NovelToon NovelToon

คืนหนึ่ง...ยุทธภพเปลี่ยนสีเมื่อเขาหวนคืน

บทที่1 คืนหนึ่ง...ยุทธภพเปลี่ยนสี

คืนเดือนดับ — เขาเดินออกจากเงาเถ้าธุลี

ภูผาเมฆาเทียนเป็นหนึ่งในห้าสำนักใหญ่ของใต้หล้า

ด้วยผู้นำระดับเทพ และศิษย์มากกว่าหมื่นคน

แต่ในค่ำคืนนี้…เงาสีดำเพียงเงาเดียว กำลังเดินเข้าสู่ประตูสำนักอย่างเงียบงัน

ไร้เสียงกลองเตือน ไร้ระฆังรับแขก ไม่มีใครรู้ว่าความตายได้เดินมาถึงแล้ว

เขาสวมชุดคลุมดำ ไม่มีตรา ไม่มีนาม ไม่มีพลังปราณใดแผ่ออก

แต่ทุกย่างก้าวที่เหยียบผ่าน พื้นดินสั่นไหวเบา ๆ เหมือนโลกไม่กล้าขวางทางเขา

และเมื่อเขาเดินถึงลานกลางสำนัก ศิษย์เฝ้ายามคนหนึ่งก็ร้องตะโกน

“ผู้ใด! กล้าบุกสำนักเมฆาเทียนยามราตรี!”

แต่ยังไม่ทันสิ้นเสียง ร่างของเขาก็หายไป

เหลือเพียงกลิ่นเลือดลอยบาง ๆ กับเสียงกระซิบลอยตามลม

“…จำข้าไม่ได้งั้นหรือ”

เสียงนั้นไม่ดัง แต่มันทำให้ปรมาจารย์ทั้งห้าของสำนักเมฆาเทียนสะดุ้งจากสมาธิ

เมื่อพวกเขาออกมาจากตำหนัก ศิษย์หลายร้อยคนล้อมรอบบุรุษปริศนา

“เจ้าเป็นใคร!”

ชายชุดดำเงยหน้าขึ้นช้า ๆ

“สามพันปีก่อน…พวกเจ้าล้อมข้าด้วยคนพันหนึ่ง”

“วันนี้ ข้าขอล้อมพวกเจ้าคืน…ด้วยข้าเพียงคนเดียว”

หนึ่งในปรมาจารย์ร้องตะโกนอย่างตกใจ

“อวิ๋น…อวิ๋นเสวียน! เจ้ายังไม่ตาย!?”

เขาไม่ได้ตอบ แต่เพียงยื่นมือออกเบา ๆ

พลันฟ้าร้องครืน เส้นสายลมปราณดำม่วงพุ่งลงจากฟากฟ้า

เสียงระเบิดดังก้องไปทั่วเขา สำนักเมฆาเทียนถูกสายฟ้าฟาดลงเหมือนฟ้ากำลังตัดสิน

การต่อสู้เกิดขึ้นเพียงชั่วลมหายใจ

ปรมาจารย์ห้าคน สิบเจ้ายอดฝีมือ พันศิษย์ ถูกกดลงกับพื้นราวกับแมลงในพายุ

“เจ้า...ฝึกถึงขั้นไหนแล้ว…”

“เจ้าเป็นเทพหรือ เป็นมารกันแน่…”

เขาเงียบ

ก่อนจะเอ่ยเพียงประโยคเดียว…เสียงเรียบเฉียบดั่งกระบี่ที่รอสะบั้นฟ้า

“จากเทพ...สู่มหาเทพ”

“แต่ข้าคือข้า—ไม่ต้องการอยู่ใต้ฟ้าใดทั้งสิ้น”

ครึ่งชั่วยามต่อมา

“สำนักเมฆาเทียน” กลายเป็นเพียงเศษเถ้าธุลีในพริบตาเดียว

คืนเดียว…ฟ้าคำราม

ข่าวการล่มสลายของหนึ่งในห้าสำนักใหญ่แพร่สะพัดไปทั่ว

ไม่มีผู้ใดเห็นใบหน้าเขา ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปที่ใด

แต่คำหนึ่งเริ่มแพร่กระจาย…

“คืนหนึ่ง...ยุทธภพเปลี่ยนสี”

ชื่อ ‘อวิ๋นเสวียน’ ถูกกล่าวถึงอีกครั้ง—ด้วยความกลัวและศรัทธา

หุบเขารกร้างทางใต้⛰️⛰️

.

.

.

ชายชุดดำผู้นั้นนั่งลงกลางทุ่งดอกหลิงฮวา

ปล่อยลมหายใจแผ่วเบา และจ้องมองฟ้าอย่างว่างเปล่า

“แก้แค้นแล้ว…แต่มันกลับว่างเปล่ายิ่งกว่าที่คิด”

สนุกกันรึป่าวคะถ้าสนุกก็ไปกันต่อเลย><~🩷

บทที่ 2 หุบเขาหมอกจันทรา

ใต้ฟ้ายังมีฟ้า

แต่ในหุบเขานี้…ไม่มีฟ้าใดอยู่เหนือเขาอีกแล้ว

ลมพัดรุนแรงกลางผาสูง หุบเขาหมอกจันทราที่ผู้คนหลีกเลี่ยงเพราะไร้ปราณ ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดดำรงอยู่ได้นาน แต่ในค่ำคืนนี้ บางสิ่งได้เปลี่ยนไป

ชายในชุดคลุมดำยืนอยู่กลางหุบเขา

เงียบ เย็น ทรงอำนาจ

อวิ๋นเสวียน เงยหน้ามองท้องฟ้า

มือข้างหนึ่งประสานอินทร์ช้า ๆ

เสียงดังก้องจากพื้นดินราวกับมังกรคำราม ปราณแปลกประหลาดแผ่ซ่านออกจากร่างเขาในทันที

"ข้าสูญเสียทุกอย่างในชาติก่อน เพื่อแลกหนึ่งคำตอบ"

"ฟ้า…มีหรือไม่?"

สิ้นเสียง คำภีร์โบราณเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ แสงสีทองสีดำผสานสลับวน

ตัวอักษรสลักกลางหน้าหนึ่ง—"《หวนคืนสู่นภา》"

อวิ๋นเสวียนสะบัดมือเบา ๆ

ภูผาทั้งลูกสั่นสะเทือน ก่อนที่หินดิบจะก่อตัวเป็นเสาศิลาเรียงเป็นวง

แท่นบูชา

ศาลาฝึก

ลานทดสอบ

และหอวิญญาณ

ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งก้านธูป

จากหุบเขารกร้าง…กลายเป็นสำนักที่ทรงอำนาจราวเกิดจากฟ้าสร้างด้วยมือเทพ

“ตั้งแต่วันนี้—ที่นี่คือ ‘หลิงเทียนจง’”

“ผู้ใดไม่ยอมก้มให้ฟ้า…จงมาหาข้า”

เขากระแทกปลายเท้าลงกับพื้นหนึ่งครั้ง

เสียงคำรามดังขึ้นทั่วทั้งหุบเขา

เจ็ดเงาร่างพุ่งออกมาจากม่านมิติ เป็นอสูรวิญญาณระดับเทพขั้นสูงสุด ทั้งสัตว์อสูร สัตว์เทพ สัตว์ผสานธาตุ

หลงเยวี่ยน (มังกรเพลิง)

อสูรมังกรเพลิงดำแสนปี ลมหายใจแผดเผาปราณแม้กระทั่งเทพแท้

จิ้งฮุ่ย (สุนัขจิ้งจอกเงา)

อสูรจิ้งจอกเงาเจ็ดหาง ผู้ควบคุมมายาและความเงียบงัน

ซวนจวิน (เต่าทมิฬจักรพรรดิ)

เต่าโบราณที่มีลายอักษรโบราณบนกระดอง พละกำลังแข็งแกร่ง

อิ้งเทียนอิง (อินทรีฟ้าทมิฬ)

อินทรีขนาดมหึมาปีกสีดำขลับ บินได้สูงเหนือเมฆ คำรามสะท้านแดน

ไป๋เซิงฉีหลง (กิเลนศักดิ์สิทธิ์ขาว)

สัตว์เทพสายบุญ หายากนักในยุทธภพ มีอำนาจรักษาหรือทำลายได้ตามใจผู้ครอบครอง

เฟิ่งเหวิน (กระต่ายปีกฟีนิกซ์)

รูปลักษณ์เป็นกระต่ายสีเงิน มีปีกเฟิ่งหวง เจ้าแห่งความเร็วและความเงียบ

เหยียนหู่ (พยัคฆ์เพลิง)

เสืออสูรที่เกิดจากเปลวเพลิงลาวา มีเขาไฟสลักลวดลายยันต์บนแผงหลัง

พวกมันรายล้อมเขาอย่างเคารพ ดวงตายอมจำนนราวกับก้มศีรษะให้ราชันย์

“จงรอ ข้าจะสร้างยุทธภพใหม่ด้วยมือข้าเอง”

“และพวกเจ้าจะเป็นประตูด่านแรกของข้า...จนกว่าศิษย์ทั้งแปดจะมาถึง”

ในค่ำคืนที่ไร้ดวงจันทร์ หุบเขาไร้ฟ้าเริ่มส่องแสงจากวิถีของผู้ฝืนชะตา

ไม่มีเพลงพิณ ไม่มีกลิ่นบุปผา

มีเพียง “เจตจำนง” เดียว—ทำลายลิขิตสวรรค์ และสร้างสวรรค์ใหม่ด้วยมือของเขาเอง

“ต่อไป…คงถึงเวลารับศิษย์แล้วกระมัง”

เขาเอ่ยเบา ๆ แต่คำพูดนั้นสะท้อนก้องจนสัตว์เทพทั้งเจ็ดก้มศีรษะ

คืนนี้จึงไม่เงียบอีกต่อไป—

เพราะที่ใดมีเขาอยู่ ฟ้าย่อมไม่อาจนิ่งเฉย

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

ไปกันต่อ~~~~♡♡

บทที่3 ศิษย์คนแรกแห่งหลิงเทียนจง

เสียงลมหวีดหวิวเหนือหุบเขาหมอกจันทรา

หลังการก่อตั้ง "หลิงเทียนจง" เสร็จสิ้นภายในคืนเดียว สิ่งมีชีวิตเริ่มเคลื่อนไหว—ไม่ใช่เพราะอยากมา

แต่เพราะพลังมหาศาล...บีบให้พวกมัน “ต้องมา”

ภายในลานหลักกลางสำนัก

สัตว์เทพทั้งเจ็ดต่างนั่งล้อมวงเงียบๆ…ยกเว้นเพียง เฟิ่งเหวิน กระต่ายฟีนิกซ์ผู้มีเสียงหัวเราะแสบแก้วหูที่สุดในสามภพ

“เจ้านั่นชื่อ ‘หลิงเทียนจง’ เหรอ?”

เฟิ่งเหวินกระโดดขึ้นหลังอินทรีอิ้งเทียนอิงอย่างไม่เกรงใจ

“ชื่อเหมือนโรงเตี๊ยมบนเขาเลย ฮ่าๆๆ!”

อวิ๋นเสวียนเหลือบตามอง

"...เจ้าอยากบินสักร้อยรอบฟ้าก่อนมื้อเย็นหรือไม่"

“ข้าเงียบละ!”

เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นใต้ผานอกสำนัก

เด็กชายในชุดขาดวิ่น คนเดียว...ถือกระบี่ไม้หัก เดินฝ่าลมฝนขึ้นมาตามทางแคบ

เลือดไหลที่ขาแต่ไม่หยุดเดิน ดวงตาเขามั่นคงอย่างประหลาด

“ข้าชื่อเสี่ยวไป๋”

“ขอฝึกกับท่าน...แม้ท่านจะโยนข้าลงเหว ข้าก็จะปีนขึ้นมาอีกครั้ง”

เฟิ่งเหวินกระโดดลงมายืนข้างๆ เด็กชาย

“เหวาน้อย เจ้าแน่ใจหรือว่าข้าจะไม่กินเจ้าเข้าไปเลยนะ”

เสี่ยวไป๋ยืนนิ่ง

แล้วคุกเข่าลง ก้มกราบ

“ต่อให้เป็นมังกร หรือเสือ ข้าก็ไม่กลัว…หากท่านคืออาจารย์ของข้า”

อวิ๋นเสวียนเดินเข้าหา…ช้า ๆ

มือหนึ่งยกขึ้นวางบนศีรษะเด็ก

สายตาเย็นชาแต่ลึกซึ้งดั่งมหาสมุทร

“เจ้า...ไม่เหมือนคนทั่วไป”

ทันใดนั้น ท้องฟ้าเหนือหลิงเทียนจงเปลี่ยนสี

ลมพลิกผัน ฟ้าคำราม

ยันต์วิญญาณโบราณลอยขึ้นจากพื้น วงแสงเจ็ดชั้นปรากฏใต้เท้าเสี่ยวไป๋

“เขามีจิตวิญญาณแฝงเทพ!”

ซวนจวินเต่าทมิฬร้องออกมาอย่างตกใจ

“นี่มันระดับเดียวกับเทพยุคบรรพกาล...ที่หลับใหลมาแสนนาน!”

แต่ในขณะที่สัตว์เทพทั้งเจ็ดต่างตกตะลึง

อวิ๋นเสวียนกลับพูดเพียงคำเดียว

“ตลกดี”

มือเขาโบกเบา ๆ

พลังมืดกลืนแสงแห่งโชคชะตาไปทั้งสิ้น เหลือไว้เพียงเด็กคนหนึ่ง…ที่ไม่มีพรสวรรค์ใดเลย

นอกจาก “หัวใจไม่ยอมแพ้”

“พรสวรรค์อาจเลือนหาย”

“แต่เจตจำนง...ข้าให้ไม่ได้—เจ้าต้องสร้างเอง”

เขาหันกลับ เดินเข้าลานฝึก

เสียงหนึ่งดังลอยตามลม...

“ตั้งแต่วันนี้ เจ้า...คือศิษย์คนแรกของข้า”

.

.

.

.

บางคนเกิดมาพร้อมโชคชะตา

บางคนเกิดมาเพื่อเขียนโชคชะตาใหม่ให้โลกทั้งใบ

เด็กน้อยผู้นั้น...กำลังจะเป็นตำนานบทต่อไปของยุทธภพ.   ><~♡♡♡♡

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!