มนต์รักนาคี
ตอนที่ 1: คืนรำบวงสรวงและมนต์ดำที่แฝงเร้น
แสงสุดท้ายของวันค่อยๆ ลับหายไปจากขอบฟ้า ทิ้งไว้เพียงสีส้มอมม่วงที่แต่งแต้มท้องนภาเหนือหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา เสียงจักจั่นเรไรประสานเสียงราวกับวงดนตรีธรรมชาติ บ่งบอกถึงช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน แต่สำหรับชาวบ้านที่นี่ ค่ำคืนนี้เป็นคืนพิเศษ คืนแห่งการรำบวงสรวงบูชาพญาศรีสุทโธนาคราช เทพผู้ปกปักษ์รักษาแหล่งน้ำและความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน
ลดาในชุดรำสีขาวบริสุทธิ์ที่ตัดเย็บด้วยผ้าไหมเนื้อดี ปักลายดอกบัวสีชมพูอ่อน เดินออกจากบ้านไม้สองชั้นที่ตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่ดูดี ภายในบ้านอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้และเครื่องหอมต่างๆ ที่คุณแม่ของเขาจัดเตรียมไว้ด้วยความตั้งใจ สร้อยข้อมือเงินลายดอกพิกุลที่คุณยายมอบให้ส่องประกายวับวาวเมื่อต้องกับแสงตะเกียงที่ประดับประดาอยู่ตามทางเดิน
ใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มของลดามีรอยยิ้มบางๆ ประดับอยู่ ดวงตากลมโตสดใสเป็นประกายแห่งความศรัทธาและความตื่นเต้น วันนี้เป็นวันที่เขารอคอยมานาน ปีนี้เขาได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในนักรำบวงสรวง ซึ่งถือเป็นเกียรติและความภาคภูมิใจอย่างยิ่งสำหรับครอบครัว
ลดาเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้มเช่นกัน ทั้งสองเดินเคียงกันไปยังลานพิธีที่อยู่ไม่ไกลนัก ตลอดทางมินตราก็พูดคุยอย่างสนุกสนานถึงความตื่นเต้นที่จะได้ชมการรำบวงสรวงในค่ำคืนนี้
ครอบครัวของลดาเป็นที่รักใคร่ของคนในหมู่บ้าน ด้วยความมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และฐานะทางเศรษฐกิจที่ดีกว่าหลายๆ ครอบครัวในละแวกนั้น คุณพ่อของเขามีธุรกิจค้าขายของป่าที่เจริญก้าวหน้า ทำให้ความเป็นอยู่ของครอบครัวสุขสบาย ไม่ขัดสน มินตราเองก็ชื่นชมในความอบอุ่นและความสามัคคีของครอบครัวลดาอยู่เสมอ
แต่ในความสุขสงบนั้น กลับมีเงาแห่งความอิจฉาริษยาซ่อนเร้นอยู่ สันต์ ลูกพี่ลูกน้องของลดา ที่มีศักดิ์เป็นหลานชายของป้าสะใภ้ มักจะแสดงความไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด ทุกครั้งที่เห็นลดาได้รับการชื่นชม หรือเมื่อเปรียบเทียบฐานะทางครอบครัว สันต์จะเก็บงำความขุ่นเคืองไว้ในใจ
คืนนี้ก็เช่นกัน สันต์ยืนซุ่มอยู่ในเงามืดของต้นไม้ใหญ่ มองไปยังลดาที่กำลังเดินไปยังลานพิธีกับมินตราด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความริษยา ความสำเร็จและความสุขของลดาเปรียบเสมือนหนามแหลมที่ทิ่มแทงหัวใจของเขาอยู่ตลอดเวลา เขาเชื่อว่าลดาได้รับการเอาอกเอาใจและมีชีวิตที่ดีกว่าเพียงเพราะโชคช่วย และความอิจฉานี้เองที่บ่มเพาะความคิดอันดำมืดในจิตใจของสันต์
ลานพิธีถูกประดับประดาไปด้วยแสงไฟหลากสี ธูปเทียนส่งกลิ่นหอมอบอวล เสียงดนตรีพื้นเมืองบรรเลงอย่างไพเราะ นักรำในชุดสวยงามทยอยกันออกมาตั้งแถวเตรียมพร้อมสำหรับการแสดง ลดาอยู่ในตำแหน่งแถวหน้า ข้างๆ เขาคือมินตราที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยในการร่ายรำ ด้วยหัวใจที่เต้นระรัวด้วยความตื่นเต้นและศักดิ์สิทธิ์
เมื่อเสียงสัญญาณดังขึ้น การร่ายรำก็เริ่มต้นขึ้น ท่วงท่าที่อ่อนช้อย งดงาม ราวกับเทพธิดาที่ลงมาจากสรวงสวรรค์ ลดาเคลื่อนไหวไปตามจังหวะดนตรีอย่างพริ้วไหว สร้อยข้อมือเงินลายดอกพิกุลกระทบกันเบาๆ เป็นจังหวะ ดวงตากลมโตจับจ้องไปยังแท่นบูชาด้วยความศรัทธา รอยยิ้มหวานประดับอยู่บนใบหน้าใส ทำให้ผู้ที่ได้ชมต่างรู้สึกเคลิบเคลิ้มและอิ่มเอมใจ มินตราเองก็ร่ายรำได้อย่างงดงามไม่แพ้กัน ทั้งสองหนุ่มสาวประสานท่วงท่ากันได้อย่างลงตัว
ในขณะที่การร่ายรำดำเนินไปอย่างราบรื่น สันต์ที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดก็เริ่มกระทำการบางอย่าง เขาหยิบเครื่องรางเล็กๆ ที่พันด้วยด้ายสีดำออกมาจากย่าม พึมพำบทสวดที่ฟังดูน่าขนลุก ดวงตาของเขาจ้องเขม็งไปยังร่างของลดาที่กำลังร่ายรำอยู่กลางลานพิธี ด้วยจิตใจที่เต็มไปด้วยความอิจฉาและความมุ่งร้าย เขาตั้งใจที่จะทำลายความสุขและความภาคภูมิใจของลดาให้ย่อยยับ
พลังงานดำมืดค่อยๆ ก่อตัวขึ้นรอบตัวของสันต์ ก่อนจะพุ่งตรงไปยังร่างของลดาอย่างเงียบเชียบ ราวกับงูร้ายที่ฉกกัดเหยื่อโดยไม่ทันตั้งตัว
ทันใดนั้นเอง ขณะที่ลดาหมุนตัวจบการรำในช่วงหนึ่ง เขาก็รู้สึกเหมือนมีเข็มเล็กๆ นับร้อยเล่มทิ่มแทงเข้ามาที่กลางหลัง ความรู้สึกชาเริ่มลามไปทั่วร่างกาย ขาทั้งสองข้างอ่อนแรงจนแทบยืนไม่อยู่ ใบหน้าหวานเริ่มซีดเผือด เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นตามไรผม ดวงตากลมโตเริ่มสั่นระริก ภาพทุกอย่างรอบตัวเริ่มพร่าเลือน ความเจ็บปวดราวกับมีใครเอามีดมากรีดแทงแผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย
เสียงตกใจของผู้เป็นแม่ที่ยืนชมอยู่ด้านหน้าดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงันของการแสดงที่หยุดชะงัก นักรำคนอื่นๆ ต่างหยุดชะงักและหันมามองด้วยความตกใจ มินตราเองก็รีบประคองลดาด้วยความเป็นห่วง
ก่อนที่ใครจะทันได้เข้าช่วยเหลือ ร่างของลดาก็โอนเอนและทรุดลงกับพื้นอย่างหมดแรง ความวุ่นวายเกิดขึ้นทันที ผู้คนต่างแตกตื่นและเข้ามามุงดูด้วยความเป็นห่วง มินตราร้องเรียกชื่อลดาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
ท่ามกลางความอลหม่าน ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มผิวสีแทนในชุดผ้าไหมสีน้ำเงินเข้มก็ก้าวเข้ามาในวงล้อมของผู้คน ดวงตาคมกริบของเขาจับจ้องไปยังร่างที่นอนหมดสติอยู่บนพื้นด้วยความกังวล คิม อัลฟ่าหนุ่มเจ้าของที่ดินผืนใหญ่ไพศาลและยังเป็นพ่อหมอไสยศาสตร์ขาวผู้มีชื่อเสียงของจังหวัด สัมผัสได้ถึงพลังงานด้านมืดที่ผิดปกติซึ่งปกคลุมร่างของลดา
คิ้วเข้มของคิมขมวดมุ่นอย่างไม่พอใจเมื่อสัมผัสได้ถึงร่องรอยของมนต์ดำ เขาไม่รอช้าที่จะคุกเข่าลงข้างๆ ร่างของลดา มือแกร่งแตะลงบนข้อมือเล็กอย่างเบามือ เพื่อตรวจดูอาการและพลังงานที่แฝงอยู่
เสียงทุ้มต่ำของคิมดังขึ้นอย่างหนักแน่น ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเขากวาดมองไปยังกลุ่มคนที่ยืนอยู่ ก่อนจะหยุดอยู่ที่ร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนหลบอยู่ด้านหลังด้วยท่าทางมีพิรุธ เหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายบนใบหน้าซีดเซียวของสันต์อย่างเห็นได้ชัด
น้ำเสียงของคิมราบเรียบแต่แฝงไปด้วยอำนาจ ทำให้สันต์สะดุ้งโหยงและหน้าซีดเผือดยิ่งกว่าเดิม
คิม
มีคนเล่นของใส่เด็กคนนี้
คิมตอบสั้นๆ โดยไม่ละสายตาจากสันต์
ความเงียบปกคลุมไปทั่วลานพิธี ทุกสายตาจับจ้องไปยังสันต์ที่ยืนตัวสั่นเทาอยู่ในเงามืด ไม่มีใครคาดคิดว่าเรื่องร้ายเช่นนี้จะเกิดขึ้นในพิธีอันศักดิ์สิทธิ์
คิมอุ้มร่างของลดาขึ้นมาอย่างนุ่มนวล ท่าทางทะมัดทะแมงแต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยน สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่ได้เห็น มินตรามองตามลดาด้วยความเป็นห่วงอย่างยิ่ง ภาคินเดินเข้ามาใกล้ มองดูลดาด้วยความสงสาร
ภาคิน
ให้ฉันช่วยอะไรมั้ยคิม
คิม
เตรียมรถ ฉันจะพาเขาไปรักษาที่บ้าน
คิมตอบกลับเสียงเข้ม ก่อนจะหันไปสั่งคนใกล้ชิดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
คิม
จัดการเรื่องที่นี้ด้วย อย่าให้ใครหนีไปได้
แล้วร่างสูงสง่าของคิมก็เดินฝ่าวงล้อมของผู้คนที่แตกตื่น อุ้มร่างของโอเมก้าหนุ่มที่หมดสติจากไป โดยมีมินตราเดินตามไปด้วยด้วยความเป็นห่วงอย่างยิ่ง เดชามองตามหลังน้องชายด้วยความกังวล ก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับบรรยากาศที่ตึงเครียดในลานพิธี... คืนที่มนต์ดำได้แผลงฤทธิ์ และเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่คาดไม่ถึงระหว่างพ่อหมอหนุ่มกับโอเมก้าหน้าหวานผู้เคราะห์ร้าย โดยมีเงาของความอิจฉาริษยาคืบคลานเข้ามาใกล้...
ตอนที่ 2: ไออุ่นเรือนพ่อหมอและการตื่นของมนต์ดำ
คิมอุ้มร่างของลดาที่หมดสติเข้าไปในรถยนต์หรูสีดำสนิทที่จอดรออยู่ไม่ไกลนัก มินตรรีบตามขึ้นมานั่งข้างๆ ด้วยความเป็นห่วง ใบหน้าสวยหวานของเธอเต็มไปด้วยความกังวล มองลดานิ่งด้วยดวงตาแดงก่ำ
มินตรา
ไม่เป็นไรนะลดา แกต้องไม่เป็นอะไร
มินตราพึมพำเสียงแผ่ว เอื้อมมือไปลูบศีรษะเพื่อนเบาๆ
คิมขับรถด้วยความเร็วแต่ก็ยังคงความนุ่มนวล เขาเหลือบมองลดาสลับกับมองถนนเป็นระยะ สัมผัสได้ถึงพลังงานดำมืดที่ยังคงวนเวียนอยู่ในร่างกายของโอเมก้าหนุ่ม มันเป็นพลังงานที่สกปรกและร้ายกาจ ผิดกับพลังงานบริสุทธิ์ที่เขาสัมผัสได้จากตัวลดาในตอนแรก
รถยนต์แล่นเข้าไปในเขตไร่องุ่นกว้างสุดลูกหูลูกตา แสงไฟจากตัวบ้านหลังใหญ่ส่องสว่างออกมาต้อนรับ บ้านไม้สักทองสองชั้นถูกออกแบบอย่างสวยงาม ผสมผสานความเป็นไทยดั้งเดิมเข้ากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว รอบบริเวณบ้านเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่และสวนดอกไม้ที่จัดแต่งอย่างพิถีพิถัน
เมื่อรถจอดสนิท ภาคิน พี่ชายของคิมที่ยืนรออยู่หน้าบ้านด้วยสีหน้าเคร่งเครียดก็รีบเดินเข้ามาเปิดประตูให้ ภาคินมีรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวสะอาด ดวงตาคมแต่ดูอ่อนโยนกว่าน้องชายอย่างเห็นได้ชัด เขามองลดาทีอยู่ในอ้อมแขนของคิมด้วยความเป็นห่วง
ภาคิน
เกิดอะไรขึ้น ทำไมเด็กคนนี้ถึง..
คิมตอบสั้นๆ ก่อนจะอุ้มลดาเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว
ภายในห้องนอนที่ถูกจัดเตรียมไว้อย่างดี คิมวางลดาลงบนเตียงอย่างเบามือ มินตราเดินตามเข้ามาด้วยความเป็นห่วงไม่ห่าง ภาคินเองก็เดินตามเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
คิม
พลังงานดำมืดแรงกว่าที่คิด
คิม
ต้องรีบถอนออกก่อนที่จะลุกลาม
เขาหยิบเครื่องรางต่างๆ ออกมาจากย่าม ทั้งน้ำมนต์ เทียนขี้ผึ้ง และสมุนไพรต่างๆ เริ่มทำพิธีถอนคุณไสยด้วยความตั้งใจ มินตรานั่งมองด้วยใจจดจ่อ ภาวนาให้เพื่อนของเธอปลอดภัย ภาคินยืนสังเกตการณ์อยู่เงียบๆ คอยช่วยเหลือเท่าที่จำเป็น
เวลาผ่านไปเนิ่นนาน แสงจันทร์เริ่มสาดส่องเข้ามาในห้อง พิธีกรรมของคิมดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในที่สุด ร่างของลดาก็เริ่มกระตุกเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างอ่อนแรง
มินตรรีบเข้าไปประคองเพื่อนด้วยความดีใจ
ลดาขยับตัวเล็กน้อย มองไปรอบๆ ห้องด้วยความสับสน ก่อนที่สายตาจะหยุดอยู่ที่ใบหน้าคมเข้มของคิมที่กำลังมองเขาอยู่ด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก
คิม
เธอโดนเล่นของใส่ฉันเลยช่วยไว้
ลดาพยายามประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความทรงจำสุดท้ายของเขาคือความเจ็บปวดที่แสนสาหัสกลางพิธีรำบวงสรวง
คิม
แต่เรื่องยังไม่จบ คนที่ทำร้ายเธอต้องรับผิดชอบ
ทันใดนั้นเอง ร่างของลดาก็เริ่มสั่นเทาอีกครั้ง ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความเจ็บปวด มินตรรีบเข้าไปกอดเพื่อนแน่น
มินตรา
ลดา! เป็นอะไรไปอีก!
คิม
มนต์ดำนั้นมันฝังลึกกว่าที่คิด
คิม
ดูเหมือนว่ามันจะเริ่มออกฤทธิ์อีกครั้ง
ภาคิน
แล้วเราจะทำยังไงดีคิม
คิม
ต้องหาวิธีถอนรากถอนโคนมันให้ได้
คิม
แต่ตอนนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องทำให้เขาสงบลงก่อน
คิมเริ่มร่ายมนต์อีกครั้ง มือแกร่งลูบศีรษะของลดาเบาๆ พร้อมกับเป่าลมที่มีพลังเวทย์ลงไป มินตราเองก็ช่วยลูบแขนลูบขาเพื่อนอย่างปลอบประโลน
ค่อยๆ อาการเจ็บปวดของลดาก็เริ่มทุเลาลง ร่างกายที่สั่นเทาเริ่มสงบลงอีกครั้ง แต่ดวงตากลมโตยังคงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
มินตรา
ไม่ต้องกลัวนะลดา ฉันจะดูแลแกเอง
มินตรากระซิบข้างหูเพื่อนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
คิมมองลดาสลับกับมองมินตรา แววตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือโอเมก้าหนุ่มผู้น่าสงสารคนนี้ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมใครถึงใจร้ายทำร้ายคนที่มีแต่ความสดใสและจริงใจเช่นลดาได้
คิม
พรุ่งนี้เช้าฉันจะดูอาการเธออีกที
ลดาพยักหน้าอย่างอ่อนแรง ก่อนจะค่อยๆ หลับตาลงด้วยความอ่อนเพลีย มินตรานั่งเฝ้าเพื่อนอยู่ข้างเตียงไม่ห่าง
คิมและภาคินเดินออกมาจากห้องนอนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ทั้งสองไปยังห้องทำงานของคิมที่เต็มไปด้วยตำราและเครื่องรางต่างๆ
ภาคิน
มึงคิดว่าใครเป็นคนทำ
คิม
ตอนที่กูไปถึงลานพิธี กูเห็นเขามีท่าทางมีพิรุธ และพลังงานดำมืดที่อยู่ในตัวลดาก็มาจากทิศทางที่เขายืนอยู่
ภาคิน
แต่ทำไมสันต์ต้องทำร้ายลดาด้วย
คิม
กูสังเกตเห็นสายตาของมันที่มองลดานานแล้ว มันไม่พอใจที่ครอบครัวลดามีฐานะดีกว่า และได้รับความรักใคร่จากคนในหมู่บ้านมากกว่า
คิม
กูจะจัดการเรื่องนี้เอง
คิม
ใครที่กล้าแตะต้องคนของกู.....
เขาหยุดชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อ
คิม
คนที่ฉันต้องดูแล จะต้องได้รับผลกรรม
ค่ำคืนนั้นผ่านไปอย่างเงียบเชียบ ภายในห้องนอน ลดานอนหลับอย่างไม่สนิทนัก ภาพของความเจ็บปวดและความหวาดกลัวยังคงวนเวียนอยู่ในความฝัน มินตรานั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียง คอยจับมือเพื่อนเบาๆ เป็นกำลังใจ
ในขณะที่เรือนพ่อหมอ คิมนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงาน แสงตะเกียงส่องสว่างใบหน้าคมเข้มของเขา เขาจ้องมองไปยังเครื่องรางในมือด้วยความคิดที่ซับซ้อน ความรู้สึกบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของเขา ความรู้สึกที่มากกว่าความสงสารและความรับผิดชอบ... ความรู้สึกที่เขาเองก็ยังไม่แน่ใจนัก
รุ่งเช้า แสงอาทิตย์อ่อนๆ สาดส่องเข้ามาในห้องนอน ลดาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ความรู้สึกเจ็บปวดเมื่อคืนทุเลาลงไปมาก แต่ร่างกายยังคงอ่อนเพลีย มินตราที่หลับอยู่ข้างเตียงรีบลืมตาตื่นเมื่อรู้สึกตัวว่าเพื่อนขยับ
มินตรา
ลดา! ตื่นแล้วหรอ เป็นไงบ้าง?
ลดา
ดีขึ้นมากแล้วแหละ ขอบคุณที่เป็นห่วงนะ☺️
คิม
ตื่นแล้วหรอ ทานอะไรรองท้องหน่อยนะ
คิมวางถาดอาหารลงบนโต๊ะข้างเตียง อาหารเช้าเป็นข้าวต้มร้อนๆ และผลไม้สด
ลดามองคิมด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งขอบคุณ เกรงใจ และความรู้สึกแปลกประหลาดบางอย่างที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน
คิมเพียงแค่พยักหน้ารับ ก่อนจะหันไปพูดกับมินตรา
คิม
เดี๋ยวฉันจะตรวจอาการลดาอีกที
คิม
เธอไปทานข้าวเช้าก่อนก็ได้นะ
มินตรรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่แปลกประหลาดระหว่างเพื่อนของเธอกับพ่อหมอหนุ่ม แต่เธอก็พยักหน้าและเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ ทิ้งให้ลดาอยู่กับคิมตามลำพัง... ในเรือนพ่อหมอที่อบอวลไปด้วยไออุ่นและความลึกลับของไสยศาสตร์
ตอนที่ 3: การเยียวยาและการเผชิญหน้า
คิมนั่งลงข้างเตียง มองลดาทีค่อยๆ ทานข้าวต้มอย่างเงียบๆ ใบหน้าคมเข้มของเขาดูผ่อนคลายลงเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าอาการของโอเมก้าหนุ่มดีขึ้น
คิม
เมื่อคืนนอนหลับสบายมั้ย
ลดา
ครับ ดีขึ้นมากเลย ขอบคุณ
คุณคิมมากนะครับ
คิม
ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณหรอก เรียกคิมเฉยๆก็ได้
คิมบอกด้วยรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปาก รอยยิ้มนั้นทำให้ใบหน้าดุดันของเขาดูอ่อนโยนขึ้นอย่างน่าประหลาด
ลดาหน้าแดงเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย
หลังจากที่ลดาทานอาหารเช้าเสร็จ คิมก็เริ่มตรวจอาการของเขาอย่างละเอียดอีกครั้ง เขาใช้มือสัมผัสตามร่างกายของลดาอย่างเบามือ พร้อมกับร่ายมนต์เบาๆ เพื่อตรวจสอบพลังงานที่ยังคงตกค้างอยู่
คิม
พลังงานดำมืดเริ่มอ่อนกำลังลงมากแล้ว
คิม
แต่ยังไม่หมดไปทีเดียว ต้องทำการรักษาต่อเนื่องอีกสักพัก
ลดา
แล้วผมจะหายเป็นปกติใช่มั้ยครับ
คิม
ฉันจะดูแลเธอจนกว่าจะหายดี
ระหว่างนั้น มินตราก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับแก้วน้ำสมุนไพร
มินตรา
มันจะทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้น
มินตรายื่นแก้วน้ำให้เพื่อนด้วยความเป็นห่วง
ลดารับแก้วมาดื่มช้าๆ รสชาติขมเล็กน้อยแต่ก็รู้สึกสดชื่นขึ้นจริงๆ
มินตรา
ดีใจที่แกดีขึ้นแล้ว
หลังจากนั้น คิมก็อธิบายถึงกระบวนการรักษาที่จะต้องทำต่อไปให้ลดาฟังอย่างละเอียด เขาบอกว่าต้องมีการทำพิธีเพิ่มเติมและการใช้สมุนไพรต่างๆ เพื่อขับไล่พลังงานดำมืดออกจากร่างกายให้หมดสิ้น ลดาฟังอย่างตั้งใจและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
ตลอดทั้งวัน คิมดูแลลดาอย่างใกล้ชิด ภาคินเองก็เข้ามาเยี่ยมเยียนและพูดคุยกับลดาด้วยความเป็นมิตร ทำให้ลดาค่อยๆ คลายความกังวลและรู้สึกอบอุ่นใจมากขึ้น มินตราก็อยู่เคียงข้างลดาเสมอ คอยดูแลและให้กำลังใจเพื่อนไม่ห่าง
ตกเย็น คิมตัดสินใจที่จะเผชิญหน้ากับสันต์ เขาบอกให้ภาคินดูแลลดาที่บ้าน ส่วนตัวเขาจะไปยังบ้านของป้าสะใภ้เพื่อพูดคุยกับสันต์ให้รู้เรื่อง
เมื่อคิมมาถึงบ้านของป้าสะใภ้ บรรยากาศภายในบ้านดูเงียบเหงาและตึงเครียด ป้าสะใภ้มีสีหน้ากังวลเมื่อเห็นคิม
ป้าสะใภ้เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
คิมตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความหนักแน่น
สันต์ที่นั่งหลบอยู่ในมุมหนึ่งของบ้านถึงกับหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นคิม
คิมถามตรงๆ ดวงตาคมกริบจ้องมองสันต์อย่างไม่ละสายตา
สันต์พยายามหลบสายตาและปฏิเสธเสียงสั่น
คิม
กูสัมผัสได้ถึงพลังงานดำมืดที่มึงปล่อยออกมาในพิธีเมื่อคืน
ป้าสะใภ้มองหน้าลูกชายด้วยความตกใจและผิดหวัง
กวาง
สันต์...แกทำแบบนั้นจริงๆหรอ
สันต์ถึงกับน้ำตาคลอเบ้า เขารู้สึกจนมุมและไม่สามารถปฏิเสธได้อีกต่อไป
สันต์
ผมแค่อิจฉาลดา ผมแค่อยากให้เขาอับอายบ้าง
คิม
ความอิจฉาริษยาทำให้มึงทำเรื่องที่ต่ำทรามขนาดนี้ได้ยังไง
คิม
มึงรู้ไหมว่าสิ่งที่แกทำมันอันตรายแค่ไหน มันอาจจะทำให้ลดาถึงตายได้
สันต์ก้มหน้าสำนึกผิด ป้าสะใภ้เองก็ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ
กวาง
ป้าขอโทษแทนลูกป้าด้วยนะคิม
กวาง
ป้าไม่รู้ว่าเขาจะทำเรื่องแบบนี้
คิม
การขอโทษมันไม่พอหรอกป้า
คิม
สิ่งที่สันต์ทำมันผิดมาก เขาควรได้รับการลงโทษ
คิมตัดสินใจที่จะนำตัวสันต์ไปทำพิธีขอขมาต่อพญาศรีสุทโธนาคราช และให้สันต์บำเพ็ญตนเพื่อชดใช้ความผิด นอกจากนี้ เขายังสั่งให้สันต์มาดูแลลดาที่บ้านของเขาเป็นการส่วนตัว เพื่อให้สันต์ได้เห็นผลของการกระทำของตัวเองอย่างใกล้ชิด
เมื่อกลับมาถึงบ้าน คิมก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ลดาและภาคินฟัง ทั้งสองต่างตกใจและไม่พอใจกับการกระทำของสันต์ แต่ก็เห็นด้วยกับการตัดสินใจของคิม
วันต่อมา สันต์มาที่บ้านของคิมด้วยใบหน้าที่เศร้าสร้อย เขาขอโทษลดาด้วยความสำนึกผิดอย่างแท้จริง ลดาถึงแม้จะยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง แต่ด้วยจิตใจที่อ่อนโยนและมีเมตตา เขาก็ยอมให้อภัยสันต์
การที่สันต์ต้องมาดูแลลดาอย่างใกล้ชิด ทำให้ทั้งสองได้มีโอกาสพูดคุยและทำความเข้าใจกันมากขึ้น สันต์ได้เห็นถึงความดีและความจริงใจของลดา และเริ่มรู้สึกละอายใจกับการกระทำของตัวเอง ในขณะที่ลดาเองก็เริ่มเห็นใจในความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจของสันต์
ความใกล้ชิดในการดูแลรักษาและการเผชิญหน้ากับความรู้สึกผิด ทำให้บรรยากาศระหว่างคิมและลดามีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างละเอียดอ่อน คิมยังคงดูแลลดาด้วยความเอาใจใส่ แต่แววตาที่เขามองลดานั้นเริ่มมีความอ่อนโยนและห่วงใยที่มากขึ้นกว่าเดิม
ลดาเองก็รู้สึกถึงความอบอุ่นและความแข็งแกร่งที่แผ่ออกมาจากตัวคิม ทุกครั้งที่คิมอยู่ใกล้ๆ เขารู้สึกปลอดภัยและสบายใจอย่างประหลาด รอยยิ้มหวานของคิมที่มอบให้เขาในบางครั้งก็ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้
ความรู้สึกดีๆ ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในใจของทั้งสองอย่างเงียบๆ ท่ามกลางการเยียวยาบาดแผลทางร่างกายและจิตใจ และการเผชิญหน้ากับผลของการกระทำที่เกิดจากความอิจฉาริษยา... ความรักที่ไม่ทันตั้งตัวกำลังจะผลิบานในเรือนพ่อหมอแห่งนี้
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!