ในสภาพอากาศที่ความหนาวเหน็บความหนาวนี้เเทงไปถึงกระดูก บนถนนเล็กๆ ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะปรากฏร่างของเด็กคนหนึ่งที่กำลังวิ่งอยู่ ผ่านตึกรามบ้านเรือน เด็กหนุ่มวิ่งไปในสภาพอากาศที่ติดลบที่ไม่มีผลอะไรกับโซคุเลย
โซคุวิ่งไปหยุดที่โรงเตี้ยมเเห่งหนึ่งซึ่งเป็นสถานที่ ที่รวบร่วมเหล่านักผจญภัยเอาไว้เต็มไปหมดเขายืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งเพื่อทำให้ตนเองหายเหนื่อยก่อน เมื่อสัมผัสได้ว่าร่างกายของตนเองค่อยๆ เปิดประตูเข้าไปพร้อมความตื่นเต้น ผู้คนมากมายนั่งดื่มฉลองวันคริสมาสต์
โซคุ ยืนนิ่งก่อนจะกวาดสายตาสักพักสายกระทบเข้ากับคนที่เขากำลังมองหา โซคุเดินเข้าไปข้างๆ พร้อมเก็บอาการความตื่นเต้น
ชายส่วมเกราะหนาตาสีเงิน ผมสีขาวค่อยๆ หันมาหาโซคุพร้อมวางเเก้วเบียร์ลง ชายหนุ่มมองหน้า โซคุ ในขณะเดียวกันที่ โซคุ ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตื่นเต้นกับข้อมูลที่ตนเองเจอมา
"คุณคราวด์ครับผมได้ข้อมูลที่อยู่ของดันเจี้ยน20ชั้นเเล้วครับ! "
"มันอยู่ในหมู่บ้านอัลพ์บัช ห่างกันเพียง 5เมตร ใกล้เเม่น้ำกีธูรน์ครับ"
"เยี่ยมมาก โซคุ นายเนี้ยเป็น กันเนอร์ที่ขยันขันเเข็งชะมัดเลยนะ เสื้อโค๊ทของนายเปื้อนหมด เเล้วนะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะนะตอนสิบเก้านาฬิกาเราจะประชุมกันนะโซคุ"
"ประชุมอะไรหรอครับ? "
"ประชุมการลุยดันเจี้ยน 20ชั้นไงเล่าเจ้าบื้อโซคุ"
"ส่วนคนในปารตี้นั่งอยู่ทางฝั่งนู้นหมดเลยนะนั่งที่บาร์นะ ฝากไปบอกด้วยละ โซคุ"
เด็กหนุ่มหันไปมองคนในปารตี้ทุกคนต่างนั่งเรียงกันที่บาร์พร้อมสั่งเครื่องดื่มเเละอาหารมากิน โซคุเดินเข้าไปก่อนที่จะนั่งลง ณ ที่ตรงนั้นข้างๆ เพื่อนสนิทของเขา
"ขอน้ำองุ่นเเก้วหนึ่งครับ"
โซคุหันมองเพื่อนสนิทของเขาเเละเก็บอาการตื่นเต้นของเขาไว้ เพื่อยของเขานั่งนิ่งใส่เกราะมิดชิดเเม้เเต่ส่วนหัว
"มาร์ทิ่นหาเจอเเล้วนะฉันหามันเจอเเล้วดันเจี้ยน 20ชั้นนะ-"
มารทิ่นลุกพรวดขึ้นมาทำให้ในปารตี้ที่นั่งอยู่เเละคนในเตี้ยมบ้างส่วนหันมามองเขา มาร์ทิ่นหันไปหาโซคุ
"มาร์ทิ่นทำไม-"
"โซคุนายก็รู้นิ ดันเจี้ยนนะมันอันตรายขนาดไหนโดยเฉพาะ ซามังผู้ออกล่าในช่วงนี้นะนายก็รู็นิว่าช่วงนี้ ซามัง ก็ออกล่าซะด้วยมันพรากชีวิตของนักผจญภัยเเรงค์สูงๆ ไปด้วยเเล้วไหนข่าวลือดันเจี้ยน20ชั้น-"
มาร์ทิ่นเริ่มพูดไปไม่นาน คนในปารตี้คนหนึ่งดันเก้าอี้ก่อนจะลุกขึ้น
"หยุดพูดได้เเล้วน่า มาร์ทินหุบปากเดียวนี้! "
คนในปารตี้ได้ตะโกนดังเพื่อห้ามมาร์ทิ่น
โซคุชะงักพร้อมสังเกตุบรรยากาศรอบข้าง ทำให้เห็นว่าคำพูดของ มาร์ทิน นั้นทำให้ผู้คนรอบข้างเคร่งเครียดอย่่างหนักบรรยากาศนั้นหนักอึ้งเป็นอย่างมาก
"ไปกันเถอะไปที่ห้องเเละพักผ่อนก่อนดีกว่าเถอะก่อนเวลาประชุม สิบเก้านาฬิกา"
ทุกคนต่างเเยกย้ายขึ้นห้องเพื่อพักผ่อนเเละรอประชุมเวลา สิบเก้านาฬิกาของวันนี้อีกที่
18:47PM วันที่ 25ธันวาคม
ทุกคนต่างเดินลงไปข้างล่างกันหมดเเต่ในขณะนั้นโซคุ จึงเดินไปหามาร์ทิ่นเพราะมาร์ทิ่นนั้นยังไม่ออกมาจากห้องสักที่
"ก๊อกๆ "
"มาร์ทิ่น นายโอเคไหมทำไมถึงช้าจังเลย"
"มาร์ทิ่น มาร์ทิ่น มาร์-"
โซคุ บิดลูกบิดประตูกลับปรากฏว่าตัวของ มาร์ทิ่น นั้นไม่ได้ล็อคประตูไว้
มาร์ทิ่นหรือว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับมาร์ทิ่นนะ!
โซคุรีบบิดลูกบิดประตูเข้าไปอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกของโซคุในตอนนี้นั้นมีเเต่ความกังวลว่ามีอันตรายอะไรกับตัวของเพื่อนเขาหรือไม่ เเต่เมื่อโซคุบิดลูกบิดประตูเข้าไปโซคุนั้นกลับพบกกับ ผู้หญิงในชุดชั้นในกำลังส่มเสื้อผ้ากับเกราะอยู่ หญิงสาวตาสีเเดง ผมสีขาว เธอหน้าเเดงอาปากค้าง ส่วนโซคุนั้นไม่ต่างกันเขายืนอึ้งไปพักใหญ่ๆ หน้าเขาเเดงเเละตกใจเป็นอย่างมากในขณะเดียวกัน
ห้องเต็มไปด้วยกลิ่นน้ำหอมเเละความอบอุ่นจากเเสงไฟของเตาพิงก่อนที่ โซคุ จะตั้งสติได้
"ขอโทษครับผมคงเข้าห้องผิดห้องครับ ตะ-ค้อง ขอโทษจริงๆ นะครับ"
ก่อนโซคุจะค่อยๆ ปิดประตูลง
"เดี๋ยวก่อนโซคุ! "
ประตูที่กำลังปิดลงนั้นก็ได้หยุด โซคุยืนนิ่งฟังคำพูดของหญิงสาวที่กำลังพูดอยู่เธออายมากเอาผ้ามาปิดเนื้อตัวเเต่ก็ยังคงพูดคุยกับโซคุต่อ
"โซคุนี้ฉันเองนะมาร์ทิ่นนายนะเข้ามานั่งในห้องก่อนได้ไหม"
"เข้าใจเเล้วครับ"
โซคุเปิดประตูเข้าไปก่อนที่มาร์ทิ่นนั้นจะเดินไปที่ห้องเเต่งตัวเเละเปลี่ยนเสื้อผ้าของเธอ โซคุนั่งลงบนเตียงของมาร์ทิ่น
"โซคุเรื่องนี้นายห้ามเอาไปบอกใครนะเรื่องที่ฉันเป็นผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย"
"ฉันไม่เอาเรื่องของนายไปบอกหรอกเราเป็นเพื่อนกันนะเเถมเราทำงานไหนก็ทำด้วยกันนิ"
"ว่าไปเมื่อตอนบ่ายวันนี้นะทำไมนายถึงบอกเเบบนั้นละหรือว่า-"
"ฉันเเค่เป็นห่วงนายในฐานะเพื่อนร่วมปารตี้นายพูดเหมือนกับว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องเด็กๆ เราโตกันเเล้วะนโซคุนายก็รู้นิว่าดันเจี้ยนเป็นยังไงมันอยากกว่าเควสทั่วไปอีกนะดันเจี้ยนนะดันเจี้ยน"
ใช่โลกของเราดันเจี้ยนคือสิ่งที่หายากมากๆ เมื่อเทียบกับเควสทั่วไปเเล้วที่เเค่ปราบมอนสเตอร์ตามสถานที่นั้นๆ มันง่ายกว่าเเละเสี่ยงชีวิตน้อยกว่าเยอะเเถมดันเจี้ยนเป็นสถานที่ ที่ใครไม่รู้สร้างขึ้นมาเพื่อเก็บสมบัติเเต่ตามกฏเเล้วที่เเบบนี้นะคือสถานที่สำหรับจอมมารเพราะจะมีพวกมอนสเตอร์ซึ้งไม่ควรถือกำเนิดขึ้นมาจากผู้คนนั้นเอง นัั้นก็คือผู้ใช้มนต์ดำหรือพ่อมดขั้นสูง
"ฉันเข้าใจเเล้วขอบคุณ......ที่เป็นห่วงฉันนะ"
มาร์ทิ่นหน้่าเเดงเขินอายเป็นอย่างมาก
เราไมได้ชอบเขา เราไม่ได้ชอบเขา เราไม่ได้ชอบ!!!!!!!!
มาร์ทิ่นเิาหัวโขกกำเเพงอย่างจัง
"ตึงๆ "
"เสียงอะไรนะมาร์ทิ่นเกิดอะไรขึ้นนะ"
คราวด์ ที่เห็นว่ามันใกล้ถึงเวลาประชุมเเล้วจึงเดินขึ้นเพื่อไปตามลงมาประชุมเสียงเท้านั้นค่อยๆ ดังขึ้นที่ละก้าวก่อนที่คราวด์จะบิดลูกบิดประตูเเละกล่าวถามโซคุเเละมาร์ทิ่น
"โซคุ มาร์ทิ่นทำอะไรอยู่นะทำไมถึงไม่ลงไปละ"
"คุณคราวด์โทษที่นะครับเหมือนมาร์ทิ่นเขาจะป่วยหนักนะครับ"
คราวด์มองไปด้วยความสงสัยในตัวของโซคุเหมือนว่ารู้ว่าโซคุกำลังปิดบังอะไรบ้างอย่างไว้อยู่
"เอาเป็นว่านายก็ลงไปฟังเเผนการก่อนละกันนะส่วนเรื่องมาร์ทินค่อยมาดูอีกที่เเล้วกัน"
"เข้าใจเเล้วครับ"
เกือบไปๆ
โซคุเดินลงไปเสียงเท้ากระทบไม้ที่ละชั้นที่ละชั้นก่อนที่จะพบกับผู้คนที่นั่งประชุมกันอยู่ โซคุเดินไปลากเก้าอี้พร้อมนั่งลงเเละรอฟังเเผนการของคราว์
19:05PM วันที่ 25ธันวาคม
"ถึงจะเลยเวลามา5นาทีเเต่ก็ขอเปิดการประชุม ณ ตอนนี้เลยก็เเล้วกันนะ"
ทุกคนต่างนั่งพร้อมหน้าพร้อมตานั่งฟังเเผนการของคราด์จนถึงดึก เเผนการนั้นไม่มีอะไรซับซ้อนมากมายคือการจัดระเบียบเเละตำเเหน่งของเเต่ละคนว่ายืนอยู่ที่ไหนหน้าที่อะไรเมื่ออากาศเริ่มหนาวเย็นขึ้นมาในเวลา ยี่สิบเอ็ดนาฬิกา สามสิบห้านาที คุณคราวด์จึงบอกให้ทุกคนเเยกย้ายกลับห้อง ผมจึงเดินกลับห้องทิ้งเพียงความสงสัยของมาร์ทิ่นไว้ข้างหลัง
กองหน้าประกอบด้วยเบอเซอเกอร์ อัศวิน นักมวย ที่เดินหน้าออกจากเมือง กองกลางคือ กันเนอร์ เเอซซาซิน สุดท้ายคือกองหลังที่ประกอบด้วย วิซซารด์เเละฮิลเลอร์ ทั้งหมดทั้งมวลล้วนบรรจบกันอยู่ที่หน้าประตูของเมือง ท่ามกลางที่อบอุ่นเเละเเจ่มใส่ของวันนี้สืบเนื่องจากเมื่อคืนที่หิมะตกเป็นอย่างหนัก คราวด์เดินออกไปข้างหน้าพร้อมกับยืนประจำตำเเหน่งของเเต่ละคนที่กล่าวไปเบื้องต้น
"เอาละ! ทุกคนนักผจญภัยของกิลเมืองคอทส์โวลส์ ขอเริ่มการเดินทางไปยังหมู่บ้านอัลพ์บัชระหว่างการเดินทางอยากให้ทุกคนนั้นอย่าได้เเตกเเถวหรือเดินออกจากตำเเหน่งเเบบสุ่มสี่สุ่มห้าเพราะระหว่างทางนั้นภัยอันตรายสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ หากยังไม่อยากเป็นศพละก็จงอย่าเเตกเเถวหรืออย่าสละตำเเหน่งของตนเองโดยเด็ดขาด! "
การกล่าวนำในการเดินทางของครั้งนี้บรรยากาศรอบข้างนั้นเงียบสงบพร้อมความหนาวที่เข้าปกคลุมเพียงเล็กน้อยคราวด์ก้าวเท้าออกไปก่อนที่ทุกคนจะเริ่มเดินตามคราวด์ในอากาศอันเเสนอบอุ่น
ทุกคนต่างนิ่งสงบอยู่เป็นพักใหญ่บรรยากาศรอบข้างนั้นสงบสองข้างทางมีเพียงเเต่ป่าพร้อมกับหิมะที่ค่อยปกคลุมตามใบไม้ต้นไม้ไม่เว้นเเม้เเต่พื้นดินที่ทุกคนในปารตี้นั้นกำลังเดินอยู่ หิมะสองข้างทางนั้นน้อย เป็นอย่างมากคนในปารตี้เดินผ่านต้นเเอปเปิ้ลนั้นก็เด็ดผลเเอปเปิ้ลที่เเดงสดออกมากินเป็นของว่างในระหว่างทาง
ยามดึก
"เปี๊ยง! "
เสียงปืนดังสนั่นไปทั่วป่าปลายกระบอกปืนของ โซคุ นั้นมีกลิ่นควันของดินปืนที่โชยออกมา
กวางนั้นนอนเเน่นิ่งโซคุลากศพกว้างกลับไปยังเเคมป์ไฟที่ตั้งขึ้นมากลางป่าที่เริ่มหนาวเหน็บขึ้นยามเย็นผ่านไปยามค่ำเริ่มคืบคลานเข้ามา
ทุกคนนั่งล้อมเเละพูดคุยกันในยามพบค่ำนั้นถึงอากาศจะหนาวเสียดเเทงถึงกระดูกเพียงใด
เเต่ความอบอุ่นที่ผู้คนนั้นนั่งล้อมกันท่ามกลางกองไฟมันเป็นบรรยากาศที่ทำให้โซคุอบอุ่นใจขึ้นมาโดยทันที่ เสียงหัวเราะท่ามกลางกองไฟ
เรื่องราวน่ากลัวท่ามกลางกองไฟ หรือความเศร้าท่ามกลางกองไฟล้วนเป็นสีสันของสถานที่เเห่งนี้ ช่างอบอุ่นใจเหลือเกิน
6:00AMวันที่ 27ธันวาคม
อากาศวันนี้หนาวจริงๆ ทุกคนก็เริ่มเดิน
โดยมีคุณคราวด์ เป็นคนนำตัวผมนั้นไม่รู้เลยว่าต่อจากนี้ต้องเจออะไรเมื่อไปถึงอีกดินเเดนหนึ่ง
พวกเราออกเดินทางเพื่อไปยัง ดินเเดนเพอร์เซฟะนี ดินเเดนที่ตอนนี้ความหนาวนั้นเข้าปกคลุมเเต่สิ่งที่น่าเเปลกคือเเทบจะไม่มีหิมะเลยทั้งๆ
ดินเเดนเพอร์เซฟะนี นั้นอยู่ในประเทศเเละภูมิศาตร์เดียวกับดินเเดนของเรา
18:45PM วันที่ 27ธันวาคม
ทุกคนเดินไปสักพักเเละหยุดพักชั่วคราวในพื้นที่ ที่เต็มไปด้วยดอกไม้เต็มไปหมดสถานที่นี้โล้งเเละกว้างเป็นอย่างมากมีดอกไม้โอบล้อมเต็มไปหมดบรรยากาศยามเย็นเเสนสงบสุข
ทุกคนพักผ่อนดื่มน้ำจากทะเลสาบเเห่งหนึ่ง มองจากตรงนี้ที่เป็นที่เป็นทุ้งโล้งกว้างก็ยังมีป่าล้อมรอบอยู่เช่นเคยเพียงเเต่หากเดินผ่านป่านี้จะเป็นป่าสุดท้ายก่อนถึง ดินเเดนเพอร์เซฟะนี หมู่บ้านอัลพ์บัช
ทุกคนที่หยุดพักนั้นลุกขึ้นเพื่อที่จะไปยันเมืองต่อไปเเต่เมื่อกำลังจะเดินหน้าต่อพวกเขาก็พบกับม้าสีขาวพร้อมกับหญิงสาวที่กำลังมาอาบน้ำ
ทุกคนต่างไม่ได้สนใจอะไรก่อนที่จะหันหลังกลับไปพบกับม้าสีขาวมากมายเต็มไปหมดตรงริ่มทะเลสาบที่หญิงสาวนั้นกำลังจะอาาบน้ำเมื่อหญิงสาวเห็นเช่นนั้นจึงหันมาพร้อมกล่าวกับทุกคนในปารตี้
"เจ้าม้าพวกนั้นคือม้าไร้บัญชาพวกท่านสามารถนำมันไปขี่ได้ จงขี่มันเถิด"
"ขอบคุณมากๆ เลยนะฉันรู้สึกเหนื่อยมากเลยละโดยเฉพาะการที่ต้องวิ่งไปนำหน้าเพื่อสำรวจตั้งเเต่เมื่อกี้เเล้ว"
เด็กหนุ่มผมดำหมัดห้างม้ารีบขานรับด้วยความเหนื่อยลาในหน้าที่ของตนเอง เเอซซาซินจึงค่อยๆ ขึ้นไปบนหลังม้าพร้อมกับผู้คนในปารตี้คนอื่นเช่นกันที่บ้างคนก็ขึ้นไปบนหลังม่าเป็นที่เรียบร้อยเเล้วเเละรอที่จะควบม้าออกไป
"ขอบคุณมากนะเเม่นางข้่าซาบซึ้งในน้ำใจของท่าจริงๆ "
"เอาละทุกคนขึ้นไปบน-"
คราวด์นั้นสังเกตุเห็นเมือกดำๆ
ที่ไหลจากตัวของม้าทำให้เขาชะงักเป็นเวลาสักพักก่อนที่จะขยี้ของเหลวสีดำเหนียวนั้นคราวด์ชักดาบขึ้นมาฟันใส่ม้าตัวสีขาวเเต่สิ่งที่ปรากฏคือม้าสีดำหน้าตาหน้าเกลียดหน้ากลัวมันค่อยๆ
เหลวเเละค่อยๆ ร่วมกลับมาใหม่คราวด์ รีบวิ่งไปหาพวกพ้องพร้อมตะโกนเตือนโดยทันที่
"หยุดก่อนลงมาเดี๋ยวนี้ม้านี้มันม้าน้ำปีศาจ! "
สิ้นเสียงคำเตือนไม่ทันไร เคอร์ปี่ ม้าน้ำปีศาจก็นำพาผู้โชคร้ายที่นั่งอยู่บนมานั้นจมลงไปพร้อมกับมันในน้ำเพื่อให้เหยื่อขาดอากาศหายใจเเละสิ้นชีพ
ไม่นานหนักดาบอันใหญ่ก็ฟาดฟันลงม้าน้ำโดยทันที่ทำให้เกิดเเรงประทะจากลมอย่างรุนเเรง
พร้อมการเริ่มต้นการต่อสู้เเละการหลบหนีในขณะเดียวกันฮีลเลอร์นั้นถูกช่วยไว้โดยคราวด์ส่วนเเอซซาซินนั้นรีบใช้ความเร็วหนีออกจกาหลังมาโดยไม่เห็นเเม้เเต่ตัวส่วนหญิงสาวนั้นเเปลงกายเป็น
ม้าน้ำปีศาจเเละพายายามพุ่งจู่โจมตัวของ ฮันเตอร์ อัศวินเเละนักมวยในทันที่
"เปี๊ยง"
เสียงปืนดังขึ้นพร้อมกับที่ ม้าน้ำปีศาจนั้นลงไปนอนกองกับพื้นทุกคนต่างรีบวิ่งอย่างไม่ลดละเพราะรู้ตัวดีว่าตัวของม้าน้ำปีศาจนั้นมีความเร็วขนาดไหนทุกคนต่างวิ่งกันโดยไม่คิดชีวิต
ในขณะเดียวกันก็ตั้งรับการโจมตีด้วยการปัดป่องของเหลวสีดำที่พุ่งโจมตีพวกเขาไปด้วยเช่นกัน
"ทุกคนรีบวิ่งไปก่อนไปให้ถึง เเดนเพอร์เซฟะนี! "
เสียงเท้าของม้าน้ำปีศาจที่เหมือนเปื้อนโคลนกระทบลงไปกับพื้นหญ้า
ทุกคนต่างวิ่งไปเกือบใกล้จะถึง ดินเเดนเพอรเซฟะนี เเต่สุดท้ายก็หนีไม่พ้นม้าน้ำปีศาจพวกนี้มันมีจำนวนเยอะจนเกินไปเเละวิ่งเข้าล้อมทั้งหน้าล้อมหลังเป็นรูปทรงวงกลมพวกเขาต่างติดอยู่กลางวงล้อมของม้าน้ำปีศาจ
คราวด์จึงตะโกนสั่งคนในปารตี้ให้รีบจัดระบวนเเถวตั้งรับท่ามกลางทุ้งโล้งกว้างเเห่งนี้
"จัดรูปเเบบตั้งรับล้อมตัวเป็นวงกลม! "
ทุกคนจัดกระบวนเป็นวงกลมโดยเรียงจากความสามาถรของเเต่ละอาชีพ
คราวด์นั้นเเกว่งดาบเขาเพื่อที่จะหาช่องโหว่ในการหนีออกไปดทว่าดาบของคราวด์นั้นเมื่อฟันใส่ม้าน้ำปีศาจเเล้วมันกลับดึงไม่ออก
"บ้าเอ๋ยดาบของคุณคราวด์ติดกับตัวมัน"
"ไม่ต้องสนทุกคนรักษาตำเเหน่งไว้ก่อนอย่าได้ออกจากตำเเหน่งของตัวเองเชียวนะ! "
ดาบของเขานั้นถูกดูดเข้าไป คราวด์นั้นพายายามดึงดาบออกจากตัวของมันเเต่มันนั้นเหนียวจนเกินไป
"โซคุจุดคบเพลิงเดี๋ยวนี้ไม่นานจะถึงยามดึกเเล้ว! "
ยามพบค่ำใกล้มาถึงในอีกไม่นานเเสงอาทิตย์คงลับขอบฟ้า โซคุ นั้นรีบจุดคบเพลิงเเละม้าน้ำปีศาจ พายายามเข้าจู่โจมตัว
โซคุ เขาจึงใช้ไฟเเกว่งไปมาใส่มัน ม้าน้ำ นั้นค่อยๆ ถอยออกมา โซคุ วิ่งเอาไฟไปจี้ม้าน้ำที่กำลังดูดดาบของคราวด์ม้าน้ำจึงปล่อยดาบของคราวด์เเละไฟก็เริ่มลามไปยังตัวของม้าน้ำ
"ม้าน้ำปีศาจมัน-"
"ใช่เเล้วครับคุณคราวด์มันเเพ้ไฟ! "
"ทุกคนม้าน้ำพวกนี้มันเเพ้ไฟกลับไปเอาน้ำมันเพื่อจุดคบเพลิงก่อนไม่งั้นเราหนีไปไหนได้ไม่ไกลจากตัวมันเเน่! "
"มาร่วมตัวที่ฉันเเละวิ่งฝ่ามันออกไปซะ! "
ทุกคนวิ่งมาร่วมตัวที่โซคุก่อนจะกลับไปเอาน้ำมันจากกระเป๋าสัมภาระที่ทิ้งไว้ในนั้นมีน้ำมันที่เป็นเชื้อเพลิงของไฟอยู่ทุกคนต่างฟ้าวงล้อมโดยใช้ไฟของโซคุ กวัดเเกว่งไปมาทำให้ม้าน้ำปีศาจนั้นไม่กล้าเข้าใกล้โซคุนั้นใช้ไฟจุดไปยันพื้นไฟค่อยๆ ลามไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นทะเลเพลิงในที่สุด
ทุกคนจึงรีบหยิบกระเป๋าสัมภาระเเล้วรีบจุดไฟเพื่อไล่ม้าน้ำปีศาจเหล่านั้นโดยทันที่
มีเพียงเเต่คราวด์ที่ใช้น้ำมันราดดาบก่อนจุดไฟในขณะนั้นทุกคนก็วิ่งฝ่าวงล้อมออกไปอีกครั้งทุกคนต่างเอาผ้าชุบน้ำอย่างรวดเร็วจากเเม่น้ำก่อนที่จะมี
"ม้าน้ำมันโผล่มาจากน้ำ! "
"วิ่งๆ! "
ม้าน้ำปีศาจ โผล่ออกมาหัวใจโซคุค่อยๆ เต้นรั่วขึ้นเรื่อยๆ เเละเริ่มเหงือไหลพร้อมความซับสน
เสียงไฟเริ่มลามไปทั่วทุกคนต่างวิ่งฝ่าไฟออกไป วิ่งไปด้วยความเร็วเเละมีไฟจากพื้นหญ้าบ้างส่วนนั้นช่วยพวกเขาไว้
ไฟตอนนี้ไม่ได้ลุกลามมากเพราะหิมะก็เริ่มตกอีกครั้งทุกคนวิ่งจนไปถึงอีกฝั่ง เหลือเพียงโซคุ
"ขวางปืนมามันได้ไม่เกะกะ! "
โซคุขวางปืนไปพร้อมการสนับสนุนจากวิซซารด์ใช้เวทย์มนต์ไฟ
กระทาของเขานั้นหักเเต่เเรกก็จริงเเตสามาถรที่จะใช้เวทย์ไฟได้อีกเล็กน้อยพร้อมการยิงสนับสนุนที่ไม่ได้เเม่นยำมากมายเสียงเท้าของัมนใกล็ถึงตัวขณะเดียวกันโซคุก็ใกล้ถึงเช่นกัน
"ใกล้ถึงเเล้วหากถึงมันก็ไม่ตามมาเเล้วเพราะฉนั้นรีบวิ่งต่อไปซะ! "
ทุกคนยืนรอโซคุที่วิ่งเข้ามาในเขตอาคมเพราะไม่กล้าใช้อาวุธกลัวโดนตัวโซคุ
ม้าน้ำปีศาจนั้นก็โซคุใกล้ถึงตัวโซคุเเค่เพียงนิดเดียวโซคุวิ่งมาจวนใกล้เขตอาคมของเเดนเเล้วเเต่ทว่า!
"ฉึกๆ "
ของเหลวสีดำพุ่งเข้าเเท่งไปทะลุจากหลังไปถึงหัว ตับ เเละปอด ร่วม 3จุดคนที่เข้ามารับการโจมตีนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนเเต่เขาคือคราวด์
คราวด์ล้มลงโซคุจึงรีบลากออกมาจากเขตนั้นโดยม้าน้ำนั้นเริ่มเข้าหาตัวอีกไม่นานเเล้วโซคุล้มลงเเละถึงตอนนั้นม้าน้ำก็!
ม้าน้ำนั้นวิ่งกำเเพงป้องเวทย์มนต์อย่างจังจนตัวกลายเป็นผงเเละสลายไปในที่สุด
ส่วนพวกม้าน้ำนั้นก็เลิกลาเเละเสียงเท้าของพวกมันนั้นก็ค่อยๆ หายไป ที่ละตัวที่ละตัวจนสุดท้ายก็ไม่เหลือสักตัว
โซคุ ก้มมองหน้าคราวด์น้ำตาค่อยไหลหลินใส่ใบหน้าคราวด์ที่ละหยด ที่ละหยด
"คุณคราวด์คุณคราวด์! "
ทุกคนต่างรีบวิ่งมดูอการเเละฮิลเลอร์จึงรีบใช้เวทย์มนต์รักษาโดยทันที่อาการของคราวด์นั้นสาหัสเป็นอย่างมาก
"คุณคราวด์....."
คราวด์ค่อยๆ เอามือนั้นยืนไปที่หน้าอย่างช้าๆ ที่ละนิดที่ละนิดคราด์นั้นจับเเก้มของโซคุไว้
"โซคุ...นายจำได้ไหม ครั้งเเรก...ที่ฉันเจอนายนะ"
คราวด์พูดไปพรางเว้นประโยคไปด้วยความที่เขานั้นมีบาดเเผลที่สาหัสอย่างมากเกินที่จะรักษา
"นายบอกตัวนาย อ่อนเเอเป็นอย่างมาก คงไม่สามาถร ปกป้อง ใครได้"
"นายนั่งโทษตัวเองที่ไม่สามาถรช่วยใครได้ เเม้เเต่น้อย ตัวนายในตอนนั้นถึงตอนนี้ ฉันคิดว่านายเเข็งเเกร่ง ขึ้น มาก ไม่ผิดหวังจริงๆ ที่ฉันเคยสอนนาย"
"ฮิลเลอร์อย่ายื้อ ฉันไว้เลย"
"ทำไมละคราวด์ทำไมละ! "
"....... ใครจะสนเหล่า ใครเขาสนคนตาย ตอนนี้นะต้องดูเเลรักษาคนเป็นสิ โซ คุ........."
คราวด์นั้นค่อยๆ สิ้นลมหายใจภายใต้อ้อมกอดของโซคุล้มหายใจนั้นค่อยๆ ดับลงที่ละนิด ที่ละนิดท่ามกลางบรรยากาศที่ดวงดาวนั้นค่อยๆ เต็มไปหมดทั่วท้องฟ้าคราวด์นั้นหมดลมหายใจลงภายใต้อ้อมเเขนของโซคุ
คราวด์มือค่อยๆไหลลงไปอยู่ระหว่างเอวตัวเย็นเฉียบ โซคุ ทำได้เพียงเเค่ทำหน้าร้องไห้พร้อมยอมรับความจริง
ใช่สินะคนเราก็ต้องตาย ไม่สำคัญเท่าคนเป็นหรอกที่สุดท้ายเเล้วเขาก็อยู่ข้างๆ เรา ความตายเป็นเรื่องธรรมชาติสักวันก็ต้องตาย ความตายนะคือสถานที่ ที่สงบสุขที่สุดในชีวิตของคนเราเเล้วสินะ
ปลายทางของความมืดมิดมีเเสงล้ำไลปรากฏออกมาเเสง พื้นหญ้าลมพัดโบกพริวไปมาโซคุค่อยๆ ลืมตาขึ้นท่ามกลางทุ้งหญ้าที่เขียวขจี้
ที่นี้ช่างอบอุ่นเหลือเกินราวกับว่าที่นี้คือโลกหลังความตายทุกอย่างเงียบเเละสงบตัวเรานั้นรู้สึกเพียงอากาศเย็นชืด
ไม่มีความรู้สึกถึงอะไรเลยมีเพียงเเค่ตัวเรากับบรรยากาศเเสนสงบเท่านั้น
โซคุค่อยๆ ลุกขึ้นมาปรากฏร่างชายหนุ่มกำย้ำสะพายดาบใหญ่ไว้ข้างหลังค่อยๆ หันหน้ากลับมา
ไม่นานนักน้ำตาของโซคุก็ค่อยๆ ไหล
"คุณคราวด์"
คนตายนะไม่สำคัญเท่ากับคนเป็นหรอกนะ
คราวด์หันหน้ากลับไปที่เดิมค่อยๆ เดิินละสายตาคราวด์ โซคุรีบวิ่งตามไป
คุณคราวด์ผมขอโทษที่ช่วยคุณไม่ได้ ทั้งที่ตอนเด็กในตอกสลัมนั้นคุณช่วยผมออกมาเเท้ๆ ขอโทษที่ไม่เคยจะบอกว่าคุณคือพ่อคนที่สองของผมห่วงใยผมขนาดไหนไม่เคยจะขอบคุณเลี้ยงดูผมเติบใหญ่จนกลายเป็นนักผจญ ผมขอโทษฮะผมขอโทษ
ที่คิดจะหนีจากการฝึกทั้งๆ ที่คราวด์หวังดี ขอโทษผมขอโทษ
โซคุวิ่งประชิดตัวคราวด์เพียงใบไม้ที่ปลิวมาบังตาเเค่พริบตา ตัวของคราวด์นั้นก็หายไปต่อหน้าต่อตา
โลกในตอนนี้เหมือนช้าลง เหลือเพียงเครื่องเเต่งกายของคราวด์ที่ตกอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกกุหลาบสีขาวเเต่ตรงที่คราวด์ตายนั้นกลับถูกย้อมด้วยสีของเลือดเต็มไปหมด น้ำตาของโซคุค่อยๆ ไหลลงมา
เขาทำได้เเค่คว้าเสื้อยืดของคราวด์ขึ้นมาพร้อมนั่งลงเหมือนหมดอะไรตายอยาก
คุณคราวด์ผมนะ ผมนะ-
"เลิกขอโทษฉันได้เเล้วนายนะหนีการฝึกตลอดเลยนะ"
โซคุค่อยๆ เงยหน้าขึ้น
ภาพในอดีตค่อยๆ ฉายขึ้นมาท่ามกลางห้องสีดำพร้อมกับที่โซคุจับเสื้อของคราวด์ไว้เน้น
"ก็มันเหนื่อยนิครับคุณคราวด์"
"นี้เเค่นายอยู่กันเนอร์ก็เหนื่อยหรอ สบายชะมัดยากฮ่าๆ "
"ขอโทษครั-"
"นี้นายรู้ไหมบ้างที่คำขอโทษไม่ได้สำคัญเสมอนะอย่าใช้มันพร่ำเพลือสิ"
"คำขอโทษนะคือสิ่งที่นายทำผิดต่างหากการที่นายเห็นต่างนะ"
"คุณคราวด์"
"นายรู้ไหมมนุษย์เรานะน่ากลัวราวปีศาจนะไม่ว่าความคิดหรือการกระทำ"
"เห็นต่างก็ถูกทอดทิ้งถูกตราหน้าว่าเป็นคนบาป เหมือนพวกไวกิ้งนั้นละที่ไม่ชอบศาสนาหรือเเม้เเต่คำสอนของพระเจ้า"
"พวกนั้นนะไม่ชอบชาวคริสหรอกนะ"
"รู้ไหมบ้างที่นายก็ควรที่จะเรียนรู้บ้างอย่างด้วยตนเองนะฉันไม่สามาถรสอนนายได้ตลอดหรอก"
คราวด์ค่อยๆ ลุกขึ้นค่อยๆ เดินไปทุกอย่างมืดลงเเละเหลือเพียงตัวของคราวด์ที่เดินไปคล้ายวิญญาณพร้อมประโยคสุดท้าย
"นายลองตามหาความหมายด้วยตนเองดูสิ ตอนนี้ยังทันนะเพื่อนๆ นายนะรออยู่"
โซคุค่อยหันไป สิ่งที่เขาเห็นคือเเผ่นหลังของพวกพ้องที่ค่อยๆ เดินไป
โซคุสะดุ้งตื่นเพราะเสียงฟ้่าร้อง ก่อนจะเหมออยู่ชั่วขณะ
โซคุลุกออกจากเตียงเก็บปืน มีดสั้น ส่วมใว่เสื้อผ้าเขาเดินออกมาจากกระท่อมหลังหนึ่งหลังเล็กๆ
ข้่างหน้าคือพวกพ้องของเขาที่กำลังจะออกเดินทางเเต่เมื่อเห็นโซคุจึงหยุด ชะงักเเละหันมาดูโซคุ
"ฉันจะไปด้วยฉันจะไปกับพวกนายที่ดันเจี้ยนนั้น ดันเจี้ยน 20ชั้น"
มาเริ่มเดินทางกันเถอะ!
คุยกับคนขี้เกียจเห้ย! คนเขียนท้ายเล่ม
สวัดดีผมนายkavato ต้องขอโทษที่หายไปนานสืบเนื่องจากการวาดออกเเบบตัวละคร คราวๆ ของฉบับมังงะนะครับคาดว่าสัก 2-3ปี
จะกลายเป็นฉบับมังงะให้อ่านเพราะจะใช้เวลาฝึกยาวยังไงก็ติดตามฉบับไลท์โนเวลใน Readawrit กับ Fictoinlog กันไปก่อนนะครับ
ขอบคุณมากครับสำหรับคนที่ติดตามเเละบ.ก ส่วนตัวผมครับขอบคุณมาก
เจอกันบทหน้าครับ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!