ในหมู่บ้านเล็กๆ กลางทุ่งอีสาน “คำภีร์” ชายหนุ่มลึกลับผู้ครอบครองวิชาอาคมโบราณ ผูกพันกับ “มะลิ” ลูกครึ่งไทย-อิตาเลียนที่เติบโตในเงื้อมเงาของคำครหา ทั้งสองเคยวิ่งเล่นในทุ่งหญ้าเดียวกัน แต่โลกของพวกเขากลับห่างไกลเมื่อมะลิเดินทางเข้าสู่เมืองกรุง
ข่าวการมีคนรักใหม่ของมะลิกลับมาถึงหมู่บ้าน พร้อมความโกรธและแค้นลึกจากคำภีร์ ผู้ที่ไม่เคยลืมรักแรก เขาใช้ไสยศาสตร์ผูกวิญญาณและร่างกายของมะลิให้กลับมา...พร้อมสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด — การตั้งครรภ์จากมนต์ดำ
ในโลกที่ไสยเวทพันผูกกับความรักและกรรมเก่า มะลิจะหนีจากพันธนาการของคำภีร์ได้หรือไม่ หรือสุดท้าย...ความรักที่ถูกบิดเบี้ยว จะเปลี่ยนใจของใครคนหนึ่งไปตลอดกาล
กลิ่นหอมมะลิ
เสียงจักจั่นดังระงมท่ามกลางลมร้อนของเดือนห้า
ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเท้าเปล่าผ่านทุ่งนาแห้งแล้ง ผิวคล้ำแดงของเขาเปียกเหงื่อ เผยให้เห็นรอยสักยันต์โบราณเต็มแผ่นหลัง กางเกงขาสั้นสีซีดห้อยอยู่บนสะโพกแน่นๆ ชายผู้นั้นคือ “คำภีร์”
มือขวาของเขาถือพวงมาลัยมะลิแห้ง ที่ไม่เคยเปลี่ยนมาหลายปี
มือซ้าย ถือผ้ายันต์เก่าๆ เปื้อนคราบเลือดบางจางจาง
“มันกลับมาแล้ว...แต่ไม่ใช่คนเดิม”
เสียงคำภีร์เอ่ยเบาๆ กับหมากผีในมือ แล้วทาบผ้ายันต์ลงบนหุ่นฟางที่วางอยู่ใต้ต้นมะขาม
ที่ปลายหมู่บ้านจันลา
“มะลิ” ลูกชายครึ่งไทย-ฝรั่งของหญิงชาวอุบล เดินทางกลับมาบ้านเก่าหลังจากหายหน้าไปจากหมู่บ้านนานหลายปี พร้อมข่าวลือว่าเขา ‘ทิ้งแฟนเก่า’ ไว้เบื้องหลัง
ว่าในคืนที่กลับมา มะลิกลับฝันประหลาด เห็นร่างเปลือยของคำภีร์ยืนอยู่ใต้ต้นมะลิ ใบหน้าทะมึนเต็มไปด้วยรอยสัก และเอ่ยเพียงประโยคเดียว...
“กูผูกใจมึงไว้แล้ว...มึงจะหนีกูกลับไปไม่ได้อีก”
กลิ่นมะลิหอมหวานปะปนกลิ่นคาวเลือด
และวันรุ่งขึ้น...มะลิก็เริ่มอาเจียนโดยไม่มีสาเหตุ
“มะลิ ลูกชายครึ่งไทย-ฝรั่งของหญิงชาวอุบล...”
“เดินทางกลับมาบ้านเก่า...”
“มะลิ” เด็กหนุ่มลูกครึ่งที่หน้าหวานเกินชาย จนใครๆ ในหมู่บ้านเคยเข้าใจผิดว่าเป็นลูกสาวของแม่หล้า ชายคนนั้นหายหน้าไปนานหลายปี แต่ในค่ำคืนนี้...เขากลับมาแล้ว พร้อมกลิ่นน้ำหอมบางๆ และรอยยิ้มที่ทำให้คนบางคนใจสั่น
เช้าวันใหม่ที่หมู่บ้านจันลา อากาศร้อนอบอ้าวแม้เพิ่งพ้นรุ่งสาง
มะลินั่งกอดเข่าอยู่บนแคร่ไม้หน้าบ้านเก่า สายตาเหม่อลอยไปยังต้นมะลิข้างรั้ว
เมื่อคืน...ฝันเหมือนจริงเกินไป
ชายหน้าดุเต็มรอยสักคนนั้น — เขาไม่ใช่ใครอื่น
"คำภีร์"
เสียงแหบต่ำของอีกฝ่ายยังฝังอยู่ในหัว
“กูผูกใจมึงไว้แล้ว...มึงหนีกูกลับไปไม่ได้อีก”
ทันทีที่แสงแดดส่องกระทบใบหน้าหวานๆ ของมะลิ ร่างกายเขาก็โอนเอน คลื่นไส้ตีขึ้นมาทันที
“แหวะ—!”
เขาอาเจียนลงบนพื้นดินอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ มือสั่น น้ำตาซึม
หัวใจเต้นแรง ร่างกายอ่อนแรงประหลาด
และที่น่ากลัวกว่านั้น...คือความรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่าง เต้นอยู่ในท้องเขา
“...เป็นไปไม่ได้...กูเป็นผู้ชายนะเว้ย”
เขาพึมพำกับตัวเองอย่างสับสน
แต่ในใจลึกๆ กลับรู้สึกถึงบางสิ่งที่กำลังก่อตัวอยู่ภายในตัวเขา
ไม่ใช่แค่โรค ไม่ใช่แค่ฝันร้าย
มันคือ “ของ” ที่ใครบางคน ตั้งใจส่งมา
“คำภีร์...มึงทำอะไรกู...”
เขาอาเจียนลงบนพื้นดินอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ มือสั่น น้ำตาซึม
หัวใจเต้นแรง ร่างกายอ่อนแรงประหลาด
และที่น่ากลัวกว่านั้น...คือความรู้สึกเหมือนมีอะไร
"ตึ้ก... ตึ้ก... ตึ้ก..."
เสียงไม้เท้าเก่าของยายสา — เพื่อนแม่ — เดินมาที่แคร่
“มะลิ… ลูกบ่ดีแล้วล่ะ อ้ายคำภีร์มันกลับมาแล้วเด้อ”
หัวใจมะลิหล่นวูบ
มือที่ถือขันน้ำสั่นเล็กน้อย น้ำในขันกระเพื่อมราวกับสะท้อนใจเขาเอง
“อ้ายภีร์...?” เขาพึมพำ “…เขากลับมาทำไม”
“เฮ็ดพิธี... บอกจะล้างดวง ล้างเคราะห์ให่คนหมู่บ้าน”
ยายจันเบือนหน้าหนี แววตาไม่ไว้ใจ
แต่ที่มุมตาของยาย เห็นบางอย่างชัดเจน...
ผ้าขาวม้าเก่าๆ ที่ห้อยคอคำภีร์
ยันต์เลือดสีน้ำหมากตรงกลางอก
และดวงตาที่ จ้องมะลิแบบไม่ละสายตา — เหมือนรอเวลาบางอย่าง
“เด็กบ้า... กลับมากรุงเทพเถอะ ก่อนที่จะสายไปกว่านี้”
“หรือว่า… มึงรู้ตัวแล้ว?”
คำพูดของยายแทงใจ มะลิเงียบไปนาน
กลิ่นธูปจากบ้านคำภีร์ลอยมาแตะจมูก
กลิ่นเดียวกับที่เขาฝันเมื่อคืน
กลิ่นเดียวกับตอนที่เขารู้สึกเหมือนกำลัง...ตั้งครรภ์
เขาเงยหน้าขึ้นอย่างตัดสินใจ
“ยาย... มะลิบ่ยอมหนีอีกแล้ว”
บ่ายวันนั้น ฝนตั้งเค้า...
เมฆเทาหม่นคลุมหลังคาบ้านไม้ทั้งหมู่บ้าน
ต้นไม้เงียบกริบ นกไม่ร้อง
เสียงจักจั่นเงียบอย่างผิดปกติ
บรรยากาศราวกับห้วงเวลาหยุดหมุน...
มะลิกำลังจะลงจากบ้านไปซื้อน้ำขิงให้แม่
แต่พอเปิดประตูบ้านออกมา — ก็เหมือนมีเงาอะไรบางอย่างยืนอยู่ใต้ต้นลำไยหลังรั้ว...
ร่างนั้นสูงใหญ่ กล้ามแน่น
เต็มไปด้วยรอยสักยันต์ดำทะมึนที่ยังคงไหลซึมลงมาตามต้นแขน
ห้อยพระสามองค์คาดอก ไม่มีเสื้อ
สวมกางเกงขาสั้นบ้านๆ และไม่ใส่รองเท้า
แววตาคมดุจ้องมาเหมือนรู้ว่ามะลิกำลังจะเปิดประตู
“มะลิ…”
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยชื่อเขา เหมือนเสียงในความฝันซ้ำๆ
มะลิยืนนิ่ง ใจสั่นจนรู้สึกได้ว่าตัวเองหายใจไม่ทั่วปอด
ขาแข็งจนไม่กล้าก้าว
“เจ้าบ่คิดสิลาเจ้าของเลยติ?”
คำภีร์ถามเรียบๆ แต่ในน้ำเสียงนั้น...เหมือนมีดอกไม้แห้งและเลือดผสมอยู่
มะลิกลืนน้ำลาย หอบเบาๆ
“เฮา...ไปเรียน ไปทำงาน ไม่ได้ลาใผ…”
คำภีร์ยกมือขึ้น ชี้ไปที่หน้าท้องของมะลิ
มะลิสะดุ้งเล็กน้อย — เพราะจู่ๆ ก็รู้สึกแน่นท้องขึ้นมาเฉยๆ
“แล้วลูกในท้องนี่…
เจ้าบ่สิรับผิดชอบคำภีร์บ่ล่ะ?”
ฝนแรกของฤดูตกลงมาเปาะแปะทันที
ราวกับฟ้าครางรับเสียงเขา
มะลิตาเบิกโพลง — จับท้องตัวเองทันที
"เขารู้ได้ยังไง…?"
เสียงฝนยังตกไม่หยุด
มะลิยืนมองคำภีร์ใต้ต้นลำไยอยู่สักพัก — แล้วเขาก็หายไป เหมือนไม่เคยยืนอยู่ตรงนั้น
ทิ้งไว้แต่เงารอยเท้าเปียกน้ำ ที่ชัดบนพื้นดินแดงหน้าเรือน
หัวใจของมะลิเต้นระรัว
ร่างกายสั่งให้หนี แต่ขากลับพาเขาเดินไปอีกทาง...
ตรงไปยังบ้านคำภีร์ที่อยู่ถัดจากวัดเก่า — บ้านที่ปิดเงียบร้างมาสามปี
ประตูไม้แง้มอยู่
แค่แง้ม...แต่ข้างในกลับเย็นเยียบจนหนาวขึ้นมาเฉยๆ
มะลิก้าวเข้าไป — ห้องโถงยังคงเหมือนเดิม
เสื่อผืนเก่า หมอนอิงเก่า โต๊ะหมากรุกไม้
ทุกอย่างเหมือนหยุดเวลาไว้วันที่คำภีร์หายไป
“คำภีร์…” มะลิเอ่ยเรียกเสียงเบา
ไม่มีเสียงตอบ มีแค่เสียงฝน กับเสียงลมหายใจของตัวเอง
สายตาเหลือบไปเห็น รูปถ่ายเก่าในกรอบไม้
เป็นรูปเขากับคำภีร์ สมัยยังเรียนม.ปลาย — ถ่ายใต้ต้นพะยอม
รอยยิ้มของเขาถูกจ้องกลับมาจากในกรอบเหมือนมีชีวิต
แต่สิ่งที่ทำให้หัวใจแทบหยุดเต้น
คือตรงหน้ารูปถ่ายนั้น…มีถาดไม้จานหนึ่ง
ในนั้นมีดอกมะลิแห้งเรียงสี่ทิศ
ตรงกลางคือเส้นผมยาวหนึ่งเส้น และเล็บขบของเขา…ที่เขาเคยตัดทิ้งไปนานแล้ว
“เจ้าบุกมาหาของเจ้าเอง…”
เสียงหนึ่งดังจากหลังม่านแดงตรงห้องนอน
ม่านถูกแหวกออกช้าๆ
ร่างเปลือยท่อนบนของคำภีร์ ปรากฏในแสงตะเกียงเลือนราง
กล้ามเนื้อแน่นเต็มไปด้วยลายสักยันต์ขยับวูบไหว
มีหมากสีแดงอมดำคาบอยู่ที่มุมปาก — และแววตาดุดันเหมือนงูเห่าในป่าทึบ
“เจ้าอยากรู้บ่…ว่าในท้องเจ้านั่น ใผเป็นคนให้
มะลิถอยหลังอัตโนมัติ
แต่ร่างสูงก็ก้าวเข้ามาใกล้
ลมหายใจคำภีร์แตะผิวหน้า — กลิ่นน้ำมันจันทน์และสมุนไพรแรงจนมึนหัว
“คาถาที่กูผูกไว้กับวิญญาณของมึง…มันไม่ใช่แค่ ‘ของรัก’
แต่มันคือ ‘ของครอบครอง’ เข้าใจบ่…มะลิ”
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!