'โรเชีย โนอา' รับรู้มานานแล้วว่าตนนั้นเป็นเพียง แค่ภาชนะรองรับอารมณ์ชายที่เขารักมากที่สุด

ชายที่เขาสามารถตายแทนได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผล ไร้สาระแค่ไหนก็ตาม

ทุกสิ่งทุกอย่างมันเริ่มขึ้นในตอนที่เขามีอายุสิบแปดปี โรเชียพบว่าตนเองได้ตกหลุมรักเด็กชายที่แสน สูงส่ง

ตัวของโรเชียนั้นเป็นเพียงแค่อัลฟ่าธรรมดา ๆ ที่มาจากชนชั้นที่อยู่ต่ำที่สุด

สังคมของเขาก็ยังเป็นสังคมที่น่ารังเกียจ

โรเชียเติบโตขึ้นในชุมชนที่ผู้คนติดเหล้าเมายา ข้างบ้านตบตีกัน ผู้คนเล่นการพนันราวกับเป็นชีวิต จิตใจ

เขาใช้ชีวิตในครอบครัวแสนย่ำแย่นี้โดยไร้ปากไร้ เสียงใด ๆ

ต่อให้บางครั้งบางคราพวกท่านจะชอบใช้ความ รุนแรงกับเขาถึงขั้นนำบุหรี่มาจี้ตามเนื้อตัว

หรืออาจจะใช้ท่อนไม้ใหญ่ ๆ ฟาดลงมาบนร่างกายผ่ายผอมของเขาในตอนที่พวกท่านเมาไม่ได้สติ

เชื่อเถอะว่าสิ่งเหล่านี้ได้กลายเป็นเรื่องปกติที่โรเชียพบเจอมาโดยตลอด

มันคือชีวิตแสนโสโครกอย่างไร้ที่ติ โสโครกอย่าง สมบูรณ์แบบ

เขาเคยชินกับการถูกด่าทอด้วยคำว่า 'ตัวภาระ' 'อ่อนแอ' 'ไร้ประโยชน์'

ทั้งหมดทั้งมวลนี้โรเซีย โนอาทำเพียงแค่ยิ้มรับ อย่างโง่งมกลับไป

'เกิดมาเพื่ออะไร?'

คือสิ่งที่อัลฟ่าในตรอกมั่วสุมคนหนึ่งเฝ้าถามแก่ชีวิตที่เหลืออยู่ในแต่ละวันมาโดยตลอด

ความเจ็บปวดที่พบเจอในทุกวินาที ความสิ้นหวัง และทุกสิ่งทุกอย่างทำให้โรเชียกลายเป็นมนุษย์ที่มีความคิดในทำนองที่ว่า..

'ช่างเถอะ เดี๋ยวก็ตายแล้ว'

แต่น่าเสียดาย..น่าเสียดายที่ในช่วงเวลาอันล้ำค่า นั้นได้ถูกพรากไปเพราะคนแปลกหน้าคนหนึ่ง

เดิมทีโรเชียควรจะตาย

เขาควรจะตายเพราะจู่ ๆ บิดาที่เมาหัวราน้ำก็ได้ เกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้นมา อีกฝ่ายเลือกที่จะคว้ามีด ทำครัวขึ้นมาชี้หน้าเขา

และดูเหมือนว่าบิดาที่แสนดีผู้นี้จะต้องการนำมีดเล่มนั้นมาจ้วงแทงร่างของลูกชายเพียงคนเดียวให้ได้

สายตาอาฆาตจ้องมองมาที่โรเซีย ริมฝีปากเหี่ยวย่นเอ่ยคำพูดเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ออกมาว่า

“มึงมันตัวภาระ! มาให้กูฆ่ามึงเดี๋ยวนี้! กูไม่น่าปล่อยให้มึงได้เกิดมาจริง ๆ !!”

แน่นอนว่าโรเชียสามารถเดินหนีหรือขัดขืนบิดาได้

แต่ ณ ตอนนั้นเด็กชายอัลฟ่ากลับทำเพียงแค่ยกยิ้มบางเบาด้วยแววตาที่ว่างเปล่า

อีกทั้งร่างผอมแห้งยังเลือกที่จะค่อย ๆ เดินเข้าไป ใกล้บิดาซึ่งกำลังเสียสติด้วยตนเอง

และนั่นมันหมายความว่า

โรเซีย โนอาเลือกที่จะตายอย่างเต็มใจ

เขาแค่กำลังคิดว่าในเมื่อพ่อคือผู้ที่ทำให้เขาเกิดมา การที่จะได้ตายด้วยน้ำมือของชายคนนี้ก็เป็นเรื่องที่ถูก ต้องแล้ว

ครอบครัวที่ทำให้ทั้งชีวิตของเขาเหมือนตกนรก ครอบครัวที่แสนโสมมนี้ การจากไปอาจเป็นเรื่องดีกว่า การอยู่ต่อ

แต่ก็อย่างที่บอกว่าการตายอันล้ำค่าของโรเซีย โน อาได้ถูกพรากไปโดยคนแปลกหน้าคนหนึ่ง

เมื่อจู่ ๆ แววตาของเขาก็ได้ปรากฏภาพแผ่นหลัง กว้างของใครสักคนที่เข้ามาขวางยังเบื้องหน้าเอาไว้ เพื่อไม่ให้โรเซียเดินเข้าไปหามีดในมือของบิดาได้สำเร็จ

มันคือภาพของชายที่มีร่างกายสูงใหญ่และกำยำ แม้ว่าอีกฝ่ายจะดูมีอายุพอ ๆ กับเขา

เส้นผมสีทองนั้นเด่นสง่า

โรเชียไม่รู้ว่าชายคนนี้เป็นใครและเข้ามาในบ้าน ของเขาได้อย่างไร แต่ภายในชั่วพริบตาเดียว เขาก็ได้ พบว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ใช้ฟีโรโมนเข้มข้นกดให้บิดาของเขา ล้มตึงลงไปกับพื้นอย่างไม่ใยดี

แน่นอนว่าบิดาของโรเซียย่อมหมดสติลงในทันที

ช่วงเวลานั้นเขาย่อมรับรู้ได้ว่านี่ไม่ใช่ฟีโรโมนของ อัลฟ่าที่เก่งกาจธรรมดา

แต่เด็กหนุ่มปริศนาผู้นี้คืออัลฟ่าที่อยู่ในระดับจ่า

ฝูง

เขาเป็นอัลฟ่าที่มีพลังทำลายล้างมหาศาลอย่าง แน่นอน

ข้อเท็จจริงเหล่านี้ได้ทำให้โรเชียมีความรู้สึกตื่น ตะลึงขึ้นมาในรอบหลายเดือน

เขาเอาแต่คิดว่าอีกฝ่ายเป็นใครกันแน่?

กระทั่งจู่ ๆ เด็กชายปริศนาก็ได้หันกลับมาเผชิญ หน้ากับเขา

ก่อนที่เสียงทุ้มพร่าจะเอ่ยในสิ่งที่ทำให้ชีวิตไร้ค่า ของโรเซีย โนอา

ได้เปลี่ยนไปตลอดกาล..

“โลกใบนี้ไม่มีทางใจดีกับนาย ถ้าถึงขนาดนี้แล้วยัง ไม่คิดจะลุกขึ้นสู้กับอะไรเลย ฉันว่านายก็สมควรไปตาย จริง ๆ นั่นแหละ”

ทั้ง ๆ ที่คำพูดของอีกฝ่ายควรจะทำให้อัลฟ่าอย่าง เขาหยิบมีดมาปักอกฆ่าตัวตายให้จบ ๆ

แต่ผลลัพธ์ทุกอย่างกลับสวนทางอย่างสิ้นเชิง เพราะประกายในแววตาที่แทบจะไม่หลงเหลือของโรเซีย โนอากลับเริ่มสะท้อนภาพของคนตรงหน้าขึ้นอย่าง บางเบา

ดวงตาแห้งกรังที่ไม่เคยแปดเปื้อนหยาดน้ำตาของ เขาก็เริ่มแดงก่ำ..

ความหมายของการมีชีวิตอยู่ การรักตัวเอง ทำเพื่อตัวเองอะไรพวกนั้น โรเชียยอมแพ้กับมันไปนานแล้ว

และถึงแม้จะโดนอัลฟ่าปริศนาผู้นี้ตอกย้ำด้วยคำพูดแสนรุนแรง สมองโง่งมที่ควรจะคิดไตร่ตรองบทเรียนชีวิตได้กลับมีเพียงความคิดที่นอกเหนือจากนั้น

นั่นก็คือเขาหลงรักผู้ชายคนนี้เข้าแล้วล่ะ

โรเซีย โนอาในตอนนั้นเอาแต่จ้องมองดวงตาดุดัน แสนเย็นชาของอีกฝ่ายราวกับแมวโรคจิต ลืมเลือนทุก สิ่งอย่างราวกับตกอยู่ในห้วงรักแสนบ้าคลั่ง

“ขอบคุณครับที่เตือนสติ ผมจะไม่ทำแบบนี้อีกเเล้ว ผมจะไม่ยอมตายเพื่อใครก็ตาม”

ถ้าคนที่ฆ่าผมไม่ใช่คุณ

โรเซียไม่ได้เอ่ยสิ่งที่คิดออกไป เขาทำเพียงยกยิ้ม บางเบาและมองอีกฝ่ายอย่างลุ่มลึก

เส้นผมสีทอง ดวงตาสีฟ้า

อัลฟ่าคิดเพียงแค่ว่าอีกฝ่ายคือเทวดาในชีวิตจริง เลือดในกายของเขาพลุ่งพล่านอย่างที่ไม่เคยเป็น ความรู้สึกอยากมีชีวิตอยู่เพื่ออะไรสักอย่างนั้นสะท้อนก้องอยู่ในจิตสำนึก

หัวใจของอัลฟ่าหนุ่มได้สลักลึกเหตุผลทุกอย่างลง ไปแล้วว่าทั้งชีวิตต่อจากนี้จะมีอยู่เพื่อ 'เขาผู้นี้'

แม้มันจะรวดเร็วและดูไร้เหตุผล แต่ชีวิตของโรเชีย โนอามันก็ไร้เหตุผลมาตั้งนานแล้ว..

หลังจากนั้นโรเชียก็พยายามพูดขอบคุณอีกฝ่ายไปหลายครั้งพร้อมกับแววตาเปี่ยมล้นความสุข เขาไม่ แม้แต่จะชายตามองบิดาที่นอนแน่นิ่งบนพื้น

อัลฟ่าพยายามถามไถ่ช่องทางติดต่อจากเด็กหนุ่ม ปริศนา ทว่าอีกฝ่ายกลับเมินเฉยและคิดจะเดินออกไป จากที่แห่งนี้เลยทันที กระนั้นโรเชียก็ยังมิวายวิ่งตามไป เพื่อที่จะหาเหตุผลให้ได้เจอกันอีกครั้ง

เขาพยายามที่จะเลี้ยงอาหารอีกฝ่ายสักมื้อเพื่อตอบแทนการช่วยเหลือในครั้งนี้

แต่ก็ไม่ได้ผลอันใดนอกเสียจากอัลฟ่าปริศนาผู้นี้ ปัดตกและเมินเฉยเขาโดยสิ้นเชิง อีกฝ่ายไม่หันกลับมา ปรายตามองเขาอีกเลย

ไม่เอ่ยปากพูดคุยกับเขาให้เปลืองน้ำลาย

ราวกับเห็นเขาเป็นเพียงแค่เศษสวะไร้ค่าไร้ราคาชิ้นหนึ่ง เพียงแค่งมมันขึ้นมาจากความตายก็ถือว่ามีน้ำใจมากพอแล้วด้วยซ้ำ

สุดท้ายก็จากกันไปโดยที่โรเซียไม่ได้ช่องทาง ติดต่อหรือแม้แต่คำบอกลาจากอีกฝ่าย

แต่แน่นอนว่าหลังจากวันนั้น...ชีวิตของโรเซีย โนอาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

โรเชียราวกับกลายเป็นคนที่มีชีวิตชีวาจนแม้กระทั่งคนข้างบ้านยังแอบนินทาว่าเขาโดนพ่อแม่ตีจนเป็นบ้าวิปริตไปแล้ว

หากแต่ความเป็นจริง โรเชียเพียงแค่ยิ้มรอวันที่จะได้พบกับชายผู้นั้นอีกครั้งก็เท่านั้น

เขาพยายามทำงานเก็บเงินซื้อมือถือดี ๆ และค้นหาช่องทางโซเชียลของเด็กหนุ่มปริศนาแบบเอาเป็น เอาตาย

ทว่ากลับไม่พบอะไรเลยนอกจากความว่างเปล่า

โลกที่โรเชียอาศัยอยู่นี้คือโลกที่มีสภาพแวดล้อม ส่วนมากค่อนข้างที่จะพัฒนาและสมบูรณ์แบบ เป็นโลก ในยุคทันสมัยที่มีทุกสิ่งทุกอย่างอำนวยความสะดวกได้ สบาย ๆ

มีเพศสภาพรองที่แบ่งแยกชนชั้นนั่นก็คืออัลฟ่า เบต้าและ โอเมก้า

อีกทั้งยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่แบ่งแยกผู้คนอย่างชัดเจน นั่นก็คือ 'พลังวิเศษที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด'

แน่นอนว่าโรเชียคืออัลฟ่าธรรมดาที่ไม่ได้มีแม้แต่ เศษเสี้ยวของพลังวิเศษในร่างกาย แต่อันที่จริงมันไม่ได้นับว่าเป็นสิ่งแปลกประหลาดสักเท่าใด

เนื่องจากผู้คนบนโลกอีกมากมายก็เป็นผู้คน ธรรมดาไร้พลังวิเศษเช่นกัน

โรเชียเคยพบเจอทั้งผู้คนที่มีพลังวิเศษแต่ทว่ามีน้อยนิดจนแทบจะใช้อะไรไม่ได้ ไปจนถึงผู้คนที่มีพลัง วิเศษเก่งกาจอย่างเช่นพวกตำรวจหรือนักล่า

ทว่าเด็กหนุ่มปริศนาผู้นั้นที่เขาหลงรักกลับเหนือชั้นกว่าทุกสิ่งที่ว่ามาอยู่หลายขุม

เพราะในครั้งนั้นโรเชียสามารถรับรู้ถึงพลังมหาศาลในตัวของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน โดยที่อีกฝ่ายยังไม่ได้ลงมือปลดปล่อยพลังออกมาเลยด้วยซ้ำ

ก็คงไม่พ้นเป็นอัลฟ่าระดับสูงสักคนในสังคมอย่าง แน่นอน

นั่นคือข้อมูลอันน้อยนิดที่โรเชียรู้เกี่ยวกับชายที่เขาหลงรัก กระนั้นเขาก็ไม่คิดหยุดที่จะตามหาอีกฝ่าย ถึงขั้นพยายามยืนดักรอในเส้นทางที่พวกเขาเคยพบกัน ครั้งแรก

พยายามเปลี่ยนที่ทำงานหลาย ๆ แห่งพร้อมความ หวังที่จะได้พบอีกฝ่ายอย่างบังเอิญสักครั้งหนึ่ง

เขาทำแบบนั้นราวกับคนบ้าอยู่เป็นปี ๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง

อัลฟ่าก็พลันเลื่อนมือถือจนไปเจอกับข่าวที่กำลังดังสนั่นโซเชียลอยู่ในขณะนี้

และนั่นก็คือข่าวที่มีหัวข้อว่า

'เปิดตัวทายาทคนโตแห่งตระกูลซีซาร์อย่างเป็น ทางการ

'ทายาทคนโตของอิกอร์ ซีซาร์ผู้กอบกู้โลกเมื่อสิบ เก้าปีก่อน'

ช่องทางโซเชียลมากมายเขียนข่าวนี้กันให้ว่อน แน่นอนว่ามันคือสิ่งสำคัญที่โลกจะต้องรู้

เพราะการเปิดตัวของชายที่มีชื่อว่า 'อีวานส์ ซีซาร์' จะเป็นสิ่งที่ทำให้โลกใบนี้เปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งใหญ่อีก ครั้งในรอบศรรตวรรต

เขาคือบุคคลที่โลกจะต้องจารึกเอาไว้ให้แม่นยำ

โรเชียไล่อ่านข่าวพวกนี้อย่างบ้าคลั่งด้วยจิตใจที่มี ความสุขราวกับจะระเบิดออกมาให้ได้

เขาเดาไม่ผิดหนึ่งอย่างในเรื่องของอายุ พวกเขา มีอายุเท่ากันจริง ๆ ตอนนี้โรเชียสิบเก้าปีแล้ว อีวานส์ ซีซาร์ที่เขาหลงรักเองก็เปิดตัวสู่สาธารณชนในอายุสิบเก้าปีเช่นกัน

อีวานส์คือทายาทคนโตของตระกูลที่ทรงอิทธิพล ระดับต้น ๆ ของโลก อีกทั้งยังเป็นถึงลูกชายของอิกอร์ ซีซาร์ ผู้เป็นอัลฟ่าพลังวิเศษที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ณ ปัจจุบันนี้

แน่นอนไม่มีใครไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของ ตระกูลซีซาร์

ไม่มีใครไม่รู้จักอิกอร์ ซีซาร์ผู้เคยกวาดล้างเผ่าพันธุ์มอนสเตอร์ที่รุกรานมายังพื้นโลกในช่วงสิบเก้าปีก่อน ก่อนที่โรเชียจะเกิดเสียอีก

อิกอร์ ซีซาร์นับว่าเป็นอัลฟ่าพลังวิเศษที่แข็งแกร่ง ที่สุดในโลก เป็นตำนานอันยิ่งใหญ่ที่โลกได้จารึกเอาไว้ ผู้คนสรรเสริญเยินยอเขาให้เป็นราวกับพระเจ้า

แต่ว่ากันว่าอีวานส์ ซีซาร์ผู้เป็นลูกชายหรือก็คือเด็กหนุ่มที่โรเชียหลงรักนั้นมีพลังเหนือกว่าบิดาของตนเองอยู่หลายเท่าตัว

และเขาจะกลายเป็นประวัติศาตร์หน้าใหม่ที่โลก สมควรจารึกเอาไว้อย่างยิ่งใหญ่

นี่น่ะหรือคืออีวานส์ ซีซาร์?

ตัวตนที่สูงส่งเกินเอื้อมขนาดนี้...หากต้องมาแปด เปื้อนตัวตนที่แสนโสโครกอย่างเขา โรเชียก็คิดว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก

เช่นนั้นแล้วอัลฟ่าที่ไร้ค่าอย่างเขาก็ไม่ได้ต้องการ สิ่งใดมากมายไปกว่าการที่จะได้เห็นว่าอีกฝ่ายยังคงมี ความสุขและแข็งแรงดีบนโลกที่แสนเฮงซวยใบนี้

แค่ขอให้เขาได้พบเจอกับอีวานส์ ซีซาร์ในทุกวัน

ต่อให้เป็นตัวไร้ค่ารูปแบบใดในชีวิตของอีกฝ่าย ต่อให้ต้องไร้ศักดิ์ศรีมากเท่าใด

โรเซีย โนอาก็พร้อมที่จะยอมรับความอัปยศพวก นั้นทั้งหมดด้วยความยินดี

    เพราะความคิดไร้ศักดิ์ศรีเหล่านั้น

โรเชียจึงทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้พบกับอีวานส์ ซีซาร์

    เขาพยายามอยู่นานจนกระทั่งอายุของพวกเขา ครบยี่สิบปีบริบูรณ์ ครั้งนั้นโลกได้เกิดการปฏิวัติครั้งยิ่งใหญ่

    อีวานส์ ซีซาร์ได้ขึ้นครองตำแหน่งผู้นำตระกูลด้วยวัยเพียงยี่สิบปี ธุรกิจและทุกสิ่งทุกอย่างที่ตระกูลซีซาร์มีได้ถูกเขาครอบครองเอาไว้โดยสมบูรณ์

    การปฏิวัติของเขาทำให้เกิดผลกระทบทั้งดีและ ร้ายไปทั่วทั้งโลก เนื่องจากตระกูลซีซาร์คือตระกูล มหาอำนาจที่กอบกุมอิทธิพลลับมากมายเอาไว้ในมือ

    และแน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก ในแต่ละครา ล้วนขึ้นอยู่กับตระกูลมหาอำนาจเหล่านี้

ทั่วทั้งโลกต่างฮือฮา

    ปรากฏการณ์มากมายเกิดขึ้นในช่วงที่เขาขึ้นรับ ตำแหน่งผู้นำตระกูลต่อจากบิดา

    เฉกเช่นมอนสเตอร์จากต่างดาวที่ไม่กล้าระราน โลกมาตลอดสิบเก้าปีได้กลับมาประกาศทำสงครามกับโลกอีกครั้ง เนื่องจากอิกอร์ ซีซาร์ที่พวกมันเคยหวาดกลัวดูเหมือนจะลาตำแหน่งไปเสียแล้ว?

พวกมันจึงกล้าผยองพองขนขึ้นมาอย่างไม่ไว้หน้า

แน่นอนว่าผู้คนบนโลกย่อมแตกตื่นกันเป็นนกแตกรัง พวกเขาเอาแต่พร่ำว่า 'จบแล้ว..จบแล้ว'

'ไหนว่ามีพลังมากกว่าท่านผู้นั้น? นี่รอจนพวกต่าง ดาวจะบุกโลก ยังไม่ออกมาทำอะไรสักอย่างเลยหรือ!!'

ในช่วงเวลานั้นได้มีผู้คนมากมายเริ่มออกมาต่อว่า อีวานส์ ซีซาร์ที่ไม่ยอมทำอะไรเลย ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ใช่ รัฐบาลที่มีหน้าที่จัดการเรื่องพวกนี้ด้วยซ้ำ

กระนั้นทุกข้อความบนโลกโซเชียลมากมายที่ต่อว่า เขาแบบเสีย ๆ หาย ๆ ได้ถูกหนึ่งแอคเคาท์ปริศนา พยายามเข้าไปแก้ต่างอย่างโง่งมทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้รู้ ตื้นลึกหนาบางมากไปกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ

ซึ่งก็ไม่ต้องเดาให้ยากเลย เพราะนั่นย่อมต้องเป็น แอคเคาท์ของโรเซีย โนอาอยู่แล้ว

การที่อีวานส์ถูกผู้คนประณามทำให้อัลฟ่าไร้ค่า อย่างเขากินนอนแทบไม่ได้ โรเซียเป็นห่วงว่าอีวานส์จะ เครียดกับเรื่องบ้า ๆ พวกนี้

และมันดำเนินไปจนถึงคราวที่พวกต่างดาวพากัน ยกทัพครั้งใหญ่หมายจะโจมตีดาวโลกให้ย่อยยับเพื่อเป้าหมายในการยึดครอง

ขณะนั้นทุกคนแตกตื่น คิดว่าการล่มสลายได้มา เยือนพวกเขาแล้ว

เหล่าผู้มีพลังวิเศษที่แข็งแกร่งเป็นอันดับต้น ๆ เตรียมพร้อมในแนวหน้าเพื่อรับศึก

สิ่งที่พอยืนยันได้ในศึกครั้งนี้ ก็คือการสูญเสีย มากมายที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน นั่นเพราะพลังของ พวกมอนสเตอร์ก็ไม่ได้กระจอกงอกง่อย

พวกมันคือสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งและมีสติปัญญาที่ ฉลาดไม่ด้อยไปกว่ามนุษย์

ทว่าเหล่ามวลมนุษยชาติหลายพันล้านชีวิตที่รอดู สถานการณ์ทุกอย่างด้วยหัวใจแสนสิ้นหวังกลับต้องตกตะลึงขึ้นมาในชั่ววินาที

เมื่อพวกเขาได้พบกับการปรากฏตัวของอีวานส์ ซีซาร์

เด็กหนุ่มอายุยี่สิบปีเทเลพอร์ตขึ้นมาในแนวหน้า แววตาของเขาเรียบนิ่งราวกับไม่มีความรู้สึกใดเลย ทั้ง ๆ ที่เขากำลังประชันหน้ากับฝูงมอนสเตอร์ระดับบอสที่ แข็งแกร่งเกินกว่ามนุษย์ธรรมดาจะรับมือไหว

เหล่ากองทัพผู้มีพลังวิเศษเองก็ตะลึงไปเช่นกัน วินาทีนั้นทุกคนแทบหยุดหายใจ เมื่อชั้นบรรยากาศของโลกได้ปรากฏม่านพลังบางอย่างครอบคลุมสิ่งมีชีวิต และสิ่งก่อสร้างทั้งหมดเอาไว้ภายในเสี้ยววินาที

ม่านพลังเหล่านั้นครอบคลุมไปทั้งผืนโลกจนเป็น เหมือนกระจกใส ๆ

สิ่งที่หลงเหลืออยู่ด้านนอกม่านพลังในตอนนี้มีเพียงแค่อีวานส์ ซีซาร์และฝูงมอนสเตอร์มากมายนับล้านตัว

มวลมนุษยังไม่ทันหายงุนงงกับม่านพลังบนท้องฟ้า พวกเขาก็ต่างอ้าปากค้างอึ้งงันให้กับสิ่งที่ได้เห็นต่อจากนั้น

เมื่อจู่ ๆ ฝูงมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งต่างเริ่มพากันตัวระเบิดเป็นเลือดโสโครกกระจายเต็มน่านฟ้า เครื่องในสาดกระจายไปทั่วชั้นบรรยากาศ

เสียงระเบิดพวกนั้นดังกึกก้องราวกับวันสิ้นโลกมา เยือน มันน่าขนลุกและน่าหวาดกลัวจับจิต

และแน่นอนว่าของเหลวมากมายย่อมตกลงมากระทบกับชั้นบาเรียที่อีวานส์ ซีซาร์ได้กางครอบคลุมทุก สิ่งอย่างเอาไว้ราวกับห่าฝน

ในช่วงเวลานั้นคือช่วงเวลาที่เหล่ามวลมนุษยชาติ เงยหน้ามองท้องฟ้า สิ่งที่พวกเขาเห็นคือมอนสเตอร์นับ ล้านตัวถูกฆ่าตายภายในเสี้ยววินาที

ความคิดของพวกเขาจึงได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

เพราะพวกเขาได้รับรู้อย่างถ่องแท้แล้วว่า..อีวานส์ ซีซาร์ไม่ใช่ตัวตนที่พวกเขาจะสามารถอ้าปากวิพากษ์ วิจารณ์อย่างส่งเดชณ์ได้อีก

ยิ่งสูงส่งขนาดนั้น...ตัวตนของอีวานส์ ซีซาร์ก็ยิ่งไม่ สามารถเข้าถึงได้ง่าย ๆ สำหรับคนธรรมดา

แต่สำหรับโรเซีย โนอา..อย่างที่เขาเคยยึดมั่นเอาไว้ ว่าต่อให้ต้องใช้วิธีน่าอับอายหรือเสียศักดิ์ศรีมากแค่ไหน

โรเชียผู้นี้ก็ยอมรับได้ทั้งนั้น เพียงแค่ได้อยู่ใกล้ ๆ อีวานส์เขาก็ยอม

ยอมทั้งหมด

โรเชียนั้นพยายามทุกอย่างมาเนิ่นนานเพื่อที่จะได้ พบกับผู้ชายที่เขาหลงรักอีกครั้ง

กระทั่งเมื่ออายุครบยี่สิบปี เขาก็ได้จับพลัดจับผลู เข้าทำงานในคลับแห่งหนึ่ง เดิมทีเขาเป็นแค่พนักงาน เสิร์ฟธรรมดา ๆ ในคลับแห่งนี้

กระนั้นกลับมีวันหนึ่งที่ผู้จัดการและเจ้าของร้าน วิ่งเต้นหน้าตาตื่นด้วยสาเหตุบางอย่าง

พวกเขาเร่งคัดเด็กเสิร์ฟในร้านเพื่อที่จะส่งไปทำงานสำคัญบางอย่าง

โรเชีย โนอาและเพื่อนร่วมงานอีกหลายคนที่ถูกคัดเลือกจากเจ้าของร้านจึงถูกพามายังสถานที่ส่วนตัว แห่งหนึ่ง

โดยพื้นที่ด้านในก็กำลังจัดเตรียมงานขนาดใหญ่ อลังการที่ดูสลักสำคัญเป็นอย่างยิ่ง

พวกเขารู้ได้ในทันทีว่างานเลี้ยงนี้คงไม่พ้นเป็นงาน เลี้ยงของพวกชนชั้นสูงที่มีอำนาจและอิทธิพล

ในขณะที่เพื่อนร่วมงานทั้งหลายต่างกริ่งเกรงเมื่อรับรู้ข้อเท็จจริง กลับกันประกายในดวงตาของโรเชียก ลับวาววับขึ้นมาอย่างปิดไม่มิด

เพราะไม่แน่ว่าบางทีงานเลี้ยงแห่งนี้อาจจะมีอีวานส์ ซีซาร์ร่วมด้วยก็เป็นได้?

กระนั้นก่อนที่จะได้เข้าไปอำนวยความสะดวกตระ เตรียมงานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่นี้ บริกรทั้งหลายย่อมถูก การ์ดรักษาความปลอดภัยตรวจร่างกายแบบละเอียด ยิบ

ขั้นตอนการตรวจถึงกับบังคับให้พวกเขาถอด เสื้อผ้าออกให้หมดเพื่อความปลอดภัยของงานเลี้ยงที่ กำลังจะเกิดขึ้น

และแน่นอนว่าทุกอย่างได้เป็นไปตามการคาดเดา ของโรเชีย โนอาจริงๆ

มันน่าเหลือเชื่อ..น่าเหลือเชื่อเกินไป

เพราะเมื่องานเลี้ยงได้เริ่มต้นขึ้น โรเชียก็ได้พบว่า บุคคลที่เขาต้องการพบเจอมาตลอดสองปีได้ปรากฏตัว ท่ามกลางเหล่าชนชั้นสูงมากมายในงาน

เชื่อเถอะว่าแม้แต่พวกเชื้อพระวงศ์สูงส่งที่มาร่วม งานก็ยังเทียบรัศมีกับอีวานส์ ซีซาร์ไม่ติดเลยแม้แต่ น้อย

อีกฝ่ายมีสีหน้าเรียบนิ่งทว่าดุดัน โรเชียถึงกับ ตาค้างเมื่อพบว่าชายที่เขาหลงรักแตกต่างจากเมื่อสองปีก่อนที่เคยพบกันอย่างลิบลับ

ในตอนนั้นอีกฝ่ายยังคงมีประกายความเป็นเด็ก หนุ่มหลงเหลืออยู่บ้าง..

ทว่าตอนนี้กลับไม่มีเด็กหนุ่มคนนั้นอีกแล้ว

อีกฝ่ายได้ก้าวเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัยของอัลฟ่า ความ เยาว์วัยจึงแปรเปลี่ยนเป็นความดิบเถื่อนและอันตราย

กลิ่นอายทรงอำนาจและความน่าเกรงขามของอี วานส์ ซีซาร์ทำให้ใครต่างก็ก้มหัวให้เขาเป็นแถบ ๆ แม้ว่าเขาจะมีอายุเพียงแค่ยี่สิบปีก็ตาม

โรเชียยังคงเอาแต่จ้องมองไปทางร่างกายสูงใหญ่ อย่างไม่ลดละราวกับพวกสตอล์กเกอร์โรคจิต แมว โรคจิตที่ตกหลุมรักของสูงส่งอย่างบ้าคลั่ง

มุมปากของอัลฟ่าโรเชียยกยิ้มบาง ๆ

ทำสำเร็จแล้ว..ได้เจอเขาแล้ว..

แต่มันยังไม่พอ...ยังไม่มากพอที่จะทำให้โรเซีย โน อาผู้คลั่งไคล้อีวานส์ ซีซาร์รู้สึกพอใจ

โรเชียต้องการมากกว่านี้ เขากระหายอยากที่จะได้ เข้าใกล้ชายผู้นั้นมากกว่านี้อีก

'ต้องทำอะไรสักอย่าง...ทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ได้ เจอเขามากยิ่งขึ้นกว่านี้'

โรเชียพยายามคิดหาทางอย่างเอาเป็นเอาตายจน ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตนเองวิตกกังวลถึงขั้นเผลอกัดริม ฝีปากจนเลือดซิบ

น่าเสียดายที่ความเจ็บปวดไม่ได้ทำให้เขารู้สึกตัวด้วยซ้ำ

อัลฟ่าในชุดพนักงานเสิร์ฟยืนหลบอยู่ที่มุมมุมหนึ่ง พลางคิดหาวิธีเข้าหาอีวานส์ ซีซาร์อย่างบ้าคลั่ง

จนกระทั่งในท้ายที่สุด

สีหน้าที่วิตกกังวลของโรเชีย โนอาในคราแรกก็ ค่อย ๆ เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีหน้าที่ประดับรอยยิ้มกว้าง

เพราะเขา 'รู้แล้ว' ว่าควรทำอย่างไรเพื่อที่จะได้เข้า ใกล้อีกฝ่ายมากกว่านี้

ด้วยวิธีที่ไร้ศักดิ์ศรีแค่ไหนเขาก็ยอม...

ด้วยวิธีที่ไร้เกียรติเพียงใดเขาก็ไม่หวั่น

ทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็เพียงแค่...

'ผมไม่ขออะไรมากไปกว่านี้แล้ว แค่ขอให้ผมเป็นหนึ่งในคนของคุณในค่ำคืนนี้ก็พอ..ผมสาบานว่าจะทำให้คุณพอใจ'

เพราะอีวานส์ ซีซาร์คืออัลฟ่าที่อยู่ในขั้นกว่าของจ่า ฝูง แน่นอนว่าความต้องการทางเพศของเขาย่อม รุนแรงและดิบเถื่อนมาก

ในทุก ๆ ครั้งที่เขาจะมีเซ็กส์ มือขวาของเขา จำเป็นที่จะต้องเตรียมคู่นอนให้เขาไม่ต่ำกว่าสี่คนขึ้นไป และหลังจากจบเซ็กส์ในทุก ๆ ครั้ง คนพวกนั้นจะหมด สภาพอย่างดูไม่ได้

น้อยครั้งที่อีวานส์ ซีซาร์จะเรียกคนเดิม ๆ ให้มาหาซ้ำสอง

นั่นเพราะเขาเป็นคนที่ขี้เบื่อเสียเหลือเกิน

เขาไม่เคยพบกับคู่นอนคนไหนที่เข้ากับเขาได้ดีใน เรื่องของเซ็กส์ คนพวกนั้นไม่อดทนมากพอที่จะรองรับ จนกว่าเขาจะทำกิจกรรมจบ

อีวานส์ไม่เคยพอใจ..แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกเริ่มสน ใจอัลฟ่าที่กำลังนอนหอบอยู่ใต้ร่างของเขาขึ้นมาหน่อย

โรเซียหอบสูดอากาศเข้าปอดอย่างเอาเป็นเอาตาย หลังจาก 'โดนเคี่ยวกรำ' ติดต่อกันร่วมหลายชั่วโมง

เขาคือคนที่เดินเข้ามาเสนอตัวกับอีวานส์อย่างหน้าไม่อาย

ตอนนั้นเขากล้าพูดออกไปว่า

'ผมไม่ขออะไรมากไปกว่านี้แล้ว แค่ขอให้ผมเป็นหนึ่งในคนของคุณในค่ำคืนนี้ก็พอ..ผมสาบานว่าจะทำให้คุณพอใจ'

ดูก็รู้ว่าเจ็บปวดแค่ไหน ดูก็รู้ว่าแทบจะสลบลงไปอยู่รอมร่อ

แต่ก็ยังพยายามที่จะทำให้อีวานส์พอใจอย่างสุด ความสามารถ ดิ้นรนที่จะทำให้เขาเสร็จสมเสียจนน่า เวทนา

และใช่..นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนงานเลี้ยง

เพราะแบบนั้น

สถานะที่เรียกว่า 'ภาชนะรองรับอารมณ์' ของโรเชียจึงได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ค่ำคืนนั้นเป็นต้นมา..

อีวานส์ ซีซาร์เลือกที่จะเรียกเขามาใช้ในเซ็กส์หมู่ ห้าคนครั้งที่สอง..ครั้งที่สาม.....ครั้งที่สี่

สมกับที่โรเชียเคยพูดกับอีกฝ่ายเอาไว้ว่า 'ผมขอเป็นแค่หนึ่งในคนของคุณก็พอ..!'

จนมีอยู่ครั้งหนึ่งที่อีวานส์ ซีซาร์ไม่ได้เรียกใครอื่น เข้ามาหานอกจากโรเชียเพียงผู้เดียว

อีกฝ่ายนั่งรอเขาโดยการสูบบุหรี่อย่างเงียบงันอยู่ที่เก้าอี้บุนวมหรูหราปลายเตียง

และเมื่อโรเชียเดินเข้ามาในห้อง

กิจกรรมทุกอย่างก็เริ่มขึ้นอย่างไม่ต้องไถ่ถาม ความพร้อมของภาชนะ...โรเซียจำได้ขึ้นใจเลยว่าค่ำคืนนั้นเป็นค่ำคืนที่เขารู้สึกมีความสุขจนเหมือนจะเป็นบ้า

ต่อให้ต้องรองรับอารมณ์รุนแรงของชายผู้นี้เพียง แค่คนเดียวโดยที่ไม่มีคนอื่นมาช่วยแบ่งเบารองรับ เหมือนกับครั้งก่อน ๆ โรเชียก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันแย่เลยสักนิด

อย่างน้อยการเป็นภาชนะรองรับอารมณ์ของจ่าฝูงผู้นี้ก็ทำให้เขาได้พบเจอกับอีกฝ่ายทุกวัน

ได้เห็นว่าอีกฝ่ายยังแข็งแรงมากพอที่จะมอบเซ็กส์ที่รุนแรงให้กับเขาได้เหมือนเดิม..

โรเชียคลั่งไคล้อีวานส์ ซีซาร์ไม่ต่างจากคนโรคจิต

และคนโรคจิตคนนี้ก็ยังทนอยู่ในสถานะ 'ภาชนะ ของจ่าฝูง' นานมากพอจนเวลาถึงกับล่วงเลยไปแปดปี

หลังจากแปดปีก่อนที่อีวานส์ได้ขึ้นกุมอำนาจเป็น ผู้นำสูงสุดของตระกูลซีซาร์ต่อจากผู้เป็นบิดา ส่งผลให้ เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายในสังคมของมวลมนุษยชาติ

ผู้คนทั้งโลกจดจำชายคนนี้ในฐานะ 'อัลฟ่าพลังวิเศษที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก'

ใช่..อีกฝ่ายคือประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่โลกได้ จารึกเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เหตุการณ์เมื่อแปดปีก่อนที่อี วานส์ ซีซาร์กำจัดทัพมอนสเตอร์จนสิ้นซากภายในเสี้ยววินาทีย่อมไม่มีใครลืมได้ลง

แน่นอนหากพูดชื่อเขาออกมาย่อมไม่มีใครไม่รู้จัก หากจะเปรียบเทียบตัวตนของเขากับสิ่งใดสักหนึ่งผู้คนจะพูดออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่าตระกูลซีซาร์นั้น เป็นพระเจ้าที่คอยปกป้องโลก

แปดปีที่ผ่านมานี้ทุกคนทั้งสรรเสริญ ทั้งยกย่อง ทั้งก้มหัวให้เกียรติเขาอย่างไม่มีข้อยกเว้น

แน่นอนว่าโรเชียเองก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาหลงรักอี วานส์มากยิ่งขึ้นจนความรู้สึกแทบจะล้นทะลักออกมา จากอก

การมีอยู่ของอีกฝ่ายทำให้ศัตรูจากต่างดาวมากมายในจักรวาลเลือกที่จะไม่บุกเข้าทำสงครามกับโลกอย่างที่เคยเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน

พวกมันล่าถอยอย่างหวาดผวา

เพราะพวกมันรู้ดีว่าหากแตะต้องเขาอีกครั้ง ไม่มี ทางที่เผ่าพันธุ์ของพวกมันจะรอดชีวิตกลับไป

สิ่งมีชีวิตต่างดาวรับรู้อย่างถ่องแท้ถึงขุมพลังทำลายล้างที่อันตรายขึ้นในทุก ๆ วันของชายผู้นั้น

โลกถึงได้อยู่อย่างสงบสุขมาหลายต่อหลายปีภาย ใต้การปกครองของอีวานส์ ซีซาร์

ไร้การระรานจากพวกต่างดาว

จากที่พวกมันเคยส่งมอนสเตอร์น่าเกลียดน่ากลัวมาเป็นอุปสรรคของโลก

ณ เวลานี้กลับไม่หลงเหลือ โลกได้กลายเป็นโลกที่ ปกติสุขและผู้คนก็สามารถใช้ชีวิตได้โดยไม่หวาดกลัวว่าจะมีมอนสเตอร์โผล่ขึ้นมาจากท่อระบายน้ำเพื่อประทุษร้ายพวกเขา

เทคโนโลยีทุกอย่างล้ำหน้าจากยุคสมัยก่อนแบบ ก้าวกระโดด

แน่นอนว่านอกจากการสู้รบกับพวกต่างดาว ตระกูลซีซาร์ยังคอยควบคุมอยู่เบื้องหลังธุรกิจและ อิทธิพลมากมายที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก

แม้ว่านี่จะเป็นตระกูลใหญ่หน้าใหม่ที่พึ่งเคยมีผู้นำ เพียงแค่สองรุ่น แต่แน่นอนว่าตระกูลโด่งดังเก่าแก่ทั้ง หลายก็ยังไม่กล้าตั้งข้อครหาต่อเขา

การกุมอำนาจของอีวานส์ ซีซาร์ไม่ได้มาเพียงแค่ ความรุ่งโรจน์ ใครก็พูดว่าอีกฝ่ายโหดเหี้ยมมากกว่า ผู้นำรุ่นก่อนหลายเท่า แววตาของเขาเย็นเยียบ ไม่มีการล้อเล่นในคำพูด

และเพราะอีวานส์ ซีซาร์คือตัวตนที่น่ากลัวถึงขนาดนั้น

โรเชียย่อมรู้ว่าผู้ชายคนนี้ไม่มีทางหยุดอยู่ที่ตน

แม้ตลอดแปดปีที่ผ่านมาอีกฝ่ายจะไม่เคยมีคนรัก เป็นตัวเป็นตนราวกับคนที่ไม่มีอารมณ์จะรักใคร่ใคร จริงๆ

มีเพียงแค่ข่าวลือมากมายที่พยายามปั่นกระแสให้ดูเหมือนว่าผู้นำตระกูลซีซาร์คบหากับโอเมก้าตระกูล นั้นตระกูลนี้ แต่ข่าวพวกนั้นก็ถูกจัดการจนไม่เหลือเพราะเป็นการทำให้อีวานส์ ซีซาร์เสื่อมเสียชื่อเสียงใน ทางอ้อม

ส่วนข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรแม้แต่โรเชียที่ค่อนข้าง ใกล้ชิดกับอีกฝ่ายก็ยังไม่รู้

แปดปีที่ผ่านมานี้ โรเซียเป็นเหมือนเลขาที่คอยรับ ใช้ข้างกาย 'นายท่าน'

ควบคู่ไปกับการเป็นภาชนะรองรับอารมณ์ทางเพศของอีวานส์ ซีซาร์ทุกที่ทุกเวลาที่นายท่านของเขา ต้องการ

เซ็กส์ของอีวานส์ ซีซาร์รุนแรงไร้ความอ่อนโยน หรืออาจจะเป็นเพราะว่าโรเซียคนนี้ไม่ได้สลักสำคัญอะไร

ชีวิตของเขาถึงได้ไม่มีค่าพอให้นายท่านที่สูงส่ง คอยทะนุถนอม

ถึงอย่างนั้น....โรเชียที่คลั่งไคล้อีวานส์จนหยั่งราก ลึกก็ยอมทนทุกอย่างเพื่ออีกฝ่ายได้อยู่ดี

“เขาทำจนนายช้ำไปหมด เซ็กส์ของอัลฟ่าระดับเขารุนแรงเกินไป อย่างน้อย ๆ ก็ควรมีคนมาแบ่งเบา เป็นเพื่อนนายสักคน”

โรเชียกำลังนอนบอบช้ำอยู่บนเตียง เขายิ้มรับคำ พูดของแพทย์ประจำตระกูลโดยไม่ตอบโต้อะไร

เขาอยู่ในสถานะนี้มาแปดปี

ต่อให้ช้ำเจียนตายเขาก็จะทำใจชินเพื่อรับใช้อีวาน ส์ ซีซาร์ต่อไป

“ผมทนได้ครับ”

แพทย์ประจำตระกูลส่ายหน้า

โรเซียไม่มีทางรู้ว่าแพทย์ท่านนี้กำลังด่าเขาในใจว่า โรคจิตจริง ๆ

เขาคือแพททริค คีล อัลฟ่าที่มีพลังวิเศษเด่นเรื่อง การรักษาเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก

และตอนนี้ก็ถูกอีวานส์ ซีซาร์ดึงตัวมาเป็นแพทย์ ประจำตระกูลโดยที่ใครก็ขัดคำสั่งไม่ได้

เขาพึ่งเข้ามาในตระกูลซีซาร์ได้ห้าปี และห้าปีนี้ คนไข้กิตติมศักดิ์คือชายอัลฟ่าร่างกายบอบบางที่มีชื่อว่า โรเซีย โนอา

สาเหตุของไข้ก็สุดแสนจะน่าอดสู

อย่างการ 'มีเซ็กส์' จนป่วย

อีวานส์ ซีซาร์ใช้โรเซียเป็นตัวบำบัดเซ็กส์อยู่บ่อยครั้ง

และทุกครั้งมันทำให้แพททริคมั่นใจว่านายท่าน สูงสุดแห่งตระกูลซีซาร์ไม่ได้แยแสชีวิตของภาชนะที่ ซื่อสัตย์ชิ้นนี้เลย

ต่อให้โรเชียคนนี้ตายคาอกก็คงจะมองว่าไม่ได้สลักสำคัญ

และทั้ง ๆ ที่อีวานส์ ซีซาร์มีพลังสำหรับการฟื้นฟู ที่น่าจะเหนือกว่าแพททริคด้วยซ้ำ

แต่อัลฟ่าจ่าฝูงกลับเลือกที่จะไม่ใช้มันกับโรเชีย แม้แต่น้อย นี่ยิ่งตอกย้ำว่าเขาไม่แยแสอะไรคนคนนี้เลยจริง ๆ

ในทางกลับกันโรเชียที่น่าสมเพชคนนี้กลับยอมทุก อย่างเพื่อเขาได้อย่างโง่งม

ใครต่างก็บอกว่าโรเชียนั้นโง่งม มีเพียงแค่โรเชียที่ ยังยิ้มรับและนึกถึงเพียงนายท่านที่เขารักสุดหัวใจ

“เอาล่ะ เสร็จแล้ว ช่วงนี้ดูเหมือนร่างกายของนายจะอ่อนแอมาก อย่างไรก็อย่าฝืนตัวเองหนัก ทานยาตามที่ฉันบอกด้วยล่ะ”

“ขอบคุณนะครับ”

โรเซีย โนอาพยักหน้ายิ้มรับ

เขาเป็นอัลฟ่าที่ตัวเล็กบอบบาง อาจจะเพราะเขา เติบโตมาโดยที่ไม่ได้กินอะไรดี ๆ อย่างเช่นเด็กคนอื่น

เขาแทบไม่มีรัศมีของอัลฟ่า ไม่มีพลังวิเศษแม้สัก เสี้ยว ดูไปก็เหมือนเบต้าชายธรรมดา ๆ คนหนึ่ง

ดาษดื่น น่าเบื่อ

แต่ก็สามารถอยู่ข้างกายของชายที่ทรงอิทธิพล ที่สุดในโลกมาได้ถึงแปดปี

แม้จะดูโง่งมจนใครต่อใครก็เอาไปพูดกันปากต่อว่าเขามันไร้ความสามารถ โรเชีย โนอาไม่มีความ สามารถอะไรเลย แต่ที่ยังอยู่ข้างกายอีวานส์ได้ก็คงเป็นเพราะว่าเขาคืออัลฟ่า

และยังเป็นอัลฟ่าที่ยอมอ้าขาให้อีวานส์ ซีซาร์อย่าง ชื่อสัตย์ราวกับสุนัขเชื่อง ๆ

ความซื่อสัตย์คือสิ่งสำคัญในการทำงานให้กับ ชนชั้นสูง โรเชียเคยเห็นชีวิตหลายชีวิตที่ถูกอีวานส์ ซี ซาร์ปลิดชีพลงอย่างโหดเหี้ยมเพราะเป็นสายสอดแนม จากบุคคลไม่ประสงค์ดี

ความเด็ดขาดของอีวานส์ ซีซาร์คือสิ่งที่ทำให้โรเชียไม่เคยกล้าข้ามเส้น ไม่เคยกล้าบอกออกไปว่าเขารัก นายท่านมากแค่ไหน

เพราะโรเชียรู้ดีว่าหากวันใดที่เขาพูด วันนั้นคือวันที่เขาจะไม่ได้อยู่ข้างกายอีวานส์ ซีซาร์อีกต่อไป

เพราะตัวตนที่สูงส่งเช่นนั้นไม่เคยชายตาแยแสเขา เลยตลอดระยะเวลาแปดปีที่ผ่านมานี้

“นายท่าน ขออนุญาตครับ”

แพททริคคงจะด่าโรเชียในใจให้ตาย หากเขารู้ว่า หลังจากที่เขาออกจากห้องตรวจ โรเชียก็ลุกพรวดแล้ว แต่งตัวเตรียมเข้ารับใช้อีวานส์ต่อในทันที

อันที่จริงโรเซียเป็นเลขาก็ไม่ใช่ คนติดตามก็ไม่เชิง

อาจจะเป็นเพราะเขาอยู่กับอีวานส์มาตั้งแต่ปีแรก ที่อีกฝ่ายขึ้นรับตำแหน่งผู้นำตระกูล เขาถึงได้เป็นกึ่ง ๆ คนรับใช้ข้างกายที่ต้องเอาติดไปด้วยทุกที่

เป็นเช่นนี้มานานมากแล้ว

คงต้องขอบคุณความกล้าของเขาในวันนั้น จึงทำให้เกิดวันนี้ขึ้นได้

แต่น่าเสียดาย...น่าเสียดายที่ความหวังจบลงเพียง แค่หน้าที่คนรับใช้ข้างกายนายท่าน ไม่อาจเป็นอื่นได้ มากกว่านี้อีกแล้ว

“เข้ามาสิ”

เสียงจากคุ้นเคยเอ่ยอนุญาตออกมาจากด้านใน ก่อนที่ประตูอัตโนมัติเปิดออกทันที

โรเซียก้าวเข้าไปในห้องทำงานของผู้นำสูงสุดแห่ง ตระกูลซีซาร์ ห้องทำงานของชายที่กอบกุมอำนาจเบื้องหลังสังคมของมนุษยชาติเอาไว้มากมาย

ดวงตากลมโตของโรเชียสะท้อนภาพร่างสูงใหญ่ กำยำของคนคุ้นเคยที่กำลังนั่งอ่านอะไรบางอย่างใน หน้าจอแท็ปเลตทันสมัย

ใบหน้าของเขาหล่อเหลาคมคาย กลิ่นอายทรง อำนาจและอันตรายลอยเฉื่อยอยู่รอบตัวเสมอ

เขาดิบเถื่อน บ้าคลั่ง

แต่ในอารมณ์ปกติอย่างเช่น ณ เวลานี้ เขาเพียงแค่เงยใบหน้าขึ้นมามองโรเซีย โนอา

ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ว่า

“ไม่ต้องกระตือรือร้นขนาดนั้นหรอกที่รัก”

โรเชียถึงกับเม้มริมฝีปากเบา ๆ

ยังดีที่นายท่านไม่ทำร้ายจิตใจเขาถึงขนาดพูดออก มาว่า 'เพราะต่อให้นายหายไปสิบวัน หน้าที่คนรับใช้ ทั่วไปก็สามารถหาคนมาทำแทนได้โดยไม่ได้ลำบากอะไรอยู่ดี'

โรเชียก็ยังคิดจะใช้ความหน้าด้านเข้าสู้ เพราะเขา ต้องการอยู่ข้างกายนายท่านไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม

“ผมพร้อมทำงานครับ นายท่านต้องการอะไรสามารถแจ้งได้ตลอดเวลาเลยครับ”

เขาพูดแค่นั้น ก่อนที่จะย้ายร่างไปยืนหลบที่มุม ห้องเงียบ ๆ อย่างรู้หน้าที่

ต้องทำให้ไร้ตัวตนที่สุด เพื่อไม่ให้รบกวนการทำงานของอีวานส์ ซีซาร์

กระนั้นคำว่า 'ที่รัก' ที่ออกมาจากปากผู้เป็นนายก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ทำให้ภาชนะชิ้นนี้รู้สึกดีใจอะไรเลย

เพราะโรเชียที่รับใช้อีกฝ่ายมานานถึงแปดปีย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจว่าอีวานส์ ซีซาร์ก็มักจะเป็นเช่นนี้ มักจะพูด ประโยคทำนองนี้กับเขา

อีกฝ่ายเป็นคนดุดัน แต่กลับเลือกใช้คารมได้ดีเยี่ยม

และโรเซียก็มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าตนไม่ใช่คนคน เดียวที่ได้รับคำว่า 'ที่รัก' จากปากของผู้เป็นนาย

ร่างเล็กของอัลฟ่าโรเชียยืนหลบมุมอยู่ตรงนั้นเกือบครบชั่วโมง กระทั่งในที่สุดเขาก็เห็นอีวานส์ละสายตาออกจากงานตรงหน้า

ร่างกายสูงใหญ่กำยำลุกขึ้นจากเก้าอี้ ส่วนสูงเกือบ สองร้อยเซนติเมตรยิ่งส่งให้เขาดูน่าเกรงขามเป็นไหน

อีวานส์ ซีซาร์จุดบุหรี่ขึ้นสูบ ก่อนที่ใบหน้าคมคาย จะหันมาเอ่ยบางอย่างกับคนตัวเล็กที่กำลังยืนชิดมุม ห้องว่า

“ออกไป ฉันไม่มีสมาธิ”

โรเชียรับรู้ได้ทันทีว่าในวันนี้นายท่านของเขา อารมณ์ไม่ดี

เพราะแบบนั้น เขาจึงได้เอ่ยออกไปด้วยความกล้า ทั้งหมด

“ผมพอจะช่วยอะไรได้บ้างไหมครับ เผื่อว่านาย ท่านจะรู้สึกดีขึ้น”

มันคือความกล้าและความห่วงใยทั้งหมดที่เขามี ต่อให้ถูกอีวานส์ทำเรื่องอย่างว่าอีกครั้งด้วยความรุนแรงแค่ไหนก็ยอมทั้งหมด

โรเชียรักอีวานส์มาก...ดวงตาของเขามองอีกฝ่าย อย่างล้ำลึก ราวกับมองอีกครึ่งชีวิตของตัวเอง

แต่น่าเสียดาย น่าเสียดายที่นี่ดันเป็นอีกครึ่งชีวิตที่ ช่างห่างไกลกับเขาเหลือเกิน

“อ้อ..”

อีวานส์ ซีซาร์ยกยิ้มบางเบาดูอ่อนโยนให้กับคำกล่าวนั้น

หากแต่คำพูดที่ออกมาจากริมฝีปากของเขากลับ กลายเป็น

“แต่การมีอยู่ของนายไม่ได้สำคัญกับฉันขนาดนั้น”

**การยอมทนของน้องโรเชีย เป็นการยอมทนที่น้อง ยอมเพราะน้องรักอีวานส์มาก มากจนคิดว่าทนแค่นี้ไม่ เป็นอะไร ความสุขของน้องขึ้นอยู่กับผช.คนนี้ เนื่องจากประสบการณ์ชีวิตของน้องนั้นโหดร้ายมาก และอีวานส์คืออแสงสว่างเดียวของน้องจริง ๆ

จะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า ต้องลุ้นฮับ ทุกอย่าง จะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลง