เสียงปืนดังสนั่นกลางโกดังร้าง
กลิ่นควันปืนยังลอยฟุ้งเมื่อร่างสูงในชุดสูทสีดำก้าวเข้าไปอย่างไม่สะทกสะท้าน
“จัดการให้เกลี้ยง อย่าให้เหลือแม้แต่พยาน”
น้ำเสียงของเขานิ่งสนิท เย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง
ชื่อของเขาคือ อคิน ทายาทแก๊งมาเฟีย “คิรินทรา” ที่ไม่มีใครกล้าแม้แต่สบตา
มือขวาถามเสียงเบา
“เหลืออีกคนครับ...น่าจะเป็นเด็กมหา’ลัย มาผิดที่ผิดทาง”
“ฆ่า”
คำพูดเพียงคำเดียว คือคำพิพากษา
แต่เมื่อประตูเหล็กถูกเปิดออก สิ่งที่เขาเห็นคือ...
เด็กหนุ่มผิวขาว ตัวสั่น ดวงตากลมโตที่จ้องเขาด้วยความหวาดกลัว
...แต่ในแววตานั้นไม่มีการขอชีวิต มีเพียง...ความสงบและยอมรับ
อคินชะงัก
นี่มันไม่ใช่สายตาของพยานที่หวาดกลัวจนจะพูดอะไรไม่ออก
มันคือสายตาของคนที่ ยอมตายได้...แต่จะไม่ขอร้องแม้แต่นิดเดียว
“ชื่ออะไร” เขาถามทั้งที่ไม่เคยถามเหยื่อแบบนี้มาก่อน
เด็กหนุ่มเงียบไปครู่ ก่อนจะตอบเสียงเบา
“คีตะ”
“คีตะ...หึ” อคินหัวเราะในลำคอเล็กน้อย ก่อนจะหันไปบอกลูกน้อง
“เปลี่ยนคำสั่ง พาตัวเขากลับคฤหาสน์”
“แต่คุณอคิน—”
“เขาไม่ใช่พยาน...เขาเป็นของฉัน”
ตอนที่2 ในกรงทอง และ รอยยิ้มของศัตรู
คีตะไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น
เขาควรถูกฆ่าทิ้งกลางโกดัง แต่กลับมานั่งอยู่บนโซฟาหนานุ่มในคฤหาสน์หรูเหมือนหลุดมาจากภาพยนตร์
“ที่นี่คือ...?”
“เขตบ้านกลางของตระกูลคิรินทรา” เสียงของชายชุดดำที่ยืนคุมอยู่ข้างประตูตอบเรียบๆ
“แล้วฉัน...ทำไมยังไม่ตาย?”
ยังไม่มีใครตอบคำถามนั้น
นอกจากร่างสูงในชุดสูทดำที่เดินเข้ามา พร้อมดวงตาคมกริบที่มองเขาเหมือนนักล่าจับเหยื่อ
“เพราะฉันเปลี่ยนใจ”
อคินตอบสั้นๆ ก่อนนั่งลงตรงข้ามเขา
“และฉันไม่ค่อยชอบให้ใครถามมาก”
“ถ้าไม่ฆ่าฉัน...แล้วจะให้ฉันเป็นอะไร? นักโทษ? สัตว์เลี้ยง? หรือ...”
“ของของฉัน” อคินพูดขัดทันที ดวงตานิ่งแต่เสียงจริงจัง
คีตะอึ้ง
ไม่รู้ทำไม แต่คำว่า ของของฉัน จากปากผู้ชายตรงหน้าทำให้เขาใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
ในขณะเดียวกัน…
“จะเก็บเด็กคนนั้นไว้จริงเหรอ?”
เสียงแหลมแต่ทรงพลังของชายหนุ่มอีกคนดังขึ้นในห้องประชุมลับของตระกูล
“ใช่”
อคินตอบโดยไม่แม้แต่จะหันไปมองเจ้าของเสียง
ชายหนุ่มคนนั้นแสยะยิ้ม มุมปากยกขึ้นด้วยความเย้ยหยัน
“งั้นก็ระวังไว้หน่อยนะพี่...สิ่งที่พี่รัก มันมักจะกลายเป็นจุดตายเสมอ”
ชื่อของเขาคือ “เวทิน” — ลูกพี่ลูกน้องของอคิน
ผู้ที่ควรจะได้เป็นทายาทแทน แต่กลับต้องอยู่ใต้เงาของ “อคินผู้ไร้หัวใจ” มาตลอด
เขาเกลียดทุกอย่างที่อคินมี
รวมถึงเด็กหนุ่มที่เพิ่งเข้ามาในบ้านหลังนี้ด้วย
คืนนั้น คีตะออกมายืนริมระเบียงลมหนาวพัดผ่านเบาๆ
เขาเริ่มรู้สึกถึงบางอย่างที่เปลี่ยนไปในบ้านนี้…
ไม่ใช่แค่ความรู้สึกของอคิน แต่คือสายตาของใครบางคน...ที่แฝงไว้ด้วยอันตราย
ในโลกของมาเฟีย… การมีหัวใจคือความอ่อนแอ
และเขากำลังจะกลายเป็น "จุดอ่อน" ที่ร้ายแรงที่สุดของคนที่เขาไม่ควรรัก
คีตะเริ่มคุ้นชินกับชีวิตในคฤหาสน์หลังใหญ่
แม้มันจะไม่ใช่ชีวิตอิสระ แต่ก็ไม่ใช่นรก
...อย่างน้อยก็จนกว่าจะเจอ “เวทิน” ยืนรอเขาอยู่หน้าห้อง
“มีคนของพี่อคินมาเก็บของให้” เวทินยิ้ม
แต่ในดวงตาไม่มีรอยยิ้มสักนิดเดียว
“คุณเป็นใคร?” คีตะถามทันที
“เป็นคนที่เห็นทุกอย่างในบ้านหลังนี้...โดยเฉพาะเรื่องที่ พี่ชายแสนเย็นชา เริ่มใจอ่อนให้กับคนที่ไม่ควรอยู่ตรงนี้”
คีตะชะงัก ไม่เข้าใจความหมายในคำพูดนั้น
เวทินขยับเข้าใกล้ ริมฝีปากแทบแตะหู
“ระวังตัวไว้ เด็กน้อย…ในบ้านหลังนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่อยากให้เธออยู่”
เย็นวันเดียวกัน
เสียงปืนดังจากสนามฝึกหลังบ้าน
อคินกำลังลั่นกระสุนใส่เป้าอย่างแม่นยำ จนลูกน้องไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
“บอส...เรื่องเมื่อบ่าย...”
“ไม่ต้องพูด” อคินวางปืน ก่อนเดินดุ่มๆ กลับเข้าตัวบ้าน
เขาได้ข่าวว่าเวทินไปยุ่งกับคีตะ
ถึงจะไม่มีหลักฐานว่าอีกฝ่ายคิดร้าย แต่นั่นก็เพียงพอให้เขาเริ่ม ไม่พอใจ
ในห้องนั่งเล่น คีตะนั่งอยู่เงียบๆ
พอเห็นอคินเดินเข้ามา สีหน้าก็เปลี่ยนเล็กน้อย
“เป็นอะไร” อคินถาม ทั้งที่ปกติไม่ถามเรื่องไร้สาระ
“วันนี้เจอคนแปลกๆ มาขู่ครับ”
คีตะตอบเสียงเรียบ แต่ในแววตาอคิน...เริ่มมีความเย็นยะเยือก
“ใคร”
“คนชื่อเวทิน”
เพียงเท่านั้น อคินก็กำมือแน่น
เขารู้...ว่าสิ่งที่เวทินกำลังทำ คือ “เกมสกปรก” ที่เริ่มขึ้นแล้ว
เขาเดินเข้าไปใกล้คีตะ ค่อยๆ ย่อตัวลงจนใบหน้าอยู่ระดับเดียวกัน
“ฟังนะ คีตะ...”
เสียงของเขานุ่มลงอย่างน่าประหลาด “ตั้งแต่วันนี้ ใครก็ห้ามเข้าใกล้เธอโดยไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน”
คีตะเลิกคิ้ว “แล้วถ้ามีคนฝ่าฝืนล่ะครับ?”
“ก็จะไม่มีโอกาสฝ่าฝืนอีกในชีวิตนี้”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ในใจกลับรู้ดี…
เขาไม่ได้แค่หวง
เขากำลัง “กลัวจะเสีย” เด็กคนนี้ไป
ตอนที่ 4 เธอคือจุดอ่อน...ที่ฉันห้ามไม่ได้
ฝนตกกระหน่ำกลางค่ำคืนเหนือคฤหาสน์มาเฟีย
ฟ้าร้องครืนๆ จนคีตะต้องรีบปิดหน้าต่างห้องนอน
มือเล็กสั่นน้อยๆ เพราะเขาไม่ชอบเสียงฟ้าผ่าเอาเสียเลย
แต่สิ่งที่ทำให้ใจสั่นมากกว่าฟ้าก็คือ...
เสียงกุกกักนอกหน้าต่าง เหมือนคนพยายามงัดบานหน้าต่างเข้ามา!
คีตะถอยหลัง มือควานหาโทรศัพท์
แต่ไม่ทันได้กด — เสียงปัง!! ดังสนั่น
ประตูห้องเปิดกระแทกอย่างแรง
ร่างสูงในชุดดำพุ่งเข้ามาก่อนจะดึงเขาเข้ามากอดแน่น
“อคิน?!”
อคินไม่พูดอะไร
เขาเพิ่งยิงลูกน้องของเวทินที่ลอบเข้ามาในคฤหาสน์ไม่กี่นาทีที่แล้ว
...และหัวใจเขาแทบหยุดเต้นตอนรู้ว่า “คีตะ” เป็นเป้าหมาย
“พี่มาได้ยังไง...” คีตะพึมพำในอ้อมกอดแน่น
อคินก้มลงกระซิบเสียงต่ำ
“เพราะถ้าพี่มาช้ากว่านี้...เธอคงไม่ปลอดภัย”
เขาผละออกเล็กน้อย มือใหญ่แตะแก้มคีตะเบาๆ
แล้วพูดชัดเจน…
“ต่อให้ทั้งโลกนี้จะบอกว่าพี่ไม่มีหัวใจ
แต่กับเธอ...พี่ยอมให้มันเต้นอีกครั้งก็ได้”
คีตะนิ่งงัน
ไม่รู้ว่าควรตกใจ...หรือควรดีใจที่คำสารภาพนั้นมาจาก “มาเฟียเลือดเย็นที่สุดในเมืองนี้”
หลังจากเหตุการณ์คืนนั้น
คีตะถูกพาไปพักห้องส่วนตัวในปีกในของคฤหาสน์ — เขตหวงห้าม
ที่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เคยเข้าไป
คืนนั้น เขาไข้ขึ้นเพราะตกใจและฝนเปียก
แต่สิ่งที่ทำให้หัวใจร้อนระอุมากกว่าน้ำในหม้อก็คือ…
อคินกำลังเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวให้เขา
ป้อนยาให้อย่างเบามือ
และมองเขาด้วยสายตาที่ไม่ใช่ “มาเฟีย”
...แต่เป็น “คนรัก”
“ถ้าพี่อยู่ข้างๆ ตลอดไปได้ก็คงดี...”
คีตะพึมพำเบาๆ ก่อนหลับตา
เขาไม่เห็นว่าอคินยิ้มออกมาเล็กน้อยเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
และพูดเบาๆ
“พี่จะอยู่...
จนกว่าเธอจะเป็นคนเดินหนีไปเอง”
เช้าวันถัดมา
ทั่วคฤหาสน์เงียบกริบราวกับรู้ว่า…วันนี้จะเกิดเรื่องใหญ่
“คุณอคินเรียกประชุมด่วน?”
“ทำไมเรียกทุกแก๊งเข้ามา?”
เสียงซุบซิบดังทั่วห้องโถงของแก๊งคิรินทรา
แต่เมื่อร่างสูงของชายเจ้าของอำนาจเดินเข้ามา เสียงทั้งหมดก็เงียบลงทันที
และที่ทำให้ทุกคนเบิกตากว้างคือ...
เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เดินตามอคินเข้ามาด้วย...ในชุดเรียบร้อยและยืนข้างเขาอย่างสงบ
คีตะ
“เขามาทำอะไรที่นี่”
“นั่นมันเด็กคนนั้น...พยานในโกดังไม่ใช่เหรอ?”
เวทินนั่งอยู่ปลายโต๊ะ ยิ้มมุมปากเหมือนรอความวุ่นวายจะเริ่ม
แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิด...
คือประโยคที่ออกจากปากอคินต่อหน้าทุกคน
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
คีตะคือ ‘คนของฉัน’
ใครแตะ...ฉันฆ่า ใครคิดร้าย...ฉันล้างตระกูล”
เสียงเงียบกริบ
แม้แต่เวทินก็สะอึกเล็กน้อย แม้จะยังยิ้มอยู่ก็ตาม
อคินเดินไปยืนข้างคีตะ วางมือบนไหล่เขา
“นี่ไม่ใช่คำเตือน…แต่มันคือกฎใหม่ของบ้านนี้”
คีตะเงยหน้ามองอคิน ดวงตาเต็มไปด้วยความตกใจ
ไม่คิดว่าเขาจะกล้าพูดออกไปขนาดนั้น
...แต่ในใจกลับอบอุ่นขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
ด้านหลังห้องประชุม
เวทินเดินออกจากห้องอย่างเงียบเชียบ
แต่ภายในเดือดพล่าน
“จะเลือกเปิดตัวกันแบบนี้เหรอ...อคิน?”
เสียงเขาพึมพำก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดส่งคำสั่งบางอย่าง
“ถ้ามึงรัก...งั้นกูจะทำให้มึงต้องเลือกระหว่างอำนาจกับหัวใจเอง”
คืนนั้นในห้องของอคิน
“วันนี้...คุณทำแบบนั้นทำไมครับ” คีตะถามเบาๆ ขณะนั่งพิงหัวเตียง
อคินถอดสูท เหลือแค่เชิ้ตดำพับแขนขึ้นอย่างหล่อร้าย
เขาหันมาหาคีตะ ก่อนจะค่อยๆ เดินมานั่งข้างๆ
“เพราะไม่อยากให้ใครคิดว่าพี่แค่เก็บเธอไว้เล่นๆ”
“แล้วพี่เก็บผมไว้ทำไม...ถ้าไม่ใช่แค่นั้น?”
อคินยิ้มมุมปาก ดวงตาคมดุสบตาน้องเต็มๆ
“พี่เก็บเธอไว้...เพราะพี่อยากรักษา
รักษาคนคนหนึ่ง…ที่ทำให้พี่อยากมีหัวใจอีกครั้ง”
คีตะหน้าแดงระเรื่อ ก่อนจะพูดเบาๆ
“งั้น...อย่าปล่อยผมนะครับ
ต่อให้โลกข้างนอกมันจะอันตรายแค่ไหน”
“พี่ไม่ปล่อยแน่นอน…”
เสียงกระซิบชิดข้างหู
“…แต่อย่าหนีพี่ก็พอ”
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!