NovelToon NovelToon

ภารกิจบัดดี้(ไม่)ลับ กับกับดักคนหล่อ

ตอนที่ 1 เปิดเทอมใหม่ กับบัดดี้ที่(ไม่)อยากได้

“กริ๊งงงงงงงงงงงงง!!!”

เสียงนาฬิกาปลุกแสบแก้วหูดังขึ้นจากมือถือที่ชาร์จแบตไว้ข้างเตียง แถมยังตั้งเสียงปลุกไว้เหมือนโดนใครแกล้งตั้งไว้ที่ระดับ ‘ปลุกผี’ อีกต่างหาก...

“ขออีกห้านาทีเถอะ...ห้านาทีของลูกคนเดียวในบ้านที่รักสงบและเชื่อในพลังการตื่นเองอย่างเป็นธรรมชาติ…”

“ยัยฟินนนนน!! ตื่นได้แล้ว!! จะ 7 โมงครึ่งแล้วนะ!! จะไปโรงเรียนสายวันแรกเลยรึไง!! โตจะเป็นควายอยู่แล้ว!!!”

เสียงของแม่...ใช่ค่ะ ผู้หญิงที่เสียงแหลมจนสามารถส่งคลื่นความถี่รบกวนชาวบ้านได้ไกลกว่าวิทยุชุมชน

ฉัน "ฟิน" หรือเต็ม ๆ ว่า พิณนภา เด็กสาววัย 16 ปี ที่รักสงบ รักหมอน และรักเตียงยิ่งกว่าชีวิต สะลึมสะลือลุกขึ้นนั่ง ขยี้ตาเบา ๆ เหมือนพยายามระลึกชาติว่าโลกนี้มันเกิดอะไรขึ้น

“แม่อ่า~ หนูกำลังฝันถึงหนุ่มหล่อเลย...แหะ ๆ”

“หล่อบ้านป้าแกน่ะสิ ตื่นไปแต่งตัวไป๊!! !!”ใจร้ายมาก

และใช่ วันนี้คือวันแรกที่ฉันต้องเข้าเรียน ม.4 ที่โรงเรียนใหม่ไฮโซสุดหรู นามว่า…

✦ โรงเรียนเอกชนวิชญาธาร (Wichayatharn Private School) ✦

โรงเรียนเอกชนติดแอร์ทุกห้องเรียน (ข้อนี้แม่ย้ำทุกครั้งเวลาอวยโรงเรียนให้ญาติฟัง)

ค่าหน่วยกิจแพงกว่าเนื้อวากิว

มีชุดนักเรียนแบบพรีเมียมสั่งตัด ชายหญิงใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด กระโปรง/กางเกงสีน้ำเงินกรมท่าเข้ม

ชายต้องผูกเนคไท

หญิงต้องติดโบ

รองเท้าหนังเงาวับ ถุงเท้าขาวสะอาดสะอ้านแบบพยาบาล

ซึ่ง...ทุกอย่างนี่ไม่ใช่สเปกของฉันเลยแม้แต่นิดเดียว \=_\=;;

ฉันคือเด็กสายขี้เซา ที่ตอนประถมเคยเกือบโดนคุณครูจับโยนออกจากห้องเพราะเอาหมอนมาเอง แถมเรียนห้องเดียวกับโรงฝึกดนตรี...เสียงไวโอลินเหมือนเพลงกล่อมเลยค่ะ ง่วงตลอด

แต่เอาเถอะ...เพื่ออนาคต (และเพราะแม่เลือกมาแล้ว) ฉันจึงต้องมาลุย!

 

 

หน้าโรงเรียนเอกชนวิชญาธาร

อากาศเช้านี้สดใส....หรอกหรอ?

ฉันเหงื่อท่วมหลังทั้งที่ยังไม่ทันเดินเข้าโรงเรียนด้วยซ้ำ เพราะการนั่งรถเมล์แน่นยิ่งกว่าแนบเนื้อกับหม้อไฟ แล้วต้องเดินเข้ามาในโรงเรียนพร้อมนักเรียนที่ดูเหมือนหลุดมาจากซีรีส์เกาหลี

“เอาวะ... จะกลัวอะไรกับเด็กเนิร์ดติดไฮไลต์กันฟระ”

ฉันจัดโบหน้าอกที่คดอย่างน่าเกลียดให้พออยู่ทรง พยายามกลืนความเหนื่อยเข้าท้องแล้วเดินก้าวขาเข้าไปในตึกเรียนอย่างห้าว ๆ ทั้งที่ใจเต้นตุ้บ ๆ แบบตอนลุ้นเลขท้ายสามตัว

 

🏫 ห้องเรียน 4/2

ห้องเรียนใหม่ของฉันอยู่ชั้น 3 ห้อง 4/2

ห้องสีฟ้าสะอาด ติดม่านลูกไม้สีขาวแอบหรู โต๊ะไม้เคลือบวาว ทุกโต๊ะมีชื่อแปะเรียงไว้อย่างเรียบร้อย

“พิณนภา ธนภัทรานนท์...โอ้โห นี่ฉันชื่อยาวขนาดนี้เลยเหรอวะ”

ฉันพูดกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวริมหน้าต่าง พร้อมกลั้นหายใจ

 “แอร์เย็นเว่อร์ แค่ได้นั่งก็ชนะแล้วชีวิต!”

 

 

“นักเรียนทุกคนคะ สวัสดีวันเปิดเทอมใหม่~ ปีนี้พวกเธออยู่ชั้น ม.4 กันแล้วนะคะ มีทั้งเพื่อนคนใหม่และคนเก่า อยากให้ทุกคนทำความรู้จักกันไว้นะคะ"ครูประจำชั้นพูดจบพลางหยิบสมุดขึ้นมา" และแน่นอน...เราจะมีกิจกรรมสนุก ๆ กันตั้งแต่วันนี้เลย”ฮะๆ โรงเรียนนี้มันเป็นแบบนี้เราะ

ครูประจำชั้นชื่อว่า ครูเมย์ สาวสวยหน้าหวานแต่ดูสายโหดในคราบนางฟ้า

“เราจะเล่นกิจกรรม ‘บัดดี้ลับ’ กันค่ะ! ทุกคนจะต้องจับสลากชื่อเพื่อนในห้อง แล้วคอยดูแลเขาโดยไม่ให้เขารู้ตัวว่าคุณคือบัดดี้ จนกว่าจะถึงวันเฉลย!”

ห้องทั้งห้องกรี๊ดแตก… อะไรเนี่ยยย แต่ฉันแค่จะมาเรียนสงบ ๆ แล้วกลับบ้านนอน ฉันต้องมาเล่นอะไรแบบนี้ด้วยเรอะ

 

ฉันค่อย ๆ เดินไปจับสลากจากกล่องใส

กระดาษที่ได้เขียนไว้ว่า...

“เรย์”

...ใครก่อน?

“ได้ใครฟิน ๆ~” ยัยทราย เพื่อนใหม่ที่สนิทกันง่ายเพราะบังเอิญนั่งข้างกัน โผล่มาทำเสียงล้อ

“ชื่อ ‘เรย์’ อะ” ฉันตอบไปแล้วขมวดคิ้วมุ่นกับชื่อ

ยัยทรายทำตาโตแบบการ์ตูนโชโจ “เรย์!? หมอนั่นหล่อสุดในห้องเลยนะ!!! เด็กใหม่ ๆ ที่สาวมองตั้งแต่เดินเข้าประตูอะ!”บร้ะ ว่าละทำไมเสียงห้องนี้มันดังกว่าห้องอื่นนัก

 “เดี๋ยวนะ...หล่อไม่หล่อไม่เกี่ยวมั้ย? แค่หน้าตาดีฉันก็ต้องดูแลเลยเหรอ?”

“ฟิน...ชะตาเธอกำลังเปลี่ยนแล้ว” ยัยทรายแซวพลางหยิบมือถือมาจะแอบถ่ายฉัน 

“แล้วแกได้ใครอะ!”

“เอ๋…” ทรายทำท่าทางเหมือนกำลังครุ่นคิดอย่างลึกล้ำ ทั้งที่สีหน้าเต็มไปด้วยแววกรุ้มกริ่มแบบรู้ทัน “แต่ครูไม่ให้บอกนี่นา ฮ่าๆๆ แกไม่ได้ฟังกฎเลยหรา~”

ฉันเบิกตากว้าง

“เออว่ะ!?" ไอนี่มันหลอกถามนี่หว่า!

“บอกมาเลยนะ!” ฉันย่นคิ้ว รู้สึกเหมือนโดนหลอกใช้สกิลซื่อบื้อใส่ จังหวะนั้นเอง มือฉันก็พุ่งเข้าไปแย่งกระดาษในมือทรายแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง

พรึ่บ!

แต่มันดันไม่ใช่กระดาษที่มือฉันสัมผัส...

มันคืออะไรน่ะเหรอ?

…เป้ากางเกงของใครสักคนที่บังเอิญเดินสวนมาตรงจังหวะเป๊ะพอดี!

ฉันชักมือกลับแทบไม่ทัน หัวใจแทบหยุดเต้น!

โอ้โห... ซวยแล้วไง โคตรซวยเลย!

ฉันค่อยๆ แหงนหน้าขึ้นเหมือนฉากหนังสโลโมชั่น บรรยากาศรอบตัวดูจะเงียบชะงักไปชั่วขณะ และทันทีที่เห็นหน้าเขา... หัวใจกระตุกวูบ

ผู้ชายคนนั้น… คือเด็กใหม่หน้าตาหล่อบาดใจที่สาวทั้งโรงเรียนเพิ่งกรี๊ดกันไปเมื่อเช้านี้!

เขายืนมองฉันอยู่ด้วยสายตา... งงปนระแวง พร้อมกับคิ้วที่ขมวดจนแทบจะผูกกันเป็นปม

“ขะ... ขะ... ขอโทษค่ะ คือฉันไม่ไ...” 

“โรคจิต”

โอ้โห... คำเดียวสั้น ๆ แต่เจ็บจี๊ดเหมือนโดนมีดแทง

ฉันอ้าปากค้าง แล้วหันไปมองขอความช่วยเหลือจากทรายด้วยสายตา ‘ช่วยฉันด้วยเพื่อนรัก!’ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือภาพยัยนั่นกำลังนั่งหัวเราะจนตัวงอ มือปิดปากแต่เสียงขำทะลุออกมาแบบไม่พยายามปิดเลยสักนิด!

ฮือออออออออออ! เพื่อนร้าก

“ขะ... ขอโทษจริง ๆ ค่า! ฉันไม่ได้ตั้งจายย!” ฉันยกมือไหว้เก้ารอบในใจ หน้าเห่อร้อนจนเหมือนมีเตาแก๊สแนบแก้มสองข้าง

แต่เขากลับแค่ปรายตามองแล้วพูดเบา ๆ ด้วยเสียงนิ่ง ๆ ที่ทำเอาฉันกลืนน้ำลายไม่ลง

“ไม่เป็นไร ฉันไม่ถือหรอกถ้ามีโรคจิตมาชอบฉัน^^ "

ว่าแล้วเขาก็หันหลังเดินจากไปอย่างเท่ พร้อมมุ่งหน้าไปทางอาจารย์ที่ยืนอยู่ข้างหน้าห้องเรียน ทิ้งฉันไว้กับความอับอายระดับชาติ

ฉันอยากมุดดินหนีไปจริง ๆ ให้ตายเถอะ! บรรยากาศรอบตัวเหมือนเงียบกริบ แต่ในหัวฉันมีแต่เสียงกรี๊ดของตัวเองก้องอยู่ไม่หยุด!

“ดีป่ะ” เสียงกระซิบของทรายดังขึ้นข้างหู พร้อมกับรอยยิ้มล้อ ๆ

ฉันหันไปจ้องหน้ายัยเพื่อนตัวดี ตอบกลับแบบหน้าแดงแปร๊ดทั้งที่ไม่ได้คิดอะไรเลยสักนิด (จริง ๆ นะ!)

“มานี่เลย ยัยตัวดี!” ฉันยื่นมือจะไปหยิกแขนเพื่อนเล่น ทรายหลบพลางหัวเราะคิก ๆ แล้ววิ่งหนีฉันไปรอบโต๊ะ

ฉันเองก็หัวเราะตามไปอย่างอดไม่ได้... ขำทั้งสถานการณ์ ขำทั้งตัวเอง   พลางคิดว่า เพื่อนใหม่และโรงเรียนใหม่ไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด แถมได้จับเป้าหนุ่มหล่ออีก โฮ๊ะๆๆ

 

 

หลังเลิกเรียน ฉันเดินออกมาอย่างหมดแรง สมองยังมึนกับกิจกรรม ‘บัดดี้ลับ’ ที่เหมือนภารกิจลับ 007 ไปอีก

แต่แล้วฉันก็เหลือบไปเห็น...

เรย์ เด็กใหม่หน้าหล่อผมสีน้ำตาลเข้ม ตาคม หุ่นดี ใส่เสื้อเชิ้ตพอดีตัวกับเนคไทหลุดหลวมอย่างมีสไตล์ กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ...หอมดีแฮะ

สาว ๆ มะรุมมะตุ้มล้อมเขาเหมือนวงพิธีกรรมอะไรงี้

“จะดูแลยังไงไม่ให้เขารู้ตัว ถ้าเข้าใกล้ไม่ได้เลยเนี่ย!?”  

 

ตอนที่ 2 ชอบฉันขนาดนั้นเลยหรอ

หลังจากกลับถึงบ้าน ฉันก็ฟาดตัวลงบนเตียงราวกับร่างไร้วิญญาณที่เพิ่งผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่สามมา นี่แค่วันเดียวเองนะ ทำไมมันถึงเหนื่อยขนาดนี้

ฉันกอดหมอนแน่น ซุกหน้าลงไปในกลิ่นผ้านุ่ม ๆ ที่แสนคุ้นเคยของตัวเอง พร้อมถอนหายใจยาวเหยียด

 “ที่นอนจ๋า... พี่มาแล้ววว~”

สมองกำลังจะวาร์ปเข้าสู่โหมดฝันหวาน เสียงแจ้งเตือนจากมือถือเจ้ากรรมก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะ

ตึ๊ง!

กลุ่มไลน์ “ห้อง ม.4/2” แชตขึ้นมาพรวดเดียวสามสี่ข้อความ

 

 ครู: พรุ่งนี้มีประชุมเช้าหน้าห้อง เตรียมงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์นะจ๊ะ

ทราย: ค่าาา~

เรย์: รับทราบครับ ^^

มาย: พรุ่งนี้ใส่ชุดอะไรคะ

 

ฉันเลื่อนนิ้วไถจออย่างงัวเงีย ก่อนจะหยุดนิ่งตรงข้อความของคนที่สาม

 'เรย์: รับทราบครับ ^^'

เสียงในหัวฉันเริ่มทำงานไวเกินเหตุ

“เฮอะ! รับทราบครับ~” ฉันเลียนเสียงเขาแบบแซะ ๆ พลางกดเข้าไปส่องโปรไฟล์ไลน์ของเรย์อย่างอดไม่ได้

ภาพโปรไฟล์เป็นแค่เงาดำ ๆ ยืนต้านแสงตรงริมหน้าต่าง ดูเผิน ๆ ก็ไม่ชัดหรอก แต่ก็ดูหล่อแบบไม่ต้องพยายาม

และพอคิดถึงชื่อหมอนั่น ฉากอัปยศในตอนเช้าก็แวบเข้ามา...แถมโดนหาว่าโรคจิตอีก

โอ้ยยยย จะบ้าตาย!!

“ฉันจะมองหน้าติดไหมเนี่ย…” ฉันพึมพำก่อนเขกหัวตัวเองเบา ๆ ไล่ความคิดบ้า ๆ ออกไป แล้วโยนมือถือทิ้งไว้ข้างหมอน ก่อนที่ฉันจะไถแชตไปจนถึงปีหน้าแบบไม่รู้ตัว

 

🏫ห้องเรียน 4/2

“ฟิน แกทำหน้าเหม่ออะไรตั้งแต่เช้า?” เสียงยัยทรายดังขึ้นทันทีที่ฉันเดินเข้าห้อง

ฉันสะดุ้งนิดหน่อย 

“เปล๊า~ ก็แค่ดูซีรีส์ดึกไปหน่อย แฮะๆ”

ทรายเบิกตากว้าง “อย่าบอกนะว่าซีรีส์ ‘เธอคือคนผิดที่ฉันอยากรัก’ ที่กำลังมาแรงอะ?”

ฉันหันไปจ้องหน้ายัยนั่นแทบจะพร้อมกับเสียงประกอบในใจ

 “โอ้ววววว ใจตรงกัน!”

“ใช่!!” ฉันกับทรายจับมือกันแน่นเหมือนนางเอกละครเกาหลีที่เพิ่งเจอคู่แท้ที่รอคอยมานาน

“ตอนล่าสุดคือพีคมากกก” ฉันเริ่มโม้ทันที “แบบที่นางเอกสารภาพรักตอนฝ.....—”

“เด็ก ๆ ทุกคนนั่งที่ค่ะ” เสียงคุณครูดังขัดจังหวะฉันกลางประโยค ขอโม้ก่อนได้มั้ยค๊าาาาTT

“วันนี้เราจะจับกลุ่มทำงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์กันนะคะ ครูแบ่งกลุ่มไว้ให้แล้ว ขอให้ทำงานร่วมกันอย่างดีนะลูก กลุ่ม 5 มี... ฟิน เรย์ ทราย ฟ้า และภูมิ”

ป้าบ! หัวใจฉันร่วงไปอยู่ตาตุ่ม

 “ห้ะ!? กลุ่มเดียวกับใครนะ!?”

“เรย์ไง เยี่ยมไปเลยเนอะ กลุ่มเราต้องฮอตแน่!” ยัยทรายพูดตาเป็นประกาย

“ไม่ค่ะทราย...ไม่เยี่ยมเลยค่ะ! งานฉันไม่เดินแน่นอน!”

“เพราะถ้าเดิน... ก็คงเดินไปชนเขาอีก!”

" ^^ "

"โอ้ย! เจ็บๆๆ" ฉันหยิกแขนยัยทรายไปทีนึง ข้อหาล้อฉัน

 

หลังเลิกเรียน

พวกเรานัดกันที่โต๊ะมุมหลังห้องเรียน จัดกลุ่มกันเรียบร้อย ทรายนั่งฝั่งตรงข้ามกับฉัน ส่วนเรย์... นั่งข้าง ๆ แบบห่างแค่ฝ่ามือเดียวเท่านั้น

“เอ้า ๆ ๆ ใครจะทำหน้าที่อะไร มาแบ่งกันเลยเนอะ”

ยัยทรายเป็นคนเริ่มพูดก่อนทันทีที่ทุกคนนั่งล้อมกัน

“ฉันทำโปสเตอร์ให้ก็ได้” ภูมิพูด

"ฉันขอทำเอกสารนะ" ฟ้ารีบยกมือแสดงความกระตือรือร้น

“งั้นฉันหาข้อมูล!” ทรายรีบยกมือ เหมือนกลัวโดนแย้งหน้าที่ ที่เล็งไว้

จากนั้นทุกสายตาก็หันมาที่ฉัน... คือ มันเหลืออะไรบ้างนะ ปั้นดินน้ำมันหรอ

“แล้วเธอล่ะ?” เสียงทุ้มต่ำของเรย์ดังขึ้น ทำเอาฉันสะดุ้งโหยง

เขามองมาทางฉันด้วยสายตาที่ดูเหมือนไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ก็จ้องลึก  จนฉันต้องเบือนหน้า

“อะไรก็ได้ ฉันทำได้หมดแหละ!” ฉันตอบแบบไม่ได้คิดอะไร 

“งั้นเธอช่วยฉันประกอบชิ้นงานแล้วกัน ฉันจะทำจำลองเซลล์ด้วยดินเบา ต้องใช้คนช่วย”

...เยี่ยม!! ฉันนี่เหมาะเลย! ฮ่าๆ T^T

 

ฉันกับเรย์ต้องแยกออกมานั่งทำอีกโต๊ะ เพราะต้องปั้นดินเบาสำหรับจำลองโครงสร้างเซลล์ เขากำลังปั้นส่วนของนิวเคลียส ส่วนฉัน...นั่งจ้องดินเบาในมือ

แล้วมันทำไงหว่าาา อากาศเหมือนหยุดนิ่ง เสียงในห้องก็เหมือนหายไป เหลือแค่เสียงใจตัวเองที่เต้นตึกตักโง่ ๆ

“เธอไม่ต้องพยายามหลบหน้าฉันก็ได้ ” เสียงเรย์ดังขึ้นอย่างกะทันหัน

ฉันเงยหน้าขึ้นทันที

“ใครหลบ! ฉันแค่โฟกัสกับงานต่างหาก!”

“อืม โฟกัสดีมาก จนทำดินเบาแตกไปสองก้อนละนะ” เขาตอบพร้อมรอยยิ้มที่ดูเหมือนจะขำฉันในใจ

โอ๊ยยยย อยากจะขุดหลุมฝังตัวเองไปพร้อมกับดินเบาเลยได้ไหม!

“ชอบฉันขนาดนั้นเลยหรอ?” ชอบ ฉันต้องชอบอะไรก่อน ถึงฉันจะบ้าๆบอๆแต่คนอย่างฉันก็เคยมีแฟนหล่อนะย๊ะ ฉันไม่หวั่นไหวกับคนหล่อหรอกนะ คนหล่อก็มีดีแค่หน้าตาเท่านั้นแหละ

ฉันเบ้ปากทันที “คนอื่นอาจจะใช่ แต่ขอบอกว่าฉันจะเป็นแกะดำที่ไม่ชอบนาย”

เขาหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนจะหันกลับไปจับดินเบาในมือต่อ

“เค เค” เขาว่าแค่นั้น แล้วก็นิ่งไปครู่หนึ่ง แต่เหมือนพึ่งนึกอะไรขึ้นได้

เรย์เงยหน้าขึ้นมองฉัน

“ฟินใช่มั้ย?”

“อือ...” ฉันตอบกลับไปเบาๆ พร้อมพยักหน้าหนึ่งที พยายามให้ดูปกติที่สุด ทั้งที่ในใจอยากจะวิ่งไปกระโดดใส่หมอนแล้วกรี๊ดให้สุดปอด

“ชื่อแปลกดี” เขาว่า พร้อมยกยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก 

“แปลกตรงไหน ชื่อฟินก็น่ารักจะตายไป” ฉันรีบเถียงกลับไปเสียงสูงอย่างลืมตัว เพราะเกลียดเวลาคนมาทักชื่อตัวเองว่าประหลาด ถึงแม้มันจะประหลาดจริงก็เหอะ!

เรย์ยักคิ้วข้างเดียว รอยยิ้มเขายังคงติดอยู่บนใบหน้า “น่ารักเหรอ อืม...ก็พอไหวนะถ้าไม่โรคจิต”

โว้ย คำก็โรคจิต สองคำก็โรคจิต’ นี่มันช่างกวนประสาทเหลือเกิน อยากจะปาไส้ดินเบาใส่หน้าหล่อๆนั่นสักก้อน!

“ฉันไม่ใช่โรคจิตโว้ย อุบัติเหตุน่ะอุบัติเหตุ!?” ฉันย้อนกลับแบบประชดประชัน 

เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ แล้วพยักหน้า “ขอจับของเธอบ้างได้ไหมล่ะ จะได้เจ๊ากัน”

"นายสิโรคจิตของแท้"เขาหัวเราะเหมือนสนุกกับการได้แกล้งคนอื่น

ฉันเผลอกระตุกนิ้วในมือจนดินเบาที่กำลังปั้นแทบหล่น มือที่จับอยู่บนโต๊ะอยู่ดีๆ ก็เหมือนมันลื่นขึ้นมาเฉย แทบควบคุมไม่อยู่ ขอบคุณฟ้าที่ตอนนี้บนโต๊ะไม่มีของมีคม ไม่งั้นฉันอาจจะเอาไปแทงคนที่อยู่ข้างๆไปแล้ว

“แต่จำชื่อฉันให้ดีหน่อยละกัน..ฟิน เพราะงานนี้เธออาตจะได้เจอฉันอีกเยอะ"พูดจบเขาก็หันกลับไปทำงานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แต่ในขณะที่เขาปั้นโมเดลดินเบาต่อ ฉันยังคงนั่งนิ่ง มือค้าง 

แล้วงานมันจะเสร็จตอนไหนวะเนี่ย!!

 

ตอนที่ 3 วันเสาร์หรรษา

งานกลุ่มบ้า ๆ นั่นทำให้ฉันต้องเจอหน้าหมอนั่นแทบจะทุกวัน

ไม่ใช่แค่ตอนเรียน แต่หลังเลิกเรียน… ตอนพักเที่ยง… วันหยุดเสาร์อาทิตย์!

แม่จ๋า ลูกไม่ไหวแล้วววววววว!

และในวันนี้...เรานัดกันไปทำงานกลุ่มที่ บ้านของเรย์

ใช่… บ้าน! ของ! เรย์!

แต่ก่อนจะไปที่นั่น ฉันก็นัดเจอกับทรายและเพื่อน ๆ ในกลุ่มที่ห้างเพื่อไปซื้อของมาทำงาน อ๋อ ลืมบอกว่าพวกเราสร้างกลุ่มคนทำงานวิทย์ไปเป็นที่เรียบร้อย ทั้งฉัน ฟ้า ภูมิ ทราย และเรย์ ซึ่ง...ก็เข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งที่ดูนิสัยจะต่างกันหมด

 

ห้าง Belle Mall - เช้าวันเสาร์

ห้าง Belle Mall เป็นห้างที่อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนมากนัก ใหญ่โต สว่างสะอาด และตกแต่งด้วยโทนสีขาวครีมแบบมินิมอล ตรงกลางมีลานกิจกรรมที่วันนี้จัดงานแจกตัวอย่างเครื่องดื่มแบรนด์ใหม่ กลิ่นกาแฟลอยมาตีจมูกจนฉันอยากเบี่ยงเข้าไปชิม แต่ก็รีบเดินต่อเพราะเห็นเพื่อนโบกมืออยู่ตรงหน้า

“ฟิน ทางนี้!”

เสียงฟ้าเรียกพร้อมกับโบกมือแรง ๆ เหมือนคนส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ

ฉันก้าวเร็ว ๆ ไปหาเธอ ทั้งสามคนยืนรออยู่ตรงหน้าร้านขนมญี่ปุ่น ภูมิใส่เสื้อยืดสีกรมท่า กับกางเกงขาสั้นสีเทา ท่าทางชิลแบบสุด ๆ ราวกับมาเดินห้างเล่นไม่ใช่ทำงานกลุ่ม

ฟ้าใส่กระโปรงยาวลายดอกสีพาสเทล กับเสื้อยืดโอเวอร์ไซซ์สีขาว สะพายกระเป๋าผ้ารูปแมว

ทรายดูชิลที่สุดในบรรดาเพื่อนๆ เสื้อยืดสีดำ กางเกงวอร์มขายาว รองเท้าผ้าใบคู่โปรดที่เธอชอบบ่นว่า "เดินแล้วรู้สึกเท่เหมือนอยู่ใน MV ฮิปฮอป"

“ป่ะ ไปกัน!”

ฉันเดินเข้าไปกอดคอทรายแล้วเดินเข้าไปในห้าง

“ชั้นสองมีร้านมินิมอล ฉันอยากไปดูของให้บัดดี้ฉัน” ทรายหันมาพูดเสียงเรียบแต่แววตามุ่งมั่น

“บัดดี้?” ฉันเอียงคอ

“อือ ฉันว่าจะซื้อของให้บัดดี้ของฉันไง ของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบสายเปย์นิด ๆ” ทรายขำเบาๆ พลางชี้ไปที่ชั้น 2

 

ร้าน 'MonoCute' ชั้น 2 - ร้านของขวัญมินิมอล

ร้าน MonoCute มีธีมสีขาวครีมและชมพูพาสเทล ตกแต่งด้วยโคมไฟทรงกลมแขวนห้อยจากเพดาน พื้นไม้เรียบวาวสะอาดจนเห็นเงาเดินผ่าน ตู้โชว์กระจกเต็มไปด้วยตุ๊กตานุ่มนิ่ม พวงกุญแจน่ารัก ปากกาเรืองแสง กล่องขนม และของขวัญแบบที่เห็นแล้วรู้เลยว่าเกิดมาเพื่อให้เพื่อนรักหรือแอบรักใครสักคน

“ฉันซื้อนี่ให้บัดดี้ฉันดีไหม ฮ่าๆๆๆ” ภูมิชูตุ๊กตารูปร่างประหลาดหน้าตากวนโอ๊ย สูงประมาณฝ่ามือ สีเขียวสะท้อนแสง

ทุกคนระเบิดเสียงหัวเราะเสียงดังจนพนักงานยังเงยหน้ามามอง

“ผู้หญิงเขาชอบแบบไหน ช่วยเลือกหน่อยสิฟิน บัดดี้ฉันเป็นผู้หญิงน่ะ” ภูมิพูดพลางโยนตุ๊กตาเล่นไปมา

“เอานี่ดีไหม?” ฉันหยิบพวงกุญแจรูปตุ๊กตาหมีนุ่มนิ่ม สีน้ำตาลอ่อนจิ๋ว ๆ แล้วยื่นให้ดู

“น่ารักอะ!” ฟ้าร้องขึ้นมา

“ฉันว่าน่าจะชอบนะ อันนี้ดูไม่เยอะไป” ภูมิพยักหน้าแล้วถือไว้ในมือ

“ฉันจะซื้อขนมให้ด้วย”ภูมิพูดเมื่อเห็นกล่องช็อคโกแล็ทข้างๆ

“ดีเหมือนกันนะ” ฟ้าเสริม พลางเดินไปเปิดกล่องช็อกโกแลตรูปหัวใจ

“แล้วแกอะฟิน จะซื้ออะไรให้บัดดี้?” ทรายหันมาถามขณะก้มเลือกปากกามีไฟ

ฉันกำลังจ้องพวงกุญแจรูปเด็กผู้ชายกับผู้หญิงที่ยืนเคียงข้างกัน ใบหน้าเล็ก ๆ ยิ้มให้กันเหมือนมีความลับในใจ

“ฉันเอาอันนี้ดีกว่า…”

แต่มือฉันกลับเอื้อมไปหยิบตุ๊กตาที่ภูมิถือมาเล่นเมื่อกี้ แล้วชูขึ้นแทน

“กร๊ากกกกกกกกกกก!”

เสียงหัวเราะสามคนพร้อมกันดังลั่นร้าน

“ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นความทรงจำที่ดีแน่นวล” ฉันพูดติดตลกแต่ในใจก็แอบขำตัวเองเหมือนกัน

 

Food Court - ชั้น G

หลังจากได้ของเรียบร้อย เราก็ลงมาชั้นล่างเพื่อหาอะไรกินง่าย ๆ ก่อนจะไปบ้านเรย์ ร้านข้าวหน้าหมูทอดกลิ่นหอมเตะจมูกจนเราไม่ลังเลเลยที่จะพุ่งเข้าใส่

“ซื้อเผื่อเรย์ด้วยนะ” ฟ้าพูดพลางกดมือถือหาโปรโมชั่น

“เออ จริง ” ภูมิหยิบกล่องข้าวแบบเบนโตะขึ้นมาหยิบ ๆ วาง ๆ

“ซื้อของหวานไปด้วยดิ เรย์มันชอบของหวานนะ” ทรายพูดขึ้นลอย ๆ

ฉันเลิกคิ้ว

“เธอรู้ได้ไงอะ?”

“เธอไม่ได้สังเกตเหรอ... ตอนพักกลางวันน่ะ เขากินไอติมทุกครั้งที่มีขายไอศกรีมในโรงอาหาร”

อืม...ตอนนั้นฉันมัวแต่มองอย่างอื่นน่ะสิ

เอาล่ะ! ทุกคนพร้อม! ทั้งกล่องข้าว ขนม น้ำผลไม้ และของขวัญให้บัดดี้...

ต่อไปคือบ้านเรย์ ที่เราจะไปบุกปั้นดินเบากันต่อ...

หัวใจของฉันมันเริ่มเต้นแรงขึ้นมาทีละนิด

ไม่รู้สิ... แค่จะไปบ้านเรย์อะนะ ทำไมมันตื่นเต้นแบบนี้วะ...

 

หน้าคอนโดเรย์

แดดตอนสายที่สาดมาอ่อนๆ แต่ก็ยังร้อนพอจะทำให้เหงื่อซึมบริเวณต้นคอ ลมพัดเบา ๆ ผ่านซอกต้นไม้เรียงรายริมรั้วตึกข้างทาง ฉันหันไปมองเพื่อนที่ยืนรวมตัวกันอยู่ใต้เงาตึก

"ฟิน! เรย์ส่งโลฯมาแล้ว " ทรายอ่านจากโทรศัพท์ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมา "ฉันพิมพ์บอกเรย์แล้วว่าถึงป้ายรถเมย์แล้ว"

พอประโยคจบ เสียงโทรศัพท์จากในกลุ่มก็ดังขึ้น —

“เดินออกมาจากป้ายรถเมย์ เดินตรงมาแล้วเลี้ยวขวามือ จะเห็นคอนโด เดี๋ยวออกไปรับข้างหน้า”

เสียงของเรย์ในสายฟังแล้วนิ่งเหมือนเจ้าตัวไม่มีอารมณ์อะไรเลย แล้วสายก็ตัดไปแบบไม่ทิ้งจังหวะให้พูดอะไรกลับ

“...เอ้อ เดี๋ยวก็โผล่มาจากไหนไม่รู้แบบพระเอกซีรีส์แน่ ๆ” ฉันบ่นเบา ๆ ในใจ แต่ก็ยังแอบชะเง้อมองอยู่ดี พวกฉันค่อยๆไปตามทางตามที่เรย์บอก ก่อนจะถึงริมรั้วคอนโด

และก็จริงอย่างที่คิดไม่ผิด...

เงาร่างสูงในชุดกางเกงขาสั้นสีเทาอ่อน กับเสื้อยืดคอกลมสีดำธรรมดา ๆ ไม่มีลาย ไม่มีแบรนด์ดัง ไม่มีอะไรสะดุดตา...นอกจาก “เขา” เองนั่นแหละที่สะดุดตาไปหมดทุกอย่าง

ผมยุ่งนิด ๆ ราวกับเพิ่งตื่นนอนแต่ไม่หลุดทรงรองเท้าแตะธรรมดา ๆ แต่เดินมาราวกับกำลังเดินรันเวย์

โอ๊ย...โลกมันลำเอียงปะวะ!?

"เหยด หล่อจาด..." ทรายพูดแซวเรย์ที่กำลังเดินมา

"อยู่แล้วครับ" เสียงเรย์ตอบมาแบบกวน ๆ พร้อมรอยยิ้มมุมปากที่ฉันอยากหยิบหมอนข้างฟาดหน้าแรง ๆ

เขาหันมามองฉันแวบหนึ่ง...สายตาแบบเฉย ๆ และไม่ได้พูดอะไร

...เฮ้ย ใจเย็นลูก หายใจลึก ๆ

"ขึ้นไปกันเถอะ" เรย์พูดก่อนเดินนำพวกเราเข้าไปในตึก

 

คอนโดของเรย์ – ชั้น 5 ห้อง 503

ทางเดินหน้าห้องปูพรมสีเทาอ่อน มีแสงไฟวอร์มไวท์สาดสว่างแบบไม่แสบตา พอเดินมาถึงหน้าห้อง 503 เรย์ก็รูดคีย์การ์ดอย่างคล่องแคล่ว แล้วเปิดประตูให้เข้าไปทีละคน

ข้างในห้องเป็น โทนสีขาว-เทา เฟอร์นิเจอร์มินิมอลแต่ดูแพง โซฟาหนังเทียมสีน้ำตาลเข้มตั้งอยู่ตรงกลางห้อง ข้าง ๆ มีชั้นวางหนังสือและเกมวางเรียงอย่างมีระเบียบ กลิ่นหอมสะอาดจากเครื่องฟอกอากาศลอยฟุ้งในห้อง เย็นสบายเพราะเปิดแอร์ไว้ล่วงหน้า พื้นไม้ลามิเนตสะอาดจนอยากทิ้งตัวกลิ้งเล่น

" ห้องสวยเว่อ ฉันขอจองตรงนั้เลยละกัน" ภูมิพูดพลางโยนตัวลงโซฟาแบบไม่แคร์ใคร

"พวกเรานี่เลือกที่ทำงานได้ดีแฮะ" ฟ้าเสริม

ฉันเดินเข้าไปวางกระเป๋าบนโต๊ะกลาง แล้วหยิบแฟ้มงานออกมาจัดเรียง

“ฟิน เธอเหลือทำตรงนี้อีกนิดหน่อย ตั้งใจล่ะ” เสียงเรย์ดังขึ้นด้านหลัง

"รู้แล้วหน่า..." ฉันตอบพลางหันไปส่งยิ้มมุมปากแบบไม่เต็มใจให้ ก่อนจะนั่งลงที่มุมโต๊ะใกล้หน้าต่าง

 

เวลาผ่านไป...ครึ่งวันหลังการทำงาน

สรุปคือ...ฉันยึดโซฟาเองเรียบร้อย ตอนแรกก็กะจะแค่พักสายตาแป๊บเดียว แต่โซฟานุ่มๆกับแอร์เย็นๆนี่ทำให้หนังตาฉันตก

ฉันนอนตะแคงข้าง กอดหมอนอิงไว้หลวม ๆ ใบหน้าแนบเบา ๆ กับพนักโซฟาที่หอมกลิ่นน้ำยาซักผ้า faint ๆ บรรยากาศเย็นสบายนี่มันโคตร...กล่อมให้ง่วงอะ

“ปิ้ง ปิ้ว ปั้ง!”

เสียงเกมจากอีกมุมของห้องดังขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะ

“โหยเรย์ ทำไมเล่นเก่งจังวะ” ฟ้าพูดขึ้น

“เมื่อก่อนฉันเล่นบ่อยน่ะ” น้ำเสียงเรย์เรียบแต่มีความภูมิใจแอบแฝง

“หิวแล้วอ่า ไปหาไรกินกันมั้ย?”ทรายชวนเพื่อนๆไปกินข้าวหลังจากทำงานกันมาทั้งวัน

“เอาสิ!” ภูมิเสริมแบบไม่ต้องคิด

“งั้นเดี๋ยวฉันไปด้วย!” เรย์พูดขณะที่สายตาเปล่อยไปมองโซฟาที่ใครบางคนกำลังนอนอยู่

“นายอยู่นี่ดีกว่าเรย์ ฝากยัยนั่นที” ทรายพูดก่อนจะหันมาชี้หน้าฟินที่นอนแอ้งแม้งอยู่แบบหมดสภาพ

“เดี๋ยวซื้อมากินที่นี่ด้วยกัน พวกฉัน 3 คนจะลงไปเอง ต้องซื้อของมาทำงานอีก”

“งั้นฝากด้วยนะ” เรย์พูดพร้อมกับยิ้มแฉ่ง

“ยิ้มงี้ฉันใจไม่ดีนะ ฮ่าๆๆ” ทรายพูดแซว ก่อนจะพากันออกไปซื้อของ

 

ตอนนี้...ในห้องเหลือแค่ฉันกับเรย์

เรย์นั่งลงที่พื้นข้างโซฟาแบบไม่รีบร้อน

เขาเอนหลังพิงผนังนิด ๆ หันหน้าเข้าหาฟินที่ยังหลับอยู่ ท่ามกลางห้องที่เงียบลงอย่างเห็นได้ชัด

สายตาของเขามองมาที่เธอ ริมฝีปากเธอที่เม้มเบา ๆ ยามนอน ผมที่ปรกแก้มเล็กน้อย และจังหวะลมหายใจสม่ำเสมอ

'ตอนยัยนี่อยู่เฉย ๆ ก็น่ารักดีเหมือนกัน...'

เรย์คิดในใจเงียบ ๆ มือเขายกขึ้นเล็กน้อยเหมือนจะปัดผมที่หล่นลงบนแก้มฉัน...แต่สุดท้ายก็แค่ลูบปลายผมเบา ๆ ก่อนจะดึงมือกลับ

แสงแดดยามบ่ายลอดผ่านผ้าม่านบาง ๆ เข้ามาทาบไล้บนพื้นไม้ลามิเนตสีอ่อน เงาจากต้นไม้ในกระถางตรงระเบียงโยกไหวตามแรงลมอ่อน ๆ จากข้างนอก เสียงเครื่องปรับอากาศดังคลอเบา ๆ คล้ายกล่อมคนทั้งห้องให้เคลิบเคลิ้มไปด้วย

ฉันสะลึมสะลือลืมตาขึ้นมา รู้สึกมึนเบา ๆ เหมือนเพิ่งหลุดออกจากฝันลึก ตากะพริบปริบ ๆ ก่อนจะยันตัวลุกขึ้นมานั่ง

“เห้ยยยยย!!”

ฉันร้องลั่นเมื่อรู้ตัวว่าอยู่ในห้องคนเดียว โซฟาผืนใหญ่ใต้ตัวฉันว่างเปล่าเหมือนเดิม แต่มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้! คนอื่นหายไปไหนหมด!? ทิ้งฉันไว้คนเดียวแบบนี้ได้ยังงายย

“เป็นบ้าอะไรของเธอ”

เสียงทุ้มนุ่มแต่ติดจะรำคาญดังขึ้นจากด้านหลัง

ฉันหันขวับไปตามเสียง…

เรย์นั่งพิงผนังเก้าอี้กับพื้น ขาข้างหนึ่งเหยียดยาว อีกข้างงอขึ้นเหมือนนั่งสบาย ๆ เสื้อยืดสีขาวตัวหลวมกับกางเกงขาสั้นสีกากีดูเรียบง่าย แต่โคตรจะขัดกับความหล่อแบบเกินหน้าเกินตาของเขา ผมเปียกนิด ๆ ทิ้งลงมากรอบหน้า แถมหยดน้ำยังเกาะอยู่ตามลำคอ เหมือนพึ่งไปอาบน้ำ สระผมมา

บ้าบอเอ๊ย แค่เห็นก็อยากคว้าผ้าขนหนูมาซับให้แล้วอะ...

“พวกยัยทรายไปไหนกันอ่า” ฉันโอดครวญทำตาแป๋ว น้ำเสียงแทบจะคลอไปด้วยน้ำตา

“ไปซื้อข้าว เดี๋ยวก็มา” เขาตอบเรียบ ๆ

“อือ…” ฉันพยักหน้าอย่างเข้าใจ พร้อมถอนใจนิดหน่อยแบบยังเคือง ๆ

“เธอเหลืออีกนิดเดียว จะทำต่อมั้ย?” เขาเอียงหน้ามาถาม เสียงยังนิ่งเหมือนเดิมแต่ฟังดูเป็นมิตรขึ้นนิดหนึ่ง

“เค” ฉันตอบสั้น ๆ แล้วลุกจากโซฟาไปนั่งข้างเขา

ตรงโต๊ะไม้ขนาดกลางกลางห้อง งานของพวกเรากระจายอยู่เต็มไปหมด ทั้งแบบจำลองที่ยังทำไม่เสร็จ เศษกระดาษ แผ่นพลาสติก และเครื่องมือตัดโมเดล

แค่ขยับตัวนั่ง ฉันก็ได้กลิ่นแชมพูจาง ๆ ลอยเข้าจมูกมันหอมสะอาด ไม่หวานเกิน ไม่ฉุน แต่แบบ…ผู้ชายหล่อ ๆ ที่พึ่งอาบน้ำมา กลิ่นมันแบบนั้นเลย

ฉันเหลือบมองเรย์ที่นั่งข้าง ๆ สายตาเขาจดจ่ออยู่กับงาน ปลายนิ้วเรียวยาวหยิบจับของอย่างคล่องแคล่ว ไม่เหมือนที่ฉันเคยคิดไว้เลย คิดว่าจะเป็นพวกหล่อแต่ไร้ประโยชน์

เขาจริงจังกว่าที่คิด

จริงจังแบบ…ทำให้ฉันเผลอมองอยู่นาน

“มองอะไรขนาดนั้น หรือจะเปลี่ยนใจไม่ทำงานแล้วล่ะ?” เขาเลิกคิ้วหันมาหา

“ห้ะ! ใครจะไปคิดแบบนั้นล่ะ!” ฉันรีบเบือนหน้าหนี มือไม้พันกันเหมือนหุ่นยนต์ มือฉันสั่นนิดหน่อยตอนเอื้อมหยิบมีดคัตเตอร์

แล้วจู่ ๆ เขาก็โน้มตัวมาข้างหลังฉัน

“เดี๋ยว ฉันช่วยจับตรงนี้ให้ มุมมันจะได้เท่ากัน”

เสียงเขากระซิบข้างหู ฉันสะดุ้งสุดตัวเพราะรู้สึกถึงลมหายใจอุ่น ๆ ตรงหลังใบหู

แม่จ๋า… ช่วยหนูด้วยย!!

เรย์อยู่ด้านหลังฉัน แขนเขาโอบผ่านลำตัว ฉันรู้สึกถึงอุณหภูมิจากผิวเขาผ่านเสื้อยืดบาง ๆ ความร้อนลามเข้ามาในหน้าอก มือเขาจับชิ้นงานกับมือฉันเบา ๆ เพื่อให้มันตรง

มือฉันสั่นไปหมด

หัวใจเต้นเร็วแบบควบคุมไม่ได้

“เงียบเชียวนะ หรือว่าเขิน?”

เขากระซิบอีกคำ ลมหายใจเบา ๆ ชนที่แก้มฉัน

“ไม่! ฉันแค่ตั้งใจ!”

เสียงฉันหลงไปครึ่งคีย์ พูดพลางพยายามทำเป็นนิ่ง

“งั้นเหรอ…” เสียงเขาขำเบา ๆ ในลำคอ

แล้วเขาก็… วางมือทับลงบนมือฉันเต็ม ๆ แบบนิ่มนวล

“มือเย็นจัง…” เขาพึมพำเบา ๆ แล้วกระชับมือฉันเบาขึ้นนิดหนึ่ง

โอ้พระเจ้า ฉันกลืนน้ำลายแทบไม่ลง มือเย็น แต่หน้า…ร้อนฉ่า!

“ให้ฉันช่วยอุ่นมือให้ก่อนไหม?”

ฉันหันหน้าหมายจะว่าเขา แต่ดันหมุนแรงไปหน่อย หน้าฉันเลยเกือบจะชนกับแก้มเขา

ระยะห่างระหว่างเราสองคน… ไม่ถึงสิบเซนติเมตร

สายตาเขาจ้องฉันนิ่ง ๆ สีหน้าไม่กวน ไม่เล่น ไม่ขำ

มีแววอะไรบางอย่างในดวงตานั้นที่ทำให้ฉันลืมหายใจ…

“บอกมาเถอะ…” เขาพูดช้า ๆ เสียงทุ้มกระซิบใกล้ “…ว่าเธอชอบฉัน?”

“ห้ะ แล้วทำไมฉันต้องชอบนายล่ะ…” เสียงฉันเบาลงเรื่อย ๆ จนแทบกลืนลงคอ

“ก็ทุกคนชอบฉัน ยกเว้นเธอคนเดียวที่ปฏิเสธ”

ฉันไม่พูดอะไร ร่างกายแข็งทื่อ เหมือนถูกสะกดด้วยสายตาเขา

มือฉันเหมือนขยับเองโดยไม่ผ่านสมอง

กำลังจะดันตัวเขาออก... แต่เขากลับจับข้อมือฉันไว้แน่น

แล้วเรย์ก็ค่อย ๆ โน้มตัวเข้ามา...

หน้าผากของเขาแนบลงมากับหน้าผากฉัน

สัมผัสอุ่นเบา ๆ ตรงนั้นทำให้ฉันแทบระเบิด

“ใจเต้นแรงขนาดนี้ จะบอกว่ายังไม่ชอบฉันอีกเหรอ?”

ฉันนั่งนิ่ง หายใจไม่ออก หัวใจเหมือนจะหลุดออกมาจากอก

เขามองตาฉันอย่างนิ่งเฉย ก่อนจะขยับหน้าเข้ามาใกล้...

ตึก ตึก ตึก

เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากทางเดินหน้าห้อง

เรย์ชะงัก หยุดทุกการเคลื่อนไหว

เขาถอนหน้ากลับ และปล่อยมือจากข้อมือฉันเบา ๆ

“รอดตัวไปนะ ฮ่า ๆ” เขาหัวเราะเบาๆ

ฉันนั่งนิ่งอยู่เป็นนาที ก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นแบบไม่รู้จะทำยังไง หัวใจฉันยังเต้นโครมคราม ลมหายใจยังไม่เป็นจังหวะ

'เรย์… แกะดำคนนี้อาจจะเริ่มไม่มั่นใจในฝูงของตัวเองแล้วก็ได้นะ'

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!