NovelToon NovelToon

รัตติกาลในเงาใจ

ตอนที่ 1: สัมผัสแรกของเงามืด

สายลมเย็นในยามค่ำคืนพัดผ่านต้นไม้ใหญ่บริเวณเชิงเขา เสียงใบไม้กระทบกันเบาๆราวกับเป็นบทเพลงของรัตติกาล ไมล์ เดินไปตามทางเดินกรวดในป่าที่เขาไม่เคยคิดจะย่างกรายเข้ามา หากไม่ใช่เพราะความท้าทายจากเพื่อนรักทั้งสองคน—ไวท์ กับ บิว—ที่เอ่ยปากล้อว่าเขาไม่กล้า

“เฮ้ ไมล์ นายจะเดินเข้าไปคนเดียวจริงดิ? ถ้าเจอผีหลอกล่ะ อย่ากลับมาขอให้ฉันช่วยนะ” ไวท์พูดเสียงยียวน ปากขยับยิ้มแหยๆแต่แววตาเต็มไปด้วยความสนุก

“ไปแค่ขอบป่า เดินวนรอบบ้านเก่าแล้วก็กลับ ฉันยังไม่อยากตายหรอกน่า” ไมล์ตอบพร้อมกับหยิบไฟฉายในมือแน่น

บิวยกมือถือขึ้นถ่ายคลิปไว้ “ถ้าภายในสิบห้านาทีไม่กลับมา พวกเราจะเข้าไปช่วยนะ ไม่ต้องห่วง”

“ห่วงเหรอ? แน่ใจนะว่าไม่ใช่รอดูฉันสะดุดรากไม้ล้มใส่หน้าตัวเองน่ะ?”

เสียงหัวเราะดังขึ้นตามหลังขณะที่ไมล์เริ่มเดินลึกเข้าไปในป่า

บรรยากาศรอบตัวมืดมิด เงียบสงัด มีเพียงเสียงลมหายใจของเขาเองกับเสียงรองเท้ากระทบหินกรวด

บ้านหลังนั้นปรากฏขึ้นท่ามกลางหมอกจางๆ… เป็นคฤหาสน์เก่าแก่ กำแพงอิฐสูงปกคลุมด้วยเถาวัลย์ประหลาดที่ราวกับกำลังขยับไหวช้าๆใต้แสงจันทร์ รั้วเหล็กสีดำสนิมมีตราประทับรูปค้างคาวคู่สลักไว้ตรงกลางประตู

‘บ้านของตระกูลแวมไพร์…’ ไมล์นึกถึงเรื่องเล่าเก่าๆที่ผู้คนในเมืองพูดถึง แม้ไม่มีใครกล้ายืนยันว่าจริงหรือเท็จ แต่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า... "อย่าเข้าไป"

ทันใดนั้น ไฟฉายในมือเขากะพริบแรงสองสามครั้งแล้วก็ดับลง ไมล์เบิกตากว้าง รีบเคาะมันแรงๆ

“เฮ้ ไม่เอาน่า…เปิดสิ เปิด—”

“คุณกำลังรบกวนเวลาพักผ่อนของเจ้านายผม”

เสียงเข้ม ทุ้มต่ำดังมาจากด้านหลัง ไมล์สะดุ้งสุดตัว รีบหันไป…

ชายในชุดสูทดำยืนสงบนิ่ง ผมสีเทาเงินถูกเกล้าอย่างเรียบเรียง ใบหน้าคมดุดันแต่ดูมีอำนาจ นัยน์ตาสีแดงเข้มราวกับเลือด

“คะ…คุณเป็นใคร?”

“ไทสัน พ่อบ้านของตระกูลไนท์ฟอลล์… และคุณกำลังก้าวล้ำเข้ามาในพื้นที่ส่วนบุคคลของเจ้านายผม”

“ไนท์ฟอลล์?” ไมล์ทวนคำเสียงสั่น หัวใจเต้นรัวเมื่อรู้ว่าสถานที่ที่ยืนอยู่ตรงหน้า ไม่ใช่แค่บ้านเก่า ๆ ทิ้งร้างอย่างที่คิด

“ผมแนะนำให้คุณกลับไปเสียก่อนที่เจ้านายจะ—”

เสียงประตูไม้เก่าดังเอี๊ยดออกจากภายในเงามืดของคฤหาสน์ ชายหนุ่มร่างสูงปรากฏตัว เขาไม่ได้พูดอะไร แค่มอง… และในวินาทีนั้นเอง ทุกอย่างรอบตัวไมล์ดูจะเงียบไปหมด

นัยน์ตาสีแดงสดเหมือนเปลวไฟ ลึกและน่าค้นหา ผิวซีดขาวราวหิมะในคืนฤดูหนาว เส้นผมสีดำสนิทปลิวไหวเบาๆเมื่อเขาก้าวออกมาพร้อมรัศมีของอำนาจที่ไม่อาจละสายตา

“…เจ้ามนุษย์ ผู้อวดดีคนนี้ เป็นแขกของใคร?”

เสียงของเขาเย็นชาแต่เปี่ยมด้วยเสน่ห์จนทำให้หัวใจไมล์เต้นผิดจังหวะ

ไทสันโค้งเล็กน้อย “ขออภัยครับ นายท่าน เขาบังเอิญผ่านมา และไม่รู้จักกฎของที่นี่”

“…ไม่น่าสนใจเลย” ชายคนนั้นเอ่ยเบาๆพร้อมหมุนตัวจะกลับเข้าไป แต่แล้วก็หยุดนิ่งเมื่อนัยน์ตาสีแดงสบตากับดวงตาสีน้ำตาลอบอุ่นของไมล์

“…เจ้าชื่ออะไร”

ไมล์กลืนน้ำลาย “มะ…ไมล์ครับ…”

“…ครูซ” เขาเอ่ยชื่อของตนเบาๆพลางหันกลับมาเดินเข้าหาไมล์ช้าๆ

“จำชื่อข้าไว้ให้ดี… เพราะต่อจากนี้ เจ้าจะไม่มีวันได้ลืมมัน”

สายลมเย็นยะเยือกปะทะใบหน้า มือเย็นจัดสัมผัสหลังมือของไมล์เบาๆจนร่างของเขาสะดุ้งสุดตัว

ครูซกระซิบเสียงเบา “ข้าจะถือว่าคืนนี้เป็นคำขอ...ให้ข้าได้รู้จักเจ้ามนุษย์ผู้กล้าคนนี้มากขึ้นอีกหน่อย”

และนั่น...คือจุดเริ่มต้นของคืนที่เขาไม่อาจหวนคืนไปเป็นเหมือนเดิมได้อีกเลย

...🧛...

ตอนที่ 2: เสียงกระซิบในเงามืด

กลิ่นหอมของดอกไม้ยามค่ำคืนผสมกับกลิ่นไอหมอกบางๆลอยปะปนในอากาศรอบตัว ไมล์รู้สึกเหมือนเขากำลังหลุดเข้าไปในโลกอีกใบ โลกที่ไม่มีเหตุผล ไม่มีตรรกะ มีเพียงแค่ความรู้สึก... ความรู้สึกว่าทุกอย่างที่เห็นนั้น ทั้งน่าหลงใหลและน่าหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน

ร่างของเขายังยืนอยู่หน้าคฤหาสน์สีดำสนิทเบื้องหน้าคือครูซ… ชายแปลกหน้า...หรืออาจจะไม่ใช่แค่คน—ที่จ้องมองเขาด้วยสายตาที่ลึกล้ำราวกับสามารถมองทะลุเข้ามาในใจ

“ท่าน...ต้องการอะไรจากผม?” ไมล์ถามเสียงแผ่ว มือข้างหนึ่งยังคงสั่นเล็กน้อยกับสัมผัสเย็นเฉียบเมื่อครู่

ครูซไม่ได้ตอบในทันที เขาเพียงเดินวนรอบไมล์อย่างเงียบเชียบ ราวกับนักล่าที่กำลังประเมินเหยื่อของตน

“ข้าแค่...สงสัย” เขาพูดเสียงแผ่วแต่แฝงไว้ด้วยแรงสะกด “ว่าทำไม เจ้าถึงกล้ามาเหยียบที่นี่ในคืนที่ดวงจันทร์เต็มดวง... คืนที่ ‘พวกมัน’ มักจะตื่นจากหลับใหล”

“พวกมัน?” ไมล์ขมวดคิ้ว “คุณหมายถึง—แวมไพร์?”

ไทสันที่ยืนอยู่ไม่ไกลหันมามองทันที สายตาคมกริบเต็มไปด้วยความห่วงกังวล

“เจ้านายครับ คืนนี้ไม่ควร—”

“ข้ารู้ว่าไม่ควร” ครูซสวนเสียงเรียบ แต่สายตายังคงจับจ้องที่ไมล์ “แต่ข้าก็เบื่อการอยู่ในเงามืดมานานพอแล้ว”

ไมล์หายใจลึก ความรู้สึกบางอย่างในอกเขากำลังสั่นคลอน เขาควรจะหนีไปตอนนี้ ควรจะกลับไปหาไวท์กับบิว แต่...ทำไมเขากลับไม่ขยับเลย?

ทันใดนั้น…เสียงแหลมแหวกอากาศกรีดร้องขึ้นมาจากในป่า คล้ายเสียงของสัตว์ป่าขนาดใหญ่ แต่กลับเต็มไปด้วยความบิดเบี้ยว บิดเบือน ราวกับเสียงนั้น...ไม่ได้เกิดจากสิ่งมีชีวิตที่ควรจะมีอยู่ในโลกนี้

“นั่น...เสียงอะไร?” ไมล์ถามเสียงสั่น รีบหันไปทางเสียงทันที

“สายไปแล้ว” ไทสันเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนจะก้าวมายืนข้างนายของตน

“พวกมันได้กลิ่นเลือดของมนุษย์แล้ว”

ก่อนที่ไมล์จะถามต่อ เสียงฟ่อแหลมดังก้องในอากาศ มันแทรกเข้ามาในจิตใจเหมือนจะเจาะทะลุรูหูไปถึงหัวใจ เงาสีดำพุ่งออกมาจากต้นไม้ด้านข้างด้วยความเร็วสูง ร่างของสิ่งมีชีวิตประหลาดรูปร่างคล้ายมนุษย์แต่เต็มไปด้วยปีกค้างคาวและฟันแหลมคมกรีดอากาศเข้ามาอย่างกระหาย

“ไมล์!!” เสียงตะโกนของบิวดังจากด้านหลัง พร้อมกับไวท์ที่วิ่งเข้ามาในเขตคฤหาสน์ทั้งสองคนหน้าเผือดซีด

“ไมล์ วิ่ง! เราต้องออกไปจากที่นี่!”

แต่ก่อนที่ใครจะทันได้ทำอะไร เงานั้นก็พุ่งลงมาจ่อหน้าทั้งสามคนทันที เล็บยาวแหลมคมของมันสะท้อนแสงจันทร์ พุ่งเข้าใส่ไมล์ในเสี้ยววินาที

ฟึ่บ!

แรงลมรุนแรงกระแทกออกมารอบด้าน ราวกับพายุเฉียบพลัน ทุกอย่างหยุดนิ่งในพริบตา

ร่างของครูซยืนอยู่เบื้องหน้าไมล์ มือของเขาจับคอของปีศาจตนนั้นไว้ด้วยเพียงนิ้วเดียว ใบหน้าของเขาเรียบเฉยอย่างสมบูรณ์

“เจ้าสกปรก กล้าดียังไง...ถึงกลิ่นของข้าแล้วยังคิดจะแตะต้องของของข้าอีก?”

แววตาของครูซเปลี่ยนไป สีแดงนั้นลุกวาบขึ้นราวกับเปลวไฟกำลังโหมกระหน่ำ

เสียงกระดูกหักดังกร๊อบ ปีศาจแวมไพร์คำรามด้วยความเจ็บปวดก่อนที่ร่างของมันจะสลายเป็นฝุ่นดำลงกับพื้นในพริบตา

ไม่มีใครพูดอะไร ทุกอย่างเงียบสนิท

ไมล์ยืนอยู่หลังเขา หายใจไม่ทันกับเหตุการณ์เมื่อครู่ ขาเริ่มอ่อนจนแทบยืนไม่ไหว

ครูซหันกลับมาช้าๆนัยน์ตาของเขาค่อยๆคลายความคุกรุ่นลง ริมฝีปากที่เคยเงียบงันกลับเอ่ยถ้อยคำที่ไมล์ไม่เคยคาดคิดว่าจะได้ยินจากแวมไพร์ผู้เยือกเย็น

“ต่อจากนี้... เจ้าจะอยู่ที่นี่”

“หา?”

“ในเขตแดนของข้า ไม่มีใครแตะต้องเจ้าได้” น้ำเสียงของเขานุ่มลงเล็กน้อย ราวกับสายลมอุ่นในคืนหนาว

“ถ้าเจ้ายังอยากมีชีวิตอยู่…ก็อย่าเพิ่งกลับไป”

...🧛...

ตอนที่ 3: เงาที่หลงลืมในความทรงจำ

แสงจันทร์ยังคงสาดส่องลงมาผ่านม่านหมอก แม้จะผ่านช่วงเหตุการณ์ชุลมุนไปแล้ว แต่หัวใจของไมล์ยังคงเต้นแรงไม่หยุด ภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ กลิ่นของไม้เก่าผสมกลิ่นไวน์และหนังสือเก่าลอยอวลในอากาศ

ไมล์นั่งตัวตรงบนโซฟาหนังสีดำ ใบหน้ายังซีดจากเหตุการณ์เมื่อครู่ ส่วนไวท์และบิวนั่งขนาบข้างเหมือนกลัวว่าเขาจะหายตัวไปได้ทุกเมื่อ

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย...” บิวกระซิบ ขณะที่สายตายังคงกวาดไปทั่วคฤหาสน์ “แวมไพร์จริงๆเหรอ?”

“แล้วสิ่งนั้นที่พุ่งเข้ามาจะให้เรียกว่าอะไรล่ะ? โคโยตี้จากนรกเหรอ?” ไวท์เสริม เสียงสั่นแต่ยังพยายามกลบเกลื่อนด้วยการประชด

ไมล์ไม่ได้ตอบ เขาแค่เบนสายตาไปมองครูซที่ยืนพิงเสาใกล้บันได สีหน้าเรียบนิ่ง แต่แววตาของเขาดูลึกซึ้งเหมือนกำลังชั่งน้ำหนักบางอย่าง

“ข้าเห็นมันแล้ว” ไทสันที่ยืนอยู่ด้านหลังครูซเป็นคนพูดขึ้น เสียงของเขานุ่มลึกเหมือนสายลมกลางคืน “พวกมัน...ไม่ใช่เพียงแค่แวมไพร์ธรรมดา”

“แล้ว...พวกมันคืออะไร?” ไมล์ถาม น้ำเสียงของเขาเบา แต่เต็มไปด้วยความอยากรู้

ครูซเดินเข้ามาใกล้ เขานั่งลงตรงข้ามไมล์ ช้าๆราวกับไม่ต้องรีบเร่งไปไหน

“พวกมันคือเงาที่ถูกหลงลืม… แวมไพร์ที่ไม่ยอมรับกฎแห่งเผ่าพันธุ์”

“กฎ?” บิวทวนคำ “แวมไพร์ยังมีกฎเหรอ?”

“แน่นอน” ครูซตอบ ดวงตาเขาทอดมองไปยังเปลวไฟในเตาผิงราวกับกำลังเห็นภาพในอดีต “ในอดีต แวมไพร์เคยปกครองมนุษย์ด้วยความหวาดกลัว ใช้เลือดเป็นอาหาร ใช้เงาเป็นที่หลบซ่อน แต่เมื่อเวลาผ่านไป... เราก็รู้ว่าความเกลียดชังไม่ได้ทำให้เราอยู่รอดได้ตลอดไป”

“เลยตั้งกฎขึ้นมางั้นเหรอ?” ไมล์ถาม

ครูซพยักหน้าเบาๆ

“ใช่… กฎแห่งขอบเขต เลือดจะไม่ไหลโดยไม่ได้รับอนุญาต มนุษย์จะไม่ถูกแตะต้องหากไม่ขัดขืน ส่วนแวมไพร์...ต้องไม่ฝืนธรรมชาติ”

“แล้ว ‘พวกมัน’ ล่ะ?”

ครูซหลับตาลงชั่วครู่ เหมือนเจ็บปวดที่ต้องเอ่ยถึง

“พวกมันคือแวมไพร์ที่ปฏิเสธกฎ พวกที่ดื่มเลือดมากเกินกว่าจะควบคุมตนเอง พวกที่...กลายเป็นปีศาจ”

บรรยากาศในห้องเงียบลงทันที มีเพียงเสียงเปลวไฟในเตาผิงที่ยังแตกปะทุอยู่เบาๆ

“แล้วทำไมพวกมันถึงตามล่าไมล์?” ไวท์ถาม

“ใช่...” บิวเสริมทันที “เขาไม่ได้ทำอะไรให้เลยนะ แค่เป็นคนธรรมดา!”

ไทสันที่เงียบอยู่นานในที่สุดก็พูดขึ้น

“พวกมันไม่ได้ตามล่ามนุษย์ทั่วไป พวกมันตามหา ‘ผู้ถือสายเลือด’”

ไมล์ขมวดคิ้วทันที “ผู้ถือ...อะไรนะ?”

ครูซลุกขึ้น เดินตรงไปยังชั้นหนังสือ หยิบสมุดปกหนังเล่มหนึ่งออกมา ก่อนจะเปิดหน้าหนึ่งให้ดู ภาพวาดโบราณบนหน้ากระดาษเก่าแสดงให้เห็นรูปชายหนุ่มในชุดนักบวชที่ถือแก้วไวน์สีแดงฉานท่ามกลางวงแหวนเปลวไฟ

“สายเลือดแห่งบาเลียน… มนุษย์เพียงไม่กี่คนในแต่ละศตวรรษจะถือครองมัน เลือดที่สามารถกระตุ้นความหิวกระหายของแวมไพร์ได้ยิ่งกว่าเลือดใดๆและ...สามารถเรียก ‘เงา’ ที่หลับใหลให้ตื่นขึ้น”

ไมล์หน้าเสีย “คุณจะบอกว่า...ผมเป็นหนึ่งในนั้นเหรอ?”

“เลือดเจ้าหอมเกินไป...แม้แต่ข้าก็ยังเกือบเสียการควบคุม”

ไมล์รู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ

“แล้วผมจะทำยังไง... ถ้าผมมีเลือดที่พวกมันต้องการ?”

ครูซหันกลับมามองเขาเต็มตา แววตาของเขาครั้งนี้แตกต่างจากเดิม

“อยู่กับข้า ข้าจะไม่ให้ใครแตะต้องเจ้า...ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร”

คำพูดนั้นทำให้ห้องทั้งห้องเหมือนหยุดนิ่ง ไมล์กลืนน้ำลายลงคอ ดวงตาเขาสั่นไหว ไม่รู้ว่าควรรู้สึกอย่างไรกับคำมั่นสัญญาของแวมไพร์ตรงหน้า

แต่น่าแปลก...เขากลับไม่ได้รู้สึกกลัวเหมือนเมื่อแรกพบอีกต่อไป

...🧛...

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!