🌊🐾🌾
เกาะรังนกในวันฝนโปรยบางเบา กลิ่นไอทะเลอบอวลไปทั่วลมหายใจ
เรือไม้ลำเล็กเคลื่อนเข้าเทียบท่า หน้าศูนย์อนุรักษ์สัตว์น้ำกลางเกาะ
เสียงฝีเท้าเบา ๆ เดินลงจากเรือ พร้อมร่มสีดำสนิทที่กางคลุมตัวอย่างพอดี
"อืม... ฝนก็มา..."
เสียงทุ้มต่ำของตัวเองเปล่งเบา ข้าวฟางถอนหายใจเงียบ ๆ ก่อนจะหันหลังเดินตรงเข้าอาคารไม้สีขาว
เขาไม่ได้ชอบการเดินทางมาเกาะนัก แต่ธุรกิจมันเรียกร้อง
พนักงานหญิงหน้าตาใจดีรีบออกมาต้อนรับ
"คุณข้าวฟางใช่ไหมคะ ทางเรารออยู่เลยค่ะ คุณนาวาจะเป็นคนดูแลคุณระหว่างการดูงานนะคะ"
"ครับ" เขาตอบสั้น ๆ อย่างเคย ก่อนจะหันไปมองรอบตัว — ไม่มีใครชื่อ “คุณนาวา” โผล่มาให้เห็นเลย
ทว่า...
โครม!
เสียงบางอย่างหล่นลงจากด้านบนของบันไดไม้เก่า พร้อมเสียงร้องตกใจเบา ๆ
"อ๊ะ! โทษทีครับ! รองเท้ามันลื่น..."
ชายหนุ่มคนหนึ่งโผล่หัวขึ้นมาจากขอบบันได ผมหยักศกเปียกเล็กน้อยจากฝน ตาคมเหมือนหมาโดนดุ
ใบหน้าเขาเปื้อนยิ้มจนเห็นเขี้ยวเล็ก ๆ มุมปาก ขัดกับรอยแผลถลอกที่หัวเข่าอย่างสิ้นเชิง
"คุณข้าวฟางใช่มั้ย ผมนาวา ยินดีต้อนรับนะครับ"
น้ำเสียงนั้นนุ่มจนข้าวฟางชะงักมองเขานิ่ง ๆ …ไม่รู้ทำไม เหมือนหมาที่กำลังอ้อนให้ลูบหัว
“หกล้มเหรอ?” ข้าวฟางถามนิ่ง ๆ
“ครับ... พอดีรีบมารับน่ะ แล้วฝนมันตก ผมเลย... ฮะ ๆ” นาวาหัวเราะแห้ง ๆ เกาท้ายทอยตัวเอง
ข้าวฟางเลื่อนสายตาจากรอยแผลไปยังรอยยิ้มของเขา
…อบอุ่นอย่างประหลาด
"ไม่ต้องทำท่าขอโทษขนาดนั้นหรอก" ข้าวฟางพูดขณะรับแฟ้มจากพนักงาน ก่อนเดินนำขึ้นไป
นาวารีบเดินตามหลัง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มและดวงตาที่เหมือนลูกหมาขี้กลัวน้ำฟ้าฝน
“คุณมาจากเมืองเหรอครับ?”
“…อืม”
“อ่า ผมไม่ค่อยได้คุยกับคนนอกเท่าไหร่ ถ้าพูดอะไรแปลก ๆ ก็ขอโทษด้วยนะครับ”
“อืม…”
ข้าวฟางไม่ได้ตอบอะไรอีก เดินนิ่ง ๆ ขึ้นชั้นบน
ในใจมีบางอย่างเริ่มซ่อนไว้ในท่าทีเย็นชา — ความรู้สึกบางอย่าง…ที่ยังไม่อาจนิยามได้
ขณะที่นาวาเดินตามข้างหลัง เขามองแผ่นหลังเรียบ ๆ ของข้าวฟาง
ในหัวมีแต่เสียงตะโกนเบา ๆ ว่า
"โว้ย… คนอะไร… ทำไมเหมือนแมวที่ขู่เราแต่ก็อยากให้ลูบหัววะเนี่ย…"
และในช่วงเวลาสั้น ๆ ของบ่ายฝนเบา
หัวใจที่ปิดตายมาห้าปีของหมาน้อยที่ชื่อ นาวา เริ่มสะดุด…
กับแมวเย็นชานาม ข้าวฟาง ที่ไม่แม้แต่จะหันมายิ้มให้เขาสักครั้งเดียว
แต่ก็นั่นแหละ…
หมาน้อยก็ยังเฝ้ามองแมวตัวนั้นอยู่ดี 🐶🐱
.......
.............>>>>>
🍃🌧️
“อยู่เกาะนี่… ต้องอยู่นานขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”
เสียงของนาวาดังขึ้นในห้องทำงานเล็ก ๆ ที่ตกแต่งเรียบง่าย มีเพียงโต๊ะไม้ยาวกับเก้าอี้สองตัว
และแฟ้มเอกสารหนาเตอะวางอยู่ตรงกลาง
ข้าวฟางเงยหน้ามองเขานิดเดียว ก่อนจะหยิบเอกสารบางอย่างจากกระเป๋า
วางแปะลงต่อหน้าอีกฝ่าย
“เลขาผมสรุปรายงานไว้ให้แล้ว ลองอ่านดู”
เสียงเขานิ่ง เรียบ เย็น จนไม่รู้ว่าเหนื่อย เบื่อ หรือแค่ไม่อยากพูด
นาวารับเอกสารมาพลิกอ่าน
แผนงานการพัฒนาระบบอนุรักษ์สัตว์น้ำเชิงพาณิชย์ร่วมกับธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป
ระยะเวลาดำเนินงาน... 1 ปีเต็ม
“...อ่า งั้นก็แปลว่า...คุณจะอยู่ที่นี่จนกว่างานจะจบ?”
“ใช่”
“อืม...” เขาตอบในลำคอ หยิบดินสอมาขีดขยี้ตรงหัวมุมแฟ้มอย่างใช้ความคิด
ข้าวฟางไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเอนหลังพิงเก้าอี้ เหลือบมองมือเปื้อนหมึกปากกาของตัวเอง
มันเริ่มคล้ำขึ้นจากแสงแดดและอากาศทะเล
เขาไม่ได้ชอบที่นี่หรอก — ผิวก็คล้ำ ผมก็พัน ฟ้าก็ชื้น เสื้อผ้าก็ต้องซักเอง...
แต่เขาเป็นประธานบริษัท ถ้าไม่ทำเอง ใครจะทำ?
“ผิวคุณดูคล้ำขึ้นนะครับ”
เสียงของนาวาดังแทรกความเงียบที่ยาวเกือบครึ่งนาที
“อืม”
“แต่ก็ดูแข็งแรงดีนะครับ... เหมือนต้นไม้ชายทะเล”
“...” ข้าวฟางเหลือบมองอีกฝ่ายแบบไม่เข้าใจว่าเปรียบเปรยอะไร
นาวารีบยกมือเกาท้ายทอยแล้วหัวเราะแห้ง ๆ
“ผมหมายถึงว่า... คุณดูเหมาะกับลมทะเลมากกว่าที่คิดน่ะครับ”
ข้าวฟางไม่ตอบอะไรอีก
แต่ก็ไม่ได้ขมวดคิ้วแบบที่ชอบทำเวลาไม่พอใจ
ห้องยังเงียบ... จนถึงเย็น
ทั้งสองคนยังคงนั่งอยู่ที่เดิม พูดคุยเรื่องงานต่อเนื่องเหมือนคนที่ไม่มีทางเลือก
เอกสารถูกตรวจหลายรอบ เสียงขีดเขียน ขยับแฟ้ม เสียงกระดาษพลิก… ดังเป็นจังหวะระหว่างสองใจที่ค่อย ๆ คุ้นกัน
แล้ว... ฝนก็ตกลงมา
ไม่ใช่สายฝนเบา ๆ แบบเมื่อวันแรก แต่เป็นฝนจริงจัง เสียงกระแทกหลังคาไม้ดังปึงปัง
สายลมแรงพัดเข้ามาทางหน้าต่างที่แง้มไว้ ทำให้ข้าวฟางต้องลุกไปปิด
นาวาลุกตาม ช่วยจัดแฟ้มกันเปียก
แล้วก็รู้ตัวว่า... ตอนนี้มันค่ำมากแล้ว
“คุณจะกลับที่พักเลยไหมครับ?”
ข้าวฟางมองออกไปทางหน้าต่าง ม่านฝนยังหนักหนาเหมือนจะไม่มีทีท่าหยุดง่าย ๆ
“ยัง” เขาตอบเบา ๆ
“ฝนคงอีกนานเลยนะครับ”
นาวาพูดเบา ๆ ขณะหยิบเสื้อกันฝนมาแขวนไว้ตรงประตูให้
ข้าวฟางถอนหายใจนิดหนึ่ง
เขาไม่ใช่คนชอบอยู่กับใครนาน ๆ โดยเฉพาะเวลางานจบแล้ว แต่ฝนก็ทำอะไรไม่ได้
“เดี๋ยวคุณฝางจะรอให้ฝนหยุดก่อนก็ได้ครับ ไม่ต้องรีบ”
เสียงของนาวานุ่มลงกว่าเดิมอีก
คำพูดนั้นเหมือนหมาน้อยที่เสนอผ้าเช็ดตัวให้แมวตัวโตที่ไม่ยอมเปียกฝน
ข้าวฟางนั่งลงใหม่ มือกอดอก มองนาวาเงียบ ๆ
“…เรียกชื่อเล่นผมเหรอ”
“ครับ… ฝางมันดูนุ่มดี เรียกแล้วเหมือนข้าวนุ่ม ๆ อะ…”
“แต่ผมไม่ได้อนุญาต”
“เอ่อ… งั้นไม่เรีย—”
“แต่ก็ไม่ได้ห้าม”
“…”
นาวาเงียบ หัวใจเต้นตึก ๆ อย่างไม่รู้ทำไม
ขณะที่ฝนยังตกไม่หยุด… และแมวยังไม่ลุกไปไหน
และในค่ำคืนกลางเกาะเล็ก ๆ ที่มีแต่เสียงฝนกับไฟสลัว
ไม่มีใครรู้เลยว่า
ระยะเวลาหนึ่งปีนั้น... อาจยาวนานพอให้บางอย่างเกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ
.......
.........
🌧️ ถ้าพร้อมให้ฝนซาแล้ว แมวเริ่มเผลอใจก็พร้อมเขียนตอนต่อปัยค่า ~ 💙🐾
🐶💐🌅
......
...........
แสงแดดยามเช้าส่องลอดม่านบางเข้ามาในห้องไม้กลิ่นอายทะเล
ข้าวฟางขยับตัวเล็กน้อยในผ้าห่ม กลอกตานิด ๆ ก่อนจะลืมตาช้า ๆ อย่างคนยังไม่ตื่นเต็มที่
เขานอนนิ่งอยู่พักใหญ่ ก่อนจะยกมือขึ้นปิดหน้าผากแล้วพึมพำเบา ๆ กับตัวเอง
“กลิ่นแบบนี้… มันควรเป็นกลิ่นน้ำหอมจากผ้าปูเตียง ไม่ใช่กลิ่นแดดเค็ม ๆ แบบนี้…”
เขาบ่นงึมงำขณะหันมองเพดานไม้ แล้วพลิกตัวกลับไปอีกด้าน
แต่พอลืมตาอีกครั้ง เขาก็สะดุ้งนิด ๆ เพราะแสงจ้าจากหน้าต่างส่องเข้าตรง ๆ
เสียงหัวเราะ… ดังมาจากชายหาด
“โอ๊ย เอาอีกลูกดิ๊!”
“ว้าย! พี่วาเตะเบา ๆ สิ! กางเกงจะหลุดอยู่แล้ว~”
ข้าวฟางขมวดคิ้ว ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นนั่ง
เขาคว้าผ้ามาคลุมไหล่แล้วเดินไปเปิดม่านหน้าต่าง
ภาพที่เห็นคือ… พระเอกในสภาพเสื้อไม่ใส่ ใส่แค่กางเกงขาสั้นตัวเดียว
กำลังเตะบอลกับกลุ่มเพื่อนชาวเกาะ และสาว ๆ นักท่องเที่ยวในชุดว่ายน้ำ
เสียงตะโกนเจี๊ยวจ๊าว เสียงหัวเราะ และเสียงคลื่นที่ซัดเข้าฝั่ง…
มันควรจะเป็นเช้าที่เขานั่งจิบกาแฟเงียบ ๆ กับเอกสารในคอนโดกลางเมือง
แต่นี่… มันคืออะไร?
ข้าวฟางถอนหายใจแรงอย่างเห็นได้ชัด
เขาหันหลังเดินไปเปิดประตูห้องเพื่อจะออกไปสูดอากาศนอกชาน แต่...
“อ๊ะ…”
ตรงหน้าประตู… มีใครบางคนยืนอยู่
ผิวเข้มแดดเป็นมัน เงาวับ กล้ามเนื้อหน้าท้องชัดเจนเต็มสายตา
และแน่นอนว่า… ไม่ใส่เสื้อ
“อรุณสวัสดิ์ครับคุณฟาง”
นาวายิ้มกว้าง ยกถาดอาหารเช้ามาวางชูให้ดู
บนถาดมีข้าวต้มทะเลร้อน ๆ พร้อมผลไม้หั่นพอดีคำ และน้ำส้มเย็น ๆ
แต่สิ่งที่ทำให้ข้าวฟางขนลุกไม่ใช่อาหาร…
คือความแนบเนื้อของเสื้อผ้ากับร่างกายของคนตรงหน้า
“…เดี๋ยวผมออกไปเอง”
เขาพูดนิ่ง ๆ ตาไม่สบตา มือกุมผ้าคลุมไว้แน่น
แล้วขยับถอยหนึ่งก้าวอย่างอัตโนมัติ
“ไม่เป็นไรครับ ผมแค่จะเอามาให้เฉย ๆ”
นาวายังคงยิ้ม และไม่ถือสากับท่าทีแข็ง ๆ แบบทุกครั้งของอีกฝ่าย
เขาก้มลงวางถาดบนโต๊ะเตี้ยข้างประตูอย่างเบามือ
“อ้อ แล้วก็…”
เขาคลายมือที่กำอะไรบางอย่างไว้ในฝ่ามือ
ดอกไม้เล็ก ๆ สีม่วงขาวจากชายหาด — ดอกผักบุ้งทะเล
นาวาหยิบมันขึ้นมาวางแผ่ว ๆ บนจานข้างผลไม้
“สำหรับคุณ”
ข้าวฟางเงียบ ไม่พูดอะไร
แต่ดวงตาคู่นั้นจ้องที่ดอกไม้… ก่อนจะเลื่อนกลับไปที่ถาดอาหาร
และมองแผ่นหลังกึ่งเปียกของนาวาที่เดินจากไป
เหมือนหมาน้อยที่ส่งของแล้ววิ่งกลับไปเล่นต่อ
เขายืนอยู่หน้าประตูอย่างนั้นอีกครู่ใหญ่
ก่อนจะถอนหายใจ แล้วพูดกับตัวเองเบา ๆ
“อาหารเช้าควรมากับข่าวธุรกิจ… ไม่ใช่กล้ามกับดอกไม้ทะเล”
แต่สุดท้าย… เขาก็หยิบช้อนขึ้นมาตักข้าวต้ม
กลิ่นทะเล… กลายเป็นกลิ่นที่เขารู้สึกว่า "พอกินได้" ขึ้นมาหน่อยแล้ว
🌺 ~ 🐾🫶
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!