ลมยามเช้าแผ่วเบาพัดพาไอหมอกขาวให้ลอยคลอเคลียไปรอบอาณาจักร ลูเมเรีย ดินแดนแห่งป่าหิมพานต์ที่สืบทอดสายเลือดเทพผู้พิทักษ์ธรรมชาติมานานนับพันปี
เสียงนกร้องขับกล่อมอยู่เหนือยอดไม้สูง แสงแดดอุ่นส่องผ่านปลายยอดสนราวกับม่านแห่งเทพธิดา
ใต้พระราชวังหลังใหญ่ที่ตั้งอยู่กลางเนินเขาเขียวชอุ่ม
เจ้าหญิงไนท์ สตรีผู้เป็นดั่งหัวใจของผืนป่า กำลังแอบผลักหน้าต่างไม้เปิดออกอย่างเงียบงัน ดวงตากลมสีน้ำผึ้งเปล่งประกายด้วยความซุกซน
“วันนี้ฟ้าสวยจังเลย... เขาจะตามเราทันอีกไหมนะ”
เสียงกระซิบของเธอเบาราวลมไหว ก่อนจะคว้าเสื้อคลุมผ้าทอสีมรกตสะพายไหล่ แล้วก้าวข้ามกำแพงสวนหลังวังออกไปอย่างคล่องแคล่ว
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอแอบหนีออกนอกวัง — แต่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกเหมือนหัวใจถูกดึงดูดด้วยบางสิ่งบางอย่าง... ราวกับมีเสียงจากป่ากำลังร้องเรียกเธอ
อีกด้านหนึ่งของวัง
“องค์หญิงหายตัวไปอีกแล้ว?”
เสียงเข้มเอ่ยขึ้นเบา ๆ ชายหนุ่มในชุดองครักษ์ยืนแนบกับเงาเสาไม้ ดวงตาคมกริบจับจ้องไปยังทิศทางป่าทางทิศตะวันออก — ที่เดียวกับทุกครั้งที่เธอชอบหนีไป
เขาชื่อ “โร”
องครักษ์หนุ่มวัย 22 ปี ผู้เติบโตเคียงข้างเจ้าหญิงมาตั้งแต่เด็ก
ในขณะที่ทุกคนมองไนท์เป็นดั่งดอกไม้สูงศักดิ์ในกระจกเขียว
โรกลับเห็นเธอเป็น... “หญิงสาวที่โลกทั้งใบของเขาหมุนรอบ”
แต่ก็ได้แค่เฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ... เพราะเธอเป็นเจ้าหญิง ส่วนเขา...เป็นแค่คนคุ้มกัน
“อย่าให้ใครเห็นเลย...”
เขากระซิบ ก้าวเท้าออกตามรอยเธอเข้าไปในป่าเงียบ
ในป่าลึก
กลิ่นดินชื้นหลังสายฝนเมื่อคืนยังคงหอมสด
ฝูงผีเสื้อสีเขียวอมทองบินวนอยู่รอบต้นดอกกล้วยไม้ประหลาดที่ไม่มีในหนังสือเรียน
ไนท์เดินอย่างเบิกบาน ราวกับแต่ละก้าวเท้าของเธอทำให้ดอกหญ้าสีรุ้งผลิบานขึ้นเอง
“คิดถึงจังเลยนะ…ป่าของฉัน”
เธอยิ้มละไม หลับตารับลม แล้วกางแขนออกกว้างให้ใบไม้ทักทายเธอ
ทันใดนั้น...
เสียงน้ำตกดังขึ้นลึกจากทิศเบื้องหน้า
เธอไม่เคยได้ยินเสียงนี้มาก่อนเลยสักครั้ง ทั้งที่คิดว่าตนรู้จักผืนป่าแห่งนี้ดียิ่งกว่าใคร
“...มีน้ำตกอยู่ในนี้ด้วยเหรอ?”
ความสงสัยนำพาเธอก้าวลึกเข้าไปในร่มเงาไม้โบราณ ก่อนที่สายตาจะเบิกกว้าง
เบื้องหน้า — ถ้ำกลางป่าน้ำตกใส
ละอองน้ำลอยคลุ้ง เสียงสายน้ำตกกระทบแอ่งหินด้านล่างดังเสนาะ เสียงดนตรีธรรมชาติราวกับสะกดหัวใจให้หยุดเต้น
ไนท์เดินเข้าไปใกล้...
ยิ่งใกล้ถ้ำ ยิ่งรู้สึกอบอุ่นในอก ประหนึ่งความเศร้าทั้งชีวิตของเธอถูกปลิดออกอย่างช้า ๆ
“นี่มัน...อะไร...”
เธอก้าวพ้นม่านน้ำตกเข้าไปในถ้ำเรืองแสง
คริสตัลสีมรกตส่องประกายราวกับดวงตาของเทพเจ้า เสียงกระซิบแผ่วเบาดังขึ้นในหัวเธอ
“จงอยู่ที่นี่...เจ้าคือผู้ถูกเลือก...”
“ลืมทุกสิ่งเสีย...ที่นี่คือสวรรค์ของเจ้า...”
ดวงตาไนท์เริ่มพร่า เธอทรุดตัวลงกับพื้นหิน น้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว
แต่เป็นน้ำตา...ที่ไม่มีความเจ็บปวดใดหลงเหลืออยู่เลย
ตึง!
เสียงฝีเท้าหนักกระทบพื้นหินดังขึ้น — เสียงของผู้มาเยือน
และนั่นคือเสียงที่ทำให้มนต์สะกดคลายลงในเสี้ยววินาที
“ไนท์! อย่าเข้าไปลึกกว่านี้!!”
ร่างสูงในชุดองครักษ์กระโจนเข้ามา
เขาคว้าเธอเข้ากอดแน่นในอ้อมแขน ร่างของเธอสั่นสะท้านก่อนจะซบหน้าลงกับไหล่ของเขาอย่างอ่อนแรง
“โร...?”
เสียงของเธอเบาแผ่ว แต่เต็มไปด้วยคำถาม
“เจ้าเกือบไม่ได้กลับแล้ว...”
โรพูดเสียงสั่น เขากอดแน่นขึ้นราวกับกลัวจะสูญเสียเธอไป
แสงภายในถ้ำเริ่มสลัวลง
เส้นสายเวทมนตร์สีเขียวค่อย ๆ ม้วนตัวกลับเข้าสู่หินคริสตัล
คำกระซิบสุดท้ายดังขึ้นราวกับเสียงเตือน...
“นาง...คือผู้ที่จะชี้ชะตาแห่งโลก...”
“และเขา...จะเป็นผู้ที่เลือกระหว่างรัก...หรือทำลายเธอ”
สายลมยามบ่ายแผ่วเบาพัดไล้ปลายเส้นผมของเจ้าหญิงไนท์ขณะนั่งอยู่ริมระเบียงตำหนักส่วนตัว กลีบดอกฟีราน่า — ดอกไม้ประจำอาณาจักรลูเมเรีย — ลอยละล่องลงมาจากต้นไม้สูงเบื้องหน้า เธอยื่นมือไปรับมันไว้ ก่อนจะมองมันนิ่ง ๆ แล้วถอนหายใจเบา
“ทำไมเรารู้สึกเหมือนไม่ใช่ตัวเองเลยนะ…”
ตั้งแต่กลับมาจากถ้ำนั้น ทุกอย่างดูเหมือนเดิม แต่ความรู้สึกภายในกลับเปลี่ยนไป
อาหารจานโปรดที่เคยชอบกลับจืดชืด
ดนตรีอันอ่อนหวานที่เคยบรรเลงในตำหนักกลับทำให้รู้สึกอึดอัด
แม้แต่เสียงหัวเราะของพี่สาวในวังก็เหมือนเสียงลมพัดผ่าน — ไร้ความหมาย
มีเพียงอย่างเดียวที่ยังคงทำให้หัวใจเต้นแรง...
...เสียงฝีเท้าของเขา
ประตูไม้แกะสลักเปิดออกช้า ๆ พร้อมกลิ่นอายที่คุ้นเคย
โร...ยืนอยู่ตรงนั้น
เขาไม่ได้ใส่ชุดองครักษ์เต็มยศในวันนี้
มีเพียงเสื้อผ้าธรรมดาสีเทาหม่น และสายตาอ่อนโยนคู่นั้นที่มองเธอเหมือนเธอเป็นสิ่งมีค่าที่สุดในโลก
“ข้าขอเข้าไปไหม?”
ไนท์เงยหน้าขึ้นช้า ๆ ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ
โรเดินเข้ามานั่งตรงข้ามเธอ ไหล่ทั้งสองของเขาดูเหนื่อยล้าแต่ยังเต็มไปด้วยความเข้มแข็ง
“ท่านไม่ควรเข้าไปในป่านั้นคนเดียวอีก ไนท์”
เขาใช้ชื่อของเธอ โดยไม่เติมคำราชาศัพท์เหมือนเคย
เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสับสน
“เจ้าคิดว่าข้าเปลี่ยนไปหรือเปล่า?”
คำถามที่ออกจากปากเธอ ทำเอาโรชะงัก
เขามองเธอ ดวงตาคู่นั้นเหมือนมีเมฆหมอกบาง ๆ บดบังความสดใสที่เคยมี
“...เปลี่ยนไปนิดหน่อย”
เขาตอบตามตรง “แต่ไม่ใช่ในทางไม่ดีหรอก เจ้าแค่...ดูเศร้ากว่าเดิม”
เธอหลบตา ยิ้มจาง ๆ
“นั่นสินะ… ทั้งที่ข้าควรจะมีความสุขที่ได้กลับมา…”
เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนเสียงของเธอจะเอ่ยออกมาเบาเหมือนสายลม
“ตอนอยู่ในถ้ำนั้น ข้ารู้สึกว่า...ไม่มีอะไรต้องเสียใจอีกต่อไป ทุกอย่างเงียบ สงบ และอบอุ่น... เหมือนกับโลกที่ไม่มีใครคาดหวังจากข้าเลย”
โรขบกรามแน่น ลึก ๆ ในใจเขารู้ว่า “มนต์แห่งถ้ำ” นั้นไม่ได้แค่สะกดไนท์ให้ลืมความเจ็บปวด
แต่มันกำลัง ลบตัวตนของเธอ ไปทีละน้อย
“เจ้ารู้ไหมไนท์”
เสียงของโรแผ่วเบาลง
โร “ตอนเด็ก ๆ เจ้าชอบพูดว่าอยากให้ทุกคนหายไปหมด จะได้เหลือแค่เจ้า กับต้นไม้ กับนก กับแม่น้ำ…”
ไนท์ “เพราะตอนนั้นข้าถูกบังคับให้เรียนพิธีการทุกวัน... ฮึ…”
ไนท์ยิ้มเศร้า “แต่ตอนนี้ ข้าไม่อยากให้ใครหายไปเลย…แม้แต่เจ้าก็ตาม”
เธอเงียบไป ก่อนจะมองเขาตรง ๆ ด้วยสายตาที่ไม่เคยจริงจังเท่านี้มาก่อน
“เจ้ารู้ไหมว่าทำไมข้าถึงไว้ใจเจ้ามากกว่าทุกคน?”
โรนิ่ง
“เพราะเจ้าคือคนเดียวที่ไม่เคยดึงข้าไว้... ไม่เคยขังข้าเหมือนคนอื่น ถึงแม้เจ้าจะคอยตามข้าเสมอ เจ้าไม่เคยบอกให้ข้าหยุด”
เธอก้าวเข้ามาใกล้ นั่งคุกเข่าต่อหน้าเขา มือเรียววางลงบนมือเขาช้า ๆ
“เจ้าจึงเป็นคนเดียว...ที่ทำให้ข้ารู้สึกอยาก ‘อยู่’ ต่อไป”
หัวใจของโรเต้นแรงจนแทบทะลุอก
เขากำลังจะเอ่ยคำบางคำที่เก็บไว้ในใจมานาน...แต่กลับถูกเสียงฝีเท้าขัดจังหวะ
“ฝ่าบาทเจ้าคะ!”
เสียงสาวใช้ตะโกนหน้าประตู “องค์ราชินีทรงเรียกเจ้าหญิงไปเข้าเฝ้าทันทีเพคะ”
ไนท์สะดุ้ง ถอนมือออกช้า ๆ
ก่อนจะกลับมาใส่สีหน้าเรียบเฉยอย่างเคย
“เข้าใจแล้ว... ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”
เธอหันกลับมาหาโรครั้งสุดท้าย ดวงตาอ่อนลง
“อย่าปล่อยให้ข้าไปในป่าคนเดียวอีกนะ... ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม”
เธอไม่รอคำตอบ ก่อนจะหันหลังเดินจากไป
ทิ้งโรไว้เพียงลำพัง — พร้อมคำพูดที่ยังไม่ได้พูดออกไป
คืนนั้น
พระจันทร์เต็มดวงส่องแสงเงินลงบนตำหนักหลังเล็กในสวนในวัง
โรยังคงนั่งอยู่ที่เดิม มือของเขากำแน่นอยู่บนกลีบดอกฟีราน่าที่เจ้าหญิงเคยจับไว้
และในเงามืดของสวนไม้เบื้องหลัง...
ต้นกล้าต้นหนึ่งที่ไม่เคยงอกเลยตลอด 100 ปี กลับเริ่มแง้มใบออกทีละน้อย
ดอกไม้แห่งป่า — ที่เคยตายไปนานแล้ว — กำลังผลิบาน...
ค่ำคืนนี้ในอาณาจักรลูเมเรีย ช่างสงบผิดปกติ
ท้องฟ้าโปร่ง ดวงจันทร์เต็มดวงลอยสูงเหนือยอดสน
แม้สายลมจะเย็นฉ่ำพัดเอากลิ่นไม้หอมมาปะทะผิว
แต่ในหัวใจของ "ไนท์"...กลับเงียบงันกว่าครั้งไหน
เจ้าหญิงสาวนั่งอยู่เพียงลำพังใต้ต้นเอล์มเก่าแก่ริมทะเลสาบหลังตำหนัก
อ้อมแขนโอบเชลโล่ไม้สีเข้มแนบอก
นิ้วเรียวแตะเบา ๆ ที่สาย — ไม่มีเจตนาเล่น…เพียงแค่สัมผัส
เธอหลับตา ปล่อยให้ทุกอย่างตกลงบนไหล่เธอเงียบ ๆ
"ความรู้สึก...หายไปไหนกันนะ"
นับตั้งแต่กลับจากถ้ำน้ำตก...เธอรู้สึกว่าหัวใจไม่เหมือนเดิม
ทุกสิ่งเหมือนเดิม แต่ความหมายหายไป
แม้แต่เสียงพิณ เสียงหัวเราะ หรือแม้แต่...จูบของเขา
“ยังไม่หลับอีกหรือ?”
เสียงทุ้มอบอุ่นคุ้นเคยดังขึ้นด้านหลัง
ไนท์เงยหน้าช้า ๆ แล้วพบ "โร" ยืนถือกีตาร์โปร่งอยู่ในเงาไม้
เธอยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหันกลับไปมองทะเลสาบ
“คืนนี้พระจันทร์สวย... เราเลยยังไม่อยากหลับ”
โรเดินเข้ามาเงียบ ๆ
นั่งลงข้างเธอโดยไม่เอ่ยคำ
เขากอดกีตาร์ไว้ในมือ เหมือนเป็นเกราะป้องกันความรู้สึกของตนเอง
พักหนึ่ง...
เขาดีดสายเบา ๆ เสียงกีตาร์ใสสะอาดกังวานไปไกลในความเงียบ
มือของไนท์เผลอกระตุกเชลโล่ตอบ — โดยไม่รู้ตัว
เสียงทั้งสองผสานกันเป็นบทเพลงไร้ชื่อ
ไม่มีเนื้อร้อง ไม่มีการซ้อม ไม่มีสัญญาณใด ๆ
แต่ก็กลมกลืน...เหมือนหัวใจสองดวงที่ยังผูกพันแม้ไม่เข้าใจกัน
เสียงกีตาร์ของโร เหมือนคำสารภาพที่ไม่ได้พูด
เสียงเชลโล่ของไนท์...เหมือนหัวใจที่ไร้คำตอบ
พวกเขายังคงเล่นต่อ ราวกับลืมทุกสิ่งรอบกาย
จังหวะช้าลง...ช้าลง...
จนกระทั่งบทเพลงสิ้นสุดลงอย่างเงียบงัน
ในช่วงเวลาเงียบสงบนั้น
โรเอียงตัวเข้ามา...ช้า ๆ
มือของเขาแตะที่แก้มเธอเบา
ดวงตาคู่นั้นลึก...เต็มไปด้วยทุกความรู้สึกที่เขามี
“ไนท์...”
เธอไม่พูดอะไร
ไม่ได้หลบตา...แต่ก็ไม่ได้ขยับหนี
และก่อนที่เหตุผลจะตามทันหัวใจ
ริมฝีปากของเขาก็แตะลงบนริมฝีปากของเธอ...
จูบแรก...........มันอ่อนโยน.......อบอุ่น...เเละ...สั่นไหว
สำหรับโร — เหมือนฝันที่เฝ้ารอมาทั้งชีวิต
แต่สำหรับไนท์ — มันกลับ...ว่างเปล่า
เธอไม่ได้ผลักเขาออก
ไม่ได้ตอบรับ
เพียงแค่...ปล่อยให้มันเกิดขึ้น
และเมื่อเขาถอนริมฝีปากออก
โรสบตาเธอด้วยความหวังบางอย่างในดวงตา
แต่สิ่งที่เขาเห็นคือ...
ความว่างเปล่าที่เจ็บยิ่งกว่าการปฏิเสธ
“...เราไม่ได้รู้สึกอะไรเลย โร”
เธอพูดอย่างตรงไปตรงมา
ไม่มีน้ำเสียงโกรธเกลียด ไม่มีแม้แต่ความเสียใจ
โรชะงัก
รอยยิ้มบนใบหน้าค่อย ๆ จางลง
เธอก้มหน้าลง พึมพำเหมือนคนหลงทาง
“เราจำได้ว่าครั้งหนึ่ง...เราเคยอยากรู้ว่า ‘จูบแรก’ จะรู้สึกยังไง
มันควรจะมีแสงดาวฟุ้งในอก หัวใจเต้นแรง หรืออะไรแบบนั้น”
เธอเงยหน้าขึ้น
“แต่ตอนนี้...มันไม่มีอะไรเลย โร เรากลัว...ว่าหัวใจของเราอาจจะเสียไปแล้ว”
โรเงียบอยู่นาน
ก่อนจะพูดแผ่วเบา
“ถ้าไนท์ไม่มีหัวใจ...งั้นก็ให้เราอยู่ข้าง ๆ จนกว่าจะเจอใหม่อีกครั้ง”
เธอเบิกตากว้าง
เขายิ้มอย่างเศร้า ๆ
“เพราะข้าไม่ต้องการแค่จูบของเจ้า ข้าต้องการ ‘ตัวตน’ ของเจ้า…ทุกลมหายใจ”
คำพูดนั้น — อ่อนโยนยิ่งกว่าเพลงใด
แต่ก็เจ็บยิ่งกว่าเพลงทุกเพลงที่ไม่จบ
เสียงลมกลางคืนพัดผ่านพวกเขาไป
ทั้งสองนั่งเงียบ โดยไม่มีบทเพลงใดอีก
ดวงจันทร์ยังส่องแสง
แต่บทเพลงในคืนนี้...
คือ “บทเพลงที่ไม่มีความหมาย” สำหรับเธอ
แต่กลายเป็น บทบันทึกตลอดชีวิต ของเขา
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!