ฝนโปรยปรายลงมากระทบกระจกสำนักงานสืบสวนกลางย่านราชดำเนิน แสงสลัวจากหลอดนีออนทำให้ห้องสอบสวนในตอนตีหนึ่งยิ่งดูเย็นยะเยือก
ร.ต.อ.กรวิน ยืนอยู่หน้ากระดานที่เต็มไปด้วยภาพถ่ายศพ เหยื่อคือ “มัญชุพร วานิชการ” นักข่าวสายอาชญากรรมชื่อดังวัย 30 ปี ร่างของเธอถูกพบลอยอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา สภาพเหมือนจมน้ำตาย แต่ที่ผิดปกติก็คือ...
> “ไม่มีน้ำในปอด”
นั่นคือคำตอบจากรายงานชันสูตร เหมือนกับว่าเธอ ถูกฆ่าก่อนจะถูกโยนลงน้ำ
กรวินเปิดซองจดหมายอีกครั้ง มือของเขาสั่นเล็กน้อยทั้งที่เป็นตำรวจที่ผ่านคดีฆาตกรรมมากกว่า 50 คดี สิ่งที่ทำให้เขาไม่สบายใจ...คือชื่อที่ถูกขีดด้วยหมึกแดงในจดหมาย
“รายต่อไปคือ... ‘พ.ท. ก.น.ก.’”
ชื่อย่อของพันโทคนหนึ่งซึ่งเคยตกเป็นข่าวในคดีค้ามนุษย์เมื่อ 4 ปีก่อน และรอดมาได้อย่างไร้รอยขีดข่วน
โกดังร้างริมท่าเรือคลองเตย มีป้ายสนิมเขียนเลือนว่า “ทรัพย์ทวี คอนเทนเนอร์” ตั้งอยู่ในมุมอับของท่าเรือ ไม่มีใครใช้งานมานานหลายปี — แต่เมื่อคืนกรวินมาเยือนในฐานะ “ผู้ตามหาความจริง”
เขามองเข้าไปในโกดังที่มืดสนิท ไฟฉายในมือลากแสงช้า ๆ ผ่านพื้นดินที่เต็มไปด้วยเศษไม้และคราบฝุ่น…
เสียงฝีเท้าของเขาก้องสะท้อนกลับมาเหมือนมีใครอีกคนเดินตามหลัง แต่เมื่อหันกลับไป — ไม่มีใคร
จนกระทั่งเขาเห็นมัน...
คราบเลือดแห้งสีน้ำตาลเข้ม
ลากยาวจากประตูด้านหลังเข้าไปยังผนังฝั่งหนึ่ง
บนผนังนั้นมีข้อความขูดไว้ด้วยของมีคมว่า
> “อย่าหา…ถ้าไม่อยากหายไป”
แต่กรวินไม่ถอย เขาใช้มีดพับแงะแผ่นไม้เก่าออก และเจอบางอย่างข้างใน — กล่องเหล็ก เก่า ๆ ภายในมีแฟลชไดรฟ์ พร้อมโน้ตสั้น ๆ เขียนด้วยลายมือของมัญชุพรว่า:
> “แฟ้ม X-37. อย่าไว้ใจใคร — แม้แต่ในกรม”
กรวินกลับถึงสถานีตอนตีสี่
เขาเสียบแฟลชไดรฟ์เข้าคอมพิวเตอร์ลับที่ใช้แยกจากระบบส่วนกลางเพื่อความปลอดภัย
ข้างในมีแค่ไฟล์เดียว — วิดีโอความยาว 1 นาที
เปิดขึ้นมา...
เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด
ภายในห้องขังในกรมตำรวจ
ชายคนหนึ่งนั่งก้มหน้าอยู่
พันโท ก.น.ก. — ผู้ที่ควรจะ “ตายไปแล้ว” เมื่อ 2 ปีที่แล้ว
แต่เขาไม่ตาย...
ในวิดีโอ เสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดในคลิปว่า
> “แล้วคุณจัดการเด็กคนนั้นยังไง?”
ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้น ตอบเสียงเย็น...
> “ก็แค่ส่งให้คนของมัน...พวกที่อยู่ใน ‘เครือข่ายหาย’…”
กรวินเบิกตากว้าง
เครือข่ายหาย — คือคำที่ถูกใช้ในแฟ้มคดีปิดตายเมื่อ 3 ปีก่อน คดีที่เด็ก 17 คนหายตัวไปจากบ้านพักเด็กและเยาวชน โดยไม่ทิ้งร่องรอยแม้แต่คนเดียว
แฟ้มคดีนั้น...เขาเคยอยู่ในทีม
จนกระทั่งเขาถูก "ถอดชื่อ" อย่างไร้คำอธิบาย
และตอนนี้ ทุกอย่างกำลังหวนกลับมา
ก่อนวิดีโอจะจบ มันมีคำหนึ่งขึ้นมาแบบแทรกแปลก ๆ
เหมือนถูกใส่มาทีหลัง
เหมือนเป็นคำเตือน
> “ใครบางคนในกรมกำลังเล่นเกมนี้กับคุณ...และมันไม่เล่นคนเดียว”
เช้าวันถัดมา หลังจากคืนที่ไม่ได้นอนแม้แต่นาทีเดียว กรวินนั่งจ้องแฟ้มกระดาษเก่าเปื้อนคราบกาแฟและลายมือดินสอที่ขีดฆ่าเต็มหน้า
ชื่อแฟ้ม: X-37: รายงานพิเศษ — เด็กหาย
มันคือแฟ้มที่เคยอยู่ในความดูแลของเขา ก่อนถูกถอนรายชื่อออกอย่างลึกลับ และส่งคดีเข้าสู่ “การปิดแฟ้มถาวร” พร้อมคำว่า “ไม่พบข้อมูลเพิ่มเติม”
แต่ในกล่องนั้น มัญชุพรซ่อนเอกสารบางส่วนไว้ — ลับเกินกว่าจะอยู่ในระบบราชการ
ในนั้น มีชื่อเด็กทั้งหมด 17 คน พร้อมภาพถ่ายวันสุดท้ายก่อนหายตัว
เด็กหญิงคนหนึ่งสะดุดตาเขาที่สุด — เด็กอายุประมาณ 14 ปี ผิวคล้ำ ผมสั้น หน้าเรียบเฉยแต่ดวงตากลับเต็มไปด้วยความกลัว
ใต้ภาพเขียนว่า:
“ชื่อเล่น: น้ำ”
สถานที่หาย: ศูนย์ฟื้นฟูเยาวชนลับ — จ.ลำปาง
กรวินจำได้ทันที — ชื่อนี้เคยหลุดในรายงานจากพยานที่ไม่เคยเข้าสู่สำนวน
เขาเปิดเบอร์เก่าที่มัญชุพรเขียนไว้ใต้ภาพ — เบอร์นั้นลงชื่อว่า
“อริณ”
เมื่อโทรออก มีเสียงผู้หญิงรับสาย เสียงแหบแห้งแบบคนไม่เคยพูดกับใครมานาน
> “คุณ...คือคนของมัญชุพรใช่ไหม?”
กรวินตอบเพียง “ใช่”
เธอนัดเขาพบที่คาเฟ่เล็ก ๆ ริมแม่น้ำในเย็นวันเดียวกัน
ชื่อร้าน: “เงาสะท้อน”
เมื่อไปถึง เขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ริมหน้าต่าง
หน้าตาธรรมดา เสื้อผ้าโทรม ผิวคล้ำแดด แต่แววตาคมราวกับมองทะลุจิตใจคนได้
> “ฉันเคยอยู่ในนั้น...ที่ที่เด็กพวกนั้นถูกขัง”
“มัญชุพรช่วยฉันออกมา...แต่ไม่มีใครเชื่อฉัน...จนเธอถูกฆ่า”
กรวินไม่พูดอะไร เขาแค่จ้องสบตาเธอ เธอยื่นซองเอกสารบางอย่างให้
> “ในนั้นคือรายชื่อคนที่อยู่เบื้องหลัง...แต่เธอมีชื่อใครบางคนในกรมคุณด้วย”
“คุณกล้าดูไหมล่ะ?”
กรวินเปิดซองช้า ๆ — กระดาษเพียงใบเดียว
รายชื่อพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ดีด แต่มีชื่อหนึ่งถูกวงด้วยปากกาแดงเข้ม
ชื่อที่ทำให้เขานิ่งงัน...
“พ.ต.อ. ปริวัตร ณรงค์คุณ”
อดีตหัวหน้าของเขาเอง...
ชายที่กรวินเคยเรียกว่าพ่อคนที่สอง
คืนวันเดียวกัน หลังกลับจากคาเฟ่ “เงาสะท้อน” กรวินไม่ได้กลับบ้าน
เขาตรงดิ่งไปที่สถานีตำรวจใหญ่ในถนนพระราม 1
เวลา 23:14 น. อาคารเงียบสนิท มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศและเอกสารปลิวเบา ๆ
เขาเดินสวมฮู้ด ปิดกล้องวงจรปิดชั่วคราวด้วยรหัสพิเศษที่เขาเคยใช้ตอนอยู่หน่วยข่าวกรอง
เขาเดินตรงไปยัง “ห้องแฟ้มลับ B4” — ห้องที่ไม่มีชื่อบนแปลน ไม่มีล็อกอินในระบบ
ภายในห้องนั้นคือแฟ้มคดีที่ไม่เคยเข้าสู่ระบบตรวจสอบ
และที่มุมลึกสุดของชั้นวาง เขาเจอแฟ้มที่เคยอยู่ในมือเขาเมื่อ 3 ปีก่อน — X-37 (เวอร์ชันต้นฉบับ)
เปิดแฟ้มออก
ครึ่งแรก เหมือนกับที่มัญชุพรให้มา
แต่ ครึ่งหลัง คือสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน...
> “แผนผังการเคลื่อนย้าย”
เส้นทางรถตู้ที่ใช้ขนย้ายเด็ก
จุดพักแรม
จุดส่งตัว
…และบัญชีโอนเงินจากองค์กรต่างประเทศ
รายชื่อผู้รับเงินแฝงตัวในหน่วยงานรัฐ
หนึ่งในนั้นคือ
“ปริวัตร ณรงค์คุณ” (หัวหน้าเขา)
และอีกชื่อหนึ่งที่เขาไม่อยากเชื่อ...
“กรวิน ชลธาราวุธ”
เขาชะงักไปชั่วขณะ หัวใจเต้นถี่
ชื่อของเขาปรากฏในบัญชีผู้รับเงิน 80,000 บาท จากองค์กร “Cassandra Foundation”
พร้อมหมายเหตุ:
> “เบิกโดย ป.ณรงค์ ในนามลูกน้อง – สำหรับค่าปิดปาก”
กรวินเริ่มไม่แน่ใจในความทรงจำของตัวเองอีกต่อไป
เขาเคยเข้าไปในแฟ้มนี้เมื่อ 3 ปีก่อน...หรือว่าใครกันแน่ที่ใช้ชื่อเขา?
ทันใดนั้น ไฟในห้องดับวูบ
เสียงประตู “คลิ๊ก” เหมือนถูกล็อกจากด้านนอก
แล้วเสียงกระซิบเบา ๆ ดังแผ่วในความมืด
> “มองซ้าย…แฟ้มสุดท้าย…”
เขาหยิบไฟฉายขึ้นทันที
ตรงชั้นซ้ายสุดของห้อง มีแฟ้มสีดำเรียบไร้ชื่อ
ภายในมีเพียงภาพเดียว
ภาพถ่ายกล้องอินฟราเรดของโกดังคลองเตยเมื่อ 3 วันก่อน
มีเงาคนสองคนยืนคุยกัน
และหนึ่งในนั้น...คือเขาเอง
แต่เขาไม่เคยไปที่นั่นเมื่อ 3 วันก่อน
เพราะวันนั้นเขา...นั่งทำสำนวนอยู่ทั้งวัน
หรือใครบางคน ปลอมตัวเป็นเขา?
หรือเขาเอง...เคยอยู่ที่นั่นโดยจำไม่ได้?
23:59 น. — เพียงหนึ่งนาทีก่อนวันใหม่
กรวินออกจากห้องแฟ้มลับหลังแงะประตูหนีได้สำเร็จ
แต่ก่อนเขาจะหลบหนีออกจากสถานี มีเสียงสัญญาณเตือนดังขึ้น
เขาเห็นเงาคนบนชั้นสาม
อีกฝ่ายชักปืนเล็งมา — กรวินหมอบหลบ เศษกระเบื้องกระจาย เสียงปืนดังสองนัด
แต่เขาไม่หยุด
เขาหนีรอดออกมาได้จากประตูหลัง พร้อมกับแฟ้มสีดำในมือ
ก่อนจะขึ้นรถ เขาโทรหา “อริณ” อีกครั้ง
น้ำเสียงเขาเปลี่ยนไป — หนักแน่น เหมือนคนเริ่มยอมรับว่าเรื่องนี้จะไม่มีใคร “ไว้ใจ” ได้อีก
> “คุณเคยพูดว่า ยังมีพยานที่รอด — ที่เคยเห็นการขนย้ายเด็กพวกนั้น…เขายังอยู่ที่ไหน?”
อริณตอบกลับเบา ๆ
> “อยู่ในรายชื่อพยานที่หายตัวก่อนวันขึ้นศาลไง... ชื่อเขาคือ ภัทร์”
ชื่อที่คุ้นมาก — กรวินเคยสอบปากคำเขาเมื่อสามปีก่อน
เด็กผู้ชายอายุ 16 ปีในตอนนั้น
ดวงตาไร้แววเหมือนผ่านอะไรมามากกว่าผู้ใหญ่ทั้งกรมรวมกัน
แฟ้มบันทึกคำให้การเก่า ๆ กลับมาในหัวเขา:
> “ผมเห็นคนที่เอาเด็กขึ้นรถครับ…คน ๆ นั้นใส่ชุดตำรวจ มีตรานายพล...แต่ผมจำหน้าไม่ได้ เพราะเขา...ใส่ ‘หน้ากากเหมือนหน้าคนจริง ๆ’”
แต่สิ่งที่ทำให้กรวินจดจำชื่อเด็กคนนี้ได้ไม่ลืมคือ —
เขาคือคนเดียวที่เคยพูดกับกรวินว่า…
> “พี่...พี่เคยอยู่ฝั่งนั้นใช่ไหม?”
ในเวลานั้น กรวินนึกว่าเป็นคำพูดเพ้อเจ้อ
แต่วันนี้ เขาเริ่มไม่แน่ใจในอดีตตัวเองอีกต่อไป
กรวินตัดสินใจเดินทางไปหอพักแห่งหนึ่งย่านรามอินทรา
ตามพิกัดที่อริณส่งให้
ตึกเงียบสงัด ฝุ่นเกาะตามทางเดิน
เบอร์ห้อง 409 — ป้ายชื่อหลุดลุ่ย เขาเคาะประตูเบา ๆ
เงียบ…
แต่ก่อนที่เขาจะเดินจากไป
เสียงจากข้างในก็ดังขึ้นช้า ๆ
> “ผมรอคุณมานานแล้ว...คุณกรวิน”
ประตูเปิดออก
ภัทร์…ตอนนี้อายุ 19 ปี แต่ดวงตายังเต็มไปด้วยความกลัวแบบเด็กที่ไม่เคยพ้นฝันร้าย
กรวินถามเบา ๆ
> “นายยังจำวันนั้นได้ไหม…ที่นายพูดถึงหน้ากาก?”
ภัทร์พยักหน้า และเดินไปหยิบกล่องเหล็กใต้เตียง
เปิดออก…ข้างในมีแผ่นยางเนื้อมนุษย์เทียม เหมือน “หนังหน้า” ที่ถูกร่อนออกมาจากคนจริง ๆ
> “นี่แหละ...สิ่งที่พวกนั้นใช้”
“พวกมันแฝงตัวได้ในทุกที่ — แม้แต่ใน ‘ตัวคุณ’”
กรวินเริ่มไม่มั่นใจว่ากำลังสืบสวนคดีอะไรอยู่
คดีเด็กหาย...หรือคดีที่เขาเองก็อาจ “เคยอยู่ในนั้น” มาก่อน?
มาแล้วจ้า! พี่ขอพาเข้าสู่ ตอนที่ 6
ตอนนี้คือจุดพีคแรกของเรื่อง — การลอบสังหารพยานเงา, ความลับที่ถูกเผา และเงาของคนที่ “ไม่ควรกลับมาได้”
เสียงแผ่นยางพับตัวในมือของกรวินราวกับมีชีวิต
ขณะที่ภัทร์นั่งจ้องมันอย่างเยือกเย็น
> “พี่จำไม่ได้หรอก… แต่พี่เคยมาที่โกดังนั้น”
“ผมเห็นพี่ — หรือไม่ก็คนที่ใส่หน้านั้นอยู่”
“ผมหนีมาได้เพราะมีคนช่วย…มัญชุพร”
ก่อนที่กรวินจะถามอะไรต่อ
ไฟในห้องก็ดับวูบลงทันที
พร้อมกับเสียง "ชึ่ก!" — เหมือนมีใครบางคนงัดสายไฟจากแผงด้านนอก
ไม่กี่วินาทีต่อมา กลิ่นไหม้จาง ๆ ลอยมาจากทางเดิน
> “ออกไปจากที่นี่ — พวกมันมาแล้ว!” ภัทร์ตะโกน
กรวินฉุดภัทร์ออกจากห้อง ผ่านทางหนีไฟที่มีกลิ่นน้ำมันลอยอบอวล
ชั้นสี่เริ่มลุกเป็นไฟข้างห้อง
เปลวเพลิงสีส้มพุ่งขึ้นกำแพงราวกับมีใคร “ตั้งใจเผา”
เสียงวิทยุสื่อสารแว่วจากคนในชุดดำที่ยืนดักบนชั้นล่าง
> “เป้าหมายหลบหนีทางบันไดฝั่งทิศเหนือ — ล็อกลิฟต์แล้ว ยิงได้ทันทีถ้าพบตัว”
กรวินกับภัทร์หนีออกมาทางช่องระบายอากาศหลังตึก โดยที่เขาคว้ากล่องเหล็กใบเล็กติดมือมาได้
ภายในกล่อง — นอกจาก “หนังหน้า” ที่ภัทร์เก็บไว้ ยังมี “บัตรประชาชน” ของคนอีก 4 คน
แต่สิ่งที่ทำให้กรวินสะดุดตาคือชื่อบัตรใบหนึ่ง...
> มัญชุพร สุรเศรษฐ์
วันเกิดตรงกันทุกอย่าง...แต่ วันเสียชีวิตเว้นว่าง
และลายนิ้วมือมีรหัสประจำตัว “ล่าสุด” ที่ไม่ตรงกับทะเบียนกลาง
นั่นแปลว่า — ข้อมูลนี้ถูกดัดแปลง หรือ “เธอยังไม่ตาย”
แต่ก่อนที่เขาจะตั้งสมาธิต่อ
ภัทร์ที่วิ่งอยู่ข้างหน้า ก็โดนลูกปืนเฉี่ยวเข้าที่ไหล่ ล้มลงในตรอกแคบ
กรวินหันกลับมายิงสวน — กระจกร้านแถวนั้นแตกกระจาย
คนในชุดดำสองคนถอยหนี — แต่ทิ้งวัตถุเล็ก ๆ ไว้เบื้องหลัง...
“โทรศัพท์พับรุ่นเก่า”
ภายในไม่มีซิม แต่มี “เสียงบันทึกไว้หนึ่งไฟล์”
กรวินเปิดฟังทันที
เสียงนั้นคือเสียงผู้หญิง…พูดเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงที่คุ้นจนขนลุก
> “ถ้าคุณได้ยินเสียงนี้ แปลว่า...พวกมันรู้แล้วว่าคุณตื่น”
“แฟ้ม X-37 ไม่ได้มีแค่เด็กหาย มันมีชื่อพวกเราทุกคน…รวมทั้งคุณ”
เสียงเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อว่า…
> “กรวิน...คุณไม่ใช่แค่ผู้สืบสวน”
“คุณ...คือ ‘เบอร์หก’”
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!