เสียงฝนพรำเบา ๆ ขับกล่อมไปกับจังหวะการเคลื่อนไหวของรถตู้ที่กำลังวิ่งผ่านถนนคดเคี้ยวขึ้นเขา
“ขวัญ” หญิงสาวร่างบางในชุดคลุมโค้ตสีเทาเรียบ นั่งพิงกระจก มองสายฝนไหลผ่านบานหน้าต่างอย่างใจลอย
เธอถอนหายใจเป็นรอบที่สิบในรอบครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา
ใครบางคนบอกว่า "ความเงียบจะช่วยให้เราได้ยินเสียงของตัวเองชัดขึ้น"
แต่สำหรับขวัญ... ความเงียบที่เธอเลือก กลับยิ่งทำให้เสียงในใจดังจนน่าปวดหัว
“ถึงแล้วจ้ะ โฮมสเตย์คุณตะวัน” เสียงคนขับรถเอ่ยเรียก ขวัญพยักหน้าเบา ๆ ก่อนจะหยิบกระเป๋าเดินลงจากรถ
เธอก้าวลงมายืนท่ามกลางสายฝนพรำ กลิ่นดินเปียกโชยมาตามลม ความเย็นซ่านผ่านผิวกาย
ขวัญเงยหน้าขึ้นมองป้ายไม้เล็ก ๆ ที่เขียนว่า “แสงตะวัน โฮมสเตย์”
“สวัสดีค่ะ! มาถึงจนได้นะคะ คิดว่าจะหลงทางเสียแล้ว”
เสียงสดใสของใครบางคนดังขึ้นมาพร้อมกับร่มสีเหลืองสดที่ค่อย ๆ กางมาคลุมเธอไว้
ขวัญหันไปตามเสียง ก่อนจะได้เห็นหญิงสาวคนหนึ่งในเสื้อยืดผ้าฝ้ายลายดอก ยิ้มตาหยีอย่างเป็นกันเอง
“คุณขวัญใช่ไหมคะ? ฉันตะวันค่ะ เจ้าของที่นี่ ยินดีต้อนรับนะคะ”
เธอเอ่ยพลางยื่นมือมารับกระเป๋าจากขวัญอย่างไม่รอให้ปฏิเสธ
ขวัญพยักหน้า “ค่ะ... ยินดีที่ได้รู้จัก” เสียงของเธอเบาและเรียบ
แต่ตะวันก็ยังยิ้มเหมือนรับรู้ว่าเบื้องหลังความเรียบนั้นอาจมีเรื่องราวมากมายซ่อนอยู่
---
บ้านไม้หลังเล็กกลางสวนกาแฟเปิดประตูรับขวัญเข้าไปสู่โลกที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน
กลิ่นไม้แห้งผสมกลิ่นกาแฟหอมจาง ๆ ลอยคลุ้ง ขวัญเดินสำรวจรอบ ๆ อย่างเงียบงัน
กระทั่งได้ยินเสียงตะวันพูดขึ้นอีกครั้ง
“ช่วงนี้ฝนตกแทบทุกวันเลยค่ะ แต่ดีหน่อยตรงที่อากาศเย็นสบาย คุณจะได้นอนหลับสนิทแน่นอน”
“ฝนก็ดีค่ะ” ขวัญตอบเพียงสั้น ๆ ก่อนจะเดินไปนั่งตรงเก้าอี้ไม้ใกล้หน้าต่าง
ตะวันมองเธอแล้วอมยิ้มเล็กน้อย เธอไม่ใช่คนที่จะเข้าไปล้วงความรู้สึกของใครทันที
แต่บางอย่างในแววตาของผู้หญิงคนนี้... ทำให้ตะวันรู้ว่า อีก 21 วันต่อจากนี้คงไม่ธรรมดา
---
ฝนยังคงตก...
แต่ใครบางคนเพิ่งได้เจอ "แสงแดดดวงใหม่" ในชีวิต
และชื่อคนที่ว่าก็ไม่สบายใจเอาซะเลย
เสียงฝนโปรยลงบนหลังคาตึกเก่าเสียงดังเปาะแปะ ขณะที่ตะวันลากกระเป๋าผ้าที่เปียกโชกจนสีเข้มขึ้นมาเกือบสองเฉดเดินเข้ามาในห้องพักใหม่ของตัวเอง ซึ่งดูไม่ใหม่เลยสักนิด
“เฮ้อ…ทำไมฉันต้องมาอยู่ห้องนี้ด้วยนะ…” เขาพึมพำกับตัวเองขณะปิดประตูลง
ห้องกว้างพอประมาณแต่ตกแต่งน้อยมาก ข้าวของทุกอย่างวางอย่างเรียบง่าย ราวกับเจ้าของห้องไม่ได้ต้องการให้มันอบอุ่นหรือรู้สึกว่าเป็น "บ้าน" เลยแม้แต่น้อย
ชายหนุ่มอีกคนที่อยู่ในห้องหันมามองเขาแวบหนึ่ง ขวัญ—ชายผู้พูดน้อยราวกับกลัวว่าคำพูดจะทำลายสมดุลของโลกไป
“ขอโทษนะครับพี่…” ตะวันพูดเสียงเบาเมื่อเห็นอีกคนไม่พูดอะไร “คือ…ฉันเป็นรูมเมตใหม่ ชื่อ ตะวัน ครับ”
“ขวัญ” เสียงตอบเบา ราบเรียบ ไม่แม้แต่จะหันหน้ามามองอีกฝ่าย
“…อืม พี่ชื่อขวัญเหรอครับ?”
“อืม”
ตะวันยิ้มเจื่อน ๆ พยายามไม่ให้อาการกระอักกระอ่วนแสดงออกจนเกินไป เขาเดินไปวางของลงอย่างเบามือที่สุด กลัวว่าจะรบกวนคนที่ดูเหมือนไม่ชอบเสียงพูดแม้แต่น้อย
ในตอนแรก เขาคิดว่าขวัญเป็นเพียงคนเงียบ ๆ แต่พออยู่ไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มเข้าใจว่าขวัญไม่ใช่แค่เงียบ…แต่คือ “นิ่ง”
นิ่งจนตะวันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังอยู่กับผนังห้องมากกว่ามนุษย์คนหนึ่ง
ผ่านไปสามวัน ขวัญยังคงนิ่งอยู่เหมือนเดิม ตะวันเริ่มพูดกับตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะถ้าไม่ทำแบบนั้น เขาคงคลั่งไปก่อน
“วันนี้ฝนตกอีกแล้วเนอะ…น่าเบื่อจัง”
“ซื้อขนมมาฝากพี่ขวัญด้วยนะ ไม่รู้ชอบมั้ย”
“ตอนเย็นมีซีรีส์เรื่องใหม่ออกด้วย สนใจดูด้วยกันมั้ยครับ?”
คำตอบทั้งหมดคือ “…”
หรือไม่ก็ “อืม”
หรือบางวันขวัญไม่แม้แต่จะมองหน้าตะวัน
แต่ถึงอย่างนั้นตะวันก็ยังยิ้มทุกวัน
—
ค่ำวันหนึ่ง ขวัญนั่งอ่านหนังสือที่ดูเหมือนจะเก่าเก็บมานาน ตะวันนั่งบนพื้นห้อง หัวพิงขอบเตียงเพราะไม่กล้านั่งบนเตียงอีกฝ่าย เขาหยิบโน้ตบุ๊กขึ้นมาเปิดดูอะไรสักอย่าง
เสียงฝนข้างนอกดังอีกครั้ง แล้วทันใดนั้น ไฟก็ดับพรึ่บ
“เหวอ!” ตะวันร้องเสียงหลง โน้ตบุ๊กดับไปพร้อมกับแสงไฟ
ขวัญยังนั่งนิ่ง
“พี่ขวัญ ไฟดับอะ!”
“…เห็น”
“เอ่อ เรามีเทียนหรือไฟฉายมั้ยอะครับ?”
“ลิ้นชัก”
ตะวันรีบคลำหาไปในความมืด ก่อนจะเจอไฟฉายเล่มเล็ก แล้วเปิดมันขึ้น แสงสีเหลืองอ่อนส่องทั่วห้องเล็ก ๆ ขวัญยังคงนั่งอยู่ในท่าเดิม ดวงตานิ่งสงบในความมืด
“พี่ไม่กลัวเหรอครับ?”
“…กลัวอะไร”
“ก็แบบ…ฝนตก ไฟดับ อยู่กับคนแปลกหน้าอะไรเงี้ย”
ขวัญเหลือบตามองเล็กน้อยก่อนตอบสั้น ๆ
“ไม่แปลก”
“หืม?”
“นายเสียงดังเกินกว่าจะเป็นคนแปลกหน้า”
“…”
ตะวันหัวเราะออกมาเบา ๆ เขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้หมายความว่า "สนิท" แต่ก็นับว่าเป็นคำพูดที่ยาวที่สุดที่ขวัญเคยพูดกับเขา
“ขอบคุณนะครับ…ที่พอจะฟังกันบ้าง”
ขวัญไม่ตอบอะไรอีก เขาแค่เอนตัวพิงผนัง สายตายังจ้องออกไปนอกหน้าต่าง ดูฝนที่ตกไม่หยุด
—
หลังจากวันนั้น ตะวันก็สังเกตว่าขวัญเริ่ม “มองเขา” มากขึ้นเล็กน้อย แค่เล็กน้อย
เช่น เวลาเขาวางของเสียงดังไปนิด จะโดนเหล่มา
หรือเวลาเขาร้องเพลงตอนล้างจาน เสียงจะเบาลงเพราะขวัญเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือแป๊บเดียว
แต่สิ่งที่แปลกไปจริง ๆ คือ…
ตะวันเริ่มรู้สึกว่าความเงียบของขวัญ ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นอีกแล้ว
กลับกัน มันกลายเป็นเหมือนสนามแม่เหล็กประหลาด ที่ดึงเขาให้เข้าใกล้ขึ้นทีละนิด โดยที่เขาไม่รู้ตัวเลย
และเมื่อคืนนี้เขาบังเอิญเห็นขวัญยืนรดน้ำต้นไม้เล็ก ๆ ที่มุมห้อง—มันคือต้นเดียวในห้องที่มีชีวิต ตะวันก็เริ่มเข้าใจแล้วว่า…
บางที ขวัญ อาจไม่ได้เย็นชาเสมอไป
แค่คนอื่น…ยังไม่ถึงเวลา ที่จะได้เห็นความอบอุ่นนั้น
—
บ่ายวันนั้น แดดไม่ได้แรงจนเกินไป แต่ตะวันกลับรู้สึกอึดอัดอย่างประหลาด ไม่ใช่เพราะอากาศ แต่น่าจะเป็นเพราะ “ระยะห่าง” บางอย่างระหว่างเธอกับขวัญ
หลังเลิกเรียน เธอตัดสินใจเดินไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีจุดหมาย แค่บังเอิญไปเจอขวัญที่นั่งอยู่ตรงม้านั่งใต้ต้นพิกุลเงียบ ๆ คนเดียว
เหมือนขวัญจะรู้ว่ามีคนเดินมาใกล้ แต่ก็ไม่ได้หันไปมอง
เธอแค่นั่งเงียบ ๆ มือยังถือหนังสือเล่มเดิมที่ดูจะเป็นเพื่อนแท้มากกว่ามนุษย์เสียอีก
“เธออยู่คนเดียวเหรอ” ตะวันถาม น้ำเสียงพยายามทำให้เบาเท่าที่ทำได้
ขวัญเหลือบตามองเพียงครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้าเบา ๆ
“…อือ”
แค่นั้น ตะวันก็รู้สึกเหมือนได้รับอนุญาตให้ยืนอยู่ตรงนี้ต่อ
“เรา...ขอนั่งด้วยได้มั้ย” ตะวันยังถาม แม้จะยังไม่แน่ใจในคำตอบนัก
ขวัญขยับตัวเล็กน้อย แล้วพูดสั้น ๆ
“ที่ว่าง”
เธอไม่ได้บอกว่า "เชิญ" หรือ "ได้นะ"
เธอแค่บอกว่า "ที่ว่าง"
แต่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับตะวัน
สองคนที่ดูเหมือนอยู่คนละโลก นั่งอยู่ข้างกัน ใต้ต้นพิกุลที่เงียบสงบ ลมพัดเบา ๆ ใบไม้ปลิวลงมาตามจังหวะของธรรมชาติ เสียงนกร้องบ้างประปราย แต่ไม่มีเสียงบทสนทนาใด ๆ จากทั้งคู่
นานทีเดียว...ก่อนที่ตะวันจะกล้าพูดขึ้นอีกครั้ง
“เธอชอบอยู่เงียบ ๆ แบบนี้เหรอ”
ขวัญไม่ตอบทันที เธอพลิกหน้าหนังสืออีกหน้าหนึ่ง แล้วพูดเบา ๆ
“ชอบอ่าน...คนเยอะแล้วเสียงดัง มันรำคาญ”
“อ๋อ...เราเสียงดังสินะ”
ขวัญไม่ได้ตอบ แต่ตะวันเห็นว่าอีกฝ่ายเม้มปากนิดหนึ่งเหมือนจะกลั้นยิ้ม
เธอไม่รู้ว่าตัวเองคิดไปเองรึเปล่า แต่ก็เลือกจะคิดแบบนั้น เพราะมันทำให้ใจเธอเต้นแรงขึ้นเล็กน้อย
“แต่เธอก็ยังนั่งกับเราอยู่นะ”
ขวัญหลุบตาลง
“…ก็ไม่ได้ไล่”
“เราดีใจนะที่เธอไม่ไล่” ตะวันหัวเราะเบา ๆ “เธอเป็นคนแบบนี้กับทุกคนเลยเหรอ”
“ไม่รู้สิ” ขวัญพูดเสียงเรียบ “…ไม่ค่อยมีใครมานั่งอยู่ด้วย”
ประโยคนั้นทำให้หัวใจของตะวันสะดุด
เธอมองใบหน้าด้านข้างของขวัญ...มันนิ่ง เรียบ เหมือนมีอะไรมากกว่าที่แสดงออกเสมอ
เธออยากรู้มากกว่านี้
อยากเข้าไปใกล้กว่านี้
แต่ก็รู้ดีว่า คนแบบขวัญ...ต้องใช้เวลา
“งั้นเราขอเป็นคนแรกที่อยู่ได้นานหน่อยแล้วกันนะ”
ขวัญไม่ได้ตอบ เธอแค่ปิดหนังสืออย่างช้า ๆ แล้วลุกขึ้น
“จะไปไหนอะ?” ตะวันถามตกใจเล็กน้อย
ขวัญมองเธอด้วยสายตานิ่ง ๆ
“ห้องสมุด”
“…อ๋อ งั้นเราขอไปด้วยได้มั้ย?”
ขวัญนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินนำไปโดยไม่พูดอะไร
และตะวัน...ก็เดินตามเธอไปอย่างไม่มีข้อแม้
ระยะห่างระหว่างพวกเธอยังไม่ได้หายไป
แต่ตะวันเริ่มเห็นแล้วว่า...มันไม่ได้ไกลเกินเอื้อม
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!