NovelToon NovelToon

ร้อยปีสู่นิรันดร์

ข้า

"ยุคกลาง" ยุคสมัยของเรื่องราวตำนานปรัมปรามากมาย ยุคแห่งการล่าแม่มด มนุษย์หมาป่า. ใครจะไปเชื่อว่ามันจะเป็นเรื่องจริงใช่มั้ยล่ะ แต่ในตอนนี้ฉัน จะบอกเล่าเรื่องราวบางอย่างให้ฟัง เกี่ยวกับคน คนนึง.........

ช่วงปลายของยุค ผู้คนต่างหวาดผวากับมนุษย์หมาป่าที่น่าเกรงขามราวกับสัตว์ร้ายจากสวรรค์ที่ถูกส่งลงมาเพื่อกำจัดเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ เหตุเพราะมนุษย์นั้นเข่นฆ่ากันเอง แบ่งชนชั้นราวกับตนเป็นสิ่งมีชีวิตที่สูงกว่าเผ่าพันธุ์เดียวกัน กดขี่ข่มเหงกันราวกับหมู หมา กา ไก่ แต่ใครจะไปคิดว่าสักวันนึงสิ่งที่ไม่ขาดฝันอาจเกิดขึ้น.

ในเช้ามืดวันนึงชายชราคนนึงได้เปิดประตูออกไปเพื่อตรวจดูวัวในคอกตามปกติสุข แต่เมื่อเขาเปิดออกไปเขากลับต้องผงะตกใจกับสิ่งที่เขาเห็น.....

เด็กทารกแรกเกิดอยู่ในตะกร้าหน้าบ้าน ถูกทิ้งให้หนาวสั่นอยู่ข้างนอกอันน่าหวาดหวั่น ชายชราได้แต่อ้ำอึ้งกับสิ่งที่เขาได้เห็นก่อนที่เขาจะตัดสินใจและยกตระกร้าขึ้นมาและพาเด็กทารกนั้นกลับเข้าไปในบ้านอันแสนอบอุ่นในที่สุด

ภรรยาของเขาหญิงชราผู้หนึ่งเอ่ยถามถึงสามีของเขาด้วยความสงสัย

"มีเหตุอันใดรึ? ใยเจ้าจึงกลับมาไว้เช่นนี้"

ชายชราได้แต่ยืนโอบกอดตะกร้าไว้ในอ้อมแขน เขาก้มาเฝ้ามองใบหน้ากลมดิ๊กของทารกตัวน้อยด้วยความเอ็นดูก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่บางเบาระวังไม่ให้ ทารกตัวน้อยตื่นขึ้นมา

"ข้าคิดว่าจะรับเลี้ยงเจ้านี่.."

หญิงชรางุนงงกับคำพูดนั้นจึงเดินเข้าไปมองดูใกล้ๆ ก่อนจะตกใจตาเบิกกว้างจากสิ่งที่ไม่ขาดคิด หญิงชราเอ่ยปากต่อว่าชายชราอย่างจัง

"เจ้าเสียสติไปแล้วเหรอะ?! แค่ลำพังเรายังลำบากลำบนเพียงนี้ เจ้ายังจะรับเลี้ยงเจ้าเด็กนี่อีกเหรอะ!"

ชายชราได้แต่ยิ้มบางให้กับเจ้าทารกตัวน้อยด้วยความเอ็นดูและความรัก เขานั้นยกนิ้วขึ้นมาและทำเสียง"ชู่ววว"เบาๆ ราวกลับไม่อยากรบกวนเจ้าตัวน้อยนี่ก่อนที่เขาจะเอ่ยปากพูดออกมา

"ข้าจะรับผิดชอบเอง เจ้าเองใฝ่ฝันไม่ใช่หรือ ที่เจ้าอยากมีลูกสักคน ถ้าไม่ติดที่ว่าข้านั้นเป็นขันที.. นี่...ดูเจ้านี่สิ น่ารักน่าเอ็นดูเชียวล่ะ"

ทันทีที่ชายชรานั้นพูดจบเขาก็ยื่นตะกร้าให้หญิงชรา น่าแปลกใจที่เธอนั้นก็ยอมรับและรับตะกร้านั้นเข้ามาในอ้อมแขนของเธอในที่สุด

"หืม... น่าชังอย่างเจ้าว่า.... ข้า..ก็อยากเลี้ยงเจ้านี่เช่นกัน.. แต่เจ้าต้องทำงานหนักขึ้น. ว่าแต่เจ้าคิดชื่อให้เจ้านี่หรือไม่?"

ชายชราครุ่นคิดก่อนจะตัดสินในและเอ่ยออกมาในที่สุด "ไครอส. เจ้าคิดว่าไง?" เขาตามออกไปหวังให้เธอชอบมัน "ไครอส? ชื่อเด็กผู้ชายรึ? ฟังดูแปลกประหลาด เจ้ารู้ได้เยี่ยงไรว่าเจ้านี่เป็นเด็กผู้ชาย?" ชายชราตอบกลับ "ก็ข้าเช็คดูน่ะสิ"....

หลายปีผ่านไป. จากวันนั้นก็ผ่านมานานนับ10ปีหลังจากวันนั้น ไครอสก็เข้าสู่ช่วงเล่นสนุกจนได้..

"ยายยย ดูสิ ข้าไปเจออะไรมาา" ไครอสยื่นผลไม้บางอย่างในหญิงชราผู้เป็นยายดู ไม่ทันไรยายก็ลูบหัวเขาก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยความเอ็นดู

"โฮ่.. เจ้าไปวิ่งเล่นในป่ามารึ? แล้วนี่เจ้าไปพบเจอเชอร์รี่ได้ยังไงหื้ม? ยายถามด้วยความสงสัยแต่ก็หยอกล้อนิดๆในน้ำเสียงของเธอ

"ข้า... ไม่รู้... ข้าแค่วิ่งไปเรื่อย..." จบประโยคยายก็หัวเราะคิกคักขึ้นมาทันทีก่อนจะยีหัวไครอสด้วยความรักและห่วงใย...

พอตกดึก..ในคืนนั้นไครอสนอนไม่หลับเขาจึงแอบออกไปข้างนอกในตอนกลางคืน เวลายิ่งผ่านไปเขาก็ยิ่งลึกเข้าไปในป่าขึ้นเรื่อยๆ โดยที่มีแสงจันทร์นำทาง หลายชั่วโมงผ่านไปเขานั้นหลงทางไปเรียบร้อยแล้ว

เขาไม่รู้ว่าจะกลับไปทางไหน สัญลักษณ์ก็ไม่ได้ทำเอาไว้ เขานั้นหวาดผวา ครุ่นคิด กังวล กระวนกระวาย เขากลัวว่าตากับยายจะออกตามหาเขาในวันต่อมาเพราะพวกท่านไม่เห็นเขาบนที่นอน เขาจึงปีนขึ้นต้นไม้ มองหาเส้นทางกลับบ้าน

แต่ถว่าอีกฝากนึงของผืนป่าที่เขามั่นใจว่าไม่ใช่ทางกลับบ้านนั้นกลับมีแสงไฟส่องสว่างขึ้นท้องฟ้าราวกลับมีเมืองตั้งอยู่ที่นั่น เขาจึงตัดสินใจที่จะเดินหน้าไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นเพื่อสำรวจ

และใช่ มันกลับเป็นเมืองจริงๆ เมืองใหญ่เมืองใหม่ที่เขาไม่รู้จัก เขาได้พยายามเข้าไปใกล้ แต่กลับเจอกำแพงของปราสาทสูงตระหง่านอยู่ตรงหน้าเขา โชดดีที่มีต้นไม้สูงใกล้อยู่ต้นนึง เขาจึงปีนป่ายขึ้นไป ไปยังหน้าต่างที่เปิดกว้างบานนั้น เขามองเข้าไปและพบกับ..

เด็กหญิงสาวอายุรุ่นราวคราวเดียวกันนอนร้องไห้อยู่ในห้องนอนอย่างโดดเดียว เขาจึงเฝ้าดูเธออยู่ตรงนั้นหวังให้เธอรู้สึกดีขึ้นในขณะที่นั่งสังเกตุลักษณะของเธอ

เธอมีผมสีบลอนด์ยาวราวกลับผืนผ้าสีทองสวยงามระยิบระยับราวกับเม็ดทรายกระทบกับแสงอาทิตย์ในยามเช้า ดวงตาของเธอนั้นสวยงามราวกับน้ำทะเลยามเย็น ผิวของเธอนั้นขาวสวยเรียบเนียนราวหิมะ ใบหน้าของเธอนั้นดุจดั่งเทพธิดาลงมงทรงโปรด แต่ติดที่... เธอนั้นร่ำร้องไห้อยู่ในตอนนี้..

หลายนาทีผ่านไปเขาก็ได้แต่คิดแล้วก็สงสัยเกิดเรื่องอะไร ทำไมเธอถึงร้องไห้อย่างนั้น แต่ในระหว่างที่เขากำลังครุ่นคิด เธอก็มองมาที่เขาด้วยใบหน้าที่ตกใจราวกับเห็นผี ดวงตาของเธอเบิกกว้างราวกลับกำลังสั่นกลัว...

ไม่นานนักเธอก็เช็ดน้ำตา และตั้งสติก่อนจะเดินมาใกล้หน้าต่างบานใหญ่นี่มากขึ้น เธอหยุดอยู่ตรงนั้นที่ขอบหน้าต่าง พวกเราได้แต่จ้องมองกันโดยไร้คำพูดใดๆมีเพียงเสียงลมและแสงจันทร์ที่ทำให้พวกเรารู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่คนเดียวในคืนแบบนี้ เขาได้แต่คิดซ้ำไปซ้ำมาในหัวไม่หยุดหย่อน

(เธอกำลังคิดอะไรอยู่กัน..)

เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!

novel PDF download
NovelToon
เปิดประตูต่างภพ
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!