NovelToon NovelToon

รักเธอนะเเต่ยอมถอยออกมาดีกว่า

สองปี... ที่เธอและภูผาเดินร่วมกันมา

จันทราเดินลากกระเป๋าใบใหญ่เข้ามาในบ้านไม้หลังเล็กของยาย ที่ตั้งอยู่ในอำเภอเล็กๆ ทางภาคเหนือ เสียงล้อกระเป๋าเสียดสีกับพื้นไม้เก่าๆ ดังสะท้อนในความเงียบ

“กลับมาแล้วเหรอ หนูจัน”

เสียงแหบแผ่วของยายทำให้เธอเงยหน้าขึ้น ยิ้มจางๆ ทั้งน้ำตา

“ค่ะยาย... จันกลับมาแล้ว”

ยายไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม เพียงแค่อ้าแขนให้เธอโผเข้าไปกอดแน่น เหมือนรู้ดีว่าไม่ใช่การกลับบ้านธรรมดา แต่มันคือการ หนีกลับมา หลังจากหัวใจโดนทำลายอย่างไม่มีชิ้นดี

หลังมื้ออาหารค่ำที่เรียบง่าย จันทรานั่งอยู่ที่ชานบ้าน มือถือในมือตกค้างบนหน้าแชทของภูผา ข้อความสุดท้ายยังคงอยู่ที่ “ขอโทษนะจัน… ครอบครัวฉันไม่โอเคกับเรื่องเราเลยจริงๆ”

เธอกดปิดหน้าจออย่างช้าๆ แหงนหน้ามองดวงจันทร์เต็มดวงที่ลอยเด่นอยู่กลางฟ้า

“ทำไมต้องเป็นฉันที่ไม่พอ?”

คำถามที่ไม่มีคำตอบผุดขึ้นในใจอีกครั้ง

ภาพในหัวย้อนกลับไปวันที่พวกเขาจับมือกันแน่น ท่ามกลางสายตาเย็นชาของแม่ภูผา

“ผู้หญิงธรรมดาแบบนี้เหรอ ที่จะมาอยู่ข้างลูกชายแม่? แม่ไม่รับ!”

ภูผาไม่ได้พูดอะไรในตอนนั้น แม้เธอจะบีบมือเขาแน่นแค่ไหน เขาก็เพียงก้มหน้า… เงียบ

คืนนั้นคือจุดเริ่มต้นของจุดจบที่เธอพยายามหลอกตัวเองว่า “จะผ่านมันไปด้วยกัน”

แต่สุดท้าย… เธอก็กลับมาอยู่ตรงนี้ กลับมาในโลกที่ไม่มีเขา

ลมเย็นพัดเอื่อยผ่านหน้าผากที่เปียกชื้นด้วยน้ำตา เธอยิ้มจางๆ ทั้งที่ในอกเหมือนจะขาดใจ

“ถ้ารักแล้วต้องฝืน… ก็ยอมเจ็บคนเดียว ดีกว่าเห็นเธอต้องลำบากไปตลอดชีวิต”

“จัน ถ้าเราผ่านช่วงฝึกงานไปด้วยกันได้ แสดงว่าเราเหมาะจะเป็นคู่ชีวิตเลยนะ”

เสียงของภูผาในวันนั้นยังคงดังก้องในใจจันทราเสมอ

ตอนนั้นพวกเขาเป็นนักศึกษาฝึกงานปีสุดท้าย จันทราเรียนด้านนิเทศศาสตร์ ส่วนภูผาอยู่คณะวิศวะ แต่ได้มาเจอกันเพราะโปรเจกร่วมระหว่างคณะ

เธอเป็นคนเงียบๆ ส่วนเขาช่างพูด ร่าเริง และไม่เคยปล่อยให้เธอนั่งเหงาในมุมเดิมๆ ของคาเฟ้ที่พวกเขานัดทำงาน

“นี่... เคยยิ้มให้ตัวเองในกระจกหรือยัง?”

เขาถามในวันที่เธอเครียดจนเกือบร้องไห้

“ทำไมล่ะ?”

“เพราะรอยยิ้มของเธอมันมีพลังนะ ฉันเห็นแล้วรู้สึกเหมือนโลกมันเบาขึ้น”

จากวันนั้น จันทราก็ยิ้มให้เขาง่ายขึ้น... และรักเขามากขึ้น

พวกเขาผ่านงานหนัก ผ่านปัญหาเล็กใหญ่ด้วยกัน ฝ่าฝน ฝ่าความง่วงนอน และแม้กระทั่งการโดนดุจากอาจารย์ จนวันรับปริญญามาถึง เขาคว้ากล้องมาถ่ายเธอทั้งวัน พูดซ้ำไปซ้ำมาว่า

“แฟนฉันสวยที่สุดในรุ่น”

ความรักของพวกเขาเหมือนจะมั่นคง... จนกระทั่งภูผากลับไปบ้านในช่วงปีใหม่ แล้วจันทราได้เจอแม่ของเขาเป็นครั้งแรก

วันนั้น แม่เขามองเธอจากหัวจรดเท้า แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉียบ

“ถ้าคิดจะคบเล่นๆ แม่ไม่ห้าม แต่ถ้าคิดจะเอาเป็นสะใภ้ แม่ไม่รับนะลูกภู”

ภูผายืนเงียบข้างเธอ ไม่พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว

และนั่นคือครั้งแรกที่จันทรารู้ว่า... ไม่ใช่ทุกความรักจะต่อสู้กับโลกได้

---

คืนนั้นที่จันทรากลับมานอนที่บ้านยาย เธอฝันถึงภูผา เขายื่นมือมาหาเธอในทุ่งดอกไม้สีขาว

แต่เมื่อเธอจะคว้ามือนั้น เขากลับหายไป เหลือเพียงเสียงกระซิบเบาๆ

“ขอโทษนะจัน... ฉันอ่อนแอเกินไป”

เธอตื่นขึ้นมาพร้อมน้ำตาไหลเงียบๆ ก่อนจะลุกไปชงโกโก้อุ่นๆ แก้วหนึ่ง หยิบสมุดจดเก่าๆ มานั่งเขียนข้อความที่เธอไม่คิดจะส่งให้ใคร

> "ภูผา...

ฉันไม่โกรธเธอเลยนะ

เพราะสุดท้าย คนที่เลือกเธอก็คือฉันเอง

ขอบคุณ... ที่เคยทำให้หัวใจของฉันรู้จักคำว่า 'รักอย่างไม่มีเงื่อนไข'

ถึงวันนี้จะเจ็บ... แต่ฉันจะยังรักเธอในมุมที่ไม่มีใครเห็น

และจะรักตัวเองให้มากขึ้น... เพื่อเดินต่อไป"

เพื่อนใหม่ในวันที่ใจยังสั่น

เสียงมอเตอร์ไซค์ดังใกล้เข้ามาที่หน้าบ้านไม้ของยาย จันทรามองขึ้นจากสมุดบันทึก ใบหน้าเธอยังเปื้อนคราบน้ำตาเก่าๆ ที่ยังไม่ทันแห้งดี

“ยายจ๋า... มีคนมาหา!”

เสียงเด็กในหมู่บ้านวิ่งมาเรียก พลางชี้ไปที่ชายหนุ่มคนหนึ่งที่จอดรถอยู่หน้ารั้วไม้ เขายืนอยู่ตรงนั้น นิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะยิ้มบางๆ ให้เธอ... รอยยิ้มที่เธอจำได้ดี

“ภีม?”

จันทราเอ่ยชื่อเขาออกมาเบาๆ ราวกับลมหายใจ

ภีม – เพื่อนสนิทในวัยมัธยม และเป็นรักแรกที่เธอเคยคบกันในช่วงสั้นๆ ก่อนที่เขาจะย้ายบ้านกระทันหันไปต่างจังหวัด โดยไม่มีแม้แต่คำลา

“ไม่ได้เจอกันนานเลยเนอะ...” เขาพูด ขณะเปิดหมวกกันน็อค เผยให้เห็นใบหน้าที่โตขึ้นแต่ยังคงแววตาอบอุ่นแบบเดิม

“สิบปีได้มั้ง...” เธอเอ่ยเบาๆ “ตอนนั้นนายหายไป... ไม่บอกอะไรเลยด้วยซ้ำ”

ภีมยิ้มจางๆ แต่ดวงตากลับมีเงาเศร้าซ่อนอยู่

“พ่อแม่ฉันแยกทางกันน่ะ ฉันเลยต้องย้ายกะทันหัน พอจะติดต่อ... นายก็เปลี่ยนเบอร์ไปแล้ว”

จันทราไม่ได้ตอบ เธอเพียงพยักหน้าเบาๆ

“ฉันมาทำงานอยู่ตัวเมืองไม่ไกลจากที่นี่หรอก... เพิ่งรู้ว่าเธอกลับมาอยู่กับยาย ฉันเลยแวะมาดู...” เขาหยุดเล็กน้อย “เธอโอเคไหม?”

คำถามนั้นฟังดูธรรมดา... แต่มันกลับทำให้หัวใจของจันทราสั่นไหว

เธอไม่ได้ตอบตรงๆ แต่แค่ยิ้มบางๆ และเชิญเขาเข้าบ้าน

---

ช่วงเย็นวันนั้น จันทรากับภีมนั่งคุยกันที่ชานบ้าน พูดถึงเรื่องราวเก่าๆ ทั้งขำ ทั้งเศร้า ทั้งสิ่งที่เคยพลาดไป และสิ่งที่ยังไม่ได้พูดกันในวันนั้น

“ฉันเคยคิดนะ...” ภีมพูด “ว่าถ้าเราไม่ห่างกันตอนนั้น... ป่านนี้เราจะเป็นยังไงบ้าง”

จันทราหัวเราะเบาๆ แต่มองออกไปที่ต้นไม้ไกลๆ ไม่สบตาเขา

“บางเรื่อง... มันก็แค่เกิดขึ้นเพื่อให้เรารู้ว่า เราเคยมีความสุข”

ภีมนิ่งไป แล้วพูดเบาๆ

“งั้นครั้งนี้... ขอฉันอยู่ใกล้ๆ ได้ไหม? ไม่ได้หมายถึงเรื่องความรักนะ แค่อยากอยู่เป็นเพื่อน ให้เธอไม่เหงา”

จันทรามองหน้าเขา แววตาของเขาเหมือนจะเข้าใจทุกอย่างในใจเธอโดยไม่ต้องพูด

เธอพยักหน้าเบาๆ...

“ได้สิ เพื่อนเก่ากลับมาแล้วนี่”

ภีมกลายเป็นเพื่อนที่จันทราไม่รู้ว่าคิดถึงแค่ไหน จนกระทั่งเขากลับมา

เขามักจะมาที่บ้านยายในช่วงเย็น นั่งกินข้าว นั่งคุยเรื่องทั่วไป บางวันก็นำหนังสือดีๆ มาให้ บางวันก็ชวนเธอออกไปเดินเล่นที่ทุ่งดอกไม้ใกล้ๆ

หัวใจที่แตกสลาย เริ่มค่อยๆ ซ่อมแซมด้วยความอบอุ่นแบบเพื่อนที่ไม่เรียกร้อง

แต่ในคืนหนึ่ง หลังจากดูดาวด้วยกัน ภีมก็พูดบางอย่างออกมา

“จัน... ถ้าฉันบอกว่ายังรู้สึกกับเธอเหมือนเดิม เธอจะถอยไหม?”

คำพูดนั้นทำให้จันทราเงียบไป เธอไม่พร้อมตอบ ไม่ใช่เพราะไม่รู้สึกอะไร แต่เพราะเธอยังกลัวความรักอีกครั้ง

“ภีม... ขอฉันอยู่ตรงนี้ก่อนนะ ขอแค่มีนายอยู่ใกล้ๆ แบบนี้ก็พอแล้ว”

การกลับมาของคนที่เคยทำร้าย

คืนหนึ่ง ขณะจันทรากำลังอ่านบันทึกเก่า เสียงแจ้งเตือนจากมือถือดังขึ้น

ชื่อผู้ส่งทำให้มือเธอสั่น

ภูผา

> “เราได้ยินมาว่าเธอกลับไปอยู่กับแฟนเก่าใช่ไหม?”

“เธอมีความสุขดีเหรอ?”

จันทรานิ่งไป หัวใจบีบรัดอีกครั้ง ราวกับความรู้สึกที่เธอพยายามเก็บฝังไว้ ถูกขุดขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว

เธอตอบกลับไปเพียงว่า

> “ขอให้เธอมีความสุขกับชีวิตของเธอนะภูผา ฉันไม่ได้อยู่กับแฟนเก่า... แต่ฉันอยู่กับคนที่ไม่ทิ้งฉันตอนฉันเจ็บ”

ภูผาไม่ตอบกลับ... และเธอก็ปิดแจ้งเตือนไปอีกครั้ง

เย็นวันหนึ่ง ขณะฝนตกหนัก ภีมขี่มอเตอร์ไซค์มารับจันทราจากตลาด เขาเปียกปอนไปทั้งตัว แต่ยังยิ้มให้เธอ

“หนาวไหม?” เขาถาม

“ไม่หนาวเลย... เพราะนายอยู่ตรงนี้” เธอตอบยิ้มๆ

ขณะที่พวกเขานั่งใต้ชายคาหน้าร้านเล็กๆ เธอก็เอนหัวพิงไหล่เขาโดยไม่รู้ตัว

ภีมไม่ได้พูดอะไร เขาแค่นั่งอยู่ตรงนั้นเงียบๆ ปล่อยให้เธอพักหัวใจไว้กับความอบอุ่นแบบที่ไม่ต้องพูด

ช่วงหลังมานี้ ภีมเริ่มเงียบไปจากการแวะมาเยี่ยมทุกวัน จันทรารู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง แม้เขาจะยังคงทักมาเหมือนเดิม แต่บางข้อความมันดูห่างเหินลงอย่างแปลกประหลาด

กระทั่งวันหนึ่ง เขาส่งข้อความมาสั้นๆ

> “จัน เราคุยกันได้ไหม?”

พอเธอเดินไปถึงร้านกาแฟเล็กๆ ที่พวกเขานัด ภีมก็พูดตรงๆ ด้วยแววตาหนักแน่น

“ฉันรักเธอจัน รักมาตลอด และตอนนี้ก็ยังรักอยู่... แต่ถ้าเธอไม่พร้อม ฉันก็จะไม่รั้ง”

“ฉันแค่ไม่อยากอยู่ในจุดที่ทำให้เธอสับสน...”

หัวใจจันทราเต้นแรง เธอหลบตา

“ฉันยังกลัว... ภีม”

“ฉันเข้าใจ...” เขายิ้มเศร้า “แต่ขอแค่รู้ว่าเธอปลอดภัย และยิ้มได้อีกครั้ง ฉันก็พอใจแล้ว”

จันทราไม่คาดคิดเลยว่า เธอจะเจอภูผาอีกครั้งที่หน้าบ้านยาย

เขามาโดยไม่บอกล่วงหน้า... พร้อมดอกไม้ช่อหนึ่ง และดวงตาสำนึกผิดอย่างหนัก

“ฉันคิดถึงเธอจัน... ทุกวัน”

“แม่ฉัน... ยอมแล้ว ตอนนี้ฉันพร้อมจะเลือกเธอ”

แต่ครั้งนี้ จันทราไม่ใช่ผู้หญิงที่รอคอยเหมือนวันเก่าอีกแล้ว

“ภู... ขอบใจนะ ที่มาช้าเกินไป”

“เธอเคยเงียบในวันที่ฉันต้องการที่สุด... ตอนนี้มันสายไปแล้ว”

ภูผายืนเงียบ รู้ตัวดีว่าเธอเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ

จันทราเดินกลับมาที่บ้าน ขณะฝนกำลังตกโปรยปราย

เธอเปิดโทรศัพท์ โทรหาใครบางคน

“ภีม... ว่างไหม?”

สิบห้านาทีต่อมา ภีมมายืนตรงหน้าบ้าน เปียกไปทั้งตัวเหมือนวันนั้น

แต่ครั้งนี้ จันทราไม่ได้แค่พิงไหล่เขา...

เธอกอดเขาแน่น

“ขอโทษ... ที่ให้เวลานายรอ”

“ไม่เป็นไรเลยจัน... เพราะครั้งนี้ ฉันจะอยู่กับเธอ ไม่ว่าเธอจะพร้อมเมื่อไหร่”

เวลาผ่านไป หัวใจของจันทราค่อยๆ เติบโตขึ้นอีกครั้ง

เธอเริ่มเขียนนิยายบันทึกความรู้สึกของตัวเองลงในแอปออนไลน์ มีคนอ่านจำนวนมาก และคอมเมนต์ว่า “มันเหมือนเรื่องของฉันเลย...”

ภีมยังคงอยู่เคียงข้าง ไม่เร่งรัด ไม่เรียกร้อง

เขาเข้าใจว่า... ความรักคือการรอในจังหวะที่เหมาะสม

เย็นวันหนึ่ง ภายใต้แสงพระอาทิตย์ตก จันทรายิ้มให้เขา แล้วพูดเบาๆ

“ครั้งนี้... ฉันเลือกแล้วนะภีม”

เขายิ้มตอบ

“ขอบคุณ... ที่เลือกฉันในวันที่เธอไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว”

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!