NovelToon NovelToon

บ้านมือสองสยองขวัญ

ก้าวแรกสู่เงามืด

เสียงยางรถบดเบียดกับกรวดขรุขระข้างทางดังเป็นระยะ เมฆดำเหนือศีรษะลอยเอื่อยคล้ายพยายามกลืนแสงสุดท้ายของยามเย็นที่กำลังจะสิ้นไป เส้นทางคดเคี้ยวที่มุ่งเข้าสู่ป่าเบื้องหน้าแทบไม่มีป้ายบอกทางใดๆ นอกจาก GPS บนมือถือที่เริ่มแสดงสัญญาณอ่อนๆ

“อีกนิดเดียว...” หญิงสาววัยยี่สิบปลายๆ พึมพำกับตัวเองพลางขับรถลึกเข้าไปในเขตป่าห่างไกลจากตัวเมือง

ชื่อของเธอคือ “อริน” หญิงสาวผู้เพิ่งสูญเสียแม่จากอุบัติเหตุ และต้องการเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอพบประกาศขายบ้านมือสองในเว็บบอร์ดออนไลน์ เป็นบ้านไม้สองชั้นสไตล์วินเทจ อยู่กลางป่าที่ไร้เพื่อนบ้านและผู้คน บ้านหลังนี้ราคาถูกจนน่าสงสัย แต่ความเงียบสงบของป่า และความรู้สึกแปลกประหลาดที่ดึงดูดเธออย่างไร้เหตุผล ทำให้เธอตัดสินใจซื้อทันที

เมื่อมาถึงหน้าบ้าน ภาพตรงหน้าก็ทำให้เธอหยุดหายใจไปชั่วขณะ

บ้านไม้สีเข้มตั้งตระหง่านอยู่กลางพื้นที่รกร้าง ล้อมรอบด้วยต้นไม้สูงใหญ่จนแสงแดดแทบส่องไม่ถึง ตัวบ้านดูเก่าแต่ยังแข็งแรง ทว่ามีบางอย่างที่ไม่เข้าที่—หน้าต่างชั้นสองบานหนึ่งเปิดอ้า ทั้งที่ไม่มีใครควรจะอยู่ในนั้นเลย

อรินรู้สึกหนาววูบโดยไม่มีสาเหตุ เธอก้าวลงจากรถ ถือกระเป๋าเดินทางใบเดียวและเดินขึ้นบันไดไม้ที่ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดตามจังหวะก้าว

“ก็แค่บ้านเก่า...ไม่มีอะไรหรอก” เธอพูดปลอบใจตัวเอง แม้เสียงหัวใจจะเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อเปิดประตูเข้าไป กลิ่นอับและฝุ่นคลุ้งก็พุ่งเข้าจมูกทันที เฟอร์นิเจอร์ไม้เก่าๆ ยังคงวางอยู่ครบเหมือนเจ้าของเก่าหายตัวไปกลางวันแสกๆ บนโต๊ะกลางยังมีแก้วกาแฟที่ขึ้นราสีขาวขุ่น ผ้าม่านบางพริ้วไหวช้าๆ ราวกับมีใครยืนเป่าลมจากด้านใน

อรินตัดสินใจสำรวจบ้านให้ทั่วก่อนค่ำ เธอเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสอง และเปิดประตูห้องนอนที่มีหน้าต่างเปิดอ้าไว้ กลิ่นเหม็นเน่าอ่อนๆ ลอยมาตามลมทำให้เธอขมคอโดยไม่รู้ตัว

เมื่อเข้าไป เธอเห็นบางสิ่งบนพื้น

รอยเท้า...เหมือนมีใครเพิ่งเดินอยู่ในนี้ ทั้งที่เธอเป็นคนแรกที่มาถึง

เธอกลั้นหายใจและมองตามรอยเท้านั้น มันพาไปจนถึงปลายเตียงไม้ที่เก่าจนผุ เธอก้มลงดูใต้เตียงด้วยมือที่สั่นเทา

ไม่มีอะไร...

แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมา—เงาสะท้อนในกระจกตรงมุมห้องคือผู้หญิงคนหนึ่ง...ยืนอยู่หลังเธอ

เธอสะดุ้งหันขวับ แต่ในห้องก็ยังว่างเปล่า กระจกไม่มีอะไรผิดปกติ ไม่มีเงา ไม่มีใคร เธอพยายามหายใจลึกๆ แล้วหัวเราะแห้งๆ

“หลอนแล้วมั้งเรา...”

คืนนั้นอรินนอนไม่หลับ เสียงแปลกๆ ดังมาจากชั้นล่างเหมือนมีคนเดินผ่าน เสียงประตูที่ควรจะปิดสนิทกลับดังแอ๊ดเบาๆ ราวกับมีใครเปิดมันเข้ามา

และเมื่อเธอเดินลงไปดู ก็พบว่าประตูหน้าบ้าน...เปิดอ้าอยู่

เธอมั่นใจว่าเธอล็อกมันแล้ว

สายลมเย็นยะเยือกพัดเข้ามาพร้อมเสียงกระซิบที่ไม่ได้มาจากลม

เสียงนั้นแผ่วเบา...เหมือนหญิงสาวกำลังพูดใกล้ๆ หูเธอ

“อย่า...แย่ง...ของฉัน...”

 

ประตูที่ไม่เคยปิด

เสียงกระซิบเมื่อครู่ยังคงดังก้องในหัวของอริน แม้เธอจะเดินกลับขึ้นมาบนห้องแล้วก็ตาม เธอปิดประตู ล็อกกลอนแน่นหนา ก่อนจะถอยไปนั่งชิดเตียงอย่างไม่ไว้ใจอะไรทั้งนั้น

“เหนื่อย...แค่เหนื่อย...” เธอพึมพำ แล้วหลับตานอนทั้งๆ ที่ยังใส่เสื้อผ้า

แต่แล้วเสียงก๊อกเบาๆ ดังขึ้นจากประตูห้องที่เธอเพิ่งล็อกไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน

ก๊อก… ก๊อก…

อรินลืมตาโพลง หัวใจเต้นแรงจนได้ยินเสียงตัวเอง เธอค่อยๆ ลุกขึ้น เดินเข้าไปใกล้ประตู แล้วแนบหูฟัง

ไม่มีเสียงตอบกลับ มีเพียงความเงียบที่น่าขนลุก

เธอคว้ากุญแจจากโต๊ะหัวเตียง บิดเปิดประตูออกทันทีโดยหวังว่า—ถ้ามีใครเล่นตลก เธอจะได้จับได้ในทันควัน

แต่นอกห้องว่างเปล่า ทางเดินมืดสนิท

เธอคว้าไฟฉายจากกระเป๋า เปลวแสงอ่อนๆ กวาดผ่านทางเดิน และหยุดลงที่ปลายโถง

ตรงนั้น...มีเงาอะไรบางอย่างขยับผ่านไปอย่างรวดเร็ว

“ใครอยู่ตรงนั้น!” เธอตะโกน แต่เสียงของเธอสะท้อนกลับมาเพียงคำว่า “นั้น...นั้น...”

ไม่มีคำตอบ

ด้วยความลังเล เธอเดินตามไปจนถึงบันได ระหว่างทางเธอเห็นว่าประตูห้องเก็บของเล็กๆ ที่อยู่มุมสุดของชั้นสองเปิดแง้มอยู่ ทั้งที่ตอนเย็นเธอจำได้ว่า มันปิดสนิทและขึ้นสนิมจนแทบเปิดไม่ออก

“ไม่เอานะ...อย่าบอกว่า...”

เธอเอื้อมมือไปแตะลูกบิด

ปัง!!

เสียงประตูห้องนอนด้านหลังปิดดังสนั่น ทำให้เธอกรีดร้อง เธอรีบวิ่งกลับไปดู แต่...มันล็อกจากข้างใน

เธอเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่ามีคนอยู่ในบ้านจริงๆ หรือไม่

เธอตัดสินใจเดินลงไปข้างล่างอีกครั้งเพื่อเช็กความเรียบร้อย มือจับไฟฉายแน่นพลางเดินผ่านโถงทางเดินไม้ที่เอี๊ยดอ๊าดไปทุกย่างก้าว

เมื่อมาถึงห้องนั่งเล่น เธอเห็นว่าเก้าอี้โยกที่มุมห้อง…กำลังเคลื่อนไหวเบาๆ

“ลม…ใช่ มันต้องเป็นลม” เธอพยายามหาเหตุผลให้ตัวเอง แต่หน้าต่างทุกบานปิดสนิท ไม่มีช่องลมหรืออะไรทั้งสิ้น

และเมื่อเธอกำลังจะเดินเข้าไปดูใกล้ๆ...

เสียงกล่อมเด็ก...

แผ่วเบา...ออกมาจากวิทยุทรงกลมเก่าๆ ที่วางอยู่บนตู้ไม้

ทั้งที่ปลั๊กมันถอดอยู่...

อรินรู้สึกถึงความเย็นยะเยือกที่ไหลผ่านร่าง เธอคว้าไฟฉายแน่นกว่าเดิม แล้วตะโกนออกไปทั้งที่ไม่แน่ใจว่าเรียกใคร

“ใครอยู่ที่นี่! ออกมาเดี๋ยวนี้นะ! ฉันไม่กลัวหรอก!”

ทันใดนั้น ไฟฉายก็ดับลง

ทั้งบ้านตกอยู่ในความมืดสนิท

เธอพยายามเคาะมัน แต่ไฟไม่ติด มือของเธอสั่นเทา ในขณะที่รอบกายเริ่มได้ยินเสียงฝีเท้าเดินวนเป็นวงอยู่รอบตัวเธอ

เร็วขึ้น...ใกล้เข้ามา...

และแล้ว...เสียงหนึ่งก็กระซิบขึ้นข้างหูเธออีกครั้ง

“อย่าคิดว่าบ้านนี้...จะเป็นของเธอ”

เธอกรีดร้อง วิ่งสะเปะสะปะชนเข้ากับเฟอร์นิเจอร์ ก่อนจะหาทางไปยังประตูหน้าอีกครั้ง

ทว่า...

ประตูถูกล็อกจากด้านนอก

เธอขยับลูกบิดเต็มแรง ทุบกระจก ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครอยู่ที่นี่ ไม่มีใครได้ยินเธอ

บ้านทั้งหลังตกอยู่ในความเงียบ...และเงาที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นที่มุมห้อง เป็นรูปร่างของใครบางคนที่ยืนนิ่ง มองเธอ...ไม่ขยับ

อรินทรุดลงกับพื้น น้ำตาไหล มือสั่นระริก เธอหลับตาแน่น ราวกับหวังว่าเมื่อลืมตาอีกครั้ง ทุกอย่างจะหายไป

แต่เสียงหนึ่ง...ก็ดังขึ้นในหัวเธออย่างชัดเจน

“เจ้าของเก่า...ยังไม่ไปไหน...”

 

ของที่ไม่เคยเป็นของฉัน

เช้าวันรุ่งขึ้นมาถึงอย่างยากเย็น อรินแทบไม่ได้นอน ดวงตาของเธอคล้ำเป็นวง เธอนั่งอยู่บนบันไดไม้ มือกำถ้วยกาแฟที่เธอชงขึ้นมาแก้อาการสะลึมสะลือ ทั้งที่ปกติไม่ได้ดื่มกาแฟด้วยซ้ำ

เสียงนกในป่ารอบบ้านเริ่มขับขาน แต่กลับไม่ช่วยให้เธอรู้สึกว่าบ้านนี้ปลอดภัยขึ้นเลย

เธอเดินสำรวจบ้านอีกครั้งในตอนเช้า หวังจะเจอเหตุผลของสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน—สายไฟเสีย วิทยุมีสัญญาณหลอน—อะไรสักอย่างที่ “จับต้องได้” มากกว่า “ผี”

แต่ทุกอย่าง...ดูปกติจนน่าประหลาด

เธอกลับมานั่งในห้องนั่งเล่น พยายามเปิดโทรศัพท์เพื่อดูแผนที่หรือรีวิวของบ้านนี้อีกครั้ง แต่สัญญาณโทรศัพท์หายไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน และ Wi-Fi ที่เจ้าของเก่าบอกว่า “ติดตั้งไว้แล้ว” ก็ไม่สามารถเชื่อมต่อได้

เธอกำลังคิดจะเดินออกจากบ้าน เพื่อหาสัญญาณนอกแนวป่า ทันใดนั้น...เสียงขูดขีดก็ดังขึ้นจากผนังด้านหลัง

เสียงคล้ายเล็บข่วน...ลากช้าๆ ไปตามไม้แห้ง

อรินหันขวับไปทันที มือกำไฟฉาย แม้มันจะดับไปตั้งแต่เมื่อคืน

เธอค่อยๆ เดินเข้าไปดูใกล้ๆ จุดที่ได้ยินเสียง

และพบว่า...บนผนังมีรอยขีดเขียนด้วยของแข็ง จารึกเป็นคำสั้นๆ ที่เพิ่งถูกเขียนสดๆ

“กลับไปซะ”

เธอถอยหลังทันที ชีพจรเต้นรัว เธอหันหลังกลับจะวิ่งออกจากห้อง แต่แล้ว...

ประตูปิดลงเองอย่างแรง

เธอพุ่งเข้าไปดึงมัน เปิดออกมาได้ แต่เมื่อเธอหันกลับไปมองห้องอีกครั้ง รอยขีดเขียนนั้นหายไป

เหมือนมันไม่เคยมีอยู่

เธอรู้แล้วว่านี่ไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ หรือภาพหลอน เธอเริ่มสงสัยว่ามีบางอย่างจงใจเล่นกับเธอ จงใจหลอก จงใจไล่

แต่เพราะไม่มีรถ หรือสัญญาณโทรศัพท์ เธอจึงยังออกจากที่นี่ไม่ได้

คืนนั้น เธอตัดสินใจนอนในห้องครัว เพราะเป็นห้องเดียวที่มีไฟฟ้ายังเปิดติดอยู่ (แค่บางหลอด) และไม่มีหน้าต่าง

เธอเอาผ้าห่มมากางบนพื้น หวังจะรอดจากคืนที่สอง

เวลาประมาณตีสอง เสียงบางอย่างดังขึ้นจากใต้บ้าน—เสียงลากของหนัก เสียงคล้ายเฟอร์นิเจอร์ถูกเลื่อนช้าๆ

เธอลุกขึ้น พยายามไม่ขยับตัวแรงนัก เธอฟังอยู่ครู่หนึ่ง และมั่นใจว่าเสียงนั้น...มาจากห้องใต้ถุนที่เธอยังไม่เคยเปิดเข้าไป

ตอนแรกเธอคิดจะไม่สนใจ แต่แล้ว ประตูห้องครัวก็เปิดเองเบาๆ

เสียงฝีเท้าเปล่าเดินผ่านไปช้าๆ ที่หน้าห้อง เธอเห็นเงาของ “ใครบางคน” จากช่องว่างใต้ประตู

มันหยุดอยู่ตรงนั้น นิ่ง...เหมือนฟังเสียงเธอหายใจ

อรินกำมือแน่น พยายามไม่ส่งเสียงอะไรออกมาแม้แต่น้อย

แล้วประตูนั้น...ค่อยๆ ปิดเองอย่างช้าๆ

เงานั้นหายไป

และทันใดนั้น...เสียงกระซิบแผ่วๆ ก็ดังขึ้นจากเพดานห้องครัว

“ของของฉัน...คืนมาซะ...”

อรินมองขึ้นไป แล้วพบว่าบนฝ้าเพดาน มีรูเล็กๆ รูหนึ่งซ่อนอยู่—เหมือนมีห้องลับซ่อนอยู่ข้างบนที่เธอไม่เคยสังเกต

และบางอย่าง...กำลังเคลื่อนไหวอยู่ที่นั่น

 

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!