มหานครชงฉิ่ง – เมืองแห่งภูเขาและสายหมอก
ยามค่ำคืน แสงไฟระยิบระยับจากตึกสูงระฟ้าทอดยาวสู่แม่น้ำเจียหลิงที่คดเคี้ยวเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของเมือง ทว่าความงามนั้นหาได้เยียวยาความมืดในหัวใจของคนบางคนไม่
บนยอดตึกของโรงแรมหรูใจกลางเมือง
หลี่เหวินซิน ยืนเงียบอยู่หน้ากระจกสูงบานใหญ่ ดวงตาคมกริบใต้ขนตายาวทอดมองออกไปยังเมืองเบื้องล่าง ไร้อารมณ์ ไร้คำพูด เขายืนนิ่ง…เหมือนรูปปั้นหินเย็นชา
ชายหนุ่มเจ้าของร่างสูงสง่ากับใบหน้าครึ่งจีน-ญี่ปุ่น ดูมีเสน่ห์ในแบบที่เยือกเย็นจนไม่น่าเข้าใกล้ ผิวเขาขาวซีดเล็กน้อย สวมสูทดำไร้รอยยับ ชวนให้คนมองรู้สึกเกร็งแม้จะเพียงเหลือบตาไปมอง
เขาไม่ใช่แค่ผู้ชายหน้าตาดีที่ประสบความสำเร็จ
แต่เขาคือ “หลี่เหวินซิน” – เจ้าพ่อธุรกิจสีเทาที่แม้แต่ตำรวจยังไม่กล้าเอ่ยชื่อ
และมีเพียงคนเดียวในโลกนี้ที่เขาแสดงด้านอ่อนโยนให้เห็น…
หลี่เสวี่ยเหยา – น้องสาวคนเดียวของเขา
เหวินซินยกโทรศัพท์ขึ้นกดเบอร์
แต่เสียงปลายสายกลับเงียบงันเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
> “เสวี่ยเหยา…อยู่ไหน ทำไมไม่รับพี่…”
น้ำเสียงที่เอ่ยออกมานั้นแฝงไว้ด้วยความกระวนกระวายและเศร้าลึก แม้จะเพียงเสี้ยววินาที แต่นั่นคือครั้งแรกในรอบหลายปีที่เขา ‘กลัว’
และความกลัวของเขา…กลายเป็นจริง
---
ค่ำคืนเดียวกันนั้น
ลึกเข้าไปในเขตหอพักมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยวิ่งหน้าตื่นมายังอาคารหลังหนึ่งหลังจากได้รับแจ้งจากเพื่อนร่วมห้องของนักศึกษาหญิงที่หายตัวไปหนึ่งวัน
ประตูห้องถูกงัดเข้าไป ภายในห้องแสงไฟมืดสนิท อากาศเย็นเยียบ และกลิ่นบางอย่างที่ทำให้คนรู้สึกไม่สบายใจอบอวลไปทั่วห้อง
> “เธออยู่ไหน…หนูอยู่ไหน…”
เสียงสะอื้นดังมาจากใต้เตียง
ในตอนที่เจ้าหน้าที่ก้มลงไปดู…
เขาเห็นเด็กสาวคนหนึ่งนอนขดตัว สวมชุดนอนเปื้อนเลือด เสื้อผ้าฉีกขาด ผมเผ้ารุงรัง ดวงตาเบิกกว้างอย่างไม่รู้สึกตัว และ…เลือดสีแดงที่ไหลจากข้อมือข้างหนึ่งลงสู่พื้น
---
โรงพยาบาลกลางเมืองชงฉิ่ง
หลี่เหวินซินแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง เมื่อเห็นร่างเล็กบนเตียงนั้นคือเสวี่ยเหยา
เธอไม่ตอบสนองใดๆ ไม่ลืมตา ไม่พูด ไม่แม้แต่จะขยับนิ้ว
หมอบอกว่าเธออยู่ในภาวะ "โคม่า" เพราะเสียเลือดมาก ร่างกายอ่อนแอ และจิตใจบอบช้ำอย่างหนัก
สิ่งที่หนักกว่านั้นคือ...
> “เธอท้องได้สี่สัปดาห์แล้วค่ะ”
คำพูดของแพทย์สาวแทงทะลุหัวใจของเหวินซิน
> "ไม่จริง..."
เขาหันไปมองน้องสาวที่เขาเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่วันที่พ่อแม่ถูกฆ่าตายด้วยเหตุการณ์ในอดีต
เขาเคยปกป้องเธอจากโลกใบนี้ทุกทาง เขาสร้างรั้ว สร้างเกราะรอบตัวเธอ
แต่สุดท้าย…เขาก็ปกป้องเธอไว้ไม่ได้
> และตอนนี้...เธอกำลังท้องลูกของคนที่ข่มขืนเธอ
เขาออกคำสั่งให้ตรวจกล้องวงจรปิดของหอพักทั้งหมด
เขาส่งลูกน้องไปสอบถามเพื่อนร่วมห้อง
เขาสืบจนได้ชื่อ…ของมัน
ลู่เหวินหาว – นักศึกษาปีสี่ คณะเดียวกับเสวี่ยเหยา
ชายหนุ่มหน้าตาดี ท่าทางเรียบร้อย
และเป็น "น้องชายแท้ๆ" ของลู่ซิ่นอวี่ – หญิงสาวที่เขาเคยเจอในงานเลี้ยงเมื่อสามปีก่อน
ผู้หญิงที่เขาจำได้ดีในแววตาดื้อรั้น และการไม่ยอมก้มหัวให้ใคร
---
วันต่อมา – คฤหาสน์ตระกูลลู่
เสียงโทรศัพท์จากโรงพยาบาลดังขึ้นในตอนที่ลู่ซิ่นอวี่กำลังทำกับข้าว
> “คุณลู่ใช่ไหมคะ? น้องชายของคุณ…ถูกแจ้งข้อหาข่มขืนค่ะ”
จานในมือเธอหลุดลงพื้นแตกละเอียด
มือทั้งสองข้างสั่น
หัวใจเธอเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากอก
> “คุณว่าอะไรนะคะ…”
เธอรีบไปโรงพักทันที และพบว่าเหวินหาวนั่งอยู่ในห้องสอบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่สามนายล้อมรอบ
และในนั้น…ยังมีชายคนหนึ่งยืนมองทุกอย่างอย่างนิ่งงัน
หลี่เหวินซิน
ลู่ซิ่นอวี่เดินเข้าไปตรงหน้าพี่ชายของเหยื่ออย่างไร้คำพูด
“ขอคุยด้วยหน่อย”
“ไม่มีอะไรต้องคุย” เขาตอบสั้น
“ฉันไม่รู้ว่าเขาทำเรื่องแบบนั้น...ฉันขอโทษแทนเขา”
“คำขอโทษของคุณไม่ได้มีค่าสำหรับน้องสาวผม”
เธอเงียบ
เขาเองก็ไม่พูดอะไรอีก
เธออยากจะตบหน้าคนตรงหน้า
แต่อีกด้านหนึ่ง…เธอกลับเข้าใจเขาทุกคำ
ถ้าเสวี่ยเหยาเป็นน้องสาวของเธอ
เธอก็คงฆ่าเหวินหาวไปแล้ว
---
ลู่ซิ่นอวี่กลับมาที่บ้านด้วยใจสั่นไหว
เธอเปิดประตูห้องน้องชาย ถามเขาด้วยเสียงที่ไม่เคยดังเท่านี้มาก่อน
> “เหวินหาว! พี่ถามจริงๆ…แกทำเรื่องนั้นใช่ไหม?”
น้องชายเธอเงียบอยู่ครู่หนึ่ง
ก่อนจะพูดประโยคที่ทำให้เธอเหมือนตายทั้งเป็น
> “มันก็แค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง พี่จะซีเรียสอะไรนักหนา”
เธอตบเขา
แรง
จนเขาหน้าหัน
> “แกมันสัตว์!”
เธอร้องไห้ทั้งคืน จนไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปเมื่อไร
---
ขณะเดียวกัน หลี่เหวินซินนั่งนิ่งอยู่ข้างเตียงน้องสาว
เสวี่ยเหยายังไม่รู้สึกตัว
เขากุมมือเธอไว้แน่น น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกจากตา
แต่เพียงแค่หยดเดียว…แล้วกลับกลายเป็นน้ำแข็งอีกครั้ง
> “พี่จะทำให้มันเจ็บมากกว่าที่เธอเจ็บ…เสวี่ยเหยา”
“และถ้าพี่ต้องทำลายคนทั้งตระกูลลู่…พี่ก็จะทำ”
---
สองสัปดาห์หลังเหตุการณ์ร้ายแรง
ฤดูหนาวย่างเข้ามาเร็วกว่าทุกปี ลมเหนือพัดแรงจนต้นไผ่ริมรั้วบ้านสั่นไหวอย่างเศร้าสร้อย ไม่ต่างจากใจของคนที่อยู่ภายใน
ลู่ซิ่นอวี่นั่งอยู่หน้าบ้าน ตากลมเย็นแต่สายตาเลื่อนลอย หญิงสาวยังสวมเสื้อโค้ตเก่า ผมเธอรวบลวกๆ แบบที่ปกติจะไม่มีวันปล่อยให้ตัวเองดูโทรมเช่นนี้
ตั้งแต่วันนั้น… วันที่น้องชายเธอถูกจับ
โลกของเธอก็เปลี่ยนไปทั้งหมด
แม่ของเธอป่วยหนักถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลทันทีที่รู้เรื่อง
เพื่อนฝูงที่เคยร่วมงาน เริ่มตีตัวออกห่าง
ชื่อเสียงตระกูล “ลู่” กลายเป็นคำต้องห้ามในสังคม
แต่สิ่งที่เจ็บกว่านั้นคือ…สายตาของหลี่เหวินซิน
มันไม่ใช่ความเกลียดธรรมดา
แต่มันคือความเย็นชา
เย็นจนเธอรู้สึกเหมือนยืนเปลือยกลางหิมะ
เธอไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร
แต่เธอรู้ดีว่า…เขาจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้จบลงแค่นี้
---
ขณะเดียวกัน – บนยอดอาคารสำนักงานใหญ่ของ “หลี่กรุ๊ป”
เหวินซินยืนมองภาพจากหน้าจอมอนิเตอร์เบื้องหน้า ภาพที่บันทึกการเคลื่อนไหวของลู่ซิ่นอวี่ทุกวันตลอดสองสัปดาห์
ตั้งแต่บ้าน
ที่ทำงาน
จนถึงโรงพยาบาลที่แม่เธอรักษาตัว
เขาไม่เคลื่อนไหวใดๆ ไม่พูด ไม่เปิดเผย
แต่เบื้องหลัง...เขากำลังร้อยเชือกแห่งการแก้แค้นอย่างเงียบงัน
> “ให้เริ่มจากบริษัทเล็กๆ ที่เธอถือหุ้นไว้”
“จัดการตัดเครดิต ไถ่หนี้กลับมาให้หมด”
ชายในชุดสูทดำพยักหน้าและเดินจากไป
เหวินซินเหลือบมองแฟ้มเอกสารอีกฉบับบนโต๊ะ
มันคือประวัติทั้งหมดของ “ลู่ซิ่นอวี่”
เธอไม่ได้เป็นเพียงพี่สาวของผู้กระทำผิด
แต่ยังเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนในบริษัทออกแบบชื่อดัง
หญิงสาวที่เคยดื้อรั้น ปากกล้า และไม่ยอมคนง่าย
และวันนี้…เธอจะได้รู้ว่าโลกที่เธอยืนอยู่ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป
---
บ่ายวันถัดมา – บริษัทออกแบบในเครือเฟิงเหยา
ซิ่นอวี่เดินเข้าออฟฟิศตามปกติ แต่พบว่าบัตรเข้าอาคารของเธอถูกระงับ
แผนกบัญชีแจ้งว่ามีคำสั่ง “อายัดบัญชีพนักงานระดับผู้บริหาร” ชั่วคราว เนื่องจากการตรวจสอบบางอย่าง
> “ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วทำไม…”
> “มีคนฟ้องว่าคุณเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินผ่านโปรเจกต์ในปีที่แล้วค่ะ”
เธอยืนนิ่ง ใบหน้าซีดเผือด
> “ฟอกเงินงั้นเหรอ…ไม่จริง…”
เธอหอบเอกสารไปที่กรมบัญชีและพยายามพิสูจน์ตัวเอง
แต่ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร พวกเขากลับมองเธอเหมือนเป็นคนผิดโดยสมบูรณ์
ไม่มีหลักฐาน ไม่มีแม้แต่โอกาสให้แก้ตัว
ซิ่นอวี่เดินออกจากอาคารบริษัทด้วยความรู้สึกเหมือนโลกถล่ม
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในกระเป๋า
เบอร์ที่เธอไม่รู้จัก
> “ถ้าอยากรู้ว่าใครทำให้คุณตกนรกได้ง่ายดายขนาดนี้…ไปที่ร้านน้ำชาตงเฉิงตอนสามทุ่ม”
เสียงผู้ชายปลายสายเรียบ เย็น และสั้น
เธอรู้ทันทีว่าเป็นใคร
---
สามทุ่ม – ร้านน้ำชาตงเฉิง
ร้านเงียบไร้ผู้คน
หลี่เหวินซินนั่งอยู่ในมุมหนึ่ง โต๊ะข้างหน้ามีเพียงชาอู่หลงร้อนหนึ่งกานิ่งสนิท
เขาไม่แม้แต่จะมองเธอ เมื่อเธอเดินเข้ามา
“คุณเป็นคนทำใช่ไหม?”
เสียงของซิ่นอวี่สั่น แต่เธอไม่ยอมหลบสายตา
เหวินซินยกถ้วยชา แตะริมฝีปาก
> “ฉันทำอะไร?”
“คุณทำให้ฉันถูกกล่าวหาว่าฟอกเงิน คุณทำลายชื่อฉัน!”
เธอกำมือแน่น เสียงสั่นไปหมด
> “ฉันแค่…เริ่ม ‘สะสางบัญชี’ ระหว่างเรา”
ดวงตาของเขาคมกริบขึ้นมาครู่หนึ่ง
สายตานั้นไม่ใช่ของนักธุรกิจ
แต่มันคือดวงตาของ ‘นักล่า’
> “เธอรู้ไหม…เสวี่ยเหยาเกลียดเลือดที่อยู่ในตัวเธอ…”
“เธอพยายามกรีดข้อมือออกเพื่อจะไม่ต้อง ‘เป็นแม่ของลูกมัน’…”
ซิ่นอวี่กลืนน้ำลาย เสียงคำว่า "ลูก" แทงเข้าอกเธอเหมือนมีด
> “ฉันก็เกลียดเลือดในตัวเหวินหาวเหมือนกัน…ฉันไม่เคยรู้ว่าเขาทำอะไรแบบนั้น…”
> “เธอเป็นพี่สาว”
“แต่เธอเลือกเงียบเมื่อเขาพูดว่า ‘ก็แค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง’”
เธอเงียบ
น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงจากขอบตา
> “ฉันไม่รู้ว่าจะต้องชดใช้ยังไง…แต่การทำลายชีวิตฉัน มันจะทำให้เสวี่ยเหยาฟื้นขึ้นมาหรือ?”
เหวินซินยิ้มเย็น
> “ไม่…แต่มันทำให้ฉัน ‘รู้สึกดีขึ้น’”
เขายืนขึ้นช้าๆ
สายตาจ้องเธอแน่นิ่ง
> “นี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ลู่ซิ่นอวี่…ฉันจะทำให้เธอเจ็บเท่าที่เสวี่ยเหยาเจ็บ และมากกว่านั้น”
เขาเดินจากไป ปล่อยให้เธอนั่งอยู่ลำพังในร้านชาเงียบงัน
หัวใจเธอ…แตกเป็นเสี่ยงๆ
---
คืนนั้น
เธอกลับมาที่บ้าน พบแม่ยังนอนหลับสนิทในโรงพยาบาล
เธอเดินเข้าไปในห้องน้องชาย เปิดไฟ สะบัดรูปพวกเขาตอนเด็กลงพื้น
เธอเคยปกป้องเขาทุกอย่าง
แต่เขากลับทำลายทั้งเธอ แม่ และตัวเอง
> “เหวินหาว…แกเป็นปีศาจจริงๆ…”
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์หนึ่ง
และหลังจากลังเลเพียงไม่กี่วินาที เธอก็เอ่ยว่า
> “ฉันจะยอมพูดทุกอย่างในศาล…เอาเขาเข้าคุกให้ถึงที่สุด”
---
ด้านหลี่เหวินซิน
คืนนั้นเขากลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง
เสวี่ยเหยายังคงนิ่งสนิทเหมือนหลับไม่ตื่น
เขานั่งลงข้างเธอ เอามือวางบนหน้าท้องน้อยๆ ที่เริ่มนูนเล็กน้อยจากการตั้งครรภ์
> “ลูกของเธอยังมีชีวิตอยู่ เสวี่ยเหยา…”
เสียงของเขาเบาเหมือนกระซิบ
> “พี่สัญญา…จะไม่ให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายเขาได้อีก…”
---
ราตรีในมหานครชงฉิ่งยังคงดำดิ่งในความมืด
ไฟถนนส่องแสงจางๆ กระทบใบหน้าของหญิงสาวที่กำลังเดินผ่านซอยแคบๆ ด้วยฝีเท้าช้าๆ แต่มั่นคง
ลู่ซิ่นอวี่…แม้หัวใจจะบอบช้ำ เธอก็ยังไม่ยอมแพ้
เสียงโทรศัพท์ในมือเธอสั่นเบาๆ
เป็นข้อความจากหมายศาลให้เธอเข้าร่วมฟังการสอบสวนคดีน้องชายในวันพรุ่งนี้
“ไม่ว่าอย่างไร…ฉันต้องทำให้มันจบ”
เธอกระซิบกับตัวเอง ยกมือขึ้นลูบหน้าท้องที่เริ่มป่องเล็กน้อยอย่างปิดปัญหาในใจ
---
วันต่อมาในห้องพิจารณาคดี
บรรยากาศอึมครึมจนแทบจะกลั้นหายใจได้
ลู่ซิ่นอวี่ยืนอยู่ข้างหลังนักกฎหมายของตน
ร่างเธอสั่นเทาเล็กน้อย แต่สายตายังคงเจิดจ้าเหมือนเพชรที่ยังไม่แตกสลาย
ฝั่งตรงข้ามในห้องนั้น คือหลี่เหวินซิน
ผู้ชายที่ทุกคนรู้จักในนามเจ้าพ่อธุรกิจเย็นชา
แต่วันนี้…เขาไม่ได้มาในฐานะนักธุรกิจ
เขามาในฐานะผู้ปกป้องน้องสาวที่ถูกทำร้ายจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
เสียงทนายของเหวินซินดังขึ้น:
“เราขอแสดงหลักฐานใหม่ที่พบว่า ผู้ต้องหาได้วางแผนปกปิดความผิด และทำลายหลักฐานสำคัญ”
ใบหน้าของลู่เหวินหาวซีดเผือด ไม่กล้าสบตาผู้เป็นพี่สาวที่ยืนอยู่ในแถวนั้น
ซิ่นอวี่ถอนหายใจแรง
เธอรู้ว่าน้องชายกำลังจะจบสิ้นลง
---
หลังจบการพิจารณาคดี
ลู่ซิ่นอวี่ยืนอยู่ริมระเบียงสำนักงานกฎหมาย
มองดูผู้คนที่เร่งรีบเดินผ่านไปมา
จู่ๆ มือเย็นเยียบก็จับแขนเธอไว้
เสียงทุ้มต่ำกล่าวว่า
“จะยอมให้ฉันช่วยไหม?”
เธอหันไปพบกับหลี่เหวินซิน
ผู้ชายที่เธอทั้งเกลียดและกลัวที่สุดในตอนนี้
“ช่วย?”
ซิ่นอวี่ขมวดคิ้ว “ช่วยยังไง?”
เขาหยิบเอกสารบางอย่างออกจากกระเป๋า
“นี่คือเงื่อนไขของฉัน”
เธอเปิดดู
เป็นข้อตกลง…ที่ต้องแลกกับการยอมรับบทบาทในชีวิตเขา เพื่อแลกกับความช่วยเหลือในการดำเนินคดีน้องชาย
“ถ้าฉันทำ…น้องชายฉันจะรอดจริงไหม?”
น้ำเสียงของเธอแทบจะหรี่ลง
“ถ้าเธอทำตามข้อตกลง ฉันจะทำให้ทุกอย่างที่เหลือจบ”
---
เวลาผ่านไป
ซิ่นอวี่ตกลงยอมรับข้อเสนออย่างเจ็บปวด
เธอเริ่มอยู่ในกรอบของหลี่เหวินซิน
เหมือนนกที่บินไม่ได้ ต้องขังตัวเองไว้ในกรงทองที่สวยงามแต่ร้อนรุ่ม
ในอีกด้านหนึ่ง
เหวินซินเริ่มแทรกซึมเข้าไปในชีวิตของเธออย่างช้าๆ
วันหนึ่ง เขาโทรศัพท์หาเธอ
“คืนนี้พบกันที่ร้านกาแฟเก่าตรงถนนหลวงเก่า”
---
คืนที่ร้านกาแฟ
ซิ่นอวี่นั่งรอด้วยใจที่สับสน
เหวินซินเดินเข้ามา
ไม่มีคำพูดใดๆ
แต่สายตาของเขาเต็มไปด้วยความจริงจัง
“ฉันจะไม่ทำร้ายเธอ ถ้าเธอไม่ทำร้ายตัวเองก่อน”
เขาพูดด้วยเสียงแหบต่ำ
“แค่ไม่อยากให้เธอเจ็บอีก”
เขาเงยหน้ามองท้องฟ้า
“ถ้าเธอยอมให้ฉัน…ฉันจะช่วยเธอให้รอดจากความมืดนี้”
ซิ่นอวี่ยิ้มขมขื่น
“ฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว”
---
หลังจากนั้น
ซิ่นอวี่พบว่าโลกของเธอถูกบีบให้แคบลงเรื่อยๆ
ทั้งความหวังและความทรงจำดีๆ ถูกความแค้นและความเจ็บปวดกลืนกิน
เธอเริ่มรับรู้ความจริงที่เจ็บปวดมากขึ้น
ว่าเหวินซินไม่ใช่แค่ศัตรู…แต่ยังเป็นผู้คุ้มครองในทางของเขา
แต่ในใจลึกๆ
เธอก็ยังเกลียดเขา
และเกลียดตัวเองที่ต้องพึ่งพาเขา
---
คืนหนึ่ง
ซิ่นอวี่นั่งอยู่ในห้องมืด
เธอหยิบรูปถ่ายเก่าที่มีน้องชายและตัวเอง
น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ฉันอยากให้มันจบ…แต่จบแบบนี้ มันไม่มีใครชนะเลย”
---
ด้านโรงพยาบาล
เสวี่ยเหยายังคงอยู่ในภาวะโคม่า
แต่บางครั้งก็มีรอยยิ้มเบาๆ ผ่านใบหน้าเหมือนฝันดี
หลี่เหวินซินนั่งอยู่ข้างเตียง
เขากุมมือเธอ
“เสวี่ยเหยา…พี่จะอยู่ตรงนี้…ไม่ไปไหน”
---
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!