ในวันที่หิมะตกหนักในคืนที่เด็กคนนั้นเกิด
เสียงลมคำรามปะทะหน้าต่างไม้เก่าในกระท่อมหลังเล็กกลางหุบเขา ชายหญิงคู่หนึ่งกุมมือกันแน่นท่ามกลางความหนาวเหน็บของฤดูหนาวที่ไม่ยอมจบสิ้น เสียงทารกร้องดังขึ้นในห้องกระท่อมอย่างอ่อนแรง และในวินาทีนั้น ดวงตาของพ่อแม่ก็สว่างวาบขึ้นด้วยความหวัง
เด็กคนนั้นถูกตั้งชื่อว่า เซเรน — หมายถึง "ผู้เงียบสงบ"
เขาเติบโตขึ้นมาในหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ผู้คนล้วนเชื่อในเทพเจ้าแห่งดินฟ้า ผู้คนที่นั่นบอกว่า เซเรนมีดวงตาเย็นเยียบเหมือนผิวน้ำแข็ง ดำสนิทจนมองไม่เห็นแม้แต่แววอารมณ์ ราวกับว่าเขาไม่ใช่เด็กธรรมดา แต่เป็นบางสิ่งที่สูงกว่านั้น หรือ...ต่ำกว่านั้นก็ไม่มีใครรู้
ในวัยห้าขวบ เขาไม่เคยหัวเราะ ไม่เคยร้องไห้ ไม่เคยกรีดร้องเวลาเจ็บ
“เซเรน ไม่เจ็บเหรอลูก?” แม่ถามในวันหนึ่งที่เขาลื่นล้ม หัวเข่าถลอกเลือดซึม
เด็กชายแค่เงยหน้ามองเธอด้วยสายตานิ่งสนิท “ไม่ครับ”
ไม่ใช่แค่คำพูด — เขา รู้สึก จริง ๆ ว่าไม่เจ็บเลยสักนิด
สิ่งประหลาดเริ่มเกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่นาน
สัตว์ในป่าจะเงียบเสียงเมื่อเขาเข้าใกล้ หิมะจะตกเฉพาะที่ที่เขายืน และร่างของเขาไม่มีแม้แต่ไออุ่น
ผู้เฒ่าของหมู่บ้านกล่าวในคืนหนึ่ง
“เด็กคนนั้น...ไม่มีหัวใจ”
ตอนแรกทุกคนคิดว่านั่นเป็นคำเปรียบเปรย
จนกระทั่งคืนอันโหดร้ายมาถึง — ตอนที่หมอประจำหมู่บ้านผ่าท้องเซเรนหลังจากอุบัติเหตุใหญ่ และพบว่าภายในอกของเขา ว่างเปล่า
ไม่มีหัวใจ
ไม่มีสิ่งใดเต้นอยู่ที่นั่นเลย
หมู่บ้านเริ่มหวาดกลัว เด็กคนหนึ่งถูกเรียกว่า ปีศาจ ทั้งที่เขาไม่เคยทำร้ายใคร
พ่อแม่ของเขาถูกตราหน้าว่าเป็นพวกบูชาความมืด
แล้วพายุหิมะลูกใหญ่ก็มาถึง...กลืนหมู่บ้านทั้งหมดลงในม่านขาวที่ไม่มีวันจาง
เซเรนเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียว
เขาเดินออกมาจากกองซากไม้และหิมะ ฝุ่นและเลือดติดตามเสื้อผ้า เดินฝ่าความหนาวด้วยร่างกายเปลือยเปล่า แต่ใบหน้ากลับไม่มีแม้แต่ความตกใจ เขาเดินทางคนเดียว ไม่มีน้ำตา ไม่มีความกลัว ไม่มีอะไรในอก — เพราะเขา ไม่มีหัวใจ
นับจากวันนั้น เซเรนหายไปจากโลกอย่างเงียบเชียบ
แต่ในเงามืดของเมืองใหญ่ มีเรื่องเล่าถึงชายคนหนึ่งที่ไม่รู้จักความตาย ไม่รู้จักความเจ็บปวด และไม่รู้จักความรัก
เขาใช้ชีวิตภายใต้เงาของความจริงที่ไม่มีใครรู้ ว่าร่างกายนี้ ไม่มีหัวใจอยู่ภายในเลยแม้แต่นิดเดียว
เช้าวันจันทร์ในเมืองเทวารอยด์ เมืองใหญ่ที่ดูทันสมัยภายนอก แต่แฝงไปด้วยกลิ่นอายของบางสิ่งที่ผิดธรรมชาติ
ท้องฟ้าครึ้ม ฝนโปรยเม็ดเล็กลงบนกระจกหน้าต่างของสำนักงาน “หน่วยสืบสวนพิเศษ FAD”
เซเรน ครอว์ฟอร์ด นั่งอยู่ในห้องทำงานมืดสลัวของเขา — ไม่มีไฟ ไม่มีเครื่องปรับอากาศ มีเพียงแสงสีฟ้าจากหน้าจอและไอน้ำเย็นจากแก้วกาแฟที่ไม่เคยถูกดื่ม
เขายังคงเงียบเชียบเหมือนเดิม
ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เขา หากไม่จำเป็น
แต่นั่นกำลังจะเปลี่ยนไปในวันนี้...
“ขออนุญาตค่า~! เปิดเข้าไปแล้วนะคะ!”
เสียงใสๆ ดังขึ้นพร้อมเสียงเปิดประตูอย่างไม่เกรงใจ
เซเรนหันไปเล็กน้อย — แค่เล็กน้อย — และพบหญิงสาวในชุดสูทที่หลวมเกินตัว ถือแฟ้มเอกสารแน่นจนแทบหล่น
“สวัสดีค่ะ! ดิฉันไอร่า เวลเลน! ผู้ช่วยภาคสนามคนใหม่! ยินดีที่ได้ร่วมงานนะคะ!”
เธอยิ้มกว้าง ยืนอยู่ท่ามกลางห้องเย็นยะเยือก ราวกับเป็นดอกทานตะวันในหิมะ
เซเรนเงียบ
นาน...
นานเสียจนไอร่าเริ่มรู้สึกว่าเธอพังประตูผิดห้อง
ในที่สุด ชายหนุ่มก็ขยับปากเบา ๆ
“ออกไป”
เสียงเรียบเย็น และ...ชัดเจน
แต่ไอร่าหัวเราะ “โถ่ อย่าล้อเล่นสิคะ! ฉันมาจริง ๆ นะ! คุณคริสบอกให้มาฝึกงานกับคุณโดยตรงเลยนะคะ!”
เธอเดินเข้ามาอย่างไม่รู้จักคำว่า ‘กลัว’ หย่อนตัวลงตรงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเขา ใบหน้าสดใส ยิ้มอย่างคนไม่รู้จักคำว่า ‘หุบปาก’
เซเรนลอบถอนหายใจ
“ฉันไม่ชอบเสียงดัง”
“งั้นเดี๋ยวฉันกระซิบนะคะ~” เธอตอบ พร้อมยื่นแก้วกาแฟร้อนให้ “เอ้า~ ดื่มหน่อยไหมคะ? ทำเองเลยนะ อร่อยแน่นอน!”
เขาไม่ได้ขยับ เขาไม่ดื่มของใคร และไม่จำเป็นต้องดื่ม...ร่างกายนี้ไม่ต้องการสิ่งเหล่านั้น
แต่เขารับแก้วมาวางลงบนโต๊ะ อย่างน้อยก็เพื่อให้เธอหยุดพูด
ไอร่าสังเกตเขาเงียบ ๆ ก่อนจะเอียงคอ “คุณไม่รู้สึกหนาวเลยเหรอคะ? ห้องนี้มัน...หนาวจนเหมือนอยู่ในช่องฟรีซ”
“ไม่” เซเรนตอบสั้น ๆ
“แล้วไม่เหงาเหรอคะ อยู่เงียบ ๆ แบบนี้คนเดียวตลอด?”
“ไม่”
“ไม่มีใครให้คุยด้วยเลย?”
“ไม่จำเป็น”
“แล้วไม่มีแฟนเหรอคะ?”
เซเรนชะงักไปเล็กน้อย เขาเหลือบตามองหญิงสาวตรงหน้า—
ยิ้มสดใสจนแสบตา ตาเป็นประกายราวกับไม่มีเรื่องเศร้าในชีวิต และน้ำเสียงที่ไม่มีแม้แต่ร่องรอยของความกลัว
เขาไม่ตอบคำถามสุดท้ายนั้น
ภายในอกซ้ายของเขา
ว่างเปล่า
ไม่มีหัวใจเต้นตอบ
และเธอ...ไม่รู้เลยว่ากำลังเข้าใกล้สิ่งที่อันตรายที่สุดที่มนุษย์จะจินตนาการได้
แต่เซเรนไม่รู้เลยเช่นกัน—
ว่ารอยยิ้มนั่นกำลังเริ่มทิ้ง “รอยร้าว” แรกบนเกราะน้ำแข็งที่เขาสร้างมากว่าร้อยปี
เวลา: เที่ยงตรง
เสียงนาฬิกาแขวนกระทบกันเบา ๆ ในห้องสำนักงานที่เงียบสงัด ราวกับนาฬิกายังเกรงใจชายที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะตรงมุมสุดของสำนักงาน
เซเรน ครอว์ฟอร์ด ยังคงจ้องแฟ้มคดีเก่าโดยไม่กระพริบตา แม้เวลาจะล่วงเลยจนทุกคนทยอยออกไปทานข้าวกันแล้ว
เขาไม่หิว
เขาไม่กิน
และเขาไม่จำเป็นต้อง "พัก"
แกร่ก—
“คุณเซเรนนนน~!!”
เสียงหวานแสบหูดังขึ้นพร้อมประตูที่ถูกถีบเปิดออก
ชายหนุ่มขยับมือช้าลงเล็กน้อย...เล็กน้อยพอให้คนที่สังเกตดี ๆ เห็นว่าเขาเริ่มหมดความอดทน
“อะไร”
เสียงของเขาเย็นเหมือนตะปูแช่น้ำแข็ง
แต่คนตรงหน้าไม่รู้สึกสักนิด
“ไปกินข้าวกันค่ะ~ วันนี้มีข้าวห่อสาหร่ายที่ฉันทำเองด้วยนะคะ! ไส้แน่นมาก รับรองไม่เหมือนใคร!”
เธอเดินเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกครั้ง พร้อมกล่องเบนโตะสีพาสเทลและรอยยิ้มที่บอกชัดว่าเธอไม่มีทางยอมให้เขากิน "อากาศ" ไปวัน ๆ อย่างแน่นอน
“ไม่”
“ไม่กินข้าวเที่ยงเหรอคะ?”
“ไม่”
“ไม่ชอบสาหร่ายเหรอคะ?”
“ไม่”
“ไม่ชอบฉันเหรอคะ?”
เขาเงียบ
ไอร่าทำท่าเหมือนถูกแทงใจดำ แต่ทันใดก็ยิ้มใหม่แบบไม่สนโลก แล้วเดินอ้อมโต๊ะไปวางกล่องข้าวตรงหน้าเขา
“งั้นแค่เปิดดูหน่อยก็ยังดีค่ะ~ ถ้าไม่อร่อยก็ทิ้งได้เลย”
เซเรนมองกล่องเบนโตะเหมือนมันเป็นระเบิดเวลา
เขาไม่กิน
เขาไม่หิว
เขาไม่มีแม้แต่กลิ่นหอมที่รู้สึกเข้าใจ
แต่น่าแปลก...วันนี้เขารู้สึก เวียนหัวนิดหน่อย
“คุณเคยกินอะไรที่มีรสชาติบ้างไหมคะ?” ไอร่าถามพลางนั่งไขว่ห้าง
เซเรนไม่ตอบ
“ฉันเดาว่า...คุณคงเป็นพวกชอบอาหารรสจืด ๆ ล่ะมั้ง ใช่ไหมคะ?”
เขาหยุดมือที่กำลังเปิดแฟ้มงาน เงียบสนิท
"...ไม่มีรสชาติอะไรทั้งนั้น"
เธอเลิกคิ้ว “หือ? หมายความว่ายังไงคะ?”
“ลิ้นฉันรับรสไม่ได้”
ไอร่าเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดว่า
“ว้าว~ เท่จังค่ะ! แบบนั้นก็ไม่ต้องกลัวอาหารไม่อร่อยแล้วสิ!”
...นี่เธอฟังเข้าใจไหมเนี่ย
“เอาล่ะ งั้นวันนี้ลองให้คะแนนข้าวกล่องฉันแบบ ไม่ใช้ลิ้น ดูนะคะ!”
เธอเปิดฝากล่องเองแล้วเลื่อนมาทางเขา
ข้าวห่อสาหร่ายจัดเรียงเป็นรูปแมวหน้าตลก ๆ พร้อมข้อความเขียนด้วยซอสมายองเนสว่า "Fight-o!"
เซเรนถอนหายใจในใจ
เธอไม่เหมาะกับงานนี้เลยสักนิด
เสียงดัง ยุ่งวุ่นวาย ไม่มีความเกรงใจ หรือมารยาทของเจ้าหน้าที่สืบสวนเลยสักนิด
แต่...เมื่อเขาเงยหน้ามองอีกครั้ง
เธอกำลังยิ้ม
ยิ้มเหมือนเด็กที่พยายามให้ใครสักคนยิ้มกลับ
เขาหยิบข้าวห่อชิ้นหนึ่งขึ้นมา
...
เคี้ยว
...
ไม่มีรสชาติ
ไม่มีความรู้สึก
แต่ทันทีที่เขากลืนลงไป...
“ว้าวววววววว คุณกินแล้วววววว!!”
เสียงกรี๊ดของไอร่าแทบทำให้กระจกแตก
เซเรนหน้าสั่นนิด ๆ (นิดมากจนเหมือนภาพลวงตา)
นี่มัน—
ช่วงพักเที่ยงที่น่ารำคาญที่สุด
และเขาเพิ่งรู้ว่าเวรกรรมมีอยู่จริง แม้กระทั่งสำหรับคนไร้หัวใจ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!