ชื่อ: หลงจวิ้นเทียน (龙俊天)
ตำแหน่ง: ฮ่องเต้ราชวงศ์ต้าเซียน (大贤)
พระนามจักรพรรดิ: จักรพรรดิจิ้งเยี่ย (景夜皇帝)
ยุคสมัย: ราชวงศ์ต้าเซียน (สมมุติ), ช่วงปลายศตวรรษที่ 7
อายุ: 32 ปี
ลักษณะภายนอก:
ชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์ ดวงตาคมกริบสีดำดั่งรัตติกาล ริมฝีปากบางเฉียบที่มักฉาบรอยยิ้มเหี้ยมเย็น ผิวขาวซีดราวกับหยกเย็น ผมยาวสีดำขลับถักเป็นเปียบางหลวม ๆ มักสวมฉลองพระองค์ไหมทอง ปักลายมังกรห้ากรงเล็บ
ภูมิหลัง:
หลงจวิ้นเทียนขึ้นครองราชย์เมื่ออายุเพียง 18 ปี หลังจากวางยาพิษพระบิดาผู้เป็นฮ่องเต้องค์ก่อนและกำจัดพี่ชายร่วมสายเลือดในคืนเดียว ท่ามกลางสงครามกลางเมืองที่เขาใช้วิธีโหดเหี้ยมปราบศัตรู ขึ้นชื่อว่าเป็น "มังกรโลหิต" เพราะไม่ลังเลที่จะประหารแม้แต่เชื้อพระวงศ์หรือขุนนางที่ขัดคำสั่ง
บุคลิกภาพ:
โหดเหี้ยม เยือกเย็น คาดเดายาก
ฉลาดเฉียบแหลม วางกลยุทธ์ได้ลึกซึ้ง
ไม่เชื่อใจใครแม้แต่แม่ทัพหรือสนมใกล้ตัว
มีด้านอ่อนไหวซ่อนอยู่ลึก ๆ แต่ไม่เคยเผยให้ใครเห็น
ความสัมพันธ์:
มีสนมกว่า 300 คนในวังหลัง แต่ไม่มีใครได้ครองตำแหน่งฮองเฮา
กล่าวกันว่าเขาไม่เคยรักใครจริง จนกระทั่งหญิงสาวปริศนาผู้หนึ่งปรากฏตัวในฐานะนางกำนัลปลายแถว
ศัตรูมากมายในราชสำนัก แต่ก็เกรงกลัวบารมีของเขาจนไม่กล้าท้าทายตรง ๆ
สิ่งที่เกลียดที่สุด: การทรยศ และคำว่า "ความเมตตา"
เป้าหมาย: สร้างอาณาจักรที่ไม่มีวันล่มสลาย แม้ต้องยืนอยู่บนซากศพของผู้คน
ชื่อ: หลี่ซือหนิง (李思凝)
ฉายาในเมืองหลวง: "หญิงงามน้ำหอม" แห่งตระกูลหลี่
อายุ: 28 ปี
สถานะ: องค์หญิงลำดับที่สองแห่งแคว้นเซี่ยงเหอ (翔和)
ภูมิหลัง:
หลี่ซือหนิงเกิดในตระกูลหลวงของแคว้นเซี่ยงเหอ เป็นองค์หญิงลำดับที่สองที่มีอุปนิสัยอ่อนโยน มองโลกในแง่ดี และใฝ่ฝันอยากใช้ชีวิตอิสระ ไม่ติดอยู่กับตำแหน่งหรือการเมือง พี่สาวของเธอ "หลี่ซือเหยา" เป็นผู้ครองตำแหน่งองค์หญิงใหญ่และเข้าไปเกี่ยวพันกับราชสำนัก ส่วนซือหนิงขอละทิ้งตำแหน่ง และออกเดินทางสู่เมืองหลวงของต้าเซียนเพียงลำพัง
เธอเริ่มต้นจากร้านขายเครื่องหอมเล็ก ๆ ที่มีกลิ่นน้ำปรุงสูตรลับจากแคว้นตะวันออก ต่อมาพัฒนาเป็นกิจการ "หอซือหรู (思如坊)" ซึ่งกลายเป็นร้านเครื่องประทินโฉมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมือง และกลายเป็นหัวหน้าตระกูล "ตระกูลหลี่" สายพาณิชย์ที่มั่งคั่งและเป็นที่ยอมรับของชนชั้นสูง แม้จะไม่มีฐานะขุนนาง
ลักษณะภายนอก:
หญิงสาวใบหน้างามคม ดวงตาเรียวยาวสีน้ำตาลอ่อนมีประกายเศร้า ผมยาวสีน้ำตาลเข้มรวบอย่างเรียบหรู ผิวขาวอมชมพู รอยยิ้มอ่อนโยน แต่แฝงความเยือกเย็นและมีชั้นเชิง เสื้อผ้าที่สวมมักเรียบง่ายแต่หรูหรา
บุคลิกภาพ:
สุขุม ละเอียดอ่อน มีไหวพริบสูง
เก็บอารมณ์เก่ง และไม่ไว้ใจใครง่าย ๆ
เชื่อใน "ความยุติธรรมที่ต้องลงมือด้วยตนเอง"
มีหัวการค้า และมองการณ์ไกล
ภายนอกดูอ่อนหวาน แต่ภายในเต็มไปด้วยบาดแผลจากอดีต
อดีตที่เกี่ยวข้องกับฮ่องเต้:
ในวัยเด็ก ซือหนิงและหลงจวิ้นเทียนเคยเป็นเพื่อนสนิทที่เติบโตมาด้วยกันในวังของแคว้นเซี่ยงเหอเมื่อครั้งเขายังไม่ได้ครองราชย์ ทั้งสองเคยให้คำสัญญาไว้ว่าจะปกป้องกันและกัน
แต่เมื่อพระราชาและพระมเหสีแห่งต้าเซียนถูกวางยาพิษ ข้อกล่าวหาในเงามืดกลับพุ่งเป้าไปยังตระกูลของเธอ ทั้งที่ในความจริงซือหนิงเป็นผู้ช่วยลอบนำยาถอนพิษและซ่อนร่องรอย เพื่อรักษาชีวิตของจักรพรรดิในวัยเยาว์ แต่กลับไม่มีใครรู้ ความเข้าใจผิดนี้ทำให้เธอถูกเนรเทศอย่างเงียบ ๆ และตระกูลเซี่ยงเหอที่ไม่ต้องการมีเรื่อง จึงไม่ออกตัวปกป้อง
ปัจจุบัน:
ฮ่องเต้หลงจวิ้นเทียนรู้ว่า "หลี่ซือหนิง" คือเจ้าของหอซือหรูที่มีอิทธิพลเหนือเหล่าสตรีในเมืองหลวง จึงเรียกตัวเข้าวังอย่างเป็นทางการ โดยใช้ข้อหาเก่ามาอ้าง เพื่อควบคุมตัวและเริ่ม "แผนการแก้แค้น" แต่หารู้ไม่ว่า ความรู้สึกในอดีตยังหลงเหลืออยู่ทั้งสองฝ่าย
เช้าวันนั้น อากาศในเมืองหลวงแห่งต้าเซียนค่อนข้างเย็น แต่ก็เต็มไปด้วยความคึกคักในทุกมุมถนน ประชาชนต่างพูดถึงการคัดเลือกนางในที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะในหมู่ตระกูลใหญ่ที่มีอิทธิพล ทุกตระกูลต่างส่งบุตรีของตนเข้าร่วม โดยหวังว่าจะได้เข้าไปใกล้ชิดกับฮ่องเต้และเพิ่มพูนอำนาจของตระกูล
หลี่ซือหนิงยืนอยู่หน้าประตูของหอซือหรู มองไปยังแถวของบุตรีจากตระกูลใหญ่ที่มารวมตัวกันเพื่อรอรับคำสั่งการเข้าวัง เสียงพูดคุย เสียงรองเท้ากระทบพื้นหินดังขึ้น ในใจของซือหนิงรู้สึกหนักหน่วง แต่เธอไม่มีทางเลือกอีกแล้ว
"นางไม่ต้องการเข้าไปในวัง... แต่ก็ยังต้องทำตามกฎของผู้ที่มีอำนาจ" ซือหนิงคิดในใจ ขณะที่มองเห็นเส้นทางที่คดเคี้ยวไปสู่หอคัดเลือก
มีผู้หญิงหลายคนที่เข้ามาคัดเลือกครั้งนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบุตรีจากตระกูลขุนนางใหญ่ ๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีสายสัมพันธ์ที่มั่นคงกับฮ่องเต้หลงจวิ้นเทียน และไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเธอจะหวังว่าจะได้รับการโปรดปรานจากฮ่องเต้ หากแต่สำหรับหลี่ซือหนิงแล้ว การเข้าวังคือการต้องตกลงใจเรื่องการแก้แค้นในอดีตที่ซับซ้อน แต่เธอก็ไม่ได้หวังว่าจะเข้าไปเพื่อเป็น "สนม" นางใด ๆ แต่เพื่อทำให้ฮ่องเต้เข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
"ถ้านางยอมเข้าไปในวังเพียงเพื่อเข้าใกล้ฮ่องเต้... ต้องมีอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านี้แน่" หลี่ซือหนิงพึมพำกับตัวเอง ขณะเดียวกันในใจนางเต็มไปด้วยความคิดที่จะจัดการกับความยุติธรรมที่สูญหายไป
การคัดเลือกเริ่มต้นขึ้น ดวงตาของทุกคนจับจ้องไปยังผู้หญิงที่กำลังเดินขึ้นไปตามบันไดหินสู่ห้องรับรอง โดยเฉพาะหลี่ซือหนิงที่เดินอย่างสง่างามและมั่นคง แม้ภายในจะวุ่นวาย แต่ภายนอกเธอกลับสงบเยือกเย็น
การตรวจคัดเลือกไม่ใช่แค่เรื่องความงามเท่านั้น แต่ยังมีการทดสอบทักษะการพูด การวางตัว การรู้จักเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และความสามารถในการทำงานราชการเบื้องต้น บางคนมองว่ามันคือการแสดงความซื่อสัตย์และความสามารถในทุกด้าน
สำหรับหลี่ซือหนิง... แม้เธอไม่เคยหวังให้ตัวเองเข้าวังมาก่อน แต่ตอนนี้สิ่งที่เธอหวังคือการหาทางชำระแค้นกับฮ่องเต้ให้หมดสิ้น ความสัมพันธ์ในอดีตที่เคยดีต่อกัน กลายเป็นความเข้าใจผิดร้ายแรง ซึ่งเธอต้องการจะไขกระจ่าง
แน่นอนว่าการคัดเลือกเข้าวังนั้นย่อมมีการแข่งขันกันสูง
เมื่อหลี่ซือหนิงเดินเข้าสู่ห้องคัดเลือกในพระราชวัง ทุกสายตาจับจ้องไปที่นาง ความงามสง่าที่ไม่เหมือนใครดึงดูดความสนใจจากผู้หญิงหลายคนที่มายืนรออยู่ บางคนมองนางด้วยแววตาท้าทาย บางคนยิ้มให้ราวกับเป็นมิตร แต่ทุกคนล้วนแล้วแต่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน—การได้ใกล้ชิดกับฮ่องเต้
"นางคือหลี่ซือหนิง... ตระกูลหลี่ที่มีชื่อเสียงในด้านการค้าทั้งเมืองหลวง" เสียงกระซิบจากผู้หญิงข้าง ๆ แว่วเข้าหูซือหนิง แต่นางกลับไม่ได้หันไปสนใจ นางรู้ว่าในโลกแห่งการแข่งขันนี้ มีเพียงความสงบและกลยุทธ์ที่ช่วยได้
ในขณะที่นางยืนรอเข้าแถวท่ามกลางเหล่าสตรีที่กำลังเตรียมตัวเพื่อการทดสอบ ความเครียดและความตึงเครียดเริ่มปรากฏให้เห็นในใบหน้าของผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ นางหนึ่งในนั้นคือนางสาวหานเหวย (韩薇) จากตระกูลหานที่มีอิทธิพลและมีความสามารถในการตัดสินใจที่เฉียบแหลม
หานเหวยยิ้มมุมปาก ขณะที่มองซือหนิงด้วยแววตาคมกริบที่เต็มไปด้วยความริษยา "นางที่เพิ่งมาถึงจะคิดว่าตัวเองมีคุณสมบัติพอหรือ?" เธอพึมพำกับตัวเอง
ซือหนิงไม่ได้แสดงท่าทางใด ๆ ออกมา นางยังคงยิ้มอย่างสุภาพ แม้จะรู้ดีว่าความริษยาของหานเหวยนั้นหมายถึงการที่จะต้องคอยเตะขัดขาของนางในทุกโอกาส แต่ซือหนิงกลับไม่ได้มาที่นี่เพื่อเป็นคู่แข่งในเกมของผู้หญิงเหล่านี้ ข้ามาที่นี่เพื่อทำให้ฮ่องเต้รู้ถึงความจริงที่ถูกกลบไว้ในอดีต
เมื่อการทดสอบเริ่มต้นขึ้น หานเหวยออกมาเป็นคนแรกเพื่อแสดงทักษะด้านการร้องเพลง และทันทีที่เสียงของนางดังขึ้น ทุกคนต่างต้องหยุดหายใจ นางร้องเพลงที่ไพเราะจนทำให้บรรยากาศรอบข้างเต็มไปด้วยความอิ่มเอม
การทดสอบนี้ไม่ได้มีแค่การร้องเพลง แต่ยังต้องมีการพูดคุยเกี่ยวกับการบริหารราชการ การทำนายดวงชะตา และทักษะการเล่นหมากรุก ตลอดการทดสอบ ทุกคนต่างพยายามเอาชนะกันให้ได้ แต่สำหรับหลี่ซือหนิง มันไม่ได้เป็นแค่การแสดงออกของความสามารถในหลายด้าน แต่เป็นการใช้โอกาสนี้เพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ฮ่องเต้ได้เห็น
การทดสอบการพูดคุย:
ในที่สุด ก็ถึงคิวของหลี่ซือหนิง เมื่อถึงตาของนางในการแสดงทักษะการพูดคุยและการสนทนา ซือหนิงรู้ว่านางไม่สามารถทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเพียงแค่การแสดงทักษะทั่วไป แต่จะต้องใช้มันเป็นโอกาสในการเข้าถึงใจฮ่องเต้
ซือหนิงยืนตรงและเริ่มสนทนาอย่างมีสติ โดยตั้งคำถามเกี่ยวกับปัญหาการปกครองในราชสำนัก และการจัดการความยุติธรรม นางพูดด้วยความมั่นใจและให้ความสำคัญกับคำพูดที่ตรงไปตรงมา รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของฮ่องเต้ผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ด้านหลัง
"สิ่งที่เจ้าพูดมีความสมเหตุสมผล" ฮ่องเต้พูดด้วยเสียงเย็นชา แต่ก็ไม่อาจปิดบังความสนใจที่เขามีต่อคำพูดของหลี่ซือหนิงได้
ขณะที่การทดสอบดำเนินไป ความตึงเครียดที่สะสมในใจของผู้เข้าแข่งขันทุกคนเพิ่มขึ้น พวกเขารู้ดีว่ามีการสอดส่องและการประเมินจากฮ่องเต้ที่ไม่ยอมปล่อยปละละเลยแม้แต่น้อย
การเผชิญหน้ากับหานเหวย:
ในช่วงท้ายของการคัดเลือก หลังจากที่ซือหนิงได้แสดงความสามารถของตนเอง หานเหวยเดินเข้ามาใกล้และกระซิบในหูของนาง "เจ้าอาจจะคิดว่าเจ้าทำได้ดี แต่ที่นี่ไม่ใช่ที่สำหรับการเล่นกล"
ซือหนิงเงยหน้าขึ้นและมองหานเหวยตรง ๆ ด้วยความเยือกเย็น "ถ้าเกมนี้เป็นการแสดงความสามารถในการสร้างความน่าเชื่อถือจากฮ่องเต้ ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะสามารถทำได้ดีเท่าข้า"
หานเหวยยิ้มร้าย แต่ไม่พูดอะไรกลับ เพียงแค่เดินจากไป
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!