...ตำนานเล่าขานมาช้านานมีเทพอยู่21องค์...
เทพพิภพ เทพอัคคี เทพีวารี เทพวายุ
เทพีบุปผา เทพีหงส์เพลิง เทพแห่งสงคราม
เทพีแห่งความเมตตา เทพแห่งความชั่วร้าย เทพีน้ำแข็ง
...เทพอัสนี เทพีจันทรา เทพสุริยา เทพีแห่งความรัก...
เทพีแห่งความโศกเศร้า เทพแห่ง ราชสีห์ทองคำ
เทพีแห่งพงไพร เทพแห่งภูเขา
...เทพีกระต่ายหยกจันทรา เทพมังกรทราช ...
...เทพีจิ้งจอกเก้าหางเก้าสี เทพภักษา เทพีหงส์หยกเจ็ดสี...
เทพหยินหยาง เทพีแห่งสรรพสัตว์ เทพีดาวเดือน
แดน สวรรคได้เกิดความโกลาหลขึ้นเผ่ามารจึงเกิดความโลภคิดอยากคอบครองแดนเทพ เหล่าเทพต่างพากันปกป้องอย่างสุดพลังในที่สุดก็สามารถปราบพญามารลงสำเร็จสังเวยจิตเทพของเทพีหงส์เพลิงและเทพีหงส์หยกเจ็ดสีแต่ทำได้แค่ผนึกได้ระยะเวลา100,00ปี.
...“ พี่หญิงทำไมสังเวยจิตเทพตั้งสององค์แล้วทำไมทำได้แค่ผนึกไว้ล่ะคะ?” ...
^^^ หลิงเยว่เอ๋อร์น้อยถามด้วยความสงสัย ^^^
...“เรื่องนั้นข้าไม่ทราบนะ แต่เจ้าคิดว่าจะหลบสายตาท่านแม่ได้อย่างไร” ...
...หลิงม่านน่วนลูบหัวเยว่เอ๋อร์น้อย ...
...“เรื่องที่ข้าแอบเข้าห้องลับของท่านแม่นะหรอคคงไม่มีใครรู้หรอกเพคะพี่หญิง”...
... เยว่เอ๋อร์ยิ้มอย่างไร้เดียงสา...
... “แต่ข้ารู้นะ”ม่านน่วนยิ้ม...
...“อุ้ย แบบนี้ก็แย่เลยสิ”เยว่เอ๋อร์น้อยทำหน้าหง๋อย...
... ...
...“ท่านแม่ !”...
ม่านน่วนรีบไปประคองท่านแม่ที่กำลังนอนจมกอง เลือด
... “ ท่านแม่ท่านอย่าเป็นอะไรนะ”เยว่เอ๋อร์น้อยกล่าวทั้งน้ำตา ...
“ย…เยว่เอ๋อร์ ม่านน่วน พวกเจ้าทั้งสองจงเอาถุง
...เงินนี้ไว้ใช้นะป่านแม่คงไม่รอดรีบไปจากที่นี้...
...แล้วไม่ต้องกลับมา” น้ำเสียงแหบแห้ง ...
... “ไม่ เยว่เอ๋อร์จะไม่ไปจากท่านแม่” ...
... “ม่านน่วนรีบพาน้องหนีไป...
...ไปสิ!! ”...
ม่านน่วนอุ้มเยว่เอ๋อร์ออกจากจวนตะกูลหลิง
...“ท่านแม่ ท่านแม่ ท่านแม่ !”...
ทุกๆครั้งที่เยว่เอ๋อร์ถามม่านน่วนทุกครั้งว่าม่านน่วนจะพูดปัดหรือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ว่าทำไมถึงเข้าไปในห้องลับไม่ได้
จากนั้นทั้งสองพี่น้องก็ร่อนเร่ไปตามเมืองหลวง
..."อ่ะนี้ กินนี้ซะสิ" ผู้หญิงสวมผ้าคลุมยืนหมั่นโถวให้...
... ...
..."ขะ...ขอบคุณคะ"ม่านน่วนรับหมั่นโถว...
... ...
..."พวกเจ้าชื่ออะไรกันหรอ? ...
...ไม่ต้องตกใจข้าไม่ทำอะไรอะไรพวกเจ้าหรอ...
...ข้าชื่อเสี่ยวหรง...
...เป็นอาจาร์ยใหญ่ของโรงเรียนฝึกวิญญาณ...
...ชื่อว่าโรงเรียนมิ่งหยวนเออ"...
...เสี่ยวหรงยิ้มอย่างอ่อนโยน...
... "หนูชื่อว่า หลิงม่านน่วนและนี้คือน้องสาวหนู...
...ชื่อว่าหลิงเยว่เอ๋อร์"...
...หลิงม่านพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นกลัว...
..."เอาล่ะ ข้าจะรับเป็นบุตรบุญธรรมพวกเจ้าสนใจมั้ย"...
..."อื้ม ! "ม่านน่วนและเยว่เอ๋อร์ตอบอย่างดีใจ...
... ...
...ณ หอพักศิษย์ฝ่ายใน...
..."เอาล่ะ พวกเจ้าอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวนะส่วนเสื้อผ้า...
...ข้าว่าไว้บนเตียงถ้าทำอะไรลงมาพบข้าที่ห้อง...
...อาจาร์ยใหญ่นะ อ้อ เรียกข้าว่าอาจาร์ยก็พอละ"...
เสี่ยวหรงพูดพร้อมวางเสื้อผ้าและ
...ปิ่นปักผมสองอัน...
..."ค่ะ อาจาร์ย" เยว่เอ๋อร์และม่านน่วนพูดพร้อมอมยิ้ม...
...หลังจากสองพี่น้องอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวจนสะอาดเอี่ยมอ่องอรทัยไฉไลไม่มีใครเกิน...
..."มาแล้วหรือ มานี่สิ"เสี่ยวหรง พูดพร้อม กวักมือเรียกทั้งสอง...
..."อาจารย์"น้ำเสียงสั่นกลัว...
..."พวกเจ้าไม่ต้องกลัว"เสี่ยวหรงพูดพร้อมลูบหัวทั้งสองอย่างอ่อนโยน...
..."ข้าจะปลุกสายเลือดพร้อมอาวุธ โดยที่พวกเจ้าต้องกรีด...
...ส่วนไหนก็ได้ของร่างกายเพื่อนำเลือดออกมาหยดบนลูกแก้ว"เสี่ยวหรงพูดพร้อมอธิบายขั้นตอน...
..."พวกเจ้าพร้อมหรือยังล่ะ"...
..."พะ...พร้อมแล้วคะ"เยว่เอ๋อร์พูดด้วยน้ำเสียงสั่น...
..."แล้วใครจะเริ่มก่อนล่ะ"เสี่ยวหรงยิ้มอ่อนๆ...
..."นะ...หนูเอง"ม่วนน่วนพูดด้วยความกลัว...
... "ไม่ต้องกลัวนะจ้ะ"...
หลังจากนั้นเสี่ยวหรงก็กรีดนิ้วม่านน่วนแต่เลือด
ม่านน่วนเป็นสีแดงสด
"ตายจริง ม่านน่วนเจ้ามีสายเลือดหงส์เพลิงและมังกร9สีหรอเนี่ย
...ดูสิแถมได้กระบี่หงส์เพลิงและธนูมังกร9สีด้วยนะ"...
...เสี่ยวหรงตกตะลึ่ง...
(สายเลือดหงส์เพลิงไม่ได้ปรากฏมานานนับแสนปี
...ตั้งแต่เทพีหงส์เพลิงและเทพีหงส์หยกเจ็ดสี...
...ได้สังเวยจิตเทพ...
...ก็ไม่มีใครพบเห็นอีกเลยเด็กคนนี้ทำให้ข้าประหลาดใจยิ่งนัก)...
^^^โปรดติดตามตอนต่อไป…^^^
... ...
... ...
"เยว่เอ๋อร์จ้ะ ถึงตาหนูแล้วแล้ว"
"อะ....เอ่อ"
พอสิ้นเสียงของเยว่เอ๋อร์เสี่ยวหรงก็กรีดนิ้วของเยว่เอ๋อร์เลือดเยว่เอ๋อร์ไม่ใช่สีแดงแต่เป็นสีขาวดั่งไข่มุก
(ทำไมเด็กคนนี้มีถึงมีเลือดเป็นสีขาวดุจไข่มุกขนาดนี้
ช่างน่าแปลกยิ่งนัก)
"ดูนั่นสิสายเลือดปรากฏ บนลูกแก้วแล้วอาจาร์ย"ม่านน่วนพูดด้วยความตื่นเต้น
... ...
สายเลือดวิญญาณของเยว่เอ๋อร์มีถึง2สายเลือด วิญญาณ
"นั้นมันอะไรกันน่ะ!! " เสี่ยวหรงพูดด้วยความตกใจ
"ทำไมหรอคะอาจาร์ย"เยว่เอ๋อร์สงสัย
"ดะ....ดอกแก้วเหมันต์กะ...กับหงส์น้ำแข็งหรอเนี่ยและอาวุธคือขลุ่ยแก้วเหมันต์กับหอกหงส์นิพพาน"เสี่ยวหรงตกตะลึ่งกับสิ่งที่ได้พบเห็น
"งั้นข้าขอรับพวกเจ้าเข้าเป็นศิษย์ฝ่ายในโดยไม่ต้องผ่านการทดสอบ"นางกล่าวอย่างนักแน่น
"แต่เขารับเด็กอายุ14ปีขึ้นไปนะคะ พวกเราก็ก็อายุแค่12ขวบเอง"เด็กน้อยกล่าวถามอย่างสงสัย
"เอาเถอะน่า แล้วเยว่เอ๋อร์ล่ะอายุกี่ขวบแล้ว"
"หนูอายุ10ขวบคะ"เยว่เอ๋อร์พูดพร้อมรอยยิ้ม
"อ่า งั้นข้าจะใช้วิชาแปลงกายพวกเจ้าให้เป็นชาย"
"ห้ะ ทะ...ทำไมถึงให้พวกเราแปลงกายเป็นล่ะ"
ม่านน่วนถามด้วยความสงสัยและตกใจ
"เนื่องจากหอศิษย์ฝ่ายในมันเต็มข้าก็เลยให้พวกเจ้าแปลงกายแทนไงล่ะ"
"มันใช่เรื่องมั้ยเนี่ยคะ!! "ม่านน่วนพูดด้วยความเอี้อมระอา
"งั้นพวกเจ้ากลับไปพักผ่อนได้ละ พรุ่งนี้ข้าจะพาพวกเจ้าล่ากระดิ่งวิญญาณ"
"รับทราบค่ะ"พวกนางพูดพร้อมเดินกับไปที่ห้องนอน
...วันต่อมา....
"เยว่เอ๋อร์!! ตื่นเดี๋ยวนี้นะ!! " ม่านน่วนเขย่าตัวเยว่เอ๋อร๋
"อื่อ\~ อะไรอ่าพี่หญิงปลุกข้าทำไม"
"วันนี้เรามีนัดล่ากระดิ่งวิญญาณนะ จำไม่ได้แล้วหรอ!! "
"อ่ะ จริงด้วยสิ"เยว่เอ๋อร์รีบกระโดดออกจากเตียง
...ห้องอาจาร์ยใหญ่เสี่ยวหรง...
ทั้งสองรีบวิ่งกันอย่างเร่งรีบ
"เห้อ ถึงซะที"ทั้งคู่หอบเหนื่อย
"มาแล้วหรอ งั้นก็ลุยกันเลยย" เสี่ยวหรงพาวาร์ปมาที่ป่ารกร้าง
...ป่าเมิ่งโหว....
"โอ้ยยย มึนหัวชะมัดเลย"ม่านน่วนพูดพร้อมเอามือกุมหัวตัวเอง
"เอาน่า เอ้ะ ลืมแปลงกายให้นิด เดี๋ยวทำให้"นางพูดเสร็จก็แปลงกายให้สองเด็กจากเด็กสาวกลายเป็นชาย
"อ่า เรียบร้อย"นางพูดพร้อมปัดมือไปมา
ทั้ง สามได้เดินเข้าประตูป่าเมิ่งโหว
"ช้าก่อน ป่าเมิ่งโหวเป็นเขตอันตรายห้ามเข้าจนกว่าจะได้รับอนุญาต"ทหารเฝ้ายามยืนขว้างเพื่อไม่ให้ทั้งสามเข้าไป
"หว๋า ลืมซะสนิทเลยแย่จุง"นางพูดพร้อมยกมือขึ้นโชว์ป้ายคำสั่งราชวงค์
"ทีนี้จะขว้างได้อยู่หรือไม่"เยว่เอ๋อร์พูดพร้อมเอามือเท้าเอว
"อะ...เออ องค์หญิงเสี่ยวหรง"ทหารเฝ้ายามคุกเข่ากันเกือบทั้งหมด
"เอาล่ะ รู้ก็ดีให้พวกข้าไปได้หรือยัง"เสี่ยวหลงเริ่มอารมณ์ไม่ดี
"ขะ...เข้าไปได้แล้วพ่ะย่ะค่ะองค์หญิง"
"พวกเจ้าตามข้ามา" เสี่ยวหรงเดินนำไปก่อน ทั้งสองค่อยพากันเดิมตายเสี่ยงหรง
"แบร่ๆ"ม่านน่วนและเยว่เอ๋อร์แลบลิ้นปริ้นตา
... ครื่นนน. ...
"หึ ออกมาสิจ้ะเจ้างูสิงโตเก้าหัว" เสี่ยวหรงพูดพร้อมเอาดาบงูมรกรตออกมา
"ทักษะสายเลือดที่ห้า มรกตสังหาร" อาจารย์เสี่ยวหลรฟันดาบแล้วก็มีแสงสีเขียวออกมาจากเจ้างูสิงโต9หัว
พูดไม่ทันขาดคำ เสี่ยวหรง ก็จัดการสังหารเจ้างูสิงโตเก้าหัวแล้ว
"เอ๋ ทำยังไงที่จะดูดซับกระดิ่งวิญญาณล่ะคะ"ม่านน่วนพูดถามอย่างสงสัย
"ก็นั่งลงแล้วก็ทำจิตให้นิ่ง แล้วผ่อนคลาย"เสี่ยวหรงพูดพร้อมเห็นสัตว์วิญญาณอีกตัวนั่นคือมังกรมรกรตนั่นเอง
"เอาล่ะเริ่มละน้าา"ม่านน่วนนั่งลงเพื่อดูดซับกระดิ่งวงแหวน
"ทักษะสายเลือดที่สี่ งูมรกตพันเกี่ยว"
ยังไม่ทันขาดคำของม่านน่วน อาจารย์เสี่ยวหลงก็ทำการปิดชีพมังกรมรกตนั่นเสียแล้ว
"ว้าว อาจาร์ยเก่งจังเลย"เยว่เอ๋อร์พูดพร้อมปรบมือ
"เอาล่ะ เยว่เอ๋อร์ดูดซับกระดิ่งได้แล้วน้าา"
...2ก้านธูปต่อมา......
"อาจาร์ยครับ อาจาร์ยครับ" ม่านน่วนเขย่าตัวเสี่ยวหรง
"อาจาร์ย!!!" ม่านน่วนตะโกนลั่นป่า
"อะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้นใครตาย!! " เสี่ยวหลงสะดุ้งตื่นด้วยตกใจ
"อาจาร์ยข้า ดูดซับกระดิ่ง วิญญาณเสร็จแล้วครับ ดูสิครับ"
ม่านน่วนหมุนตัว
"จ้าๆ แล้วเยว่เอ๋อร์ล่ะ"
"อ๋อ ยังดูดซับยังไม่เสร็จเลยครับ"
"แล้วกระดิ่งวิญญาณกี่ปีล่ะ น่วนเอ๋อร์"
"อ๋อ 2,500ปีครับ"
"ห้ะ เก่งมากเลย ปกติวิญญาณสายเลือดทุกคนควรได้รับกระดิ่งวิญญาณดวงแรกอายุต่ำกว่า 1000 ปีแต่เจ้าเอาตั้ง 2500 ปีโหเก่งมากเลยนะน่วนเอ๋อร์"
เสี่ยวหรงกล่าวชมแบบยิ้มแก้มปริและปรบมือให้
"เยว่เอ๋อร์!!"
เสี่ยวหรงรีบใช่พลังช่วยเยว่เอ๋อร์สักพักใหญ่ๆเยว่เอ๋อร์ก็ถูกปกคลุมด้วยกลีบดอกไม้
"เยว่เอ๋อร์เป็นอะไรมั้ยเจ็บตรงไหนหรือเปล่า"เสี่ยวหรงเขย่าตัวเยว่เอ๋อร์อย่างลุกรีลุกรน
"ผมไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ อาจาร์ยแล้วพี่ม่านน่วนล่ะเป็นอย่างไรบ้างเหนื่อยมั้ยครับ"
"พี่ไม่เป็นไรหรอกเยว่เอ๋อร์"
... จู่ๆก็มีเสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ...
"นั่นใคร ออกมา"น้ำเสียงดุดันของอาจาร์ยเสี่ยวหรง
... ก็มีเด็กผู้ชายตัวผอมแห้งเสื้อผ้าขาดและเก่าเดินออกมา...
..."เจ้าเป็นใครเข้ามาที่ได้อย่างไรเพราะอะไรเจ้าถึงมาที่ป่าเมิ่งโหว"...
"เอ่อ...ข้ามีชื่อว่าถังเฟิ่งเทียนที่ข้าเข้ามาได้เพราะข้าหลงมา"น้ำเสียงแหบแห้ง
"มึนหัวจัง\~"เขาล้มหน้าคว่ำลง
"ถังเฟิ่งเทียน!!"อาจาร์ยเสี่ยวหรงรีบพยุงตัวเขาไว้
"เอาดีครับ อาจาร์ย"เยว่เอ๋อร์ถาม
"ข้าคิดว่าเราควรกลับโรงเรียนมิ่งหยวนเออ"
...โรงเรียนมิ่งหยวนเออ...
เด็กชายลืมตาขึ้นที่ห้องห้องหนึ่งโดยมีผู้หญิงนั่งอยู่ข้างเตียง
"ฟื้นแล้วหรอ กินนี่สิ" เสี่ยวหรงยืนน้ำชาอุ่นๆให้
"ทะ...ท่านคือ"
"ข้ามีนามว่าเสี่ยวหรงเป็นอาจาร์ยใหญ่ของโรงเรียนเมิ่งหยวนเออ"
"ทำไมเจ้าถึงหลงเข้ามาในป่าพ่อแม่เจ้าไปไหน"
"ข้า... พ่อแม่ข้าถูกลอบสังหารโดยทหารราชวงศ์มิ่งถัง เขาบอกว่าพ่อแม่ข้าเป็นกบฏ สุดท้ายก็สังหารพ่อแม่ฆ่าจนหมดสิ้นแต่ยังดีที่แม่ข้าไหวตัวทันแม่ข้าเอาข้าไปซ่อนในหีบ ข้าจึงรอดออกมา ท่านแม่ข้าได้ทิ้งของไว้ดูต่างหน้าจากนั้นข้าจึง สัญญากับตนเองว่าจะแก้แค้นให้พ่อกับแม่ข้า"
หลังจากที่เด็กชายเล่าจบน้ำตาเค้าก็ไหลออกมา
"แล้วข้า จะสามารถเป็นแม่ของเจ้าได้หรือไม่"
"ข้า..ข้ายินดี"เด็กชายคุกเข่า
"เอาละไม่ต้องมาพิธีนอนพักซะเถอะ"
"ก่อนที่ข้าจะออกไปหลังจากเจ้าหลับแล้วมาหาข้าที่ห้องอาจารย์ใหญ่" หลังจากนั้น เสี่ยวหรงก็เดินจากไป
...2ก้านธูปต่อมา......
"มาแล้วหรอ นั่งลงสิ"
"ครับ"
"เจ้ารู้ใช่ไหมว่าเจ้าสายเลือดอะไร"
"สายเลือดของข้าคือมังกรสามพิภพครับอาวุธของข้าคือกระบี่สามพิภพ"
"งั้น เจ้าไปหา ลานสมัครนักเรียนและเข้ารับการบททดสอบหากผ่านให้มาหาข้าที่ห้องอาจารย์ใหญ่"
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
"เข้ามา"น้ำเสียงแข็งกร้าว
"ข้าเองม่านน่วนและเยว่เอ๋อร์"ทั้งสองเดินเข้ามาในห้องอาจารย์ใหญ่
"นึกว่าใคร พวกเจ้ามีธุระอะไรหรือจ้ะ"น้ำเสียงอ่อนนุ่ม
"พวกข้ามาที่นี่เพื่อจะมาถามห้องพักอ่ะนะ"เยว่เอ๋อร์ยิ้มแห้งๆ
"อ่อ นึกว่าอะไรซะอีก ห้องของม่านน่วนคือชั้น2เลขห้อง203ส่วนห้องของเยว่เอ๋อร์คือชั้น3ห้อง309จ้ะ"
"ขอบคุณมากๆเลยค่ะอาจารย์"ทั้งสองได้เดินออกจากห้องอาจารย์ใหญ่
"ข้าลืมบอกไปว่า จะมีรูมเมทเข้ามาด้วยนะ"เสี่ยวหลงเอื้อมระอากับเด็กสองคนนี้
...ตัดมาที่ถังเฟิ่งเทียน...
"ผู้ที่ผ่านการทดสอบเข้าโรงเรียนจะมี ป้ายชื่อติดไว้หากท่านผ่านกรุณาไปที่หอประชุมเพื่อรายงานตัวภายในหนึ่งก้านธูป" ในเสียงประกาศ
ถังเฟิ่งเทียน เดินเข้ามา รายงานตัวแล้วก็เจอกับสองพี่น้อง ราชวงศ์มิ่งถัง คนพี่ชื่อมิ่งถังเหยียน คนน้องชื่อมิ่งถังอย่า
"ไม่ อยากจะเชื่อเลยว่าไอ้กระจอกงอกง่อยจะผ่านการคัดเลือกมาได้"คนพี่เยาะเย้ย
"พอเถอะค่ะพี่เหยียน เดี๋ยวไม่ทันการรายงานตัว ของน้องนะคะ"พอคนพี่เดินจากไปคนน้องก็รีบมาหา
"ข้าขอโทษแทนพี่ชายข้าด้วย อ้อข้ามีนามว่ามิ่งถังอย่า"
"ข้าไม่เป็นไร"ถังเฟิ่งเทียนโบกมือทั้งสอง
"งั้นข้าไปก่อนนะเจอกันที่ห้องเรียนล่ะ"คนน้อง โบกมือลา
จู่ๆก็มีหญิงชราวัยกลางคนเดินเข้ามาถามว่า
"เจ้าคือถังเฟิ่งเทียนใช่หรือไม่"
"ใช่ ข้าเอง"
"ตามข้ามาทางที่"
ระหว่างเดินถังเฟิ่งเทียนถามตลอดทาง สุดท้ายก็มาอยู่ที่ห้องอาจารย์ใหญ่
"ดิฉัน ขอตัวก่อน"หญิงชราวัยกลางคนเดินออกไป
"อาจาร์ยเขาคือ..."
"เขาคืออาจารย์ที่ปรึกษาของเจ้านามว่าซูหลาน"
"อ๋อ อย่างั้นเองหรอแล้วห้องหอพักของข้าล่ะ"
"หอพักของเจ้าชั้น2ห้อง203จ้ะ"
"ครับ งั้นผมไปก่อนนะ"พูดเสร็จถังเฟิ่งเทียนรีบวิ่งออกไปดูห้องหอ
ณ หอพักศิษย์ฝ่ายใน.
...เมื่อถังเฟิ่งเทียน เปิดประตูเข้ามาในห้องก็พบกับ...
...หลิงม่านน่วน...
"เจ้าเป็นใคร"ม่านน่วนถาม ด้วยน้ำเสียงแข็ง
"ข้ามีชื่อถังเฟิ่งเทียนเจ้าล่ะ"
"เมิ่งเสวียน"
"ยินดีที่ได้รู้จักนะเมิ่งเสวียน"ถังเฟิ่งเทียนจับมือม่านน่วน
"อะ......อืม"ม่านน่วนหน้าแดงเหมือนมะเขือเทศและหัวใจเต้นเร็วและแรง
...ตัดมาที่เยว่เอ๋อร์...
"ถึงห้องแล้วหรอเนี่ยเร็วจัง"ตอนที่เยว่เอ๋อร์จะเปิดประตูและพบกับเสิ่นหม่าซาน
"เอ่อ..เจ้าชื่ออะไรหรอ"
"อ้อ ข้าชื่อเสิ่นหม่าซานเจ้าล่ะ"
"ข้าหวังอวิ๋นจิง "
"ยินดีที่ได้รู้จักหวังอวิ๋นจิง"เสิ่นหม่าซานผายมือ
"ขอบคุณนะ"
^^^ โปรดติดตามตอนต่อไป....^^^
ชั้นเรียนนักเรียนปี1
"เอาล่ะวันนี้เป็นวันเรียน วันแรกข้าอยากจะขอฝากเนื้อฝากตัวนิดหน่อยข้านามว่าซูหลาน ดังนั้นข้ามีบททดสอบให้พวกเจ้าเนื่องจากเป็นศิษย์ฝ่าย ในของโรงเรียนมิ่งหยวนเออข้าอยากจะทดสอบพบเจ้าเอาละออกไปลานประลอง ก่อนอื่นวิ่งรอบโรงเรียนให้ครบ 200 รอบซะก่อนถ้าใครขี้โกงหรือข้าจับได้ออก สถานเดียว!!" หญิงชราพูดด้วยน้ำเสียงแข็ง
"โอ้ยยย ให้วิ่งตั้ง 200 รอบใครมันจะไปทำ"ม่านน่วนบ่น
"เอาน่า เมิ่งเสวียน"ถังเฟิ่งเทียนพูดปลอบ
"นี่ เอาน้ำจากค่าหน่อยไหมข้าพกน้ำมาด้วย"เด็กชายหนุ่มยื่นขวดน้ำให้
"ขอบใจนะ" ม่านน่วนและถังเฟิ่งเทียนรับขวดน้ำ
"นี่พวกเจ้าชื่ออะไรกันเหรอ"เด็กชายถาม
"ข้านามว่าถังเฟิ่งเทียน ส่วนเมิ่งเสวียน เจ้าล่ะ"
"ถ้ามีนามว่า ไต้อันหลาน"
ทั้งสามวิ่งไปพูดคุยกันไปจนใกล้ครบ
"นี่พวกเจ้าพักเหนื่อยก่อนไหม"ม่านน่วนพูดพร้อมนั่งพักเหนื่อย
"แล้วแต่เจ้าเลยข้ายังไม่เหนื่อย"ถังเฟิ่งเทียนพูดพร้อมวิ่งต่อไป
(มันเอาแรงมาจากไหนเยอะแยะวะ)
"งั้นข้าจะวิ่งตามด้วย!!"ม่านน่วนฮึกแรงสู้
วิ่ง รอบแล้วรอบเล่าในที่สุดก็ครบ 200 รอบ
"เอาล่ะคนข้าเอ่ยชื่อต่อไปนี้ เก็บข้าวเก็บของแล้วออกไปจากหอศิษย์ฝ่ายใน ข้าไม่ใช่คนใจดำใจไม้ไส้ระกำอะไรหรอกดังนั้นข้าจึงให้พวกเจ้าเข้าไปอยู่ศิษย์ฝ่ายนอกแทน เอาล่ะคนแรก เมิ่งเจิ่ง เสี่ยวอัน หม่าจ่ง นิ่งหนาน อันเมิ่งจื่อ ตงฟาง หวังเมิ่ง ...."
"ได้อย่างไรพวกข้าวิ่งจนครบ 200 รอบ พวกข้าสอบตกได้ไง"คนในฝูงชนพูดขึ้น
"เจ้าไม่ได้วิ่งครบ 200 รอบ จะปั่นจักรยาน 100 รอบแล้วเจ้าก็วิ่งต่อ 100 และบางคน ก็แอบใช้สายเลือดวิญญาณ แบบนี้มันยุติธรรมหรือไม่"
"ฮึ้ยย…"เด็กหนุ่มพูดด้วยความคับแค้นใจ
"มีใครจะต่อต้านอีกมั้ยถ้าไม่มีเก็บข้าวของแล้วออกไปพบอาจารย์ถังตงอย่าที่หอศิษย์ฝ่ายนอก ออกไป"
คนที่โดนขานชื่อก็ออกไปเก็บข้าวของตามระเบียบ
"ส่วนพวกเจ้าที่เหลืออยู่ ตามเข้ามาที่ลานประลอง"
... ณ ลานประลอง...
"เอาล่ะ จับกลุ่มกันกลุ่มละสามคนเชิญ"
"นี้ๆ จับกลุ่มกันเร็วๆๆ" ม่านน่วนพูด
"กลุ่มเราชื่อ สัตว์ประหลาด"
"มาแล้วมาแล้ว"ไต้อันหลานและถังเฟิ่งเทียนพูดขึ้น
"ทีนี้ก็จับฉลากแล้วมาประลองกันกลุ่มในรั้งท้ายออกไปที่หอฝ่ายนอก"
ตารางคู่ประลอง
กลุ่มพยัคฆ์vs กลุ่มสัตว์ประหลาด
กลุ่มแก้วเจ็ดสีvs กลุ่มบุปผา
กลุ่มอัคนีvs กลุ่มมายา
ในการประลองกลุ่มแรก
"เอาล่ะ ข้าชื่อว่าเมิ่งเสวียนสายเลือดวิญญาณหงส์เพลิง
ระดับ วิญญาณสายเลือดขั้น1
ข้าชื่อว่าถังเฟิ่งเทียน สายเลือดวิญญาณมังกรสามพิภพ
ระดับวิญญาณสายเลือดขั้น2
ข้าไต้อันหลาน สายเลือดวิญญาณพิภพ ระดับวิญญาณสายเลือดขั้น2" ทั้งสามแนะนำตัว
"เอาล่ะเริ่มการประลอง"
"วิชาสายเลือดที่1 หงส์เพลิงนิพพาน"
"เยี่ยมเลยเมิ่งเสวียน วิชาสายเลือดที่2 มังกรคำรามทลายนภา"
"เอาล่ะ มันจบแล้ว วิชาสายเลือดที่1 ผนึก3แดน3 พิภพ"
ตารางประเมิน
1 กลุ่มแก้วเจ็ดสี 178คะแนน
2 กลุ่มสัตว์ประหลาด 155คะแนน
3 กลุ่มพยัคฆ์ 147คะแนน
4 กลุ่มอัคนี 134 คะแนน
5 กลุ่ม บุปผา 121 คะแนน
6 กลุ่มมายา 109คะแนน
"กลุ่มบุปผาและกลุ่มมายาไปเก็บข้าวของแล้วออกไปซะ
... ส่วนที่เหลือเลิกเรียนได้"อาจาร์ยซูหลานพูดด้วยความเคร่งครึ้ม...
...ณ หอพักศิษย์ฝ่ายใน....
...ยามวิกาล...
"นี่ เมิ่งเสวียนข้าคิดพวกควรฝึกกันหน่อยได้หรือไม่"
ถังเฟิ่งเทียนกล่าวชวนม่านน่วนอย่างกังวลอยู่หน่อยๆ
"อืมม ข้าคิดเหมือนเจ้าแต่ข้าอยากฝึกวิชาผสานสายกายาเลือด"ม่านน่วนพูดตะกุตะกัก
"งั้นไปกันเถอะ"ถังเฟิ่งเทียนรีบจับมือม่านน่วนที่หน้าแดงก่ำและรีบวิ่งไปที่ลานประลอง
...ณ ลานประลอง...
..."เอาล่ะ ข้าจะอ่อนให้เจ้าก็แล้วกัน"ม่านน่วนหักนิ้วเล็กน้อยเอียงคอและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์...
"คิดหรอว่าข้าจะอ่อนกว่าเจ้า"
"ข้าไม่ได้คิดแบบนั้นซะหน่อย"ม่านน่วนยิ้มแล้วพุ่งเข้าต่อยถังเฟิ่งเทียนแต่เขารับหมัดได้
"ทำได้แค่นี้เองหรอ"ม่านส่วนยิ้มให้แล้วพุ่งเข้าถีบจนถังเฟิ่งเทียนล้มลง
"ข้าบอกเจ้าแล้วว่าข้าแกร่งกว่าเจ้า"ถังเฟิ่งเทียนจับม่านน่วนลงกลับพื้น
"ยอมแพ้หรือยังล่ะ"เขายิ้มเยาะเย้ย
"บ้านเจ้าสิ"ก่อนที่นางจะเอาดาบหงส์เพลิงออกมาจ่อเข้าที่คอ
"เอาล่ะๆ ข้ารู้แล้วว่าเจ้าเก่งตอนนี้เรามาฝึกทัวิชาผสานเลือดกายาดีกว่ามั้ย"ถังเฟิ่งเทียนเกาหัว ม่านส่วนทำท่าทางเหมือนงอน
"งั้นเริ่มละน้า"หลังจากนั้นทั้งสองหลับตาพร้อมจับมือ
"วิชาสายเลือดผสานกายา เคียงคู่กันชั่วนิรันดร"
ทั้งสองพูดพร้อมกัน
วิชาผสานที่กล่าวเล่าไปนั้นคือการปล่อยมังกรและหงส์รวมร่างกัน
"เอาล่ะงั้นพอแค่นี้ก่อนนะพอดีข้ามีธุระน่ะ"
"งั้นเจอที่หอนะ"ถังเฟิ่งเทียนโบกมือลา
...ตัดมาที่เยว่เอ๋อร์...
... ...
...ตู้ม!!...
ควันลอยฟุ้งออกมาจากปืนยนต์ เยว่เอ๋อร์(ร่างหญิง)รีบปัดควันออกและรีบประกอบใหม่อย่างหงุดหงิดแต่มีชิ้นส่วนหล่นกลิ้งไปติดเท้าเด็กหนุ่มคนหนึ่ง เด็กหนุ่มคนนั้นเก็บแล้วส่งให้เยว่เอ๋อร์ เยว่เอ๋อร์รีบรับไว้และรีบประกอบต่อจนเสร็จ เยว่เอ๋อร์ดีใจจึงรีบแปะมือทันใดนั้น
"ห้ะะ จะ เจ้าเป็นใครเข้ามาที่นี้ได้อย่างไร"เยว่เอ๋อร์ถอยห่างแต่ไม่ทันระวังไปเหยียบชิ้นส่วนอื่นๆจน...
"โอ้ยยย"เยว่เอ๋อร์ล้มลง
เด็กหนุ่มคนนั้นผายมือและยิ้มให้ เยว่เอ๋อร์รีบลุกขึ้น
"ข้าบอกให้เจ้าออกไปไง!!"เยว่เอ๋อร์ไล่
เด็กหนุ่ม(เสิ่นหม่าซาน)รีบวิ่งออกจากห้องวิศวะกรรมโดยมีหงส์น้ำแข็งไล่ตาม
... ...
..."เยว่เอ๋อร์เป็นอะไรไป ทำไมถึงหน้างอแบบนั้นล่ะ"...
ม่านน่วน(ร่างหญิง)เดินเข้าที่ห้อง
"ก็มันมีไอ้หน้าตัวไหนก็ไม่รู้มาที่ห้องวิศวะกรรม"
เยว่เอ๋อร์ทำหน้างอ
"แต่ดูนี้สิข้าประกอบปืนยนต์ให้พี่ด้วยนะ"เยว่เอ๋อร์เดินออกไปด้านข้างเล็กน้อยเผยให้เห็นปืนสั้น4กระบอก
"ขอบคุณนะเยว่เอ๋อร์ แต่เจ้าควรไปนอนแล้วนะ"
ม่านน่วนลูบหัวเยว่เอ๋อร์
"ค่ะพี่"เยว่เอ๋อร์เดินจากไปพร้อมกลับไปเป็นชาย
"เยว่เอ๋อร์ ทำไมไม่เก็บปืนละเนี่ย ฮะ"ม่านส่วนเก็บไว้ที่ถุงเงินวิญญาณ แล้วม่านน่วนก็กลับร่างชายและเดินออกจากห้องวิศวะกรรม
...ณ หอพักศิษย์ฝ่ายในชาย...
..."ถังเฟิ่งเทียนข้ากลับมา…."ม่านน่วนเปิดประตูออกเจอกับถังเฟิ่งเทียนที่จะกำลังอาบน้ำอยู่...
"อ้าว เมิ่งเสวียน"ถังเฟิ่งเทียนเดินออกมาพร้อมนุ่งผ้าขนหนู ม่านน่วนรีบหั่นหน้าหนีพร้อมกับหน้าแดงก่ำ
"เมิ่งเสวียนนี่เจ้าไม่สบายหรือเปล่า"ถังเฟิ่งเทียนรีบเดินมาหาม่านน่วน ที่หน้าแดงก่ำ
"ขะ...ข้าไม่เป็นไร แต่เจ้าไปใส่เสื้อผ้าก่อนมั้ยอายคนอื่นเขา"ม่านน่วนรีบผลักออกแล้วรีบเดินเข้าไปในห้อง
"เอ้ะ...นี่เจ้าหน้าแดงหรอเนี่ยหรือว่าเจ้า.."ถังเฟิ่งเทียนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
"เงียบไปเลยนะก่อนที่ข้าจะเอาดาบแทงเจ้า"ม่านน่วนชี้หน้า
"ก็ได้ๆ ข้าไม่พูดแล้วก็ได้แต่ข้าไม่คิดเลยนะว่าเจ้าจะอ่อนไหวระหว่างชายและชาย"ถังเฟิ่งเทียนเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
"ไสหัวไป!!!"ม่านน่วนระเบิดพลังออกมาหงส์เพลิงไล่ ถังเฟิ่งเทียนรีบออกจากห้องจากนั้นม่านน่วนกลายเป็นหญิง
"ไอ้บ้านี่มาพูดจาแทะลมอยู่ได้"น้ำเสียงสาวน้อย
(เอ้ะ นี่เรากลับร่างหญิงหรอเนี่ยไม่ได้ๆต้องหาทางกลับร่างชาย) ม่านน่วนก็พยายามเสกกลับร่างจนสำเร็จ
"นี่ข้าไม่คิดเลยนะเนี่ยว่าเจ้าจะอารมณ์อ่อนไหวได้ง่ายขนาดนี้"ถังเฟิ่งเทียนเดินเข้าในแต่ ผ้าขนหนูหาย??
"ข้าบอกว่ารีบไปใส่เสื้อผ้าไงไม่ได้ยินหรอ!!"ม่านน่วนชี้หน้าถังเฟิ่งเทียน
"ก็ได้ๆ"ถังเฟิ่งเทียนรีบถอยไปใส่เสื้อผ้า
"ก็แค่นี้"ม่านน่วนกอดอกท่าทางเหมือนจะงอน
"เอาล่ะข้าจะไปอาบน้ำที่บ่อน้ำร้อนที่ภูเขาหลังโรงเรียน"
ม่านน่วนเก็บเครื่องอาบน้ำใส่ถุงเงินวิญญาณ
"เดี๋ยวสิ เมิ่งเสวียนข้าขอไปด้วยได้หรือไม่"
"ถ้าเจ้าจะก็เก็บข้าวของแล้วตามข้ามา" จากนั้น
ม่านน่วนก็บินไปที่ภูเขาหลังโรงเรียนแต่ถังเฟิ่งเทียนต้องเดินเพราะไม่มีปีก
...ณ บ่อน้ำพุร้อน...
ม่าน่วนลงมาถึงก็ถอดเสื้อผ้าแล้วก็กลับร่างเป็นหญิงก่อนที่จะลงไปที่บ่อน้ำพุร้อน
"เมิ่งเสวียนรอข้าด้วยสิ"ถังเฟิ่งเทียนหอบเหนื่อยแล้ววเจอกับม่านน่วน(ร่างหญิง)ม่านน่วนถึงกับตกใจว่า ทำไมต้องมาเจอกันในที่แบบนี้ด้วย
"นี่ แม่นางน้อยเจ้าเห็นสหายข้าบ้างหรือไม่"
"เอ่อ…ข้าไม่เห็นนะ"แต่ถังเทียนสังเกตุว่ามันมีเสื้อผ้าของเมิ่งเสวียนวางไว้อยู่
"จริงหรอข้าไม่เชื่อเจ้าหรอก"ก่อนถังเฟิ่งเทียนไปหลบที่ต้นไม้ใกล้ๆแล้วก็ถอดเสื้อผ้าแล้วก็ลงมาที่บ่อน้ำพุร้อน
"นี่เจ้าทำไมไม่ไปบ่ออื่นมาลงที่บ่อข้าทำไม"ม่วนน่วนทำหน้าไม่พอใจอย่างแรง
"ทำไมหรือว่าเจ้า…"ถังเฟิ่งเทียนเดินเข้านั่งใกล้กลับม่านน่วน
"หน๋อยยย ไอ้บ้า!!!"ม่านน่วนตบไปที่หน้าของถังเฟิ่งเทียนจนเซหน้าทิ่มลงน้ำก่อนที่ม่านน่วนจะขึ้นจากน้ำ
"ชายหญิงไม่อาจอยู่ด้วยกัน2ต่อ2จำเอาไว้ซะ"ก่อนที่ม่านน่วนเดินจากไปแล้วกลับร่างชาย
"เดี๋ยวก่อนสิ…"เขาพยายามจะออกจากบ่อและตามนางไปแต่นางหายเข้าไปในป่า
^^^โปรดติดตามตอนต่อไป….^^^
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!