เสียงฝนยังคงกระทบหลังคาอย่างแผ่วเบา กลิ่นชื้นของดินเปียกทำให้บรรยากาศรอบตัวดูเงียบเหงาและเปราะบาง ขวัญฤดียืนอยู่ตรงหน้าประตูคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงทมิฬซึ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังจะก้าวเข้าไปในโลกที่แตกต่างไปจากชีวิตเดิม ๆ ที่เธอเคยรู้จัก กว่าที่เธอจะตัดสินใจเดินเข้ามาถึงจุดนี้ ต้องผ่านการคิดทบทวนและความหวังลาง ๆ ว่าที่นี่อาจเป็นหนทางเดียวที่ช่วยพยุงชีวิตเธอและแม่ให้ผ่านพ้นช่วงยากลำบากนี้ไปได้
“แม่บ้าน?” เสียงทุ้มต่ำเรียบแต่แฝงไปด้วยอำนาจและเย็นชา ตัดผ่านบรรยากาศยามค่ำคืน ทำให้ขวัญฤดีสะดุ้งเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลาของชายผู้นั้นที่เธอเคยได้ยินชื่อมานาน—ราเชนทร์ วาเลนเต้ มาเฟียเลือดผสมไทย-อิตาลี ผู้กุมอาณาจักรธุรกิจสีเทาที่ไม่มีใครกล้าแตะต้อง—ปรากฏอยู่เบื้องหน้าเขา ดูเคร่งขรึมและเต็มไปด้วยความลึกลับ
ขวัญฤดีสูดลมหายใจลึก กำกระดาษใบสมัครงานแน่นในมือ “ค่ะ... ดิฉันมาสมัครงานแม่บ้านค่ะ”
คำตอบนั้นทำให้ราเชนทร์ขมวดคิ้วอย่างไม่ไว้วางใจ เขาก้าวเข้ามาใกล้ราวกับต้องการสังเกตทุกอิริยาบถของหญิงสาวคนนี้ “เธอเป็นสายตำรวจหรือเปล่า?” น้ำเสียงเขาดุดัน ราวกับคำถามนี้ไม่ใช่แค่คำถาม แต่เป็นการทดสอบความจริงใจและความลับบางอย่างที่เขาระแวง
หัวใจขวัญฤดีกระตุกวูบ เธอส่ายหน้าอย่างมั่นใจ “ไม่ค่ะ ฉันแค่ต้องการทำงาน เพื่อดูแลแม่ที่ป่วยหนักค่ะ”
ราเชนทร์จ้องตาเธออีกครา เหมือนพยายามค้นหาอะไรบางอย่างในความลึกของดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้น ก่อนจะพยักหน้าอย่างครุ่นคิด
วันแรกที่ขวัญฤดีก้าวเข้าสู่โลกของราเชนทร์ เธอรู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่งานธรรมดา ทุกอย่างเต็มไปด้วยกฎเกณฑ์และการเฝ้าระวังตลอดเวลา การทำงานในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่เต็มไปด้วยความลับและเงื่อนไขซับซ้อน ไม่ใช่แค่เรื่องการทำความสะอาดหรือดูแลบ้าน แต่เป็นเหมือนการทดสอบความอดทนและจิตใจที่ต้องแข็งแกร่ง
ราเชนทร์ไม่เคยไว้ใจใครง่าย ๆ และเขาก็ไม่มีแผนจะให้ขวัญฤดีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตโดยง่ายเหมือนกัน เขาคอยจับตาดูเธอในทุกย่างก้าว ตั้งแต่การเดิน การพูดคุย ไปจนถึงการตัดสินใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ทุกอย่างถูกประเมินอย่างเข้มงวด แม้กระทั่งเพียงการหยิบจับของในบ้านก็ต้องระวังไม่ให้ผิดพลาด
ในคืนหนึ่ง หลังจากเสร็จงานตอนดึก ขวัญฤดีถูกเรียกตัวไปพบราเชนทร์ในห้องทำงานที่แสงสลัว เขานั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานใหญ่ ดูเหมือนคนที่เหน็ดเหนื่อยจากการบริหารธุรกิจและความเครียดต่าง ๆ แต่สายตาของเขายังคงเฉียบคมและเย็นชา
“ขวัญ... เธอไม่ใช่แค่แม่บ้านธรรมดาใช่ไหม?” ราเชนทร์ถามเสียงต่ำ และตรงไปตรงมา
ขวัญฤดีใจเต้นแรง แต่เธอไม่ปฏิเสธ “ไม่ค่ะ ดิฉันแค่คนธรรมดาที่อยากมีชีวิตที่ดีกว่านี้… แม่ของฉันป่วยหนักและฉันไม่มีทางเลือกอื่น”
ราเชนทร์เงียบไปชั่วครู่ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ “โลกของฉันไม่ง่ายเหมือนที่เธอคิดหรอก”
“ฉันรู้ค่ะ แต่ฉันก็จะไม่ถอย” ขวัญฤดีตอบด้วยเสียงที่หนักแน่น แม้ว่าจะรู้ว่าการยืนหยัดอยู่ตรงนี้หมายถึงการเผชิญกับอันตรายและความเสี่ยงมากมาย แต่เธอก็พร้อมจะสู้เพื่อแม่และเพื่ออนาคตของตัวเอง
ช่วงเวลาต่อมา ทั้งสองเริ่มมีความใกล้ชิดกันมากขึ้น ราเชนทร์ที่เคยเย็นชาและห่างเหิน เริ่มเปิดใจให้ขวัญฤดีเห็นอีกด้านหนึ่งที่ไม่เคยแสดงออกให้ใครเห็น—ความอ่อนโยน ความห่วงใย แม้ในวันที่เขาพยายามปกปิดมันไว้ลึก ๆ
แต่ความรักที่ก่อตัวขึ้นท่ามกลางความอันตรายก็ไม่ง่ายนัก ศัตรูเก่า ศัตรูใหม่ และเงามืดจากอดีตที่ราเชนทร์พยายามปกปิด กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้บ้านหลังนี้อย่างไม่หยุดยั้ง ความลับที่ถูกรักษาไว้มานานอาจทำลายทุกอย่างลงในพริบตา และขวัญฤดีอาจไม่ได้เป็นแค่แม่บ้านอีกต่อไป หากแต่กลายเป็นส่วนหนึ่งของสงครามเงียบที่อันตรายที่สุด
คืนหนึ่งในขณะที่ขวัญฤดีนั่งเฝ้าแม่ที่ป่วยอยู่ในห้องเล็ก ๆ ของบ้านหลังเล็กนอกคฤหาสน์ ความรู้สึกเหงาและหนักอึ้งกลับแทรกซึมเข้ามาในใจ เธอหลับตาลงและคิดถึงวันที่ต้องเดินเข้ามาที่นี่เป็นครั้งแรก ความกลัว ความหวัง และคำถามว่าชีวิตจะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง
แต่ในใจลึก ๆ เธอก็รู้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอจะไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับอันตรายหรือความเจ็บปวดเพียงใดก็ตาม
วันหนึ่ง ราเชนทร์เดินเข้ามาในห้องครัวที่ขวัญฤดีกำลังจัดเตรียมอาหารค่ำให้กับพนักงานในบ้าน เขายืนเงียบ ๆ มองเธอทำงานด้วยแววตาที่ซับซ้อน ก่อนจะเอ่ยขึ้น “เธอทำได้ดี... ขวัญ”
ขวัญฤดียิ้มบาง ๆ และตอบกลับอย่างจริงใจ “ขอบคุณค่ะ นายวาเลนเต้”
ราเชนทร์ขยับเข้ามาใกล้และพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาลง “ขวัญ... โลกของฉันอันตรายเกินกว่าที่เธอจะคิดไว้มากนัก ถ้าเธอตัดสินใจจะอยู่ที่นี่ ก็ต้องเตรียมใจให้ดี”
ขวัญฤดีมองหน้าเขาอย่างไม่กลัว “ฉันรู้… และฉันพร้อมจะเผชิญมันไปกับนาย”
สายตาของราเชนทร์เปลี่ยนไป เขายกมือขึ้นแตะที่แก้มของขวัญฤดีเบา ๆ เหมือนคนที่ไม่เคยแสดงความรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน “ขวัญ... เธอไม่รู้หรอกว่าฉันกลัวอะไรบ้าง”
“ถ้านายกลัว ฉันจะอยู่ตรงนี้ ให้กำลังใจนายเอง” ขวัญฤดีพูดด้วยหัวใจที่มุ่งมั่น
ราเชนทร์ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะกระซิบ “โลกของฉันเต็มไปด้วยพายุ... แต่ถ้าเธออยู่กับฉัน... ฉันจะพยายามเป็นที่พักพิงให้เธอเอง”
เสียงฝนหยุดตกแล้ว ความมืดเริ่มจางหายไปพร้อมกับแสงดาวที่ส่องสว่างบนฟากฟ้า ขวัญฤดีและราเชนทร์ยืนอยู่ด้วยกัน ท่ามกลางความเงียบสงบที่เต็มไปด้วยความหวัง และความรักที่กำลังเบ่งบานอย่างเงียบ ๆ ในใจของทั้งสองคน
เสียงฝนหยุดตกไปแล้ว แต่สายลมยังคงพัดเอื่อย ๆ ผ่านต้นไม้ใหญ่ที่ล้อมรอบคฤหาสน์ ขวัญฤดีนั่งอยู่ริมหน้าต่างห้องพักของเธอ หัวใจยังเต้นแรงจากคำพูดเมื่อคืนนี้ของราเชนทร์ แสงไฟสลัวส่องผ่านผ้าม่านบาง ๆ ทำให้เห็นเงาร่างของเธอที่ดูเปราะบางแต่มั่นคงในเวลาเดียวกัน
แต่ในใจลึก ๆ เธอรู้ว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น โลกของราเชนทร์ไม่ได้มีแค่ความหรูหราและอำนาจ หากเต็มไปด้วยเงามืดและอันตรายที่พร้อมจะกัดกินทุกอย่าง
เช้าวันต่อมา ขวัญฤดีตื่นแต่เช้า เตรียมอาหารและจัดการงานตามที่ได้รับมอบหมาย การทำงานในคฤหาสน์เต็มไปด้วยความกดดันและสายตาจับจ้องจากราเชนทร์
ราเชนทร์เข้ามาหาเธอในครัว รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏบนใบหน้าเขา “เมื่อคืนนี้ ฉันไม่เคยพูดแบบนั้นกับใครมาก่อน”
ขวัญฤดียิ้มตอบ “แปลว่าฉันพิเศษ?”
เขาเงียบไปครู่ ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เธอคือความเชื่อใจที่ฉันยังไม่เคยมี”
ขวัญฤดีรู้สึกอบอุ่น แต่ความสุขนั้นไม่ยืนยาว เมื่อได้รับโทรศัพท์แจ้งข่าวร้าย แม่ของเธอป่วยหนัก ต้องเข้าโรงพยาบาลเร่งด่วน
เธอรีบแจ้งลา ราเชนทร์อนุญาตโดยไม่ลังเล “ไปเลย ฉันจะดูแลที่นี่เอง”
ในขณะที่ขวัญฤดีอยู่โรงพยาบาล ราเชนทร์ต้องเผชิญกับการลอบสังหารที่คฤหาสน์ มือปืนไม่ทราบฝ่ายพยายามบุกเข้ามา
คืนที่ขวัญฤดีกลับถึงบ้าน ความเงียบที่ผิดปกติทำให้เธอใจหาย ราเชนทร์ยืนอยู่ตรงประตูหน้าบ้าน มือเปื้อนเลือด ดวงตาเยือกเย็น “คืนนี้ เธอจะรู้ว่าฉันไม่ล้อเล่น”
ราเชนทร์เดินเข้ามาใกล้ขวัญฤดี มือที่เปื้อนเลือดยังคงสั่นเล็กน้อย แต่สายตากลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “พวกมันไม่ใช่แค่ศัตรูธรรมดา... พวกเขาต้องการทำลายทุกอย่างที่ฉันรัก รวมถึงเธอด้วย”
ขวัญฤดีกำมือแน่น รู้ดีว่าชีวิตที่เลือกมานี้ไม่ได้ง่าย แต่ครั้งนี้เธอจะไม่ถอยอีกแล้ว “ฉันจะยืนข้างนาย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
ราเชนทร์เงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะดึงเธอเข้ามาใกล้ ริมฝีปากสัมผัสเบา ๆ ที่ขมับ “โลกของฉันอันตราย... แต่กับเธอ ฉันพร้อมจะเสี่ยง”
ในค่ำคืนนี้ท่ามกลางความมืดและเสียงหัวใจที่เต้นสอดประสานกัน ขวัญฤดีกับราเชนทร์รู้ดีว่าเส้นทางข้างหน้ายังเต็มไปด้วยพายุ แต่พวกเขาจะเผชิญมันไปด้วยกัน
ทั้งสองต้องเผชิญเงามืดของศัตรูที่เข้ามาใกล้ ความรักที่เริ่มก่อตัวท่ามกลางพายุร้าย จะยืนหยัดและปกป้องกันได้หรือไม่...?
ฝนยังไม่หยุดตกตั้งแต่หัวค่ำ ท้องฟ้าครึ้มมืดเหมือนโลกกำลังกลืนแสงสุดท้ายของวันลงไปพร้อมกับเลือดที่เปื้อนฝ่ามือของราเชนทร์ เขายืนอยู่กลางห้องโถง ร่างสูงใหญ่ที่เคยสง่างามบัดนี้เต็มไปด้วยรอยแผลและความเหนื่อยล้า
ขวัญฤดียังอยู่ข้างเขา — แม้หัวใจจะสั่นไหวกับสิ่งที่เห็น
“นายบาดเจ็บ…” เสียงเธอเบา แต่เปี่ยมด้วยความห่วงใย
“ไม่เป็นไร แค่แผลถาก ๆ” เขาตอบขณะเบือนหน้าเล็กน้อย ซ่อนความเจ็บไว้ใต้ใบหน้าด้านชา
เธอไม่พูดอะไรอีก แต่เดินเข้าไปใกล้ หยิบผ้าผืนเล็กจากโต๊ะข้าง แล้วค่อย ๆ เช็ดเลือดบนมือเขาอย่างเบามือ
ราเชนทร์มองเธอเงียบ ๆ ความอบอุ่นจากปลายนิ้วของเธอแล่นเข้าสู่หัวใจที่เย็นชามานาน มันร้อน… และสั่น
“ขวัญ…” เขาเอ่ยเรียกชื่อเธอเบา ๆ
เธอเงยหน้าขึ้นสบตา — ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความดื้อรั้นและความกลัวที่แฝงอยู่ในคราเดียวกัน
“ฉันรู้ว่าโลกของนายมันอันตราย” เธอกล่าว “แต่นายไม่ต้องเผชิญมันคนเดียวอีกแล้วนะ”
เขายกมือขึ้นจับมือเธอแน่น ราวกับกลัวว่าเธอจะหายไป
“ฉันไม่เคยให้ใครเข้ามาใกล้ขนาดนี้…” ราเชนทร์สารภาพ “แต่กับเธอ ฉันห้ามตัวเองไม่ได้เลย”
ขวัญฤดีนิ่ง ก่อนจะพูดเบา ๆ
“ฉันก็เหมือนกัน”
เสียงฟ้าร้องคำรามเหมือนเตือนถึงพายุที่ยังไม่ผ่านพ้น แต่ในห้องโถงเล็ก ๆ แห่งนี้ โลกทั้งใบของเขาและเธอเหมือนหยุดนิ่งอยู่ชั่วขณะ — มีเพียงเสียงหัวใจที่เต้นดังแทนทุกความรู้สึก
ราเชนทร์ดึงเธอเข้ามากอดแน่น เธอก็ไม่ได้ขัดขืน ในอ้อมกอดนั้นทั้งสองต่างรู้ดีว่า—โลกข้างนอกอาจโหดร้าย…แต่ในกันและกัน พวกเขายังมีที่ปลอดภัย
หลังจากอ้อมกอดที่ยาวนาน ราเชนทร์ค่อย ๆ ผละออกจากขวัญฤดี ดวงตาของเขายังคงจ้องลึกเข้าไปในแววตาเธอ
"เธอรู้ไหม... มีบางอย่างที่ฉันยังไม่ได้บอก"
ขวัญฤดีนิ่งไป รู้สึกได้ถึงแรงสั่นไหวบางอย่างในน้ำเสียงของเขา
"อะไรเหรอ?" เธอถามแผ่วเบา
ราเชนทร์เดินไปที่ลิ้นชักใต้ตู้หนังสือ หยิบแฟ้มหนาสีดำออกมา ก่อนจะเดินกลับมายื่นให้เธอ
"นี่คือข้อมูลของกลุ่มที่ตามล่าเราเมื่อคืน พวกมันไม่ใช่ศัตรูธรรมดา มันคือ ‘ไฮดร้า’ องค์กรใต้ดินที่เคยพังไปเมื่อห้าปีก่อน...เพราะฉัน"
เธอรับแฟ้มมาด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย เปิดอ่านผ่าน ๆ ชื่อรายงาน, แผนผังองค์กร, และภาพถ่ายของชายหญิงหลายคน
"นี่มัน...นายเคยเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา?"
เขาพยักหน้า
"ฉันเคยอยู่ในนั้น ตั้งแต่ยังไม่มีแม้แต่ชื่อ พวกเขาเลี้ยงฉันมาเหมือนเครื่องมือ ไม่มีความรัก ไม่มีความกลัว จนกระทั่งวันหนึ่ง...ฉันหักหลังพวกมัน"
"ทำไม?"
เขาหันมามองเธอตรง ๆ "และตอนนี้พวกมันรู้ว่าเธอคือคนที่ฉันรัก พวกมันจะไม่หยุด จนกว่าเธอจะหายไปจากโลกนี้"
ขวัญฤดีกำแฟ้มแน่นจนสันมือขาว เธอรู้ดีว่าทางเลือกของเธอไม่ได้ง่ายอีกต่อไป
"ถ้างั้นก็แปลว่าฉันไม่มีสิทธิ์ใช้ชีวิตธรรมดาแล้วใช่มั้ย?" เสียงของเธอสั่นเล็กน้อย
ราเชนทร์เข้ามาใกล้อีกครั้ง ดึงแฟ้มออกจากมือเธอเบา ๆ แล้วพูดเสียงหนักแน่น
"เธอจะมีชีวิต...ที่ปลอดภัยที่สุดเท่าที่ฉันจะให้ได้ แม้ต้องแลกด้วยชีวิตของฉันก็ตาม"
ขวัญฤดีน้ำตาซึม เธอไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอ แต่ก็ไม่ใช่เหล็กกล้า และในตอนนี้ เธอก็อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่เธอทำ—คือการเดินข้างเขาอย่างไม่ลังเล
"งั้นนายก็อย่าทำให้ฉันเสียใจละกัน"
ราเชนทร์ยิ้มบาง ๆ เป็นรอยยิ้มแรกในรอบหลายวัน มือของเขาสัมผัสมือของเธอเบา ๆ ก่อนจะเอ่ย
"ไม่มีวัน...ขวัญของฉัน"
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!