ณ สถานที่แห่งหนึ่งในกรุงโซลมีผู้คนมากหน้าหลายตาใช้ชีวิตอย่างปกติสุข รวมถึงกังยู เด็กสาวน่ารักที่สดใสร่าเริงอยู่ตลอดเวลา ที่เดินเล่นอย่างสบายใจ ทุกคนมีความสุขและสนุกเหมือนทุกๆวัน โดยที่ไม่รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้
“ แม่คะ วันนี้หนูอยากไปหาคุณอาค่ะ ”
“ ได้สิ วันนี้เราไปหาอากันนะ ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น เด็กสาวก็รู้สึกดีใจและตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกแต่ในเวลานั้นเอง เสียงของผู้คนที่พูดคุยกันอย่างมีความสุขกลับมีเสียงแทรกเข้ามา เมื่อหันไปมองก็พบต้นเหตุของเสียงนั้น นั้นคือคนที่กรีดร้องอย่างตกใจและหวาดกลัว เมื่อเห็นบางสิ่งบางอย่างกำลังขึ้นมาจากพื้นถนน
“ แม่คะ นั่นคืออะไร เหมือนกับหอคอยเลย? ”
“ แม่ก็ไม่รู้ แต่เรารีบไปที่อื่นกันดีกว่านะ ”
สิ้นเสียงของผู้เป็นแม่ เด็กสาวก็ถูกอุ้มออกไปจากที่ตรงนั้นแต่ไม่ทันจะได้เดิน ก็มีบางอย่างออกมาจากหอคอยแห่งนั้น มันมีรูปร่างประหลาดและส่งเสียงน่าหวาดกลัว เสียงนั้นมีพละกำลังมากทำให้ผู้คนต่างล้มลงเพราะเสียงที่ดังกังวานทั่วบริเวณ
“ อ้า~~!!!! ”
“ แม่คะ?! แม่เป็นอะไรคะ?! ”
เด็กสาวที่เห็นว่าแม่ของตนล้มลงก็ได้เพียงแต่เรียกและถามว่าเป็นอะไร แต่เวลาผ่านไปไม่นานแม่ของเธอก็ยิ่งกรีดร้องมากขึ้น ผู้คนรอบข้างต่างกรีดร้องเสียงดัง แต่มีเพียงแค่เธอเท่านั้น ที่ยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนเหล่านั้น
“ กังยู ขอแค่ลูกยังปลอดภัยก็พอ ”
แม่ของเด็กสาวพูดด้วยแรงเฮือกสุดท้ายก่อนจะสิ้นใจไป หลังจากนั้นสัตว์ประหลาดที่เห็นว่าเธอนั้นยังยืนอยู่จึงได้ตรงมาทางเธอและกำลังจะฆ่.เธอ แต่ทันใดนั้นเองก็ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งออกมาพาเธอไปยังที่ปลอดภัย เด็กสาวได้แต่นิ่งเงียบตลอดทางที่หญิงสาวพาเธอมา ก่อนที่หญิงสาวจะวางเธอลง
“ เป็นอะไรรึเปล่า เจ็บตรงไหนมั้ย? ”
“ ไม่เป็นอะไรค่ะ ”
หญิงสาวถามเธอต่อไปเรื่อยๆ หญิงสาวพาเธอไปอยู่ในที่ที่มีผู้คนน้อยนิด ก่อนที่เด็กสาวจะเอ่ยถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้น หญิงสาวจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่กลางถนนที่เด็กสาวเห็นนั้นคือหอคอยที่นำพาสัตว์ประหลาดออกมาจากอีกมิติหนึ่ง มันเกิดขึ้นแล้วหนึ่งครั้งและหายไปในเวลา 2 นาที รัฐบาลเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นและรับรู้ถึงการมาเตือนของหายนะครั้งนี้ แต่ไม่ได้แจ้งให้ประชาชนทราบ จึงทำให้เกิดเรื่องอย่างที่เห็น
“ แล้วคนพวกนั้นตา.แล้วหรอคะ? ”
“ ใช่ คนพวกนั้นตา.แล้วล่ะ ”
“ แล้วทำไมหนูถึงไม่ตา.ล่ะคะ? ”
หญิงสาวไม่รู้จะตอบอย่างไรเพราะเธอเองก็ไม่รู้ถึงคำตอบนั้นเช่นกัน แต่ก็ได้มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาขัดบทสนทนานั้น หญิงสาวมองชายคนนั้นก่อนจะพาเด็กสาวหลบไปข้างหลัง
“ นายจะมาทำไม ”
“ ทำไม เดี๋ยวนี้เกลียดกันแล้วรึไง หึ ”
“ หนูว่าพี่สาวคงเกลียดคุณจริงๆนะคะ ”
เมื่อเด็กสาวพูดจบ ก็ทำให้คนรอบข้างหัวเราะกันอย่างขบขันเมื่อได้ยินคำพูดของเด็กสาวที่เอ่ยขึ้น ทำเอาชายคนนั้นหน้าหงอยแล้วกลับไปนั่งที่เดิม ก่อนที่หญิงสาวจะแนะนำให้เธอรู้จักกับคนที่นั่น
ผู้ชายที่เดินมาเมื่อครู่คือ “ จุนซา ” อายุ 24 ชายหนุ่มหน้าตาดีตัวสูงผมสีน้ำเงินคราม ดวงตาสีฟ้า ผิวพรรณเรียบเนียน เป็นคนที่ชอบทำตัวไร้สาระชอบกวนคนอื่นไปเรื่อย
“ การกระทำไม่สมกับชื่อเลยนะคะ ”
ทุกคนก็ต่างหัวเราะออกมาอีกครั้ง ทำให้จุนซาเดินหนีออกไปทุกคนมองตามจุนซาแต่ถึงอย่างนั้น สุดท้ายจุนซานั้นก็กลับมาอีกอยู่ดีเพราะไม่กล้าเดินออกไป
“ เอาล่ะ คนต่อไปเลยดีกว่า ”
ผู้หญิงอีกคนหนึ่งชื่อว่า “ มีโซ ” อายุ23 หญิงสาวหน้าตาน่ารัก ผมสีชมพูลูกพีช ดวงตาสีชมพูอ่อนเหมือนกับดอกไม้ นิสัยร่าเริงและชอบร้องเพลง
คนต่อมาชายหนุ่มที่มีชื่อว่า “ แทยัง ” อายุ27 ชายหนุ่มรูปงามอีกคนหนึ่ง ผมสีแดงปลายสีส้ม ดวงตาสีแดงอ่อนเหมือนทับทิม ตัวสูงที่สุดในกลุ่ม นิสัยร่าเริงแต่ก็เคร่งขรึม
คนต่อมาชื่อว่า “ นาบี ” อายุ20 หญิงสาวหน้าตาสะสวย ที่มีผมสีม่วงอัญมณี ดวงตาสีฟ้าอ่อน นิสัยน่ารัก และชอบผีเสื้อ
ส่วนคนสุดท้ายนั้นมีชื่อว่า “ ฮานา ” อายุ24 ชายหนุ่มหน้าตาน่ารัก ผมสีน้ำตาลอ่อน ดวงตาสีน้ำตาล นิสัยเคร่งขรึม เย็นชา
ส่วนคนที่พาเด็กสาวมานั้นชื่อว่า “ ซูจิน ” อายุ26 หญิงสาวผมสีกรมท้องฟ้ายามราตรี ดวงตาสีแดงอัญมณี นิสัยร่าเริง เข้มแข็ง
ส่วนตัวของเด็กสาวนั้นชื่อว่า “ กังยู ” อายุ16 เด็กสาวหน้าตาน่ารัก ผมสีขาวหิมะบริสุทธิ์ ดวงตาสีม่วงพลอยไพลินสว่างไสว นิสัยร่าเริง เข้มแข็ง กล้าหาญ
“ ชื่อกังยู อืมตอนนี้แต่ละกิลด์ไม่ค่อยถูกกัน เพราะงั้นพี่จะให้ชื่อใหม่ว่า "จุนซู" ดีมั้ยคะ ”
“ ได้ค่ะ ยังไงก็ได้ ”
“ งั้นต่อไปนี้ หนูจะชื่อว่าจุนซู ”
หลังจากนั้น จุนซูจึงได้รู้ว่าที่ที่เธออยู่นั้น คือกิลด์แห่งหนึ่งที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้นมาเพื่อให้คนที่เป็นฮันเตอร์เข้ามาอยู่เพื่อคอยกำจัดสัตว์ประหลาดที่ออกมาจากหอคอย ซูจินถามว่าอยากจะอยู่ทำหน้าที่หรือแค่อยากอยู่ด้วย จุนซูจึงได้ตอบตกลงที่จะทำหน้าที่ของการเป็นฮันเตอร์ด้วยกัน
แต่ถึงจะมีกิลด์อยู่และได้เข้าร่วมแล้ว เธอจำเป็นที่จะต้องไปที่แห่งหนึ่งที่รัฐบาลก่อตั้งขึ้นเพื่อฝึกฝนและได้เข้าเป็นฮันเตอร์ในกิลด์ได้อย่างเต็มตัว
...--------------------------------...
เป็นไงบ้าง นี่คือการแต่งนิยายแบบนี้ครั้งแรกของผมเลย อาจจะดูไม่ค่อยแปลกใหม่เท่าไหร่ เพราะว่าไอเดียก็จากเรื่องพวกพิชิตหอคอยอะไรพวกนี้ แต่ไม่ได้ก็อปนะคับ แค่เอาไอเดียเรื่องหอคอยมาเฉยๆ ยังไงก็คอมเม้นบอกได้นะคับว่าเป็นยังไง ไปแล้วคับ
...กังยู หรือ จุนซู...
เวลาผ่านไปจนถึงตอนเช้า พวกเขาเริ่มออกเดินทางไปยังที่แห่งหนึ่งของรัฐบาล ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อรับผู้ที่ยังรอดชีวิตมาฝึกฝนเป็นฮันเตอร์ การเป็นฮันเตอร์นั้นต้องได้รับการฝึกฝนและการทดสอบในการเป็นฮันเตอร์
“ แล้วที่นั่นคือที่ไหนหรอคะ? ”
“ มันคือจุดรวมพลของคนที่ยังมีชีวิตรอดน่ะ ”
จุนซูได้ถามถึงสถานที่ที่กำลังจะไป ซูจินไก็อธิบายเรื่องต่างๆให้ฟัง ผู้ที่ยังรอดชีวิตอยู่คือผู้ที่ถูกเลือก คนเหล่านั้นจะได้รับพลังบางอย่างที่สามารถต่อสู้กับสัตว์ประหลาดที่ออกมาจากหอคอยนั้นได้ แต่งหากใครที่ไม่ได้รับพลังนั้นก็จะถูกจัดอยู่ในรายชื่อชาวบ้าน
แต่การที่จะใช้พลังนั้นเป็นจะต้องได้รับการฝึกสอนจากคนในรัฐบาลที่เป็นฮันเตอร์ก่อน เพื่อที่จะมีประสิทธิภาพในการต่อสู้มากขึ้น
“ น่าแปลกใจนะคะ ที่รัฐบาลไม่แจ้งให้ประชาชนทราบ ”
“ นั่นสินะ แต่ก็เอาเถอะก็เป็นแบบนี้ไปแล้วนี่ ”
“ หรือเพราะว่า ถึงบอกไปคนที่ไม่ถูกเลือกก็ไม่รอด ยู่ดี ”
“ คงงั้นแหละมั้ง ”
ทั้งหมดได้เดินทางต่อไปเรื่อยๆ จนถึงจุดรวมพลที่รัฐบาลตั้งขึ้นมา ที่นั่นมีผู้คนมากหน้าหลายตายืนอยู่และรวมถึงผู้คนของรัฐบาลด้วยเช่นกัน จุนซูแปลกใจมากกับสถานที่แห่งนี้ เพราะเธอไม่เคยเห็นสถานที่พิลึกขนาดนี้มาก่อน มันดูแปลกตาไปมาก
“ มันดู.....แปลกๆนะคะ เหมือนกับถูกที่ร้างอะไรแบบนั้น ”
“ ดูๆไปก็จริงอย่างที่ว่า แต่ที่นี่แข็งแรงมากเลยนะ ”
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่นั้นก็ได้มีชายคนหนึ่งเดินมาขัดบทสนทนาของทั้งสอง นั่นคือคนของรัฐบาลที่ถูกส่งมารับตัวของผู้รอดชีวิต พร้อมกับพาจุนซูไปในที่แห่งหนึ่ง เมื่อไปถึงก็ได้พบกับผู้คนบางส่วนที่ถูกพามาเหมือนกัน
“ นี่ที่ไหนหรอคะ? ”
“ ที่ทดสอบและฝึกฝน ”
ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมทำให้ทุกคนในที่แห่งนั้นต่างเงียบกันอย่างไม่ได้นัดหมาย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีอยู่คนหนึ่งที่ไม่ได้รู้สึกอะไรพร้อมกับถามออกไป นั่นคือจุนซู
“ แล้วจะเริ่มตอนไหนหรอคะ? ”
“ เก่งดีนี่เด็กน้อย การทดสอบจะเริ่มในอีก 10 นาที หากใครไม่ผ่านจะอยู่ในรายชื่อชาวบ้าน ”
เวลาผ่านไป 10 นาที ในตอนนั้นมีคนของรัฐบาลมาเพิ่มขึ้น พร้อมกับเริ่มการทดสอบพลังของแต่ละคน การทดสอบพลังนั้นต้องนำมือไปแตะที่มือของฮันเตอร์ที่รัฐบาลส่งมา ซึ่งบางคนที่ไม่ผ่านก็จะได้รับการคุ้มครองหากมีสัตว์ประหลาดมาโจมตี
คนที่ผ่านการทดสอบ ก็จะได้ฝึกฝนต่อไปเพื่อเป็นฮันเตอร์และคอยกำจัดสัตว์ประหลาดและปกป้องชาวบ้าน หนึ่งในคนที่ผ่านการทดสอบคือจุนซู เธอต้องไปรวมกับคนที่ผ่านการทดสอบ ซึ่งมีคนแค่น้อนนิดที่ผ่านการทดสอบ
“ เอาล่ะ ใครที่ผ่านการทดสอบตามฉันมาทางนี้ ”
ชายคนหนึ่งได้เรียกให้กลุ่มของจุนซูที่ผ่านการทดสอบเดินไปยังลานฝึกฝน ที่จัดเตรียมไว้ให้กับคนที่จะต้องฝึกฝนเพื่อเป็นฮันเตอร์
“ เอาล่ะ แต่ละคนจะได้รับอาวุธคนละหนึ่งอย่าง ”
“ ให้ทุกคนไปเลือกอาวุธมาได้เลยค่ะ ”
ครูฝึกทั้งสองคนบอกให้ทุกคนไปหยิบอาวุธที่ต้องการมาคนละหนึ่งอย่าง บางคนเลือกหอก บางคนเลือกธนู หรือบางคนเลือกของที่เหมือนในเกม
แต่จุนซูเลือกมีดสั้น ซึ่งไม่มีคนเลือกแม้แต่คนเดียวเพราะมันเป็นอาวุธที่ใช้ได้แค่ระยะใกล้ ถึงจะพกพาง่ายแต่ก็ไม่สามารถใช้เป็นอาวุธหลักได้
หลังจากที่ทุกคนเลือกอาวุธเสร็จแล้ว ครูฝึกก็ได้สอนให้ทุกคนรู้จักการใช้อาวุธของตนเอง ครูที่สอนอาวุธต่างๆก็จะสอนคนที่เลือกอาวุธนั้น ซึ่งไม่มีคนเลือกมีดสั้นมีแค่จุนซูคนเดียวเท่านั้น ในขณะที่ครูฝึกกำลังเศร้าที่ไม่มีคนเลือกมีดสั้น จุนซูก็ได้เดินไปหาครูฝึกคนนั้น
“ ครูคะ ครูใช่คนที่สอนใช้มีดสั้นรึเปล่าคะ? ”
เมื่อครูฝึกได้ยินดังนั้นก็ยิ้มอย่างมีความสุขก่อนจะสอนจุนซูใช้และรักษาอาวุธ เมื่อฝึกเสร็จทุกคนก็ได้เข้าห้องพักที่เตรียมไว้ให้แต่ละคน
“ ครูฝึก....คะ ขอให้ผู้ฝึกจุนซูนอนกับฉันได้มั้ยคะ ”
ครูฝึกสาวที่สอนจุนซูนั้นได้พูดขึ้นมา ซึ่งครูฝึกก็อนุญาตเพราะทั้งคู่นั้นเป็นผู้หญิงและ และคนที่ผ่านการทดสอบนั้นเป็นผู้ชายทั้งหมดยกเว้นจุนซูคนเดียว
“ ไปกันเถอะจุนซู วันนี้ครูจะทำอาหารให้กินด้วย ”
“ ขอบคุณค่ะ ”
เมื่อถึงห้องของครูฝึกสาว ทั้งสองก็ได้ทำอาหารกินกัน จุนซูมีความสุขมากๆที่ได้อยู่กับครูฝึกสาว ทั้งสองคนพูดคุยกันก่อนจะทำธุระส่วนตัว และเข้านอนเพื่อเตรียมตัวที่จะไปฝึกฝนในเช้าวันพรุ่งนี้
แต่ก่อนที่จะนอนครูฝึกสาวได้เล่าถึงเรื่องที่มำไมเธอถึงได้มาเป็นครูฝึกที่นี่ เพราะเธอนั้นเป็นคนของรัฐบาลซึ่งเธอก็ได้รับพลังก่อนคนอื่น ทำให้เธอได้เป็นฮันเตอร์และเข้ามาเป็นครูฝึกของสถานที่แห่ง จุนซูจึงได้ถามถึงเรื่องที่เธออยากรู้เพิ่มเติม
แต่ก่อนที่จะดึกไปมากกว่านี้ ทั้งสองคนจึงต่างคนต่างนอนเพื่อที่จะได้ตื่นทันวันพรุ่งแต่จุนซูก็ยังนอนไม่หลับ เธอจึงออกไปนั่งเล่นข้างนอก ทำให้เธอได้เห็นหอคอยที่ปล่อยเหล่าสัตว์ประหลาดออกมาไม่สิ้นสุดจากที่ไกลๆ แต่เธอก็ไม่มีความหวานกลัวอยู่เลยแม้แต่น้อย เพราะเธอนั้นอยากจะแก้แค้นพวกมันให้กับแม่ของเธอ ถึงจะคิดแบบนั้นแต่ว่า
“ ไปนอนดีกว่า คิดไปก็เสียเวลาเปล่า ”
...--------------------------------...
เป็นไงบ้างสำหรับตอนนี้ พอได้มั้ยถ้าเกิดผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยด้วยนะคับ ยังไงก็ซัพพอร์ตผมด้วยนะคับ ถ้าหากว่าชอบการแต่งของผมเนี่ย ช่วยเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะ ผมจะได้มีกำลังใจในการแต่งตินต่อๆไปด้วยนะคับ ผมเนี่ยรักคนอ่านมากๆเลยคับ ยังไงก็ฝากติดตามผมด้วยนะ
...จุนซา...
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!