ค่ำคืนที่แสงไฟจากเมืองสะท้อนบนผืนน้ำสงบ เสียงเครื่องยนต์ของรถหรูที่ขับเคลื่อนออกจากซอยดังขึ้นมาอย่างมั่นคง คิมหันต์ นายมาเฟียหนุ่มผู้ทรงอำนาจนั่งอยู่ในเบาะหลังของรถด้วยท่าทางเย็นชา ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความเงียบสงบ แต่ในดวงตาสีดำขลับนั้นเต็มไปด้วยความเด็ดขาดและการคำนวณที่รุนแรง
ข้าง ๆ เขาคือ ม่อน บอดี้การ์ดคนสำคัญที่คิมหันต์เลือกให้ดูแลความปลอดภัย แม้จะดูเหมือนเด็กหนุ่มที่ไม่มีพิษสง แต่ม่อนกลับเป็นคนที่แหลมคม ทั้งในแง่ทักษะการต่อสู้และปากที่ไม่เคยหยุดหย่อนในการพูดจา
ม่อน : "บอส... ทำไมถึงชอบมีสีหน้าแบบนี้ตลอดเวลา ไม่น่าสนุกเลยนะครับ"
คิมหันต์มองไปที่ม่อนด้วยสายตาที่เย็นชา แม้เสียงของม่อนจะดูผ่อนคลายแต่ไม่มีความหวั่นเกรง
คิมหันต์ : "ถ้าอยากจะพูดอะไร, อย่าพูดออกมา ถ้ารำคาญจะไม่เกรงใจเลยนะ"
ม่อนยิ้มกวน ๆ และยักไหล่ให้กับคำเตือนนั้น แต่เขาก็รู้ดีว่าคิมหันต์เป็นคนที่ไม่ยอมให้ใครล้ำเส้นง่าย ๆ เขารู้จักตัวเองดีพอว่าในโลกนี้ไม่มีใครกล้าท้าทายอำนาจของคิมหันต์
ม่อน : "เข้าใจแล้วครับ... แต่พวกนั้นจะกล้าแหกกฎถึงขนาดนี้เหรอครับ? นายจะปล่อยให้มันไปแบบนี้ได้ยังไง"
คิมหันต์ตอบด้วยน้ำเสียงที่ยังคงเย็นชา แต่แฝงไปด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจมองข้าม
คิมหันต์ : "คนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง สักวันจะเจอฝีมือผม"
ม่อนทำท่าทางเหมือนจะพูดอะไรต่อ แต่ก็หยุดลงเมื่อเห็นแววตาของคิมหันต์ เขาไม่อยากทำให้สถานการณ์ตึงเครียดไปมากกว่านี้
ทั้งสองคนเดินออกจากรถหรูมายังห้องลับที่ถูกเตรียมไว้สำหรับการประชุมครั้งสำคัญ ในห้องนั้นมีข้อมูลการเคลื่อนไหวของศัตรูที่ต้องรับมือในคืนนี้
ม่อน : "เดี๋ยวครับ บอส... คุณไม่คิดจะมีอะไรสนุก ๆ ไหม? คิดว่าเราควรจะเปิดเกมอย่างไรดี?"
คิมหันต์หันไปมองม่อนด้วยสายตาเฉียบขาด เขาทราบว่าแม้ม่อนจะกวนตีนอยู่ตลอดเวลา แต่ในสถานการณ์นี้เขาก็ไม่สามารถปล่อยให้ม่อนทำตัวตามใจได้
ม่อน : "โอเค ๆ... เล่นเกมนี้ก็ได้ บอส" (หัวเราะ)
หลังจากนั้น ทั้งสองเริ่มวางแผนการบุกในคืนนี้ ท่ามกลางความตึงเครียดและการเตรียมการที่สมบูรณ์แบบ ม่อนก็ยังคงรักษาท่าทางที่ไม่เคยแสดงความเครียดแม้แต่น้อย เขาเพียงแค่พร้อมที่จะบวกกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ
คิมหันต์เหลือบมองม่อนอีกครั้งก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป และไม่พูดอะไรอีก เพราะเขารู้ดีว่าแม้จะเป็นนายที่เย็นชา แต่การมีคนแบบม่อนอยู่ข้าง ๆ ทำให้ทุกสิ่งดูน่าสนุกขึ้นมาบ้าง
ค่ำคืนที่มืดมิดไม่ต่างจากหลาย ๆ คืนที่ผ่านมา แต่วันนี้มันแตกต่างออกไป ทุกย่างก้าวของ คิมหันต์ และ ม่อน มีความหมายที่ลึกซึ้งกว่าเดิม ภารกิจที่อยู่ข้างหน้ามีความเสี่ยงมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่คิมหันต์เองก็ไม่เคยแสดงอารมณ์ใด ๆ แต่คืนนี้เขาเริ่มรู้สึกถึงสิ่งที่ไม่ชอบมาพากล
เสียงปลายเท้าของทั้งสองคนกังวานไปในห้องใหญ่ของคฤหาสน์ ทุกอย่างดูเงียบสงบจนทำให้รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังมีบางสิ่งซ่อนอยู่
ม่อน : "บอส... ไม่น่าจะง่ายขนาดนั้นหรอกนะครับ ดูท่าทีของพวกมันสิ มันต้องมีแผนอะไรบางอย่างแน่ ๆ"
คิมหันต์หยุดเดินตรงหน้าโต๊ะไม้ขนาดใหญ่และหันไปมองม่อนอย่างเย็นชา ก่อนที่เขาจะตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
คิมหันต์ : "ถ้าพวกมันคิดจะทำอะไร ก็แค่ให้พวกมันมาลองดู"
ม่อนรู้ดีว่าคิมหันต์ไม่มีความลังเลในการทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผน การตัดสินใจของเขาคือสิ่งที่ไม่เคยผิดพลาด แต่ม่อนก็ยังคงรู้สึกไม่สบายใจ รู้ดีว่าแผนการในคืนนี้มีความเสี่ยงมากเกินไป
ม่อน : "แต่อย่าลืมนะครับ บางครั้งแผนที่ดูเหมือนสมบูรณ์แบบ อาจจะพลาดได้เสมอ"
คำพูดของม่อนทำให้คิมหันต์ยิ้มเย็น ๆ แม้ว่าจะไม่มีอารมณ์ขำขันเลยสักนิด
คิมหันต์ : "ถ้ามันพลาดไปแล้ว ก็จะได้เรียนรู้"
ม่อนหรี่ตามองคิมหันต์ ก่อนที่จะยักไหล่และเดินตามหลังเขาไป
ทั้งสองเดินไปยังห้องที่มีบรรยากาศไม่ต่างจากสนามรบ เงียบสงบ แต่ท่ามกลางความเงียบนี้ก็มีแรงดึงดูดที่ไม่สามารถมองข้ามได้
เมื่อถึงห้องประชุม คิมหันต์นั่งลงที่เก้าอี้ใหญ่ที่ตั้งอยู่ตรงกลาง พร้อมกับเรียกผู้ช่วยทุกคนเข้ามารายงานสถานการณ์
คิมหันต์ : "สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไง?"
ผู้ช่วยคนหนึ่งรายงานทันที
ผู้ช่วย : "พวกมันเริ่มเคลื่อนไหวแล้วครับ กำลังเตรียมตัวที่จะบุกเข้ามาในภายในคืนนี้"
ม่อน : "คิดว่าจะสามารถรับมือพวกมันได้เหรอครับ?"
คิมหันต์หันไปมองม่อนด้วยสายตาที่เย็นชา ก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจ
คิมหันต์ : "พวกมันไม่รู้หรอกว่าเกมนี้เป็นยังไง"
ม่อนรู้ว่าไม่ว่าอย่างไร คิมหันต์ก็จะไม่ยอมให้ใครเข้ามาเป็นภัยได้ง่าย ๆ เขาตัดสินใจแล้วว่าการทำงานกับคิมหันต์ไม่ใช่แค่การรักษาความปลอดภัย แต่มันยังเป็นการยืนเคียงข้างคนที่มีความเด็ดขาดและไร้ความปราณี
แล้วก็ถึงเวลาที่ต้องลงมือ ทุกคนในห้องพร้อมที่จะทำตามคำสั่งของคิมหันต์ แต่ม่อนกลับรู้สึกเหมือนจะมีบางสิ่งผิดปกติ
ม่อน : "บอส... พวกนั้นกำลังจะไปทางไหนครับ?"
คิมหันต์ : "พวกมันยังไม่รู้ว่า... เรารู้ทุกความเคลื่อนไหวของพวกมัน"
ม่อนพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนที่ทั้งสองจะเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว การเคลื่อนไหวของพวกเขาเต็มไปด้วยการเตรียมตัวและความพร้อมที่จะรับมือกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
ขณะที่พวกเขาก้าวไปข้างหน้า บรรยากาศภายนอกเริ่มเข้มข้นขึ้น คิมหันต์รู้ดีว่าพวกศัตรูกำลังใกล้เข้ามา ทุกการเคลื่อนไหวที่พวกเขาทำล้วนหมายถึงการตัดสินใจที่สำคัญ มันไม่ใช่แค่การป้องกันตัวเอง แต่มันเป็นการตัดสินโชคชะตาของคนหลายคน
เสียงก้าวเท้าแผ่วเบาดังสะท้อนในทางเดินยาวที่มืดมิด ทั้ง คิมหันต์ และ ม่อน เคลื่อนตัวอย่างระมัดระวัง ท่ามกลางความเงียบที่หนาวเย็น ความรู้สึกตึงเครียดจับขั้วหัวใจ
ม่อน เดินตามหลังคิมหันต์ มือของเขากระชับปืนสั้นในเสื้อสูทอย่างคล่องแคล่ว แววตาแพรวพราวไม่เคยขาดความมั่นใจ แม้สถานการณ์จะกดดันแค่ไหน
ม่อน : "บอสครับ ผมว่าพวกมันน่าจะวางกับดักไว้แน่ๆ ... อยากให้ผมล่อมันออกมาก่อนมั้ย?"
น้ำเสียงกวน ๆ ที่เคยเป็นเอกลักษณ์ยังคงไม่เปลี่ยน ถึงจะพูดเรื่องเสี่ยงชีวิต ม่อนก็ยังคงยิ้มมุมปากได้อยู่ดี
คิมหันต์เหลือบตามอง ก่อนจะพูดเสียงเรียบ
คิมหันต์ : "ไม่จำเป็น... ฉันไม่ชอบปล่อยให้คนของฉันเสี่ยงเกินเหตุ"
ม่อนหัวเราะเบา ๆ ขณะหมุนปืนในมือเล่นด้วยท่าทีสบาย ๆ
ม่อน : "โอ๊ย พูดซะดูดี แบบนี้ถ้าโดนยิงจริง ๆ บอสจะมาอุ้มผมมั้ยล่ะ?"
คำพูดหยอกเย้าแฝงความท้าทายนั้นทำให้คิมหันต์หยุดเดินชั่วขณะ ก่อนที่เขาจะเอ่ยด้วยเสียงเย็นเฉียบจนทำเอาอุณหภูมิรอบตัวลดฮวบ
คิมหันต์ : "ถ้านายกล้าพลาด... จะไม่มีโอกาสให้ฉันอุ้มซ้ำสอง"
ม่อนยักคิ้วอย่างกวนประสาท ก่อนจะเดินนำหน้าคิมหันต์ไปสองก้าวอย่างไม่เกรงใจ
ม่อน : "ครับ ๆ รู้แล้วล่ะน่า~ นายก็แค่ห่วงแต่ปากแข็งนั่นแหละ"
คิมหันต์มองแผ่นหลังบาง ๆ ของม่อนที่ก้าวอย่างมั่นใจ ริมฝีปากได้รูปของเขาขยับน้อย ๆ อย่างที่แม้แต่ตัวเองก็ไม่รู้ตัว—เป็นรอยยิ้มเย็น ๆ ที่แฝงอะไรบางอย่าง
ทันใดนั้น เสียงปืนดังขึ้นจากปลายทางเดิน ม่อนสะบัดตัวหลบกระสุนได้อย่างเฉียดฉิว ปืนในมือเขาตอบโต้กลับไปทันทีด้วยความแม่นยำ
ม่อน : "โถ่เว้ย! บอส! ไอ้พวกหมาลอบกัด!"
เสียงสบถแบบไม่จริงจังของม่อนดังขึ้น เขาไถลตัวไปหลบหลังเสา คิมหันต์เองก็ยกปืนขึ้นยิงกลับอย่างเยือกเย็น แม่นยำจนฝ่ายตรงข้ามต้องถอยร่น
คิมหันต์ : "โวยวายอะไรน่ารำคาญ... ทำงานซะ"
เสียงของคิมหันต์ไม่ดัง แต่เฉียบขาด ม่อนหัวเราะในลำคออย่างสนุก รู้สึกเลือดสูบฉีดเหมือนได้เล่นเกมโปรด
พวกเขาทั้งสองเคลื่อนตัวเข้าประชิดอย่างรวดเร็ว อาศัยจังหวะที่ศัตรูตื่นตระหนกเพื่อจัดการเก็บพวกมันทีละคนอย่างแม่นยำ
ผ่านไปไม่ถึงสิบนาที ความสงบกลับคืนมา มีเพียงกลิ่นควันปืนลอยอวลในอากาศ
ม่อนหันมาหาคิมหันต์ ขยิบตากวน ๆ
ม่อน : "หึ... ไม่ต้องอุ้มก็ได้ครับบอส ผมยังหล่ออยู่ครบสามสิบสอง!"
คิมหันต์เดินผ่านม่อนไปโดยไม่ตอบ แต่ปลายสายตาคมกริบของเขาเหลือบมองอีกฝ่ายนิดหนึ่ง... ก่อนจะเอ่ยเสียงต่ำ
คิมหันต์ : "อย่าประมาทครั้งหน้า... ไม่งั้นฉันไม่ช่วย"
ม่อนยิ้มกว้างอย่างไม่รู้สึกกลัวสักนิด เขารู้ดีว่าคิมหันต์ไม่ได้พูดเล่น... แต่ในขณะเดียวกันก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีทางปล่อยเขาตายแน่
คืนนี้แค่เพิ่งเริ่มเท่านั้น... และเกมอันตรายนี้ พวกเขายังต้องเล่นร่วมกันอีกยาวนาน
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!