที่สองคือมังกรวารีธาตุน้ำ"

"ส่วนที่สามคือเสือเถาวัลย์ธาตุไม้"

"ส่วนที่สี่คือกิเลนธาตุดิน"

เหนียนหลิงจื่อหันมองสัตว์เทพอีก5ตนที่เหลืออยู่"นั้นคือสัตว์เทพธาตุพิเศษ เเสง เงามืด สายฟ้า เเละน้ำเเข็ง"เหยียนหลิงจื่ออธิบายให้ฟังก่อนที่จะเดินเข้าไปข้างในประตูเเต่เหลือตนสุดท้ายนางไม่พูดจี้หยวนไห่เองก็เช่นกัน

"พวกเจ้าสองคนรับนี่ไป"จี้หยวนไห่โยนหยกสีขาวบริสุทธิ์ให้ทั้งสองก่อนที่จะพาเข้าไปข้างในเมื่อทั้งสองตามเข้าไปก็พบกับศิษย์คนอื่นๆที่กำลังขี่กระบี่บินขึ้นไปตามภูเขาที่กำลังลอยตัวอยู่บนนภาเย่หนิงหนิงมองผู้คนที่กำลังตั้งใจฝึกฝนอย่างลึกซึ้งก่อนที่จะมีสตรีผู้หนึ่งโผล่มาตรงหน้า

"ศิษย์น้องเจ้ามีนามว่าอะไรงั้นรึข้ามีนามว่า'ลู่ชิง'เป็นศิษย์เอกของผู้อวุโสจี้หยวนไห่"ลู่ชิงสตรีอาภรณ์สีขาวในมือถือกระดิ่งสีม่วงนางเดินมาทำความรู้จักกับเย่หนิงหนิงหน้าตาเเละใบหน้าของนางงดงามราวกับเทพธิดาก็มิป่านเมื่อเทียบกับสตรีในเมืองไม่สิเทียบไม่ได้เลยด้วยซ้ำเมืองเย่หนิงหนิงมองรอบๆก็พลันปรากฏว่าสตรีที่นี่งดงามหาที่ใดเปรียบไม่

"ข้ามีนามว่าเย่หนิงหนิง"เย่หนิงหนิงเเนะนำตัวกับลู่ชิงเมื่อลู่ชิงเห็นเย่หนิงหนิงเเนะนำตัวนางจึงเพนความสนใจไปที่ซูหลิงฟ่านก่อนจะเอ่ยถามชื่อเสียงเรียงนามของเขา"ข้ามีนามว่าซูหลิงฟ่าน" พูดจบกระประสานมือคาราวะทันที "คาราวะเเม่นางลู่ชิง" ซูหลิงฟ่านเอ่ยก่อนจะมองนางด้วยสายตาเคารพ

"เหตุใดถึงมายืนอยู่ตรงนี้"เหยียนหลิงจื่อเดินมาด้วยสายตาพิคาต

"คาราวะผู้อาวุโสเหยียน"ลู่ชิงประสานมือคาราวะนางทันทีที่พบหน้าด้วยท่าทางสง่างาม "ไปได้เเล้วมัวเเต่เหลวไหลอยู่ได้"เหนียนหลิงจื่อพูดจบก็มองทั้งสองคนที่กำลังยืนอยู่ตรงจุดศูนย์กลางของสำนักเมื่อลู่ชิงได้ยินดังนั้นจึงรีบคาราวะเเล้วขี่กระบี่บินออกไปทันที

"พวกเจ้าสองคนรู้หรือไม่ที่พักอยู่ที่ใด"เท้าสะเอวมองทั้งสอง

"ข้าพึ่งเข้ามายังไม่ทราบเรื่องต่างๆภายในสำนักลำบากผู้อวุโสเเล้ว"เย่หนิงหนิงประสานมือคาราวะเหยียนหลิงจื่อทำสีหน้าเคารพราวกับว่าเรื่องก่อนหน้านี้ไม่เคยเกิดขึ้น"พลังอ่อนด้อยขั้นชูอวิ๋นเข้ามาในสำนักได้ถือว่ายังมีวาสนาเหอะๆ"นางมีสีหน้าเหยียดพลังของทั้งสองออกหน้าออกตา "ข้าจะบอกให้เจ้าฟังเเล้วใจใส่หัวเอาไว้ด้วยเผื่อวันหน้าจะได้ไม่ขายขี้หน้าของสำนัก....เอาล่ะการฝึกเซียนมี5ขั้น ชูเจิง ชูอวิ๋น หวนฟ่าน เทียบเท่า เเละ เซียน เเต่ละขั้นเเบ่งออกเป็นขั้นละ3ระดับ ต้น กลาง สำเร็จ เเต่ละขั้นการฝึกเเตกต่างกันออกไป" พูดจบก็ชี้ทั้งสองทันที

"พวกเจ้ายังอยู่ในขั้นที่อ่อนเเอเป็นอย่างมากต่อให้มีพลังธาตุเเข็งเเกร่งมากเท่าไหร่ก็ไร้ประโยชน์เจ้ามองดูศิษย์พี่คนอื่นๆสิพลังการบำเพ็ญเพียรระดับสูงกันทั้งนั้นหากอยากให้ผู้คนเคารพนับถือจงทำตัวให้มีค่าด้วยเถิด" สาธยายมามากมายนางจึงเริ่มประสานมือร่างเวทบางอย่างทันทีจู่ๆก็พลันปรากฏวงเวทสีทองขนาดใหญ่ไต้เท้าของทั้งสอง "ลาก่อน" ทั้งสองหายไปในวงเวทสีทองทันที

ทดสอบ

  ช่วงเวลาของการจากลามนุษย์เเละสรรพสิ่งลวนถูกกำหนดให้พบเจอได้รู้จักได้จากลาเป็นเรื่องธรรดา

...****************...

   อีกด้านหนึ่งในหุบเขาที่มีกอไผ่สีขาวราวกับถูกย้อมด้วยสีขาวของหิมะเเสงสีทองอร่ามที่สอดส่งลงมาราวกับภาพตรงหน้าไม่มีจริงมือคู่หนึ่งกำลังประสานกันไขว้หลังมองเบื้องหน้าที่มีผีเสื้อนับไม่ถ้วนบินอยู่รอบตัวดวงตาเลื่อนลอยไม่มีไครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เส้นผมสีขาวที่กระทบกับเเสงเเดดกำลังปริวสไวตามสายลมที่เกิดขึ้นจากพลังฟ้าดินมือที่กำลังประสานอยู่ค่อยๆเลื่อขึ้นมารับเเสงพลังที่อบอุ่นกำลังกระจายลงไปที่ภูเขาข้างล่าง

อาภาภรณ์สีเขียวอ่อนพัดปริวค่อยๆเลื่อนลอยตามสายลมมืออีกข้างมีขลุ่ยหยกสีขาวผสมเขียวอ่อนหยกนี้บริสุทธิ์หาที่ใดเทียบไม่ได้มือเรียวบางค่อยๆลูบเช็ดขลุ่ยด้วยความอาวร

...****************...

    เสียงกิ่งไม้ต่างดังกรอบเเกรบชายชราผู้หนึ่งกำลังเดินย่ำกิ่งไม้ที่เเห่งกรอบพลางส่งเสียง "พลังของเจ้าอ่อนเเอถึงเพียงนี้เชียวรึ!"อาจารย์เซียนเอ่ยขึ้นพลันชี้หน้าเย่หนิงหนิง "เเค่เพิ่มพลังให้ฝ่ามือเเล้วปล่อยออกมาให้ต้นอ่อนโตขึ้นยังทำไม่ได้!ขนาดเด็กประถมยังทำได้เลย!"เย่หนิงหนิงโดนด่าไม่เคยเจ็บเเม้เเต่น้อยเเต่เธอเจ็บที่มีคนมานั่งฟังเธอโดนด่าเหยียนหลิงจื่อเลิ้กคิ้งขึ้นพลางยิ้มเยาะ

"ข้าก็คาดไม่ถึงเช่นกัน5555"เหยียนหลิงจื่อนั่งขำเบาๆซูหลิงฟ่านที่กำลังปล่อยพลังของตัวเองบ้างก็ทำให้ต้นอ่อนโตขึ้นนิดหน่อย "ทำได้ไม่เลวเลยนิ"นางเอ่ยขึ้นเเล้วเดินไปดูต้นอ่อนที่ซูหลิงฟ่านร่ายพลังลงไป

"ท่านมาตั้งเเต่เมื่อไหร่ผู้อาวุโสเหยียน"ตาเฒ่าเซียนหันมองเหยียนหลิงจื่อ

"ข้าชอบดูศิษย์ใหม่ทำอะไรล้มเหลวน่ะ"ยิ้มตาหยี่ นางไม่เเม้เเต่จะรู้สึกผิดในดวงตาเเต่กลับพูดหน้าตาเฉยออกมาเย่หนิงหนิงอยากจะลุกขึ้นไปเเล้วให้นางมาทำเอง

"เอาล่ะข้าขอตัวก่อนเชิญพวกเจ้าทั้งสามเรียนรู้ดีๆล่ะห้องพักก็ตามที่หยกประจำตัวพวกเจ้าบอกละกันอ้อจิงสิพรุ่งนี้อย่าลืมไปที่ยอดเขาต้วนจี" ก่อนหน้านี้ที่ทั้งสองหายเข้าไปในวงเวทจู่ๆก็มาโผล่ที่นี่ถูกฝึกอย่างเข้มงวดเหยียนหลิงจื่อขี่กระบี่บินไปที่หุบเขาที่ลอยอยู่บนสุดเป็นยอดเขาที่ใหญ่ที่สุด นางพุ่งตรงไปที่ตำหนักที่มีชื่อว่า 'หยวนไห่รักสงบ'นางไม่รีรอเปิดประตูเข้าไปทันทีไม่เอ่ยขอหรือเคาะประตูสักนิดเรียกได้ว่าความไร้ยางอายของนางไม่มีเลยเเม้เเต่น้อย "จี้หยวนไห่~~~"นางเรียกบุรุษที่กำลังตั้งใจอ่านตำราอยู่จี้หยวนไห่เมื่อถูกบุกรุกตำหนักของตัวเองจนชินจึงไม่สนใจนางเเม้เเต่นิดเดียวเหยียนหลิงจื่อก้าวเข้าไปไกล้ขึ้นเมื่อนางก้าวเข้าไปก็ถูกกับดังเวทน้ำเเข็งของจี้หยวนไห่กักขังไว้

"นี่!เจ้า!!!"นางตะโกนเรียกเขาด้วยสีไม่สะทกสะท้าน

"มารยาทเจ้าไม่เคยพกมาเลยงั้นรึเหยียนหลิงจื่อ"ปากเขาพูดกับนางเเต่สายตากลับสนใจตำราในมือ

"วันนี้ท่านร้อนเเรงกับข้าถึงเพียงนี----"ยังไม่ทันได้พูดจบจี้หยวนไห่ก็บีบพลังให้เกิดก้อนน้ำเเข็งเเหลมคมจ่อที่คอของนางเเล้วปิดตำราลงอารมณ์ที่นิ่งสงบเมื่อครู่กลับลุกขึ้นฉับพลันร่างกายของเขาปล่อยไอสังหารเเผ่ซ่านออกมาจากตัวเเล้วพุ่งเข้ามาหานางเหยียนหลิงจื่อไม่รีรอใช้พลังป้องกันออกมาเป็นโล่ใสป้องกันตัวเองจากเขาด้วยพลังที่ต่างกันเขาทำลายเกาะป้องกันของนางได้เเล้วบีบที่คอของนางอย่างรุนเเรง

"ก่อนหน้านี้ข้าเคยบอกเจ้าไปเเล้วไม่ใช่หรอเย่หนิงหนิงนางเป็นน้องสาวของข้าน้องสาวเพียงคนเดียวของข้าหากเจ้ากล้าทำร้ายนางเท่ากับว่าเจ้ากล้าขัดคำสั่งข้า!"มือของเขากำคอของเหยียนหลิงจื่อเเน่นขึ้นจนเเบบหายใจไม่ออกใบหน้าของนางบิดเบี้ยว"นั้นมันเรื่องของเจ้---"เหยียนหลิงจื่อยั่วยุเขาต่อไปมือของเขาเองก็บีบเเน่นขึ่น"ข้าบอกเจ้าเเล้วความสัมพันธ์ของเจ้ากับข้าไม่มีทางเป็นอย่างที่เจ้าคิดหรอกอีกอย่างให้เกียรติข้าด้วย!" เขาปล่อยมือออกเเล้วผลักนางออกไปจากตำหนักเเล้วปิดประตูใส่หน้าทำให้หน้าของนางถูกประตูอัดใส่เเต่นี่ไม่ใช่ครั้งเเรกที่นางทำเเบบนี้เเละไม่ใช่ครั้งเเรกที่เขาทำเเบบนี้คนในสำนักรู้กันท้วนหน้าว่าทั้งสองเป็นเช่นไรต่างก็คุ้นชินเเละคุ้นเคยกันดีเเต่..ซูหลิงฟ่านเเละเย่หนิงหนิงที่เข้ามากลับมาเห็นนางถูกโยนออกมาจากตำหนักจี้หยวนไห่ที่เป็นผู้อวุโสจึงงงเล็กน้อยจากนั้นทั้งสองก็รีบวิ่งเข้ามา

"พวกเจ้าสองคนมาได้อย่างไร?!"เหยียนหลิงจื่อเอ่ยถามด้วยสีหน้างุนงง

"ท่านอาจารย์เซียนบอกข้าว่าพลังของข้าจำเป็นต้องพักที่ๆไม่ค่อยมีคนอยู่หากพลังของข้าเกิดคคุ้มคลั่งขึ้นมาจะเดือดร้อนคนในสำนัก"เย่หนิงหนิงอธิบาย

"ส่วนเจ้าล่ะ"เหยียนหลิงจื่อถามซูหลิงฟ่าน

"ข้าเองก็เช่นกัน"ซูหลิงฟ่านมีสีหน้ายินดีนิดหน่อยเย่หนิงหนิงหันมองก็ไม่ได้สงสัยอะไรเพียงเเต่สงสัยว่าเหตุใดนางถึงถูกโยนออกมาเช่นนี้

"ทำไม...."นางนึกขึ้นได้จึงได้รู้ว่าครั้งเเรกที่ตนเองมาก็ถูกจัดไว้เช่นนี้เหมือนกัน

"เจ้าก็พักที่นี้ก็เเล้วกันพี่ชายของเจ้าอยู่ที่นี่ให้เจ้านั้นช่วยละกันส่วนเจ้าให้พักที่อื่นห่างออกจากตำหนักนี้หน่อยก็ดี"พูดจบก็ให้ทั้งสองคนรีบไปซูหลิงฟ่านมองหน้าของนางเเล้วออกไปทัน

"ข้าไปเเล้วนะพลบค่ำข้าจะมาหาเจ้า!!"เหยียนหลิงจื่อมองทั้งสองก่อนที่ตนจะตะโกนบอกจี้หยวนไห่ศิษย์คนอื่นๆที่ชินอยู่เเล้วก็ยังมีปฏิกิริยากับบทสนทนาของนางจี้หยวนไห่เมื่อได้ยินจึงฉีกกระดาษทิ้ง

เมื่อตกดึกค่ำคืนที่ลมพัดกระหึ่มท้องที่ควรจะมีดวงดาวเเละดวงจันทร์ที่สว่างสไวกลับมีเมฆบดบังเสียงฟ้าร้องครื่นๆสักพักเม็ดฝนค่อยๆโปรยลงมาค่อนๆถ่าโถมเข้ามารุนเเรงขึ้นทว่ากลับมีสิ่งผิดปกติเหตุใดถึงมีกลิ่นอายปีศาจเกิดขึ้น

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!