NovelToon NovelToon

The Last ไวรัสล้างโลก

Episode [ 1 ] ความลับของนักเรียน.ปลาย

Episode \[ 1 \] ความลับของนักเรียนม.ปลาย

ในวันที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ สายน้ำกระจายตัวสาดเทลงมาจากท้องฟ้า ราวกับกระสุนปืนกระหน่ำยิงคัวอาคารขนาดใหญ่ในโรงเรียนมัธยมปลายชื่อดังแห่งหนึ่งในโซล ลึกเข้าไปในตัวอาคาร ห้องเรียนที่เต็มไปด้วยเสียงจอแจของนักเรียนที่กำลังจะเรียนจบในปีนี้และก้าวเข้าสู่การบรรลุนิติภาวะในรั้วมหาลัย ความใฝ่ฝันของหนุ่มสาวกว่าครึ่งคือการสอบเข้ามหาลัยดีๆ สักแห่ง ทว่า ก็มีบางส่วนที่มีความต้องการต่างออกไป ภายในห้องที่ดูสดใสปรากฏร่างหนึ่งที่นอนฟุบหน้าลงกับโต๊ะด้วยเสื้อผ้าที่เปรอะไปด้วยนมวัวตามศีรษะ มันเป็นภาพที่หาดูได้ทั่วไปในรั้วโรงเรียน ยิ่งเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียง การใช้ความรุนแรงนั้นจะถูกมองข้ามอย่างง่ายดายหากผู้ก่อเหตุคือลูกหลานของเจ้าของบริษัทใหญ่โต แน่นอนว่าที่นี่ก็เช่นกัน

ไม่นานหลังจากที่นักเรียนชายดังกล่าวพึ่งนั่งฟุบหน้าลง ชายขี้เล่นหน้าตาดีคนหนึ่งได้กอดคอเพื่อนของเขาเข้ามาและคว้าที่คอเสื้อด้านหลังของนักเรียนชายคนนั้นเอาไว้ ขณะเดียวกันนั้น เพื่อนๆ ในห้องได้หันมามองเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่ทุกคนก็กลับไปใช้เวลากับเพื่อนสนิทเช่นเคย ด้วยความที่เป็นโรงเรียนชื่อดัง เวลาพักจึงมีให้แทบทุกชั่วโมง เนื่องจากนักเรียนส่วนใหญ่ของที่นี่เป็นเด็กที่มีชาติตระกูล จึงไม่แปลกที่โรงเรียนจะเอาอกเอาใจเป็นพิเศษ เมื่อเด็กนักเรียนชายถูกคว้าตัวขึ้นมา เขามีสภาพที่อ่อนแรงมากราวกับถูกเล่นงานมาก่อนแล้ว ชายขี้เล่นหน้าตาดียกมือขึ้นตบหน้าเขาเบาๆ พร้อมพูดอย่างนึกสนุก

" นี่ ...ชาจองอู เล่นซ่อนแอบสนุกมั้ย? 55555 แกนี่มันน่าตลกเป็นบ้า ฉันแค่หยอกเล่นนิดเดียวเอง เข้าใจมั้ย? แค่หยอกเล่นตามประสาเพื่อนเฉยๆ น่ะ สีหน้าแกดูเหมือนจะไม่พอใจนะเนี่ย อา ...ให้ตายสิแกนี่มันชวนหงุดหงิดจริงๆ ไอ้ขยะ " เขาจ้องมองเพื่อนของเขาที่ยกตัวนักเรียนชายที่ถูกเรียกว่าชาจองอูก่อนจะพูดนิ่งๆ ว่า " จับมันคุกเข่าซะ "

เพื่อนๆ ที่ล้อมตัวจองอูกระแทกเท้าลงไปที่ข้อพับจนจองอูล้มลงไป ใบหน้าของจองอูแสดงออกถึงความเจ็บปวดออกมาสั้นๆ ชายขี้เล่นหน้าตาดีหัวเราะสนุกสนานก่อนหวดหน้าแข้งใส่ใบหน้าของจองอูที่บอบช้ำอยู่ก่อนอย่างรุนแรง เสียงโครมดังขึ้นขณะที่ร่างของจองอูกระแทกกับโต๊ะของเขา ชายขี้เล่นหน้าตาดียังคงไม่หยุดแค่นั้น เขายกคอเสื้อของจองอูด้วยมือซ้ายและกระหน่ำชกเขาด้วยมือขวา

ด้วยร่างกายที่อ่อนแรง จองอูทำได้แค่ยกมือขึ้นมาบดบังเอาไว้แม้มันจะไม่ช่วยอะไรเลยก็ตาม จองอูไม่ส่งเสียงอะไรออกมาเนื่องจากเขาเป็นใบ้ ตามข้อมูลในประวัตินักเรียน กล่องเสียงของเขามีปัญหามาตั้งแต่มัธยมต้น จนกระทั่งตอนนี้เขาก็ไม่เคยส่งเสียงพูดออกมาเลยสักคำ ทำให้ทุกคนทราบกันดีว่าชาจองอูนั้นเป็นใบ้ จากนั้นมา การบูลลี่ที่แสนน่ารังเกียจก็เกิดขึ้นกับเขาทุกวี่วัน ไม่เคยมีวันไหนที่จองอูได้รับความเป็นธรรมจากโรงเรียนแห่งนี้

" ทำไมไม่พูดอะไรบ้างล่ะหะ? ...จริงสิ แกเป็นใบ้นี่หว่า 55555 ให้ตายสิน่าขนลุกเป็นบ้า แกใช้ชีวิตมาจนถึงตอนนี้ได้ยังไงวะ ไม่รู้สึกขายหน้าบ้างหรือไง พูดไม่ได้แบบนี้ทำเอาฉันสงสารครอบครัวแกจริงๆ ที่ให้กำเนิดลูกชายไม่ได้ความแบบแก 555555 "

พูดจบเขาก็ยังคงต่อยตีจองอูไปเรื่อยจนกระทั่งอาจารย์เดินเข้ามาเห็น ชายกลางคนสวมแว่นตาจ้องมองอย่างเพิกเฉย เขาไม่สนใจร่างโรยรินที่นอนอยู่ข้างโต๊ะเลย ไม่แม้แต่จะพูดถึง เขาขยับแว่นตาหนึ่งครั้งและเดินไปด้านหลังโต๊ะหน้าชั้นเรียน

" นักเรียนพัคยองซอล ...อาจารย์บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเอะอะเสียงดังน่ะ มันรบกวนห้องอื่นนะ "

ชายขี้เล่นหน้าตาดีถูกเรียกชื่อตักเตือน มันดูเสแสร้งมากกว่าการโกหกเสียอีก พัคยองซอลหัวเราะสดใสให้กับอาจารย์ประจำชั้นอยู่ครู่หนึ่ง

" อา ...ต้องขอโทษจริงๆ ครับอาจารย์ คราวหน้าคราวหลังจะระวังให้มากขึ้นนะครับ "

" อืม ดีแล้วล่ะที่เข้าใจ "

อาจารย์ประจำชั้นดูมีใบหน้าที่ยิ้มแย้ม กระทั่งตอนนี้นักเรียนจองอูยังไม่สามารถลุกขึ้นเองได้ ไม่มีใครในห้องต้องการช่วยเขา สาเหตุทั้งหมดมาจากพัคยองซอล เขาเป็นลูกชายคนเล็กของ สส.พัคซูฮยอง ส่วนแม่ของเขาก็เป็นนักข่าวชื่อดัง ไม่ว่าจะเรื่องผิดกฏหมายอะไร เขาก็รอได้เสมอเพราะครอบครัวของเขา มันไม่ใช่แค่อำนาจเงินตรา ที่น่ากลัวคืออำนาจของพี่ชายของเขา โชคร้ายที่ตอนเข้ามาใหม่ๆ จองอูถูกรู้ทีหลังว่าเป็นใบ้ พัคยองซอลเลยมักรู้สึกสนุกเวลาได้แกล้งเขา เนื่องเพราะจองอูไปฟ้องใครไม่ได้ ทุกคนรู้ว่าทำไม

ต้องรู้ก่อนว่าในโรงเรียนนี้ไม่ใช่แค่พัคยองซอลที่มีอิธิพลต่อระบบภายใน หากรวมพัคยองซอลไปด้วยก็มีถึง 7 คนที่เปรียบเสมือนพระเจ้าในโรงเรียนแห่งนี้ ทุกคนทราบกันดีว่าการยุ่งเกี่ยวกับพวกนั้นจะนำพาแต่ความหายนะ นั่นคือสาเหตุหนึ่งที่ไม่มีใครกล้าช่วยเหลือชาจองอู

คาบเรียนได้ดำเนินไปขณะที่ฝนตกหนัก เสียงกระหน่ำของสายน้ำดังระรัวราวกับไม่มีที่สิ้นสุด ทุกคนเริ่มประหลาดใจเพราะฝนตกมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว แถมยังหนักขึ้นเรื่อยๆ เหมือนโรงเรียนอยู่ใต้น้ำตกขนาดมหึมา ทุกคนไม่ได้ใส่ใจมากนัก แค่คิดว่ามันเป็นเพียงแค่ฝนที่ตกหนักกว่าปกติ ในเวลานี้ชาจองอูได้เดินไปตามทางเดินไปตรงไปที่ห้องน้ำด้วยร่างกายที่ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกมา ทุกคนรู้สึกขยะแขยงจนต้องหลีกทางให้ เขาเดินมาจนถึงจุดหมายและเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับนั่งลงบนฝาชักโครก จากนั้น ดวงตาเย็นชาอำมหิตราวกับมันกำลังกระหายเลือดได้ผุดขึ้นบนใบหน้าของเขา

'ไอ้เวรนั่น ...เมื่อไหร่จะหยุดทำเรื่องไร้สาระแบบนี้สักทีนะ ให้ตายสิต้องมาอยู่ห้องเดียวกับตัวปัญหาก่อนเรียนจบแบบนี้น่าปวดหัวเป็นบ้า'

ในกระเป๋าของเขามีบุหรี่อยู่ จองอูหยิบขึ้นมาพร้อมจุดไฟด้วยไฟแช็คที่ซ่อนเอาไว้ในรองเท้า บุคลิกของเขาแตกต่างจากสิ่งที่ทุกคนเคยรู้จักและคุ้นชิน จองอูนั้นมีอดีตที่ไม่สามารถเปิดเผยต่อใครได้ ความจริงแล้ว เขาเป็นนักฆ่าขององกรลับที่กระจายตัวอยู่ทั่วโลก การมีอยู่ขององค์กรลับที่ถูกเรียกว่า 'Chaos' เป็นสิ่งที่ไม่มีตัวตนอยู่ในสังคมเบื้องหน้า หากแต่เป็นสิ่งที่ซุกซ่อนอยู่ในเงามืดของสรรพสิ่ง ชาจองอูเป็นนักฆ่าที่ทำงานให้ Chaos ตั้งแต่เด็ก ภารกิจนับไม่ถ้วนที่เขาเคยผ่านกระทั่งภารกิจที่ไม่มีทางเป็นไปได้เขาก็สามารถทำได้สำเร็จจนกลายเป็นตำนานของนักฆ่าอายุน้อยที่สามารถติดบอร์ด 'จัดอันดับ' ขององกรได้อย่างง่ายดายและเขายังเป็นนักฆ่าที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ครอบครองแรงค์อันดับที่ 1 ถึงแปดปีซ้อน เขาใช้ชีวิตโดยการกลายเป็นคนใบ้ตั้งแต่เข้ามัธยมต้น มันเป็นกฏที่แน่นอนที่นักฆ่าห้ามพูดความลับขององกรออกไป เขาจึงจำเป็นต้องกลายเป็นคนใบ้เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกจับไปสอบสวนหากความแตก มีแค่คนในองค์กรที่รู้ว่าเขาไม่ได้เป็นใบ้ ส่วนแม่ของเขาที่ป่วยอยู่ต้องการให้เขาเข้ามหาลัยดีๆ เขาจึงจำเป็นต้องเรียนหนังสือเพื่อแม่ของเขา

สาเหตุที่จองอูต้องกลายเป็นนักฆ่าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะพ่อของเขาเองก็เป็นนักฆ่าที่ติดบอร์ดจัดอันดับขององกร เขาถูกเคี่ยวเข็ญมาตั้งแต่ห้าขวบให้จับปืนที่สามารถหักแขนของเขาได้ เขาถูกปฏิบัติราวกับหุ่นเชิดของพ่อที่ต้องการให้ลูกชายอย่างจองอูเดินตามทางที่เขาปูเอาไว้ จนในที่สุดจองอูก็กลายเป็นนักฆ่าที่แม้แต่ปีศาจยังต้องหวาดกลัว เขาเคยฆ่าคนทั้งบาร์ด้วยมีดหั่นสเต็กและฆ่าคนทั้งตึกด้วยปืนกระบอกเดียว ความจริงอันเวอร์วังนี้ส่งผลให้เขาค่อยๆ โด่งดังในองค์กร ทว่าพ่อของเขาก็เริ่มหวาดกลัวจองอูที่ค่อยๆ หลอมรวมกับความมืดมิดในองค์กร พ่อเกือบจะฆ่าแม่เพราะแค่ต้องการฆ่าเขาด้วยความโกรธเขาจึงลงมือฆ่าพ่อแท้ๆ ของตัวเอง แม่ของเขากลายเป็นเจ้าหญิงนิทราเพราะผลจากอาการหวาดกลัวในวันนั้น หลังจากแม่เขาเข้าโรงพยาบาลเขาตัดสินใจว่าจะรามือจากองค์กรและเริ่มใช้ชีวิตปกติเมื่อสามปีก่อน การหายตัวไปของคนที่ได้ฉายาว่าความตายไร้เสียงก่อให้เกิดความโกลาหลในองค์กร แต่เพราะในองค์กรไม่มีการบันทึกข้อมูลใดๆ ของนักฆ่า ทำให้ตัวตนของเขาได้จางหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ครื้นนนนน!

ในขณะนั้น จู่ๆ ตัวอาคารก็เกิดการสั่นไหว ถาพภายนอกนั้นหากมองจากหน้าต่างสามารถเห็นกลุ่มควันบางอย่างที่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง คล้ายกับคลื่นทะเลสีขาวกำลังใกล้เข้ามาด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ ทุกอย่างเกิดความโกลาหล แต่ก็ไม่สามารถหนีพ้นจากสิ่งนั้นไปได้ ทันทีที่กลุ่มควันสีขาวปะทะเข้ากับสิ่งก่อสร้างในโรงเรียน จองอูที่ยังนั่งอยู่ในห้องน้ำต้องรับแรงกระแทกจากบางอย่างคล้ายกับแรงระเบิด ความรุนแรงของมันส่งผลให้บางส่วนของตัวอาคารที่เข้าปะทะถูกพัดปลิวไป จองอูนอนกลิ้งไปมาให้ห้องน้ำที่สั่นไหว จากนั้นทุกสิ่งก็มืดลง

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

นิ้วของจองอูเริ่มขยับ เขารับรู้ถึงบางสิ่งที่ทับตัวเขาเอาไว้ จองอูค่อยๆ ได้สติขึ้น ดวงตาที่พร่ามัวกำลังจับภาพเบื้องหน้าที่แยกกระจายออกเข้าหากัน สิ่งที่เขามองเห็นคือซากสิ่งก่อสร้างที่พังทะลาย เขาพยายามดันตัวเองให้ลุกขึ้น เศษหินปูนที่ทับเขาไว้ได้แยกตัวออก ศีรษะของจองอูได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทึ่เหลือก็เป็นแผลถลอกตามร่างกายที่ไม่ส่งผลอะไร เขาเดินออกมาจากห้องน้ำที่พังลง ด้านนอกเขาพบกับตัวอาคารที่เสียหาย ราวกับเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยังไม่เสร็จดี ทางเดินเปิดโล่งรับแสงแดด พอมองออกไปนอกรั้วโรงเรียนจากตรงที่เขายืนอยู่ สภาพของเมืองไม่ต่างจากซากอารยธรรมที่เก่าแก่

'เกิดอะไรขึ้น? ...เกาหลีใต้ถูกโจมตีงั้นเหรอ? แรงระเบิดเมื่อกี้มันรุนแรงมาก มันเกิดขึ้นได้ยังไง?'

ทันทีที่เขาคิด สิ่งต่อมาที่เขาตระหนักทำให้ดวงตาของจองอูต้องเปิดกว้าง

'แม่!?'

หัวใจของจองอูเริ่มเต้นระรัว เขาไม่รอช้าที่จะวิ่งตามทางเดินที่ผุพังอย่างช่ำชอง ไม่ว่าสิ่งกีดขวางตรงหน้าจะเป็นเศษอาคารที่ใหญ่โต แต่มันไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา จองอูเคลื่อนไหวอย่างแพรวพราวตามซากปรักหักพังจนกระทั่งออกมาจากอาคารเรียน เขารีบวิ่งออกไปจากที่นี่และมุ่งตรงไปยังโรงพยาบาลนาดึลรีที่อยู่ไม่ไกล ฝีเท้าของเขาสืบสาวอย่างไม่คิดชีวิต ตามถนนหนทางที่ราวกับวันสิ้นโลกมาเยือน ทุกสิ่งถูกกวาดด้วยแรงระเบิดเมื่อครู่นี้ เหลือเพียงโครงสร้างผุพังให้ดูต่างหน้า จองอูไม่ได้หยุดพักเลยสักวินาที หากเขาไม่ได้เป็นนักฆ่า เขาอาจคว้าเหรียญทองในกีฬาโอลิมปิก พอยิ่งใกล้โรงพยาบาล เขายิ่งรู้สึกกังวล จังหวะการหายใจของเขาผิดปกติส่งผลให้เขารู้สึกเหนื่อยจากการวิ่งเป็นเวลานาน

'เละกว่าที่คิดไว้ซะอีก'

จองอูไม่ลังเลที่จะฝ่าประตูเข้าไปแม้ระบบอัตโนมัติจะไม่ทำงาน กระจกนิรภัยที่แตกออกทำให้เขาสามารถผ่านไปได้อย่างไม่ยากเย็น ด้านในแน่นอนว่ามันเละเทะไปหมด เหล่าพยาบาลและคนไข้จำนวนมากถูกลูกหลงจากแรงระเบิดและยังคงไม่ได้สติ จองอูวิ่งขึ้นไปบนชั้น 3 ที่แม่ของเขาอยู่ เขาเห็นเส้นทางถูกหินถล่มเอาไว้ ที่แย่กว่านั้นคือจุดที่ถล่มเป็นห้องผู้ป่วยของแม่เขา หัวใจของเขากระสับกระส่ายอย่างบ้าคลั่ง จองอูพยายามยกเศษสิ่งก่อสร้างออกแต่มันมากเกินกว่าจะผ่านไปได้ เขามองซ้ายขวาและหันไปเจอห้องผู้ป่วยว่างๆ ที่เปิดอยู่เขาจึงคิดจะอ้อมไปทางหน้าต่าง

ด้วยความชำนาญในระดับมือฉกาจทำให้การเข้าห้องผู้ป่วยโดยใช้เส้นทางอื่นนอกจากทางเดินเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา ในที่สุดเขาก็เข้ามายังห้องที่แม่ของเขาพักอยู่ได้สำเร็จ จองอูถอนหายใจเพราะแม่ของเขายังคงปกติดี แต่ระบบการทำงานของโรงพยาบาลกลายเป็นอัมพาต ทำให้เขาไม่สามารถรู้ได้ว่าชีพจรของแม่ยังคงที่หรือไม่ การวัดด้วยนิ้วที่แตะตรงข้อมือไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัด อย่างน้อยตอนนี้แม่ของเขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหน เป็นเรื่องปาฏิหาริย์ที่เขาอยากให้เกิดขึ้นและมันก็เกิดขึ้นจริงๆ น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถพาแม่ให้ออกจากที่นี่ได้ จองอูกุมมือแม่ของเขาเอาไว้

'แม่ ...จนกว่าจะมีคนมา ผมจะไม่ไปไหนไกลแน่นอน'

ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะแรงระเบิดปริศนา เขายังไม่หายสงสัยว่าระเบิดนั้นเกิดขึ้นได้ยังไง แต่ที่แน่ๆ เขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้แม่ของเขาปลอดภัย ตอนนี้ทุกอย่างยังคงเป็นอัมพาต ทุกหน่วยงานน่าจะยังไม่เคลื่อนไหวในเร็วๆ นี้ จองอูมองถุงน้ำเกลือที่ร่อยหรอ เขาคงต้องหาอันใหม่มาเตรียมไว้หากสถานการณ์ยังย่ำแย่อยู่แบบนี้

เวลา 13:24 น. ผ่านไปราวๆ สองชั่วโมง ไฟฟ้าเริ่มกลับมาใช้งานได้บางส่วน ผู้คนที่หมดสติเริ่มฟื้นตัว เหมือนกับเวลาได้เริ่มเดินอีกครั้ง ทว่าสิ่งก่อสร้างทั้งหมดได้พังลงมาราวกับเกิดสงครามโลกครั้งที่สาม จองอูยังไม่ห่างแม่ของเขาแม้แต่ก้าวเดียวจนกระทั่งเสียงครึกโครมดังขึ้นจากด้านนอก หน่วยกู้ภัยได้มาถึงและเริ่มช่วยเหลือผู้คนที่บาดเจ็บ จองอูที่ออกมาดูสถานการณ์ถอนหายใจอย่างโล่งอก ตอนนี้เขาวางใจได้เปราะหนึ่ง

" เฮ้ย! ...มาดูทางนี้ที! คนคนนี้อาการไม่ดีเลย! "

" อะไรนะ!? ...เมื่อกี้ยังปกติดีอยู่เลยนี่ "

" ตรงนี้ก็ด้วยค่ะ! ...เหมือนกำลังชักอยู่เลย มีเส้นเลือดปูดตามศีรษะ เหงื่อออกมาก ตัวร้อนเหมือนคนจับไข้ ท่าไม่ดีแล้วนะคะ "

" พาคนที่มีอาการเดียวกันแยกตัวไปก่อน! ...คนไหนที่บาดเจ็บเล็กน้อยขอให้คุณหมอช่วยปฐมพยาบาลทีนะครับ! ส่วนคนที่เสียชีวิตพวกเราจะเก็บศพแล้วแจ้งทางครอบครัวให้ คนที่ยังพอขยับได้อยู่โปรดพึ่งพาตัวเองอย่าให้เกะกะทีนะครับ สถานการณ์ตอนนี้มีแต่ต้องช่วยกันเท่านั้น ตอนนี้พวกเรายังนับไม่ได้ว่ามีกี่คนที่ยังติดอยู่ด้านในเพราะเส้นทางถูกปิดเอาไว้ อีกเดี๋ยวจะมีหน่วยเสริมมาช่วยอีกแรง โปรดรอหน่อยนะครับ "

ชายกลางคนมากประสบการณ์ได้ออกปากพูดอย่างชำนาญชาญ เสียงของเขาชัดถ้อยชัดคำเหมือนทหารผ่านศึก การตัดสินใจของเขาส่งผลให้ทุกคนหาทางออกได้เร็วขึ้น ทุกอย่างเหมือนจะดำเนินไปได้ด้วยดี ทว่าอาการของคนที่ถูกแยกตัวออกไปเริ่มหนักขึ้น พวกเขาเหมือนคนคลั่งยาที่ไร้สติ จองอูมองอย่างเงียบๆ ในมุมหนึ่งที่ไม่มีใครสังเกตเห็น และแล้วสิ่งที่ยากจะเชื่อก็ได้เกิดขึ้น ร่างที่ชักอยู่บนพื้นดีดตัวลุกขึ้นมาจากนั้นก็กัดเข้าไปที่ลำคอของหน่วยกู้ภัยที่อยู่ใกล้ที่สุด ชายผู้เคราะห์ร้ายได้แต่กรีดร้องเสียงดังก่อให้ก่อความวุ่นวายระหว่างการช่วยเหลือ ไม่นานหลังจากนั้น คนที่ถูกกัดและคนที่มีอาการผิดปกติได้เริ่มอาละวาดโดยการไล่กัดหน่วยกู้ภัยและเหล่าคนในโรงพยาบาล

" เกิดอะไรขึ้น!? ...ทำไมพวกนั้นถึงคุ้มคลั่งขึ้นมา!? "

" พวกเขาไล่กัดคนของเราไปสี่คนแล้วครับ! ...ถ้าปล่อยไว้ล่ะก็แย่แน่ๆ! "

" นี่กำลังถ่ายหนังกันอยู่เหรอ!? ...ซอมบี้มีจริงที่ไหนกัน!? "

" อ๊าาาา! ...มันกัดฉัน! ช่วยด้ว\-! "'

จองอูปลีกตัวกลับขึ้นมายังชั้นที่สามของโรงพยาบาล เขายังสับสนกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนนี้ สถานการณ์ด้านล่างกำลังโกลาหล หากสิ่งที่เขาคิดไม่ผิด อีกไม่นานที่นี่คงจะเต็มไปด้วยพวกซอมบี้ แม้เขาจะไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้ แต่สิ่งที่เห็นตรงหน้านั้นชัดเจนเกินกว่าจะเป็นเรื่องโกหก เขาที่ผ่านการสังหารผู้คนมานับครั้งไม่ถ้วน การแยกแยะเลือดจริงกับเลือดปลอมนั้นง่ายแค่ชายตามอง เขาจึงยืนยันได้ทันทีว่าเลือดกองใหญ่ที่พุ่งออกมาจากลำคอของผู้เคาระห์ร้ายเหล่านั้นเป็นของจริง นี่ไม่ใช่เวลามาเถียงกับตัวเองว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ตอนนี้สิ่งจำเป็นที่สุดคือบางสิ่งที่สามารถช่วยชีวิตแม่ของเขา โชคดีที่ชั้นสามถูกอุดไว้ด้วยเศษซากที่ถล่มลงมา ที่เขาคิดว่าโชคดีกว่านั้นคือพวกมันอุดประตูห้องผู้ป่วยของแม่เขาเอาไว้พอดิบพอดี ทางเดียวที่จะผ่านไปได้คือทางหน้าต่างที่หวาดเสียว ต่อให้เป็นแค่ชั้นที่สาม มันก็สูงพอที่จะทำให้ตายได้หากเผลอตกลงไป

จองอูรีบนำถุงน้ำเกลือจำนวนหนึ่งมาไว้ที่ห้องผู้ป่วย เขาไม่มีความรู้ทางการแพทย์จึงไม่รู้ว่าสิ่งไหนจะช่วยให้แม่ของเขามีชีวิตอยู่ต่อไปได้ ยิ่งเป็นสถานการณ์ที่ตลกร้ายแบบนี้ เขาควรจะหาแพทย์สักคนให้คอยดูแลแม่ของเขา แน่นอนว่าแพทย์คนนั้นต้องเชื่อใจได้ จองอูมองออกไปด้านนอกอีกครั้ง เขาเห็นผู้คนกำลังวิ่งวุ่นกับการหนีจากซอมบี้ที่ไล่กวดตามหลัง บางคนก็ใช้กำลังกับพวกมัน แต่แม้จะถูกทุบตียังไง พวกซอมยี้ก็ไม่ได้รู้สึกถึงความเจ็บปวด

จองอูพึ่งนึกถึงสิ่งที่จำเป็นอีกอย่าง นั่นคือน้ำและอาหาร เขาไม่รู้ว่าจะยังมีอะไรหลงเหลือจากแรงระเบิดนั่นอยู่ แต่ถ้าหากไม่ลองก็อาจจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต เขาคำนึงถึงความปลอดภัยของแม่เป็นอันดับหนึ่ง แต่การหาแพทย์ที่น่าไว้ใจได้นั้นคงเป็นเรื่องที่ยาก ดังนั้นจองอูจึงตั้งใจว่าหากได้อาหารมามากพอแล้ว เขาจะใช้มันทดสอบเพื่อตามหาแพทย์ที่สามารถดูแลแม่ของเขา อย่างไรก็ตาม มันก็น่าโมโหที่เรื่องบ้านี่เกิดขึ้นตอนที่เขากำลังจะเรียนจบ สิ่งที่เขาอดทนผ่านมาได้สูญเปล่าไปโดยที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย จองอูมองชาวเมืองที่ถูกกัดอย่างเพิกเฉย กระทั่งคิดบางอย่างได้

'นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป แรงระเบิดนั่นอาจจงใจสร้างสิ่งเหล่านี้ให้เกิดขึ้น ...คำถามคือเพราะอะไร? สงครามงั้นเหรอ? หรือเกิดจากสิ่งที่เกินกว่าความคิดของเราจะเข้าถึง'

ในขณะที่เขากำลังใช้ความคิดอยู่ เสียงกรีดร้องจากข้างห้องดังออกมา มีคนกำลังทำร้ายกันอยู่ห้องข้างๆ แต่นั่นไม่ใช่กงการอะไรของเขา หลังจากที่ตัดสินใจได้แล้ว จองอูคิดจะไปหาเสบียงและใช้ชีวิตอยู่ที่นี่สักพักจนกว่าจะมั่นใจได้ว่าแม่ของเขาจะปลอดภัย เสียงจากข้างห้องเงียบลงแล้ว จองอูจับขอบหน้าต่างและกำลังจะปีนออก ทันใดนั้นร่างของชายคนหนึ่งได้กระแทกเข้ากับเขาส่งผลให้ทั้งคู่เสียหลักและเกือบตกลงไป จองอูคว้าขอบหน้าต่างได้ทันเวลา ส่วนชายฉกรรจ์อีกคนหนึ่งก็สามารถคว้าเสื้อของจองอูได้เช่นกัน เขาดูโกรธมากและหันมาต่อว่าจองอู

" ไอ้เด็กเหลือขอ! ...แกมองไม่เห็นฉันเหรอวะ!? "

เขามองเห็นมีดในมือของชายคนนั้น จองอูไม่สามารถมองข้ามคนอันตรายคนนี้ไปได้ มันอาจเกิดเรื่องยุ่งยากหากให้ชายคนนี้ผ่านเข้าไป เขารีบคว้าลำคอของชายฉกรรจ์และดึงเข้ามาเล็กน้อยก่อนจะชิงมีดมาได้

" สั\*เอ้ย! ...มึงจะหาเรื่องกูใช่มั้ยไอ้เด็กเวร! "

ชายฉกรรจ์ปล่อยหมัดใส่เขาอย่างไม่ลังเล จองอูควงมีดอย่างช่ำชองก่อนจะจ้วงแทงเข้าที่ท่อนแขนของชายฉกรรจ์จากนั้นก็ดึงร่างของชายฉกรรจ์เข้ามาแล้วก็ใช้มือที่ว่างอยู่อุดปากมันเอาไว้ จองอูยกคางของชายฉกรรจ์ขึ้น ใบมีดที่ถืออยู่ในมือซ้ายถูกตวัดปักเข้าที่ลำคอของชายฉกรรจ์จนมิดด้าม เขากรีดมีดจากขวามาซ้ายอย่างเรียบเนียนและเงียบเชียบ ร่างของชายฉกรรจ์สั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวดและนิ่งไปในที่สุด

'นี่เราลืมเรื่องสำคัญไปสนิทเลย ...ในสถานการณ์แบบนี้พวกหัวรุนแรงจะเป็นตัวปัญหา'

อาจมีเหตุบังเอิญที่พวกมันต้องการอาหารที่เขาหามาได้และใช้แม่ของเขาเป็นตัวประกัน ดังนั้นก่อนออกไปหาเสบียงข้างนอก เขาควรกำจัดคนพวกนี้ไปให้หมด ดวงตาของจองอูกลายเป็นปราศจากความรู้สึก มันเย็นยะเยือกน่าขนลุกกว่าเดิมหลายเท่าตัว เขาที่ต้องการทิ้งอดีตนองเลือดกลับหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะรื้อฟื้นความทรงจำให้กลับมาหลอกหลอนเขาอักครั้ง ตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในฐานะชาจองอู แต่เขากลับมาเป็นนักฆ่าเลือดเย็นแบบเดียวกับเมื่อในอดีต ทั้งหมดนี้ก็เพื่อปกป้องแม่ของเขา ใครก็ตามที่เขารู้สึกไว้ใจไม่ได้ เขาจะฆ่าทิ้งให้หมด

To Be Continued

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!