NovelToon NovelToon

พรพระจันทร์

Introduction

นิยายเรื่องเกิดขึ้นจากจินตนาการ

ตัวละครสมมติทั้งสิ้น

******

ตุ๊น้อยเป็นกระต่ายตัวผู้วัยเริ่มโตกำลังเข้าสู่วัยรุ่น ตุ๊น้อยถูกเลี้ยงโดยผู้ชายคนหนึ่ง

ตุ๊น้อยไม่รู้ว่าตอนเกิดตุ๊ชื่ออะไรเพราะไม่มีใครเรียกตุ๊ว่าตุ๊เลย

จนมาเจอกับผู้ชายคนนี้

ในวันหนึ่งกลางฤดูฝนตุ๊น้อยที่อาศัยอยู่ที่สวนสาธารณะกลางเมืองติดรถไฟฟ้ากระโดดร่าเริง

อยู่ท่ามกลางฝน ตรงนั้นมีสายตาของเจ้าตะกวดร่างเปรียวจับจ้องอยู่

"กระต่ายน้อยกรุบๆ กรอบๆ " ตะกวดหนุ่มจับจ้องแล้วค่อยๆ เคลื่อนตัวเร้นกายเข้าในพุ่มไม้เพื่อหา

โอกาสจับกระต่ายน้อย

ตุ๊น้อยในตอนนั้นยังคงระรื่น (?) วิ่งเล่นอย่างไม่รู้เรื่องราว

จนกระทั่ง

"พรึ่บ" เจ้าตะกวดตัวนั้นก็โผล่พรวดออกจากที่ซ่อนวิ่งถลาเข้าหาตุ๊น้อย

"เอ้ย..." ตุ๊น้อยวิ่งหนีด้วยแรงทั้งหมดที่มี ตะกวดหน้าตาหล่อเหลา (?) ต้อนตุ๊น้อยจนจนมุม

"เป็นของเราซะดีๆ ..." ตุ๊น้อยจ้องมองตะกวดหนุ่มอย่างตระหนก

"ไอ้หน้าแหลม...เอาหน้าออกไปห่างๆ นะ" ตุ๊น้อยตะโกนใส่

ตะกวดหนุ่มทำเพียงยิ้มใส่ แล้วซุกหน้าเข้าที่ลำคอ

"ถ้าเป็นของเรานะ...เราจะให้ผลไม้อร่อยๆ เจ้าทุกวันเลย" ตะกวดหนุ่มหว่านล้อม

"ไม่เอา..." ตุ๊น้อยดิ้นรนหนีอย่างเอาเป็นเอาตาย

ทันใดนั้นเอง...

"ปั้ก.." เสียงก้อนหินขนาดไม่เล็กกระแทกเข้ากลางลำตัวของตะกวดหนุ่มทำให้มันวิ่งหนีหาย

ไปในเงามืดของต้นไม้

"ตายรึยังนี่" มือใหญ่ๆ โอบตัวตุ๊น้อยเอาไว้

"เรายังไม่ตาย...ขอบใจมากนะ" ตุ๊น้อยในตอนนั้นทำได้เพียงส่งคำขอบคุณมาทางสายตา

มนุษย์ผู้ชายคนนั้นยิ้มอ่อนโยนแล้วรำพึงว่า

"โชคดีที่ไม่ตายนะ" รอยยิ้มมุมปากนั้นทำเอาตุ๊น้อยรู้สึกใจเต้นแรง

"กลับไปด้วยกันมั๊ย...อยู่ที่นี่ต้องโดนหม่ำเอาสักวันแน่" เขามองตุ๊น้อย

"..." ตุ๊น้อยเอาสองมือแปะลงที่นิ้วโป้งของชายหนุ่มแล้วซุกตัวเข้ากับฝ่ามือใหญ่ๆ นั้น

ตุ๊น้อยวันนั้นไม่ได้ใจง่ายนะ...ตุ๊น้อยแค่ตกหลุมรักรอยยิ้มนั้น...

วันนี้ตุ๊น้อยมานอนผึ่งแดดยามบ่ายที่ระเบียง

นอนเหยียดตัวไปมา พลางคิดทบทวนไปด้วยว่าช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี่ตุ๊น้อยสุขสบาย

เพียงใด

ตุ๊น้อยได้นอนในกรงที่มีผ้านุ่มๆ ปูเอาไว้ มีแครอทสีส้ม มีผลไม้แห้งอร่อยๆ กิน บางทีก็มีของ

เล่นอย่างพวกหญ้าแห้งแล้วก็ลูกบอลเด้งๆ ด้วย

"เฮ้อ..."ทั้งที่ตุ๊น้อยสบายใจมากๆ แต่ตุ๊น้อยก็ยังคงคิดอยู่ตลอดเวลาเรื่องความลับของตุ๊น้อย

 

 

ฝากเม้ามอยให้ชื่นใจกันกันบนทวิตเตอร์ด้วยนะคะ #เต่าตุ๊

Episode 1

ตุ๊น้อยกระโดดไปมาตรงระเบียง ตอนนี้พระจันทร์ขึ้นแล้วนะ...วันนี้มนุษย์คนนั้นยังไม่กลับมา

อีก มองไปรอบๆ มีถาดแครอทกับ อาหารแห้งวางอยู่ ตุ๊น้อยได้แต่หยิบแครอทเข้าปาก

"สงสัยจะงานยุ่ง" เสียงเปิดประตูด้านนอกทำให้ตุ๊น้อยมุดลอดผ้าม่านมาแอบมอง

วันนี้เขาดูอ่อนล้ากว่าทุกวัน เขาเดินรูดเนกไทออกจากคอแล้วเดินมาเปิดประตู

"ว่าไงเต่าตุ๊"นั่นแหละชื่อเต็มๆ ของตุ๊น้อย

"วันนี้กลับช้าจังเลยนะ" ตุ๊น้อยเคี้ยวแครอทในปากทำเป็นเมินๆ ใส่เขา

"ดูกินเข้าสิ...อร่อยสินะ พรุ่งนี้จะให้กินองุ่นนะ"

"องุ่นเหรอ..." เม็ดกลมๆ สีม่วงๆ อ่ะเหรอ ตุ๊น้อยตาวาว มองหน้าเขาแล้วแปะมือลงบนมือเขา

"สัญญาเลยนะ" ตุ๊น้อยทำท่าขึงขัง

"เอ้า...กินซะให้อิ่มเร็วๆ เขา จะพาเข้าบ้าน" เขาวางตุ๊น้อยลงปล่อยให้ได้แทะจนอิ่มก่อนจะช้อน

ตัวเข้าในอ้อมกอด กอดตุ๊น้อยจนตุ๊น้อยเริ่มจะเขิน

"นี่ๆ ...จะกอดให้ตัวแบนเลยรึไง" ตุ๊น้อยว่าหน้าแดงๆ ไม่กล้าสบตา

"วันนี้ผึ่งแดดทั้งวันเลยสินะ" เขาชอบจิมจมูกตุ๊น้อย มันเขินนะเขาคงไม่เขาใจ

"อย่ามาทำหน้าแบบนี้นะ มันเขินนะ" ตุ๊น้อยทำเป็นเลียขนตัวเองแก้เขิน

"เป็นกระต่ายนี่ดีจังน้า..." เขาว่าแล้วลูบหัวตุ๊น้อย

"ทำไมอีกละ...เป็นกระต่ายบางทีก็ไม่ดีนะ...เจ้าหน้าแหลมมันชอบมาไล่จับ" ตุ๊น้อยนึกถึงเจ้า

หน้าแหลมแล้วก็คิดว่าถ้าเขาไม่มาช่วยตุ๊น้อยคงโดนกินไปแล้ว (?)

เสียงโทรศัพท์ดังเขาก็รับเหมือนไม่ค่อยเต็มใจนัก

"ครับ...อ่อ ก็ไม่ได้ทำอะไรครับ" เขาเดินไปที่ตู้เย็นเปิดน้ำกินทำหน้าเหมือนหนักใจ

"ผมว่ามันไม่เร็วไปเหรอครับ" เท่านั้นตุ๊เห็นเขาเอาโทรศัพท์ออกห่างจากหู ทางโน้นคงว่าง

สายแล้ว

เขาส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะเดินไปหยิบของเตรียมอาบน้ำ

"ห้ามซนนะ เดี๋ยวออกมาเล่นด้วย"

"เล่นเหรอ..." ตุ๊น้อยแทบทนไม่ไหว รีบวิ่งไปตรงกรงตัวเองแล้วมองลูกบอลเอาไว้

เล่นๆๆๆ เล่นกัน

เพราะกลางวันตุ๊น้อยนอนมากแล้ว กลางคืนนี่ตุ๊น้อยไม่ง่วงเลย แทบไม่รู้สึก

คืนนี้พระจันทร์สว่างกว่าทุกคืน

ตุ๊น้อยกังวลใจแปลกๆ เวลาพระจันทร์เต็มดวงทีไรได้เรื่องทุกทีเลย เพระางั้นเวลาพระจันทร์

เต็มดวงทีไรตุ๊เลยเอาแต่นอนอยู่ในพุ่มไม้ไม่กล้าออกมาวิ่งเล่น

เจ้าหน้าแหลมก็เป็นเหมือนตุ๊น้อยนะ...ตุ๊น้อยเคยเห็นเจ้าหน้าแหลมมันเปลี่ยนร่าง

ตุ๊เองก็เปลี่ยนร่างเหมือนกัน นอกจากทั้งคู่ก็มีคุณป้าเต่า ก็ลุงนกกระจิบ

ใช่แล้วตุ๊น้อยเป็นพวกอาบแสงจันทร์ สัตว์ที่อาบแสงจันทร์จะมีพลังพิเศษที่สามารถเปลี่ยน

ร่างเป็นคน ทุกตัวที่เปลี่ยนร่างจะได้รับพรจากพระจันทร์ เพราะเก็บสะสมพลังพระจันทร์เอา

ไว้ เลยไม่ต้องรอให้จันทร์เต็มดวงก็สามารถเปลี่ยนร่างเป็นคนได้เหมือนกัน

แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยอยากจะเปลี่ยนกันนัก เพราะพวกเขาก็ยังคงชอบที่จะเป็นสัตว์

ลุงนกกระจิบบอกว่าเป็นคนบินไม่ได้

ป้าเต่าบอกว่าเป็นคนมันดูเร่งรีบเกินไป

ส่วนเจ้าแหลมบอกว่าเป็นคนก็ได้เป็นสัตว์ก็ได้ ตามแต่ตุ๊น้อยจะเป็นเพราะถ้าตุ๊เป็นอะไรมันก็

เป็นเหมือนตุ๊ ซึ่งตุ๊น้อยรำคาญ

คืนนี้เขานอนหลับอยู่เตียง...ส่วนตุ๊น้อยแอบปีนกรงออกมาแอบกระโดดหย็องแหย็งไปในห้องน้ำ

ปวดตัวจังแหะ... อาจเพราะไม่ยอมเปลี่ยนร่างเลยรึเปล่านะ ช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมาตุ๊น้อย

ไม่ยอมเปลี่ยนร่างเลย เพราะรำคาญเจ้าแหลม ก็เวลาตุ๊น้อยเปลี่ยนร่างนะ มันชอบมากอดรัด

ทำหน้าทำสายตาแปลกๆ ใส่ ตุ๊น้อยเลยชอบหลบอยู่ตามพุ่มไม้ในร่างสัตว์ของตัวเองให้มันไล่

จับกินเสียยังดีกว่า

"อื้มมม" ตุ๊น้อยหลับตาลงช้าๆ ร่างกระต่ายสีเทาแซมขาวค่อยกลายเป็นร่างเด็กหนุ่ม

โอย... แปลกๆ แหะ... ตุ๊น้อยค่อยๆ ยืนขึ้น เงาในกระจกสะท้อนเด็กหนุ่มร่างกายผอมบาง ตาสี

น้ำตาลเข้ม ผมสีเทา ใบหน้าไร้เดียงสา

"โฮ่ะ..." ตุ๊น้อยเอียงซ้ายขวาไปมา บิดตัวไล่ความเมื่อย

ตุ๊น้อยคว้าผ้าขนหนูสีขาวที่พาดอยู่ใกล้มาคลุมตัวเอาไว้ ก่อนค่อยๆ ย่องออกมา

แสงจันทร์สาดแสงเข้ามาตรงระเบียงพาดผ่านมาถึงคนบนเตียงเลยด้วยซ้ำ

ตุ๊น้อยมายืนใกล้เตียงมองเขาเงียบๆ

เวลานอนเขามักจะนอนขมวดคิ้วตลอดเหมือนมีเรื่องให้คิดเยอะแยะ

เอ...หรือจะต้องคิดเยอะจริงๆ

อยู่กันมาจะเดือนนี่ ตุ๊น้อยไม่เห็นเขาจะทำอย่างอื่น กลับมาถึงบ้านกินข้าวอาบน้ำ เล่นกับตุ๊น้อยแล้วก็เปิดคอมพิวเตอร์หน้าเครียดๆ ตลอดเลย

"นี่ๆ ...อย่าเครียดมานะ...ตุ๊น้อยเป็นห่วงนะ" ตุ๊น้อยเอื้อมมือไปแตะที่แก้มสากๆ ของเขา เขาขยับตัวเบาๆ มาทางตุ๊น้อย ตุ๊น้อยตกใจทรุดหมอบลงกับพื้นข้างเตียง

"เต่าตุ๊..." ตุ๊น้อยตกใจยิ่งกว่าเก่าเมื่อเขาเปล่งเสียงเรียกชื่อ

"อย่าซนนะรู้มั๊ย" แล้วทุกอย่างก็เงียบไป ตุ๊น้อยเอามือปิดทั้งปากและจมูกกลัวว่าเสียงลมหายใจ

ของตัวเองจะทำให้เขาจับได้

"..." ตุ๊น้อยค่อยๆ ชะโงกหน้าขึ้นมาดู

โธ่ แค่ละเมอ... ตุ๊น้อยโล่งใจและในขณะเดียวกันก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกเลย

ที่เขายังคิดถึงตุ๊น้อยแม้แต่ตอนที่เขาหลับ ตุ๊น้อยรู้สึกมีค่าและรู้สึกเหมือนกับว่าเขารักตุ๊น้อยมาก

เหลือเกิน

Episode 2

บทที่ 2

ตุ๊น้อยกระโดดไปมาอยู่ในกรง

วันนี้เขาไม่ไปทำงานตุ๊น้อยเห็นเขานอนนิ่งๆ ท่าทางเหมือนจะไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ ทั้งที่ตุ๊น้อยก็ขยับผ้าห่มให้เขาแล้วเมื่อคืน

การห่มผ้าให้ต้องดูจะเป็นเรื่องเคยชินซะแล้วสำหรับตุ๊น้อย

เพราะทุกครั้งที่เปลี่ยนร่างตุ๊น้อยจะคอยนั่งมองเขาอยู่ข้างๆ เตียง คอยห่มผ้าให้ต้อง

แต่เมื่อคืนก่อนเขานอนดึกมากส่วนเมื่อคืนก็กลับมาดึกจนพระจันทร์เกือบจะหายไป

ตุ๊น้อยนั่งรอเขาอยู่ที่ระเบียง...น้ำค้างแรงมาก

ตุ๊น้อยก็หนาวนะ แต่โชคดีที่มีผ้าวางอยู่ตรงระเบียงด้วย ตุ๊น้อยเลยนั่งเล่น

นอนเล่นบนผ้านั้น จวนเที่ยงแล้ว เขายังไม่มีทีทางจะตื่น

ตุ๊น้อยตัดสินใจกระโดดออกจากกรงแล้วเปลี่ยนร่าง

ตุ๊ไม่เคยเปลี่ยนร่างตอนกลางวันเลย รู้สึกเขินๆ

หันไปเห็นเสื้อยืดของเขาหล่นใกล้ๆ ตะกร้าเลยคว้ามาใส่ก่อน

"นี่ๆ ..." ตุ๊น้อยสะกิดเขา

แต่ท่าทางจะไม่มีสติ พอเห็นท่าไม่ดีเลยเอามืออัง ไอร้อนผ่าวทำเอาตุ๊น้อยตกใจ

"ร้อนยังกะไฟแน่ะ..." ตุ๊น้อยคิดๆๆๆ

ทำยังไงดีหว่า

พอไปยืนตรงระเบียบเห็นนกกระจิบกระจอกเกาะอยู่หลายตัว

ส่งเสียงคุยกันจอแจ

"นี่..." ตุ๊น้อยส่งเสียงทัก

"..." เสียงเหล่านกที่จอแจเงียบกริบทันที

"เราเป็นกระต่ายที่ชอบนอนผึ่งแดดตรงนี้ไง"

ตุ๊น้อยขยายความ

"...เป็นพวกได้รับพรสินะ"

กระจิบสาวนางหนึ่งเหล่มอง

"มนุษย์ในห้องกำลังป่วย..ตุ๊น้อยจะต้องทำยังไง"

"เป็นห่วงเป็นใยมนุษย์เหรอ...พวกนั้นจ้องจะทำร้ายเรา"

นกกระจอกหนุ่มบินมาเกาะที่ราวระเบียง

"เขาเป็นคนให้อาหารเรานะ" ตุ๊น้อยบอก

จริงๆนะ ต้องคอยเอาอาหารอร่อยๆ ให้ตุ๊น้อย

"ก็เลยสงสารเขางั้นสิ" เหล่านกกระจิบหันมามองตุ๊น้อยเป็นตาเดียว

"ช่วยบอกทีเถอะ...ว่าต้องทำยังไง" ถึงอย่างนั้นตุ๊น้อยก็ไม่รู้จะถามเอาจากใคร

ก็คงต้องถามเอาจากนกกระจิบกระจอกเหล่านี้

"เคยเห็นพวกมนุษย์ทำความสะอาดให้กัน เอาผ้าเช็ดร่างกายให้อีกฝ่าย"

"เช็ดเหรอ" ตุ๊น้อยวิ่งไปหยิบผ้าหนึ่งผืนมาเช็ดร่างกายเขาอยู่ครู่หนึ่ง

ถูๆ ไปมาตรงแขนและขา

"เจ้าต้องเอาผ้าที่เปียกน้ำสิ..."

ตุ๊น้อยเลยจุ่มผ้าลงในน้ำแล้วเช็ดเขา โชคดีที่ผ้าไม่ได้ชุ่มโชกเท่าไหร่

ไม่อย่างนั้นต้องอาจป่วยหนักกว่าเดิม

"อย่างนี้แล้วยังไงต่อ"

ตุ๊น้อยหันไปถามกระจอกสาว

"กอด แล้วก็จุมพิตที่หัวของเขาด้วย"

ตุ๊น้อยพยักหน้าแล้วหันมาซบลงบนอกอย่างรวดเร็วและจุมพิตแผ่วที่หน้าผากของต้อง

ตุ๊น้อยไม่ค่อยได้มองต้องในระยะใกล้ๆ เท่าไหร่นักแต่ครั้งนี้มันใกล้เหลือเกิน

"..." ทำไมต้องถึงดูน่าเข้าใกล้แปลกๆ

กันนะ ตุ๊น้อยสัมผัสริมฝีปากลงบนปากของเขาอย่างเผลอไผล

"อ่ะ..."

ตุ๊น้อยตกใจกับการกระทำของตัวเอง พวกนกกระจอกทั้งหมดต่างเงียบเสียงลงอย่างน่าประหลาด

"กระต่ายข้าบอกให้จุมพิตที่หัวอย่างเดียว..."

นกกระจอกสาวบอกก่อนจะบินจากไป

"ไม่เป็นไรนะ

ข้าเห็นตึกฝั่งโน้นก็จุมพิตกันที่ปาก อ่อ...ทั้งที่เป็นตัวผู้เหมือนกันเสียด้วย

เจ้าไม่ต้องคิดมากนะ" กระจอกหนุ่มและฝูงบินออกไปจากระเบียงแล้ว...

ตุ๊น้อยรู้สึกเหมือนจะไม่สบายขึ้นมาบ้างแล้วสิ...

"ทำไมร้อนอย่างนี้นะ" ตุ๊น้อยยืนขึ้นก่อนจะหันมามองต้องอีกที

"หายไวๆ นะ"

ตุ๊น้อยถอดเสื้อโยนกลับที่เดิมแล้วก็เปลี่ยนร่างกลับเป็นกระต่าย บางทีตุ๊น้อยคงจะง่วงเลยตัดสินใจกระโดดหลบไปนอนตรงหน้าระเบียง

ลมโชยเบาๆ ทำเอาตุ๊น้อยเคลิ้มอย่างบอกไม่ถูก...

หลับสักตื่นนะตุ๊น้อย...

ผมชื่อ ต้องทำงานออฟฟิศเป็นเจ้าหน้าที่บัญชีในบริษัทแห่งหนึ่งแถวๆ

ย่านอโศก ทำงานอยู่ในเมืองใหญ่คนเดียวส่วนพ่อก็เพิ่งเสียไปเมื่อปีก่อน

ตอนนี้เหลือแต่แม่ที่อาศัยอยู่กับพี่สาวที่ขอนแก่น

ผมเองรักความเป็นส่วนตัวพอสมควรเลยตัดสินมาทำงานที่กรุงเทพฯ ซื้อคอนโดฯ ใกล้ๆ

กับสวนสาธารณะ ใกล้รถไฟฟ้าเดินทางสะดวก

เมื่อเดือนก่อนผมเห็นกระต่ายตัวเล็กกำลังจะถูกตะกวดกินเลยช่วยเอาไว้

ตอนนี้ก็เลี้ยงเอาไว้เป็นเพื่อน จะบอกว่าแก้เหงาก็ไม่เชิงหรอกครับ

เพราะปกติผมก็ไม่ได้เหงาอะไรมากมาย เมื่อวานผมประชุมทั้งวัน เพราะใกล้จะมีการตรวจสอบบัญชีประจำปีแล้ว

พอกลับมาถึงห้องก็รู้สึกหนักๆ หัวเมื่อไข้หวัดจะเล่นงาน

อยากจะหลับแต่พอเปิดประตูมาแล้วเห็นเต่าตุ๊ที่มุดม่านมามองเหมือนรอคอยผม แล้วมันก็อดจะเล่นด้วยไม่ได้

"ทำไมแกรีบกลับจังวะไม่ไปสังสรรค์กับพวกข้าก่อนอ่ะ"

เจ้าพจน์เป็นเพื่อนที่อยู่ฝ่ายบริหาร ตำแหน่งสูงกว่าผมที่เป็นเจ้าหน้าที่บัญชีแต่มันไม่ค่อยสนใจหรอกครับ

มันไม่ค่อยแคร์คนอื่น ที่รู้จักกันเพราะมันเรียน ม.ปลายที่เดียวกับผมแถมอยู่กลุ่มเดียวกันมาตลอด

"เลี้ยงกระต่ายไว้หว่ะ...ต้องรีบกลับไปให้อาหาร"

ไม่รู้ทำไมเวลาพูดถึงเจ้าตัวเล็กผมถึงอมยิ้มตลอดเลย

เจ้ากระต่ายตัวน้อยนั่นเหมือนฟังภาษาคนรู้เรื่อง เวลาบอกว่าอย่าทำก็ไม่ทำ

บอกให้หยุดก็หยุด ยิ่งเวลาที่เอามือมาแตะนิ้วผมเหมือนกับว่า ตั้งใจนะ รับรู้นะ ผมว่าถ้าเป็นคนต้องน่ารักมากแน่ๆ

ว่าแต่เจ้าตัวเล็กนี่เป็นตัวผู้หรือตัวเมียกันนะ

ผมไม่เคยสังเกตสักที

ผมตื่นนอนมาอาการปวดหัวพอสมควร เหมือนจะฝันว่ามีเด็กผู้ชายคนหนึ่งมาเช็ดตัวให้

ภาพในฝันมันเลือนรางจนผมแทบไม่ได้เห็นหน้าเขาอย่างชัดเจน

เพียงแต่ในฝันเสียงนกกระจอกดังเจี๊ยวจ๊าวน่ารำคาญที่สุด

"เต่าตุ๊..."

ผมชะโงกหน้ามองหาเจ้าตัวน้อย เห็นว่านอนผึ่งแดดสบายใจอยู่ที่ระเบียง

"หึ..."ลุกขึ้นทั้งที่ยังโงนเงนอยู่

เดินไปนั่งแปะอยู่ข้างๆ

เต่าตุ๊นอนหลับพริ้ม ข้างๆ มีแครอทแหว่งๆ

วางอยู่สงสัยจะกินอิ่มแล้วเผลอหลับไปแน่ๆ

"นี่...หลับไม่รู้เรื่องเลยนะ...ตื่นมาเล่นกันหน่อยเร็ว"

ผมเขี่ยหูเบาๆ เต่าตุ๊ทำท่าทางขี้เกียจ เหยียดยาวพลิกมามองผมนิดนึงก่อนจะลุกมานั่งเอียงคอมอง

"นี่ๆ ...ทำตัวเหมือนหมาเชียวนะ

กินอิ่มแล้วอ่ะดิ่ มานี่มา เล่นบอลกันมั๊ย" ผมทำท่าจะลุกไปหยิบลูกบอลเด้งมา

แต่เต่าตุ๊กลับกระโดดมาพาดอยู่ที่ขาผม แต่ดูท่าจะติดพุงกลมของเจ้าตัวเลยต้องปีนๆ

มานั่งให้เข้าที่ ดูเหมือนจะยังมึนน่าจะยังไม่อยากตื่น

"เอ้า แล้วจะลุกไปหยิบบอลยังไงละ"

ทั้งที่เต่าตุ๊ตอบผมมาไม่ได้ แต่แววตาที่มองมามันเหมือนจะบอกว่าให้นั่งอยู่เฉยๆ

ลมโชยเย็นๆ

ทำเอาผมอยากนอนอีกรอบเลยตัดสินใจทิ้งตัวลงพิงประตูนั่งเพลินๆ อีกหน่อย

เขาหลับไปแล้ว...ดีใจที่ลุกขึ้นมาจากเตียงสักที

ตุ๊น้อยกำลังหลับอยู่ก็มาแกล้งกวนใจจนตื่น พอตื่นมาก็ชวนเล่น

นี่ไม่ได้ดูสังขารเลยสินะ หน้าตาซีดๆ กับผมยุงเหยิงนั่นน่ะ

ตุ๊น้อยเลยกระโดดทับเสียเลย เอาให้ไปไหนไม่ได้ จะได้นั่งเฉยๆ เสียบ้าง

เฮ้อ...ตรงนี้สบายจัง

ตุ๊น้อยก็เผลองีบไปอีกหน่อย

"กระต่ายที่ได้พรน่ะ...นอนหลับกับเจ้ามนุษย์นั่นอย่างนั้น

ท่าทางมีความสุขดีนะ" นกกระจอกหนุ่มที่บินผ่านมาได้แต่มองแล้วคิดในใจ

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!