ณ ห้องทำงานผู้บริหาร บริษัท Chana มีบุคคลหนึ่งนั่งทำงานจนลืมเวลา
เวลา 16.30 น.
ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้นทำให้ศิลาได้มีโอกาสเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารบ้างแม้จะเป็นเพียงเวลาสั้นๆ ก็ตาม
"มีอะไร" ใบหน้าคมก้มหน้าอ่านเอกสารในมือต่อ
คิมหันต์บอดี้การ์ดมือซ้ายของศิลาที่เปิดเข้ามา
"คุณผู้หญิงโทรมาจากบ้านใหญ่ว่าวันนี้คุณชายรองแวะมาที่บ้านครับและบอกให้นายรีบกลับบ้านด้วย" คิมหันต์บอกกับคนเป็นนาย
ศิลานิ่งไปสักพักก่อนนึกในใจว่า...ร้อยวันพันปีไม่เคยมาทำไมอยู่ๆ ถึงมาได้ แต่ก็จมอยู่กับความคิดได้ไม่นานเสียงคิมหันต์ก็ดังขึ้น
"นายจะกลับเลยไหมครับ" คิมหันต์ถามผู้เป็นนายอีกครั้ง
"อืมเตรียมรถเลยฉันจะกลับแล้ว" หลังจากสั่งมือซ้ายของตนเองไปก็เก็บของทั้งหมดและเดินออกจากห้องไปเพื่อกลับไปบ้านใหญ่ตามคำสั่งคนสำคัญของบ้าน
.
.
.
เวลา 17.00 น.
ณ ร้าน "Smooth cup cafe"
เมื่อเข้าสู่ช่วงที่เด็กมหาลัยต่างเรียกมันว่า 'สัปดาห์นรก' หรือที่รู้จักกันดีในนาม 'สอบไฟนอล' คนก็มักจะแน่นร้านทุกครั้ง
และครั้งนี้ก็เช่นกันในวันนี้ที่ร้านจึงมีนักศึกษามานั่งจับกลุ่มติวหนังสือมากกว่าปกติและอีกหนึ่งสาเหตุอาจเป็นเพราะในย่านนี้มีคาเฟ่นี้ที่เดียวที่ใกล้มหาวิทยาลัยที่สุดและมีพื้นที่ในการใช้งานมากพอจึงทำให้เป็นที่นิยมของนักศึกษาไปโดยปริยาย
~ กรุ้งกริ๊งงง ~
เสียงเปิดประตูหน้าร้านดังขึ้น...ก่อนจะตามมาด้วยเสียงทักทายของบุคคลหน้าเคาน์เตอร์ที่ก้มหน้าก้มตาอยู่
"สวัสดีค่ะ คาเฟ่ Smooth cup cafe ยินดีต้อนรับค่ะ"
ผ่านไปสักพักก็ยังไร้เสียงตอบกลับมาจึงทำให้คนกล่าวทักทายเมื่อครู่เกิดความสงสัยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาเพื่อถามต่อ แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไรก็ต้องยกยิ้มขึ้นมาแทนเมื่อเห็นคนตรงหน้าและกลายเป็นตัวเองที่โดนแซวกลับมา
"น้องณิชาจะขยันไปไหนเนี่ยห้ะ จะให้เจ้ขึ้นเดือนเพิ่มให้หรอ" รมิดาพูดแซวณิชาขำๆ
"เจ้ดาอ่าาาา ~ เปล่าสักหน่อยนะ หนูแค่ดูแลตามหน้าที่แค่นั้นเอง" ก่อนจะยิ้มตอบเป็นการปิดท้ายรมิดายิ้มตอบ
พอได้เห็นรอยยิ้มบนหน้าสวยนี้ทีไรก็หวนทำให้นึกถึงเรื่องราวชีวิตของณิชาในใจไม่ได้...
ทำไมกันนะ...ทั้งๆที่เพื่อนน้องสาวตนเองคนนี้เป็นคนดีน่ารักทั้งอ่อนโยนไม่เคยคิดร้ายกับใคร แต่กลับมีชีวิตที่โชคร้ายนักหนา รมิดาได้ แต่ภาวนาว่าให้มีใครสักคนมาช่วยฉุดมือคู่นี้ไปจากชีวิตแบบนี้สักที ด้านณิชาที่เห็นคนตรงหน้านิ่งไปนานก็นึกเป็นห่วงว่าพี่สาวคนดีของเขาจะไม่สบายรึเปล่าจึงเอื้อมมือไปสะกิดและส่งเสียงเรียกเบา
"เจ้ดา...เจ้ดาค่ะ เป็นอะไรรึเปล่า" ตอนนั้นเองรมิดาถึงสะดุ้งหลุดออกจากห้วงความคิดของตนเอง
"เปล่าหรอกเจ้เผลอคิดอะไรเพลินไปหน่อย...แล้วนี่แก้งค์เราไปไหนหมดล่ะ ปกติเห็นมานั่งที่ร้านตอนเย็นทุกวันเลยไม่ใช่หรอ" รมิดาเอ่ยถามอีกคนออกไป
"จริงใจมีงานด่วนค่ะมาไม่ได้พลอยเองก็ไปซื้อของเข้าร้านส่วนแบมแบมรายนั้นน่ะ...พึ่งโทรมาบอกเมื่อกี้นี้เองว่าคุณมาร์คจะพาไปพบพ่อแม่ของคุณมาร์คที่บ้านใหญ่ค่ะ" พอพูดถึงตรงนี้แล้วณิชาก็อดดีใจกับแบมแบมไม่ได้ที่มีคุณมาร์คอยู่ข้างๆคอยดูแล
เธอเองก็ได้แต่นึกคิดในใจว่าเมื่อไหร่กันนะ...เธอถึงจะมีคนๆ นั้นบ้างคนที่คอยปลอบเวลาเธอร้องไห้คอยกอดเวลาเธอดีใจคอยดูแลเธอเวลาไม่สบาย คอยอยู่ข้างๆกันไปตลอดชีวิต
เห้อคิดอะไรเพ้อเจ้ออีกแล้วนะณิชากร่นด่าตัวเองในใจก่อนจะสะบัดหัวไปมาทิ้งเรื่องฟุ้งซ่านแล้วหันไปทำงานต่อ
.
.
.
เสียงดังเอะอะโวยวายดังขึ้นจากบ้านหลังหนึ่งในชุมชนที่แสนแออัดนั้นสร้างความแตกตื่นให้กับบ้านระแวกใกล้เคียง แต่พอรู้ว่าเสียงดังโวยวายมาจากที่ไหนทุกคนแถวนั้นก็ต่างเลิกสนใจทันทีเพราะรู้ดีว่าเพราะอะไร...
ทุกคนแถวนั้นต่างเอือมระอากับพฤติกรรมแย่ๆ ของผัวเมียบ้านนี้เต็มทนแล้วทั้งติดเหล้าติดการพนันไม่ทำการทำงานข่มขู่เอาเงินจากลูกทุกวัน
ถ้าวันไหนมีให้ก็ดีหน่อยไม่มีเสียงดังมากระทบหู แต่ถ้าวันไหนไม่ได้เหยื่อวันนั้นก็ไม่พ้นณิชาหญิงสาวที่โดนทุบตีระบายความโกรธแทน...บ้านใกล้เรือนเคียงก็ทำได้แค่หายามาให้ณิชารักษาตัวเองไม่อาจทำอะไรได้มากกว่านั้นเพราะเป็นเรื่องในครอบครัว...
ถึงทุกคนจะเกลียดสองผัวเมียคู่นั้นมากแค่ไหน แต่กับณิชานับว่าทุกคนแถวนี้ต่างทั้งรักและเอ็นดูณิชากันไปหมดเพราะเขาเป็นคนดีน่ารักมีน้ำใจกับทุกคนอยู่เสมอ
พวกเขาจึงได้แต่ภาวนาให้เด็กคนนี้หลุดพ้นขุมนรกนี้เร็วๆ สักที...ถึงวันนั้นพวกเขาเองก็คงไม่ต้องทนกับสองผัวเมียคู่นี้อีกต่อไป...
.
.
.
เวลา 11.00 น.
ห้องประชุม บริษัท Chana
ปึง!!!
เสียงแฟ้มกระทบโต๊ะประชุมดังออกมาข้างนอกข้างนอกยังเสียงดังขนาดนี้แล้วข้างในจะขนาดไหนนะ
"ผมจะถามอีกครั้ง...เกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ยังไง" ศิลาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นๆ ที่ไม่ว่าใครได้ยินก็ต่างเสียวสันหลังวูบวาบไหนจะสายตาที่มองอย่างบีบคั้นและเฉือดเฉือนนั้นอีก...
ทุกคนที่นี้ได้แต่คิดว่าจะทำให้ท่านประธานเย็นลงอย่างไรดี...ก่อนจะหัวขาดกันหมดทั้งห้องประชุม !!
ผ่านไป 5 นาที
ทั้งห้องประชุมยังเงียบไม่มีใครเอ่ยปริปากพูดอะไรทั้งสิ้น...และก่อนจะแย่ไปกว่านั้น
"ขอโทษค่ะ ดิฉันสะเพร่าเองจนทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้" หนึ่งในทีมงานเอ่ยขึ้น
ศิลากระตุกยิ้มมุมปาก...
"หึ...ให้ลูกทีมออกปากแทนแบบนี้ไม่สมกับที่เป็นหัวหน้าทีมเลยนะครับ...คุณชัชชน" คนถูกเอ่ยชื่อเงยหน้ามองด้วยสายตาไม่พอใจเล็กน้อยก่อนกลบเกลื่อนมันไประงับความโกรธไว้ในใจ
"ขอโทษครับ ท่านประธานขอโอกาสให้ผมแก้ตัวอีกครั้งนะครับยังไงซะนี่ก็เป็นความผิดพลาดครั้งแรกของผม ผมสัญญาจะแก้ตัวใหม่ครับ" คนถูกเอ่ยชื่อบอกกับศิลา
"แล้วผมจะคอยดู" เอ่ยจบก็เดินออกจากห้องประชุมไป
หลังออกจากห้องประชุมหวังศิลาก็ถามคิมหันต์ว่าวันนี้มีลูกค้าต้องออกไปพบไหมคิมหันต์จึงตอบไปว่ามีก่อนจะแจ้งรายละเอียดให้ผู้เป็นนายทราบ
"นัดคุยโครงการใหม่กับคุณซ่งจี้หยางตอนบ่ายโมงที่คาเฟ่ Smooth cup cafe ครับ" มือซ้ายพูดเสร็จศิลาก็ขมวดคิ้วสงสัย
"คาเฟ่ Smooth cup cafe อยู่ที่ไหนไกลรึเปล่า" ถามมือซ้ายอย่างคิมหันต์
"ไม่ไกลครับ อยู่แถวมหาวิทยาลัยของคุณชายเล็กใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 30 นาทีครับ" เมื่อได้คำตอบแล้วศิลาก็พยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าห้องไปเคลียร์เอกสารต่อก่อนออกไป พบลูกค้าตามนัด
.
.
.
เวลา 13.00 น.
กรุ้งกริ้ง ~ เสียงกระดิ่งหน้าร้านทำให้ณิชารู้ว่ามีลูกค้ามาใหม่ก่อนจะทักทายตามปกติ
"สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับค่ะ ไม่ทราบว่าลูกค้ากี่ท่านค่ะ"
" 2 ท่าน และขอมุมส่วนตัวด้วยครับ"
"ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันพาไป แล้วเครื่องดื่มจะสั่งเลยไหมค่ะ"
"ยังครับ แต่รบกวนคุณเป็นคนดูแลกรณีพิเศษด้วยนะครับ ผมไม่ต้องการให้คนนอกเข้าไปรับออเดอร์ แค่คุณคนเดียวพอ"
"อ่อ...ได้ค่ะ โอเคค่ะ เดี๋ยวฉันพาไปที่โต๊ะนะค่ะ"
ถึงณิชาเองจะนึกสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป เพราะรู้ว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของลูกค้าเขามีหน้าที่แค่ดูแลลูกค้าให้พอใจก็พอแล้วล่ะ
เมื่อณิชาพาลูกค้าคนนี้มาถึงมุมที่เขาอยากได้ณิชาก็เดินออกมาเพื่อทำงานต่อ แต่ระหว่างนั้นเองก็มีผู้ชายใส่ชุดดำ 2 คนเดินสวนเขาผ่านไปข้างไหนนั้น...
คิมหันต์เดินตามนายเข้ามายังมุมที่เตรียมไว้ให้ก่อนจะแจ้งว่าลูกค้าจะมาช้าประมาณ 10 นาที ศิลาพยักหน้ารับรู้ก่อนจะให้กันต์เรียกพนักงานมาสั่งเครื่องดื่มฆ่าเวลา
ณิชาเมื่อเห็นกันต์เรียกจึงเดินมาเพื่อรับออเดอร์
"สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าจะรับเป็นอะไรดีค่ะ" คนรับออเดอร์เอ่ยถามลูกค้า
"Black Coffee" ศิลาพูดขึ้นทั้งๆที่ยังก้มหน้าอ่านเอกสารในมือ
ร่างบางจดเสร็จก็ถามต่อว่าจะรับขนมเค้กหรือคุ้กกี้ด้วยไหม
"รับคุกกี้..." ยังพูดไม่ทันเสร็จศิลาก็เงยหน้าขึ้นมาเพื่อจะตอกกลับไปว่าไม่...
แต่พอเงยหน้ามาเห็นหน้าคนหน้าตัวเองแล้วกลับกลายเป็นว่าพูดอะไรไม่ออก
ด้านคิมหันต์และกันต์เองก็แปลกใจเพราะไม่เคยเห็นผู้เป็นนายมีอาการแบบนี้ คิมหันต์จึงเป็นฝ่ายเอ่ยตัดบทออกไปว่า
"ไม่เป..." ในตอนนั้นเองศิลาก็ทำสิ่งที่ทำให้มือซ้ายและมือขวาทั้งสองของเขาอึ้งปนทึ่งในใจนั่นคือศิลายกมือขึ้นห้ามเขาพูด
"พูดต่อสิ เมื่อกี้ผมฟังไม่ทัน" เขาพูดกับคนรับออเดอร์ข้างหน้า
ณิชายิ้ม ศิลาใจกระตุกไปแวบนึงกับรอยยิ้มใสซื่อนั้น
"ดิฉันถามว่าคุณลูกค้าจะรับคุกกี้ทานคู่ด้วยไหมค่ะ วันนี้มีลองทำสูตรใหม่ไม่หวานมากเหมาะกับคนไม่ชอบทานของหวานทานคู่กับ Black Coffee แล้วลงตัวมากนะค่ะ" เสียงหวานอธิบาย...
ศิลาเสียอาการกับคนตรงหน้าไปเล็กน้อยก่อนจะสบัดหัวน้อยๆ เรียกสติ
"ลองดูก็ได้" เขาบอกกับคนหน้าหวาน
ณิชาจึงยิ้มกว้างกว่าเดิมจนเห็นฟันกระต่ายเพราะดีใจที่จะมีคนจะได้ชิมกุ๊กกี้ชิ้นแรกของเธอแล้ว
"โอเคค่ะ เดี๋ยวดิฉันรีบเอามาให้นะคะ" รับออเดอร์ดเสร็จก็รีบออกไปทันที
ศิลาพยักหน้ารับ...
คล้อยหลังผู้เป็นนายมือซ้ายและมือขวาอย่างคิมหันต์และกันต์ต่างมองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมายและถามคำถามเดียวกันในใจ
'นายพวกเขาเป็นอะไรไปน่ะ....เกิดอะไรขึ้นกับนายของเขากัน!'
หากถามว่าทำไมพวกเขาถึงตกใจนะหรอ...ก็เพราะนายของเขาจะไม่คุยกับคนแปลกหน้าเกิน 5 ประโยคเลยมั้งและนี่ก็เป็นครั้งแรกจะไม่ให้พวกเขาตกใจได้ยังไงกัน!!
.
.
.
ณ มุมส่วนตัวภายในร้านมีชาย 2 คนที่นั่งอยู่และห่างออกไปจากโต๊ะนั้นเป็นบอดี้การ์ดของทั้ง 2 คนสำคัญที่คอยดูแลความปลอดภัยให้ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นนายของพวกเขา
ใช่แล้ว...วันนี้ศิลามีนัดกับซ่งจี้หยางเพื่อตกลงทำธุรกิจร่วมกันซ่งจี้หยางเป็นนักธุรกิจใหญ่คนหนึ่งมีธุรกิจในต่างประเทศมากมายโดยเฉพาะในญี่ปุ่นนั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ศิลานัดเจรจาเพื่อที่จะร่วมทำธุรกิจเพราะถ้าหากซ่งจี้หยางตกลงร่วมมือก็เท่ากับว่าเป็นโอกาสทองของ บริษัท Chana ที่จะได้ไปขยายฐานเพิ่มในต่างประเทศ....
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!