เสียงฝนตกกระหน่ำลงมาราวกับจะลบล้างทั้งเมืองให้หายไปกับสายน้ำ เย็นเยียบจนกระดูกแทบสั่น — และเธอก็ยังยืนอยู่หน้าประตูบ้านหลังใหญ่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน พร้อมกระเป๋าใบเดียวกับจดหมายจากแม่ที่เสียชีวิตไปเมื่อสามวันก่อน
“ให้ไปหาเขา... แล้วจะได้รู้ความจริงทั้งหมด”
เธออ่านประโยคนั้นในจดหมายซ้ำไปมา ก่อนจะตัดสินใจกดกริ่งหน้าบ้าน
ครืด... ประตูไม้เก่าค่อย ๆ เปิดออกอย่างช้า ๆ เผยให้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูเหมือนพึ่งตื่นจากฝันร้าย — ผมดำยาวปรกหน้า เสื้อเชิ้ตหลุดลุ่ยไม่ติดกระดุม เงาสลัวในบ้านทำให้มองเห็นแววตาเขาไม่ชัดนัก
“ใคร?” เสียงของเขาเย็นเยียบพอ ๆ กับอากาศรอบตัว
“ฉันชื่อ ‘ขวัญข้าว’ แม่ของฉันบอกให้มาหาคุณ... คุณชื่อธีร์ใช่ไหม?”
“...แม่ของเธอ?” เขาขมวดคิ้วแน่นขึ้น “แล้วเธอรู้ไหมว่าเธอกำลังเดินเข้ามาในบ้านของคนที่เธอไม่ควรไว้ใจ?”
ขวัญข้าวกำกระเป๋าแน่น ไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว เธอไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร และที่สำคัญไม่รู้เลยว่า...ทำไมแม่ถึงอยากให้เธอมาเจอเขา ก่อนจากโลกนี้
“แม่บอกว่า ถ้าฉันอยากรู้ว่าตัวเองคือใคร... ต้องมาหาคุณ”
ชายหนุ่มเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนถอนหายใจหนัก ๆ แล้วเปิดประตูให้กว้างขึ้น
“งั้นก็เข้ามา... แต่อย่าเสียใจทีหลังแล้วกัน”
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด — กับความลับที่ฝังลึกในครอบครัว ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน และชายแปลกหน้าผู้กุมกุญแจของอดีตไว้ทั้งหมด
กลิ่นไม้เก่าและฝุ่นอบอวลอยู่ในบ้านใหญ่ที่เธอเดินเข้าไป ไม่ใช่กลิ่นน่ารังเกียจ แต่กลับรู้สึกอบอุ่นอย่างแปลกประหลาด เหมือนเคยคุ้นกับมันในความฝัน
ขวัญข้าวก้าวช้า ๆ ตามชายหนุ่มที่เดินนำ เธอสังเกตเห็นว่าบ้านหลังนี้ถึงจะเงียบเหงา แต่ก็ถูกดูแลอย่างดี ภาพถ่ายเก่า ๆ ตามผนัง ห้องหนังสือที่เต็มไปด้วยชั้นวางหนังสือไม้ และ... รูปถ่ายครอบครัวใบนั้น
“นั่นแม่...” ขวัญข้าวพึมพำ เธอจำได้ทันที หญิงสาวในภาพคือแม่ของเธอในวัยสาว
ข้าง ๆ กันคือชายหนุ่มอีกคน... หน้าตาคุ้น ๆ อย่างประหลาด
“แล้ว... นี่ใครคะ?”
“นั่นคือฉันเอง” เขาตอบเสียงเรียบ
ขวัญข้าวเบิกตากว้าง รู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ
“คุณ... ดูไม่เปลี่ยนเลย”
“มันเป็นเรื่องของพันธุกรรม” เขาตอบแผ่วเบา แต่แววตาเจือไปด้วยความเศร้า
“แม่ของเธอไม่ได้เล่าอะไรไว้เลยเหรอ ว่าฉันเป็นใคร?”
ขวัญข้าวส่ายหน้า “ท่านบอกแค่ให้มาหาคุณ... แล้วฉันจะเข้าใจทุกอย่าง”
ชายหนุ่มชื่อธีร์ถอนหายใจ เขาเดินไปหยิบกล่องไม้ใบหนึ่งจากบนชั้น แล้วเปิดออกช้า ๆ
ในนั้นเต็มไปด้วยจดหมายเก่า รูปถ่าย และซองจดหมายสีน้ำตาลที่มีชื่อของเธอเขียนอยู่ด้วยลายมือที่เธอคุ้นเคย — ลายมือของแม่
“แม่เธอทิ้งสิ่งนี้ไว้ให้... บอกว่ามอบให้เธอในวันที่เธอมาถึง”
ขวัญข้าวรับมันมาด้วยมือสั่นเทา ก่อนค่อย ๆ แกะซอง
เนื้อหาในจดหมายทำให้หัวใจเธอหล่นวูบ
“ถึงขวัญข้าว...
แม่ขอโทษที่ไม่เคยบอกความจริงกับลูก
ลูก...ไม่ใช่แค่ลูกของแม่
ลูกเป็นลูกของแม่...กับธีร์”
เธอเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ดวงตาเริ่มคลอด้วยน้ำตา
“คุณคือ...พ่อของฉัน?”
ธีร์ไม่ตอบ เขาเพียงมองเธอด้วยสายตาที่เจ็บลึก “แม่เธอเลือกที่จะหนีจากฉัน... แต่สุดท้ายก็พาลูกกลับมาหา”
ขวัญข้าวไม่รู้ว่าควรจะโกรธ เสียใจ หรือดีใจ สิ่งที่รู้คือทุกอย่างในชีวิตกำลังเปลี่ยนไป
แต่เธอยังไม่รู้เลยว่า... นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความลับที่ใหญ่กว่านั้น
หลังจากรู้ความจริงที่สะเทือนทั้งหัวใจ ขวัญข้าวนั่งนิ่งอยู่ในห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่ ความเงียบระหว่างเธอกับธีร์กดดันจนแทบหายใจไม่ออก
“แล้วทำไม...แม่ถึงไม่เคยบอกฉันเลย”
เสียงของเธอสั่นน้อย ๆ
ธีร์หลบสายตาไปมองนอกหน้าต่าง สายฝนยังคงตกไม่หยุด
“เพราะแม่ของเธอกลัว”
“กลัวอะไร?”
“กลัวว่าถ้าเธอกลับมา เธอจะได้รู้ว่าเธอไม่ใช่เด็กธรรมดาเหมือนใครเขา”
คำพูดนั้นทำให้ขวัญข้าวขมวดคิ้ว
“หมายความว่ายังไง...?”
“ขวัญข้าว เธอไม่รู้จักฉันเลย ไม่รู้ว่า ‘ธีร์ ศิลาเวทย์’ เป็นใครในโลกนี้ใช่ไหม?”
หญิงสาวส่ายหน้า
ชายหนุ่มยกยิ้มบางอย่างเยือกเย็น ราวกับเธอถามคำถามโง่ ๆ
“ฉัน...คือคนที่เคยถูกตั้งค่าหัวสูงที่สุดในประเทศนี้เมื่อสิบแปดปีก่อน
ฉันเคยฆ่าเพื่อนสนิทตัวเอง
ฉันเคยถูกหักหลังโดยคนที่ฉันรัก
และ...แม่ของเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น”
ขวัญข้าวหน้าชาวาบ หัวใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังนั่งอยู่ในโลกที่ไม่เคยรู้จัก
“ไม่...แม่ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น”
“เธอรู้จักแม่เธอ...ในฐานะคนธรรมดา แต่ฉันรู้จักเธอในฐานะผู้หญิงที่เกือบฆ่าฉัน”
บรรยากาศในห้องเย็นยะเยือกลงทันที ขวัญข้าวลุกพรวดขึ้น น้ำเสียงเริ่มสั่นด้วยความโกรธ
“คุณกำลังกล่าวหาแม่ฉันด้วยเรื่องที่ฉันไม่มีทางเชื่อได้!
ถ้าจะเชิญฉันมาที่นี่เพื่อเล่นละคร ก็ขอโทษ ฉันจะไป—”
แต่ก่อนที่เธอจะได้ก้าวออกจากห้อง ธีร์ขวางไว้
“เธอไม่สามารถไปไหนได้ตอนนี้
เพราะฉันยังไม่ได้บอกเธอ...ว่าชีวิตของเธอ กำลังตกอยู่ในอันตราย”
ดวงตาขวัญข้าวเบิกกว้าง
“อะไรนะ...?”
ธีร์เดินเข้ามาใกล้ ริมฝีปากกระซิบแผ่วเบา
“มีคนตามหาตัวเธอ...ตั้งแต่วันแรกที่แม่เธอตาย
เพราะเลือดในตัวเธอ...คือกุญแจที่พวกมันตามหามานานกว่ายี่สิบปี”
ขวัญข้าวยืนชะงักเหมือนถูกตรึงไว้กับพื้น หัวใจเธอเต้นรัวจนแทบหลุดจากอก เมื่อได้ยินคำว่า “เลือดของเธอคือกุญแจ” จากชายตรงหน้า
“ฉัน...ไม่เข้าใจ” เธอเอ่ยเสียงเบา ดวงตาสั่นไหว
“คุณกำลังพูดเรื่องอะไร? ทำไมต้องตามล่าฉัน? ฉันก็แค่คนธรรมดา—”
“แต่เธอไม่ใช่” ธีร์พูดแทรกทันควัน “เธอไม่รู้หรอกว่าตัวเองมีสายเลือดอะไรอยู่ในร่าง”
เขาหันหลังให้เธอ แล้วเดินไปเปิดลิ้นชักในตู้ไม้ หยิบแฟ้มเอกสารเก่า ๆ ขึ้นมาโยนลงบนโต๊ะ เสียงแฟ้มกระแทกโต๊ะดัง “ปึก!” ทำเอาขวัญข้าวสะดุ้ง
“เปิดดูสิ แล้วจะเข้าใจ”
เธอค่อย ๆ เดินเข้าไป เปิดแฟ้มออกทีละแผ่น — เอกสารทางการแพทย์ รูปภาพขาวดำของเด็กทารกในห้องทดลอง รายชื่อรหัสลับ และหนึ่งในนั้น...มีภาพเธอตอนเด็กในชุดคนไข้
“...นี่มัน...”
“เธอเกิดในโครงการลับของรัฐบาลชุดเก่า โครงการทดลองมนุษย์พันธุกรรมพิเศษ
พวกเขาใช้เลือดของฉัน — ซึ่งมีคุณสมบัติต้านยาบางชนิดได้ — ผสมกับพันธุกรรมของแม่เธอ
และเธอ...คือลูกคนเดียวที่รอด”
ขวัญข้าวรู้สึกเหมือนโลกหมุน เธอถอยหลังไปนั่งลงบนโซฟา ดวงตาเบิกกว้าง
“ฉันไม่ใช่...ลูกที่เกิดจากความรักงั้นเหรอ”
“แม่เธอรักเธอ...แต่สิ่งที่เกิดขึ้น มันเกินกว่าเธอจะเข้าใจในตอนนั้น” ธีร์พูดเสียงเบา
“แม่เธอพาเธอหนี เพราะพวกเขาต้องการเอาเลือดของเธอไปผลิตยาชีวภาพเพื่อใช้ในสงครามใต้ดิน”
หญิงสาวเงียบงัน พูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว
ธีร์ค่อย ๆ นั่งลงข้างเธอ วางมือแผ่วเบาลงบนไหล่
“และตอนนี้...พวกมันรู้แล้วว่าแม่เธอตาย
พวกมันกำลังไล่ล่าเธอ เพื่อจบสิ่งที่เริ่มไว้เมื่อยี่สิบปีก่อน”
เสียงสายฟ้าฟาดเปรี้ยงนอกหน้าต่าง ขวัญข้าวสะดุ้งอีกครั้ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้น
“แล้ว...เราจะทำยังไง?”
“หนีไม่ได้แล้ว” เขาตอบชัดเจน “มีแต่ต้องสู้”
ในค่ำคืนที่ฝนยังไม่หยุดตก ขวัญข้าวนั่งเงียบอยู่ในห้องใต้ดินของบ้านหลังเก่า ห้องนี้ถูกซ่อนอยู่หลังตู้หนังสือหนัก ๆ ที่ธีร์เปิดด้วยกลไกลับ เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าชีวิตธรรมดาของตัวเอง จะพังทลายภายในเวลาแค่ไม่กี่วัน
บนโต๊ะไม้หน้าห้อง คือแผนที่ เมมโมรี่การ์ด เอกสารลับ และอาวุธเล็ก ๆ บางชิ้น
“ถ้าไม่ใช่ฝันไป...” ขวัญข้าวพูดแผ่ว ๆ “…ฉันกำลังจะกลายเป็นเป้าของใครบางคน ทั้งที่แค่เคยใช้ชีวิตธรรมดา ๆ อยู่กับแม่”
ธีร์ยืนอยู่มุมห้อง เขาจุดบุหรี่ สูดลึก แล้วเป่าควันออกอย่างช้า ๆ ดวงตาเขาจับจ้องที่แผนที่โดยไม่หันมามองเธอเลย
“คนที่เกิดจากเลือดของคนอย่างฉัน...ไม่มีวันมีชีวิตธรรมดา”
คำพูดของเขากรีดลึกเข้าไปในใจ แต่ก็ไม่สามารถลบคำถามที่คาใจได้
“ถ้าคุณคือพ่อของฉันจริง ๆ…แล้วคุณอยู่ที่ไหนตลอด 18 ปีที่ผ่านมา?”
ครั้งนี้ธีร์เงียบไปนาน ก่อนจะตอบเบา ๆ
“ฉันไม่เคยหยุดตามหาเธอเลย
แต่แม่ของเธอซ่อนเธอไว้เก่งมาก...จนฉันเองยังไม่รู้ว่าเธออยู่ใกล้แค่เอื้อม”
เขาหันมาสบตาเธอในที่สุด “แต่วันนี้ ฉันจะไม่ยอมเสียเธอไปอีก”
ขวัญข้าวสบตาเขา แววตาเธอเริ่มมีประกายของคนที่เริ่ม “เชื่อ”
เสียงโทรศัพท์ดาวเทียมที่อยู่บนโต๊ะดังขึ้น ธีร์รีบหยิบมันขึ้นมาดู — หน้าจอแสดงข้อความสั้น ๆ เพียงบรรทัดเดียว:
“พวกมันรู้ที่อยู่เธอแล้ว เตรียมย้ายด่วน – L.”
ธีร์สบถในลำคอทันที ก่อนคว้ากระเป๋าอุปกรณ์แล้วหันมาหาขวัญข้าว
“เราไม่มีเวลาแล้ว
เราต้องไปที่ ‘ค่ายกลาง’ — ที่นั่นมีคนที่ไว้ใจได้ และจะช่วยเปิดเผยว่าเธอคือใครจริง ๆ”
“แล้ว...ถ้าฉันไม่ใช่ลูกของคุณล่ะ?” ขวัญข้าวถามขึ้นเบา ๆ ขณะลุกตามเขา
“ไม่ว่าเธอจะเป็นลูกฉันหรือไม่...ฉันก็จะไม่ยอมให้ใครทำร้ายเธออีกต่อไป”
ค่ำคืนนั้น พวกเขาหลบหนีออกจากบ้านหลังเก่า ผ่านตรอกมืดและเส้นทางลับ
ไม่รู้เลยว่า…ที่เฝ้ารอพวกเขาอยู่ข้างหน้านั้น ไม่ใช่แค่ภัยจากองค์กรลับ แต่คือเงาในอดีต
ของแม่เธอ
ของเขา
และของ “ใครบางคน” ที่ขวัญข้าวไม่เคยรู้ว่าอยู่ในสายเลือดเดียวกัน
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!