เสียงลมพัดหวีดหวิวลอดผ่านปากถ้ำโบราณที่ตั้งอยู่ลึกในหุบเขาแถบมณฑลยูนนาน ภายในความเงียบของถ้ำอันแสนเก่าแก่ มีเพียงเสียงฝีเท้าแผ่วเบาของหญิงสาวในชุดปีนเขาที่กำลังเดินสำรวจด้วยสีหน้าจริงจัง
“หลินซีอิ๋น” นักโบราณคดีสาววัยยี่สิบแปดปี หัวหน้าทีมสำรวจภาคสนามจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในปักกิ่ง มีดวงตาคมฉลาด ใบหน้าสะอาดสะอ้าน แม้จะเต็มไปด้วยฝุ่นและเหงื่อจากการเดินทาง แต่แววตาของเธอกลับทอประกายด้วยความหลงใหลในประวัติศาสตร์
เธอหยุดลงตรงหน้าผนังถ้ำที่มีรอยแกะสลักรูปจี้หยกครึ่งวง พระอาทิตย์ที่ส่องลอดช่องเขาทำให้เห็นลวดลายชัดเจนขึ้นทุกขณะ
"จี้หยก...แบบเดียวกับในบันทึกที่หายไปของราชวงศ์ต้าหย่ง" เธอพึมพำ ก่อนจะค่อย ๆ ขุดบริเวณพื้นดินเบื้องหน้าผนังอย่างระมัดระวัง
เพียงไม่กี่นาทีต่อมา ปลายพู่กันของเธอก็สัมผัสเข้ากับสิ่งบางอย่างแข็งเย็น
จี้หยกครึ่งวง—สีเขียวเรืองรองราวกับมีแสงในตัวเอง
มือของหลินซีอิ๋นยังไม่ทันได้หยิบมันขึ้นมา แผ่นดินกลับสั่นสะเทือนรุนแรง ฝุ่นละอองตลบอบอวล เธอเสียหลักล้มลง ร่างกระแทกเข้ากับผนังหิน
ในวินาทีนั้น จี้หยกเปล่งแสงวาบออกมารุนแรง แสงสีเขียวอ่อนกลืนกินทุกสรรพสิ่ง...
และสติสัมปชัญญะของหลินซีอิ๋นก็ดับวูบลงในทันที
...
เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งท่ามกลางกลิ่นหอมของสมุนไพรและม่านผ้าผืนบางที่ปลิวไหวในสายลมเย็น ร่างกายรู้สึกหนักอึ้ง แต่สัมผัสได้ถึงความอ่อนนุ่มของที่นอนและความรู้สึกผิดที่ไม่คุ้นเคยของอาภรณ์ที่แนบกาย
“คุณหนูฟื้นแล้ว! คุณหนูหลินฟื้นแล้วเจ้าค่ะ!”
เสียงสาวใช้ตะโกนลั่น ร่างหนึ่งวิ่งออกจากเรือนอย่างร้อนรน ขณะที่หลินซีอิ๋น—หรือใครก็ตามในร่างนี้—ได้แต่นิ่งค้างด้วยดวงตาเบิกกว้าง
"อะไร...นี่มันที่ไหนกัน..."
เธอลูบมือไปตามร่างกาย สิ่งที่สัมผัสคือเนื้อผ้าชั้นดี ชุดจีนโบราณแบบที่เธอเคยเห็นแต่ในพิพิธภัณฑ์เท่านั้น ใบหน้าในกระจกทองเหลืองสะท้อนหญิงสาวงดงามผู้หนึ่ง ดวงหน้านั้นดูคุ้นราวกับภาพในความฝัน...แต่ไม่ใช่เธอ
เธอ...ไม่ใช่หลินซีอิ๋นอีกต่อไป
แต่คือ “คุณหนูหลินชิงหรู” บุตรีเจ้าเมืองแห่งเมืองเยวี่ยน ผู้มีชื่อเสียงเรื่องความเฉลียวฉลาดและเย่อหยิ่ง และเพิ่งได้รับพระราชโองการ...ให้เข้าไปเป็นภรรยาเชิงพันธมิตรในราชสำนักต้าหย่ง
แต่นั่น...ยังไม่น่าตกใจเท่ากับข่าวที่กำลังจะมาถึง...
“คุณหนูเจ้าคะ! ข่าวด่วน! ขบวนที่กำลังจะนำตัวคุณหนูเข้าเมืองหลวงถูกซุ่มโจมตี!”
เสียงนั้นสะท้อนในหัวของหลินซีอิ๋น
โลกที่เธอรู้จัก...หายไปแล้ว
และโชคชะตาของร่างใหม่...กำลังเริ่มต้นอย่างไร้ทางเลือก
รถม้าเคลื่อนตัวช้า ๆ ผ่านเส้นทางกลางหุบเขาอันเงียบงัน แสงจันทร์เล็มเลียยอดไม้ ลมเย็นแผ่วเบาอย่างผิดปกติเกินไปสำหรับค่ำคืนฤดูใบไม้ผลิ
ภายในรถม้า “คุณหนูหลินชิงหรู” นั่งสงบนิ่งในชุดกุณฑลสีอ่อน ราวกับรู้ว่าโชคชะตากำลังเหวี่ยงเธอไปสู่โลกที่ไม่มีทางหวนกลับ
หลินซีอิ๋นในร่างของชิงหรูพยายามประมวลทุกอย่าง—เธอข้ามภพมายังยุคที่ไม่มีเทคโนโลยี ไม่มีเหตุผลวิทยาศาสตร์ และไม่มีทางอธิบายได้ว่า...ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่
“อีกแค่หนึ่งวันก็ถึงเมืองหลวง...และฉันต้องแต่งกับองค์ชายที่ไม่เคยเห็นหน้า?” เธอบ่นพึมพำ ก่อนที่ความคิดจะขาดห้วงไปเมื่อเสียงกู่ร้องดังขึ้นนอกตัวรถ
“ศัตรูซุ่มโจมตี! ป้องกันคุณหนูเร็ว!”
เสียงกรีดร้องดังระงมพร้อมกับเสียงดาบปะทะ เสียงลูกธนูฉึกฉับพุ่งผ่านกลางอากาศ รถม้าสะเทือนอย่างรุนแรงจนร่างของหลินซีอิ๋นกลิ้งกระแทกพื้น
ม่านหน้าต่างขาดผึง—เธอเห็นชายชุดดำหลายคนพุ่งเข้ามา หมายชีวิตผู้โดยสารในขบวน
“คุณหนู! หนีไป!” ทหารองครักษ์คนหนึ่งเปิดประตูรถม้าให้ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้ขยับ ร่างของเขาก็ทรุดลงต่อหน้าพร้อมดาบที่ปักกลางหลัง
ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไป...
เธอหอบหายใจอย่างตื่นตระหนก ก่อนที่ร่างบางจะวิ่งเตลิดเข้าแนวป่า มือกอดชายกระโปรงไว้แน่น แม้ไม่ชำนาญการวิ่งแต่สัญชาตญาณเอาตัวรอดกลับกระตุ้นให้เธอไปให้พ้นจากเสียงตะโกนไล่ล่า
เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ...เธอสะดุดรากไม้ล้มลง
เงาทะมึนของชายชุดดำปรากฏขึ้นเหนือศีรษะ ดาบในมือเขาเงาวับ สะท้อนแสงจันทร์เย็นเยียบ
“จบกันแล้ว...” เธอหลับตาลงด้วยความสิ้นหวัง
ฉัวะ!
เสียงดาบผ่าอากาศดังขึ้นอย่างแม่นยำ ทันใดนั้น เงาชายชุดดำก็ทรุดฮวบลงข้างตัวเธอ เลือดสีเข้มสาดกระเซ็น
หลินซีอิ๋นลืมตาขึ้นอย่างตื่นตระหนก ก่อนสายตาจะปะทะเข้ากับเงาร่างสูงในชุดเกราะดำทะมึน เส้นผมยาวปลิวไหว ดวงตาคมเข้มเหมือนพยัคฆ์จับจ้องมายังเธอ
เสียงเขาดังขึ้นต่ำ หนักแน่นราวกับคำสั่ง
“ลุกขึ้น ถ้ายังไม่อยากตาย”
เขายื่นมือมาดึงเธอขึ้นโดยไม่สนใจคำถาม แล้วหันไปตวัดดาบฟันศัตรูอีกสามคนที่กรูเข้ามา ด้วยท่วงท่ารวดเร็วแม่นยำจนสายตาแทบตามไม่ทัน
คนผู้นั้น...ไม่ใช่ใครอื่น
คือแม่ทัพอวี่เหวินเจิ้ง—บุรุษผู้ได้ชื่อว่าเป็น “เทพมารแห่งสนามรบ” ผู้ซึ่งไม่เคย
งานเลี้ยงต้อนรับขุนนางต่างเมืองในวังหลวงเป็นไปอย่างหรูหรา บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงพิณอ่อนหวานและกลิ่นบุปผา แต่ภายใต้ความงดงาม กลับมีแผนการบางอย่างซ่อนอยู่
บริเวณสระบัวด้านหลังตำหนักตะวันออก “หลินชิงหรู” ได้ถูกเรียกมาพบกับ “คุณหนูซูเยี่ยน” ธิดาเสนาบดีฝ่ายพิธี ซึ่งมองเธอด้วยสายตาเหยียดหยามตั้งแต่แรกเห็น
“คุณหนูหลิน ดูเจ้าจะสนิทกับแม่ทัพอวี่เหวินเกินงามไปกระมัง?” ซูเยี่ยนแสร้งยิ้มก่อนเดินเข้ามาใกล้
“ข้าไม่คิดว่าเรื่องส่วนตัวของแม่ทัพจะเกี่ยวกับท่านนะคะ” ชิงหรูตอบกลับด้วยเสียงราบเรียบ แม้ใจจะเต้นแรงอย่างไม่ทราบสาเหตุ
เพี๊ยะ!
เสียงตบกะทันหันทำให้ชิงหรูหน้าสะบัด ใบหน้าขาวซีดขึ้นสีแดงจากฝ่ามือ
“เจ้ากล้าดูถูกข้างั้นหรือ!” ซูเยี่ยนกัดฟันกรอดก่อนจะผลักชิงหรูอย่างแรงจนร่างบางเสียหลัก
ตูม!
เสียงน้ำกระเซ็นกระจาย ร่างของหลินชิงหรูจมหายลงในสระบัวท่ามกลางความตกใจของสาวใช้ที่ตามมาไม่ทัน
“คุณหนูหลินตกน้ำ!!” เสียงร้องดังลั่นทั่วตำหนัก
...
ทันใดนั้น ร่างสูงในชุดเกราะดำวิ่งฝ่าฝูงชนเข้ามา ดวงตาคมกริบจับจ้องไปยังผิวน้ำก่อนจะกระโจนลงไปโดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว
พระอวี่เหวินเจิ้ง ดำน้ำหายไปเพียงชั่วอึดใจ ก่อนจะโผล่ขึ้นมาพร้อมร่างของหญิงสาวในอ้อมแขน
“แพทย์หลวง! เรียกแพทย์หลวงมาเดี๋ยวนี้!” เขาตะโกนออกคำสั่งอย่างดุดัน ร่างเปียกปอนแนบชิดกับอก ราวกับไม่สนว่าใครจะมองเห็นความหวั่นไหวในสายตาเขา
“ชิงหรู...เจ้าต้องไม่เป็นอะไร...” เขากระซิบเบา ๆ ข้างหูเธอ
แม้ดวงตาของหญิงสาวยังปิดสนิท แต่ริมฝีปากกลับขยับเบา ๆ ราวกับได้ยินเสียงของเขา...
---
อยากให้ต่อเป็นฉากที่พระเอกเฝ้าไข้ หรือฉากที่นางเอกตื่นมาจับมือพระเอกไว้แน่น ๆ ก็ได้นะ แล้วค่อยสานความสัมพันธ์ต่อแบบค่อยเป็นค่อยไป หรืออยากให้หลังตกน้ำนางเอก “เริ่มรู้สึกใจเต้น” ขึ้นจริง ๆ ก็โรแมนติกเลย
จะให้ใส่ต่อในตอนถัดไปไหม? หรือจะให้ตัวร้ายโดนจัดการเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็แถมได้เลย!
เพื่อวิธีการเล่นเพิ่มโปรดดาวน์โหลดMangatoon APP!