NovelToon NovelToon

รวมเรื่องราวเล็กๆน้อยๆ

เรื่องราวของตะวัน

'ตะวัน' หนุ่มวิศวะปีสาม ผู้มีรอยยิ้มสดใสราวกับชื่อของเขา แอบชอบ 'หมอก' รุ่นพี่ปีสี่สุดฮอตของคณะมานานนับปี หมอกเป็นคนเงียบขรึม มีเสน่ห์ดึงดูดอย่างน่าประหลาด ตะวันมักจะหาโอกาสเข้าใกล้หมอกเสมอ ไม่ว่าจะชวนคุยเรื่องเรียน หรือแอบมองจากระยะไกล เพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้มบางๆ ของหมอก ก็ทำให้วันของตะวันสดใสขึ้นมาได้

แต่ดูเหมือนว่าความรู้สึกของตะวันจะเป็นความลับอยู่เพียงข้างเดียว หมอกดูเหมือนจะไม่สนใจใครเป็นพิเศษ และมีข่าวลือว่าเขามีแฟนสาวอยู่แล้ว ทำให้ตะวันได้แต่เก็บความรู้สึกนั้นไว้ในใจอย่างเงียบๆ

วันหนึ่ง ในงานเลี้ยงคณะ ตะวันตัดสินใจดื่มเพื่อกลบความเศร้าที่เห็นหมอกคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งอย่างสนิทสนม จนกระทั่งเขารู้สึกมึนเมาและเดินโซซัดโซเซออกมาข้างนอก

"เฮ้ย! จะไปไหนน่ะ" เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นข้างหลัง ตะวันหันไปมองเห็นเป็นหมอกที่เดินตามออกมาด้วยสีหน้าเป็นห่วง

"ปะ... เปล่าครับ" ตะวันตอบเสียงสั่น

"ไหวหรือเปล่า หน้าซีดเลยนะ" หมอกถามพลางเอื้อมมือมาแตะหน้าผากของตะวันเบาๆ สัมผัสอบอุ่นนั้นทำให้หัวใจของตะวันเต้นแรงจนแทบทะลุออกมา

"ผะ... ผมไม่เป็นไรครับ" ตะวันพยายามฝืนยิ้ม

"ไม่ต้องฝืนหรอก" หมอกพูดเสียงอ่อนลง "มานี่" ว่าแล้วเขาก็ประคองตะวันให้ไปนั่งพักที่ม้านั่งเงียบๆ ข้างสนาม

ทั้งสองคนนั่งอยู่ด้วยกันภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องสว่าง ตะวันรู้สึกประหม่าจนทำอะไรไม่ถูก บรรยากาศเงียบสงัดจนกระทั่งหมอกเป็นคนทำลายความเงียบนั้น

"ตะวัน..." เสียงของหมอกแผ่วเบา

"ครับ?"

"ที่นาย... ชอบมองฉันบ่อยๆ น่ะ..." หมอกเว้นจังหวะเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ทำให้ตะวันใจเต้นระรัว "ฉันรู้ตัวนะ"

ดวงตาของตะวันเบิกกว้างด้วยความตกใจ เขาไม่คิดว่าหมอกจะรู้ตัว

"ผะ... ผม..." ตะวันพูดไม่ออก ใบหน้าเริ่มร้อนผ่าว

หมอกยิ้มบางๆ มองเข้าไปในดวงตาของตะวันอย่างลึกซึ้ง

"แล้วนายรู้ไหมว่า..." หมอกโน้มตัวเข้ามาใกล้ จนลมหายใจอุ่นๆ รดต้นคอของตะวัน "ฉันก็ชอบนายเหมือนกัน"

ราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน หัวใจของตะวันเต้นระรัวด้วยความดีใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่แน่ใจว่าหูฝาดไปหรือไม่

"พี่... พี่หมอก..."

"อืม" หมอกตอบรับเบาๆ พร้อมกับยื่นมือมาจับมือของตะวันอย่างอบอุ่น

ในคืนนั้นเอง ความรู้สึกที่เก็บซ่อนไว้ในใจของทั้งสองคนก็ถูกเปิดเผยออกมาภายใต้แสงจันทร์ ความเงียบขรึมของหมอกละลายหายไป เหลือไว้เพียงแววตาที่อ่อนโยนและเต็มไปด้วยความรู้สึกดีๆ ที่มีให้ตะวัน

หลังจากวันนั้น ความสัมพันธ์ของตะวันและหมอกก็พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น เรียนรู้ซึ่งกันและกัน และเติมเต็มความสุขให้กันและกัน แม้ว่าจะมีอุปสรรคบ้าง แต่ความรักที่ทั้งสองคนมีให้กันก็แข็งแกร่งพอที่จะก้าวข้ามทุกอย่างไปได้

รอยยิ้มของตะวันสดใสยิ่งกว่าเดิมเมื่อมีหมอกอยู่เคียงข้าง ส่วนหมอกก็ดูมีความสุขและเปิดเผยมากขึ้นเมื่ออยู่กับตะวัน ความรักของพวกเขาเบ่งบานเหมือนดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิ สวยงามและอบอุ่นหัวใจ...

เรื่องราวของภพ

แสงแดดยามบ่ายสาดส่องเข้ามาในห้องชมรมดนตรี ภพนั่งดีดกีตาร์โปร่งเบาๆ ดวงตาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพของบูม—เพื่อนสนิทของเขาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น—กำลังซ้อมบาสเกตบอลอยู่กลางสนามสะท้อนเข้ามาในสายตา

ภพลืมภาพนั้นไม่ได้เลย ทุกครั้งที่บูมกระโดดขึ้นชู้ตลูก ทุกครั้งที่เหงื่อเม็ดเล็กๆ ไหลซึมตามกรอบหน้าคมสัน มันราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้เขาไม่อาจละสายตาไปได้

เขารู้ตัวดีว่าความรู้สึกที่เขามีต่อบูมมันไม่ใช่แค่เพื่อนสนิทธรรมดา มันลึกซึ้งกว่านั้นมาก มันคือความรู้สึกที่เขาพยายามซ่อนไว้ในส่วนลึกของหัวใจมานานหลายปี

"ทำอะไรอยู่เหรอก้อง" เสียงทักทายดังขึ้น ทำให้ภพสะดุ้งเล็กน้อย หันไปมองก็พบว่าเป็นปาล์ม—เพื่อนอีกคนในชมรม

"อ๋อ...ซ้อมกีตาร์น่ะ" ภพตอบพลางรีบเก็บกีตาร์เข้ากล่อง

"มองบูมอีกแล้วใช่ไหม" ปาล์มแซวด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

ภพหน้าแดงก่ำ รีบปฏิเสธ "เปล่านี่! มองวิวเฉยๆ"

ปาล์มหัวเราะเบาๆ "เชื่อก็บ้าแล้ว สายตาแกมันฟ้องหมดแหละ"

ภพถอนหายใจ เขาไม่เคยปิดปาล์มได้เลยจริงๆ

"ฉัน...ไม่รู้จะทำยังไงดีว่ะปาล์ม" ภพเอ่ยเสียงแผ่ว "ฉันกลัว...กลัวว่าถ้าเขารู้ เขาจะไม่เหมือนเดิม"

"แล้วถ้าแกไม่ทำอะไรเลยล่ะ" ปาล์มถามกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง "แกจะไม่เสียใจกว่าเหรอ ที่ไม่ได้ลองทำอะไรเลย"

คำพูดของปาล์มทำให้ภพครุ่นคิด เขาเฝ้ามองบูมมานาน เก็บซ่อนความรู้สึกนี้ไว้คนเดียวอย่างอึดอัด บางที...บางทีปาล์มอาจจะพูดถูก

เย็นวันนั้น หลังเลิกซ้อมดนตรี ภพรวบรวมความกล้าทั้งหมด เดินตรงไปยังสนามบาสเกตบอล บูมกำลังเก็บลูกบาสใส่ตะกร้า

"บูม..." ภพเรียกเสียงเบา

บูมหันมา มองภพด้วยรอยยิ้มสดใส "อ้าว ภพ มีอะไรรึเปล่า"

หัวใจของภพเต้นระรัว เขาไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี คำพูดมากมายตีกันอยู่ในหัว

"คือว่า..." ภพสูดลมหายใจลึก "ฉันมีเรื่องอยากจะบอกนาย"

บูมเลิกคิ้วเล็กน้อย มองภพด้วยความสงสัย

"ฉัน..." ภพพูดไม่ออก ความกลัวยังคงกัดกินหัวใจ

ทันใดนั้นเอง สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นลูกบาสที่หล่นอยู่ข้างเท้าของบูม ภพก้มลงหยิบมันขึ้นมา

"ฉัน...ชอบนายนะ บูม" คำพูดนั้นหลุดออกมาจากปากของเขาอย่างรวดเร็ว ราวกับกลั้นไว้ไม่อยู่

ความเงียบเข้าปกคลุมสนามบาสเกตบอล แสงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าสาดส่องเป็นสีส้มอมชมพู บูมยืนนิ่ง มองภพด้วยแววตาที่เขาไม่สามารถอ่านออก

ภพหลับตาปี๋ เตรียมพร้อมรับกับทุกปฏิกิริยาที่จะตามมา

"ภพ..." เสียงของบูมเบาจนแทบไม่ได้ยิน

ภพลืมตาขึ้น มองบูมด้วยความหวาดหวั่น

"ฉัน..." บูมเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือของภพเบาๆ "ฉันก็...รู้สึกเหมือนกัน"

ราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน ภพเบิกตากว้าง มองบูมอย่างไม่อยากจะเชื่อ

รอยยิ้มค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของบูม เป็นรอยยิ้มที่ภพรู้สึกว่าอบอุ่นที่สุดในโลก

"ฉันนึกว่าฉันคิดไปเองมาตลอด" บูมพูดเสียงแผ่ว

ภพยิ้มตอบ น้ำตาคลอเบ้า ความรู้สึกมากมายถาโถมเข้ามา ทั้งดีใจ โล่งใจ และตื้นตัน

แสงสุดท้ายของวันสาดส่องลงมาบนร่างของเพื่อนสองคนที่ยืนจับมือกันกลางสนามบาสเกตบอล ความเงียบถูกแทนที่ด้วยเสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกัน เรื่องราวความรักของพวกเขาเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น และภพรู้ดีว่าต่อจากนี้ไป โลกของเขาจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

รอยยิ้มในวันฝนพรำ

* คราม: หนุ่มนักเขียนอิสระผู้รักความสงบ มักจะเก็บตัวอยู่ในโลกส่วนตัว

* เมฆ: หนุ่มสถาปนิกผู้สดใส มองโลกในแง่ดี และเป็นเพื่อนบ้านคนใหม่ของคราม

เรื่องย่อ:

สายฝนพรำในบ่ายวันหนึ่ง ทำให้ครามที่กำลังจมดิ่งอยู่กับงานเขียนต้องเงยหน้าขึ้นมองออกไปนอกหน้าต่าง หยดน้ำเกาะพราวบนกระจก ราวกับเป็นเพื่อนเงียบๆ ที่คอยอยู่เคียงข้างเขาเสมอ ความเงียบสงบเป็นสิ่งที่ครามคุ้นเคยและโหยหา แต่แล้วความเงียบนั้นก็ถูกทำลายลงด้วยเสียงเฟอร์นิเจอร์ลากครูดกับพื้นจากห้องข้างๆ

"เพื่อนบ้านใหม่สินะ" ครามพึมพำกับตัวเองอย่างไม่สบอารมณ์นัก เขาไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร และหวังว่าเพื่อนบ้านคนใหม่นี้คงจะไม่ส่งเสียงดังรบกวนเวลาทำงานของเขามากนัก

วันเวลาผ่านไป ครามยังคงใช้ชีวิตเรียบง่ายเช่นเดิม จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่เขากำลังเดินกลับห้องพักพร้อมกับถุงใส่ของใช้ เสียงทักทายสดใสก็ดังขึ้น

"สวัสดีครับ!"

ครามชะงักและหันไปมอง พบกับชายหนุ่มหน้าตายิ้มแย้มถือกล่องลังหลายใบยืนอยู่หน้าห้องข้างๆ นั่นเอง

"เอ่อ...สวัสดีครับ" ครามตอบกลับเสียงแผ่ว

"ผมชื่อเมฆครับ เพิ่งย้ายมาอยู่ใหม่ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ" เมฆยื่นมือมาทักทายอย่างเป็นมิตร

ครามลังเลเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือไปจับทาย "ครามครับ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน" มือของเมฆอบอุ่นและกระชับ ทำให้ครามรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

หลังจากวันนั้น เมฆก็มักจะแวะเวียนมาทักทายครามเสมอ บางครั้งก็ชวนคุยเรื่องสัพเพเหระ บางครั้งก็เอาขนมหรือผลไม้มาฝาก ด้วยความสดใสและเป็นกันเองของเมฆ ทำให้กำแพงในใจของครามค่อยๆ พังทลายลงทีละน้อย

ครามเริ่มรู้สึกรอคอยเสียงทักทายของเมฆในแต่ละวัน เขาพบว่าตัวเองเริ่มยิ้มได้มากขึ้นเมื่ออยู่ใกล้เมฆ ความเงียบเหงาที่เคยปกคลุมชีวิตของเขาเริ่มจางหายไป

กระทั่งวันหนึ่ง ฝนตกหนักมาก ครามกำลังนั่งทำงานอยู่ จู่ๆ ไฟก็ดับลง เขานั่งอยู่ในความมืดมิด รู้สึกหงุดหงิดและทำอะไรไม่ถูก ในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

"คราม...ครามครับ ไฟดับเหรอ ผมมีเทียนไขอยู่ เอาไปใช้ก่อนไหมครับ?" เสียงของเมฆดังลอดประตูเข้ามา

ครามเปิดประตูออกไป พบกับเมฆที่ยืนถือเทียนไขและไฟแช็กอยู่ในมือ แสงเทียนสลัวๆ ทำให้ใบหน้าของเมฆดูอบอุ่นและอ่อนโยน

"ขอบคุณมากนะเมฆ" ครามรับเทียนไขมา จุดไฟ และมองหน้าเมฆด้วยความรู้สึกบางอย่างที่บอกไม่ถูก

"ไม่เป็นไรครับ...เอ่อ...ถ้าไม่มีอะไรทำ มานั่งคุยเป็นเพื่อนกันก่อนไหมครับ?" เมฆชวนด้วยรอยยิ้ม

ครามพยักหน้า ทั้งสองนั่งคุยกันท่ามกลางแสงเทียนในคืนที่ฝนตกหนัก ครามรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เขาเริ่มตระหนักว่ารอยยิ้มของเมฆนั้น สว่างไสวราวกับแสงอาทิตย์ที่ลอดเมฆฝนลงมา

ความสัมพันธ์ของทั้งสองพัฒนาไปอย่างช้าๆ จากเพื่อนบ้าน กลายเป็นเพื่อนสนิท และในที่สุด ความรู้สึกที่ลึกซึ้งกว่านั้นก็ก่อตัวขึ้นในหัวใจของทั้งสองคน

วันหนึ่ง เมฆชวนครามไปดูงานสถาปัตยกรรมที่เขาออกแบบ ครามมองเมฆที่กำลังอธิบายรายละเอียดต่างๆ ด้วยแววตาเป็นประกาย เขาเห็นถึงความมุ่งมั่นและความรักในสิ่งที่เมฆทำ และในขณะนั้นเอง ครามก็รู้ว่าเขาตกหลุมรักรอยยิ้มและความสดใสของเมฆเข้าแล้ว

ในคืนนั้นเอง ครามตัดสินใจที่จะเปิดเผยความรู้สึกในใจ

"เมฆ..." ครามเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงแผ่ว ขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งอยู่บนระเบียงห้องของคราม มองออกไปในเมืองที่สว่างไสวด้วยแสงไฟ

"ครับ?" เมฆหันมามองด้วยความสงสัย

"ฉัน...ฉันชอบนายนะ" ครามพูดออกไปด้วยความประหม่า ใบหน้าของเขาแดงก่ำ

เมฆนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่รอยยิ้มกว้างจะปรากฏบนใบหน้าของเขา

"ผมก็ชอบคุณครับคราม...ชอบมานานแล้ว"

ในที่สุด รอยยิ้มของเมฆก็กลายเป็นแสงสว่างที่นำทางชีวิตของคราม แสงสว่างที่เข้ามาเติมเต็มความเงียบเหงา และทำให้ทุกวันของเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แม้ในวันที่ฝนพรำ รอยยิ้มของเมฆก็ยังคงสดใส ราวกับสายรุ้งหลังฝนซา....

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!